ตะลอนเที่ยว : สัตยาพาลี เสียชีพอย่าเสียสัตย์

ตะลอนเที่ยว : สัตยาพาลี เสียชีพอย่าเสียสัตย์

ตะลอนเที่ยว : สัตยาพาลี เสียชีพอย่าเสียสัตย์

วันอาทิตย์ ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 09.15 น.

“ไม่มีใครดูโขน แม่จะดูเอง” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงกล่าวไว้เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว แล้วบัดนี้โขนก็ได้กลับมาเป็นที่นิยมของคนไทยและชาวต่างชาติที่เห็นคุณค่าของโขน จนทำให้โขนได้ถูกขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติที่จับต้องไม่ได้ โดย UNESCO เมื่อปี 2561 เพราะโขนเป็นศิลปะชั้นสูงของไทยที่รวบรวมเอาภูมิปัญหาสารพัดแขนงไปรวมไว้ในการแสดงโขน ไม่ว่าจะเป็นบทพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ ท่าร่ายรำ บทพากษ์ บทร้อง บทเจรจา ดนตรี พัสตราภรณ์ ศิราภรณ์ ฉาก และเครื่องประกอบฉาก รวมถึงระบบแสง สี และเสียง เป็นต้น 


บัดนี้ โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าเป็นการแสดงประจำปีที่ผู้คนต่างเฝ้ารอเฝ้าคอยจะได้รับชมอย่างใจจดใจจ่อ เพราะได้ตระหนักแล้วถึงความงดงามของศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย โดยปีนี้จัดการแสดงโขนรามเกียรติ์ ตอนสัตยาพาลี ระหว่างวันที่ 6 พฤศจิกายน ถึง 8 ธันวาคม 2568 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย


ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่พระราชทานทั้งพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และพระราชทานทุกสิ่ง ทั้งพระราชดำริ และทรงสนับสนุนความรู้ด้านเทคนิกทันสมัยให้กับครูช่างที่ทำงานเกี่ยวกับโขน เพื่อให้โขนไทยมีความทันสมัย ผสมผสานไปกับคุณค่าของภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ จนบันนี้โขนได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งสมดังพระราชดำริ จนกล่าวได้ว่า ในยุคนี้ หากใครก็ตามที่มีโอกาสเข้าชมโขนของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ แล้วพลาดการชม ก็นับได้ว่าน่าเสียใจอย่างที่สุด 


และในโอกาสนี้ ขอเล่าเรื่องย่อตอนสัตยาพาลีให้ทราบโดยสังเขป พระอิศวรทรงปูนบำเหน็จความชอบแก่พญากากาศ ที่ช่วยชะลอเขาพระสุเมรุที่เอนทรุดให้กลับตั้งตรงได้ โดยพระราชทานนามว่าพญาพาลีธิราช แล้วพระราชทานตรีเพชรสุรกานต์เป็นอาวุธประจำกาย และยังพระราชทานพรว่า เมื่อต่อสู้กับศัตรูรายใดก็ตาม ให้ได้กำลังจากศัตรูแบ่งมาสมทบครึ่งหนึ่ง จากนั้นจึงออกพระโอษฐ์ทรงฝากผอบบรรจุนางเทพดาราไปพระราชทานแก่สุครีพน้องชาย แต่พระนารายณ์ซึ่งเข้าเฝ้าฯ อยู่ด้วยทรงทูลทัดทานว่าไม่ควรฝากสตรีงามไปกับบุรุษ เกรงจะไม่ถึงมือสุครีพ ดังเทวะประสงค์ เมื่อพาลีได้ยินจึงกล่าวถวายสัตย์สาบาน ว่าหากตนคิดทรยศน้องชาย ขอให้ตายด้วยศรพระนารายณ์ ว่าแล้วจึงเหาะนำผอบกลับไปเมืองขีดขิน เมื่อไปถึงเมือง พาลีก็เฝ้าแต่ครุ่นคิดด้วยความสงสัยว่านางในผอบจะงดงามสักเพียงใด จึงเปิดออกดูและเห็นความงามของนางเทพดารา ทำให้ลืมคำสัตย์สาบานต่อพระนารายณ์ พาลีเล้าโลมเกี้ยวพานจนได้นางเทพดาราเป็นชายา กล่าวถึงทรพีควายผู้ลูกทรพากับนางนิลากาสร ซึ่งได้ลอบไปคลอดในถ้ำฝากเทวดาช่วยพิทักษ์เลี้ยงดู เป็นเหตุให้ทรพีมีฤทธิ์จิตหยาบช้า คอยวัดรอยเท้าทรพาพ่อของตนจนเติบโตเท่าบิดา จึงไปสู้รบแล้วฆ่าบิดาตาย ทรพียิ่งกำเริบมากขึ้น จนไปท้าพระอิศวรรบถึงวิมานบนเขาไกรลาส พระอิศวรให้ลงไปสู้กับพาลีแล้วสาปให้ตายด้วยฤทธิ์ของพาลี เมื่อพาลีถูกทรพีมาท้าทาย ก็สังเกตว่าทรพีมีฤทธิ์และกำลังผิดธรรมดา จึงออกอุบายให้ไปสู้รบในถ้ำแล้วสั่งสุครีพน้องชายให้หมั่นพาไพร่พลมาตรวจดูหน้าถ้ำ ถ้าเห็นเลือดข้นไหลออกมา หมายความว่าตนมีชัยชนะ แต่ถ้าเลือดใสหมายความว่าตนสิ้นชีวิต ให้รีบขนหินมาปิดปากถ้ำอย่าให้ทรพีออกมาได้ สั่งแล้วก็เข้าไปรบกับทรพีในถ้ำ สู้กันอยู่นานไม่อาจชนะได้ พาลีสงสัยว่าคงมีเทวดาคอยรักษากายจึงร้องถามแต่ทรพีควายอกตัญญูมิได้รู้คุณเทวดา กลับตอบว่าเก่งด้วยตนเองโดยไม่มีเทวดาช่วยเหลือ เมื่อสิ้นคำทำให้เทวดาต่างพากันออกจากกาย ทรพีจึงถูกพาลีสังหาร แต่ขณะนั้นบังเกิดฝนตกหนักลงมาชะล้างเลือดทรพีที่มีสีข้นให้กลายเป็นเลือดใส เมื่อสุครีพมาเห็นก็ตกใจและเสียใจคิดว่าพาลีตายจึงสั่งพลลิงขนหินมาปิดปากถ้ำ


เมื่อพาลีเห็นปากถ้ำถูกปิด ก็โกรธจัด คิดว่าสุครีพผูกใจเจ็บโกรธแค้นจึงต้องการฆ่าตน เพราะเรื่องนางเทพดารา จึงตัดหัวทรพีขว้างทำลายหินที่ปิดปากถ้ำ แล้วออกมาไล่สู้รบกับสุครีบ แล้วขับไล่สุครีพออกจากเมืองโดยไม่ฟังเหตุผล สุครีพหนีไปในป่าจนได้พบหนุมานหลานชาย หนุมานพาไปเฝ้าพระราม และพระลักษมณ์ สุครีพกราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบ พระรามรำลึกถึงคำพาลีที่เคยถวายสัตย์สาบาน จึงให้สุครีพไปท้ารบเพื่อจะแผลงศรสังหาร เมื่อสุครีพล่อพาลีออกมาต่อสู้บนท้องฟ้า พระรามจึงแผลงศรพรหมาสตร์หมายจะสังหาร แต่พาลีสามารถจับลูกศรไว้ได้ แล้วเหาะลงมาด่าทอบริภาษพระราม แต่แล้วก็ได้เห็นพระรามว่าคือพระนารายณ์ พระนารายณ์ทรงกล่าวทวงสัตย์สาบาน พาลีจึงสำนึกผิดกราบทูลถวายชีวิต แล้วฝากสุครีพพร้อมพลวานรเป็นข้าของพระราม แล้วสั่งสอนสุครีพจนเสร็จสิ้น ก็ใช้ลูกศรปักตัวเองถึงแก่ความตาย

Leave a comment