กรมชลฯคุมเข้มแผนจัดการน้ำฤดูฝน ขับเคลื่อน 10 มาตรการรับมืออุทกภัย #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

กรมชลฯคุมเข้มแผนจัดการน้ำฤดูฝน ขับเคลื่อน10มาตรการรับมืออุทกภัย

วันจันทร์ ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

กรมชลประทานสนองนโยบายรัฐขับเคลื่อน10 มาตรการเตรียมรับมือฝนตกหนักช่วงปลายฤดูตามคาดการณ์ เผยอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง-ขนาดใหญ่ สามารถรับน้ำได้อีกกว่า 42,000 ล้านลบ.ม. พร้อมคุมเข้มแผนการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน หลังประสบผลสำเร็จในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภาวะฝนทิ้งช่วง

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า ในช่วงฤดูฝนปีนี้ปริมาณฝนตกจะมากกว่าค่าปกติร้อยละ 5-10โดยตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2564 ฝนตกชุกหนาแน่นประมาณร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และจะมีฝนหนักในหลายพื้นที่ ซึ่งจะก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้นั้น กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมโดยนำ 10 มาตรการในการรับมือฤดูฝนของรัฐบาลมาปฏิบัติในเชิงป้องกันก่อนเกิดภัย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ได้มีการประเมินและเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งการบริหารจัดการพื้นที่ลุ่มเพื่อรองรับน้ำหลาก ซึ่งได้มีการวางแผนไว้ทุกลุ่มน้ำแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะในลุ่มเจ้าพระยา กรมชลประทานจะใช้ทุ่งบางระกำ และ 12 ทุ่งของลุ่มเจ้าพระยาในการรองรับน้ำหลาก

นอกจากนี้ ยังได้ทบทวนปรับปรุงเกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลางและเขื่อนระบายน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมทั้งได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ – กลาง ซึ่งขณะนี้อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่มีปริมาณน้ำรวม 33,644 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) หรือ ร้อยละ44 ของปริมาณการกักเก็บ โดยเป็นปริมาณน้ำที่ใช้งานได้ 9,714 ล้านลบ.ม. หรือ ร้อยละ 19ของปริมาณการกักเก็บ สามารถรับรองน้ำได้อีกมีมากกว่า 42,423 ล้านลบ.ม.

รวมทั้งยังได้ซ่อมแซมปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำ สถานีโทรมาตรให้พร้อมใช้งาน ตลอดจนได้ปรับปรุง แก้ไข กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำพร้อมทั้งได้ขุดลอกคูคลอง กำจัดผักตบชวา-วัชพืชในแม่น้ำและคูคลอง โดยร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อเพิ่มพื้นที่รับน้ำและช่วยให้ระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังได้เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือและบุคลากร โดยเฉพาะเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ได้จัดเตรียมไว้ทั่วประเทศแล้วกว่า2,138 เครื่อง พร้อมที่จะช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“กรมชลประทานยังได้ดำเนินมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและปรับปรุงวิธีการส่งน้ำ ตลอดจนวางแผนการจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน พร้อมทั้งได้สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องและยังได้ติดตามประเมินผล เพื่อปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันอีกด้วย” นายประพิศกล่าว

อธิบดีกรมชลประทานกล่าวด้วยว่า ในช่วงต้นฤดูฝนที่ผ่านมาเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ประกอบกับปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำต่างๆอยู่ในเกณฑ์น้อย แต่เกษตรกรส่วนหนึ่งโดยเฉพาะในลุ่มเจ้าพระยา 22 จังหวัดได้ทำการเพาะปลูกข้าวนาปีไปแล้ว มีความเสี่ยงที่ข้าวจะได้รับความเสียหาย กรมชลประทานวางแผนบริหารจัดการน้ำช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษด้วยการจัดสรรน้ำตามรอบเวรให้กับเกษตรกร พร้อมทั้งประสานความขอความร่วมมือจากเกษตรกร ที่ยังไม่ได้มีการเพาะปลูกข้าวนาปีให้ชะลอออกไปก่อ จนกว่าฝนจะตกอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งประสบผลสำเร็จทำให้ข้าวนาปีไม่ได้รับความเสียหาย

“กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด และให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้ความสำคัญในการจัดสรรน้ำทั้งเพื่อการอุปโภค-บริโภค การรักษาระบบนิเวศ การเกษตร และอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ในช่วงฤดูฝนปี 2564 ได้ประเมินว่าจะความต้องการใช้น้ำทั้งประเทศประมาณ 32,339 ล้าน ลบ.ม. จะจัดสรรเพื่อเพื่อการอุปโภค-บริโภค 2,686 ล้าน ลบ.ม.การเกษตร 21,827 ล้านลบ.ม. อุตสาหกรรม 460 ล้าน ลบ.ม.รักษาระบบนิเวศและอื่นๆ 7,366 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งขณะนี้การจัดสรรน้ำเป็นไปตามแผนที่วาง โดยได้จัดสรรไปแล้ว 7,320 ล้านลบ.ม. คิดเป็น ร้อยละ 23 ของแผนจัดสรรน้ำ” อธิบดีกรมชลประทานกล่าวในตอนท้าย

Leave a comment