ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07044010159&srcday=2016-01-01&search=no
| วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 21 ฉบับที่ 388 |
สุขภาพความงาม
มีนา
“DOCTOR TONY CLINIC” ชูเครื่องสำอาง สร้างตัวแทนจำหน่าย
“การแข่งขันสูงจริง แต่ไม่เคยคิดลดราคาผลิตภัณฑ์ เพราะเราเชื่อว่า ราคาไม่ใช่คำตอบทำให้ลูกค้าเลือก แต่ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีต่างหากที่ลูกค้าให้ความสำคัญ”
“ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” ยังคงใช้ได้ทุกยุคสมัย โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้หญิง ดังจะเห็นได้ในวันนี้มีสถาบันความงาม ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เกิดขึ้นหลากแบรนด์ หลายชนิด เพื่อตอบโจทย์ความสวย
“DOCTOR TONY CLINIC” คลินิกดูแลความงามครบวงจร เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ก้าวเข้ามาในตลาดจนเติบโตมีผู้เข้าใช้บริการทั้งในและต่างประเทศ พร้อมๆ กับแตกไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเข้ามาตอบโจทย์คนวัยตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป
สวยงามสร้างมูลค่า
เติบโตรุดหน้าตลอด
นายแพทย์วรพล สุขีวัฒนา ผู้ก่อตั้ง และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังให้กับโรงพยาบาลและคลินิกมาแล้วถึง 4 แห่ง นอกจากนั้นยังเป็นวิทยากรและอาจารย์สอนเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ให้แก่แพทย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายแพทย์วรพล เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการแพทย์ให้กับบริษัทผู้ผลิตโบท็อกซ์รายใหญ่ในโลก จนกระทั่งมีประสบการณ์ความรู้มากพอ จึงก่อตั้ง DOCTOR TONY CLINIC เป็นของตนเอง จนบัดนี้สามารถเติบโตมีจำนวนลูกค้าเข้าใช้บริการ ทั้งคนไทยในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมไปถึงหญิงสาวในแถบเอเชีย อย่างประเทศลาว ที่เดินทางมาใช้บริการเฉลี่ยปีละประมาณ 1 ครั้ง กับยอดใช้บริการเฉลี่ยต่อคนราว 100,000 บาท
ด้วยชื่อเสียงสั่งสมมานานราว 5 ปี ทั้งการให้บริการในส่วนของคลินิก และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาเพื่อจัดจำหน่าย เริ่มได้รับความนิยม กอปรกับนายแพทย์วรพลเล็งเห็นว่า ตลาดเครื่องสำอางในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉลี่ยปีละประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ มีมูลค่าตลาดรวม 2.1 แสนล้านบาท และแบ่งเป็นตลาดในประเทศ 60 เปอร์เซ็นต์ มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท และตลาดส่งออก 40 เปอร์เซ็นต์ มูลค่า 9 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะกับผลิตภัณฑ์ความงามกลุ่ม “สกินแคร์” ถือเป็นตลาดใหญ่อันดับต้น
ความเติบโตนี้ทtยานขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหากนับจากนี้ไปอีก 5 ปี คือในปี 2563 มูลค่าตลาดจะเติบโตกว่าเท่าตัว โดยเฉพาะภาคการส่งออก ซึ่งมีโอกาสขยายตัวไปกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งตลาดอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในประเทศไทย ในกลุ่มสกินแคร์ มีมูลค่าสูงถึง 4 แสนล้านบาท โดยเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเพื่อผิวขาวถึง 48 เปอร์เซ็นต์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไป 43 เปอร์เซ็นต์ และผลิตภัณฑ์บำรุงแบบให้คุณประโยชน์เฉพาะ 9 เปอร์เซ็นต์
บุกตลาดผลิตภัณฑ์
เปิดโอกาสสร้างตัวแทน
โอกาสที่มองเห็นจากความเติบโตนี้ ส่งผลให้ DOCTOR TONY CLINIC รุกตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผลิตขึ้นมารองรับตลาดทั้งหมด 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. ไวท์เทนนิ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตลาดคนไทยและเอเชียมีความต้องการสูงสุดโดยผู้ใช้ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัย 20 ปีขึ้นไป 2. กลุ่มลดริ้วรอย ที่จะสามารถเจาะผู้ใช้วัย 30 ปีขึ้นไปได้ 3. คลีนเซอร์ 4. แฮร์แคร์ สำหรับผู้มีปัญหาเส้นผม หนังศีรษะ และกลุ่มที่ 5. ดูแลรักษาสิว เหมาะกับวัย 13 ปีขึ้นไป
สำหรับสินค้านำร่องติดอันดับขายดี ได้แก่ 1. Rescue Me Cream Mask มาส์กเนื้อครีมพอกหน้า 2. Brightening Serum ซีรั่มสูตรเข้มข้นจากเกาหลี ลิขสิทธิ์เฉพาะ DOCTOR TONY และ 3. Wrinkle Cream ครีมลดเลือนริ้วรอย
กับการผลิตผลิตภัณฑ์นี้ นายแพทย์วรพล ว่า ได้คิดสูตรเฉพาะขึ้นมา โดยเลือกส่วนผสมคุณภาพ จากนั้นจัดจ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญได้มาตรฐานผลิตให้ โดยมุ่งเจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงเป็นหลัก
สำหรับราคาขายผลิตภัณฑ์เริ่มต้น 600 บาท ไปจนถึง 1,900 บาท โดยปัจจุบันวางจำหน่ายภายในคลินิกของตนเอง กำรายได้เดือนละหลักแสนบาท
จากการทำตลาดขายเอง ทั้งวางจำหน่ายในร้าน และผ่านโซเชียลมีเดีย อย่าง เฟซบุ๊กที่มียอดไลก์สูงถึง 400,000 ไลก์ โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่คือผู้ใช้บริการในคลินิก ที่ต่อมาเป็นกระบอกเสียงบอกต่อ จึงเห็นช่องทางเติบโตด้วยวิธีผ่านตัวแทนจำหน่าย
“ที่ผ่านมา ลูกค้าของคลินิกจะมีกลุ่มคนต่างจังหวัดด้วย ตรงนี้จึงมองเห็นโอกาสกับการขยายผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งผมคาดไว้ในเบื้องต้น 10 ราย โดยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ 5 ราย และต่างจังหวัด 5 ราย เพื่อตอบโจทย์คนที่ไม่สามารถเดินทางมาคลินิกบ่อยๆ ได้”
อาชีพเสริมทำได้
หรือจะให้เป็นหลัก
สำหรับวงเงินการลงทุนกับการเป็นตัวแทนจำหน่าย นายแพทย์วรพลตั้งไว้เริ่มต้นกับรูปแบบที่ 1 เพียง 20,000 บาท โดยรับส่วนลดค่าผลิตภัณฑ์ 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อลูกค้านำไปทำกำไรต่อได้ เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างอาชีพเสริม หรือแม้แต่ผู้เป็นนักเรียน นักศึกษา แม่บ้าน
ในกรณีผู้มีหน้าร้านเปิดจำหน่ายเครื่องสำอางอยู่แล้วก็สามารถรับไปจำหน่ายได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้จะมาเป็นตัวแทนจำหน่ายต้องผ่านกระบวนการอบรมก่อนขาย เพื่อเรียนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีดูสภาพผิว และการเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผิวหน้าของผู้ใช้ โดยระยะเวลาฝึกอบรมเพียงครึ่งวันก็สามารถนำองค์ความรู้ไปดำเนินธุรกิจได้
ปัจจุบัน การซื้อขายผ่านโลกโซเชียล เป็นหนึ่งในความนิยมของผู้บริโภค นายแพทย์วรพล จึงมองว่าช่องทางดังกล่าวเป็นช่องทางที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ให้ผลค้าขายดี ซึ่งตัวแทนจำหน่ายสามารถใช้วิธีนี้ได้
เมื่อธุรกิจรุดหน้า สามารถขยายสู่การลงทุนสูงขึ้นในรูปแบบที่ 2 กับงบการลงทุน 50,000 บาท รับส่วนลด 40 เปอร์เซ็นต์ หรือจะเลือกลงทุนรูปแบบที่ 3 งบลงทุน 100,000 บาท รับส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์
แม้ธุรกิจนี้การแข่งขันจะสูง แต่ทว่าการสร้างโปรดักต์คุณภาพ ย่อมส่งผลให้ตลาดเกิดการยอมรับ ยิ่งการันตี แพ้ยินดีรักษาให้ฟรีในคลินิกโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ จุดนี้สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ
“การแข่งขันสูงจริง แต่ไม่เคยคิดลดราคาผลิตภัณฑ์ เพราะเราเชื่อว่า ราคาไม่ใช่คำตอบทำให้ลูกค้าเลือก แต่ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีต่างหากที่ลูกค้าให้ความสำคัญ เพราะนี่มันเกี่ยวกับร่างกายของเขา”
นายแพทย์วรพล ยังกล่าวต่อถึงแผนดำเนินงาน “ในปีหน้า (2559) เป็นต้นไป วางแผนสร้างยอดขายให้โตปีละ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้น จึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้างตัวแทนจำหน่าย และด้านประชาสัมพันธ์ โดยจัดตั้งทีมขึ้นมาดูแลโดยตรง ซึ่งการประชาสัมพันธ์นี้จะมองไปถึงโซเชียลมีเดีย เพราะเป็นช่องทางเข้าถึงกลุ่มคนยุคปัจจุบัน”
อนาคต นายแพทย์วรพล ยังวางแผนเปิดรับตัวแทนจำหน่ายเพื่อก้าวเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศเออีซี โดยอาจเริ่มต้นที่ประเทศลาว “ปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าผู้มีฐานะทางการเงินดีของประเทศดังกล่าวนี้เดินทางมาใช้บริการในคลินิก เฉลี่ยคนละ 1 ครั้ง โดยใช้งบบริการประมาณ 100,000 บาท ไม่เพียงเท่านั้น เขาเหล่านี้ยังซื้อผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะมาส์กพอกหน้ากลับไปใช้และเป็นของขวัญของฝาก ครั้งละนับ 10 กระปุก” คำกล่าวทิ้งท้าย ถึงโอกาสก้าวสู่ความเติบโตของ DOCTOR TONY CLINIC
สนใจติดต่อธุรกิจ เดินทางไปได้ที่ DOCTOR TONY CLINIC สาขาเดอะคริสตัล พาร์ค ถนนเลียบด่วน-รามอินทรา หรือ http://www.doctorclinic.com, http://www.facebook.com/dr.tonybeautyexpert, ID LINE : doctortonyclinic, Call Center (084) 432-9889
เทรนด์ความงาม ปี 2016
นายแพทย์วรพล สุขีวัฒนา เจ้าของ DOCTOR TONY CLINIC เผยเทรนด์ความงามปี 2016 ยังคงเป็นแนว Naked Face หรือที่เรียกว่า ความงามแบบเปลือยผิว เพื่อโชว์เท็กซ์เจอร์ผิวสวย แต่งหน้าอ่อนๆ ฉะนั้น ผิวที่จะโชว์ได้ต้องไม่มีริ้วรอย รูขุมขนไม่กว้าง ไร้กระฝ้าจุดด่างดำ ไม่มีหลุมสิว ไม่มีร่องแก้ม
ดังนั้น การดูแลผิวด้วย สกิน บูสเตอร์ (Skinboosters) จะเป็นเทคนิคหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยการใช้เทคนิคกระบวนการของเทคโนโลยี Non Animal Stabilize Hyaluronic Acid หรือ NASHA ที่ทำให้เจลไฮยาลูโรนิคแอซิด ฉีดกระจายทั่วใบหน้า
เสน่ห์ของดวงตา แบบ Angel eyes คือรอบดวงตาที่เรียบเนียน ไม่ดำคล้ำ ไร้ริ้วรอย ดูกระชับ เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่จะมาแรงในปี 2016 สำหรับเทคนิคที่จะได้รับความนิยม ได้แก่ HA และ Botox
การทำแก้มลูกส้มเป็นหน้ารูปหัวใจ หรือเรียกว่า Heart Shaped Face ก็เป็นรูปหน้าที่อยู่ในเทรนด์ 2016 พร้อมทั้งความนิยมทำผิวหน้าให้กระชับ ไม่มีเหนียงใต้คาง ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง ด้วยการทำโปรแกรม ThermiRF (เทอร์มิอาร์เอฟ)