โตชิบา เปิดตัว N-Channel MOSFET ขนาดเล็กสำหรับสวิตซ์โหลดในการใช้งานแอลอีดีไดร์เวอร์ โดดเด่นด้วยค่าความต้านทานขณะสวิตซ์เปิดต่ำ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–23 มิ.ย. 2016

– ได้มาตรฐาน AEC-Q101 สำหรับการใช้งานด้านยานยนต์

บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company) ในเครือของ โตชิบา คอร์ปอเรชั่น (TOKYO:6502) ประกาศเปิดตัว N-channel MOSFET ขนาดเล็กสำหรับสวิตซ์โหลดในการใช้งานแอลอีดีไดร์เวอร์รูปแบบต่างๆ ซึ่งรวมถึงมิเตอร์บริเวณแผงหน้าปัดรถยนต์ ไฟหน้ารถ และแบคไลท์ของแอลอีดีทีวี โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดนี้ขึ้นแท่นผู้นำอุตสาหกรรม[1] ด้วยค่าความต้านทานขณะสวิตซ์เปิด (on-resistance) ต่ำ พร้อมจัดส่งแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/20160623005383/en/

(http://mms.businesswire.com/media/20160623005383/en/531535/4/TOSHIBA_SSM3K341R_SSM3K361R_160622_webready.jpg)
โตชิบา: N-Channel MOSFET ขนาดเล็กสำหรับสวิตซ์โหลดในการใช้งานแอลอีดีไดร์เวอร์ โดดเด่นด้วยค่าความต้านทานขณะสวิตซ์เปิดต่ำ (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

จากความนิยมในการใช้แอลอีดีประหยัดไฟกันมากขึ้น ทำให้ความต้องการ N-channel MOSFET เพื่อใช้เป็นสวิตซ์สำหรับแอลอีดีไดร์เวอร์จึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ โตชิบาจึงได้เพิ่ม MOSFET ขนาดเล็กใหม่สองรายการ ได้แก่ “SSM3K341R” ขนาด 60V และ “SSM3K361R” ขนาด 100V ซึ่งขึ้นแท่นผู้นำอุตสาหกรรมด้วยค่าความต้านทานขณะสวิตซ์เปิดต่ำ ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ลดการระบายความร้อนที่เป็นผลมาจากการสูญเสียจากการเปิดได้ถึงประมาณ 65% เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนของโตชิบา[2] นอกจากนี้ MOSFET ยังใช้ SOT-23F ประเภทตะกั่วขนาดเล็ก ซึ่งมีการระบายความร้อนในระดับคงที่ ขณะลดฟุตพริ้นท์ลงประมาณ 64% เมื่อเทียบกับ SOT-89 ทั่วไป ผลิตภัณฑ์ ทั้งสองรายการผ่านการรับรอง AEC-Q101 สำหรับการใช้ด้านยานยนต์

ข้อมูลจำเพาะ

Part Number	 Absolute Maximum Ratings	 	RDS(ON) typ. (mΩ)	 		Ciss typ.
		VDSS	VGSS	ID		VGS=4.0V	VGS=4.5V 	VGS=10V	(pF)
		(V)	(V)	(A)								
SSM3K341R	60	±20	6		43		36		28		550
SSM3K361R	100	±20 	3.5	 	-	 	65	 	51	 	430

หมายเหตุ
[1] ผลิตภัณฑ์ในระดับเดียวกัน ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2016 จากการสำรวจของโตชิบา
[2] เปรียบเทียบกับ “SSM3K318R” ของโตชิบา

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้:
1. SSM3K341R:
http://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=SSM3K341R®ion=apc&lang=en
2. SSM3K361R:
http://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=SSM3K361R®ion=apc&lang=en

ลูกค้าติดต่อสอบถามได้ที่:
Small Signal Device Sa les & Marketing Department
โทร: +81-3-3457-3411
http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาการบริการและข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบา

โตชิบา คอร์ปอเรชั่น (Toshiba Corporation) หนึ่งในบริษัท Fortune Global 500 นำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันล้ำสมัย รวมถึงระบบต่างๆ ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ พลังงาน (Energy) เพื่อทุกวันของชีวิตที่สะอาดและปลอดภัยขึ้นอย่างยั่งยืน, โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และการจัดเก็บข้อมูล (Storage) เพื่อสนับสนุนสังคมแห่งข้อมูลข่าวสารที่ก้าวล้ำ โตชิบาส่งเสริมการดำเนินงานทั ่วโลก และสนับสนุนการสร้างสรรค์โลกเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนรุ่นต่อๆไป ภายใต้รากฐานความมุ่งมั่นของโตชิบา กรุ๊ป ที่ว่า “ความมุ่งมั่นต่อประชากร, ความมุ่งมั่นต่ออนาคต”

โตชิบาก่อตั้งขึ้นในโตเกียวเมื่อปี 1875 และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของกลุ่มบริษัทในเครือกว่า 550 แห่ง ด้วยจำนวนพนักงาน 188,000 คนทั่วโลก และยอดขายต่อปีกว่า 5.6 ล้านล้านเยน (5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2016)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโตชิบาได้ที่ http://www.toshiba.co.jp/index.htm

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160623005383/en/

ติดต่อ:
สำหรับสื่อมวลชน
Toshiba Corporation
Storage & Electronic Devices Solutions Company
Koji Takahata, +81-3-3457-4963
semicon-NR-ma

Michael Kors ประกาศความร่วมมือกับ McLaren-Honda ขึ้นแท่นพันธมิตรด้านไลฟ์สไตล์อย่างเป็นทางการประจำทีม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

ลอนดอน–(บิสิเนส ไวร์)–22 มิ.ย. 2016

Michael Kors (NYSE:KORS) แบรนด์ไลฟ์สไตล์สุดหรูระดับโลก มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ประกาศความร่วมมือกับ McLaren-Honda และก้าวขึ้นเป็นพันธมิตรด้านไลฟ์สไตล์อย่างเป็นทางการประจำทีมแชมป์โลก Formula 1 ทั้งนี้ McLaren-Honda และ Michael Kors ต่างให้ความสำคัญกับดีไซน์และความเร็ว ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นการเสริมสร้างและยกระดับภาพลักษณ์การใช้ชีวิตอย่างหรูหราและเต็มสปีดของทั้งสองแบรนด์

“Michael Kors และ McLaren-Honda ต่างเป็นผู้บุกเบิกในวงการของตน และเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า McLaren-Honda เป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบสำหรับเราในการรุกสู่ตลาด Formula 1” John D. Idol ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Michael Kors กล่าว “นี่เป็นช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นสำหรับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่เรากำลังเติบโตในฐานะแบรนด์ไลฟ์สไตล์สำหรับส ุภาพบุรุษชั้นนำ”

กลุ่มผู้รับชมการแข่งขัน Formula 1ถือเป็นตลาดใหม่สำหรับ Michael Kors และนับเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดโลกของ Michael Kors ให้ชาวยุโรปได้รู้จักแบบหมดเปลือก นอกจากนี้ ชื่อเสียงอันเป็นตำนานของ McLaren-Honda รวมถึงทัพนักแข่ง Formula 1 มากด้วยฝีมือ ยังสื่อถึงภาพลักษณ์สุภาพบุรุษสไตล์ Michael Kors ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือ บุรุษผู้เจนโลก มีความเป็นสากล ประสบความสำเร็จในชีวิต และหลงใหลในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่

Ron Dennis ประธานบริหารและซีอีโอของ McLaren Group กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งในการประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ระหว่าง McLaren-Honda กับ Michael Kors ซึ่งเป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับและเสื้อผ้าสำเร็จรูปสุดหรูชื่อดังของโลกที่มีรางวัลการันตีผลงาน”

“เฉกเช่นเดียวกับ McLaren ที่ร่วมแข่ง Formula 1 มาแล้วทั่วโลกตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ทาง Michael Kors เองก็เป็นบริษัทระดับโลกอย่างแท้จริง โดยมีร้านที่ทันส มัยและประสบความสำเร็จตั้งอยู่ในเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วโลก ทั้งนิวยอร์ก เบเวอร์ลีฮิลส์ ชิคาโก ลอนดอน มิลาน ปารีส มิวนิก อิสตันบูล ดูไบ โซล โตเกียว และฮ่องกง”

“ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า วัฒนธรรมองค์กรของทั้ง McLaren และ Michael Kors ได้หลอมรวมพลังขับเคลื่อนและความเร้าใจเข้าไว้ด้วยกัน เช่นเดียวกับพันธสัญญาในการแสวงหาความสมบูรณ์แบบอย่างไม่หยุดยั้ง และด้วยเหตุนี้เอง แบรนด์ทั้งสองจึงคู่ควรกับการสร้างความร่วมมือในระยะยาว ความเหมือนกันนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับทั้งสองแบรนด์ ที่ต่างสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองด้วยความเป็นเลิศในสิ่งที่ทำ และในวันนี้เราก็พร้อมก้าวไปด้วยกัน เพื่อให้แบรนด์ของเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในวันข้างหน้า”

ในฐานะที่เป็นพันธมิตรด้านไลฟ์สไตล์อย่างเป็นทางการของทีม สัญลักษณ์แบรนด์ Michael Kors จะปรากฎอยู่บนชุดของนักแข่ง และบนรถแข่ง McLaren-Honda MP4-31

เพื่อเฉลิมฉลองความร่วมมือครั้งนี้ Michael Kors ได้ออกแบบแจ็ คเก็ตหนังสีดำสำหรับสุภาพบุรุษรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นที่มีเพียง 50 ตัวเท่านั้น โดยจะวางจำหน่ายที่ชั้นเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ ณ แฟล็กชิปสโตร์แห่งใหม่ในกรุงลอนดอนเพียงแห่งเดียว จนกว่าสินค้าจะหมด แจ็คเก็ตหนังรุ่นนี้ประดับโลโก้ของ Michael Kors และ McLaren พร้อมแผ่นโลหะลิมิเต็ดเอดิชั่นและหมายเลขการผลิตของแต่ละตัว

Michael Kors กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการบรรจบกันของสไตล์และความเร็ว ซึ่งฝังอยู่ในดีเอ็นเอของทั้งแบรนด์ Michael Kors และ McLaren-Honda นอกจากนั้นยังนำพลัง ความเจนจัด และความเชื่อมั่นมาสู่แบรนด์ทั้งสอง และเราได้รังสรรค์เครื่องแต่งกายรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นเพื่อสื่อให้เห็นถึงสิ่งนี้”

เกี่ยวกับ Michael Kors

Michael Kors คือดีไซเนอร์ผู้ออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับหรูที่มีชื่อเสียงระดับโลกและกวาดรางวัลมาแล้วมากมาย เขาก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี ค.ศ.1981 และปัจจุบันผลิตสินค้ามากมายภายใต้แบรนด์ Michael Kors C ollection, MICHAEL Michael Kors และ Michael Kors Mens ที่มีทั้งเครื่องประดับ รองเท้า นาฬิกา เสื้อผ้าสำเร็จรูป และน้ำหอม Michael Kors มีร้านของตัวเองและร้านตัวแทนจำหน่ายกระจายอยู่ทั่วโลก ทั้งในนิวยอร์ก เบเวอร์ลีฮิลส์ ชิคาโก ลอนดอน มิลาน ปารีส มิวนิก อิสตันบูล ดูไบ โซล โตเกียว และฮ่องกง

เกี่ยวกับ McLaren Technology Group

McLaren เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะทีมแข่งรถที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงและประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งของโลก

McLaren Technology Group ได้ขยายธุรกิจออกไปนอกเหนือจากวงการแข่งรถ โดยปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจ McLaren Applied Technologies เพื่อจัดหาระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่สนามแข่งขัน Formula 1, Indycar และ NASCAR พร้อมกับพัฒนาโซลูชั่นล้ำสมัยให้กับอุตสาหกรรมไฮเทคต่างๆ ขณะเดียวกัน McLaren Automotive ก็ได้เติบโตขึ้นเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จระดับโลก นับตั้งแต่เปิดตัวยานยนต์สมรรถนะสูงอันเป็นที่ยอม รับทั่วโลกอย่าง 12C, 650S และ McLaren P1(TM)

McLaren-Honda เดินสายโปรโมทการแข่งขัน 2016 FIA Formula 1 World Championship พร้อมนักแข่งดีกรีแชมป์โลกสองสมัย (2005, 2006) อย่างเฟอร์นันโด อลอนโซ และแชมป์โลกปี 2009 อย่างเจนสัน บัตตัน โดยนักแข่งทั้งสองขับรถ McLaren-Honda MP4-31

ข้อความคาดการณ์อนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีข้อความที่เป็นลักษณะการคาดการณ์อนาคตเกี่ยวกับ Michael Kors และ McLaren ผู้อ่านไม่ควรยึดถือข้อความคาดการณ์มากเกินไป เพราะข้อความเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากความไม่แน่นอนและปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ซึ่งล้วนคาดเดาได้ยากและอาจอยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ข้อความคาดการณ์อนาคตจะมีข้อมูลเกี่ยวกับการคาดการณ์ผลลัพธ์และผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท ซึ่งรวมถึงรายละเอียดของกลยุทธ์ทางธุรกิจ ข้อความคาดการณ์มักจะมีคำว่า “อาจจะ” “จะ” “น่าจะ” “เชื่อว่า” “คาดว่า” “ค าดหมาย” “ตั้งใจ” “วางแผน” “คาดคะเน” หรือคำอื่นๆที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน ข้อความคาดการณ์อนาคตในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้อ้างอิงจากสมมติฐานที่ได้จากประสบการณ์ของผู้บริหาร รวมถึงการรับรู้ข้อมูลในอดีต สภาพการณ์ในปัจจุบัน ความคาดหมายในอนาคต และปัจจัยอื่นๆที่ผู้บริหารคิดว่ามีความเหมาะสมตามสถานการณ์ ผู้อ่านควรทำความเข้าใจว่าข้อความเหล่านี้มิใช่เครื่องรับประกันผลลัพธ์หรือผลการดำเนินงานใดๆ เพราะข้อความเหล่านี้ประกอบด้วยสมมติฐาน ความเสี่ยง และความไม่แน่นอน ทั้งที่ทราบและไม่ทราบ แม้แต่ละบริษัทเชื่อว่าข้อความคาดการณ์อนาคตเหล่านี้อยู่บนพื้นฐานของสมมติฐานที่สมเหตุสมผล แต่ผู้อ่านก็ต้องตระหนักว่ามีปัจจัยอีกมากมายที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการทางการเงิน หรือผลการดำเนินงานที่แท้จริง และอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงออกมาแตกต่างอย่างมากจากที่คาดการณ์ไว้ สามารถอ่านปัจจัยทั้งหมดนี้ได้ในส่วน “Risk Factors” และในรายงานประจำปี Form 10-K สำหรับปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 2 เมษายน 2016 (File No. 001-35368) ของ Michael Kors ที่ได้มีการยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐ ในวันที่ 1 มิ ถุนายน 2016

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160622006009/en/

ติดต่อ:
MICHAEL KORS
Dinesh Kandiah
VP, Global Communications
โทร. 917-214-2979
อีเมล: Dinesh.Kandiah@michaelkors.com
หรือ
นักลงทุนสัมพันธ์:
Michael Kors Holdings Limited
Krystyna Lack
VP, Treasurer and Investor Relations         โทร. 201-691-6133
อีเมล: InvestorRelations@MichaelKors.com

Keio Plaza Hotel Tokyo เตรียมจัดงาน “Summer Festival of Arita/Imari Porcelains” ครั้งที่ 36 ฉลองครบรอบ 400 ปีศิลปะเครื่องเคลือบดินเผาของญี่ปุ่น

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–21 มิ.ย. 2016

Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) โรงแรมระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ กรุงโตเกียว จะจัดงาน “Summer Festival of Arita/Imari Porcelains” ครั้งที่ 36 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 400 ปีศิลปะเครื่องเคลือบดินเผาที่สืบทอดมาอย่างยาวนานของญี่ปุ่น นิทรรศการพิเศษน่าประทับใจนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ณ บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 7 สิงหาคม 2016 โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจังหวัดซางะ นอกจากนี้ ผลงานศิลปะของศิลปินร่วมสมัยหลายคนจากเมืองอาริตะและเมืองอิมาริที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องเคลือบดินเผาญี่ปุ่นก็จะถูกนำมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในนิทรรศการนี้ด้วย นิทรรศการนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องเคลือบดินเผาอาริตะ/อิมาริ ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบศิลปะที่เก่าแก่และมีเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นได้ดียิ่ง ขึ้น ขณะเดียวกัน ร้านอาหารต่างๆภายในโรงแรมจะนำเสนอเมนูแสนอร่อยที่จัดเตรียมเป็นพิเศษ พร้อมเสิร์ฟบนภาชนะเครื่องเคลือบดินเผาอาริตะ/อิมาริ

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์พร้อมมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/20160621005599/en/

(http://mms.businesswire.com/media/20160621005599/en/530799/4/KEIO-PLAZA-HOTEL.jpg)
Keio Plaza Hotel Tokyo จัดงานแสดง “เครื่องเคลือบดินเผาอาริตะ” เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 400 ปีศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยแขกของทางโรงแรมจะได้เพลิดเพลินไปกับนิทรรศการอันน่าตื่นตาตื่นใจบริเวณล็อบบี้ รวมถึงเมนูสุดพิเศษที่เสิร์ฟบนภาชนะเครื่องเคลือบดินเผาอาริตะ (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

ศิลปะเครื่องเคลือบดินเผาอาริตะ/อิมาริถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 400 ปีที่แล้วในเมืองอาริตะและเมืองอิมาริ จังหวัดซางะ และได้รับการยกย่องอย่างสูงในญี่ปุ่นและต่างประเทศ Keio Plaza Hotel ได้จัดงานแสดงเครื่องเคลือบดินเผาอาริตะ/อิมาริ มาเป็นเวลา 36 ปีแล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้แขกของทางโรงแรมได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และงานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ หัวข้อหลักของนิทรรศการปีนี้คือ “ศิลปะสมัยใหม่ ภาพสะท้อนแห่งอนาคต” (“ModernArt, Reflections of the Future”) โดยจะมีการจัดแสดงอนุสาวรีย์ “ต้นเครื่องเคลือบดินเผา” (“Porcelain Tree”) สูง 9.5 เมตร และกว้าง 3 เมตร บริเวณล็อบบี้หลัก นิทรรศการที่ตกแต่งอย่างสวยงามนี้ประกอบด้วยผลงานศิลปะเครื่องเคลือบดินเผาอาริตะจากสามศิลปินเครื่องเคลือบดินเผาผู้มีชื่อเสียง ได้แก่ อิโนอูเอะ มันจิ, อิมาอิซูมิ อิมาเอะมอน รุ่น 14 และซากาอิดะ คาคิเอมอน รุ่น 15 ซึ่งสองคนหลังนี้ถือเป็นปูชนียบุคคลของญี่ปุ่น และผลงานเครื่องเคลือบดินเผาอาริตะของศิลปินเหล่านี้ได้พลิกธรรมเนียมปฏิบัติและท้าท้ายแนวความคิดแบบดั้งเดิมไปอย่างสิ้นเชิง

นอกจากงานศิลปะเครื่องเคลือบดินเผาแล้ว ร้านอาหาร 10 แห่งใน Keio Plaza Hotel จะเสิร์ฟเมนูที่จัดเตรียมขึ้นเป็นพิเศษให้แก่แขกของโรงแรม ซึ่งภาชนะเครื่องเคลือบดินเผาหลากห ลายประเภทที่นำมาใช้เสิร์ฟเมนูสุดพิเศษดังกล่าว ก็จะนำมาวางจำหน่ายในงานนี้ด้วยเช่นกัน

เกี่ยวกับ Keio Plaza Hotel

Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) เป็นหนึ่งในโรงแรมนานาชาติชั้นนำของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ ใจกลางกรุงโตเกียว โรงแรมของเรามีร้านอาหารและบาร์กว่า 20 แห่งไว้คอยต้อนรับแขกหลากหลายกลุ่มจากทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มาเยือนโรงแรม พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก บริการชั้นเยี่ยม และการต้อนรับอันอบอุ่น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือติดตามเราทางยูทูบ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160621005599/en/

ติดต่อ:
Keio Plaza Hotel Tokyo
&nbs p;   Sunaho Nakatani, +81-3-5322-8113
Public Relations Manager
s-nakatani@keioplaza.co.jp

IPG Mediabrands เปิดตัว “The D100” จัดอันดับสุดยอดแบรนด์ทรงพลังของโลก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

คานส์, ฝรั่งเศส–(บิสิเนส ไวร์)–20 มิ.ย. 2016

GOOGLE, AMAZON และ SAMSUNG ขึ้นแท่นผู้นำแบรนด์ทรงพลังสามอันดับแรกของโลก

– เกณฑ์วัดเดิมที่มุ่งเน้นคุณค่าตราสินค้านั้นล้าสมัยไปแล้วสำหรับโลกยุคใหม่
– IPG Mediabrands ร่วมกับวิทยาลัยวาร์ตันแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สร้างเกณฑ์วัดแบรนด์รูปแบบใหม่ในชื่อ “คะแนนพลังขับเคลื่อน”
– แบรนด์ที่มีคะแนนพลังขับเคลื่อนสูงกว่ามีรายได้เติบโตดีกว่า เมื่อเทียบกับแบรนด์ที่มีคะแนนพลังขับเคลื่อนต่ำกว่า
– จัดอันดับโดยให้คะแนนพลังขับเคลื่อนใน 4 มิติด้วยกัน ได้แก่ ความว่องไว การตอบสนอง นวัตกรรม และการเข้าสังคม
– D100 เป็น การจัดอันดับแบรนด์ที่ได้คะแนนพลังขับเคลื่อนสูงสุด 100 อันดับแรกจากทั่วโลก

IPG Mediabrands ธุรกิจสื่อในเครือของ Interpublic Group (NYSE:IPG) ร่วมกับรองศาสตราจารย์ โจนาห์ เบอร์เกอร์ จากวิทยาลัยวาร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ผู้เขียนหนังสือขายดีติดอันดับนิวยอร์กไทมส์ เรื่อง Contagious: Why Things Catch On ได้เปิดตัว D100 อย่างเป็นทางการ โดยเป็นการจัดอันดับบริษัทที่ทรงพลังที่สุด 100 อันดับแรกของโลก จากการประเมินตามเกณฑ์วัดยุคใหม่

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/20160620005848/en/

การจัดอันดับ D100 ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคกว่า 10,000 ราย ในตลาดใหญ่ 5 แห่งครอบคลุม 4 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี จีน และอินเดีย โดยได้สอบถามผู้บริโภคเกี่ยวกับแบรนด์ต่างๆ ทั้งแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์เจาะจงเฉพาะตลาด รวมกันกว่า 1,200 แบรนด์ สำหรับแบรนด์ที่จัดว่าเป็นแบรนด์ระดับโลกนั้นต้องเป็นองค์กรข้ามชาติขนาดใหญ่ ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจอยู่บ้างในหลายประเทศ (เช่น Coca-Cola, Nike และ BMW) ขณะที่แบรนด์เจาะจงเฉพาะตลาดได้แก่แบรนด์ขนาดเล็กกว่า ซึ่งอาจมีการทำธุรกิจในตลาดเดียว (เช่น Royal Mail – สหราชอาณาจักร หรือ Hajmola – อินเดีย)

แบรนด์ทรงพลังที่สุด 10 อันดับแรกของโลก ได้แก่:

1. Google
2. Amazon
3. Samsung
4. Nike
5. Intel
6. NASA
7. BMW
8. Mercedes-Benz
9. Audi
;        10. Lenovo

เฮนรี่ เทเจอร์ ซีอีโอตลาดโลกของ IPG Mediabrands กล่าวว่า “การจัดอันดับ D100 ตลอดจนข้อมูลที่เราได้เก็บรวบรวมเพื่อจัดอันดับแบรนด์ที่ทรงพลังที่สุดของโลกนั้นเป็นเรื่องน่าทึ่ง โดยคะแนนพลังขับเคลื่อนและเกณฑ์วัดแบรนด์ยุคใหม่ซึ่งเราได้กำหนดขึ้นมานี้ เปิดโอกาสให้ IPG Mediabrands สามารถช่วยแบรนด์ทั้งหลายก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ที่ทรงพลังอย่างแท้จริง พร้อมก้าวทันไปกับผู้บริโภค”

คะแนนพลังขับเคลื่อนคำนวณจากการประเมินความทรงพลังของแบรนด์ใน 4 มิติหลักๆด้วยกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับเกณฑ์วัด “โลกยุคเก่า” ที่ใช้อยู่เดิม เช่น การรับรู้แบรนด์ และมูลค่าแบรนด์

D100 ถือเป็นครั้งแรกที่ได้มีการประเมินความสำเร็จของแบรนด์ โดยใช้เกณฑ์วัดโลกยุคใหม่ ได้แก่:

– ความว่องไว: ศักยภาพของแบรนด์ในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของภาวะตลาด
& nbsp;        – การตอบสนอง: ศักยภาพของแบรนด์ในการตอบสนองต่อความต้องการและการตอบรับจากลูกค้า
– นวัตกรรม: ศักยภาพของแบรนด์ในการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ
– การเข้าสังคม: ศักยภาพของแบรนด์ในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายบนโซเชียลมีเดีย ในแง่ของจำนวนและการมีส่วนร่วม

ข้อมูลใน 3 มิติแรก (ความว่องไว การตอบสนอง และนวัตกรรม) ได้รวบรวมขึ้นจากการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค ส่วนมิติที่ 4 อย่างการเข้าสังคมนั้น รวบรวมจากข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter และ Weibo โดยข้อมูลจากแต่ละมิตินั้นได้นำมาแปลงเป็น Z-Score จากนั้นจึงหาค่าเฉลี่ยรวมกันเพื่อคำนวณเป็นคะแนนพลังขับเคลื่อนโดยรวมของแบรนด์นั้นๆ

โจนาห์ เบอร์เกอร์ รองศาสตราจารย์ภาควิชาการตลาด แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า “เราได้ร่วมมือกับ IPG Mediabrands ในการประยุกต์ใช้ระเบียบวิธีอันเข้มงวดและครอบคลุม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ใดบ้างที่กำลังขับเคลื่อนอนาคต โดยท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่ใช่เพียงแค่วันนี้ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโลกในวันข้างหน้า”

สาระสำคัญของการวิจัยครั้งนี้คือการแสดงให้เห็นว่า วันนี้โลกได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากตั้งแต่รากฐาน แต่ก่อนนั้นการเป็นแบรนด์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดก็เพียงพอแล้วที่จะรับประกันความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทว่าในตลาดยุคปัจจุบันที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีการเชื่อมต่อทางสังคม การเป็นโลกยุคใหม่คงไม่เพียงพอ แต่ต้องเป็นโลกแห่งแบรนด์ยุคใหม่ด้วย โดยอาศัยเกณฑ์วัดทั้ง 4 ประการนี้เป็นปัจจัยสนับสนุนความอยู่รอดของแบรนด์และการเติบโตอย่างยั่งยืน

D100 พบว่าคะแนนพลังขับเคลื่อนและผลประกอบการของบริษัทมีความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างชัดเจนและในเชิงบวก โดยแบรนด์ที่ทรงพลัง ซึ่งได้แก่แบรนด์ที่มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเหนือค่าเฉลี่ยความทรงพลังอยู่หนึ่งส่วนนั้น มีการเติบโตของรายได้งวดไตรมาสสี่ ส ูงขึ้น 2.7% จากปี 2014 ถึง 2015 ซึ่งแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวอาจดูไม่มีนัยสำคัญมากนัก แต่การเติบโตของรายได้เฉลี่ยของแบรนด์ต่างๆโดยทั่วไปแล้วอยู่ที่เพียง 4.4% ความสัมพันธ์ระหว่างพลังขับเคลื่อนและการเติบโตของรายได้นั้นยังคงปรากฏให้เห็น แม้มีการควบคุมเกณฑ์วัดแบรนด์ที่ใช้กันทั่วไปร่วมด้วย เช่น การรับรู้แบรนด์และขนาดของแบรนด์ สิ่งนี้บ่งชี้ว่า พลังขับเคลื่อนของแบรนด์ช่วยส่งเสริมผลประกอบการในอนาคตเหนือกว่าเกณฑ์วัดแบรนด์แบบเดิมๆ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพลังขับเคลื่อนกับการเติบโตของรายได้ ยังได้รับการขับเคลื่อนเป็นพิเศษในมิติของความว่องไว และค่อนข้างได้รับผลกระทบในมิติของการเข้าสังคม ขณะที่บริษัทที่เด่นในเรื่องของความว่องไวยังมีมูลค่าตามราคาตลาดสูงกว่าด้วย

แมต แบกซ์เตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์และกลยุทธ์ กล่าวว่า “การวิจัยดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แบรนด์ทั้งหลายจำเป็นต้องก้าวออกจากการใช้เกณฑ์วัดแบรนด์อันล้าสมัย และเปิดรับการประเมินตามคะแนนพลังขับเคลื่อน โดยสิ่งที่เราได้พิสูจน์นั้นส อดคล้องอย่างมากกับการเติบโตของรายได้ในอนาคต ตลอดจนแรงผลักดันของบริษัทต่างๆ”

ทั้งนี้ D100 Award ได้มอบรางวัลบริษัทที่ทรงพลังที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกให้กับ Google โดยมอบให้แก่คุณเอริค ชมิดท์ ประธานบริหารของ Alphabet Inc. (บริษัทแม่ของ Google ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่) ในเทศกาล Cannes Lions International Festival of Creativity ครั้งที่ 63 ณ เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบอันดับของแต่ละแบรนด์ หรือรับชมอันดับทั้งหมด สามารถดูได้ที่ http://www.thed100.com

###

เกี่ยวกับ IPG Medibrands

IPG Mediabrands ก่อตั้งขึ้นโดย Interpublic Group (NYSE: IPG) เมื่อปี 2007 เพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ในเครือทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับสื่อ ปัจจุบัน บริษัทบริหารจัดการเงินลงทุนด้านการตลาดมูลค่ากว่า 3.7 หม ื่นล้านดอลลาร์ให้กับลูกค้า ด้วยเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารการตลาดกว่า 8,500 ราย ในกว่า 130 ประเทศ

IPG Mediabrands เป็นเอเจนซี่ยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการตลาดเชิงพลวัต ด้วยการดำเนินงานอันว่องไว รวดเร็ว และเป็นเลิศทางข้อมูล เราจึงสามารถเดินหน้าสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ใหญ่ที่สุดของโลกหลายแบรนด์ เครือข่ายเอเจนซี่ของ IPG Mediabrands ประกอบไปด้วย UM, Initiative, BPN และ Orion Holdings รวมถึงธุรกิจเฉพาะทางอย่าง Magna Global, Cadreon, Ansible, Society, Reprise, Rapport และ IPG Media Lab

IPG Mediabrands. Dynamic by Design.

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160620005848/en/

ติดต่อ:
IPG Mediabrands
&nbs p; Dan Friedman
โทร: +1-212-883-4780
อีเมล: Dan.Friedman@mbww.com

เฮอร์บาไลฟ์ จับมือนักฟุตบอลระดับโลก คริสเตียโน โรนัลโด้ เปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ “CR7 Drive” สำหรับคนยุคใหม่ที่ใส่ใจการออกกำลังกายและเล่นกีฬา

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โซล, เกาหลีใต้–(บิสิเนส ไวร์)–20 มิ.ย. 2016

สมาชิกอิสระของเฮอร์บาไลฟ์กว่า 11,000 คน ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ที่งาน Asia Pacific Extravaganza ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

เฮอร์บาไลฟ์ บริษัทโภชนาการระดับโลก เปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ “CR7 Drive” อย่างเป็นทางการที่งาน Asia Pacific Extravaganza 2016 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในระหว่างวันที่ 17-19 มิถุนายน

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/news/home/20160620005415/en/

[http://mms.businesswire.com/media/20160620005415/en/530942/5/Dr-John-Heiss.jpg]
ดร. จอห์น ไฮสส์ ผู้อำนวยก ารอาวุโส Sports and Fitness, Worldwide Product Marketing ของเฮอร์บาไลฟ์ เผยโฉมเครื่องดื่ม CR7 Drive ในเอเชียแปซิฟิก (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

เฮอร์บาไลฟ์ ได้คิดค้นเครื่องดื่ม CR7 Drive ร่วมกับนักฟุตบอลชื่อดัง คริสเตียโน โรนัลโด้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านโภชนาการการกีฬา Herbalife24 สำหรับผู้ที่มีใจรักในการออกกำลังกาย ไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ

CR7 Drive ฉีกกฎของเครื่องดื่มเกลือแร่รูปแบบเดิมๆ ด้วย 3 คุณประโยชน์หลัก อันได้แก่ การชดเชยน้ำในร่างกาย ช่วยในการเมตาบอลิซึมของไขมันและคาร์โบไฮเดรตและช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน โดยไม่ใช้วัตถุปรุงแต่งรส หรือใช้สารให้ความหวานแต่อย่างใด ขณะนี้ CR7 Drive พร้อมวางจำหน่ายแล้วในเกาหลีใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเก๊า และไต้หวัน และจะทยอยเปิดตัวในประเทศอื่นๆทั่วเอเชียแปซิฟิกในเดือนต่อๆไป

“ในฐานะที่เป็นบริษัทโภชนาการระดับโลก เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอ ย่างมากที่จะได้เปิดตัวเครื่องดื่ม CR7 Drive ไปทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” แฟรงก์ แลมเบอร์ติ รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียเหนือของเฮอร์บาไลฟ์ กล่าว “คริสเตียโน โรนัลโด เป็นนักฟุตบอลฝีเท้าเยี่ยมผู้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับโภชนาการที่เหมาะสม และมีแฟนบอลในเอเชียอยู่เป็นจำนวนมหาศาล ดังนั้น เราจึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะได้แนะนำผลิตภัณฑ์โภชนาการการกีฬาตัวใหม่นี้สู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก”

CR7 Drive 1 ช้อน ให้พลังงานเพียง 50 แคลอรี่ โดยมีอัตราส่วนกลูโคสต่อฟรุกโตสสูง พร้อมสารอิเล็กโทรไลต์ที่จำเป็น 320 มิลลิกรัม ที่ช่วยชดเชยปริมาณน้ำในร่างกายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เมื่อร่างกายสูญเสียเหงื่อจากการเล่นกีฬา นอกจากนี้ ยังมีวิตามินบี 12 ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ตลอดจนคาร์โบไฮเดรตหลายชนิดที่ให้พลังงานเพื่อสมรรถภาพสูงสุดในการเล่นกีฬา

เครื่องดื่ม CR7 Drive ได้รับการเปิดตัวในงาน Asia Pacific Extravaganza ซึ่งเป็นงานประจำปีของเฮอร์บาไลฟ์ โดยมีส มาชิกอิสระของเฮอร์บาไลฟ์กว่า 11,000 คน พร้อมทั้งคณะผู้บริหารเข้าร่วมในงานนี้

หมายเหตุ: เครื่องดื่ม CR7 Drive จำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเก๊า และไต้หวัน และยังไม่ได้จำหน่ายในประเทศไทย

เกี่ยวกับเฮอร์บาไลฟ์

เฮอร์บาไลฟ์ บริษัทโภชนาการระดับโลก ช่วยส่งเสริมให้ชีวิตผู้คนทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 ผลิตภัณฑ์คุณภาพของเฮอร์บาไลฟ์ ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์โภชนาการ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการจัดการน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมสร้างพลังงานและเพื่อการกีฬา ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณและเส้นผม จัดจำหน่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนตัวของสมาชิกอิสระของเฮอร์บาไลฟ์และผ่านสมาชิกไปยังผู้บริโภคในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก เฮอร์บาไลฟ์มุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับปัญหาโภชนาการและภาวะน้ำหนักเกินของผู้คนทั่วโลก ด้วยการมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง พร้อมคำแนะนำเฉพาะบุคคลจากสมาชิกและชมรมของเฮอร์บาไลฟ์ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผ ู้บริโภคได้ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉง

บริษัทให้การสนับสนุน เฮอร์บาไลฟ์ แฟมิลี่ ฟาวเดชั่น (Herbalife Family Foundation: HFF) และโครงการคาซ่า เฮอร์บาไลฟ์ (Casa Herbalife) เพื่อนำพาโภชนาการที่ดีไปสู่เด็กๆ ที่ขาดแคลน อีกทั้งยังให้การสนับสนุนนักกีฬา สโมสรกีฬา รวมถึงการจัดการแข่งขันระดับโลกรวมกว่า 190 ราย อาทิ คริสเตียโน โรนัลโด ทีมฟุตบอลแอลเอ กาแล็กซี่ และนักกีฬาระดับแชมเปี้ยนของกีฬาประเภทต่างๆ

ปัจจุบัน เฮอร์บาไลฟ์มีพนักงานทั่วโลกกว่า 8,000 คน และมีหุ้นเข้าซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE: HLF) โดยมียอดขายสุทธิ 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี ค.ศ.2015 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Herbalife.com

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160620005415/en/

ติดต่อ:
;     เฮอร์บาไลฟ์ เอเชียแปซิฟิก
Daliea Mohamad-Liauw
รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทร. +852 3589 2643
อีเมล: dalieal@herbalife.com

เดย์มอน เวิลด์ไวด์ เผยรายงาน The Next World: How Millennials Will Shape Retail ศึกษาอิทธิพลของผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียลต่อธุรกิจค้าปลีก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

ปอร์โต ซาลโว, โปรตุเกส–(บิสิเนส ไวร์)–20 มิ.ย. 2016

เดย์มอน เวิลด์ไวด์ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกระดับโลกและผู้บุกเบิกไพรเวทแบรนด์ เปิดเผยรายงานการวิจัยตลาด The Next World: How Millennials Will Shape Retail ซึ่งได้สำรวจความแตกต่างและคุณค่าของผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียล เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้จะกำหนดอนาคตของธุรกิจค้าปลีกได้อย่างไร โครงการวิจัยระดับโลกนี้จัดทำขึ้นในเดือนเม.ย. 2016 โดยมีการสำรวจผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลและเจนเอ็กซ์มากกว่า 7,000 คน ใน 14 ประเทศ ทั่วทั้ง 5 ทวีป

วาสโก บรินก้า รองประธานของ เดย์มอน เวิลด์ไวด์ กล่าวว่า “ภายในปี 2030 ผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียลจะมีจำนวนมากกว่าคนทุกรุ่น แม้แต่กลุ่มเบบี้บูมเมอร์ ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คนยุคมิลเลนเนียลนั้นเติบโตมากับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การว่างงานสูง ทั้งยังอยู่ก ับระบบดิจิทัลตลอดเวลา การศึกษาคนยุคมิลเลนเนียลและวัฒนธรรมของพวกเขาจึงมีความจำอย่างมากในการที่จะช่วยให้เราค้นพบอิทธิพลที่ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีต่อโลกในอนาคต”

การวิจัยของ เดย์มอน เวิลด์ไวด์ ได้ประเมินผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลใน 3 ด้านหลัก ๆ ได้แก่ ทัศนคติและความเชื่อ วัตถุประสงค์ในการซื้อสินค้าและพฤติกรรมการบริโภค และมุมมองที่มีต่อแบรนด์ทั่วไปและแบรนด์เฉพาะ

ผลการค้นพบที่สำคัญ

วัตถุประสงค์ในการซื้อสินค้าและพฤติกรรมการบริโภค
ผลสำรวจพบว่าผู้บริโภคยุคมินเลนเนียลไม่มีการวางแผนการซื้อที่เป็นระบบ คนกลุ่มนี้ซื้อสินค้าบ่อยและใช้เวลานานในการเลือกซื้อสินค้า โดยการซื้อสินค้าจำพวกของชำนั้นมักเกิดจากความต้องการฉับพลัน ซึ่งต่างจากผู้บริโภคกลุ่มเจนเอ็กซ์ที่ซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อเก็บไว้ใช้ประมาณสองสามวัน

มุมมองที่ มีต่อแบรนด์ทั่วไปและแบรนด์เฉพาะ
ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลมีความภักดีต่อแบรนด์น้อยกว่าผู้บริโภคกลุ่มเจนเอ็กซ์ โดยผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียล 29% และผู้บริโภคกลุ่มเจนเอ็กซ์ 35% กล่าวว่า “ปกติแล้วพวกเขาจะซื้อสินค้ายี่ห้อเดิม แต่อาจลองซื้อสินค้ายี่ห้ออื่นบ้างในบางโอกาส” ในขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียล 26% กล่าวว่าพวกเขาอาจ “ซื้อสินค้ายี่ห้อใดก็ได้ที่รู้สึกชอบ ณ ขณะนั้น”

ผลการสำรวจยังเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับทัศนคติและความเชื่อ พฤติกรรมออนไลน์ การเลี้ยงดูและรูปแบบครอบครัว ความสมดุลระหว่างชีวิตกับงาน ตลอดจนพฤติกรรมสุขภาพและการส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียล

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิจัย The Next World: How Millennials Will Shape Retail ได้ที่ http://www.thenextworldinretail.com

เกี่ยวกับ เดย์มอน เวิลด์ไวด์:

เดย์มอน เวิลด์ไวด์ วางแผนกลยุทธ์และให้บริการด้านการค้าปลีกทั่วโลกอย่างมืออาชีพเพื่อทำเงินให้กับบรรดาห้างร้าน เราเป็นผู้นำระดับโลกในการสร้างแบรนด์เฉพาะที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งนำเสนอการทำการตลาดและบริการภายในร้านค้าที่เน้นเสริมสร้างประสบการณ์แก่ผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.daymon.com

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51363606&lang=en

ติดต่อ:
ตัวแทน Daymon Worldwide
Emily Roy, 212-279-3115 x232
eroy@prosek.com

มหกรรมนาโนเทคโนโลยีสุดยิ่งใหญ่ “NANO KOREA 2016” เตรียมเปิดฉาก 13-15 ก.ค. ที่เกาหลีใต้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

KINTEX, เกาหลีใต้–(บิสิเนส ไวร์)–21 มิ.ย. 2016

– บริษัท 350 แห่งจาก 15 ประเทศ ตบเท้าเข้าร่วมแสดงเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันใหม่ๆ ในมหกรรม NANO KOREA ครั้งที่ 14

– พร้อมกันนั้นยังมีการจัดแสดงเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยอีก 6 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยีเซรามิกสมัยใหม่ วัสดุที่มีประโยชน์ใช้สอยสูง ไปจนถึงสมาร์ทเซนเซอร์

NANO KOREA 2016 มหกรรมนาโนเทคโนโลยีและธุรกิจนาโนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์ประชุมและนิทรรศการ KINTEX ประเทศเกาหลีใต้

NANO KOREA เป็นเวทีแลกเปลี่ยนทางธุรกิจ เทคโนโลยี และข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้ประกอบธุรกิจและผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นสูงจากทั่วโลก มหกรรมนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 2003 และ จัดเป็นครั้งที่ 14 แล้วในปีนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ ไอซีที และการวางแผนอนาคต

ในส่วนของวัสดุนาโนนั้น จะมีการจัดแสดงสารเคลือบชนิดเหลวและครีม ท่อนาโนคาร์บอน (CNT) และผลิตภัณฑ์จากกราฟีน รวมถึงอุปกรณ์นาโนต่างๆ เช่น แป้งนาโน ฮีตเตอร์แบบฟิล์มที่ใช้เทคโนโลยีนาโน และสารทึบรังสีนาโน ตลอดจนการประยุกต์ใช้นาโน อาทิ จักรยานคาร์บอน ฟิลเตอร์นาโน และอุปกรณ์ลดพลังงานที่ใช้เทคโนโลยีนาโน

นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงเครื่องมือนาโนหลากหลายประเภท รวมถึงเครื่องมือแปรรูปเซมิคอนดักเตอร์ อาทิ สปัตเตอร์ เครื่องระเหย เครื่องกัดด้วยพลาสมา PECVD และ ALD รวมถึงเครื่องมือสำหรับการวัด วิเคราะห์ แปรรูป และผลิตที่ใช้นาโนเทคโนโลยี อาทิ เครื่องมือเลเซอร์สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกและเซมิคอนดักเตอร์

การจัดแสดงยังครอบคลุมถึง micro/MEMS สำหรับระบบคอมแพคและระบบอัจฉริยะ เทคโนโลยีเล เซอร์สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม รวมถึงวัสดุอุปกรณ์สำหรับเซรามิกสมัยใหม่แบบ IT, BT และ ET

ที่สำคัญ ภายในงานนี้ยังจัดแสดงวัสดุที่มีประโยชน์ใช้สอยสูงและสมาร์ทเซนเซอร์เป็นครั้งแรกอีกด้วย

ในวันที่ 13 กรกฎาคม จะมีการนำเสนอข้อมูลครั้งสำคัญโดยศาสตราจารย์ จอห์น เอ โรเจอร์ส (จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ สหรัฐอเมริกา) และดร.มิจิฮารุ นากามุระ (จากองค์การส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีญี่ปุ่น หรือ JST)

ในวันที่ 15 กรกฎาคม จะมีการประชุมด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจจากทั่วโลกได้นำเสนอทิศทางของนาโนเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เทคโนโลยีดังกล่าว โดยผู้บรรยายในปีนี้ประกอบด้วย 3M, BASF, Hanwha Chemical และ LG Chemical

ภายในงานยังมีการประชุมสัมมนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการอีกกว่า 20 รายการ โดยเน้นไปที่เท รนด์เทคโนโลยีและแนวโน้มในอนาคตของเลเซอร์ ไมโคร วัสดุที่มีประโยชน์ใช้สอยสูง สมาร์ทเซนเซอร์ และอื่นๆ

ท่านที่ลงทะเบียนล่วงหน้าสามารถเข้าร่วมงาน NANO KOREA 2016 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ภายในวันที่ 11 กรกฎาคม ทางเว็บไซต์ (www.nanokorea.or.kr)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:
เลขาธิการงาน NANO KOREA 2016
จู ฮยาง ซง
โทร. 82-31-548-2013
อีเมล: ntrasong@nanokorea.net

ที่มา: NANO KOREA Organizing Committee

เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ เปิดตัวเครือข่ายสำหรับข้อมูลปริมาณมาก พร้อมเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลทั่วโลกและบริการ Enterprise Cloud ของบริษัท

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–16 มิ.ย. 2016

เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น (เอ็นทีที คอม) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านไอซีทีโซลูชั่นส์และการสื่อสารระหว่างประเทศในเครือของเอ็นทีที (NYSE: NTT) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทจะเปิดตัวเครือข่ายข้อมูลปริมาณมาก ขนาดสูงสุด 10Gbps เพื่อเชื่อมต่อ Enterprise Cloud ซึ่งเป็นบริการคลาวด์คุณภาพสูงของเอ็นทีที คอม สำหรับระบบขนาดใหญ่ของลูกค้าและองค์กรธุรกิจซึ่งวางอยู่ตามศูนย์ข้อมูลมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก โดยจะเริ่มทยอยเปิดตัวตามลำดับตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนเป็นต้นไป

เครือข่ายดังกล่าวประกอบไปด้วย Nexcenter Connect(TM) Global ที่เชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลหลักๆทั่วโลก Nexcenter Connect(TM) Metro ซึ่งเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลภายในพื้นที่หลักๆของแต่ละประเทศ และ Data Center Inter-Connect ซึ่งเชื่อมต่อ Enterprise Cloud และศูนย์ข้อมูลหลักทั่วโ ลก

Nexcenter Connect(TM) และ Data Center Inter-Connect
http://www.ntt.com/content/dam/nttcom/hq/en/about-us/press-releases/pdf/2016/20160615_2a.pdf

ศูนย์ข้อมูลที่เปิดให้บริการ (จะทยอยเปิดเพิ่มตามลำดับ)
http://www.ntt.com/content/dam/nttcom/hq/en/about-us/press-releases/pdf/2016/20160615_2c.pdf

บริการ

– Nexcenter Connect(TM) Global เชื่อมต่อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่วางอยู่ตามศูนย์ข้อมูลทั่วโลกผ่านทางเครือข่ายข้อมูลปริมาณมากในราคาที่เรียกได้ว่าเป็นผู้นำอุตสาหกรรม Nexcenter Connect(TM) Global นำเสนอบริการทางเลือกสำหรับบริการศูนย์ข้อมูล Nexcenter(TM) ของเอ็นทีที คอม ซึ่งตอบสนองความต้องการบริการล้ำยุคต่างๆ ด้วยการรวมคุณภาพ ราคาประหยัด และความยืดหยุ่น เข้าไว้ด้วยกัน โปรดดูเอกสารแนบ 1 (1) สำหรับพื้นที่ให้บริการ
– Nexcenter Connect(TM) Metro จะมาเปิดให้บริการในญี่ปุ่น จากเดิมที่เปิดให้บริการในต่างประเทศ บริการนี้เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ที่วางอยู่ตามศูนย์ข้อมูลในเขตเมืองผ่านเครือข่ายข้อมูลปริมาณมาก ปลอดภัยและมีความหน่วงต่ำ ในราคาที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยอาจเลือกเป็นบริการเสริมของ Nexcenter(TM) ได้เช่นกัน โปรดดูเอกสารแนบ 1 (2) สำหรับพื้นที่ให้บริการ
– Data Center Inter-Connect จะมาสนับสนุนการเชื่อมต่อสำหรับ Enterprise Cloud โดยจะขยายการให้บริการไปทั่วโลกผ่านทางเครือข่ายข้อมูลปริมาณมากโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โปรดดูเอกสารแนบ 1 (3) สำหรับพื้นที่ให้บริการ
– นอกจากนี้สามารถใช้บริการ Data Center Inter-Connect และ Nexcenter Connect(TM) Global ด้วยกันได้ เพื่อการเชื่อมต่อระหว่าง Enterprise Cloud และศูนย์ข้อมูลหลายแห่งทั่วโลก

เ ครือข่ายใหม่เหล่านี้จะรับประกันการเชื่อมต่อที่ราบรื่นระหว่างศูนย์ข้อมูลหลายแห่ง และระหว่างระบบ Enterprise Cloud องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่จะสามารถเชื่อมต่อทรัพยากรไอซีทีปริมาณมหาศาลทั่วโลกได้โดยง่าย เพื่อการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลที่ยืดหยุ่นขององค์กร

องค์กรธุรกิจจะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมต่อในราคาประหยัดที่สามารถขยายขนาดได้ตามการเติบโตของสำนักงานและระบบของธุรกิจ เช่น สำหรับข้อมูล IoT การสำรองข้อมูล และการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการรวมหลายระบบเข้าด้วยกัน โปรดดูเอกสารแนบ 2 [http://www.ntt.com/content/dam/nttcom/hq/en/about-us/press-releases/pdf/2016/20160615_2b.pdf ] สำหรับกรณีศึกษาต่างๆ

ราคา (ไม่รวมภาษี)

1.  Nexcenter Connect(TM) Global

การเชื่อมต่อ	 		วงจรขนาด		ราคา (พอร์ตด้านเดียว; สถานที่ในญี่ปุ่น)
ศูนย์ข้อมูล Nexcenter(TM)	10Gbps		143,000 เยน/เดือน
				1Gbps	 	59,000 เยน/เดือน

หมายเหตุ: 	ราคาต่อสถานที่ ราคาสำหรับประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากญี่ปุ่น ไม่รวมอยู่ในนี้
 
2.  Nexcenter Connect(TM) Metro

การเชื่อมต่อ		 	วงจรขนาด		ราคา (พอร์ตสองด้าน)
ศูนย์ข้อมูล Nexcenter(TM) 	1Gbps			
ภายในเขตเมือง		 	10Gbps		23,000 JPY per month	
			เคเบิลออปติคอลคอร์ (2 คอร์)	

หมายเหตุ:	สำหรับในเขตมหานครโตเกียวหรือเขตคันไซของญี่ปุ่น จะสามารถใช้บริการได้อย่างเร็วที่สุดภายในสามวันนับจากวันที่สมัคร
		ขนาดของวงจรและราคาข้างต้นนี้สำหรับกรณีการให้บริการในเขตมหานครโตเกียวหรือเขตคันไซของญี่ปุ่น ไม่รวมประเทศอื่นๆ
 
3.  Data Center Inter-Connect

การเชื่อมต่อ	 		วงจรขนาด	 	ราคา
ระหว่าง Enterprise Cloud	10Gbps	 	ฟรี

เกี่ยวกับเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ให้บริการคำปรึกษา สถาปัตยกรรม ความปลอดภัยของข้อมูล และบริการคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขององค์กรธุรกิจ บริการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงเครือข่ายชั้นนำ Global Tier-1 IP อย่าง Arcstar Universal One(TM) VPN ซึ่งครอบคลุมถึง 196 ประเทศ/ดินแดน และศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัย 140 แห่งทั่วโลก โซลูชั่นของ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ใช้ทรัพยากรของกลุ่มบริษัท เอ็นทีที ทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Dimension Data, NTT DOCOMO และ NTT DATA
www.ntt.com | Twitter@NTT Com | Facebook@NTT Com | LinkedIn@NTT Com

เอกสารแนบ 1: พื้นที่ให้บริการ

(1) Nexcenter Connect(TM) Global

พื้นที่ให้บริการ	 			ศูนย์ข้อมูล

เขตมหานครโตเกียว ญี่ปุ่น			Tokyo No. 1 – No. 8 Data Center 
(เริ่มมิ.ย. 2016)			Yokohama No. 1 Data Cente
					Saitama No. 1 Data Center 

เขตคันไซ ญี่ปุ่น				Osaka 1 – 3 Data Center 
(เริ่มมิ.ย. 2016)			Osaka 5 Data Cente

ฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา			Virginia Ashburn 1 (VA1) Data Center
(เริ่มหลังก.ค. 2016)			Virginia Ashburn 2 (VA2) Data Center		

ฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา			California Sacramento 1 (CA1) Data Center
(เริ่มหลังก.ย. 2016)			California Sacramento 2 (CA2) Data Center
					California Sacramento 3 (CA3) Data Center

สหราชอาณาจักร				Hemel Hempstead 1 Data Center
(เริ่มหลังส.ค. 2016)			Hemel Hempstead 2 Data Center
					Hemel Hempstead 3 Data Center

เยอรมนี					Frankfurt 1 Data Center
(เริ่มหลังส.ค. 2016)			Frankfurt 2 Data Center (e-shelter)
					Frankfurt 3 Data Center
					Berlin 1 Data Center
					Munich 2 Data Center (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)

ฮ่องกง					Tai Po Data Center
(เริ่มหลังก.ค. 2016)			Financial Data Center

มาเลเซีย					Cyberjaya 1 Data Center
(เริ่มหลังธ.ค. 2016)			Cyberjaya 3 Data Center
					Cyberjaya 4 Data Center

สิงคโปร์					Serangoon Data Center
(เริ่มหลังก.ค. 2016)		

ออสเตรเลีย				Sydney 1 Data Center
(เริ่มหลังต.ค. 2016)		

ออสเตรีย					Vienna 1 Data Center
(เริ่มหลังมี.ค. 2017)		

สวิตเซอร์แลนด์				Zurich Data Center
(เริ่มหลังมี.ค. March 2017)

หมายเหตุ: โปรดสอบถามเอ็นทีที คอม เกี่ยวกับวันเปิดตัวศูนย์ข้อมูลอื่นๆที่ไม่ปรากฏอยู่ด้านบน
 
(2) Nexcenter Connect(TM) Metro

พื้นที่ให้บริการ	 			ศูนย์ข้อมูล

เขตมหานครโตเกียว ญี่ปุ่น			Tokyo No. 1 – No. 8 Data Center
(เริ่มมิ.ย. 2016)			Yokohama No. 1 Data Center
					Saitama No. 1 Data Center
					Between 10 data centers above

เขตคันไซ ญี่ปุ่น				Osaka 1 – 3 Data Center
(เริ่มมิ.ย. 2016)			Osaka 5 Data Center
					Between 4 data centers above

ฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา			Virginia Ashburn 1 (VA1) Data Center
(เปิดดำเนินการแล้ว)			Virginia Ashburn 2 (VA2) Data Center
					ระหว่างศูนย์ข้อมูล 2 แห่งข้างต้น

ฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา			California Sacramento 1 (CA1) Data Center
(เปิดดำเนินการแล้ว)			California Sacramento 2 (CA2) Data Center
					California Sacramento 3 (CA3) Data Center
					ระหว่างศูนย์ข้อมูล 3 แห่งข้างต้น

สหราชอาณาจักร				Hemel Hempstead 1 Data Center
(เปิดดำเนินการแล้ว)			Hemel Hempstead 2 Data Center
					Hemel Hempstead 3 Data Center
					ระหว่างศูนย์ข้อมูล 3 แห่งข้างต้น

เยอรมนี					Frankfurt 1 Data Center
(เปิดดำเนินการแล้ว)			Frankfurt 2 Data Center (e-shelter)
					Frankfurt 3 Data Center
					ระหว่างศูนย์ข้อมูล 3 แห่งข้างต้น

ฮ่องกง					Tai Po Data Center
(เปิดดำเนินการแล้ว)			Financial Data Center
					ระหว่างศูนย์ข้อมูล 2 แห่งข้างต้น

มาเลเซีย					Cyberjaya 1 Data Center
(เปิดดำเนินการแล้ว)	 		Cyberjaya 3 Data Center
					Cyberjaya 4 Data Center
					ระหว่างศูนย์ข้อมูล 3 แห่งข้างต้น
 
(3) Data Center Inter-Connect

พื้นที่ให้บริการ	 			ศูนย์ข้อมูล

เขตมหานครโตเกียว ญี่ปุ่น			ศูนย์ข้อมูลที่ให้บริการ Enterprise Cloud ในพื้นที่ให้บริการแต่ละแห่ง
(เริ่มมิ.ย. 2016)			
เขตคันไซ ญี่ปุ่น
(เริ่มหลังก.ค. 2016)		
ฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา
(เริ่มหลังมิ.ย. 2016)		
สหราชอาณาจักร
(เริ่มมิ.ย. 2016)		
เยอรมนี
(เริ่มหลังก.ค. 2016)		
ฮ่องกง
(เริ่มหลังก.ค. 2016)		
สิงคโปร์
(เริ่มหลังมิ.ย. 2016)		
ออสเตรเลีย
(เริ่มหลังก.ย. 2016)
 	
หมายเหตุ: ไม่รวมการเปิดตัวศูนย์ข้อมูลอื่นๆ และไม่มีการเปิดเผยชื่อของศูนย์ข้อมูลที่ไม้ได้ให้บริการ Enterprise Cloud 

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160615006643/en/

ติดต่อ:
สำหรับสื่อมวลชน
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น
(Mr.) Yoshiyuki Minami / (Mr.) Kazunori Yasufuku / (Ms.) Noriko Kikuchi
ฝ่าย Cloud Services
โทร. +81 3 6733 9511
อีเมล: dcs-3-2-s-cl@ntt.com

มหกรรมนาโนเทคโนโลยีสุดยิ่งใหญ่ “NANO KOREA 2016” เตรียมเปิดฉาก 13-15 ก.ค. ที่เกาหลีใต้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

KINTEX, เกาหลีใต้–(บิสิเนส ไวร์)–17 มิ.ย. 2016

– บริษัท 350 แห่งจาก 15 ประเทศ ตบเท้าเข้าร่วมแสดงเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันใหม่ๆ ในมหกรรม NANO KOREA ครั้งที่ 14

– พร้อมกันนั้นยังมีการจัดแสดงเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยอีก 6 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยีเซรามิกสมัยใหม่ วัสดุที่มีประโยชน์ใช้สอยสูง ไปจนถึงสมาร์ทเซนเซอร์

NANO KOREA 2016 มหกรรมนาโนเทคโนโลยีและธุรกิจนาโนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์ประชุมและนิทรรศการ KINTEX ประเทศเกาหลีใต้

NANO KOREA เป็นเวทีแลกเปลี่ยนทางธุรกิจ เทคโนโลยี และข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้ประกอบธุรกิจและผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นสูงจากทั่วโลก มหกรรมนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 2003 และ จัดเป็นครั้งที่ 14 แล้วในปีนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ ไอซีที และการวางแผนอนาคต

ในส่วนของวัสดุนาโนนั้น จะมีการจัดแสดงสารเคลือบชนิดเหลวและครีม ท่อนาโนคาร์บอน (CNT) และผลิตภัณฑ์จากกราฟีน รวมถึงอุปกรณ์นาโนต่างๆ เช่น แป้งนาโน ฮีตเตอร์แบบฟิล์มที่ใช้เทคโนโลยีนาโน และสารทึบรังสีนาโน ตลอดจนการประยุกต์ใช้นาโน อาทิ จักรยานคาร์บอน ฟิลเตอร์นาโน และอุปกรณ์ลดพลังงานที่ใช้เทคโนโลยีนาโน

นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงเครื่องมือนาโนหลากหลายประเภท รวมถึงเครื่องมือแปรรูปเซมิคอนดักเตอร์ อาทิ สปัตเตอร์ เครื่องระเหย เครื่องกัดด้วยพลาสมา PECVD และ ALD รวมถึงเครื่องมือสำหรับการวัด วิเคราะห์ แปรรูป และผลิตที่ใช้นาโนเทคโนโลยี อาทิ เครื่องมือเลเซอร์สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกและเซมิคอนดักเตอร์

การจัดแสดงยังครอบคลุมถึง micro/MEMS สำหรับระบบคอมแพคและระบบอัจฉริยะ เทคโนโลยีเล เซอร์สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม รวมถึงวัสดุอุปกรณ์สำหรับเซรามิกสมัยใหม่แบบ IT, BT และ ET

ที่สำคัญ ภายในงานนี้ยังจัดแสดงวัสดุที่มีประโยชน์ใช้สอยสูงและสมาร์ทเซนเซอร์เป็นครั้งแรกอีกด้วย

ในวันที่ 13 กรกฎาคม จะมีการนำเสนอข้อมูลครั้งสำคัญโดยศาสตราจารย์ จอห์น เอ โรเจอร์ส (จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ สหรัฐอเมริกา) และดร.มิจิฮารุ นากามุระ (จากองค์การส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีญี่ปุ่น หรือ JST)

ในวันที่ 15 กรกฎาคม จะมีการประชุมด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจจากทั่วโลกได้นำเสนอทิศทางของนาโนเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เทคโนโลยีดังกล่าว โดยผู้บรรยายในปีนี้ประกอบด้วย 3M, BASF, Hanwha Chemical และ LG Chemical

ภายในงานยังมีการประชุมสัมมนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการอีกกว่า 20 รายการ โดยเน้นไปที่เท รนด์เทคโนโลยีและแนวโน้มในอนาคตของเลเซอร์ ไมโคร วัสดุที่มีประโยชน์ใช้สอยสูง สมาร์ทเซนเซอร์ และอื่นๆ

ท่านที่ลงทะเบียนล่วงหน้าสามารถเข้าร่วมงาน NANO KOREA 2016 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ภายในวันที่ 11 กรกฎาคม ทางเว็บไซต์ (www.nanokorea.or.kr)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:
เลขาธิการงาน NANO KOREA 2016
จู ฮยาง ซง
โทร. 82-31-548-2013
อีเมล: ntrasong@nanokorea.net

ที่มา: NANO KOREA Organizing Committee

Genting Hong Kong เตรียมมอบสุดยอดประสบการณ์ออนไลน์บนเรือสำราญแก่ลูกค้า Star Cruises ด้วยเครือข่ายล้ำสมัยจาก Harris CapRock

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

ฮุสตัน–(บิสิเนส ไวร์)–15 มิ.ย. 2016

คุณสมบัติเด่น

– เครือข่ายขั้นสูงเพิ่มแบนด์วิดท์ 300%
– เพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตบนเรือ 6 ลำ
– ใช้สถาปัตยกรรมเครือข่าย TDMA ที่ไม่จำกัดการใช้งานของ Harris CapRock เพื่อรับประกันประสิทธิภาพการใช้งานอย่างต่อเนื่อง

Genting Corporate Services (HK) Limited เลือก Harris CapRock Communications (HCC) ให้เป็นผู้ดำเนินการปรับโฉมบริการการสื่อสารบนเรือสำราญจำนวน 6 ลำของ Star Cruises ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเรือสำราญรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้นำเส้นทางเดินเรือสำราญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Harris CapRock จะใ ช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยของบริษัทเพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์เกือบ 300% บนเรือของ Star Cruises ได้แก่ Superstar Virgo, Superstar Gemini, Superstar Libra, Superstar Aquarius, Star Pisces และ Taipan โซลูชันดังกล่าวใช้เครือข่าย Time Divisional Multiple Access (TDMA) ที่ไม่จำกัดการใช้งานของ Harris CapRock ซึ่งแตกต่างไปจากเครือข่าย TDMA แบบดั้งเดิม โดยจะสามารถรับประกันการเข้าถึงระดับแบนด์วิดท์ที่กำหนดไว้ได้ตลอดเวลา นับเป็นนวัตกรรมที่เหนือกว่าเครือข่าย TDMA รูปแบบเดิมๆ

Star Cruises มีความเข้าใจและมอบบริการที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวจีนใช้เวลาออนไลน์มากกว่าชาวอเมริกัน 5-6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และใช้เวลาเฉลี่ยเกือบ 90 นาทีต่อวันไปกับโซเชียลมีเดีย* ด้วยโครงการระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมนี้ Star Cruises จะสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าที่ต้องการการเชื่อมต่อและบริการเสริมในระดับพรีเมียม

* http://makeawebsitehub .com/chinese-social-media-statistics/

เกี่ยวกับ Harris CapRock Communications

Harris CapRock Communications เป็นผู้ให้บริการโซลูชันการสื่อสารดาวเทียม ภาคพื้นดินและไร้สาย สำหรับตลาดการเดินเรือและพลังงานเป็นหลัก Harris CapRock นำเสนอบริการ One Clear Path ให้กับลูกค้าด้วยการใช้โครงสร้างพื้นฐานระดับโลกที่แข็งแกร่ง ซึ่งประกอบด้วยเทเลพอร์ตใน 6 ทวีป ศูนย์บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงไม่เว้นวันหยุดจำนวน 5 แห่ง การดำเนินธุรกิจใน 24 ประเทศ และเจ้าหน้าที่บริการภาคสนามทั่วโลกอีกหลายร้อยรายที่คอยให้การสนับสนุนแก่ลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ ทั่วอเมริกาเหนือ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกาตะวันตก ตะวันออกกลาง และเอเชียแอซิฟิก สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ harriscaprock.com

เกี่ยวกับ Harris Corporation

Harris Corporation เป็นผู้นำในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโน โลยีที่ช่วยแก้ปัญหาท้าทายที่ยากที่สุดและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อลูกค้า ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่ช่วยในการเชื่อมต่อ แจ้งข้อมูลและปกป้องข้อมูล บริษัทให้การสนับสนุนลูกค้าในกว่า 125 ประเทศ มีรายได้ราว 8 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และมีพนักงาน 22,000 คนทั่วโลก Harris Corporation ดำเนินธุรกิจใน 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ ระบบการสื่อสาร ระบบอวกาศและข่าวกรอง ระบบอิเล็กทรอนิก และเครือข่ายที่สำคัญ สามารถศึษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ harris.com

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160615005945/en/

ติดต่อ:
Harris CapRock
Phillip Parker, 832-668-2227
phillip.parker@harris.com
หรือ
Ha rris Corporation
Jim Burke, 321-727-9131
jim.burke@harris.com