พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ จัดกิจกรรมพิเศษ เล่าเรื่องผ้าไทย วัฒนธรรมการแต่งกาย และอิทธิพลผ้าอินเดียในราชสำนักสยาม

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/674181

พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ จัดกิจกรรมพิเศษ เล่าเรื่องผ้าไทย  วัฒนธรรมการแต่งกาย และอิทธิพลผ้าอินเดียในราชสำนักสยาม

พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ จัดกิจกรรมพิเศษ เล่าเรื่องผ้าไทย วัฒนธรรมการแต่งกาย และอิทธิพลผ้าอินเดียในราชสำนักสยาม

วันศุกร์ ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย จัดกิจกรรมพิเศษต้อนรับเดือนสิงหาคมในชื่อ “Weaving Relations : A Shared Heritage of Indian & Thai Textile Culture” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม พ.ศ.2565 และเนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอินเดีย

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นางสุจิตรา ดูไร เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย และ ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กล่าว เปิดงานพร้อมบอกเล่าถึงสานสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและอินเดียที่มีมาช้านานก่อนจะเริ่มต้นงานด้วยการร่ายรำอันมีเสน่ห์ของชาวอินเดียในชื่อ “Odissi Dance” โดยศูนย์วัฒนธรรมอินเดียประจำประเทศไทย และการแสดงโขนพิเศษตอน “ยกรบ”อีกทั้งช่วงท้ายของการแสดงยังได้นำศิลปะการร่ายรำของชาวอินเดียมาสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับการแสดงโขนของไทยได้อย่างติดตาตรึงใจ

ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญของการบรรยายพิเศษในหัวข้อ“ผ้าอินเดียกับอิทธิพลต่อการแต่งกายในราชสำนักสยาม” โดย อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย และผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ คณบดีคณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการแต่งกายของชาวไทยและชาวอินเดียที่มีวัฒนธรรมการนุ่งห่มมายาวนาน โดยเฉพาะราชสำนักไทยในอดีตที่มีการรับธรรมเนียมการแต่งกายของชาวอินเดียและนำผ้าประเภทต่างๆ ของอินเดียมาประยุกต์ใช้อย่างมีเอกลักษณ์และเปี่ยมด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรม ผ่านการให้ลวดลายอันประณีตอ่อนช้อยตาม
แบบฉบับของไทย

ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ คณบดีคณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เล่าเรื่องสืบย้อนกลับไปตั้งแต่สมัย 2,500 ปีก่อนคริสตกาลการค้นพบชิ้นส่วนเสื้อผ้าจากอารยธรรมเก่าแก่แห่งลุ่มน้ำสินธุ และหลักฐานการแต่งกายของชาวอินเดียที่พบบนรูปปั้นแม่พระธรณีดินเผาหรือ “MotherGoddess” อายุเก่าแก่กว่า 200-300 ปีก่อนคริสตกาล ตลอดจนประติมากรรมหินแกะสลัก ภาพวาดภายในถ้ำ วัดวาอาราม และอนุสาวรีย์ต่างๆ ที่บ่งบอกถึงการแต่งกายด้วยเครื่องนุ่งห่มพันรอบร่างกายของชาวอินเดียโบราณตั้งแต่เมื่อหลายพันปีก่อน

วัฒนธรรมสิ่งทอของอินเดียได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก โดยผ้าฝ้ายที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลือในปัจจุบันมีอายุประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล เช่นเดียวกับการย้อมผ้าที่มีอายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปีก่อนคริสตกาล สิ่งทอของอินเดียมีเสน่ห์เฉพาะตัวทั้งในเรื่องของลวดลาย เทคนิคการทอผ้า และสีสันที่มีเอกลักษณ์ซึ่งในสมัยกรีกโบราณโรมัน และบาบิโลน ผ้าฝ้ายจากอินเดียได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในราชสำนักและชนชั้นสูง ส่งผลให้เกิดระบบการค้าโลกจากการส่งออกผ้าอินเดียไปยังดินแดนต่างๆ ตลอดจนการแต่งกายของหลายวัฒนธรรมทั่วโลกที่ได้รับอิทธิพลจากผ้าอินเดีย ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ยังได้นำเสนอวัฒนธรรมการแต่งกายที่มีเสน่ห์ของชาวอินเดียในแต่ละภูมิภาค ผ่านเทคนิคการทอผ้าและลวดลายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย เล่าว่า สยามก็เป็นดินแดนที่ได้รับอิทธิพลจากผ้าอินเดียมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในอดีตราชสำนักสยามสั่งทอผ้าเยียรบับ ผ้าเข้มขาบ และผ้าอัตลัด จากพ่อค้าชาวอินเดียที่เดินทางมาค้าขายกับสยาม ซึ่งผ้าชนิดดังกล่าวมีขั้นตอนการทอที่ซับซ้อน แตกต่างจากกรรมวิธีการทอภายในประเทศ ผ้าเหล่านี้มักนิยมใช้ในงานพระราชพิธีสำคัญและใช้งานภายในราชสำนักสยาม สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และขุนนาง นอกจากการสั่งทอผ้าแล้ว ราชสำนักสยามยังสั่งซื้ออุปกรณ์ทอผ้าต่างๆ จากประเทศอินเดียอีกด้วย ส่วน “ผ้าลายอย่าง” เป็นผ้าที่ช่างเขียนผ้าจากอินเดียรับแบบตามลายที่ราชสำนักสยามสั่งจึงมีกระบวนลายตามแบบสยาม เพราะลวดลายที่อยู่บนผ้านั้นทางราชสำนักสยามเป็นผู้ออกแบบ

อีกหนึ่งไฮไลท์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้คือ “วัฒนธรรมการแต่งกายของชาวอินเดียในแต่ละภูมิภาค” ที่ทั้งหาชมยากและเปี่ยมด้วยความสวยงามของลวดลาย สีสัน รวมถึงเทคนิคการทอผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละท้องถิ่น และ “การแต่งกายของราชสำนักไทยในแต่ละยุคสมัยและชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ”ที่สะท้อนความงดงามและฝีมืออันประณีตอ่อนช้อยในแบบของชาวสยามรวมถึงสาธิตการนุ่งห่มส่าหรีของชาวอินเดีย โดยศูนย์วัฒนธรรมอินเดียประจำประเทศไทย และสาธิตการนุ่ง-ห่มผ้าแบบไทย โดยอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้การนุ่ง-ห่มของทั้งสองวัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกันด้วยอิทธิพลทางการแต่งกายที่ถ่ายทอดกันมาช้านาน

นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯจัดแสดง “นิทรรศการผ้าบาติกในพระปิยมหาราช : สายสัมพันธ์สยามและชวา” ถ่ายทอดเรื่องราวการเสด็จฯเยือนชวาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สามครั้ง และจัดแสดงผ้าบาติกสะสมที่สวยงามจากเมืองต่างๆ บนเกาะชวา ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร.02-2259420 และเข้าร่วมชมนิทรรศการ ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ในพระบรมมหาราชวัง เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 09.00-16.30 น. ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 15.30 น.

Leave a comment