#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/450458

Life & Health : ถึงเวลาพาลูกน้อย…ไปเรียนรู้นอกห้องเรียน
เวลาที่เด็กส่วนใหญ่รอคอยมักจะเป็นช่วงปิดเทอม ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กๆจะรู้สึกมีความสุขสุดๆ ที่จะได้พักจากการเรียนที่คร่ำเคร่งตลอดทั้งเทอมที่ผ่านมา แต่สำหรับพ่อแม่บางคนอาจหนักใจว่า ปิดเทอมนี้จะหากิจกรรมอะไรให้ลูกทำดี การปล่อยให้อยู่บ้าน ดูการ์ตูน เล่นเกม ก็คงไม่มีประโยชน์เท่าไรนัก ให้เรียนพิเศษก็ดูจะหนักเกินไป
ข้อมูลจาก รศ.พญ.ทิพวรรณ หรรษคุณาชัย กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเด็ก เปิดเผยว่า คุณพ่อแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง อาจหากิจกรรมที่ลูกจะได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า เช่น พาลูกไปเข้าค่ายต่างๆ ที่จัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่ายศิลปะ ค่ายภาษา ค่ายกีฬา เป็นต้น แต่ก็ควรถามความสมัครใจของลูกด้วย ให้เขามีโอกาสตัดสินใจเลือกกิจกรรมที่ชอบ เพราะถ้ารู้สึกชอบและสนใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะยิ่งทำให้เขาใฝ่รู้ใฝ่เรียนด้วยตนเองได้ไม่ยากนัก แถมยังอาจจะช่วยเสริมสร้างความสามารถพิเศษติดตัวไปในอนาคต ถ้าลูกไม่ทราบว่าตนเองชอบอะไร อาจเปิดโอกาสให้ไปร่วมกิจกรรมดูก่อนเพื่อค้นหาตนเอง
ส่วนพ่อแม่ที่พอจัดสรรเวลาว่างได้ การพาลูกๆ ออกไปเที่ยวกันอย่างพร้อมหน้ากับสมาชิกในครอบครัวเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากต่อการเรียนรู้เรื่องต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อการเจริญพัฒนาของลูกในอนาคต จนทำให้พ่อแม่ที่รู้สึกว่าการเตรียมตัวไปท่องเที่ยวเป็นเรื่องยุ่งยากนั้นต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เพื่อพยายามหาโอกาสพาลูกๆไปเที่ยวกันดีกว่า เพราะการไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทำให้เด็กๆ เกิดการเรียนรู้มากมาย จะเป็นอะไรบ้างมาติดตามดูกัน
รู้จักการวางแผนและความรับผิดชอบ
เริ่มจากการให้ลูกๆ มีส่วนร่วมช่วยกันเลือกสถานที่ท่องเที่ยว ว่าต้องการไปเที่ยวในจังหวัดใดหรือไปต่างประเทศ ต้องการไปสถานที่ใดบ้าง เช่น สวนสนุก สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ ทะเล ภูเขา น้ำตก โบราณสถาน สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นต้น วางแผนการเดินทางที่เหมาะสมสำหรับแต่ละครอบครัว เช่น โดยรถยนต์ รถไฟ รถประจำทาง หรือเครื่องบิน เป็นต้น การจองที่พัก ร้านอาหาร การจัดเตรียมเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ การเตรียมตัวจัดสัมภาระให้เหมาะกับสภาพอากาศและสถานที่ท่องเที่ยวตลอดการเดินทาง การแบ่งความรับผิดชอบของสมาชิกในครอบครัว โดยพ่อแม่อาจจะมอบหมายหน้าที่เล็กๆ น้อยๆ ให้ลูกแต่ละคน เพื่อให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทาง เช่น สังเกตป้ายบอกทาง นับกระเป๋าที่ขึ้นลงจากรถ ช่วยเก็บของเข้าที่พัก จดบันทึกการเดินทางหรือค่าใช้จ่าย เป็นต้น เป็นการฝึกลูกๆ ให้รู้จักการวางแผนและการบริหารจัดการจากเรื่องที่มีความสุขใกล้ตัวง่ายๆ เพื่อเป็นพื้นฐานของการดำเนินชีวิตและการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นในอนาคต
เปิดโลกกว้างให้ลูกกระตุ้นการเรียนรู้
เด็กๆ มักจะตื่นเต้นเมื่อได้พบเจอสิ่งแปลกใหม่ที่แตกต่างไปจากชีวิตเดิมๆ เพราะชีวิตของเด็กส่วนใหญ่ มักจะถูกจำกัดแค่บ้าน โรงเรียน สถานที่เรียนพิเศษ หรือห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ บ้าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เขาถูกปิดกั้นจากธรรมชาติและสิ่งแปลกใหม่ การเดินทางท่องเที่ยวได้เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมประเพณี ภาษาท้องถิ่นหรือภาษาต่างประเทศที่หลากหลาย ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวันการใช้สายตามองดูสิ่งต่างๆ รอบตัว การได้ลิ้มลองรสชาติอาหารแปลกใหม่ หรือการได้สัมผัสสัตว์ตัวเป็นๆ ที่ไม่ใช่แค่ดูจากรูปภาพ หรืออ่านจากหนังสือ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างจินตนาการด้านอารมณ์และความคิด พ่อแม่ควรให้ความรู้หรือบอกเล่าถึงลักษณะของสัตว์ต่างๆ เพื่อเพิ่มเติมความรู้ไปกับการท่องเที่ยว การเรียนรู้เหล่านี้จะทำให้เจ้าตัวเล็กสนุกสนานกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าและสิ่งอยู่รอบตัวมากขึ้น
รู้จักการแก้ไขปัญหาและฝึกความยืดหยุ่น
ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว มักพบสิ่งที่ไม่เป็นไปตามแผนที่เตรียมไว้ทำให้ต้องปรับตัวและแก้ไขปัญหาไปตามสถานการณ์ เช่น รถติดมากต้องเปลี่ยนเส้นการเดินทาง ที่พักเต็มต้องนอนเต็นท์ สัมภาระที่เตรียมไปไม่เพียงพอ สภาพอากาศไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งช่วยฝึกฝนให้ลูกๆ รู้จักความยืดหยุ่นในการดำเนินชีวิตและมีความแข็งแกร่งในการปรับตัวมากขึ้นในอนาคต
รู้จักความกตัญญูและการแบ่งปัน
การได้มีโอกาสพาปู่ย่าตายายไปเที่ยวพร้อมกันกับลูกๆ หรือพาลูกๆ เดินทางเพื่อไปกราบเยี่ยมท่านบ่อยๆ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่พ่อแม่จะเป็นแบบอย่างในการแสดงความเคารพ ทั้งพฤติกรรมและวาจาที่แสดงถึงความดูแลเอาใจใส่ท่านด้วยความรัก ความห่วงใย และอ่อนโยน สอนให้ลูกๆ ช่วยเหลือท่านตามความเหมาะสม เช่น การจูงเดิน การตักอาหารให้ เป็นต้น เขาสามารถเรียนรู้และซึมซับสิ่งเหล่านี้โดยอัตโนมัติได้เป็นอย่างดี โดยพ่อแม่ไม่ต้องพร่ำพูดสอนเรื่องความกตัญญู ความกตัญญูในครอบครัวนี้เป็นพื้นฐานสำคัญให้เด็กๆ เรียนรู้การแบ่งปันความรักและความเอื้ออาทรต่อผู้อื่น สังคมส่วนรวมและประเทศชาติต่อไปในอนาคต
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว
การท่องเที่ยวยังเป็นช่วงเวลาวิเศษสุดที่จะได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันอย่างใกล้ชิด ในการเสริมสร้างความรัก ความอบอุ่น ความผูกพัน ความเข้าใจซึ่งกันและกัน พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีของสมาชิกทุกคนในครอบครัวเป็นสิ่งมีคุณค่าทางจิตใจที่จะประทับอยู่ในความทรงจำที่ดีของลูกตลอดไป และสมาชิกทุกคนในครอบครัวจะรอคอยช่วงเวลาปิดเทอมของเด็กๆ เพื่อจะได้ไปท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานกับครอบครัวที่อบอุ่น
ผศ.(พิเศษ) ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
