ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07073150958&srcday=2015-09-15&search=no
| วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 381 |
รู้ลึกรู้จริงก่อนสวย
นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมความงามกรุงเทพ AIC
รู้ทันก่อนศัลยกรรมทำพิษ
ในช่วงปีที่ผ่านมา มีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่เกิดจากการทำศัลยกรรมความงามเป็นระยะๆ หลายครั้งถึงขั้นเสียชีวิต เสียโฉม ตาบอด เป็นต้น
และเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีข่าวพบหญิงสาวเสียชีวิตในห้องพัก แล้วสงสัยว่าจะมีสาเหตุมาจากการไปทำศัลยกรรมคางมาเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งในความจริงแล้ว มันแทบไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่เนื่องจากผู้คนในสังคมมีทัศนคติที่ไม่สู้ดีนักต่อการทำศัลยกรรม ทำให้การทำศัลยกรรมความงามกลายเป็นแพะรับบาปไป อันที่จริงเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำศัลยกรรมความงามนั้นย่อมมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง แต่ผลดีของศัลยกรรมความงามก็มีอยู่ไม่น้อย มิฉะนั้นหลายๆ คนคงไม่ยอมเจ็บตัว และเสียเงินไปทำศัลยกรรมเสริมความหล่อ ความสวยกัน จริงมั้ยครับ ผมว่าหากเรามีความรู้ และเข้าใจในสิ่งที่เราจะทำ เราก็จะสามารถจำกัด หรือลดความเสี่ยงต่างๆ ลงไปได้เกือบหมด
ข้อควรรู้ และควรปฏิบัติก่อน และหลังทำศัลยกรรมความงามมีอะไรบ้าง แต่ก่อนอื่นผมขออธิบายก่อนว่า การทำศัลยกรรมความงาม ปกติเราสามารถแบ่งง่ายๆ เป็น 3 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มผ่าตัดใหญ่ คือลงมีดและวางยาสลบ เช่น ผ่าตัดดึงหน้า ผ่าตัดแก้รูปกระดูกใบหน้า แปลงเพศ การเสริมหน้าอก การดูดไขมัน 2) กลุ่มผ่าตัดเล็ก คือลงมีดแต่ไม่ต้องวางยาสลบ เช่น เสริมจมูก ทำตา 2 ชั้น เสริมคาง 3) กลุ่มที่เรียกว่า กึ่งศัลยกรรม เช่น ร้อยไหม ฉีดฟิลเลอร์ เป็นต้น ทั้งนี้ การรักษาบางอย่าง เช่น การดูดไขมัน บางครั้งอาจวางยาสลบ บางครั้งก็แค่ใช้ยาชาเฉพาะที่ แต่การวางยาสลบคนไข้จะสบายกว่า ไม่เจ็บ และแพทย์สามารถให้การรักษาดูดไขมันได้เต็มที่ แต่หากไม่วางยาสลบ การดูดไขมันจะเจ็บกว่ามาก และแพทย์ก็ไม่อาจดูดไขมันได้มาก หรือทำได้เต็มที่
ข้อควรรู้ก่อนไปทำศัลยกรรมความงามคือ หากการรักษาอยู่ในกลุ่มที่ต้องวางยาสลบ จะมีความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้มากกว่า ร่างกายต้องแข็งแรงทนทานต่อการวางยาสลบได้ และควรทำในโรงพยาบาลเท่านั้น เพราะต้องใช้วิสัญญีแพทย์ในการดูแลช่วงวางยาสลบถึงจะปลอดภัย ปัจจุบัน คลินิกบางแห่งก็มีอุปกรณ์พร้อมไม่แพ้โรงพยาบาล และใช้วิสัญญีแพทย์วางยาสลบเช่นกัน แบบนี้ก็ปลอดภัยครับ แต่ที่พบโดยมากจะเป็นเพียงแค่วิสัญญีพยาบาลเท่านั้น เพราะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า สำหรับการรักษาที่ไม่ได้วางยาสลบ โดยมากจะปลอดภัย แต่ให้ดูคลินิกที่ได้มาตรฐาน ไม่ควรไปรับบริการในคลินิกเล็กๆ ตามใต้ถุนคอนโดฯ ครับ แม้ราคาถูก แต่อุปกรณ์ไม่มาตรฐาน และส่วนใหญ่ยาปลอมครับ โดยเฉพาะยาฟิลเลอร์ นอกจากนี้ ที่สำคัญคือต้องเลือกแพทย์ที่จะรักษา ปัจจุบันแพทย์แต่ละท่านมักเชี่ยวชาญคนละด้าน เช่น เชี่ยวชาญผ่าตัดจมูก หรือเสริมหน้าอก หรือร้อยไหม-ฉีดฟิลเลอร์ เป็นต้น แพทย์จะไม่ชำนาญทุกเรื่องครับ ต้องเลือกแพทย์ดีๆ แพทย์เฉพาะทางแบบนี้มักมีราคาแพงกว่าปกติ แต่ก็จะปลอดภัย และได้ผลการรักษาดีกว่า ส่วนข้อปฏิบัติหลังการรักษาก็คือ หลังผ่าตัดให้ระวังการติดเชื้อ แผลอักเสบ เลือดไม่หยุด เป็นต้น รับประทานยาแก้อักเสบให้ครบ หากมีอะไรผิดปกติต้องรีบกลับไปพบแพทย์ทันที โดยมากผลข้างเคียงรุนแรงจะเกิดภายใน 3-5 วันหลังการรักษา
อันที่จริงอัตราการเสียชีวิต พิการ หรือการเกิดผลข้างเคียงจากการทำศัลยกรรมความงามมีน้อยมาก และแทบไม่พบเลยหากรักษากับแพทย์ที่เชี่ยวชาญจริง ในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน สังเกตดูจะพบว่าข่าวที่ไม่ดีต่างๆ จากการทำศัลยกรรมนั้นเกิดจากแพทย์ที่ไม่ชำนาญหรือไม่ใช่แพทย์ และในสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐานทั้งสิ้นครับ