อัพเดทเทรนด์สุขภาพกับนวัตกรรมการตรวจยีน พลิกอนาคตแห่งการรักษามะเร็งแบบจำเพาะบุคคล #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/601827

อัพเดทเทรนด์สุขภาพกับนวัตกรรมการตรวจยีน พลิกอนาคตแห่งการรักษามะเร็งแบบจำเพาะบุคคล

อัพเดทเทรนด์สุขภาพกับนวัตกรรมการตรวจยีน พลิกอนาคตแห่งการรักษามะเร็งแบบจำเพาะบุคคล

วันอังคาร ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.

บริษัท โรช ไทยแลนด์ จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมการดูแลสุขภาพแบบจำเพาะบุคคลและการตรวจวินิจฉัย ได้จัดการเสวนาในหัวข้อ “The Future of Personalised Healthcare :อัพเดทเทรนด์สุขภาพคนไทยช่วงโควิด-19 เผยนวัตกรรมการตรวจยีนที่จะมาพลิกอนาคตแห่งการรักษามะเร็ง”ในโอกาสครบรอบ 125 ปีของการก่อตั้งและ 50 ปีของการมีส่วนร่วมส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยในสังคมไทย

ภายในงานได้รับเกียรติจากนักวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แม่นยำ เพื่อร่วมกันเผยอนาคตแห่งการดูแลสุขภาพแบบจำเพาะบุคคลที่เปรียบเสมือนความหวังใหม่ของผู้ป่วยมะเร็งชาวไทยทุกคนโดยพูดคุยเจาะลึกถึงประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจยีนแบบครอบคลุม นวัตกรรมการรักษา โอกาสการเข้าถึงที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น ข้อสรุปจากการเสวนาชี้ว่าการตรวจยีนแบบครอบคลุมจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการวินิจฉัยของแพทย์ เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาที่สอดคล้องกับรูปแบบการกลายพันธุ์ของยีนที่เป็นสาเหตุการเกิดมะเร็งในผู้ป่วยแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ นวัตกรรมนี้ช่วยให้ทั้งแพทย์ ผู้ป่วย และผู้ดูแลสามารถรับมือกับโรคร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภาครับและภาคเอกชนต่างก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรักษาแบบจำเพาะบุคคลให้แก่ผู้ป่วยไทยในอนาคต

ปิยะ เมฆานันท์ ผู้จัดการกลยุทธ์และข้อมูลเชิงลึก จากบริษัท กูเกิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการค้นหาข้อมูลของคนไทยในช่วงโควิด-19 ว่า “ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด ทำให้หน่วยงานต่างๆ ใช้มาตรการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าคำค้นหา (keyword) ที่คนไทยนิยมใช้หาข้อมูลออนไลน์ในช่วงนี้สะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สามารถทำหรือใช้งานภายในบ้าน ควบคู่ไปกับพฤติกรรมด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไป กล่าวคือ คนไทยจำนวนมากหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพทั้งทางกายและทางใจเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น การเลือกวัตถุดิบและวิธีการปรุงอาหารเพื่อสุขภาพ วีดีโอคลิปออกกำลังกายและอุปกรณ์ออกกำลังกาย สื่อบันเทิงเพื่อช่วยคลายเครียด เป็นต้น

นอกจากนี้ หากพิจารณาโดยละเอียดจะพบว่าคนไทยเฟ้นหาผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงหรือออกแบบมาให้เหมาะสมกับความต้องการของตนเองอีกด้วย ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่สินค้าและบริการทุกวันนี้พยายามออกแบบมาให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคน หรือ personalisedมากขึ้นนั่นเอง ส่วนมลภาวะที่อาจเป็นภัยต่อสุขภาพ อย่างฝุ่น PM2.5 ก็ได้รับความสนใจจากคนไทยเป็นระลอกเช่นกัน แต่ในทางตรงข้าม คำค้นหาที่เกี่ยวข้องการตรวจสุขภาพกลับลดต่ำลง ซึ่งอาจเป็นผลจากความกังวลของประชาชน ว่าการไปโรงพยาบาลในช่วงโควิด-19 อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะสัมผัสกับเชื้อโรคได้”

แนวโน้มการค้นหาข้อมูลออนไลน์ยังแสดงให้เห็นว่า เมื่อนึกถึงการดูแลสุขภาพ คนไทยมักให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต การดูแลรักษาทางการแพทย์ สภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวชี้วัดด้านสุขภาพ ทั้งยังถือเป็นการให้ความร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อแสวงหาหนทางรับมือกับโรคร้ายอย่าง “มะเร็ง” ทั้งนี้ ศ.นพ.มานพ พิทักษภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยว่า สาเหตุการเกิดมะเร็งอาจมาจากอีกปัจจัยหนึ่งที่คนไทยจำนวนไม่น้อยอาจไม่เคยตระหนักมาก่อน นั่นก็คือ ลักษณะทางพันธุกรรมหรือยีน (gene) ซึ่งถ่ายทอดภายในครอบครัวจากสมาชิกรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ในร่างกายแต่ละคนประกอบด้วยยีนที่มีลักษณะจำเพาะ เป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำกัน โดยยีนนับได้ว่าเป็นตัวชี้วัดด้านสุขภาพที่มีบทบาทสูงถึง 22%

ขณะที่ มร.ฟาริด บิดโกลิ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โรช ไทยแลนด์ เมียนมา กัมพูชา และลาว บริษัทชั้นนำของโลกด้านนวัตกรรมการวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็ง เผยถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันที่ช่วยให้เข้าใจความหลากหลายของรูปแบบการกลายพันธุ์ของยีนได้ดียิ่งขึ้นว่า “ในอดีต มะเร็งถูกมองว่าเป็นโรคในระดับอวัยวะหรือระดับเซลล์ ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งชนิดเดียวกันได้รับการรักษาเหมือนกันโดยพิจารณาจากระยะของโรคและขนาดของก้อนมะเร็งเท่านั้น ส่งผลให้ประสบการณ์การรักษามะเร็งในผู้ป่วยบางรายไม่ดีเท่าที่ควร แต่ทุกวันนี้ความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยเฉลยให้เห็นว่าแท้จริงแล้วมะเร็งเป็นโรคในระดับยีน ดังนั้น แนวทางการรับมือกับมะเร็งจึงควรเปลี่ยนจากการรักษาบนมาตรฐานเดียวกัน (One-size-fits-all approach) ไปสู่การรักษาแบบจำเพาะบุคคล (Personalised healthcare) โดยเทคโนโลยีการตรวจยีนแบบครอบคลุม (Comprehensive Genomic Profiling) จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในขั้นตอนการวินิจฉัย กล่าวคือ แม้จะป่วยเป็นมะเร็งชนิดเดียวกัน แต่รูปแบบการกลายพันธุ์ของยีนที่เป็นสาเหตุนั้นอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน ทำให้แพทย์ต้องวางแผนการรักษาให้สอดคล้องกับความผิดปกติของยีน ระยะของโรค และความแข็งแรงทางกายของผู้ป่วย”

ที่ผ่านมา โรช ได้นำศักยภาพและความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงจุดแข็งด้านเทคโนโลยี มาใช้เพื่อยกระดับการตรวจวินิจฉัยและการรักษามะเร็งแบบจำเพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา การทำวิจัยทางคลินิก ฐานข้อมูล (database) เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ลักษณะทางพันธุกรรมด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่วนในอนาคตอันใกล้นี้ มร.ฟาริด ระบุว่า “ปลายปี 2564 นี้ ผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทยกำลังจะมีโอกาสได้เข้าถึงนวัตกรรมการตรวจยีนแบบครอบคลุม ซึ่งใช้เวลารอผลแล็บสั้นลงและมีความใช้จ่ายน้อยลง เพราะโรชตระหนักดีว่าเวลาทุกวินาทีของผู้ป่วยมะเร็งมีค่า การได้รับผลตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำและได้รับการรักษาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงทีช่วยคลายความกังวลให้ผู้ป่วยและผู้ดูแลได้อย่างมาก ด้วยเหตุนี้ โรช จึงสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ตรวจยีนแบบครอบคลุมที่ศิริราช ทำให้ไม่ต้องส่งตัวอย่างเลือดหรือชิ้นเนื้อของผู้ป่วยไปวิเคราะห์ที่แล็บในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจใช้ระยะเวลารอผลแล็บร่วมเดือน”

Leave a comment