#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/642312

วันเสาร์ ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
เพื่อเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเอกลักษณ์ของภาคอีสาน สถาบันพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ ร่วมกับ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น จัด นิทรรศการ “วิถีศรัทธาอีสาน : มรดกวัฒนธรรมจากอดีตสู่ปัจจุบัน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแผนงานโครงการวิจัยการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงจัดขึ้นเพื่อนำเสนอวิถีความศรัทธาของพุทธศาสนาในภาคอีสาน ผ่านศิลปวัตถุทางศาสนาที่สำคัญของภาคอีสาน ได้แก่ พระไม้ กับ ฮูปแต้ม เพื่อเผยแพร่ศิลปะท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นพันธกิจสำคัญของพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ และเป็นต้นแบบให้กับนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ พร้อมจัดเสวนาที่เกี่ยวข้องกับพระไม้ เพื่อให้เข้ากับบริบทในปัจจุบัน ระหว่างวันที่ 22–27 มีนาคม 2565 ณ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ด้วยวิทยสถานด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย (ธัชชา) ภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศไทย โดยมี สถาบันพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ เป็นหนึ่งในสถาบันภายใน ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ เพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงและอนุรักษ์ศิลปวัตถุที่สำคัญตั้งแต่ศิลปะไทยประเพณีศิลปะร่วมสมัย และศิลปะท้องถิ่น เป็นสถาบันที่ส่งเสริมศิลปะแนวใหม่และศิลปินรุ่นใหม่ให้เป็นที่รู้จักในระดับชาติและระดับโลก เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปะแบบครบวงจรตั้งแต่วัยแบเบาะถึงวัยสูงอายุและเป็นสถาบันที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์ อันนำไปสู่การสรรสร้างนวัตกรรมที่จับต้องได้จากองค์ความรู้ศาสตร์และศิลป์
นิทรรศการ “วิถีศรัทธาอีสาน : มรดกวัฒนธรรมจากอดีตสู่ปัจจุบัน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแผนงานโครงการวิจัยการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงจัดขึ้นเพื่อนำเสนอวิถีความศรัทธาของพุทธศาสนาในภาคอีสาน ผ่านศิลปวัตถุทางศาสนาที่สำคัญของภาคอีสาน ได้แก่ พระไม้ กับ ฮูปแต้ม เพื่อเผยแพร่ศิลปะท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นพันธกิจสำคัญของพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ และเป็นต้นแบบให้กับนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ
พระพุทธรูปไม้ หรือที่นิยมเรียกโดยย่อว่า “พระไม้” หมายถึง พระพุทธรูปไม้ขนาดเล็กที่มีลักษณะคล้ายตุ๊กตา แกะสลักโดยช่างชาวบ้านแบบหยาบๆ ไม่อ่อนช้อย พระไม้เป็นศิลปวัตถุและงานช่างฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวัฒนธรรมอีสาน อีกทั้งยังสะท้อนความเป็นมาของวิถีชีวิต ประเพณี ภูมิปัญญา และคติความเชื่อทางพุทธศาสนาในภูมิภาคนี้ โดยพระไม้จัดเป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงฝีมือและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของช่างคนนั้น เป็นชิ้นงานที่ผสานความศรัทธา ความมุมานะ เพื่อเป็นพุทธบูชาแก่ตน ในการสร้างวัตถุสำหรับสักการะให้แก่ผู้คนทั่วไป งานฝีมือเหล่านี้กลับเลือนหายไปจากภาคอีสาน เนื่องด้วยศาสนามีบทบาทในวิถีชีวิตของผู้คนลดน้อยลง ส่งผลให้มีผู้สืบทอดงานฝีมือนี้น้อยลงตาม อีกทั้ง วัดบางแห่งที่เก็บพระไม้ก็ไม่บำรุงรักษา ปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรม จึงส่งผลให้พระไม้ไม่เป็นที่รับรู้ของผู้คนในยุคปัจจุบัน
“ฮูปแต้ม” หรือรูปแต้ม หมายถึงจิตรกรรมฝาผนังของวัฒนธรรมอีสาน เป็นการแสดงออกถึงศรัทธาในพุทธศาสนาของ “ช่างแต้ม” หรือจิตรกรผู้วาดฮูปแต้ม แม้ว่าเนื้อหาในฮูปแต้มจะถ่ายทอดเรื่องราวทางพุทธศาสนาเหมือนกับจิตรกรรมฝาผนังในภาคอื่น แต่เอกลักษณ์เฉพาะตัวของฮูปแต้มที่แตกต่างจากจิตรกรรมฝาผนังอื่นๆ คือการบอกเล่าเรื่องราววรรณกรรมท้องถิ่นของอีสาน โดยเฉพาะ สินไซ อีกทั้งยังมี “ภาพกาก” หรือภาพจิตรกรรมแสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของชาวอีสานที่ช่างแต้มวาดออกมาไม่ได้ประณีตนัก ลักษณะเหล่านี้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์สังคมอีสาน และควรค่าแก่การอนุรักษ์ เนื่องจากจิตรกรวาดภาพฝาผนังในปัจจุบัน วาดภาพในแนวไทยประเพณีแบบภาคกลาง หรือแบบร่วมสมัยมากขึ้น
จากการที่ศิลปะทั้งสองแบบนี้เป็นอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมท้องถิ่นในภาคอีสาน จึงถือเป็นมรดกทางภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สำคัญ และสมควรได้รับการสนับสนุนเพื่ออนุรักษ์ไม่ให้เลือนหาย รวมถึงเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จึงเกิดเป็นงานนิทรรศการ “วิถีศรัทธาอีสาน : มรดกวัฒนธรรมจากอดีตสู่ปัจจุบัน” เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมเพื่อสืบทอดงานฝีมืออันล้ำค่านี้ไม่ให้เลือนหายไป อีกทั้งนิทรรศการดังกล่าวยังเป็นต้นแบบสำหรับนิทรรศการผลงานศิลปะท้องถิ่นที่จะนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติต่อไป
ภายในงานนิทรรศการ “วิถีศรัทธาอีสาน : มรดกวัฒนธรรมจากอดีตสู่ปัจจุบัน” นอกจากเผยแพร่ความรู้ศิลปะการทำพระไม้ และการวาดฮูปแต้ม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นเอกลักษณ์ของภาคอีสานแล้ว ยังมีการจัดเสวนาที่เกี่ยวข้องกับพระไม้เพื่อให้เข้ากับบริบทในปัจจุบัน ในหัวข้อ “ความเชื่อท้องถิ่น:การอนุรักษ์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์” โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาพูดคุยเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าความเชื่อท้องถิ่นสามารถนำมาดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์การออกแบบ หรือประยุกต์ใช้กับเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อเสริมสร้างชุมชนท้องถิ่นและประเทศอีกด้วย

