‘เอก-แพง’เฟ้นหาดีไซเนอร์ไทยเลือดใหม่ กับเกณฑ์ตัดสินที่รันเวย์โลกต้องยอม

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/638206

'เอก-แพง'เฟ้นหาดีไซเนอร์ไทยเลือดใหม่   กับเกณฑ์ตัดสินที่รันเวย์โลกต้องยอม

วันจันทร์ ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565, 06.00 น.

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรายการเรียลลิตี้ด้านแฟชั่นที่น่าจับตา สำหรับ Project Runway Thailand (โปรเจกต์ รันเวย์ ไทยแลนด์) โดย แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ได้คว้าลิขสิทธิ์รายการมาผลิตและออกอากาศในเวอร์ชั่นไทยครั้งแรกทางช่องทีวีดิจิทัล JKN18 หวังดันดีไซน์เนอร์ไทยสู่รันเวย์ระดับโลก เตรียมลงจออีกไม่นานเกินรอ โดยมี The Judge กรรมการสายแฟชั่นตัวจริงรุ่นใหม่ไฟแรง อย่าง “เอก ทองประเสริฐ” ดีไซเนอร์ชื่อดังเจ้าของรางวัลระดับโลกผู้ก่อตั้งแบรนด์ Ek Thongprasert และ “แพง-ขวัญข้าว เศวตวิมล” ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้า Kwankao มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฟ้นหาดีไซเนอร์หน้าใหม่แห่งวงการแฟชั่นไทย

เข้ามาร่วมกับรายการครั้งแรกของไทยรู้สึกอย่างไร?

เอก ทองประเสริฐ : รู้สึกว่าหลัง ๆ มานี้ แฟชั่นเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ มันไม่ได้มีมิติความงามแค่มิติเดียวอีกต่อไป มันมีความหลากหลายของกลุ่มคนมากขึ้น มีความงามสำหรับกลุ่มคนที่หลากหลายแบบมากขึ้น ต้องเข้าใจว่าผู้เข้าประกวดต้องการสื่อสารอะไร ที่สำคัญเราต้องไม่ได้ใช้เกณฑ์ส่วนตัวของเราในการตัดสิน ฉะนั้นการตัดสินจะรู้สึกว่าเราต้องทันเทรนด์และจะต้องตัดสินสิ่งที่เห็นตรงหน้าอย่างตรงไปตรงมา ความท้าทายมันอยู่ตรงนี้แหละ

เตรียมตัวอย่างไร ในการที่จะมองหาผู้เข้าแข่งขัน?

แพง-ขวัญข้าว เศวตวิมล : ถ้าเราเลือกก็ต้องเลือกคนที่เขาอินกับแพชชั่นของตัวเอง เขามีความเป็นตัวตนของตัวเองชัดเจน เพราะแพงมองว่าไม่ว่าจะเป็นงานประเภทไหนที่จะออกมาได้สวยงามเพอร์เฟ็ค จะต้องมีตัวตนมีความเป็นตัวเองมาก่อน แล้วค่อยเสริมหรือเพิ่มหรือลดตัดทอนในสิ่งนั้นให้มันสวยมีสไตล์ เปรียบได้กับการเจียระไนเพชรประมาณนั้นค่ะ

sense of fashion คืออะไร ?

เอก ทองประเสริฐ  : มันเหมือนทัศนคติของดีไซเนอร์ แต่ละคนที่เข้าใจแฟชั่น ณ ขณะนั้น ซึ่งมันต้องเป็นปัจจุบัน เราอาจจะไม่ได้ใช้ความรู้ความเข้าใจทางแฟชั่นอีก 10 หรือ 20 ปี เพราะว่าแฟชั่นเป็นสิ่งที่มีชีวิต  มันเคลื่อนไหวตลอดเวลามันจำเป็นต้องสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวทางสังคมในปัจจุบัน สิ่งมีชีวิต มันจะต้องมีชีวิต จะต้องเห็น และสัมผัสได้ว่ายังมีตัวตนอยู่ เพราะฉะนั้นเราต้องดูว่าจริง ๆ แล้ว ผู้เข้าแข่งขันเข้าใจหรือเปล่า แฟชั่นทำช้าไปก็ไม่ได้ ทำเร็วไปก็ไม่ได้

ความรู้ ความเข้าใจทางแฟชั่นของคุณแพง?

แพง-ขวัญข้าว เศวตวิมล : มุมมองมันเปลี่ยนไปทุกๆ ปี  เพราะโลกเปลี่ยนเร็วมาก และทุกคนอยู่ในโซเชียลกันหมดในการอัปเดตทุกอย่าง แพงว่าต้องมีความตื่นตัวมากขึ้น สมมติ 4 ปีที่แล้วเรายังไม่ตื่นตัวขนาดนี้เลย ทุกวันนี้เรามาส่องในโซเชียลกันหมด เพียงแค่ 1 ปี มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก แพงว่าอย่างน้อยที่สุด เราต้องเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นในการดูเทรนด์ตลอดว่าเป็นอย่างไร แต่ไม่ลืมความเป็นตัวตนที่แพงเน้นตลอด เพราะความเป็นตัวเองที่จะใส่เข้าไป ผสานกับเทรนด์โลกให้พอดิบพอดี คือต้องดูเทรนด์โลกว่าเขาไปถึงไหนแล้ว

ทุกสิ่งทุกอย่างคือต้องรู้สึกว่ามีชีวิต เราจับต้องได้ เป็นเทรนด์ที่เราตามเขาทัน แต่เราไม่ได้สูญเสียความเป็นตัวเอง และในขณะเดียวกันเรามีความกระตือรือร้นบุคลิกลักษณะนิสัยทุกสิ่งทุกอย่าง มันคือ การส่งเสริมให้ทุกคนนั้นไปสู่เวทีระดับโลกได้ ทำงานเป็นและต้องย้ำเลยว่า ดีไซเนอร์ไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก

เมื่อได้ยิน The Judge ทั้งสองคนให้สัมภาษณ์แบบนี้แล้ว มาร่วมเฟ้นหาดีไซเนอร์ไทยเลือดใหม่ของวงการแฟชั่นไปพร้อมกันกับรายการ Project Runway Thailand (โปรเจกต์ รันเวย์ ไทยแลนด์)  ได้เร็วๆ นี้ สามารถติดตามข่าวความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook : Project Runway Thailand หรือ สามารถติดตามรายการต่างๆ ได้ที่ช่อง JKN หมายเลข 18 และทุกแพลตฟอร์ม

สำหรับรายการ “โปรเจกต์ รันเวย์” เป็นรายการเรียลลิตี้โชว์ ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศ สหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์ในการเฟ้นหาสุดยอดแฟชั่นดีไซเนอร์ โดยมีสถาบันการศึกษาพันธมิตร เช่น สถาบัน Parsons School of Design ซึ่งเป็นโรงเรียนการออกแบบแฟชั่นชั้นนำของสหรัฐอเมริกา รายการ นี้เป็นรายการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมีการผลิตต่อเนื่องกันถึง 18 ซีซั่น   ทั้งนี้ การนำ โปรเจกต์ รันเวย์ เข้ามาที่ไทย ไม่เพียงแต่เพื่ออุตสาหกรรมแฟชั่นและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์แก่เยาวชนและแวดวงการศึกษาของไทยในการเปิดโลกทัศน์ ค้นหา และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การทำงานภายใต้เงื่อนไขและกรอบเวลาที่จำกัด รวมถึงความกดดันอื่นๆ รายการนี้จึงจะเป็นเครื่องมือหนึ่งของประเทศไทยในการ “ผลักดันแฟชั่นดีไซเนอร์ไทยสู่รันเวย์โลก” ต่อไป

Leave a comment