แหวกฟ้าหาฝัน : เดินเล่นเมืองหลวงเล็ก Bratislava Slovakia

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/406489

แหวกฟ้าหาฝัน : เดินเล่นเมืองหลวงเล็ก Bratislava Slovakia

แหวกฟ้าหาฝัน : เดินเล่นเมืองหลวงเล็ก Bratislava Slovakia

วันอาทิตย์ ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2562, 06.00 น.

Man at Work

นักท่องเที่ยวที่ใช้ Austrian Airline และเที่ยวเวียนนาจนปรุหมดแล้ว เวลาที่มาแวะพักต่อเครื่อง คงอยากหาเมืองเล็กๆ ใกล้ๆ ไว้เยือน เมืองที่เดินทางสะดวกไปได้สะดวก ค่าเดินทางถูก ใช้เวลาไม่นาน และสามารถออกเดินทางจากสนามบินได้เลยก็คือ Bratislava เมืองหลวงของประเทศ Slovakia ที่ตั้งอยู่ริมน้ำดานูบและ Morava ซึ่งติดต่อกับออสเตรียและฮังการีนี้เป็นเมืองที่เดินทางด้วยรถบัสเพียงแค่ 1 ชั่วโมง จากสนามบินแห่งชาติออสเตรียด้วยค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 5 เหรียญเท่านั้น เมืองหลวงของประเทศที่มีประชากรเพียงแค่430,000 คนนี้ เป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่เล็กที่สุดของยุโรป แต่ยังคงถือเป็นเมืองใหญ่เพราะมีประชากรอาศัยอยู่จริงมากถึง 650,000 คน

Bratislava castle

เมืองที่มีประวัติเก่าแก่ย้อนไปถึง 5 พันปีก่อนคริสต์ศักราชโดยมีหลักฐานจากเครื่องกระเบื้องนี้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในยุค Neolithic ต่อมาอีก 3 พันปี ชนกลุ่ม Celtic ได้มาตั้งถิ่นฐานและสร้างป้อมปราการขึ้น ก่อนที่ดินแดนแห่งนี้จะถูกครอบครองโดยชาวโรมันในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1-4 ซึ่งพวกเขาได้นำเอาองุ่นมาปลูกและได้สร้างวัฒนธรรมการผลิตไวน์ขึ้น หลังจากยุคของชาวโรมัน ชาวสลาฟจากทิศตะวันออกก็เข้ามาครอบครองดินแดนแห่งนี้ในคริสต์ศตวรรษที่ 5-6 และสร้างปราสาทขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ซึ่งก็คือตำแหน่งของปราสาท Bratislava ในปัจจุบัน

แม้เมืองหลวงของ Slovakia แห่งนี้จะเป็นเมืองเล็กๆ ของประเทศที่ไม่ได้มีอิทธิพลมากมายนักในประวัติศาสตร์ยุโรป แต่ที่นี่ก็เคยเป็นสนามรบระหว่างฝรั่งเศสและฮังการีในช่วงแย่งชิงอำนาจอันเป็นผลมาจากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม เมืองนี้ก็ได้รับการพัฒนาเฉกเช่นเมืองอื่นในยุโรป ราชวงศ์ฮังการีซึ่งครอบครองดินแดนแห่งนี้ในช่วงเวลานั้นจึงตัดสินใจสร้างทางรถไฟเชื่อมเมืองนี้กับเวียนนาส่งผลให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงิน

Old town

ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จะปะทุขึ้น ประชากรของเมืองนี้กว่า 42% เป็นชาวเยอรมัน อีก 41% เป็นชาวฮังการี และเพียงแค่ 15% เป็นชาวสโลวัก แต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สงบลง ชาวเยอรมันกลับลดลงเหลือ 36% ชาวฮังการีเหลือเพียง 29% ในขณะที่ชาวสโลวักเพิ่มขึ้นถึง 33% ส่งผลให้เกิดการรวมชาติใหม่ที่เรียกว่า เช็กโกสโลวาเกียในวันที่29 ตุลาคม 1918 แม้ชาวเยอรมันและฮังการีจะขัดขืนในช่วงแรก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะต่อต้านได้ เมืองนี้เลยกลายเป็นเมืองหลวงของประเทศที่ได้รับการสถาปนาใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยชาวฮังการีถูกขับไล่ออกจากเมืองไป

ในปี 1938 อันเป็นช่วงที่เยอรมันเรืองอำนาจจึงเข้าครอบครองสโลวัก และแบ่งเขตแดนของ Bratislava ตามจำนวนเชื้อชาติของประชาชนที่อาศัยอยู่ ยิ่งเยอรมันมีอำนาจมากขึ้น พวกเขายิ่งครอบครองพื้นที่มากขึ้น และในช่วงปี 1944-45 พวกเขาก็ขับไล่ชาวยิว 15,000 คนออกจากบ้านเข้าไปในแคมป์กักกัน หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อเยอรมนีแพ้สงคราม ชาวเยอรมันที่เคยอาศัยอยู่ในเมืองนี้ก็ถูกขับไล่กลายเป็นชนกลุ่มน้อยที่ระเหเร่ร่อนไปทั่วยุโรปตะวันออก เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เรืองอำนาจในประเทศสโลวาเกีย ที่นี่กลับเป็นส่วนหนึ่งของยุโรปตะวันออก เมื่อชาวสโลวักกลายเป็นประชากรของเมืองนี้ถึง 90% พวกเขาจึงร่วมกันสร้างชาติขึ้นใหม่ แต่เมื่อชาวสโลวักล้มเหลวในการต่อต้านคอมมิวนิสต์ในปี 1968 พวกเขาก็ถูกครอบครองภายใต้กองทัพคอมมิวนิสต์อีกครั้งและต้องอยู่ภายใต้กองทัพจากสนธิสัญญา Warsaw เมื่อกำแพงเบอร์ลินแตก ชาวสโลวักได้ร่วมกันเดินขบวนเพื่อประกาศอิสรภาพในการปฏิวัติ Velvetในปี 1989 และได้กลายเป็นประเทศประชาธิปไตยในเวลาต่อมา

บรรยากาศร้านอาหาร

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมือง Bratislava สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเยือนก็คือ old town หรือเมืองเก่าที่มีสถานทูตของประเทศต่างๆ ตั้งอยู่รวมทั้งสถานที่สำคัญๆ ของประเทศ เช่น พระราชวังฤดูร้อนของบิชอป ที่ทำการรัฐบาล Opera House ที่ประทับของประธานาธิบดี รวมทั้ง Bratislava castle ตั้งอยู่ สภาพของเมืองเก่าแห่งนี้ก็เหมือนกับเมืองเล็กๆ อื่นๆ ในยุโรป ที่ตกแต่งด้วยตึกรามบ้านช่องที่มีระเบียบเรียบร้อย บรรยากาศของที่นี่คล้ายกับเดินเมืองเล็กของออสเตรีย แต่ยังคงมีความแตกต่างอยู่บ้านตรงที่ไม่ค่อยมีตึกใหญ่ๆ อยู่เลยในเขตเมืองเก่า แต่ที่สำคัญก็คือ ที่นี่มีผลงานแกะสลักน่ารักๆ เยอะมากให้นักท่องเที่ยวได้ตามหาและถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เช่น Napoleon Soldier หรือ Schon Naci

ผลงานแกะสลักที่น่ารักที่สุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องถ่ายรูปด้วยให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเหมือนมาไม่ถึงเมืองนี้เลยที่เดียว นั่นคือ Man at Work หรือรูปแกะสลักช่างซ่อมประปาที่ตัวโผล่พ้นพื้นขึ้นมาเล็กน้อยและกำลังเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า การที่รูปแกะสลักที่ถูกจัดทำขึ้นครั้งแรกในปี 1977 เพื่อขับเน้นบรรยากาศของความเป็นคอมมิวนิสต์นี้ตั้งอยู่บนพื้นและมีความสูงไม่มากนักจึงทำให้มันไม่อยู่ในระดับสายตา นักท่องเที่ยวที่ไปค้นหาก็รู้สึกหายาก คนเดินผ่านไป-มา ก็มักสะดุดล้มได้ง่าย ถึงกระนั้นก็ตาม นักท่องเที่ยวทุกคนก็ต้องพยายามหาช่างประปาคนนี้ให้เจอ เพื่อไปถ่ายรูปและไปเขกกบาลด้วยความเชื่อว่าจะทำให้โชคดีคนส่วนใหญ่ที่มีเวลาก็มักจะพยายามคาดเดาแววตาของช่างประปาคนนี้ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว ท่าทางของช่างประปาคนนี้กำลังพักผ่อน หรือกำลังจะลงไปซ่อมท่อ หรือกำลังแอบมองใต้กระโปรง สาวๆ กันแน่

บรรยากาศกลางเมือง

บรรยากาศกลางเมือง
Opera house

Opera house
Schone Naci

Schone Naci
Napoleon soldier

Napoleon soldier

Leave a comment