ทำไมอเมริกาพ่ายแพ้สงครามโควิด : อาทร จันทวิมล #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/560010

ทำไมอเมริกาพ่ายแพ้สงครามโควิด : อาทร จันทวิมล

ทำไมอเมริกาพ่ายแพ้สงครามโควิด : อาทร จันทวิมล

วันพฤหัสบดี ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2564, 13.22 น.

การที่สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อโควิดกว่า 29.6  ล้านคน เสียชีวิตกว่า 2.6 แสนคน ขณะที่ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเพียง 26,370 คน เสียชีวิต 85 คน (ข้อมูล 7 มี.ค. 64) เป็นเครื่องชี้ถึงความปราชัยอย่างย่อยยับในสงครามโควิดที่น่าเศร้าของสหรัฐอเมริกา ผู้ทรงอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ของโลก  ดังนั้นจึงเป็นที่น่าสนใจที่จะศึกษาว่า ได้มีการเกิดเหตุร้ายแรงในประเทศที่มีเทคโนโลยีทางการแพทย์สูงและมีเศรษฐกิจดีเช่นนี้ได้อย่างไร?

ประการแรก รัฐบาลสหรัฐมีความสับสนและไม่ได้จัดการอย่างจริงจังกับโควิดตั้งแต่ระยะเริ่มแรก    รัฐบาลและสังคมสหรัฐฯใช้เวลานานมากในการตัดสินใจเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด -19  ทั้งๆที่ผู้เชี่ยวชาญ อย่างดร. แอนโธนีฟอซี ได้แจ้งเตือน ตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคที่เมืองจีนเมื่อปลายปี 2562  ไม่เหมือนกับรัฐบาลจีนที่เชื่อคำแนะนำของ ดร.จงหนานชาน ทำให้สามารถป้องกันการระบาดของโรคร้ายได้อย่างทันท่วงที

ประการที่สอง ผู้นำสหรัฐฯและชาวอเมริกันจำนวนมากให้ความสำคัญกับการปกป้องเศรษฐกิจ มากกว่าต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด  ทำให้มีการต่อต้านการปิดเมือง กักตัวและการอยู่ในที่คนหนาแน่น

ประการที่สาม คนอเมริกันส่วนหนึ่ง ไม่เชื่อหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ว่าการสวมหน้ากากอนามัยเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผลในประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเช่นจีน  มาตรการนี้มีราคาถูกและง่ายต่อการส่งเสริม แต่ชาวอเมริกันจำนวนมากรวมทั้งประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น  การขาดการป้องกันจากการสวมหน้ากากทำให้การแพร่กระจายของไวรัสร้ายแรงขึ้นและคร่าชีวิตคนที่สามารถรอดชีวิตได้หากสวมหน้ากาก

ประการที่สี่ ขาดกลยุทธ์ในการต่อสู้ และขาดหน่วยบัญชาการป้องกันโรค เนื่องจากการต่อสู้กับโรคระบาดนั้นเทียบเท่ากับการต่อสู้ในสงคราม  แต่สหรัฐฯขาดกลยุทธ์ที่สมบูรณ์ในการต่อสู้กับโรคโควิด   ไม่ได้จัดตั้งหน่วยบัญชาการระดับสูงและจัดดำเนินการร่วมกันทั่วประเทศเหมือนประเทศจีนหรือเวียดนาม งานต่อต้านการแพร่ระบาดในสหรัฐถูกการเมืองแทรกแซงจนยุ่งเหยิง

ประการที่ห้า การไม่สามารถปรับตัวแก้ไขข้อผิดพลาดในการป้องกันโรค  ทั้งๆที่มีตัวอย่างจากประเทศอื่นที่สามารถควบคุมโรคได้ผลดี  เช่น นิวซีแลนด์ จีน ไต้หวัน เวียดนาม และประเทศไทย

ประการที่หก ระบบประกันสุขภาพและค่ารักษาพยาบาลในอเมริกาที่สูงและนัดพบหมอได้ยาก  ทำให้คนที่มีรายได้น้อยไม่มีเงินซื้อประกันสุขภาพ  และไม่ไปหาหมอในโรงพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อย เพราะเกรงจะต้องจ่ายเงินมาก ทำให้โรคโควิดระบาดเข้าไปในหมู่คนยากจน  คนไร้บ้าน คนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันผิวดำ  และผู้หลบหนีเข้าเมือง จนไม่สามารถสอบสวนหาแหล่งที่มาของโรคได้ โรคร้ายจึงระบาดไปในวงกว้างจนเกินแก้   คนติดเชื้อโควิดที่อยู่ในบ้านจะแพร่เชื้อไปยังคนในบ้านเกือบทุกคนหากไม่ระวังตัวอย่างเข้มงวด    คนที่ไปโรงพยาบาลส่วนใหญ่มีอาการหนักจนรักษาไม่ไหว

ประการที่เจ็ด การต่อต้านของผู้ไม่เห็นด้วย ต่อการปิดเมืองป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผู้ตกงานเพราะการปิดโรงงานร้านค้า   อีกส่วนหนึ่งเกิดจากผู้สนับสนุนพรรคที่ต่อต้านรัฐบาล  

ประการที่แปด การหยิ่งผยองไม่ยอมใช้ยาและอุปกรณ์จากต่างประเทศ   สหรัฐเน้นการใช้ยาและอุปกรณ์การแพทย์ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา  เช่นวัคซีน โมเดิร์นน่า หรือ ไฟเซอร์ และยา คลอโรควิน ไม่ยอมใช้ยาฟาวิราเปียของญี่ปุ่น  หน้ากากหรือวัคซีนซิโนแวคของจีน

ประการที่เก้า การเดินทางด้วยรถใต้ดินที่แออัดยัดเยียดในเมืองใหญ่ เช่นนิวยอร์ค หรือชิกาโก โดยไม่เว้นระยะห่างทางสังคม  เป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิดเป็นอย่างดี   เพราะมีหลายคนที่ไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัย

Leave a comment