ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=0785151159&srcday=2016-11-15&search=no
| วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 21 ฉบับที่ 409 |
เศรษฐศาสตร์ริมทาง
จ่าบ้าน
มหัศจรรย์พันธุ์ข้าวมงคล
“ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ศึกษาการทดลองและทำนามาบ้าง และทราบดีว่าการทำนานั้น มีความยากลำบากอยู่มิใช่น้อย จำเป็นจะต้องอาศัยพันธุ์ข้าวที่ดี และต้องใช้วิชาการต่างๆ ด้วยจึงจะได้ผลเป็นล่ำเป็นสัน อีกประการหนึ่งที่นานั้น เมื่อสิ้นฤดูทำนาแล้วควรปลูกพืชอื่นๆ บ้าง เพราะจะเพิ่มรายได้ให้อีกไม่ใช่น้อย ทั้งจะช่วยให้ดินร่วน ช่วยเพิ่มปุ๋ยกากพืช ทำให้ลักษณะเนื้อดินดีขึ้น เหมาะสำหรับจะทำนาในฤดูต่อไป”
พระราชดำรัสพระราชทานแก่ผู้นำกลุ่มชาวนา พฤษภาคม 2504
ขออัญเชิญพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่ผู้นำกลุ่มชาวนาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2504 นานกว่า 55 ปีตามที่งาน “มหัศจรรย์พันธุ์ข้าวมงคล พืชผลของพ่อ” อัญเชิญมาเป็นมงคลสำหรับงานนี้ ซึ่งนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านจัดขึ้นวันที่ 24-27 พฤศจิกายนนี้ ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ
งาน “มหัศจรรย์พันธุ์ข้าวมงคล พืชผลของพ่อ” ขอเชิญคนไทยร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ “พระราชบิดาแห่งการวิจัยและพัฒนาข้าวไทย” รับทราบ 9 เรื่องราวข้าวกับพระเจ้าอยู่หัว 9 พันธุ์ข้าวพระราชทาน ในพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ สาธิตเมนูพระราชทานจากข้าว และพืชผลในโครงการหลวง แจกเมล็ดพันธุ์ข้าวมงคลของพ่อ และการจัดแสดงพันธุ์ข้าวหายากจากทั่วประเทศกว่า 199 สายพันธุ์
เมื่อก่อนการปลูกข้าวแม้ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่เพราะประชาชนไทยยังไม่มากนัก จึงดูเหมือนว่าปริมาณข้าวที่ปลูกมาแต่ดั้งเดิมยังพอมีพอกินพอขาย ขณะที่นับวันการปลูกข้าวจะมีปัญหามากขึ้น ทั้งจากพันธุ์ข้าว ทั้งปัญหาดิน ปัญหาน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำฝนหรือน้ำจากแม่น้ำลำคลอง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการสร้างเขื่อนขึ้น เขื่อนที่ทรงเปิดหลังสุดจำนวนมากถึง 4 เขื่อนพร้อมกัน ไม่แต่เพียงช่วยให้มีที่กักเก็บน้ำ ยังช่วยบรรเทาน้ำท่วมขังได้ด้วย
ด้วยเหตุที่บางปีและบางพื้นที่มีปริมาณน้ำท่วมขังมากกว่าที่ควรเป็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้สร้างที่เก็บน้ำตามธรรมชาติที่เรียกว่า “แก้มลิง” เป็นเรื่องที่ผู้แทนถาวรของสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาตินำไปพูดให้ที่ประชุมคณะกรรมการสหประชาชาติฟังเมื่อการประชุมใหญ่ไม่นานมานี้
ทุกปีที่มีพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ มีการหว่านพันธุ์ข้าวลงในนาจำลองท้องสนามหลวง หลังจากนั้น ประชาชนต่างกรูเข้าไปในบริเวณหว่านข้าวเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวนั้น ทั้งนำไปเป็นพันธุ์ข้าวมงคลสำหรับนาตัวเอง บางคนเก็บได้นำมาจำหน่ายให้ผู้ที่ต้องการ
เมล็ดพันธุ์ข้าวที่หว่านในแต่ละปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาแบ่งส่วนหนึ่ง นำมาผ่านกรรมวิธีทั้งทางศาสนาและพิธีพราหมณ์ แล้วบรรจุใส่ถุงขนาดย่อมถุงละจำนวนหนึ่งไม่มาก หน้าซองสีเหลีองพิมพ์ชื่อพันธุ์ข้าว ด้านหลังบอกสรรพคุณว่าข้าวชนิดนั้นเป็นข้าวที่มีคุณสมบัติอย่างไร
พันธุ์ข้าวที่นำไปเป็นพันธุ์ข้าวในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญแบ่งไว้สำหรับแจกจ่ายให้ชาวนานำไปผสมกับพันธุ์ข้าวปลูกเพื่อเป็นมงคล
ข้าวไทยยังมีพันธุ์ทั้งดั้งเดิม และที่ขยายพันธุ์ ปรับเปลี่ยนพันธุ์ และจัดแต่งพันธุ์ใหม่เพื่อให้ได้ผลเมล็ดข้าวเพิ่มขึ้น ให้พันธุ์ข้าวมีคุณภาพดีขึ้น เช่น พันธุ์ข้าว ปทุมธานี กข หรือพันธุ์ข้าวหอมมะลิ พันธุ์ข้าวสังข์หยด แม้แต่พันธุ์ข้าวดั้งเดิม เช่น พันธุ์ข้าวหอมบางคล้า พันธุ์ข้าวเสาไห้ ฯลฯ
ในงานไม่เพียงแต่พันธุ์ข้าวมงคล พืชผลของพ่อ เท่านั้น ยังมีข้าวสารอาหารแห้ง อาหารการกิน พืชพันธุ์ธัญญาหารอย่างอื่นจำหน่ายด้วย
แวะไปให้ได้นะครับที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ วันพฤหัสบดีที่ 24-วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2559 เวลา 10.00-20.00 น.
ระหว่างนี้ ที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน “มติชน อคาเดมี” ยังมีหลักสูตรฝึกอาชีพอีกหลายหลักสูตร เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสเข้ารับการฝึกอาชีพหารายได้เสริม ปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ มีความรู้ในรื่องการทำมาหากินไว้บ้าง โดยเฉพาะเรื่องอาหาร
ตั้งแต่กลางเดือนนี้ถึงปลายเดือน พบกับการประกอบอาหารหลายประเภท ทั้งอาหารและขนม
ที่ยังเปิดสอนวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน คือ ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ ปีกไก่ตุ๋น มะระตุ๋น เต้าหู้กรอบ ผู้สอนคือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม ในราคา 2,140 บาท
เครปญี่ปุ่นร้านต้นกล้า (สวนดุสิต) ผู้สอนคือ อาจารย์ปวีณา รุ่งแสง ราคา 2,140 บาท
และกล้วยปิ้งขั้นเทพ ผู้สอนคือ อาจารย์ปัญญา แซ่เฮง ราคา 1,605 บาท
ทั้ง 3 รายการใช้เวลาฝึกเพียงวันเดียว รับรองได้ผลนำไปประกอบอาชีพได้ ยิ่งมีความชำนาญเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ อาหารที่ทำขึ้นยิ่งอร่อยมากขึ้นเท่านั้น
การฝึกอาชีพอีกประเภทหนึ่ง เป็นงานช่าง ผู้ที่เข้ารับการฝึกอาชีพช่างจบแล้วออกไปประกอบอาชีพได้
สนใจสอบถามวันเวลาเปิดฝึกอาชีพได้ที่
โทรศัพท์ (02) 954-3977-84 ต่อ 2123, 2124 โทรศัพท์มือถือ (082) 993-9097, (082) 993-9105
หรือที่ https://www.facebook.com/Matichon.Academy.Thailand
เศรษฐกิจทุกวันนี้ทุกคนรู้ว่าฝืดเคืองมาก แม้ผู้เป็นมนุษย์เงินเดือนยังมีรายได้ประจำสม่ำเสมอ ขณะที่ราคาสินค้า โดยเฉพาะอาหารการกินประจำวัน บางย่านราคาเพิ่มสูงขึ้นคิดเป็นจานละ 5-10 บาท บางร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบ เพิ่มราคาเป็นจานละ 50 บาท แต่มีปริมาณอิ่ม แถมยังมีไข่พะโล้ให้อีกฟองหนึ่ง
ถามว่าเมื่อเพิ่มปริมาณแล้ว อิ่มไหม ตอบได้ว่า “อิ่ม” กับกระเพาะของคนทั่วไป ส่วนของผู้สูงอายุต้องบอกว่าเกิน ขณะที่ราคา 50 บาท เท่ากับครึ่งร้อยเข้าไปแล้ว
เมื่อก่อนหน้านี้เพียงสองสามเดือน ยังพอจะเจียดสตางค์ที่เก็บออมไว้เดือนหนึ่งหรือสองเดือน พาครอบครัวออกไปกินข้าวนอกบ้านได้สักมื้อหนึ่ง แต่วันนี้เห็นจะต้องปรับเพิ่มเป็น 3 เดือนหรือ 4 เดือน ต่อมื้อ
ยิ่งผู้ที่กินเงินเดือนของภาคเอกชนที่ประกอบอาชีพบางประเภท ภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองอย่างนี้ นัยว่าเริ่มมีการ “เลย์ออฟ” พนักงานบ้างแล้ว ด้วยการจ่ายก่อนเกษียณ เพื่อรักษากิจการเอาไว้ให้ได้
พนักงานหลายคนยินดีที่จะออกจากงานก่อนกำหนด เพื่อรับเงินก้อนหนึ่งไม่มากไม่น้อยเพื่อเอาไปเป็นทุนประกอบธุรกิจส่วนตัว ทั้งที่ทำอยู่แล้ว และที่หาช่องทางใหม่
การออกไปประกอบอาชีพส่วนตัวมีหลายประเภท หากทุกคนต่างยินดีที่จะหางานทำด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเป็นงานที่ตัวเองเป็นเจ้าของกิจการ หรือเป็นงานที่ตัวเองเป็นนายจ้างตัวเอง ไม่ต้องมีลูกน้องก็ได้ เช่น งานช่างหลายประเภท เมื่อมาผ่านการเรียนฝึกอาชีพออกไปแล้วไปเป็นลูกมือของเจ้าของกิจการสักพักหนึ่ง เรียนรู้ทั้งการทำงานประเภทนั้น การคิดราคา ระยะเวลา และความต้องการของนายจ้าง ไม่นาน รับรองมีโอกาสออกมาเป็นเจ้าของงานของตัวเองได้
ทุกวันนี้ ถึงอย่างไรหมู่บ้านไม่มีวันลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น อาชีพหนึ่งที่ขาดแคลน คืออาชีพสารพัดช่าง ตั้งแต่ช่างไฟฟ้าอย่างง่าย เปลี่ยนหลอดไฟฟ้า เดินสายไฟฟ้า ช่างประปา เปลี่ยนก๊อกประปา ซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ แม้แต่ซ่อมเครื่องโทรศัพท์มือถืออย่างง่าย หากตั้งตัวเป็นช่างเคลื่อนที่ มีหมายเลขโทรศัพท์ให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเดินแจกในหมู่บ้าน หรือติดไว้ตามเสาไฟฟ้า รับรองว่ามีงานทำแน่
สนนราคาเรียนรู้จากผู้เป็นเจ้าของกิจการประเภทนี้ รับรองว่ามีปริมาณงานพอทั้งวัน
งานอีกประเภทหนึ่งที่ขาดแคลน คืองานผู้ช่วยแม่บ้าน แม้จะเป็นงานทั้งวัน สำหรับผู้ที่สู้งาน แต่รายได้งาม เดือนละอย่างน้อย 8,000-10,000 บาท มีที่พัก อาหารการกิน หลายบ้านมีค่าอาหารเพิ่มให้เป็นพิเศษ บางบ้านไม่ต้องออกไปหาซื้อกินเอง กินอาหารที่เจ้าของบ้านรับประทานไม่หมด รับรองว่าคุ้ม อร่อยด้วย
เรื่องหนึ่งที่คนทำงานต้องไม่ลืม คือการเก็บออม
ถามว่าทำไมต้องเก็บออม ในเมื่อเดือนหนึ่งรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง
ขอบอกว่า ผู้ช่วยแม่บ้านที่เป็นคนเมียนมา มีรายได้เดือนละ 10,000 บาท แทบว่าไม่ต้องใช้จ่าย หรือใช้จ่ายไม่มาก ปีหนึ่งมีเงินเก็บหลายหมื่นบาท ส่งให้ทางบ้านซื้อที่ดิน วันกลับไปบ้านมีทั้งที่ทั้งบ้าน เชื่อไหม