#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/594775

ซีพีเอฟ ร่วมดูแลน้อง ‘ศูนย์เรียนรู้ อา โยน อู’ ปิดเรียนเพราะโควิด แต่ยังมีไข่ไก่บริโภค
วันเสาร์ ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
ศูนย์การเรียนรู้ อา โยน อู ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โรงเรียนชายขอบซึ่งมีทั้งเด็กนักเรียนไทยและเด็กชาติพันธุ์เผชิญกับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ทำให้ยังไม่สามารถกลับมาทำการสอนตามปกติได้ ต้องเรียนทางออนไลน์ และนักเรียนที่สามารถเรียนผ่านออนไลน์ได้ ก็มีจำนวนเพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนนักเรียนทั้งหมด เฉพาะเด็กที่ผู้ปกครองมีโทรศัพท์มือถือใช้เท่านั้น ที่ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ …. ยังเดินหน้าโครงการดีๆ ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กด้อยโอกาสและเด็กชาติพันธุ์ คือ “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” เพื่อสร้างแหล่งผลิตอาหารที่ยั่งยืน โดยมีเยาวชนในศูนย์ฯ ร่วมรับผิดชอบโครงการ และยังเป็นโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ทักษะอาชีพเพื่อนำไปใช้ได้ในอนาคต
จ่อซาน ผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้อา โยน อู เล่าว่า บนพื้นที่ 5 ไร่ของศูนย์ฯ ด้านหน้าถูกแบ่งเป็นส่วนของอาคารเรียน ด้านหลังเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้นอกห้องเรียนด้วยการทำสวนผัก ที่เต็มไปด้วยพืชผักสำหรับปรุงเป็นอาหารกลางวันให้กับน้องๆ เยาวชนในศูนย์ทั้ง 100 คน และคุณครู 9 คน พื้นที่ตรงนี้ถูกจัดสรรให้เป็นแปลงปลูกพืชหมุนเวียนพืชผักสวนครัว ทั้งผักบุ้ง ข้าวโพดหวาน มะเขือม่วงกระเจี๊ยบ ฟักทอง มะนาว และกล้วยน้ำว้าถัดไปเป็นสระน้ำสำหรับเก็บน้ำและเลี้ยงปลาให้นักเรียนได้บริโภคด้วย ไม่ไกลจากสวนผักเป็นที่ตั้งของโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ โครงการเลี้ยงไก่ไข่นี้ผู้อำนวยการบอกว่าเกิดขึ้นได้เพราะมีผู้ใหญ่ใจดีอย่าง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรที่มีความมุ่งมั่นเดียวกัน ในการร่วมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และผลักดันให้ชุมชนมีแหล่งผลิตอาหารที่ยั่งยืนเป็นของตนเอง เข้ามาสนับสนุนตั้งแต่ปี 2559 มีซีพีเอฟดูแลรับผิดชอบด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ พร้อมทั้งมอบแม่พันธุ์ไก่ไข่ อาหารสัตว์ และอุปกรณ์การเลี้ยงมาตรฐานสำหรับการเลี้ยงไก่รุ่นแรก ทั้งหมดนี้บริษัทให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมกับส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ด้านการเลี้ยงไก่ การดูแลสุขภาพสัตว์ การจัดการโรงเรือน ตลอดจนการบริหารสต๊อกและการเงิน เพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้และมีผลประกอบการที่ดีสำหรับการลงทุนเลี้ยงเองในรุ่นถัดไป
.jpg)
เตนเตน เหว่ คุณครูผู้รับผิดชอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่ของศูนย์ฯ เล่าว่า เป็นโอกาสที่ดีของเยาวชนต่างด้าวในพื้นที่ชายขอบ ที่มีซีพีเอฟและมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบทสนับสนุนโรงเรียนทำโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ช่วยดูแลโภชนาการของเด็กๆ ที่อยู่ในวัยเจริญเติบโต การได้รับประทานไข่ไก่ที่เป็นโปรตีนคุณภาพดีอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับผักปลอดสารต่างๆที่พวกเขาปลูกเองส่งผลดีต่อสุขภาพ ร่างกาย พัฒนาการทางสมอง และจิตใจ จากการได้ดูแลเลี้ยงไก่ และการได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันช่วยเสริมทักษะทางสังคมให้เด็กๆ
ด้านน้องๆ ที่รับผิดชอบดูแลเก็บผลผลิตไข่ไก่ ทั้ง ด.ญ.นวยนวยนันดามน, ด.ญ.เอตอดาข่าย และ ด.ช.กองเหว่หยั่นโก่โก่ขะมักเขม้นช่วยเหลือกันให้อาหารไก่ เก็บไข่ ทำความสะอาดโรงเรือน นำมูลไก่ทำเป็นปุ๋ยเพื่อใส่แปลงผักที่ช่วยกันปลูก พวกเด็กๆ สนุกกับการทำงานได้มาดูแลไก่ที่พวกเขารัก และยังภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในผลผลิตไข่ไก่ทุกฟองสำหรับทุกคนในโรงเรียนและคนในชุมชน
ครูปีเตอร์ ครูสอนภาษาไทยของศูนย์ฯ บอกว่า ถึงจะเป็นช่วงที่นักเรียนไม่ได้มาเรียน แต่หลายๆ คน ยังได้บริโภคไข่ไก่เพื่อเสริมสุขภาพที่ดีผลผลิตไข่ไก่ในแต่ละวันจะถูกจัดสรรครึ่งหนึ่งเพื่อจำหน่ายให้ชุมชนและอีกครึ่งหนึ่งเก็บไว้ในแต่ละสัปดาห์คุณครูผู้รับผิดชอบโครงการฯ จะนำผลผลิตไข่ไก่ไปแจกตามบ้านนักเรียนเท่าที่จะมีโอกาสนำไปให้ได้ไกลสุดห่างจากศูนย์ฯ ประมาณ10 กิโลเมตร ช่วยดูแลสุขภาพเด็กๆ ในช่วงที่ไม่ได้มาเรียนที่ศูนย์ฯ แต่ก็ยังได้บริโภคไข่ไก่
โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ดำเนินการต่อเนื่องสู่ปีที่ 32ส่งมอบโอกาสให้แก่เด็กและเยาวชนไปแล้ว880 โรงเรียนทั่วประเทศ ตามเป้าหมายส่งเสริมการเข้าถึงอาหาร เป็นแหล่งผลิตอาหารของโรงเรียนและชุมชนอย่างยั่งยืน



