ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/451562
x
ไฟเขียว1.65ล้านพัฒนาระบบผลิตถั่วเหลือง
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลือง ว่า สศก.ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลืองจัดประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ โดยมีนายนราพัฒน์ แก้วทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งได้รับมอบหมายจากรมว.เกษตรฯเป็นประธานประชุม พิจารณางบประมาณดำเนินโครงการนำร่องใช้เครื่องจักรกลการเกษตรทดแทนแรงงาน เพื่อลดต้นทุนการผลิตถั่วเหลือง
ปัจจุบันไทยผลิตถั่วเหลืองได้ประมาณ 40,000 ตัน/ปี ไม่ถึงร้อยละ 2 ของความต้องการใช้ของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีมากถึงปีละ 2.85 ล้านตัน จำเป็นต้องพึ่งการนำเข้าถึงร้อยละ 98 ทั้งนี้ การผลิตถั่วเหลืองในประเทศมีน้อย เป็นผลจากต้นทุนการผลิตสูง ขาดแคลนแรงงาน ผลผลิตต่อไร่ค่อนข้างต่ำ พื้นที่ปลูกของเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นแปลงขนาดเล็ก ไม่เหมาะใช้เครื่องจักร จำเป็นต้องพึ่งแรงงานปลูกเก็บเกี่ยว
ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯจึงมีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มผลิตในลักษณะแปลงใหญ่ รูปแบบสหกรณ์ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรการผลิตร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุนการผลิตและการตลาด โดยดำเนินโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ประชารัฐถั่วเหลือง ในพื้นที่นิคมสหกรณ์แม่แตง จ.เชียงใหม่ แหล่งผลิตถั่วเหลืองขนาดใหญ่ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับสหกรณ์นิคมแม่แตง จำกัด และภาคเอกชนเป้าหมายเพิ่มผลผลิตเป็น 350 – 400 กก./ไร่ จากเดิมผลิตได้เพียง 200 – 250 กก./ไร่ เท่านั้น
จากปัญหาด้านแรงงานเพาะปลูกการจัดการหลังเก็บเกี่ยว ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพผลผลิตและอำนาจ ต่อรองราคาของเกษตรกร คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อพัฒนาถั่วเหลือง จึงมีมติอนุมัติเงินจ่ายขาดจากกองทุนฯ 1,650,890 บาท ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์นำไปจัดทำโครงการนำร่องใช้เครื่องจักรกลการเกษตรทดแทนแรงงาน ในพื้นที่นิคมสหกรณ์แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรที่จำเป็น อาทิ เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ เครื่องวัดความชื้น เครื่องเกี่ยวนวด เครื่องทำความสะอาดเมล็ดถั่วเหลือง เป็นต้น เพื่อทดลองใช้ในพื้นที่ของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์นิคมแม่แตง จำกัด 50 ราย รวมพื้นที่ 500 ไร่ เพื่อให้สมาชิกของสหกรณ์มีเครื่องหยอด สามารถลดจำนวนเมล็ดพันธุ์ ลดค่าใช้จ่ายซื้อเมล็ดพันธุ์ลงได้ รวมทั้งเครื่องจักรอื่นที่ใช้บริหารจัดการเมล็ดถั่วเหลืองหลังการเก็บเกี่ยว ทำให้เมล็ดพันธุ์มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลให้ได้ราคาสูงขึ้นโดยกองทุนฯจะโอนเงินและติดตามผลดำเนินงานจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งคาดว่าการใช้เครื่องจักรกลจะช่วยลดต้นทุนได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 และหากประสบความสำเร็จ จะได้ขยายผลไปสู่เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองกลุ่มอื่นต่อไป