‘ฮอร์โมน’ สัมพันธ์กับการเกิด ‘สิวอุดตัน’ จริงหรือ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/431147

‘ฮอร์โมน’ สัมพันธ์กับการเกิด ‘สิวอุดตัน’ จริงหรือ

‘ฮอร์โมน’ สัมพันธ์กับการเกิด ‘สิวอุดตัน’ จริงหรือ

วันอังคาร ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.

ต้นเหตุของ “สิว” ที่บังเกิดบนใบหน้า ตามการวิจัยทางการแพทย์​และศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวหน้า ระบุว่า เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ โดยตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิด “สิว” มาจาก  2 ปัจจัย คือปัจจัยภายนอก ทั้งสภาพอากาศ มลพิษ ฝุ่นควัน รวมถึงการดูแลใบหน้าที่ไม่ดีพอ เช่น ล้างหน้าผิดวิธี จึงเหลือสิ่งสกปรกค้างไว้บนผิว ส่วนอีกปัจจัยรองลงมา คือปัจจัยภายใน ซึ่งมีหลายปัจจัยเช่นกัน แต่ที่อยู่ในความสนใจมากที่สุดอย่างหนึ่งคือ “ฮอร์โมน”

ฮอร์โมน สัมพันธ์กับการเกิดสิวได้อย่างไร  ดร.ภญ.จิรวรรณ โอพรสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.เอ.เดอร์มาเทค จำกัด ผู้นำด้านการผลิต วิจัยและพัฒนาเครื่องสำอางและเวชสำอางที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 22716/ COSMETICS GMP ระดับสากล มีคำตอบในเรื่องนี้

ดร.ภญ.จิรวรรณ โอพรสวัสดิ์ เผยว่า ตามการวิจัยทางการแพทย์ ฮอร์โมนที่เป็นต้นเหตุของสิวที่สำคัญคือ เทสโทสเทอโรน  (Testosterone) แม้ตามทางการแพทย์ฮอร์โมนตัวนี้ เรียกว่า ฮอร์โมนเพศชาย แต่ไม่ว่าชาย หรือ หญิง ล้วนมีฮอร์โมนนี้อยู่ในร่างกาย และยิ่งช่วงวัยรุ่นฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนจะเพิ่มสูงขึ้นทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง เพราะเป็นเคมีธรรมชาติที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ทั้งสัญลักษณ์เพศชาย  และสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูกในเด็กผู้หญิง ทำให้วัยแรกรุ่นจึงพบการเกิดสิว ที่เป็นปัญหาผิวมากกว่าคนวัยอื่น

เมื่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนเพิ่มสูงขึ้น จะสัมพันธ์กับการสร้างต่อมไขมันให้เติบโต รวมถึงกระตุ้นให้ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น จึงทำให้เกิดน้ำมันส่วนเกินที่เป็นหนึ่งในสาเหตุให้เกิดสิวได้ โดยเฉพาะบนใบหน้าเนื่องจากมีต่อมไขมันมากกว่าผิวส่วนอื่น  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดูแลความสะอาดของใบหน้าอย่างถูกวิธีเพื่อลดปัญหาสิว เพราะในแต่ละวันใบหน้าคือ ปราการด่านแรกที่ต้องเผชิญกับมลภาวะในแวดล้อมรอบตัว  เมื่อน้ำมันบนใบหน้าที่ขับออกมามากผสมกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว สะสมอยู่ภายในรูขุมขน กลายเป็น “สิวอุดตัน” ชนิดหัวปิด หรือเรียกว่า “สิวหัวขาว” หรืออาจเป็น ชนิดหัวเปิด หรือเรียกว่า “สิวหัวดำ” ที่มีส่วนที่มีสีดำที่เกิดจากปฏิกิริยาของไขมันกับออกซิเจน สิวดังกล่าวอาจยังมีขนาดเล็กๆ ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด จนกระทั่งมีเชื้อแบคทีเรียเข้ามาเกี่ยวข้องจนกลายเป็นหนอง เนื่องจากเกิดการอักเสบของรูขุมขน และกลายเป็น “สิวอักเสบ” และกลายเป็น “สิวหัวหนอง”  ได้ในที่สุด

อีกทั้ง ไม่เฉพาะวัยรุ่นเท่านั้นที่จะเจอปัญหานี้ เพราะทุกช่วงวัยที่ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนอยู่ในปริมาณสูง สิวย่อมเกิดขึ้นได้  โดยเฉพาะช่วงที่มีภาวะเครียด ผู้หญิงมีรอบเดือน แต่ปัญหาสิวจะบรรเทาลงได้หากรักษาความสะอาดของผิวหน้าที่ถูกวิธี และมีการดูแลผิวหน้าที่ถูกต้อง​

วิธีแก้ไขปัญหาสิวที่วัยรุ่นมักกังวลอย่างมาก เนื่องจากเม็ดสิวบนใบหน้าจะกลายเป็นปมด้อยแล้ว หากรักษาไม่ดี หรือไม่ทันการ ย่อมอาจกลายเป็นรอยแผลเป็น หรือจุดด่างดำบนใบหน้าได้  ข้อแนะนำคือ การดูแลผิวหน้าให้ถูกต้อง ผ่านการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ทำให้ใบหน้าแห้งตึง เนื่องจากจะไปเร่งให้ชั้นต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวมากจนเกินไป และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันมาก เนื่องจากปัญหาสิวอุดตันมาจากปริมาณน้ำมันในชั้นผิวหนังที่มีมากจนเกินไป ดังนั้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าหรือเครื่องสำอางที่ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า โดยสังเกตสัญลักษณ์ที่ระบุบนฉลากว่า Non comedogenic  เพื่อเป็นการรับรองว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน รวมทั้งควรใช้เวชสำอางดูแลปัญหาสิวที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อช่วยเสริมสร้างให้โครงสร้างผิวกลับมาแข็งแรง เพื่อช่วยลดการสะสมของสารเคมีอันตรายบนใบหน้า

อย่างไรก็ตาม การดูแลตัวเอง ทั้งออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งมีอาหารที่สามารถรักษาสมดุลของฮอร์โมนได้ดี อยู่ในถั่วเหลืองและพืชตระกูลถั่ว  หากทานควบคู่กันกับการรักษาอย่างถูกวิธี เชื่อว่าใบหน้าจะห่างไกลคำว่าสิว หรือใครที่เครียดกับปัญหาสิวบนใบหน้า ลองรักษาด้วยธรรมชาติบำบัด ทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และใช้สารสกัดจากธรรมชาติ

Leave a comment