#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/560030

วัคซีนโควิดที่มีปัญหา : อาทร จันทวิมล
วันศุกร์ ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2564, 07.30 น.
การชะลอการฉีดวัคซีนโควิดของนายกรัฐมนตรีไทย พลเอกประยุทธ จันทรโอชา เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 แล้วกลับไปฉีดในวันที่ 16 มีนาคม 2564 เป็นข่าวดังไปทั่วโลก เพราะไทยเป็นประเทศแรกของเอเชียที่สั่งชะลอการฉีดวัคซีนเอสตร้า เซเนก้า ภายหลังจากที่เดนมาร์ค สั่งระงับการฉีดวัคซีนยี่ห้อเดียวกัน เพราะพบว่าผู้ฉีดวัคซีนดังกล่าวบางคน มีอาการเส้นเลือดอุดตันและเสียชีวิต
ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า ไวรัสโควิด หรือวัคซีนโควิด อาจจะเจาะเข้าไปในโมโนไซด์(Monocytes)ในเซลล์เม็ดเลือดขาวของผู้ป่วย เกิดการต่อสู้กัน โมโนไซด์ที่สู้ไม่ได้จะตาย ทำให้เกิดซากไซโตไคน์ (Cytokine)ที่อักเสบ ซึ่งอาจไปอุดตันในเส้นเลือดปอด ทำให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลัน และนำไปสู่การเสียชีวิต
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นพ. ยง ภู่วรวรรณ และ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโควิดของประเทศไทย แถลงข่าวว่า การยกเลิกฉีดวัคซีนของนายกรัฐมนตรีไทย และคณะรัฐมนตรี เป็นการปฏิบัติตามหลักการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เนื่องมาจากข่าวการป่วยและเสียชีวิตของผู้ฉีดวัตซีนแอสตร้า เซนเนก้าที่ประเทศออสเตรีย ดังนั้นจึงต้องชะลอการฉีดวัคซีนแอสตร้า เซนเนก้าในประเทศไทยเพื่อรอผลการสอบสวน เมื่อพบว่าปลอดภัยจึงทำการฉีดได้ นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่าขณะนี้ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในภาวะฉุกเฉินจนไม่มีอะไรป้องกัน เพราะถ้าเราเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือและไม่เข้าไปในที่คนแยะๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบฉีดวัคซีน นพ.ยง กล่าวว่า การที่ฉีดวัคซีนไป 3 ล้านคนแล้วมีผู้ป่วยที่เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ เพียง 22 ราย เป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นกับคนธรรมดาแม้ไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่เพื่อความปลอดภัยก็ต้องรอการสอบสวนสาเหตุให้แน่ชัดเสียก่อน แต่ไม่ใช่ยุติการฉีดวัคซีน ส่วนนพ.ปิยะสกล กล่าวว่า การฉีดวัคซีนยี่ห้อซิโนแวคจากจีน ในประเทศไทยยังดำเนินต่อไปได้
ระหว่างที่มีการฉีดวัคซีน แอสตร้าเซเนก้าให้คนทั่วโลกไปแล้วหลายล้านคน หลายประเทศได้สั่งให้ชะลอหรือระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้า เซนเนก้า(AZ) เช่น เดนมาร์ก นอรเวย์ ไอร์แลนด์ ไอซแลนด์ ลักเซมเบิร์ก ลิทัวเนีย ลัตเวีย บุลกาเรีย เอสโทเนีย อิตาลี โรมาเนีย สเปน คองโก ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย สเปน เนเธอร์แลนด์ คองโก โปรตุเกส สโลวาเนีย อินโดนีเชียและเวเนซูเอลล่า โดยเฉพาะ รุ่นผลิตที่ ABV5300 ซึ่งส่งไปยัง 17 ประเทศในยุโรป แต่หลายประเทศก็ยังอนุญาตให้ใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าต่อไป เช่น อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี โปแลนด์ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ ไนจีเรีย และ เม็กซิโก สาเหตุของปัญหาเกิด เนื่องจากหญิงชาวออสเตรียอายุ 49 ปีคนหนึ่งเสียชีวิด 10 วันหลังจากฉีดวัคซีนล๊อตที่ ABV5300 เพราะลิ่มเลือดแข็งตัวอุดตันในเส้นเลือดดำ แล้วไปอุดในปอด ทำให้เลือดเข้าไปฟอกในปอดไม่ได้ (Multiple
Thromboses) ผู้ป่วยชาวออสเตรียอายุ 35 ปีคนหนึ่งที่ฉีดวัคซีนชุดเดียวกัน ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะมีปัญหาการหายใจ (Pulmonary Embolism) ที่เมืองซิชิลี่ ชายอิตาเลียน อายุ 50 ปีและทหารอากาศ อิตาเลียนอีกคนหนึ่ง ที่เพิ่งฉีดวัคซีน แอสตร้า เซนเนก้า ล๊อตที่ ABV2856 เสียชีวิต ด้วยสาเหตุ ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ Deep Vein Thrombosis (DVT)
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 มีกรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่อิตาลีได้สั่งยึดและห้ามใช้ วัคซีนโควิดแอสตร้าเซนเนก้า 4 แสนโดส และเตรียมดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง หลังจาก นาย ท๊อกนาติ ครูดนตรีชาวอิตาลี อายุ 57 ปี เสียชีวิตที่บ้านในเมืองพิดมองต์ หลังจากฉีดวัคซีนไปได้เพียงวันเดียว
วัคซีนแอสตร้า เซนเนก้า AZD1222 ชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ Viral Vector Vaccine พัฒนาโดยการนำส่วนของสารพันธุกรรมดัดแปลง ที่ใช้ในการถอดรหัสการสร้างหนามโปรตีนผิวเซลล์ของไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 ใส่ในโครงของอะดีโนไวรัส adenovirus ซึ่งก่อให้เกิดโรคไข้หวัดทั่วไป ในลิงชิมแปนซี ที่ถูกทำให้อ่อนแรงลงและทำให้ไม่สามารถแบ่งตัวก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ได้ โดยหลังจากฉีดวัคซีน เซลล์ในร่างกายมนุษย์จะตอบสนองโดยสร้างโปรตีนที่มีลักษณะเดียวกันกับหนามโปรตีนผิวเซลล์ของไวรัสโควิด กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา เพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด ในกรณีที่ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายในภายหลัง โดยมีข้อระวังสำหรับผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี มีโรคประจำตัว เช่น อ้วน โรคปอด หัวใจ หลอดเลือด เบาหวาน ผู้ที่เคยเป็นโควิด-19 มาก่อน หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ติดเชื้อเอชไอวี
โรงงานผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีอยู่ที่ อังกฤษ (Oxford) เบลเยี่ยม (Novasep}Seneffe) เยอรมนี (IDT Biologika,R-Pharm) เกาหลีใต้ อินเดีย (Serum Institute of India) ญี่ปุ่น (Daiichi Sankyo, KM Biologics, JCR Phamaceuticals, Meiji Seika Phama) สเปน (Insud Phama) จีน(Wuxi Biologics) ไอร์แลนด์ Hile Bio-Tech, Dundalk) และ สหรัฐอเมริกา (Emergent Biosolutions) วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า รุ่นแรกที่ส่งมาถึงประเทศไทย จำนวน 117,300 โดส ผลิตจากโรงงานในประเทศเกาหลีใต้ ในที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ วัคซีนซิโนแวค 200,000 โดส ส่งมาจากประเทศจีน โดยจะมีวัคซีนของโมเดิร์นน่า จอห์นสัน สปุตนิกจากรัสเซีย และวัคซีนจากอินเดีย ส่งตามมาอีก
ประเทศไทย กำลังเตรียมผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า AZD1222 จำนวน 10 ล้านโดสต่อเดือน ที่โรงงานของบริษัทสยามไบโอไซแอนส์ ปทุมธานี ราวเดือนมิถุนายน 2564 เครือเจริญโภคภัณฑ์ของไทยได้เข้าไปซื้อหุ้น 15 %ของโรงงานวัคซีนซิโนแวค ประเทศจีน และมีความพยายามจะผลิตวัคซีนใหม่ของประเทศไทยเองด้วยใบยาสูบโดยบริษัทใบยาโฟโต้ฟาร์ม