ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–13 กรกฎาคม 2016

– ได้รับใบอนุญาตให้บริการการสื่อสาร เพื่อให้บริการไอซีทีโซลูชั่นส์แบบเบ็ดเสร็จ

เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น (เอ็นทีที คอม) ผู้ให้บริการด้านไอซีทีโซลูชั่นส์และการสื่อสารระหว่างประเทศในเครือของเอ็นทีที (NYSE: NTT) ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทได้รับใบอนุญาตให้บริการเครือข่ายจากกระทรวงคมนาคมและการสื่อสารของประเทศพม่า และได้เริ่มที่จะให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงและน่าเชื่อถือสำหรับบริษัทต่างๆ ในย่างกุ้งในช่วงแรก และมีผลทันที

บริการดิจิ-พาท พรีเมียร์ให้บริการวงจรอยู่ที่ 1Mbps เพื่อเชื่อมบริษัทต่างๆ ไว้กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของโลกของเอ็นทีที คอม บริการเสริมรวมไปถึงไอพีแดเดรสในเครือข่ายทั่วโลก เว็บโฮสติ้ง เมลโฮสติ้ง เราเตอร์ให้เช่า ไฟร์วอลล์ที่ได้รับการบริหารจัดการ อินเทอร์เน็ตวีพีเอ็น และการรับส่งไฟล์

สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการเครือข่ายในย่างกุ้ง ประเทศพม่าได้ที่ http://www.ntt.com/en/about-us/press-releases/news/article/2016/20160713.html

ประโยชน์ของบริการการเชื่อมต่อของเอ็นทีที คอม มีดังนี้:
– สภาพแวดล้อมการสื่อสารที่น่าเชื่อถือมาก
– ดิจิ-พาท พรีเมียร์รับประกันสภาพแวดล้อมการสื่อสารอย่างรวดเร็วและน่าเชื่อถือที่จะเชื่อมต่อสำนักงานต่างๆ กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโลกของเอ็นทีที คอม ผ่านทางช่องสัญญาณวงจรไฟเบอร์ออพติก และระบบเครือข่าย redundant backbone หรือเส้นทางหลักที่ใช้ในการส่งข้อมูลที่มีความเสถียรด้วยระบบสำรอง
– มีการส่งมอบอย่างรวดเร็ว
– เอ็นทีที คอม บริหารวงจรอย่างเต็มรูปแบบจากสำนักงานของลูกค้าไปยังเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของโลก สามารถใช้เวลาส่งมอบเพียง 1 เดือน หากเปรียบเทียบกับรูปแบบเดิมที่กินเวลาถึง 6 เดือน
– ดิจิ-พาท พรีเมียร์ให้บริการมอร์นิเตอร์วงจรตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหากเกิดปัญหาขัดข้องใดๆ ขึ้น สามารถให้บริการแก้ไขวงจรได้อย่างทันท่วงทีเพื่อลดผลกระทบที่จะมีต่อบริษัทของลูกค้า

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดิจิ-พาท พรีเมียร์ รวมไปถึงกระบวนการการใช้งาน บริการเสริมต่างๆ ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นและรายเดือน กรุณาติดต่อเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ย่างกุ้ง (ภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่นและพม่า) ตามที่อยู่ด้านล่าง:

เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ย่างกุ้ง
#1504, 15th Floor, Sakura Tower
339, Bogyoke Aung San Road, Kyauktada Township, Yangon, Myanmar
โทร: +95-1-255-032 / ygn-all@nttc.com.mm

ขณะนี้ เอ็นทีที คอมให้บริการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้กับบริษัทต่างๆ ทั่วโลก รวมไปถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 7 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม กัมพูชา และพม่า

พม่ามีบทบาทมากขึ้นในด้านเศรฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงของประเทศจากการปกครองของรัฐบาลทหารมาเป็นในรูปแบบประชาธิปไตยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2011 บริษัทระหว่างประเทศจำนวนมากต่างเข้ามาในตลาดพม่าและมีความต้องการในบริการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบรวดเร็วและน่าเชื่อถือ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ย่างกุ้ง เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2012 เพื่อให้บริการโซลูชั่นส์ด้านไอซีทีที่ได้รวบรวมเอาเครือข่ายต่างๆ ของโลก ระบบแบบบูรณาการและความปลอดภัยทั่วประเทศพม่า รวมทั้งการให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งแต่ก่อนเคยให้บริการเพียงผู้เช่าในอาคารซากุระในย่างกุ้งที่เป็นอาคารสำนักงานของบริษัทระหว่างประเทศเพียงเท่านั้น แต่ขณะนี้ครอบคลุมไปทั่วประเทศแล้ว

เกี่ยวกับเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ให้บริการคำปรึกษา สถาปัตยกรรม ความปลอดภัยของข้อมูล และบริการคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขององค์กรธุรกิจ บริการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงเครือข่ายชั้นนำ Global Tier-1 IP อย่าง Arcstar Universal One(TM) VPN ซึ่งครอบคลุมถึง 196 ประเทศ/ดินแดน และศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัย 140 แห่งทั่วโลก โซลูชั่นของ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ใช้ทรัพยากรของกลุ่มบริษัท เอ็นทีที ทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Dimension Data, NTT DOCOMO และ NTT DATA

www.ntt.com | Twitter@NTT Com | Facebook@NTT Com | LinkedIn@NTT Com

ติดต่อ:
สื่อมวลชน ติดต่อ
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น
(Mr.) Kuroda / (Mr.) Hayashi, +81 3 6733 0018
Global Business Department
apacbiz-gl@ntt.com
หรือ
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด
(Mr.) Sakemi / (Ms.) Tamura, +66 2 236 7227
Mekong Business Department
mekong@ntt.co.th
หรือ
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ สำนักงานย่างกุ้ง
(Mr.) Watanabe / (Ms.) Ohnmar Min, +95 1 255 032
ygn-all@nttc.com.mm

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

วอชิงตัน–(บิสิเนส ไวร์)—12 กรกฎาคม 2016

– คณะอนุญาโตตุลาการปฏิเสธคำเรียกร้อง “เส้นประ 9 เส้น” ของจีนและสนับสนุนสิทธิในเขตทางทะเลของฟิลิปปินส์

คณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศวันนี้สนับสนุนข้อเรียกร้องของฟิลิปปินส์อย่างเป็นเอกฉันท์ ในกรณีการระงับข้อพิพาทระหว่างฟิลิปปินส์กับจีน ทางคณะฯ ปฏิเสธข้อเรียกร้องของจีน ที่อ้าง “สิทธิทางประวัติศาสตร์” เหนืออาณาเขตทางทะเลที่เรียกว่า “เส้นประ 9 เส้น” ว่าไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาแห่งสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (U.N. Convention on the Law of the Sea)

กรณีดังกล่าวได้รับความสนใจจากทั่วโลก เนื่องจากเป็นกรณีสำคัญที่จีนอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้กว่า 90% ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทะเลที่สำคัญของโลก เป็นสถานที่ที่เรือพาณิชย์กว่า 50% ต้องแล่นผ่านในแต่ละปี

สำนักกฎหมาย Foley Hoag LLP จับมือกับทนาย Paul Reichler, Lawrence Martin และ Andrew Loewenstein ในการนำทีมกฎหมายของฟิลิปปินส์ “การตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์นี้ไม่เพียงปกป้องสิทธิของฟิลิปปินส์ดังที่ได้ร้องเรียนมา แต่ยังให้ความกระจ่างในเรื่องของสิทธิทางกฎหมายของคู่กรณี และข้อผูกมัดและเงื่อนไขต่างๆ ที่อยู่ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยกฎหมายทะเลที่พวกเขาและอีกกว่า 180 ประเทศสมาชิกลงนามเป็นภาคีอนุสัญญานี้,” Reichler กล่าว

“คำวินิจฉัยของคณะฯ ไม่เพียงส่งผลประโยชน์ต่อฟิลิปปินส์เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อประเทศอื่นๆ ที่มีพรมแดนติดทะเลจีนใต้ เช่นอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม” Reichler กล่าวเพิ่มเติม “ถ้าเส้นประ 9 เส้นของจีนถือเป็นโมฆะสำหรับฟิลิปปินส์ ก็ถือว่าเป็นโมฆะกับประเทศอื่นๆ เช่นกัน”

องค์คณะผู้พิพากษา 5 คนร่วมประชุมหารือกันในปี 2013 ในภาค VII ของอนุสัญญาว่าด้วยกฎหมายทะเล ซึ่งประกอบไปด้วยผู้มีอำนาจระดับโลกในเรื่องกฎหมายทะเล และมี Thomas Mensah จากประเทศกานาเป็นประธาน ซึ่งเป็นอดีตประธานคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเล ในฮัมบูร์ก เยอรมนี และยังประกอบไปด้วยผู้พิพากษาอีก 3 ท่านในศาลนั้น (จากประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์) รวมทั้งอดีตผู้อำนวยการจาก Netherlands Institute for the Law of the Sea

“มันเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมาย ที่อนุญาโตตาการที่น่าเชื่อถือเหล่านี้มาร่วมกันวินิจฉัยกฎหมายทะเลกรณีนี้” Reichler กล่าว “และเรา (Foley Hoag) ก็ได้มีส่วนร่วมกับแทบทุกท่าน”

ฟิลิปปินส์เริ่มกระบวนการอนุญาโตตุลาการขึ้นในเดือนมกราคม 2013 หลังจากที่ประเทศจีนอ้างสิทธิอาณาเขตกว่า 90% ของทะเลจีนใต้ว่าเป็นของจีน รวมไปถึงทรัพยากรในพื้นที่ทะเลทั้งหมด และไม่อนุญาตให้ฟิลิปปินส์เข้ามาตกปลาหรือเสาะหาน้ำมัน แม้แต่ในบริเวณที่ใกล้ชายฝั่งของฟิลิปปินส์ ซึ่งการอ้างสิทธิของจีนตามแผนที่เส้นประ 9 เส้นนั้น ถูกต่อต้านและไม่เป็นที่ยอมรับจากประเทศเพื่อนบ้านของจีนแต่อย่างใด

ฟิลิปปินส์ร้องขอให้พิจารณากำหนดโทษกับจีนที่ได้ละเมิดสิทธิของฟิลิปปินส์ในเรื่องเขต “เศรษฐกิจจำเพาะ” และไหล่ทวีป 200 ไมล์ทะเล; เรื่องไม่สามารถกำหนดเขตแดนทางทะเลห่างจากชายฝั่งของประเทศออกไปเกิน 12 ไมล์ทะเล; และเรื่องการสร้างเกาะเทียมของจีนที่ทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างใหญ่หลวงและเป็นการละเมิดกฎการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลอีกด้วย

แม้จีนปฏิเสธที่จะเข้าร่วมในการพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการ คณะอนุญาโตตุลาการยังคงเดินหน้าพิจารณาคดี บทบัญญัติที่เกี่ยวข้องในอนุสัญญาว่าด้วยกฎหมายทะเลที่จีนตกลงร่วมอนุมัติด้วยในปี 1996 ระบุไว้ว่าทุกฝ่ายยินยอมให้อนุญาโตตุลาการพิจารณาคดีต่อไปแม้ว่าคู่กรณีปฏิเสธที่จะปรากฏตัว

คณะอนุญาโตตุลาการสนับสนุนข้อเรียกร้องของฟิลิปปินส์ในทุกประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะในประเด็นกรรมสิทธิ์ถือครองน่านน้ำทะเลจีนใต้ ว่าจีน ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศอื่นๆ ไม่สามารถกำหนดเขตแดนทางทะเลได้มากกว่าที่ทางอนุสัญญากำหนดไว้ พร้อมทั้งยังระบุว่า คำร้องของจีนที่มีต่อ “สิทธิทางประวัติศาสตร์” ในทะเลจีนใต้ตามเส้นประ 9 เส้นนั้นขัดต่ออนุสัญญาและถือว่าเป็นโมฆะ

“คำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการในเรื่องเส้นประ 9 เส้นนั้นถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ รวมถึงคำวินิจฉัยเรื่องสิ่งแวดล้อมทางทะเล นี่เป็นครั้งแรกที่ศาลนานาชาติหรือคณะอนุญาโตตุลาการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ทนาย Lawrence Martin จาก Foley Hoag กล่าว “ประเทศต่างๆ ควรตั้งข้อสังเกตว่าพวกเขามีพันธสัญญากันในเรื่องการปกป้องและอนุรักษ์สภาพแวดล้อมทางทะเลในมหาสมุทรและทะเลบนโลกใบนี้”

ชัยชนะของฟิลิปปินส์ในครั้งนี้ เป็นผลพวงจากการที่อดีตประธานาธิบดี Begnino Aquino III และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ Albert del Rosario นำเรื่องยื่นต่อคณะอนุญาโตตุลาการและได้รับการดำเนินคดีจนประสบความสำเร็จ นอกจาก Foley Hoag LLP แล้ว ทางประเทศฟิลิปปินส์ยังมีผู้แทนคือศาสตราจารย์ Bernard Oxman จาก University of Miami ศาสตราจารย์ Philippe Sands QC จาก University College London และศาสตราจารย์ Alan Boyle จาก University of Edinburgh

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160712005801/en/

ติดต่อ:
Foley Hoag LLP Audra
Callananacallanan@foleyhoag.com

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–11 กรกฎาคม 2016

– เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ

Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) โรงแรมระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ กรุงโตเกียว จะเริ่มการปรับปรุงห้องสูท 11 ห้องและห้องคลับ 100 ห้อง พร้อมกับคลับเลาจน์สุดพิเศษบนชั้น 45 ของโรงแรม และเริ่มให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2016 นี้ โดยยกระดับด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ ให้ผู้เข้าพักได้พบประสบการณ์ที่มีความสุขและสะดวกสบาย สำหรับการปรับปรุงโรงแรมในครั้งนี้ใช้เงินไปถึง 2.5 พันล้านเยน

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์พร้อมมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/20160711005060/en/

Our brand-new exclusive Club Lounge on the 45th floor will have its grand opening in December. Guest will experience the ultimate in relaxation with comfort and relief, apart from the urban hustle and bustle. (Photo: Business Wire)
http://mms.businesswire.com/media/20160711005060/en/533848/5/EXECUTIVE_LOUNGE.jpg?download=1
คลับเลาจน์สุดพิเศษบนชั้น 45 จะเปิดให้ใช้บริการได้ในเดือนธันวาคม ซึ่งผู้เข้าพักจะได้รับความผ่อนคลาย ความสะดวกสบาย หลีกหนีความวุ่นวายจากในเมืองได้เป็นอย่างดี (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

ห้องพักจำนวน 111 ห้องบนชั้น 37-41 จะได้รับการปรับปรุงใหม่ ควบคู่ไปกับการก่อสร้างของคลับฟลอร์และคลับเลาจน์ชั้นบนสุดของอาคารหลักของโรงแรม การปรับปรุงนี้จะรวมไปถึงการสร้างห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสถึงบรรยากาศแห่งความผ่อนคลายแม้โรงแรมจะตั้งอยู่ในใจกลางเมือง คลับเลาจน์บนชั้น 45 ของโรงแรมจะเป็นบริเวณที่ผู้เข้าพักสามารถเช็คอิน และเช็คเอาท์ พร้อมได้รับบริการอาหารเช้า อาหารว่างและอาหารกินเล่นต่างๆ รวมไปถึงค็อกเทลและเครื่องดื่มนานาชนิด พนักงานที่เป็นมิตรจะให้บริการสุดพิเศษและการต้อนรับขับสู้อย่างอบอุ่นให้กับลูกค้าของโรงแรม

Keio Plaza Hotel พัฒนาและปรับปรุงโรงแรมอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อยกระดับแห่งประสบการณ์ให้กับลูกค้า ห้องจัดเลี้ยงบนชั้น 47 ได้รับการปรับปรุงในเดือนกันยายน 2015 โดยติดตั้งระบบใหม่ และยกระดับคุณภาพสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับการประชุมขององค์กร การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุมนานาชาติ และการจัดแสดงสินค้า (MICE) นอกจากนั้น การปรับปรุงห้องพักในอาคารตอนใต้จำนวน 450 ห้องที่เริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 2013 ก็แล้วเสร็จพร้อมได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้เข้าพัก ในปีนี้เป็นปีที่โรงแรมเฉลิมฉลองครบ 45 ปี ห้องสูทชั้นบนของโรงแรมจะได้รับการปรับปรุงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิกที่กำลังจะมาถึงในปี 2020 รวมไปถึงการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของ Keio Plaza Hotel ในปี 2021 และอื่นๆ อีกมากมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ ของโรงแรม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.keioplaza.com หรือติดตามเราทางยูทูบ เฟซบุ๊กและอินสตาแกรม

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160711005060/en/

ติดต่อ:
Keio Plaza Hotel Tokyo
Sunaho Nakatani, +81-3-5322-8113
Public Relations Manager
s-nakatani@keioplaza.co.jp

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

กรีนวูดวิลเลจ, โคโลราโด–(บิสิเนส ไวร์)–11 กรกฎาคม 2016

– สำนักงานแห่งใหม่เป็นการลงทุนของกลุ่ม Selling Simplified Group เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจในภาคส่วนคุณภาพของข้อมูลการตลาด

ด้วยหลักยึดและความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพของข้อมูลการตลาดสำหรับทีมนักขายและนักการตลาด Acquiro ซึ่งเป็นผู้ให้โซลูชั่นด้านเทคโนโลยีทางการตลาดที่ได้เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ ได้ประกาศเปิดตัวสำนักงานแห่งใหม่ที่ประเทศสิงคโปร์ Acquiro ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Selling Simplified Group (SSG) ได้ถือกำเนิดขึ้นด้วยพันธกิจในการนำโซลูชั่นด้านคุณภาพของข้อมูลการตลาดมาใช้ เพื่อเพิ่มรายรับให้กับองค์กรต่างๆ อย่างมหาศาล ด้วยการตรวจสอบและเพิ่มความสำคัญกับข้อมูลของลูกค้า

การขยายออกไปสู่ตลาดโลกของ SSG นี้เกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทต่างๆ ในทวีปเอเชียแปซิฟิคมีความต้องการเพิ่มขึ้นในเรื่องข้อมูลการตลาดที่ถูกต้องและสมบูรณ์ แม้ว่า SSG จะได้รับการจัดตั้งเป็นทีมนักขายที่ช่วยเหลือและเชี่ยวชาญในธุรกิจการเผยแพร่เนื้อหาไปยังสื่อภายนอก (content syndication) ให้กับองค์กรต่างๆ ในทวีปนี้ แต่การเปิดตัวของ Acquiro เป็นการต่อยอดและขยายโอกาสของผลิตภัณฑ์แบรนด์ใหม่ LeadFUSION ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์โซลูชั่นข้อมูล Software-as-a-Service (SaaS)

“เราเชื่อว่าบริษัทต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิคมีความต้องการเป็นอย่างมากที่จะจัดการปัญหาของตนเองเกี่ยวกับคุณภาพของข้อมูลที่เป็นตัวขัดขวางการเติบโตของรายได้” Michael Whife ซีอีโอของ Acquiro กล่าว “Acquiro LeadFUSION Suite ของเราเป็นโซลูชั่นคุณภาพข้อมูลการขายเพียงรายเดียวในตลาดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในภูมิภาคนี้รวมถึงในสหรัฐอเมริกา”

เกี่ยวกับ Acquiro
Acquiro ซึ่งเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2016 เป็นส่วนหนึ่งของ Selling Simplified Group (SSG) องค์กรที่ก่อตั้งในปี 2012 ซึ่งเป็นองค์กรของเหล่าผู้ชำนาญวิชาเทคโนโลยีในด้านการขายและการตลาด ผู้มุ่งมั่นในการช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ในเรื่อง sale funnel หรือระบบคัดกรองกลุ่มลูกค้า และเพื่อเพิ่มรายรับของบริษัทได้อย่างรวดเร็ว พันธกิจของพวกเราคือทำการขายให้เป็นเรื่องง่ายไม่ซับซ้อน เพื่อให้ทีมขายสามารถปิดการขายและเพิ่มยอดขาย โดยช่วยให้ทั้งระบบนั้นเพียบพร้อมไปด้วยลูกค้าที่มีคุณภาพ มีความพร้อมในการซื้อขาย และสามารถรักษาไว้ได้ การยึดมั่นในพันธกิจนี้ ทำให้ Acquiro ถือกำเนิดขึ้นเพื่อมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อนำเอาโซลูชั่น SaaS ที่ล้ำสมัยมาใช้เพื่อพัฒนาข้อมูลการขายที่มีคุณภาพและช่วยเพิ่มรายได้ของลูกค้าได้อย่างมหาศาล Acquiro เป็นองค์กรระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรีนวูดวิลเลจ รัฐโคโลราโด และมีสำนักงานอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ลอนดอน สิงคโปร์ และปูเน่ ประเทศอินเดีย

http://www.acquiro.com

ติดต่อ:
AcquiroDean Hidalgo, +1 720-638-8510
dhidalgo@acquiro.com

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160711005277/en/

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–11 กรกฎาคม 2016
– สำหรับการควบคุมกระแสไฟสูง 1.5A และอุณหภูมิสูง 110 องศาเซลเซียส
บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company) ในเครือของ โตชิบา คอร์ปอเรชั่น (Tokyo:6502) ประกาศเปิดตัวโฟโต้รีเลย์ในรูปแพ็กเกจที่เล็กที่สุดในวงการ โดยเริ่มการส่งออกในวันนี้

รับชมข่าวสารแบบมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/20160710005090/en/

http://mms.businesswire.com/media/20160710005090/en/534026/5/TOSHIBA_TLP3406S_160711.jpg?download=1
โตชิบา: โฟโต้รีเลย์สำหรับเครื่องวัดเซมิคอนดักเตอร์ในแพ็กเกจที่เล็กที่สุด (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

ผลิตภัณฑ์ใหม่ “TLP3406S” นี้ ใช้แพ็กเกจที่สุดในวงการสำหรับโฟโต้รีเลย์ คือแพ็กเกจ S-VSON4 ที่โตชิบาเป็นผู้พัฒนาขึ้น หากเปรียบกับผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนที่โตชิบาเป็นผู้คิดค้น คือแพ็กเกจ VSON4 นั้น แพ็กเกจรุ่นใหม่นี้จะมีขนาดเล็กกว่าเดิม 22.5% ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาเทสต์บอร์ดที่เล็กกว่าและสามารถช่วยเพิ่มจำนวนของโฟโต้รีเลย์บนบอร์ดได้เพื่อเพิ่มความหนาแน่น

เนื่องจากโฟโต้รีเลย์รุ่นใหม่นี้แม้จะมีขนาดแพ็กเกจที่เล็ก แต่สามารถผลักกระแสไฟสูงถึง 1.5A มันจึงสามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ DPS ที่ใช้ประกอบวงจรแหล่งจ่ายไฟในเครื่องวัดที่หลากหลายได้ และยิ่งไปกว่านั้น อุณหภูมิการใช้งานได้รับการเพิ่มขึ้นจากที่มากสุดได้ที่ 85 องศาเซลเซียส เป็น 110 องศาเซลเซียส

แอพพลิเคชั่นหลัก
ATE (Automatic Test Equipment), เครื่องวัดความจำ, เครื่อวัด SoC/LSI และ probe card

คุณสมบัติหลัก

           หมายเลขชิ้นส่วน:  TLP3406S  
           VOFF  ION   RON  	RON    	COFF     CxR  		IOFF   tON  	tOFF   BVs
           (min.)(max.)(typ.)	(max.) 	(typ.) pF・Ω (typ.) 	(max.) (max.) (max.) (min.) 
           30V  1.5A  0.1Ω  	0.2Ω    	120pF     7.2		1nA@20V 2ms   1ms    500Vrms  

หมายเหตุ
[1]สำหรับผลิตภัณฑ์โฟโต้รีเลย์ ณ วันที่ 11 กรกฎาคม 2016 จากการเก็บข้อมูลของโตชิบา
[2]แพ็กเกจ S-VSON4: 2.00 มิลลิเมตร ×1.45 มิลลิเมตร
แพ็กเกจ VSON4: 2.45 มิลลิเมตร ×1.45 มิลลิเมตร

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่: http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/opto/photocoupler/photorelay.html

ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามได้ที่:
Optoelectronic Device Sales & Marketing Department
โทร: +81-3-3457-3431
http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาการบริการและข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบา
โตชิบา คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัท Fortune Global 500 นำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันล้ำสมัย รวมถึงระบบต่างๆ ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ พลังงาน (Energy) เพื่อทุกวันของชีวิตที่สะอาดและปลอดภัยขึ้นอย่างยั่งยืน, โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และการจัดเก็บข้อมูล (Storage) เพื่อสนับสนุนสังคมแห่งข้อมูลข่าวสารที่ก้าวล้ำ โตชิบาส่งเสริมการดำเนินงานทั่วโลก และสนับสนุนการสร้างสรรค์โลกเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนรุ่นต่อๆ ไป ภายใต้รากฐานความมุ่งมั่นของโตชิบา กรุ๊ป ที่ว่า “ความมุ่งมั่นต่อประชากร, ความมุ่งมั่นต่ออนาคต”

โตชิบาก่อตั้งขึ้นในโตเกียวเมื่อปี 1875 และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของกลุ่มบริษัทในเครือกว่า 550 แห่ง ด้วยจำนวนพนักงาน 188,000 คนทั่วโลก และยอดขายต่อปีกว่า 5.6 ล้านล้านเยน (5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2016)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโตชิบาได้ที่ www.toshiba.co.jp/index.htm

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160710005090/en/

ติดต่อ:
สำหรับสื่อมวลชน
โตชิบา คอร์ปอเรชั่น
บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company)
Koji Takahata, +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

โตเกียว—(บิสิเนส ไวร์)—8 กรกฎาคม 2559

– สำหรับกระแสไฟ 1.7A ถึง 4A ในแพ็กเกจ 2.54SOP4 และ 2.54SOP6

บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company) ในเครือของ โตชิบา คอร์ปอเรชั่น (Tokyo:6502) ประกาศเปิดตัวโฟโต้รีเลย์สำหรับควบคุมกระแสไฟสูง สำหรับกระแสไฟ 1.7A ถึง 4A ในแพ็กเกจขนาดเล็ก 2.54SOP4 และ 2.54SOP6 โดยเริ่มส่งออกขายตั้งแต่วันนี้ ผลิตภัณฑ์มีหมายเลขชิ้นส่วน TLP3106, TLP3107, TLP3109 และ TLP3127 มีแอพพลิเคชั่นคือ PLC (programmable logic controller) หรือหน่วยประมวลผลที่สามารถโปรแกรมได้ BMS (battery management system) หรือระบบจัดการแบตเตอร์รี่ และอินเวอร์เตอร์ระบบโรงงานอัตโนมัติ (factory automation inverter) โดยโฟโต้รีเลย์รุ่นใหม่นี้ใช้อุปกรณ์กึ่งตัวนำ หรือ MOSFETs ที่ได้รับการพัฒนาล่าสุดของโตชิบาในการควบคุมกระแสไฟฟ้าสูงในระดับที่เทียบเท่ากับที่ควบคุมโดยรีเลย์แบบแมคคานิคส์[1] ซึ่งหากเปรียบกับรีเลย์แบบแมคคานิคส์ที่มีระบบที่เป็นกลไกนั้น โฟโต้รีเลย์ได้รับการพัฒนากว่าโดยทำให้เกิดเสียงที่ค่อยกว่าและไม่เกิดอุปสรรคใดๆ ในการใช้งาน

สำหรับผลิตภัณฑ์ 2A ตัวใหม่นี้ หรือ TLP3109 ใช้แพ็กเกจ 2.54SOP6 ที่ลดขนาดไป 40% และความสูงไปประมาณ 50% หากเทียบกับผลิตภัณฑ์โตชิบาแพ็กเกจแบบ DIP รุ่นก่อนหน้านี้ ขนาดที่เล็กกะทัดรัดจะช่วยให้ติดที่พื้นหลังของแผ่นวงจรพิมพ์ได้ (printed circuit board) และสามารถใช้กับเซ็ตที่มีขนาดเล็ก ผลิตภัณฑ์ที่ออกมานั้นยังประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่ปลายขั้วต่อสายไฟ หรือ blocking voltage สูงถึง 100V สำหรับการใช้งานที่หลากหลาย

คุณสมบัติหลัก

(@Ta=25℃)

           หมายเลขชิ้นส่วน   	แพ็กเกจ    	 Absolute Maximum Ratings    		RON typ.  IOFF max.

				           VOFF 		ION 		BVS		(Ω) 		(nA)

				           (V) 		(A) 		(Vrms) 

   
           TLP3106   	  		30   		4   				0.02   
           TLP3107    	2.54SOP6 	60  		3.3    			0.03   	20  	
           TLP3109    			100   		2    		1500  		0.04   
           TLP3127     	2.54SOP4    	60     	1.7        			0.08   	10  

   

หมายเหตุ
[1] ความจุน้อย รีเลย์แบบแมคคานิคส์ขนาดเล็ก สำหรับแผ่นวงจรพิมพ์ (printed circuit board)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ที่:
http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/opto/photocoupler/photorelay.html

ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามได้ที่:
Optoelectronic Device Sales & Marketing Department
โทร: +81-3-3457-3431
http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาการบริการและข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบา
โตชิบา คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัท Fortune Global 500 นำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันล้ำสมัย รวมถึงระบบต่างๆ ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ พลังงาน (Energy) เพื่อทุกวันของชีวิตที่สะอาดและปลอดภัยขึ้นอย่างยั่งยืน, โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และการจัดเก็บข้อมูล (Storage) เพื่อสนับสนุนสังคมแห่งข้อมูลข่าวสารที่ก้าวล้ำ โตชิบาส่งเสริมการดำเนินงานทั่วโลก และสนับสนุนการสร้างสรรค์โลกเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนรุ่นต่อๆ ไป ภายใต้รากฐานความมุ่งมั่นของโตชิบา กรุ๊ป ที่ว่า “ความมุ่งมั่นต่อประชากร, ความมุ่งมั่นต่ออนาคต”

โตชิบาก่อตั้งขึ้นในโตเกียวเมื่อปี 1875 และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของกลุ่มบริษัทในเครือกว่า 550 แห่ง ด้วยจำนวนพนักงาน 188,000 คนทั่วโลก และยอดขายต่อปีกว่า 5.6 ล้านล้านเยน (5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2016)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโตชิบาได้ที่ www.toshiba.co.jp/index.htm

http://mms.businesswire.com/media/newsItemId/en/533850/4/TOSHIBA_PHOTORELAY_254SOP46_160708.jpg
โตชิบา:โฟโต้รีเลย์สำหรับควบคุมกระแสไฟสูง ในแพ็กเกจขนาดกะทัดรัด 2.54SOP4 และ 2.54SOP6 (รูปภาพ:บิสิเนส ไวร์)

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
http://www.businesswire.com/news/home/20160708005167/en

ติดต่อ:
สำหรับสื่อมวลชน
โตชิบา คอร์ปอเรชั่น
บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company)
Koji Takahata, +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

แหล่งข้อมูล: โตชิบา คอร์ปอเรชั่น สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

วอคกิ้ง, สหราชอาณาจักร, โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–8 กรกฎาคม 2559

– เครือข่าย คลาวด์ การเชื่อมต่อข้อมูล และนวัตกรรมอื่นๆ ที่สุดล้ำในกีฬามอเตอร์สปอร์ต

วันนี้ McLaren-Honda ผู้นำในการแข่งขัน Formula 1 มากว่า 50 ปี และเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น ธุรกิจด้านไอซีทีโซลูชั่นและการสื่อสารระหว่างประเทศ ในกลุ่มธุรกิจเอ็นทีที (NYSE:NTT) ได้ประกาศขึ้นแท่นพันธมิตร 3 ปีจับมือกันในด้านเทคโนโลยี

ภายใต้ข้อตกลงนี้ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ได้ขึ้นแท่นเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีกับ McLaren-Honda ซึ่งเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ จะเป็นผู้ให้บริการด้านเครือข่าย คลาวด์ การเชื่อมต่อข้อมูล และนวัตกรรมอื่นๆ เพื่อสนองความต้องการของ McLaren ในด้านไอที เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในการสนับสนุนทีมนักแข่ง Formula 1

พันธมิตรเสริมทัพสร้างกลยุทธ์ด้านไอทีให้กับ McLaren

ในปีนี้ ทีม McLaren จะฉลองครบรอบ 50 ปีที่โลดแล่นในสนาม Formula 1 และการร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนเชิงกลยุทธ์ด้านไอทีที่จะมุ่งไปที่คลาวด์ การเคลื่อนที่ และการบริการที่มีคนเป็นศูนย์กลาง

Ron Dennis ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ McLaren Technology Group ที่รวมถึง McLaren-Honda ทีมด้วย ได้กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้ต้อนรับเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ มาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์พรีเมี่ยมและเทคโนโลยีระดับสูงของ McLaren-Honda ซึ่งเอ็นทีทีมีความเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีมายาวนานนับตั้งแต่ในยุคเริ่มต้นของโทรเลขในประเทศญี่ปุ่น ประกอบกับ McLaren มีความเกี่ยวเนื่องในด้านนวัตกรรมมานาน จึงเป็นการดีและเหมาะสมอย่างมากที่เราได้ร่วมมือกันกับผู้นำทางเทคโนโลยีสื่อสารที่ได้รับการก่อตั้งและเป็นที่ยอมรับนับถือ ที่เข้าใจพวกเราเป็นอย่างดีในการมุ่งพัฒนาด้านเทคนิคของเราอย่างไม่หยุดยั้ง

“เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ มีเครือข่ายที่เสถียรและมีสมรรถนะสูงที่จะทำให้ทีมของเราเข้าถึงระบบได้อย่างรวดเร็วฉับไว”

Tetsuya Shoji กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ กล่าวว่า “ผมตื่นเต้นที่เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ขณะนี้ได้เป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีกับ McLaren-Honda ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรมสำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก เทคโนโลยีต่างๆ ของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์นั้นกว้างใหญ่และครอบคลุม และความเยี่ยมยอดของ McLaren ใน Formula 1 ก็เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก เมื่อนวัตกรรมถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในดีเอ็นเอของทั้งสองบริษัท การจับมือเป็นพันธมิตรกันนั้นจะช่วยให้ McLaren-Honda ปรับเปลี่ยนวิธีการในการบริหารข้อมูลระหว่างการแข่งขัน Formula 1 และยกระดับการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต”

บริการเครือข่ายและคลาวด์สำหรับความเสถียรและสมรรถนะที่เข้าถึงได้

McLaren ต้องการเครือข่ายที่แข็งแรงไปทุกที่ทั่วโลกที่ได้ให้บริการและมีฐานวิเคราะห์อยู่ รวมไปถึงสำนักงานใหญ่ที่ McLaren Technology Centre ในวอคกิ้ง (สหราชอาณาจักร)

เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ จะให้บริการ Wide Area Network (WAN) และ Network Functions Virtualisation (NFV) ให้กับ McLaren ในหลายประเทศ รวมไปถึงสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ในระหว่างการแข่งขันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เครือข่ายนี้จะมีส่วนสำคัญในการให้การสนับสนุนการส่งผ่านข้อมูลแบบเรียลไทม์จากรถแข่งของ McLaren ไปยังทีมเทคโนโลยีและวิศวกรรมที่อยู่ในประเทศอังกฤษ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์จะรวมการบริหารจัดการบริการของทั้ง WAN และ LAN (Local Area Network) เข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้เครือข่ายนั้นมีความเสถียร เพื่อเพิ่มคุณภาพ ความเสถียร และความพร้อมในการใช้งานบริการไอซีที

เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์จะให้บริการ Enterprise Cloud 2.0 ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุง โดยจะเป็นแพลตฟอร์มที่ McLaren สามารถรับข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการแลกเปลี่ยนและบันทึกไว้ ด้วยโมเดล Pay-As-You-Go โดยบริการนี้ ผนวกกับการให้คำปรึกษาจากเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์และคลาวด์ เมเนจเมนท์ แพลตฟอร์ม (CMP) จะช่วยให้ McLaren มีโอกาสมากขึ้นในการวางกลยุทธ์ในการปรับเปลี่ยนด้านเทคโนโลยี

นอกจากนี้ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์และ McLaren จะทำงานร่วมกันในการสร้างสรรค์และเสาะหาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อนำมาเพิ่มสมรรถนะของทีม

เกี่ยวกับทีม McLaren-Honda Formula 1 นับตั้งแต่ปี 1963 McLaren Racing เป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จและเป็นผู้นำในการแข่งขัน Grand Prix สร้างสรรค์รถแข่ง Formula 1 ที่เรียกได้ว่าเป็นไอคอนในประวัติศาสตร์การกีฬา

จากจุดเริ่มต้นในเวิร์คชอปเล็กๆ ในนิว มัลเดน เมืองเซอร์เรย์ ที่ที่ Bruce McLaren ได้รวมทีมเล็กๆ มาช่วยในเรื่องออกแบบ สร้าง และแข่งรถที่เป็นชื่อของเขาเอง McLaren Racing ในตอนนี้ตั้งอยู่ที่ McLaren Technology Centre ที่มีชื่อเสียงในวอคกิ้ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของธุรกิจต่างๆ ของทีมและเป็นที่ทำงานของพนักงานกว่า 3,000 คน ซึ่งสำหรับองค์กรหนึ่งๆ นั้น การเติบโตได้ถึงขนาดนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยม และความสำเร็จทางด้านกีฬาขององค์กรนี้ก็ได้เติบโตมากเกินที่จะวัดได้นับตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการเริ่มต้นบริษัท

Bruce ได้นำทีมเข้ามาใน Formula 1 ที่ 1966 Monaco Grand Prix และนับตั้งแต่วันนั้น ไม่มีทีมใดใน Formula 1 ได้รับคะแนนรวม (182) ได้มากเท่า McLaren กว่า 50 ปีที่ได้เข้าแข่งขัน McLaren ยังได้ชัยชนะ Drivers’ Championships 12 ครั้ง และ Constructors’ Championships ถึง 8 ครั้ง นอกจากนี้ ทีมยังได้กวาดรางวัลมากมายใน North American CanAm สปอร์ตคาร์ซีรีส์ โดยคว้าชัยชนะถึง 43 ครั้งระหว่างปี 1967 และ 1972 ชนะใน Indy 500 ถึง 3 ครั้งระหว่างปี 1972 และ 1976 และคว้าชัยชนะจาก Le Mans 24 Hours ในปี 1995 อีกด้วย

ผู้คว้าชัยชนะมาให้กับทีม–Emerson Fittipaldi, James Hunt, Niki Lauda, Alain Prost, Ayrton Senna, Mika Hakkinen และ Lewis Hamilton ต่างเป็นนักแข่งรถที่มีชื่อเสียงและเป็นตำนานของกีฬามอเตอร์สปอร์ต

McLaren-Honda ทำแคมเปญ 2016 FIA Formula 1 World Championship โดยจับคู่กันระหว่างแชมป์ระดับโลก 2 สมัย (2005, 2006) อย่าง Fernando Alonso และแชมป์โลกปี 2009 Jenson Button ซึ่งพวกเขาขับรถแข่งรุ่น McLaren-Honda MP4-31

เกี่ยวกับเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ให้บริการคำปรึกษา สถาปัตยกรรม ความปลอดภัยของข้อมูล และบริการคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขององค์กรธุรกิจ บริการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงเครือข่ายชั้นนำ Global Tier-1 IP อย่าง Arcstar Universal One(TM) VPN ซึ่งครอบคลุมถึง 196 ประเทศ/ดินแดน และศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัย 140 แห่งทั่วโลก

โซลูชั่นของ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ใช้ทรัพยากรของกลุ่มบริษัท เอ็นทีที ทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Dimension Data, NTT DOCOMO และ NTT DATA http://www.ntt.com | Twitter@NTT Com | Facebook@NTT Com | LinkedIn@NTT Com

สำหรับสื่อมวลชน ติดต่อได้ที่:
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น
pr-eu@ntt.com
+44–(0) 207 977 1170
แหล่งข้อมูล: เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น

Ron Dennis (ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ McLaren Technology Group)/Tetsuya Shoji (กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์) (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
http://www.businesswire.com/news/home/20160708005158/en

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

อีเดน แพรรี, มินนิโซตา–(บิสิเนส ไวร์)–8 กรกฎาคม 2559

C.H. Robinson ผู้นำของโลกในด้านการให้บริการงานโลจิสติกส์แบบบุคคลที่ 3 ได้รับเลือกให้เป็นเบอร์ 1 โดยผู้อ่านนิตยสาร Inbound Logistics ติดต่อกันเป็นปีที่ 6

“พวกเราต่างมุ่งมั่นในการให้บริการและโซลูชั่นต่างๆ แก่ลูกค้า ผู้ให้บริการขนส่ง ผู้ผลิต เกษตรกร เพื่อให้ห่วงโซ่อุปทานของพวกเขามีความได้เปรียบทางการแข่งขัน” John Wiehoff ประธานกรรมการบริหารของ C.H. Robinson กล่าว “เกียรติยศที่ได้รับในครั้งนี้เป็นของพนักงานของเราทุกคนทั่วโลกกว่า 13,000 คนที่แสดงให้เห็นในแต่ละวันว่า C.H. Robinson เชื่อมั่นในการช่วยเหลือลูกค้าของเราให้ทำงานได้ง่ายและชาญฉลาดมากขึ้น”

ทุกๆ วัน C.H. Robinson ได้เพิ่มความฉับไวในการค้าโลกโดยใช้ความสามารถของบุคลากร กระบวนการ และเทคโนโลยี เพื่อช่วยพัฒนาห่วงโซ่อุปทานของโลก รางวัลที่ได้รับนี้ รวมไปถึงรางวัลอื่นๆ เกี่ยวกับลูกค้า ธุรกิจ และสถานที่ทำงานที่เราเพิ่งได้รับนั้น เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเราได้เน้นการให้บริการและนวัตกรรม ที่ C.H. Robinson ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 110,000 รายและผู้ให้บริการขนส่ง 68,000 ราย ปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จคือการที่เราเน้นในการติดต่อสื่อสาร การแก้ไขปัญหา และการวางแผนรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่เปลี่ยนไปตามเงื่อนไขของตลาด

นับตั้งแต่ปี 1998 นิตยสาร Inbound Logistics ได้ดำเนินการการจัดอันดับจากผู้อ่านประจำปี Top 10 3PL Excellence Awards เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญในวงการโลจิสติกส์ได้ตระหนักในคุณค่าของ 3PL และ 3PL ได้ส่งผลตอบรับในแง่บวกต่างๆ ให้กับของตน บริษัท C.H. Robinson ได้รับการยอมรับในการติดอันดับตั้งแต่มีการเริ่มโครงการนี้

“จำนวนผลโหวตที่ได้รับโดยผู้อ่าน Inbound Logistics ในการโหวต 2016 Top 10 3PL Excellence Awards นั้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ Inbound Logistics ได้เริ่มโปรแกรมนี้มาตั้งแต่ปี 1998” Felecia Stratton บรรรณาธิการของ Inbound Logistics กล่าว “ผู้อ่านทั่วสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกได้โหวตให้กับ 3PL และการแข่งขันในปีนี้เข้มงวดมาก สำหรับในปีที่ 6 นี้ C.H. Robinson ได้รับการโหวตจากผู้อ่าน Inbound Logistics เป็น 3PL อันดับหนึ่ง ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมในทุกๆ มาตรฐาน”

เกี่ยวกับ C.H. Robinson
ที่ C.H. Robinson เราเชื่อในการเพิ่มความฉับไวในการค้าโลกเพื่อที่จะสามารถขนส่งสินค้าและผลิตภัณฑ์ได้อย่างไร้อุปสรรคเพื่อช่วยผลักดันเศรษฐกิจของโลก ด้วยจุดแข็งของพนักงานที่มีความรู้ กระบวนการการที่ผ่านการพิสูจน์ตรวจสอบ และเทคโนโลยีระดับโลก ทำให้เราสามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าให้สามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาด เราเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งแบบ 3PL ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เราเอื้ออำนวยการบริการการขนส่งที่หลากหลาย การจัดหาวัตถุดิบสดใหม่ และการบริการจัดการ ให้กับลูกค้ามากกว่า 110,000 ราย และผู้ให้บริการขนส่ง 68,000 ราย โดยผ่านเครือข่ายของเรา 280 แห่ง และ พนักงานมากกว่า 13,000 คน

นอกจากนี้ นอกจากนี้ บริษัท มูลนิธิ และพนักงานของเรายังมอบเงินให้กับองค์กรต่างๆ ปีละหลายล้านดอลล่าร์สหรัฐ C.H. Robinson (CHRW) ที่มีสำนักงานใหญที่อีเดน แพรรี ในรัฐมินนิโซตา ได้เริ่มซื้อขายใน NASDAQ ตั้งแต่ปี 1997

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.chrobinson.com

ติดต่อ
C.H. Robinson
Nichole Axtman, 952-683-3977
ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร
nichole.axtman@chrobinson.com

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160708005093/en

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

เอกซ์ตัน, เพนซิลวาเนีย—(บิสิเนส ไวร์)—30 มิถุนายน 2559

ProjectWise ConstructSim เพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการและดำเนินงานโครงการก่อสร้าง โดยใช้ Advanced Work Packaging

วันนี้ เบนท์ลีย์ ซิสเต็มส์ อินคอร์ปอเรท ผู้นำระดับโลกในการให้บริการซอฟท์แวร์โซลูชั่นสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้แถลงกรอบข้อตกลงระดับโลกร่วมกับเชลล์ โดยข้อตกลงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานในการก่อสร้างโครงการต่างๆ ของเชลล์ โดยผ่านโซลูชั่นการบริหารจัดการการก่อสร้างแบบอัตโนมัติ 4D/5D ที่เบนท์ลีย์เป็นผู้ให้บริการ โซลูชั่น ProjectWise ConstructSim ของเบนท์ลีย์ จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ProjectVantage ของเชลล์ ซึ่งนวัตกรรมนี้จะช่วยให้การบริหารจัดการส่วนต่างๆ ของการก่อสร้างทั้งโครงการ ไม่ว่าจะเป็นวิศวกรรม การก่อสร้าง และการติดตั้งนั้นเป็นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับระเบียบวิธีของ Construction Industry Institute (CII) และ Advanced Work Packaging (AWP)

กรอบข้อตกลงกับทางเบนท์ลีย์เป็นหลักพื้นฐานของโครงการ ProjectVantage ของเชลล์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติการโดยรวบรวมผู้ค้าและแหล่งข้อมูลแบบบูรณาการไว้ด้วยกันในการส่งผ่านสินค้า ซึ่งโปรแกรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งมอบโครงการที่ปลอดภัย ที่ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้นและรวดเร็วขึ้น โดยการ:
• เพิ่มการประสานงานร่วมมือกันในหลายภาคส่วนและผู้ค้า
• ควบคุมข้อมูลตลอดวงจรของโครงการ และ
• ใช้เป็นมาตรฐานเพื่อให้สามารถทำซ้ำได้

เชลล์เลือก ProjectWise ConstructSim เป็นโซลูชั่นหลักในการบริหารโครงการก่อสร้าง เพื่อที่จะ:
• เพิ่มความสามารถในการวางแผนที่มองเห็นได้ และนำไปปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายก่อนกำหนด รวมไปถึงระยะเวลาที่ระบบขัดข้อง ขจัดปัจจัยที่ขัดขวางต่อเทคโนโลยีที่จะทำให้เกิดผลกระทบในด้านความปลอดภัย ระบบการจัดการการส่งสินค้า วัตถุดิบ แรงงาน การได้รับอนุญาต รวมไปถึงเอกสารต่างๆ
• เพื่อให้มั่นใจในด้านความพร้อมทางวิศวกรรมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการใช้การวางแผนการบริหารโครงการทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาการก่อสร้าง และ
• พัฒนาผลิตภาพในพื้นที่โครงการ มีการปฏิบัติงานตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ใช้เวลาได้เต็มประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัย และลดความเสี่ยง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้

Greg Bentley ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเบนท์ลีย์ ซิสเต็มส์ และเป็นผู้จัดการหลักของโครงการที่ร่วมกับเชลล์ ได้กล่าวว่า “เชลล์เหมาะที่จะได้รับเครดิตในการเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมพลังงาน และควรได้รับวิธีการ นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะได้รับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโครงการของเชลล์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการคาดคะเนได้ โดยสอดคล้องกับคัมภีร์ Advanced Work Packaging ของ CII การที่สามารถใช้ AWP ใน ProjectVantage ได้นั้น เชลล์ยังช่วย EPC ของเขาในด้านการพัฒนาต่างๆ โดยการใช้เทคโนโลยีซอฟต์แวร์และคลาวด์เซอร์วิส ที่ส่งผลประโยชน์ต่อทุกๆ โครงการ ประสบการณ์ของเชลล์ในการใช้โปรแกรม 4D และ 5D กับโครงการใหญ่ๆ นั้น เป็นการเสริมย้ำให้มั่นใจยิ่งขึ้น ถึงการค้นพบของ CII ในเรื่องของการเพิ่มผลผลิตผ่าน AWP รวมไปถึงการสนับสนุนของ ProjectWise ConstructSim”

Martin Swaine ซึ่งเป็นผู้จัดการโปรแกรม 4D/5D กล่าวว่า “เชลล์มีความยินดีเป็นอย่างมากที่เราได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับในการใช้ ProjectWise ConstructSim มากขึ้น ด้วยความร่วมมือกันกับเบนท์ลีย์ เราเล็งเห็นโอกาสที่จะพัฒนาระบบซัพพลายเชนเพื่อโครงการที่มีความปลอดภัยมากขึ้นและดียิ่งขึ้น”

เกี่ยวกับ ProjectWise ConstructSim ของเบนท์ลีย์
ProjectWise ConstructSim สำหรับการวางแผนและดำเนินงานของโครงการนั้นจะช่วยให้ทีมงานได้เห็นภาพชัดในเส้นทางการดำเนินงานก่อสร้างและบริหารการปฏิบัติงานตลอดวงจรของโครงการ ผู้ใช้งานจะสามารถวางแผนทางวิศวกรรม การก่อสร้างและการติดตั้งต่างๆ ด้วยการใช้โมเดลแบบ 3 มิติที่มีข้อมูลซับซ้อน ชัดเจน และสามารถวางแผนในการดำเนินงานได้ตามเวลาและความสำคัญก่อนหลัง และผู้ใช้งานสามารถวางแผนการทำงานโดยขึ้นกับวัสดุอุปกรณ์ และทรัพยากรที่มีได้ ซึ่งสามารถทำได้ก่อนเริ่มลงมือปฏิบัติงานจริง เพื่อขจัดปัจจัยที่ขัดขวางต่อเทคโนโลยีที่จะทำให้เกิดผลกระทบในด้านความปลอดภัย ProjectWise ConstructSim เปลี่ยนจากข้อมูลเป็นการวางแผนเพื่อการปฏิบัติงานจริง และวิเคราะห์ รวบรวม บูรณาการข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากโมเดลออกแบบ ระบบการบริหารจัดการทางวิศวกรรม ตารางการทำงาน การประเมินประมาณการ และระบบ ERP เพื่อเพิ่มระบบการควบคุมการทำงานของคนงาน รวมถึงตารางการทำงาน การรายงานผลของโปรแกรมจะช่วยให้ข้อมูลเชิงลึกในระบบการทำงานทั้งหมด รายละเอียดของทีมงาน และสมรรถนะของโครงการทั้งหมด ซึ่งสามารถติดต่อสื่อสาร สั่งการ ได้โดยผ่านอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย จากสำนักงาน จากสถานที่ทำงานจริง และจากทีมงานในพื้นที่

เกี่ยวกับเบนท์ลีย์ ซิสเต็มส์
เบนท์ลีย์ ซิสเต็มส์ เป็นผู้นำระดับโลกในการให้บริการจัดหาและพัฒนาซอฟท์แวร์สำหรับการดำเนินงานเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของโลก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ งานโยธา และการดำเนินงานต่างๆ ให้กับสถาปนิก วิศวกร ผู้เชี่ยวชาญในด้านภูมิปริภูมิ ผู้รับเหมาก่อสร้าง และผู้ประกอบการ โดยผู้ใช้งานของเบนท์ลีย์สามารถใช้ข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกันในทุกภาคส่วนและครบวงจร เพื่อสามารถจัดทำโครงการและสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เบนท์ลีย์ประกอบไปด้วย MicroStation สำหรับการจำลองรายละเอียดข้อมูล ProjectWise เป็นผู้ให้บริการต่างๆ สำหรับโครงการแบบบูรณาการ และ AssetWise ให้บริการเกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อบรรลุงานโครงสร้างพื้นฐานอันชาญฉลาด เสริมด้วยการให้บริการทั่วโลกและครอบคลุมในเรื่องการบริการอย่างมืออาชีพ

เบนท์ลีย์ก่อตั้งในปี 1984 มีผู้ร่วมงานในองค์กรกว่า 3,000 คนใน 50 ประเทศ สร้างรายรับได้มากกว่า 600 ล้านดอลลาร์ต่อปี และนับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมาได้ลงทุนไปกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในการวิจัย พัฒนา และการเข้าซื้อกิจการต่างๆ

หากต้องการข่าวประชาสัมพันธ์ของเบนท์ลีย์ กรุณาเข้าไปที่ http://www.bentley.com สามารถดูรายงานประจำปี สมัคร RSS feed เพื่อรับข่าวสารได้อย่างทันท่วงที สามารถเข้าชมเว็บไซต์ The Year in Infrastructure Conference เพื่อรับชมไฮไลท์งานสำหรับแนวคิดและผู้นำของเบนท์ลีย์ เข้าชม Infrastructure Yearbooks ของเบนท์ลีย์เพื่อค้นหาโครงการดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานสุดยอดนวัตกรรมจาก Be Inspired Awards และสามารถเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายสมาชิกด้านการก่อสร้าง ดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ที่ Bentley Communities

สามารถดาวน์โหลด Bentley Infrastructure 500 ที่จัดอันดับองค์กรระดับแนวหน้า 500 แห่งของโลก ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน โดยวัดจากมูลค่าของการลงทุนขององค์กรที่เพิ่มมากขึ้น โดยดาวน์โหลดได้ที่ BI 500 Bentley, โลโก้ “B”, Be, ProjectWise ConstructSim, MicroStation และ ProjectWise เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนหรือเครื่องหมายบริการของเบนท์ลีย์ ซิสเต็มส์ อินคอร์ปอเรท หรือบริษัทในเครือที่เป็นเจ้าของโดยตรงหรือโดยอ้อมรายใดรายหนึ่ง ส่วนเครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160630005671/en/

ติดต่อ:
Bentley Systems, Incorporated
Gail McGrew, +1 610 458 2752
gail.mcgrew@bentley.comFollow

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–30 มิ.ย. 2016

– LDO และพินเดซีเชนแบบบิวต์อิน รองรับการผลิตโมดูล LED ที่เล็กลง

บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company)ในเครือของ โตชิบา คอร์ปอเรชั่น (Tokyo: 6502) ประกาศเปิดตัว “TB62D786FTG” แผงวงจรขับ LED รุ่นใหม่ที่มาพร้อมอินพุตแบบสายเดี่ยวและเอาต์พุต 9 ช่อง เพื่อการใช้งานกับอุปกรณ์ความบันเทิงและการประดับไฟ LED โดยมีกำหนดการผลิตเต็มรูปแบบในฤดูใบไม้ร่วงนี้

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
http://www.businesswire.com/news/home/20160630005455/en/

แผงวงจรขับ LED รุ่น “TB62D786FTG” มาพร้อมกับอินพุตแบบสายเดี่ยวและเอาต์พุต 9 ช่อง (รูปภาพ: บิสิเนสไวร์)

ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ใช้อินเตอร์เฟซรหัสแมนเชสเตอร์แบบสายเดี่ยว ที่มักนำไปใช้สำหรับการสื่อสารแบบไร้สาย รวมถึงสัญญาณอินพุตที่ลดเหลือเพียงหนึ่งสัญญาณ นอกจากนี้ พินแบบเดซี่เชนที่ติดตั้งในตัว รวมถึงแผงวงจรควบคุมเชิงเส้น (LDO, เอาต์พุต 5V) และอินพุตที่แรงดันสูงสุด 28V จะช่วยพัฒนาการขยายไดร์เวอร์ LED

ในระบบทั่วไปนั้น พลังงานจะถูกส่งไปยังแผงวงจรขับ LED และส่วนของ LED โดยแยกกัน แต่ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ทำให้สายไฟหลายเส้นที่คอยเชื่อมระหว่างไมโครคอนโทรลเลอร์(หรือคอนโทรลเลอร์) ไปยังส่วนของไดร์เวอร์ LED ซึ่งเป็นจุดผนวกเข้ากับไดร์เวอร์ใหม่จะถูกลดลงให้เหลือเพียง 4 เส้น (เหลือเส้นส่งพลังงานเส้นเดียว เส้นอินพุตเส้นเดียว เส้นเอาต์พุตแบบเดซี่เชน และอีกเส้นสำหรับ GND) ในส่วนของการผลิตตัวจัดการแรงดันไฟฟ้าที่มีสายไฟน้อยลงนั้น ก็สามารถเป็นไปได้โดยการใช้แพ็คเกจแบบกะทัดรัด (VQFN24) นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ใช้สามารถลดขนาดแผงของหน่วย LED ลงได้อีกด้วย

คุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์ใหม่
– อินเตอร์เฟซชนิดสายเดี่ยวแบบติดตั้งในตัว
– พินสำหรับการต่อพ่วงชนิดเดซี่เชนแบบติดตั้งในตัว
– แผงวงจรควบคุมเชิงเส้น (LDO, เอาต์พุต 5V) รองรับอินพุตสูงสุด 28V
– แพ็คเกจขนาดกะทัดรัด (VQFN24)

ข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ใหม่

หมายเลขชิ้นส่วน:		TB62D786FTG

สัญญาณอินพุต		อินพุตแบบสายเดี่ยว (ระบบเซ็นเซอร์ CMOS 5V), ความถี่ในการถ่ายโอนอยู่ระหว่าง 0.5 MHz ถึง 2MHz

แรงดันไฟฟ้าพาวเวอร์ซัพพลาย	แหล่งจ่ายไฟเชิงเส้นที่ติดมากับเครื่อง(5V): นำเข้า 7 ถึง 28V 

			ระบบควบคุมแรงดัน IC: 4.5 ถึง 5.5 V

LED เอาต์พุต		ตัวขับอัตราการไหลของกระแสไฟคงที่ขนาด 28V x 85mA x 9 (ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่แนะนำ 5mA ถึง 40mA)

		   	ควบคุมความสว่างโดย PMW ตั้งแต่ระดับ 0-27

ฮาร์ดโค้ดไอดี 		สูงสุด 64 ไดร์เวอร์ไอดี

แพ็คเกจ			P-VQFN24-0404-0.50-001

ราคาตัวอย่าง		110 เยน (รวมภาษี)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ที่:
http://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=TB62D786FTG®ion=apc&lang=en

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์วงจรรวม (IC) ของโตชิบา สำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง:
http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/application/amusement.html

ลูกค้าติดต่อสอบถามได้ที่:
Mixed Signal IC Sales and Marketing Department
โทร: +81-44-548-2821
http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

* ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาการบริการและข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบา

โตชิบา คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัท Fortune Global 500 นำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันล้ำสมัย รวมถึงระบบต่างๆ ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ พลังงาน (Energy) เพื่อทุกวันของชีวิตที่สะอาดและปลอดภัยขึ้นอย่างยั่งยืน, โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และการจัดเก็บข้อมูล (Storage) เพื่อสนับสนุนสังคมแห่งข้อมูลข่าวสารที่ก้าวล้ำ โตชิบาส่งเสริมการดำเนินงานทั่วโลก และสนับสนุนการสร้างสรรค์โลกเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนรุ่นต่อๆไป ภายใต้รากฐานความมุ่งมั่นของโตชิบา กรุ๊ป ที่ว่า “ความมุ่งมั่นต่อประชากร, ความมุ่งมั่นต่ออนาคต”

โตชิบาก่อตั้งขึ้นในโตเกียวเมื่อปี 1875 และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของกลุ่มบริษัทในเครือกว่า 550 แห่ง ด้วยจำนวนพนักงาน 188,000 คนทั่วโลก และยอดขายต่อปีกว่า 5.6 ล้านล้านเยน (5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2016)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโตชิบาได้ที่ http://www.toshiba.co.jp/index.htm

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160630005455/en/