ความจนไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย เพราะผมอยู่กับมันมา เพราะความจนจึงทำให้ผมต้องต่อสู้มากขึ้น เพื่อให้ตัวเองมีความรู้มากๆ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/598051

ความจนไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย เพราะผมอยู่กับมันมา เพราะความจนจึงทำให้ผมต้องต่อสู้มากขึ้น เพื่อให้ตัวเองมีความรู้มากๆ

ความจนไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย เพราะผมอยู่กับมันมา เพราะความจนจึงทำให้ผมต้องต่อสู้มากขึ้น เพื่อให้ตัวเองมีความรู้มากๆ

วันเสาร์ ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 08.00 น.

การพูดความจริงเรื่องฐานะยากจนไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ที่เราต้องอายก็คือการไม่พูดความจริง เพราะความจริงไม่มีอะไรต้องทำให้เรารู้สึกอาย 

ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย นำคุณไปสนทนากับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ที่ยืนยันมาโดยตลอดว่า เพราะความยากจนจึงทำให้สามารถเข้าไปเรียนในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ และขอบคุณความจนที่ทำให้มีความอุตสาหะพยายามมากขึ้น 

เรียนถามท่านผู้ว่าฯ ว่าคำสอนจากแม่มีผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้ว่าอย่างไรบ้างครับ เพราะสิ่งที่คนทั่วไปเห็นจากท่านคือ ท่านไม่เคยปกปิดเรื่องการมีฐานะยากจนในวัยเด็ก 

นายชัยวัฒน์ : คุณแม่ผมเป็นคนที่มีความรู้ไม่มาก ท่านไม่ได้เรียนหนังสือมากนัก ท่านไม่ค่อยพูดหรือสอนผมด้วยคำพูด แต่ท่านทำตัวอย่างให้ผมเห็นมาตั้งแต่ผมยังเด็ก ครอบครัวของเราอยู่ที่อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ผมเห็นคุณแม่ทำงานเพื่อเลี้ยงดูผมมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กผมเห็นตัวอย่างการดำเนินชีวิตจากแม่ ตัวอย่างที่แม่สอนคือสิ่งที่แม่ทำให้เห็นครับ เช่น สมัยผมเด็กๆ ผมอยากได้เงิน ผมถามแม่ว่าเราคั่วเม็ดมะขามไปขายได้ไหมครับ แม่สอนผมโดยทำตัวอย่างกระทงให้ดู แล้วบอกว่าต้องทำกระทงให้สะอาดเรียบร้อย แล้วคนน่าจะซื้อของของเรา แล้วเวลาขายก็ต้องไม่ตั้งราคาแพงมาก แค่กระทงละ 50 สตางค์ก็พอแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ผมดูจากคุณแม่คือความสะอาดในการทำอาหาร คุณแม่ผมทำแกงขายและท่านเน้นเสมอว่าต้องทำให้สะอาดสะอ้านถูกสุขลักษณะ เมื่อเราทำของดี คนกินก็จะสนับสนุนเราเราก็จะขายของได้ ผมเห็นการเตรียมวัตถุดิบในการทำอาหาร เห็นการใช้ภาชนะที่สะอาด เห็นแม่เช็ดใบตองจนสะอาดทั้งสองด้าน ก่อนจะทำกระทง นี่คือการเรียนรู้จากการเห็นของจริงครับ แม้กระทั่งการรับจ้างซักรีดเสื้อผ้า ผมก็ได้เรียนรู้จากคุณแม่ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด คนที่จ้างเราจะได้ไว้วางใจเราตลอดไป ผมเห็นคุณแม่ทำงาน แล้วเมื่อผมเข้าไปช่วยในบางสิ่ง ก็ทำให้รู้ว่าเราต้องทำงาน เราจึงจะมีเงินใช้จ่าย และรู้ว่าเราต้องอดทนตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด 

แม้ฐานะค่อนข้างยากจน แต่ท่านผู้ว่าฯก็มีความอุตสาหะในการเรียนหนังสือมากซึ่งผิดกับบางครอบครัวที่ผมเคยสัมภาษณ์เขาบอกว่าเราจน เราไม่ต้องเรียนมาก แต่ต้องทำงานเพื่อหาเงิน ผมเชื่อว่าคุณแม่ของท่านผู้ว่าฯ น่าจะมีแรงผลักดันให้ท่านผู้ว่าฯ สนใจการเรียนหนังสือ ใช่ไหมครับ 

นายชัยวัฒน์ : มีส่วนมากครับ หลังจากผมจบ ป. 6 ผมก็ต้องช่วยทางบ้านหารายได้ เพราะแม่บอกว่าเราต้องทำงานจึงจะมีเงินใช้จ่าย แม่คือตัวอย่างของผม ตอนสมัยเด็กผมไปเป็นกระเป๋ารถเมล์ในจังหวัด แล้วก็โชคดีที่เจ้าของรถเมล์อนุญาตให้ผมไปเรียนการศึกษานอกเวลาได้ และให้จักรยานมาไว้ใช้ถีบไปเรียนหนังสือด้วย ผมก็ปั่นจักรยานจากบ้านขอนแดงไปเรียนในตัวเมือง แล้วเจ้าของรถเมล์ก็ให้โอกาสผมเข้าไปทำงานในโรงอิฐ ผมก็แบ่งเวลาทำงานแล้วไปเรียนหนังสือได้ เพราะผมมองว่าการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญของมนุษย์แม้บางจังหวะจะมีเสียงจากญาติๆ ถามว่า เรายากจนจะเรียนไปทำไม ออกมาทำงานหาเงินดีกว่าไหม แต่ผมก็ยังยืนยันว่า จำเป็นต้องเรียนต่อ และนึกเสมอว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต ผมดูจากแม่ผมแล้วเห็นว่าท่านเป็นคนเพียงไม่กี่คนในหมู่บ้านที่เขียนหนังสือได้ อ่านหนังสือออก ส่วนญาติอีกคนชื่อลุงยอดก็มีส่วนช่วยให้ผมอยากเรียนหนังสือ เพราะลุงยอดอ่านหนังสือออก เขียนหนังสือได้ แม้จะไม่เคยเรียนในโรงเรียนมาก่อน แต่ท่านใช้ความพยายามในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ผมจะเห็นว่าการศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตมนุษย์เสมอมา จึงอยากเรียนหนังสือครับ 

ท่านผู้ว่าฯ พูดทุกครั้งทุกที่ ก็จะบอกเสมอว่า ขอบคุณความจน และไม่ปกปิดความจนในวัยเด็กของตนเอง ในขณะที่คนบางคนจะปกปิดความจน เรื่องนี้คุณแม่สอนไว้หรืออย่างไรครับ 

นายชัยวัฒน์ : ความจริงคือเรายากจนจริงๆ ผมไม่เคยปฏิเสธความจริง แล้วก็คิดเสมอว่าเพราะเราจนเราจึงต้องพยายาม แล้วเพราะความจนจึงทำให้ผมมีวันนี้ครับ ถ้าผมไม่จน ผมอาจไม่มีโอกาสเข้าไปเรียนในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะโครงการจุฬาฯ ชนบทให้โอกาสกับเด็กนักเรียนที่มีฐานะยากจน หากผมไม่จน แล้วผมเป็นนักเรียนต่างจังหวัด โอกาสที่ผมจะสอบเข้าไปเรียนในจุฬาฯ อาจจะไม่มากนักผมจึงขอบคุณความจน และผมเห็นว่าเราจนจริงๆเราจึงไม่จำเป็นต้องปกปิดความจน เพราะมันคือความจริง การพูดความจริงเป็นเรื่องที่ไม่ต้องอับอายครับ ความจนทำให้เราต้องพยายามมากขึ้นมันคือแรงผลักดันให้เราต้องทำงานหนักเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคนอื่นๆ ได้ นั่นคือเราต้องพยายามมากขึ้นเพื่อให้เราประสบความสำเร็จผมยืนยันว่าไม่เคยอับอายกับฐานะยากจน เพราะมันคือความจริงของเรา ผมระลึกเสมอว่าเพราะผมจนผมจึงเข้าไปเรียนในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้ยิ่งผมมาจาก กศน. โอกาสที่จะสอบเข้าจุฬาฯยิ่งน้อยมาก แต่เพราะจุฬาฯ มีทุนจุฬาฯ ชนบทเขาวัดกันที่ความจน ถ้าผมไม่จน ผมก็เข้าไปแข่งขันในโครงการนี้ไม่ได้ เมื่อเข้าจุฬาฯ ไม่ได้ ก็ไม่มีทุนเรียนต่อ ก็หมดโอกาสที่ดีของชีวิตไป ผมจึงขอบคุณความจนตลอดเวลาครับ 

ช่วงที่เป็นนิสิตจุฬาฯ ท่านผู้ว่าฯ เคยนึกน้อยใจบ้างไหมครับ เมื่อเห็นเพื่อนบางคนในจุฬาฯ ที่มีฐานะดีมากๆ มีความเพียบพร้อมในชีวิตมากกว่าเรา  

นายชัยวัฒน์ : ผมไม่เคยคิดเรื่องเหล่านั้นเลย เพราะผมอยู่หอพักของจุฬาฯ ทุกคนก็เป็นเพื่อนกัน ไม่มีใครทำให้เรารู้สึกว่าเรามีปมด้อยเลยแน่นอนในจุฬาฯ มีคนมีฐานะดีมากๆ บางคนขับรถยนต์ไปเรียน แต่ผมอยู่หอ ผมเดินไปเรียนได้สะดวกมาก เมื่อไปถึงคณะรัฐศาสตร์ เราก็มีเพื่อนที่ให้ความช่วยเหลือกันและเป็นกันเองอย่างดีเวลาเรียนก็สวมชุดนิสิต ก็ไม่สิ้นเปลือง เพราะไม่ต้องแต่งตัวมาก เพื่อนทุกคนที่มีฐานะดีก็ไม่เคยทำให้เรามีปมด้อย แม้หลายคนจะมีฐานะดีมากก็ตาม แต่ก็ไม่เคยทำให้เรารู้สึกว่าเราด้อยกว่า ชีวิตนิสิตหอพักจุฬาฯ สะดวกสบายมาก เดินไปเรียน เสร็จแล้วก็กลับหอ เปลี่ยนเสื้อผ้าไปออกกำลังกายที่สนามกีฬาจุฬาฯ เรื่องเสื้อผ้าแฟชั่นก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับเรา ยิ่งเวลาปิดเทอม เราก็ออกไปค่ายของคณะรัฐศาสตร์ เราก็จะไปคลุกคลีกับชาวบ้านในต่างจังหวัด ก็เป็นเรื่องที่ทำให้เราได้เรียนรู้การเสียสละของนิสิตได้อย่างดี 

สมัยเป็นนิสิต ท่านผู้ว่าฯ ทำงานไปด้วยใช่ไหมครับ 

นายชัยวัฒน์ : ผมทำงานนอกเวลาที่หอสมุดกลางของมหาวิทยาลัยด้วยครับ และมีบางช่วงก็เป็นผู้ช่วยทำงานวิจัยกับอาจารย์ในคณะรัฐศาสตร์ เช่น แจกแบบสอบถามตามที่ต่าง ๆ ก็ทำให้มีรายได้สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและสามารถแบ่งเงินให้กับคุณแม่ได้บ้างครับ  

 การออกค่ายอาสาสมัครสมัยเป็นนิสิต ให้บทเรียนอะไรกับท่านผู้ว่าฯ บ้างครับ 

นายชัยวัฒน์ : ได้ทำให้เราเห็นข้อเท็จจริงของสังคมมากขึ้น และทำให้เราเข้าใจทฤษฎีที่เราเรียนมากขึ้น เพราะได้ลงมือปฏิบัติจริง ได้เห็นของจริง เราจึงเข้าใจสังคมได้มากขึ้น ทำให้เมื่อเราทำงานจริง ก็ได้ประสบการณ์ตรงที่ช่วยในการตัดสินใจของเรา ทำให้เราวางแผนการทำงานได้ดีขึ้น 

ท่านผู้ว่าฯ บอกเสมอว่ากว่าจะสอบเข้ากระทรวงมหาดไทยได้ ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ใช่ไหมครับ 

นายชัยวัฒน์ : ผมสอบถึงห้าครั้งครับกว่าจะได้รับราชการในมหาดไทย ซึ่งทำให้ผมเห็นว่าตัวเองยังมีความสามารถไม่พอ ดังนั้น จึงต้องพยายามให้มากขึ้น ต้องอดทนมากขึ้น ทำงานหนักขึ้นอ่านหนังสือมากขึ้น นี่คือการสอนให้เรารู้ว่าไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย เราต้องตั้งใจมากขึ้น พยายามมากขึ้น เพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

ล่าสุดท่านผู้ว่าฯ มีลูก ลูกไม่ได้มีฐานะยากจนเหมือนสมัยเราเป็นเด็ก ท่านผู้ว่าฯ ใช้วิธีการอบรมสั่งสอนลูกอย่างไรครับ เพราะยุคสมัยและฐานะก็ต่างกัน 

นายชัยวัฒน์ : ผมใช้วิธีการคล้ายๆ กับคุณแม่สอนผมคือทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง ในครอบครัวผม เราจะใช้การปรึกษาหารือกันในเรื่องต่างๆ แล้วถามความเห็นของกันและกัน ผมปรึกษาลูกและลูกก็ปรึกษาผม ในครอบครัวเราจะช่วยกันทำงาน ผมไม่เคยสั่งลูกว่าต้องทำอะไร แต่จะสอนให้เขาคิดไตร่ตรองด้วยตัวเอง แล้วตัดสินใจทำในสิ่งที่ดีที่สุด ผมโชคดีครับที่ลูกผมสามารถพูดจาหารือกันด้วยเหตุผล ผมจึงสบายใจว่าลูกตัดสินใจทำทุกสิ่งด้วยเหตุด้วยผล และอยู่บนหลักการของเหตุผลเป็นสำคัญ 

คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตี ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ NBT กดหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTubeไลฟ์ วาไรตี

Leave a comment