#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/636628

วันอาทิตย์ ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565, 06.00 น.
งานวิจัยที่เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Nature Communication พบว่า การลดลงของก๊าซเรือนกระจก และ แอโรซอล ซึ่งเป็นอนุภาคฝุ่นหรือละอองของเหลวที่เล็กมากจนแขวนลอยค้างอยู่ในอากาศจากโรงงานอุตสาหกรรมและการเผาไหม้ซึ่งเป็นมลภาวะ ตามคำสั่งล็อกดาวน์ในหลายเมืองของทางการจีน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นผลทำให้ความหนาแน่นของชั้นบรรยากาศเปลี่ยนแปลง จนทำให้เกิดฝนตกลงมา และเป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิตหลายร้อยคนและต้องอพยพประชาชนหลายล้านคน ระหว่างที่เกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วมรุนแรงเมื่อปีที่ผ่านมา ที่เรียกกันว่าเป็นน้ำท่วมในรอบพันปีในจีน ซึ่งนักวิจัยระบุว่า การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีส่วนทำให้เกิดฝนฤดูร้อนที่รุนแรงถึง 1 ใน 3
นักวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษาชิ้นนี้ ได้เปิดเผยข้อมูล เรื่องปริมาณฝนในช่วงฤดูร้อนที่ตกลงมาแถบตอนกลางและตะวันออกของจีนตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ลดปริมาณลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อพบว่ามี แอโรซอล ในชั้นบรรยากาศมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า การลดการปล่อยก๊าซระยะยาว ไม่น่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้มากนัก และความเชื่อมโยงที่แท้จริงระหว่างการปิดเมืองช่วงการระบาดของโรค และน้ำท่วมนั้น ยังคงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนอย่างมาก
ทั้งนี้ แม่น้ำแยงซีพบว่ามีฝนตกลงมามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1961 โดยเพิ่มขึ้นถึง 79% ในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของช่วงเวลาเดียวกันตลอด 41 ปีที่ผ่านมา