
Life&Health : สาวมือใหม่ขับรถหน้าฝนลุยน้ำท่วมอย่างไร
วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ฝนตก รถติด น้ำท่วมขัง กลายเป็นภาพคุ้นตาของฤดูฝนในเมืองไทย ที่ทำเอาหลายคนโดยเฉพาะสาว ๆ ที่ต้องขับรถลุยเดี่ยว ต้องพกทั้งความกล้าและความระวังไว้เต็มพิกัด เพราะการขับขี่ท่ามกลางสายฝน หรือเสี่ยงต้องลุยน้ำท่วมขัง ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของทัศนวิสัยที่แย่ลงเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่สถานการณ์ไม่คาดฝันได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หัดขับ หรือผู้หญิงที่ขับรถคนเดียวไม่มีผู้ช่วยคอยให้คำปรึกษา การขับรถในหน้าฝนจึงเป็นเรื่องท้าทาย เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถรับมือกับฝนตกหนัก ถนนลื่น หรือน้ำท่วมได้อย่างมั่นใจ
.jpg)
ข้อมูลจาก นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้แบรนด์ “POP” ซึ่งเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์มาตรฐานสากลฝีมือคนไทยที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมยานยนต์มาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ให้คำแนะนำว่า การขับรถหน้าฝนที่ต้องเผชิญกับฝนตกหนัก น้ำท่วม หรือสภาพถนนที่คาดเดาไม่ได้ และเมื่ออยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ผู้ขับรถมือใหม่ที่ขาดประสบการณ์ หรือผู้หญิงที่ขับรถคนเดียว อาจตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ดังนั้น มือใหม่ควรศึกษาข้อมูล และมีคำแนะนำติดไว้ในรถ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ สามารถรับมือกับฝนตกหนัก ถนนลื่น หรือน้ำท่วมได้อย่างมั่นใจ โดยคุณชวิศ ได้รวบรวม “Do & Don’t” ข้อควรทำ และไม่ควรทำ สำหรับมือใหม่เมื่อต้องขับรถในช่วงหน้าฝน ขณะฝนตกหนัก หรือขับรถลุยน้ำท่วม เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ขับขี่และลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวรถ
สิ่งที่ “ควรทำ” (Do)
1. สิ่งแรกที่อยากเน้นคือ ทัศนวิสัยจะเปลี่ยนทันทีที่ฝนเริ่มตก โดยเฉพาะช่วงน้ำแรกถนนจะลื่นกว่าปกติมาก ผู้ขับขี่ควรลดความเร็ว เปิดไฟหน้าแม้ในตอนกลางวันเพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นเรา และควรเพิ่มระยะห่างจากคันหน้า 2-3 เท่า ที่สำคัญอย่าใช้ไฟฉุกเฉินในขณะที่รถยังวิ่งอยู่ เพราะอาจทำให้ผู้อื่นสับสนคิดว่ารถจอดนิ่งอยู่กลางถนน เสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุได้
2. ควรมีการตรวจเช็คอะไหล่รถยนต์ เพื่อเตรียมรถให้พร้อมการใช้งาน โดยเฉพาะยางรถยนต์ ใบปัดน้ำฝน และเบรก คือ 3 จุดแรกที่ควรเช็คทันที แต่สิ่งที่มักถูกละเลยคือ ‘ช่วงล่าง’ โดยเฉพาะรถที่ใช้งานหนักหรือวิ่งถนนไม่เรียบ บูชยาง ลูกหมาก โช้คอัพ และยางรองแท่นเครื่อง หากเสื่อมจะส่งผลให้รถสั่น โคลง หรือสูญเสียการควบคุมเวลาเจอถนนเปียก การเช็กช่วงล่างไม่ได้แค่เพื่อความนุ่ม แต่คือความปลอดภัย
3. ถ้าจำเป็นต้องขับรถตอนฝนตกหนัก มือใหม่ควรตั้งสติและใจเย็นๆ อย่าตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก การขับรถหน้าฝนไม่ได้อันตรายถ้าวางแผนให้ดี มือใหม่ควรเลือกเส้นทางหลัก หลีกเลี่ยงถนนที่น้ำท่วมประจำ ควรขับช้า ใช้เกียร์ต่ำ และหากเริ่มมองไม่เห็น ควรหาที่ปลอดภัยจอดรอ ไม่ต้องฝืนขับ เพราะความมั่นใจที่มากไป บวกกับประสบการณ์ที่ยังไม่มาก อาจทำให้เกิดเหตุไม่คาดคิดได้
.jpg)
4. เทคนิคในการขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังสูง
- ขั้นแรกต้องประเมินระดับน้ำ ถ้าสูงเกินครึ่งล้อหน้าไม่ควรลุย ควรหันหลังกลับหรือเปลี่ยนเส้นทาง โดยเฉพาะผู้หญิงหรือมือใหม่ ถ้ารู้สึกไม่มั่นใจ ขอให้หยุดรถก่อนเข้าเขตน้ำขัง จะไม่เสียหาย โดยสังเกตจากสิ่งรอบตัว เช่น ล้อรถคันหน้า เสาไฟ หรือฟุตบาท ถ้าน้ำสูงเกินครึ่งล้อ หรือเห็นรถคันอื่นหยุดรอ แสดงว่าน้ำลึกเกินควรลุย ถ้าเป็นมือใหม่ อาจพกไม้สั้นๆ ไว้ตรวจระดับน้ำง่าย ๆ จากหน้าต่าง นอกจากนี้ ควรสังเกตทิศทางน้ำ ถ้าไหลแรงหรือขุ่นคลัก หลีกเลี่ยงไว้ก่อนดีที่สุด
- หากจำเป็นต้องลุยน้ำ ให้ปิดแอร์ ใช้เกียร์ต่ำ เดินคันเร่งคงที่ ห้ามเบรก หรือเร่งเครื่องแรงเด็ดขาด ถ้ารถติดช่วงล่างไม่ดี อย่างบูชหรือโช้คเสื่อม รถจะโคลงและสั่นมากขณะผ่านน้ำ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ระบบข้างใต้เสียหาย
- ถ้าเครื่องยนต์ดับกลางน้ำ อย่าสตาร์ทรถซ้ำเป็นอันขาด เพื่อป้องกันความเสียหาย เพราะการสตาร์ทอาจทำให้เกิด ‘Water Lock’ หรือการที่น้ำเข้าไปในห้องเผาไหม้ ส่งผลให้เครื่องพังถาวร ควรปลดเกียร์ ดึงเบรกมือ และโทรเรียกรถยกทันที อาจจะดูยุ่งยากแต่ป้องกันค่าซ่อมหลักแสน
- หลังจากเพิ่งขับรถลุยน้ำท่วมขังให้เหยียบเบรกย้ำๆสัก 2-3 ครั้งก่อนที่จะขับต่อไป เพื่อให้ระบบเบรกทำงานได้ปกติ
- ถ้าไม่มั่นใจว่าจะขับผ่านน้ำท่วมได้ ควรหยุดรถในที่ปลอดภัย บนพื้นที่สูง ไม่ขวางจราจร ไม่อยู่ใต้ต้นไม้ หรือสายไฟแรงสูง เปิดไฟฉุกเฉินไว้ ปิดกระจกให้สนิท อย่าออกจากรถโดยไม่จำเป็น และอย่าเปิดประตูถ้าน้ำเริ่มเข้าเกินพื้นรถ เพราะน้ำจะทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว
5. ควรล้างช่วงล่างรถทันที เพราะถ้าไม่ล้างจะทำให้โคลนและน้ำเกาะที่บูชยางรองต่างๆ และสะสมความชื้น ทำให้เสื่อมเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว หากช่วงล่างหลวม น้ำเข้าเพลาขับ หรือบูชฉีก ก็อาจเป็นจุดเริ่มของความเสียหายที่ใหญ่ขึ้น
6. มือใหม่ หรือผู้หญิงที่ขับรถคนเดียว ควรเตรียมกล่องอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ท้ายรถเสมอ เช่น ไฟฉาย เบอร์ฉุกเฉินของประกัน หรือรถยก เสื้อกันฝน ผ้าขนหนู และ Power bank เผื่อสถานการณ์ติดค้างกลางฝนเป็นเวลานาน
.jpg)
สิ่งที่ “ไม่ควรทำ” (Don’t)
1. เวลาขับรถลุยน้ำท่วมสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่มือใหม่มักพลาดทำบ่อยๆและทำให้เกิดความเสียหาย ได้แก่
- เร่งเครื่อง เพื่อให้ผ่านเร็วๆ ซึ่งทำให้พัดลมหรือท่อดูดอากาศดูดน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์
- การเปิดแอร์แรงขณะลุยน้ำ ซึ่งจะทำให้น้ำกระเซ็นเข้าไปในพัดลมระบายความร้อน หรือระบบไฟใต้ท้องรถ โดยเฉพาะถ้าแอร์รถอยู่ต่ำมากในรุ่นรถบางประเภท น้ำอาจโดนพัดลมคอนเดนเซอร์ ดังนั้น ขณะลุยน้ำควรปิดแอร์
- การเบรกแรงกะทันหันขณะน้ำขัง อาจทำให้เบรกลื่น หรือระบบเบรกดูดน้ำเข้าไปในดรัม
2. พฤติกรรมที่ห้ามทำเด็ดขาดขณะขับรถลุยน้ำท่วม ได้แก่
- ถ้าขับรถลุยน้ำลึกแล้วเครื่องยนต์ดับห้ามสตาร์ทเด็ดขาด เพราะทำให้เกิดความเสียหาย
- ห้ามเปิดฝากระโปรงรถ เพราะถ้าเครื่องยนต์ร้อนจัดและสัมผัสน้ำ อาจเกิดไอน้ำหรืออันตรายจากแรงดัน
- ห้ามเปิดประตูหากน้ำยังท่วมถึงขอบรถ เพราะน้ำจะทะลักเข้ามาทันที ห้ามขับเร็ว ห้ามขับสวนกับกระแสน้ำ และห้ามขับตามท้ายรถใหญ่เกินไป เพราะคลื่นน้ำจากรถหน้าอาจซัดกลับเข้าห้องเครื่องของเรา อย่าคิดว่าแค่ลุยแป๊บเดียวแล้วจะไม่เป็นอะไร เพราะน้ำเพียง 20–30 ซม. ก็ทำให้ระบบช่วงล่างพังได้ ถ้าเข้าไปสะสมในบูชยางหรือจุดข้อต่อ
- ห้ามออกมากเดินย่ำน้ำรอบรถโดยไม่รู้ระดับพื้น เพราะอาจตกหลุม หรืออาจมีสายไฟชำรุด ทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตได้
3. อย่าดับเครื่องยนต์ทันที หลังจากขับรถลุยน้ำท่วมจนมาถึงจุดหมายแล้ว เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำที่ค้างอยู่ที่ท่อไอเสียย้อนกลับเข้าไป ให้สตาร์ทรถทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้น้ำที่อาจตกค้างอยู่ในหม้อพักท่อไอเสียระเหยออกมาให้หมดช่วยลดความเสียหายต่อเครื่องยนต์
บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ “POP” อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 30 ปี โดยมุ่งเน้นการผลิตชิ้นส่วนที่มีความทนทานและได้มาตรฐานสากล เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 5,000 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์ส่วนบุคคลจนถึงรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ สามารถสอบถามรายละเอียด ที่ร้านอะไหล่รถยนต์ชั้นนำ ตัวแทนจำหน่าย หรือเว็บไซต์ https://chalitindustry.com
ผศ.(พิเศษ) ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ