#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/560166

สศก.นำร่องโครงการSAS-PSAแห่งแรกของไทย ปักหมุด5อำเภอฉะเชิงเทราสร้างความมั่นคงอาหาร
วันศุกร์ ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
นายพลเชษฐ์ ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการนำร่องครั้งแรก ตามโครงการ Supporting Agricultural Survey on PromotingSustainable Agriculture in ASEAN Region หรือ โครงการ SAS-PSA ซึ่ง สศก.โดยสำนักงานเลขานุการ AFSIS หรือ ASEAN Food Security Information System ร่วมกับ กระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมง ประเทศญี่ปุ่น ดำเนินโครงการฯ เพื่อสนับสนุน และส่งเสริมการสำรวจการเกษตรแบบยั่งยืนตามตัวชี้วัดขององค์การสหประชาชาติ (UN) SDGs 2.4.1 Proportion of Agricultural Area under Productive and Sustainable Agriculture ซึ่งหมายถึงสัดส่วนของเนื้อที่เกษตรที่ทำการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อเนื้อที่เกษตรทั้งหมด รวมถึงใช้เป็นฐานข้อมูลให้แก่ภาครัฐ และผู้วางนโยบายด้านการเกษตร
การลงพื้นที่ในครั้งนี้ นับเป็นการนำร่องสำรวจครั้งแรกในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีการผลิตสินค้าเกษตรที่หลากหลาย ทั้งพืชไร่ พืชสวนปศุสัตว์ และประมง โดยคัดเลือกอำเภอที่มีจำนวนประชากรเกษตรมากที่สุด 5 อำเภอได้แก่ อ.พนมสารคาม (ต.บ้านช่อง)อ.สนามชัยเขต (ต.ท่ากระดาน) อ.บางน้ำเปรี้ยว (ต.หมอนทอง)อ.เมืองฉะเชิงเทรา (ต.บางเตย) และ อ.บ้านโพธิ์ (ต.สิบเอ็ดศอก) รวมจำนวนเกษตรกรตัวอย่าง 240 ราย เพื่อเก็บข้อมูลพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2564 ซึ่งจะครอบคลุมการสำรวจทั้ง 3 มิติ ประกอบด้วย มิติด้านเศรษฐกิจ อาทิ การใช้ประโยชน์ที่ดิน การเพาะปลูกพืช ผลผลิต มิติสิ่งแวดล้อม อาทิ ปัญหาในพื้นที่ การใช้ทรัพยากรดินและน้ำการใช้ปุ๋ยและสารเคมี และ มิติทางสังคม อาทิ การใช้แรงงานภาคเกษตร การจ่ายค่าตอบแทน ปัญหาการขาดแคนอาหาร และการถือครองที่ดินของเกษตรกร เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสำรวจถึงผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกษตรกรต้องพบเจอในช่วงของการแพร่ระบาดที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน
“จากรายงานขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ระบุว่า ปัจจุบัน ไทยมีจำนวนผู้อดอยากหิวโหยอยู่ที่ร้อยละ 9 ซึ่งมีระดับความอดอยากหิวโหยมากกว่าร้อยละ 5 ที่ UN กำหนด ดังนั้นไทยจะต้องรายงานผลความก้าวหน้าในการพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน ตามตัวชี้วัด SDGs 2.4.1 ต่อ UN ภายในปี 2573 โดยการลงพื้นที่นำร่องสำรวจในครั้งนี้ เราแบ่งทีมเป็น 7 สาย สำรวจทั้ง 5 อำเภอ ซึ่งผลสำรวจที่ได้จากการลงพื้นที่ จะวิเคราะห์ตามระเบียบวิธีของ FAO และที่สำคัญจะเป็นแนวทางหลักในการขยายผลการสำรวจให้ครอบคลุมทั่วประเทศในระยะต่อไป ซึ่งการรายงานผล จะรายงานในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เกษตรกรรม 3 รูปแบบ ได้แก่ ยั่งยืน ไม่ยั่งยืน และยอมรับได้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 โดยได้ผลักดันการดำเนินงานตามตัวชี้วัด SDGs 2.4.1 มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560-2563 ในการดำเนินการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืนรวมกว่า 4.38 ล้านไร่”รองเลขาธิการ สศก. กล่าว
ทั้งนี้ โครงการ SAS-PSA มีกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี 8 เดือน (26 มีนาคม 2563 – 25 พฤศจิกายน 2565) โดยนำร่องใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา และลาว ในส่วนของประเทศไทย ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 และจัดทำรายงานผลการสำรวจให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2564 ก่อนเตรียมขยายผลการสำรวจให้ครอบคลุมทั่วประเทศในระยะต่อไป