หมอในพื้นที่ห่างไกล ไม่ได้เป็นแค่หมอเท่านั้น แต่เป็นเสมือนญาติพี่น้องของคนไข้ โดยเฉพาะคนไข้ในเขตทุรกันดาร

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/618453

หมอในพื้นที่ห่างไกล ไม่ได้เป็นแค่หมอเท่านั้น แต่เป็นเสมือนญาติพี่น้องของคนไข้ โดยเฉพาะคนไข้ในเขตทุรกันดาร

วันเสาร์ ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.

คนไข้ป่วยโรคไข้หวัด หลายคนอาจมองว่าไม่รุนแรง ไม่สาหัส แต่เขามาจากบ้านบนภูเขาสูง ห่างไกลเมืองมากๆ การได้รับยาแล้วให้กลับบ้านเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่เราก็ต้องคิดอีกทีว่า หากอาการเขาทรุดลงแล้วต้องกลับมาโรงพยาบาลอีก เขาจะเดือดร้อนมาก ต้องใช้เวลาเดินทางนาน ต้องเสียค่าเดินทางมากมาย เราจึงให้เขานอนพักดูอาการให้มั่นใจในโรงพยาบาลก่อนปล่อยกลับบ้าน

ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัยยอดมาลัย นำคุณไปสนทนากับ นายแพทย์อภิชิต สถาวรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงกลางจังหวัดน่าน

l คุณหมอทำงานในโรงพยาบาลแห่งนี้มานานกี่ปีแล้ว เคยคิดย้ายไปอยู่โรงพยาบาลในเมือง หรือโรงพยาบาลใหญ่ๆ ในจังหวัดอื่นบ้างไหมครับ

นพ.อภิชิต : ผมทำงานที่นี่มา 5 ปีแล้วครับ ไม่คิดจะย้ายไปโรงพยาบาลอื่นครับ แต่ก็มีบางช่วงที่ผมเข้าไปรับการอบรม และเรียนต่อเพื่อเพิ่มพูนความรู้ซึ่งก็เป็นระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น สาเหตุที่ผมไม่คิดย้ายไปไหน เพราะผมเห็นว่าผมอยู่ที่นี่สามารถช่วยเหลือและให้คำแนะนำคนไข้ได้ดี เรียกได้ว่าผมสนิทสนมกับคนในพื้นที่แล้วครับ ผมรู้จักเขา รู้จักคนในครอบครัวของเขา และชาวบ้านก็รู้จักผม เราเป็นเสมือนคนสนิทกัน ไว้ใจกัน มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาหารือกันได้ แล้วชาวบ้านก็ไว้เนื้อเชื่อใจผมดี ผมมองว่าทุกคนในพื้นที่เป็นเสมือนญาติพี่น้องกันทุกคน

l โรงพยาบาลเชียงกลางมีทั้งหมดกี่เตียงครับผู้ป่วยที่มารับบริการเป็นคนกลุ่มไหนมากที่สุดครับ

นพ.อภิชิต : เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก30 เตียง เป็นโรงพยาบาลชุมชนครับ ผู้มารับบริการในโรงพยาบาลส่วนมากเป็นชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน แต่มีข้อน่าสังเกตเพิ่มเติมคือโรงพยาบาลแห่งนี้มีคนจากพื้นที่ใกล้เคียงที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับอำเภออื่นๆมาใช้บริการค่อนข้างมาก เนื่องจากคนกลุ่มหนึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลนี้มากกว่าเมื่อเทียบระยะทางกับโรงพยาบาลประจำอำเภออื่นๆ เช่น ชาวบ้านในบ้านถ้ำ เขตอำเภอสองแคว หรืออำเภอทุ่งช้าง หรืออำเภอภูเพียง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ดังนั้นจึงมารับบริการที่เชียงกลางค่อนข้างมาก และยังมีชาวลาวมารับการรักษาบ้างครับ

l ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างโรงพยาบาลเล็กๆ ในชุมชนแบบนี้กับโรงพยาบาลใหญ่ๆ ในอำเภอใหญ่ๆ หรือในจังหวัด คืออะไรครับ

นพ.อภิชิต : ต่างกันหลายประเด็นเลยครับข้อแรกคืองบประมาณต่างกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติเพราะประชากรต่างกัน โรงพยาบาลเล็กได้รับงบประมาณน้อยกว่าโรงพยาบาลใหญ่ เพราะรับผิดชอบผู้ป่วยจำนวนน้อยกว่า ส่วนเรื่องแพทย์เฉพาะทางก็ต่างกัน โรงพยาบาลแบบเราไม่มีแพทย์เฉพาะทางครับ เราจะดูแลโรคและอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น หากมี case ที่รุนแรงมากๆ เราก็ต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการรักษามากกว่าเราเรื่องงบประมาณที่ไม่เท่ากันสำหรับโรงพยาบาลขนาดต่างกันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะมันก็เหมือนกับการลงทุนด้านสาธารณสุข จึงต้องใช้งบประมาณให้มีคุณค่าคุณประโยชน์สูงสุด อันที่จริงบทบาทของโรงพยาบาลจังหวัดกับโรงพยาบาลชุมชนก็ต่างกันในรายละเอียด แต่การรักษาพยาบาลไม่ต่างกันมากนัก ภาครัฐจำเป็นต้องทุ่มเงินงบประมาณไปที่โรงพยาบาลใหญ่ๆ เป็นอันดับแรก เพราะมีหมอเฉพาะทาง และมีคนไข้เข้ารับการรักษาจำนวนมาก สำหรับเชียงกลางนี้มีหมอประจำอยู่ 4 คนครับ ถามว่าเพียงพอไหม ก็ตอบว่า เพียงพอครับ แต่ก็ต้องวางแผนการทำงานให้ดีด้วย ส่วนพยาบาลมีทั้งหมด 33 คน ดูเหมือนมีจำนวนมาก แต่ทุกคนมีภาระงานเต็มมือทุกวันครับ เราส่งพยาบาลไปดูงานปฐมภูมิในชนบท ไปตามบ้านของชาวบ้านด้วยไปดูแลรักษาคนไข้ติดเตียงตามบ้าน และดูแลคนสูงอายุที่มีอาการเจ็บป่วยด้วย ปัจจุบันมีคนป่วยเรื้อรังจำนวนมาก บางคนเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ไม่สามารถมารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้ เราจึงต้องมีพยาบาลไปเยี่ยมผู้ป่วยตามบ้าน

l ขออนุญาตถามหมอตรงๆ ว่า อันที่จริงหมอสามารถขอย้ายไปทำงานในโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่านี้ได้แล้ว แต่เหตุใดหมอยังคงทำงานในโรงพยาบาลชุมชนต่อไปครับ

นพ.อภิชิต : (ยิ้ม) ว่ากันตามบริบทของโรงพยาบาลชุมชนแบบเชียงกลางนะครับ ตามปกติหมอมาทำงานใช้ทุนสักระยะ เมื่อครบกำหนดหมอก็จะย้ายไปที่อื่น บางคนก็ไปเรียนต่อ ดังนั้นโรงพยาบาลแบบนี้จึงมีหมออยู่สัก 2-3 ปีแล้วก็ย้าย แต่สำหรับผมผมเห็นว่าเมื่อเราทำงานที่นี่โดยทำงานอย่างต่อเนื่องแล้ว เราได้เห็นรากเหง้าของปัญหาอันเป็นต้นตอของความเจ็บป่วยของคนในชุมชน เราคุ้นเคยกับผู้คนในชุมชนมากขึ้น เมื่อผมทำหน้าที่ผู้อำนวยการ ผมมองว่าการบริหารงานใดๆ ก็ตาม มันต้องต่อเนื่อง เพื่อให้งานเดินหน้าต่อไปอย่างราบรื่น การย้ายที่ทำงานบ่อยเกินไป ทำให้ไม่มีความต่อเนื่อง และแก้ปัญหาไม่ได้ คนมาใหม่ต้องมาเรียนรู้งานใหม่สักระยะกว่าจะทำงานได้คล่องตัว ผมมองว่าการที่เราอยู่ในพื้นที่นานเรารู้ปัญหามากขึ้น รู้จักคนมากขึ้น จึงคิดว่าเราสามารถทำงานเพื่อชุมชนได้ดีขึ้น การบริหารงานก็ต่อเนื่อง นี่คือเสน่ห์ของโรงพยาบาลชุมชน ผมคิดว่าผมรู้จักชาวบ้านมากกว่าหมอเฉพาะทางในโรงพยาบาลใหญ่ๆ เพราะเราคุ้นเคยกับเขาเป็นเวลานาน หมอในโรงพยาบาลใหญ่มีคนไข้มาก การจะใช้เวลาพูดคุยกับคนไข้แต่ละคนก็น้อย แต่ผมคุยกับคนไข้ได้นาน เพราะผู้รู้จักบ้านเขา ผมไปหาเขาที่บ้านได้ หากเขาไม่มาหาผม ผมก็ไปติดตามอาการป่วยของเขาที่บ้านได้เรามีความใกล้ชิดกัน รู้ประวัติคนไข้ค่อนข้างดีเป็นเหมือนพี่น้อง เป็นเหมือนญาติกัน นี่คือความสุขของการทำงานในโรงพยาบาลชุมชน

l ความจริงอย่างหนึ่งสำหรับโรงพยาบาลชุมชนคือ คนไข้ในชุมชนกระจายตัวในพื้นที่ต่างๆ มากซึ่งต่างกันในเมืองใหญ่ ที่คนป่วยกระจุกตัวในเขตเมือง แต่สำหรับเชียงกลาง คนไข้กระจายตัวในพื้นที่ แบบนี้ทำให้ทำงานยากไหมครับ

นพ.อภิชิต : ก็นับว่ายากพอสมควร แต่เมื่อเราคุ้นเคยกับคนในพื้นที่แล้ว ปัญหาก็ไม่หนักมากการทำงานในโรงพยาบาลแบบนี้ เราให้ความสำคัญในเรื่องการ standby รองรับความต้องการของคนไข้ที่นี่เราต้องมีหมอและพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง แม้บางคนอาจจะมองว่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเพราะประชากรมีน้อย แต่เราต้องทำ เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีคนป่วยที่ต้องเขารับการรักษาในช่วงไหนเราจึงต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา บางวันอาจไม่มีคนป่วยฉุกเฉินในช่วงกลางดึกเลย แต่เราก็ต้องมีแพทย์ประจำห้องฉุกเฉิน หากจะเทียบกันในเมืองใหญ่ๆ ใช้หมอ 1 คน กับทีมพยาบาลเพื่อรองรับประชากร 5 หมื่นคน แต่ที่เชียงกลางรองรับประชากรประมาณ 8 พันคน หากมองเชิงเศรษฐศาสตร์แล้ว ที่เชียงกลางอาจไม่คุ้มค่า แต่เราต้องมองในมิติของสังคมด้วย จะมองเชิงเศรษฐศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้ เพราะชีวิตคนไม่ว่าจะเป็นคนในชนบทหรือในเมืองก็สำคัญไม่ต่างกันผมยกตัวอย่างหนึ่งนะครับ หากคนป่วยมีอาการไข้หวัด หรือไอหนักมากมาหาเราที่เชียงกลาง เมื่อเราจ่ายยาแล้วปล่อยเขากลับไป แต่บ้านเขาอยู่ห่างไกลมาก อยู่บนภูเขาสูงไกลเมืองมาก เช่น บ้านกล้วยห่างจากตัวอำเภอเชียงกลางไป 30-40 กิโลเมตรเขามาหาหมอแต่ละครั้ง ต้องเช่ารถยนต์มา ต้องจ่ายค่าเช่ารถหลายร้อยบาท หากเขาได้ยากลับไปบ้านแต่อาการไม่ดีขึ้น เขาต้องกลับมาหาหมออีก เขาต้องเสียเงินอีกมาก เขาก็อาจไม่กลับมาหาหมอ ในกรณีแบบนี้ เราจะให้คนไข้นอนในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการจนแน่ใจ เรื่องนี้เป็นความละเอียดอ่อนที่หมอต้องดูด้วยความใส่ใจอย่างมาก ซึ่งเรื่องแบบนี้จะต่างกับคนไข้ในเขตเมืองที่เดินทางไปโรงพยาบาลได้สะดวก

l สำหรับโรงพยาบาลเชียงกลางนั้น หากคุณหมอต้องการสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อให้การทำงานของทีมหมอ ทีมพยาบาลสะดวกมากขึ้น ช่วยคนป่วยได้ดีขึ้น คุณหมอต้องการอะไรมากที่สุดครับ

นพ.อภิชิต : ผมอยากได้อาคารที่มีห้องฉุกเฉินอยู่ใกล้หรือติดกับห้องคลอด ปัจจุบันนี้ห้องสองห้องนี้อยู่ห่างกัน คนละตึกกันเลยครับ อาคารเดิมที่มีห้องคลอดสร้างเมื่อปี 2529 ส่วนห้องฉุกเฉินที่เรายืนอยู่ตรงนี้สร้างเมื่อปี 2535 ตามปกติห้องสองห้องนี้ต้องอยู่ใกล้กันมากๆ เพื่อให้การทำงานของหมอและพยาบาลสะดวก เพื่อช่วยคนไข้ได้ทันการณ์ แต่ทุกวันนี้ปัญหาคือเมื่อเจ้าหน้าที่ทำงาน เราต้องวิ่งไปวิ่งมาระหว่างตึกสองตึก และที่มากกว่านั้นคือมีปัญหาเวลาเจ้าหน้าที่อยู่เวร ผมเคยเขียนโครงการของบประมาณไปที่กระทรวงสาธารณสุข 3 ครั้งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับอนุมัติ ซึ่งผมจะพยายามขอต่อไปเรื่อยๆ งบที่ต้องใช้ตกประมาณ 65 ล้านบาทผมอยากเห็นห้องคลอดอยู่ติดกับห้องฉุกเฉิน และมีห้องเอกซเรย์อยู่ไม่ห่างกันมากนัก สำหรับผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่เชียงกลางนั้น ทุกวันนี้ประชากรไม่มากก็จริง แต่โรคที่ป่วยมีความแตกต่างไปจากเดิมมาก คนป่วยมากขึ้น นี่คือสิ่งที่เราต้องเตรียมรับมือให้ดี

l นอกจากคุณหมออยากได้ตึกใหม่ที่มีห้องฉุกเฉิน ห้องคลอด ห้องเอกซเรย์อยู่ใกล้กันหรือติดกันแล้ว ยังต้องการอะไรเพิ่มเติมบ้างอีกครับ

นพ.อภิชิต : อุปกรณ์แพทย์ก็สำคัญครับ รถพยาบาลฉุกเฉินก็สำคัญครับ สิ่งเหล่านี้ทำให้หมอและพยาบาลทำงานได้มีประสิทธิภาพได้ดีขึ้นช่วยคนป่วยได้ดีขึ้น เมื่อเราเห็นคนป่วยหายป่วย เราก็มีกำลังใจทำงานมากขึ้น แต่ถึงแม้เราจะยังขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ และขาดแคลนสิ่งที่เราต้องการ แต่เราก็ต้องทำงานเพื่อคนไข้อย่างเต็มกำลังตลอดเวลา ที่ผมพูดถึงรถพยาบาลฉุกเฉินก็เพราะว่าเรามีรถไม่เพียงพอกับภาระงาน ตอนนี้มีรถสามคันคันใหม่ล่าสุดได้รับมาเมื่อปี 2554 และอาจจะได้อีกคันหนึ่งเร็วๆ นี้ แต่ทว่าทุกวันรถฉุกเฉินของเราทำงานหนักมาก ต้องวิ่งรับ-ส่งคนป่วยไปโรงพยาบาลในเมืองวันละ 2-3 เที่ยว เมื่อรถถูกใช้งานมากการบำรุงรักษาก็ต้องดีมากด้วย เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของคนป่วยและเจ้าหน้าที่ของเรา และรถเหล่านี้ต้องวิ่งขึ้นไปบนภูเขาเพื่อรับคนไข้อีกด้วย ผมจึงอยากได้รถเพิ่มครับ

l หากมีผู้ชมรายการนี้ หรือผู้อ่านแนวหน้าจะมาทำงานอาสาสมัครในโรงพยาบาล คุณหมอจะพิจารณาอย่างไรครับ

นพ.อภิชิต : ยินดีมากครับ ขอให้มาช่วยกันครับ เราต้องการทีมที่ออกไปเยี่ยมคนป่วยที่อยู่ในบ้านซึ่งห่างไกลจากโรงพยาบาล หากมีผู้ซึ่งมีความรู้ด้านสาธารณสุขมาร่วมกับเรา ก็ยินดีมากเลยครับและคนป่วยก็จะได้ประโยชน์มากขึ้นด้วยครับ จะได้ช่วยกันเสริมแรงทำงานได้ดีขึ้นครับ ทุกวันนี้ในช่วงฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ชาวบ้าน เราก็ได้รับความร่วมมือจากพยาบาลที่เกษียณราชการไปแล้วมาช่วยเราครับ และมีครูที่เกษียณราชการแล้ว ก็มาช่วยทำงานด้านเอกสารและธุรการให้เรา ซึ่งผมขอบคุณทุกท่านมากครับ ส่วนหมอประจำของเรานั้น ผมกำลังทำเรื่องขอหมอด้านเวชศาสตร์ครอบครัวมาอยู่กับเราครับ ผมขอเรียนเชิญท่านที่มีจิตอาสามาช่วยกันนะครับชาวบ้านรอคอยท่านอยู่ครับ

คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตี ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ NBTกดหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่YouTube ไลฟ์ วาไรตี

Leave a comment