#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/646518

วันเสาร์ ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.
“โครงการเพาะเห็ด เติมฝัน สร้างอาชีพ”เป็นหนึ่งในโครงการสานอนาคตการศึกษาCONNEXT ED ซึ่งเป็นความตั้งใจของผู้บริหารโรงเรียนและคณะครูโรงเรียนนครราชสีมาปัญญานุกูลจ.นครราชสีมา ที่ต้องการสร้างทักษะพื้นฐานให้แก่นักเรียนสามารถนำไปใช้ หรือเป็นทางเลือกเป็นอาชีพ เพื่อพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต
โรงเรียนนครราชสีมาปัญญานุกูล จ.นครราชสีมา เป็นโรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา บกพร่องทางการได้ยินและบุคคลออทิสติกมีแนวคิดนำโครงการเพาะเห็ด มาสร้างทักษะพื้นฐานให้เด็กๆ นอกจากเห็ดจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการแล้ว การเพาะเห็ดมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากและไม่ซับซ้อนสามารถทำได้ตามสภาพความพร้อม จึงเป็นกิจกรรมที่มีความเป็นไปได้กับน้องๆ ในสถานศึกษาแห่งนี้ ประกอบกับจังหวัดนครราชสีมามีแหล่งเพาะเห็ดที่หลากหลายให้เด็กๆ ได้ศึกษาหาความรู้ฝึกปฏิบัติ ทั้งในระหว่างดำเนินโครงการและหากต้องการจะนำไปต่อยอดเป็นอาชีพในอนาคต ซึ่งโครงการนี้ได้รับงบประมาณจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ หนึ่งในองค์กรที่ร่วมขับเคลื่อนการทำงานของมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED
ปัจจุบัน ซีพีเอฟ ดูแลโรงเรียน CONNEXT ED จำนวน 301 โรงเรียน ครอบคลุม 4 จังหวัดคือ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสระบุรีภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ 5 ด้านหลัก คือ 1.การเปิดเผยข้อมูลโรงเรียนสู่สาธารณะอย่างโปร่งใส2.กลไกตลาดและวัฒนธรรมการมีส่วนร่วม 3. การพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน 4.เด็กเป็นศูนย์กลาง เสริมสร้างคุณธรรมและความมั่นใจ 5.การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของสถานศึกษา
ธัญญารัตน์ เมืองอินทร์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนนครราชสีมาปัญญานุกูลและรับผิดชอบโครงการเพาะเห็ดฯ เล่าว่า วัตถุประสงค์ของการทำโครงการเพาะเห็ดฯ เพื่อพัฒนานักเรียนให้มีทักษะอาชีพตามศักยภาพ ซึ่งเด็กๆ ที่ร่วมกิจกรรม เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 รวม 52 คน ได้รับการถ่ายทอดความรู้และคำแนะนำจากคุณครูเกษตรที่สอนวิธีเพาะเห็ด การดูแลและคุณครูการงานอาชีพที่สอนการแปรรูปเห็ด อาทิ แหนมเห็ดเห็ดทอด เห็ดอบกรอบ เป็นต้น เพื่อเป็นการวางพื้นฐานทักษะให้เด็กๆ และเป็นกิจกรรมที่เด็กๆ สามารถนำไปทำที่บ้านขยายผลสู่ครอบครัวและชุมชนได้
.jpg)
โรงเรียนฯ เริ่มต้นโครงการเมื่อปลายปี2564 สร้างโรงเรือนขนาดย่อมเพื่อเพาะเห็ดนางฟ้า 400 ก้อน มีคุณครูประจำหอนอนและเด็กๆ ที่หอนอนช่วยกันดูแลเห็ดที่เพาะไว้ รดน้ำเก็บดอกเห็ดเสร็จทำความสะอาดหน้าก้อนเชื้อนำผลผลิตเห็ดที่เก็บได้ชั่งกิโลกรัม เพื่อส่งให้โรงอาหารประกอบอาหารกลางวันให้นักเรียนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ขึ้นกับรายการอาหารแต่ละสัปดาห์ อาทิ ต้มยำไก่ใส่เห็ด ผัดกะเพราหมูใส่เห็ด ต้มข่าไก่ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบในการประกอบอาหารกลางวัน ที่สำคัญคือผลผลิตเห็ดที่เด็กๆ ช่วยกันดูแลเป็นวัตถุดิบต้นทางที่สะอาด ปลอดภัย ไร้สารเคมี 100% ปัจจุบัน แม้เด็กๆ จะปิดเทอมกันแล้ว แต่โรงเรียนได้ทำคอนโดเห็ดมอบให้เด็กๆ 52 ครอบครัว กลับไปดูแลที่บ้านต่อ ครอบครัวละ 1 ชุด ประกอบด้วย 1.คอนโดเห็ดใช้ท่อพีวีซีทำเป็นโครงทรงสี่เหลี่ยมเหมือนบ้านทำเป็นชั้นๆ คลุมด้วยสแลนสีดำล้อมรอบ กั้นหลังด้วยตาข่ายพลาสติก 2.ก้อนเชื้อเห็ด 27ก้อน โดยใช้งบประมาณที่ซีพีเอฟสนับสนุนโครงการฯ มาซื้อก้อนเชื้อเห็ดจากฟาร์มเห็ดใกล้ๆ โรงเรียน เพื่อทำคอนโดเห็ดมอบให้นักเรียน
ด้าน ศิริเพ็ญ จานรัมย์ คุณครูหอและคุณครูผู้รับผิดชอบโครงการคอนเน็กซ์ อีดี กล่าวว่าเด็กนักเรียนที่เป็นเด็กในหอหลายคน แม้ว่าจะมีพัฒนาการช้า หรือเป็นเด็กออทิสติก แต่เมื่อได้ร่วมกิจกรรมโครงการเพาะเห็ดฯ เด็กๆ มีการตอบรับที่ดี เช่น น้องน็อต นักเรียนชั้น ม.1 มีปัญหาพัฒนาการช้าแต่เมื่อคุณครูฝึกให้ปฏิบัติการแปรรูปอาหารจากเห็ดในโครงการเพาะเห็ดฯ น้องมีการโต้ตอบได้ดี ช่างสังเกต เข้าใจได้เร็ว เห็นทักษะในกระบวนการทำงาน คุณครูจึงให้น้องน็อตเป็นแกนนำของนักเรียนช่วยฝึกน้องๆ และเพื่อนๆ ทำกิจกรรมเก็บเห็ด รดน้ำเห็ด ช่วยคุณครูคิดเมนูอาหารกลางวันเช่นเดียวกับ น้องบีม ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นบุคคลออทิสติก แต่มีการเรียนรู้จากกิจกรรมปฏิบัติจริงในโครงการเพาะเห็ดฯสามารถเป็นแกนนำพาเพื่อนไปรดน้ำ เก็บเห็ดทำความสะอาดก้อนเชื้อ แนะนำเพื่อนๆ ได้
ผู้ปกครองน้องบีม เล่าว่า น้องบีมจะรดน้ำเห็ดทุกวัน ช่วงเช้าและเย็น เมื่อผลผลิตออกบีมจะเก็บเห็ดและชั่งกิโลใส่ถุงไว้ให้แม่ สัปดาห์แรกที่นำคอนโดเห็ดมาดูแลที่บ้านเก็บผลผลิตได้ 3 ขีด ผลผลิตรอบที่สองเก็บได้ 7-8 ขีด รอบที่ 3 เก็บได้กิโลกรัมกว่า ซึ่งแม่รับซื้อผลผลิตเห็ดจากน้องบีมไว้ทั้งหมด เพื่อใช้ทำกับข้าวขาย มีทั้ง ผัดเห็ด ต้มยำเห็ดเห็ดนึ่งจิ้มแจ่ว คุณแม่น้องบีมบอกด้วยว่า คุณแม่มีอาชีพทำปลาส้มขายและมีแนวคิดอยู่แล้วว่าจะเพาะเห็ดไปขายที่ตลาดด้วย เมื่อน้องบีมได้รับคอนโดเห็ดที่โรงเรียนมอบให้มาดูแลที่บ้าน จึงคิดว่าจะให้คุณพ่อทำโรงเรือนเห็ดอีกหลัง และขยายการเพาะเห็ด โดยให้น้องบีมช่วยดูแล เพื่อที่ต่อไปจะมีผลผลิตเห็ดไปขายที่ตลาดเป็นรายได้เข้าครอบครัวอีกทางหนึ่ง
.jpg)
ด้าน น้องบีม เล่าว่า โครงการเพาะเห็ดฯทำให้ได้เรียนรู้ขั้นตอนการเพาะเห็ด ซึ่งเค้าทำได้เองทุกขั้นตอน ตั้งแต่รดน้ำเห็ด เก็บผลผลิตเห็ดทำความสะอาดปากขวดที่ใช้เพาะ นำผลผลิตใส่ถุงไว้ให้แม่ทำกับข้าวขาย รวมทั้งนำเห็ดมาทำเป็นเห็ดทอด ผลผลิตเห็ดที่ได้ขายให้แม่ไปทำกับข้าว ชอบต่อไปจะให้พ่อทำโรงเห็ด เพาะเห็ดขาย เมนูที่ชอบ ผัดเห็ด ต้มยำเห็ด ปลานึ่งจิ้มแจ่ว เห็ดทอด บีมบอกด้วยว่าในอนาคตการเพาะเห็ด สามารถทำเป็นอาชีพเพื่อเลี้ยงครอบครัวได้
เรวดี เกสรอินทร์ ผู้ปกครองน้องสตางค์กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.1 เป็นเด็กออทิสติก เล่าว่าตื่นเช้ามา หลังจากที่น้องสตางค์ทำกิจวัตรประจำวันแล้ว เค้าก็จะมาตามคุณแม่ ไปดูคอนโดเห็ดเพื่อไปรดน้ำเห็ดในตอนเช้า สตางค์สามารถรดน้ำเห็ดได้เอง บางวันถ้าน้องอารมณ์ดีก็จะได้ยินน้องรดน้ำและร้องเพลงไปด้วย คุณแม่เล่าว่า เริ่มต้นที่โรงเรียนมอบคอนโดเห็ดมาให้น้องดูแล ยังแบ่งเวลาไม่ถูกเพราะน้องมีภารกิจประจำวันช่วยงานซักผ้า ตากผ้า กรอกน้ำ แต่พอเริ่มลงตัวแล้ว น้องเริ่มแบ่งเวลาเองได้ เช้ารดน้ำเห็ด จากนั้นทำภารกิจช่วยที่บ้าน พอใกล้ถึงเวลาเย็น น้องสตางค์ ก็จะมาเตือนคุณแม่ “รด รด” ชวนไปรดน้ำเห็ดอีกครั้งในช่วงเย็น ตอนนี้ เห็ดเริ่มออกผลผลิต เป็นตุ่มๆ โผล่ออกมา น้องก็จะบอกคุณแม่ “เก็บ เก็บ”หรือในการสื่อสารทางไลน์กลุ่มกับคุณครู และผู้ปกครองท่านอื่นๆ เวลามีรูปที่ผู้ปกครองส่งเข้ามา คุณแม่จะหันไปบอกน้องสตางค์ว่า “เพื่อนๆ ทักไลน์มาแล้ว” น้องสตางค์ก็จะบอกคุณแม่ว่า “ส่ง ส่ง” ซึ่งหมายถึงให้คุณแม่ส่งรูปที่น้องสตางค์รดน้ำเห็ดเข้าไปในกลุ่มไลน์ด้วย
คุณแม่น้องสตางค์ บอกว่า โครงการเพาะเห็ดฯ เป็นโครงการที่ดี ทำให้เด็กได้เรียนรู้ในการทำอาชีพ เห็นความรับผิดชอบและความกระตือรือร้น เชื่อว่าในอนาคตหากเราปูพื้นฐานให้น้องมีโอกาสได้เรียนรู้และทำเองในทุกขั้นตอนน้องจะพึ่งพาตนเองได้





