วิธีสู้โควิดแบบเกาหลี : อาทร จันทวิมล #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/561986

วิธีสู้โควิดแบบเกาหลี : อาทร จันทวิมล

วิธีสู้โควิดแบบเกาหลี : อาทร จันทวิมล

วันเสาร์ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2564, 07.30 น.

ถึงแม้ว่าประเท,ศเกาหลีใต้ จะมีการติดเชื้อโควิดในอัตราสูงในเดือนมีนาคม และสิงหาคม 2563  แต่ก็สามารถควบคุมทำให้ผู้ป่วยลดลงได้อย่างรวดเร็วโดยมีผู้เสียชีวิตไม่มากนัก แม้ว่าจะมีอัตราสูงกว่าของประเทศไทย   แต่ก็สนใจศึกษาเพื่อนำวิธีการที่ได้ผลไปปฏิบัติในที่อื่นต่อไป   โดยมีข้อมูลพอสรุปได้ดังนี้

ประชากรเกาหลีใต้ราว 51 ล้านคน ผู้ติดเชื้อ 95,635 คน ติดเชื้อใหม่วันเดียว 459 คน เสียชีวิต 1,864 คน อัตราเสียชีวิต 33 คนต่อประชากรล้านคน    เทียบกับของไทย ประชากร 70 ล้านคน ติดเชื้อ 26,927 คน ติดเชื้อใหม่วันเดียว 170 คน เสียชีวิต 86 คน อัตราเสียชีวิต 1 คนต่อประชากร ล้านคน(ข้อมูลวันที่ 13 ก.พ. 64)

1.การเตรียมพร้อมที่เข้มแข็งของรัฐบาล และประชาชนเกาหลีใต้ ในกรณีเกิดโรคระบาดเพราะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในการรับมือโรคเมอร์สล่าช้าเมื่อ 2 ปีก่อน   ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และรัฐบาลในการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ไม่เข้าไปในที่คนมาก  และล้างมือ    มีการสร้างห้องผู้ป่วยโรคติดเชื้อ ห้องแรงดันลบ  เตรียมผลิต ยาและอุปกรณ์ ป้องกันโรคระบาดไว้ล่วงหน้า  ทำให้สามารถนำมาใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

2.ตามค้นต้นตอ    เมื่อเกิดเหตุโควิดระบาดในเกาหลีใต้ใหม่ๆ   ได้มีการสอบสวนหาแหล่งแพร่โรค แล้วพบว่าผู้ติดเชื้อกว่า 1,600 คน อยู่ในเมือง แดกู (Daegu) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 4 ของประเทศ  ส่วนใหญ่เป็นสาวกของกลุ่ม คริสต์ซินซอนจี(Shincheonji Church of Jesus신천지) ที่เป็นเครือข่ายศาสนาที่กว้างขวาง มั่งคั่ง  มีสาขา 12 แห่งในเกาหลี ใต้และในอีก 29 ประเทศทั่วโลก เช่นจีน(ปักกิ่ง เทียนสิน เซี่ยงไฮ้  อู่ฮั่น)  สหรัฐอเมริกา  แอฟริกาใต้ คองโก คอสตาริกา มีสมาชิกกว่า 2 แสนคน โดยมีนาย ลี มัน ฮีเป็นเจ้าสำนัก  ลัทธิชินชอนจี มีกฎเหล็กห้ามไม่ให้สมาชิกสวมแว่นตา สร้อยคอ ต่างหู  หรือหน้ากากอนามัย ขณะประกอบพิธีกรรม พวกเขาจะนั่งเคียงข้างกันชนิดศอกชนศอก เข่าชนเข่า บนพื้น  พร้อมกับสวดภาวนาสุดเสียง ซึ่งเป็นการกระทำที่นักวิจารณ์บอกว่า ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแพร่กระจายเชื้อไวรัส

การระบาดของโควิด-19 ในหมู่สาวกชินชอนจี เริ่มมาจากผู้ป่วยรายที่ 31 ในเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นสมาชิกหญิงวัย 61 ปี ที่เคยไปเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน   เธอเป็นไข้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. แต่ยังเข้าร่วมพิธีกรรมในโบสถ์ชินชอนจี ทำให้สาวกในโบสถ์ติดเชื้อหลายราย เดือนสิงหาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 400 คน มีต้นตอจากโบสถ์ ซารัง เจอิล ในกรุงโซล ต่อมาในเดือนมกราคม 2564 พบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนชุดใหม่ ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มมิชชันนารีคริสเตียน IM ในเมือง แทจอน  และโรงเรียนสอนศาสนานานาชาติ TCS Ace ที่เมืองกวางจู

3.การคัดกรองหาผู้ติดเชื้อจำนวนมากตั้งแต่ยังไม่แสดงอาการเนื่องจากเกาหลีใต้สามารถผลิตชุดตรวจเชื้อโควิดได้เองภายในประเทศ  จึงได้สั่งผลิตชุดตรวจจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้น และให้บริการตรวจฟรีสำหรับประชาชนตั้งแต่ยังไม่ปรากฏอาการ  คนที่ขับรถยนต์ไปสามารถตรวจโควิดได้ที่เต็นท์ตรวจโดยไม่ต้องลงจากรถเกาหลีใต้ใช้วิธีทดสอบหาผู้ติดเชื้อโควิดด้วยการเจาะเลือดจากปลายนิ้ว สามารถรู้ผลเร็วภายใน 30 นาทีโดยไม่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ  ซึ่งต่างกับของไทยที่ตรวจจากสารคัดหลั่งในโพรงจมูก RT-PCR  ซึ่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการที่มีอุปกรณ์เฉพาะ เสียค่าใช้จ่ายแพงกว่าแบบเจาะเลือด แต่ได้ผลแน่นอนกว่า

4.การติดตามและแยกผู้ติดเชื้อ เกาหลีใต้ติดตามผู้มีความสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้ออย่างละเอียด  โดยใช้แหล่งข้อมูลหลากหลาย  เช่น บัตรเครดิตและภาพโทรทัศน์วงจรปิด  แล้วแยกผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อเข้าไปกักตัวที่บ้านหรืออยู่ในสถานที่กักกัน    มีแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ Corona 100m แจ้งให้เจ้าของโทรศัพท์ทราบเมื่อบริเวณ100เมตรนั้นมีผู้ติดเชื้ออยู่ เพื่อจะได้หลีกทางไปทางอื่น

5.การรักษาผู้ป่วย    เมื่อเมืองแทกูมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากในเดือนมีนาคม 2563  มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นอีก 2,400 คนรัฐบาลได้สร้างโรงพยาบาลชั่วคราวเพิ่มเติม  และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ผ่านการจัดซื้อจากส่วนกลาง

Leave a comment