เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ เปิดตัวโปรแกรมภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ สอนบทสนทนาภาษาญี่ปุ่นแก่พนักงานบริษัทในต่างประเทศผ่านวิดีโอคอล

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–14 มี.ค. 2016

– บทเรียน 45 นาที ในราคาเริ่มต้น 1,250 เยน ซึ่งใช้บริการการประชุมทางโทรศัพท์คุณภาพสูงที่อาศัยข้อได้เปรียบด้านต่างๆ ของเอ็นทีที คอม

เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น (NTT Com) บริษัทโซลูชั่นไอซีทีและการสื่อสารระหว่างประเทศในเครือเอ็นทีที กรุ๊ป (NYSE: NTT) ประกาศเปิดตัว VLJ Online Japanese Conversation บริการสอนสนทนาภาษาญี่ปุ่นผ่านทางวิดีโอคอล ซึ่งพร้อมให้บริการแล้ววันนี้ในฐานะที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Visual Learning .Japanese (VLJ) บริการสอนภาษาญี่ปุ่นผ่านระบบคลาวด์ของบริษัท ซึ่งประกอบด้วยเว็บไซต์การเรียนการสอนและแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโฟน

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบ Smart News Release ซึ่งประกอบด้วยสื่อมัลติมีเดียและข่าวฉบับเต็มได้ที่:
http://www.businesswire.com/news/home/20160314005530/en/

VLJ Online Japanese Conversation class image (Graphic: Business Wire)

http://mms.businesswire.com/media/20160314005530/en/514129/4/E_figure_1.jpg
ภาพชั้นเรียน VLJ Online Japanese Conversation (ภาพ: บิสิเนส ไวร์)

ข้อได้เปรียบ:
VLJ Online Japanese Conversation ต่อยอดมาจากความรู้ด้านไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดในหลักสูตรอีเลิร์นนิง VLJ Basic และประยุกต์รูปแบบ “การเรียนรู้ผสมผสาน” ระหว่างการศึกษาไวยากรณ์ญี่ปุ่นและบทเรียนสนทนาออนไลน์ ผ่านการเล่นบทบาทสมมติที่ใช้ได้จริง บริการดังกล่าวนี้นำเสนอการการเรียนการสอนแบบตัวต่อตัวผ่านทางวิดีโอคอลกับ ครูที่ได้รับการรับรองจากโรงเรียนภาษาญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงอย่าง โรงเรียน Shinjuku Japanese Language Institute (SNG) ซึ่งได้ร่วมมือกับ VLJ โดย VLJ ใช้แนวทางการสอนที่แปลกใหม่ ได้แก่ Ezoe Method ที่ช่วยให้ผู้เริ ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่นเข้าใจคุณลักษณะซับซ้อนของภาษาได้อย่างรวดเร็ว Ezoe Method ได้รับการออกแบบโดยทาคาฮิเดะ เอโซเอะ ครูใหญ่ของ SNG

(1) การเรียนการสอนคุณภาพสูงเทียบเท่าโรงเรียนสอนภาษาในญี่ปุ่น แม้ผู้เรียนอยู่ต่างประเทศ
บริการนี้เชื่อมโยงนักเรียนที่อยู่ไกลออกไปและครูสอนภาษาญี่ปุ่นในญี่ปุ่น ไว้ด้วยกันผ่านทาง Arcstar Web Conferencing ซึ่งเป็นบริการประชุมสายผ่านเว็บคุณภาพสูงในรูปแบบแพลตฟอร์ม นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการสื่อสารที่จำเป็นในสถานการณ์ธุรกิจได้โดยศึกษา บทเรียนที่มุ่งเน้นการสนทนาที่ใช้ได้จริง เทียบเท่าบทเรียนที่เปิดสอนที่ SNG

(2) บทเรียน 45 นาทีในราคาประหยัด เริ่มต้นเพียง 1,250 เยน
คอร์สมาตรฐาน 1 คอร์สจะสมบูรณ์ เมื่อนักเรียนเข้าเรียนครบ 2 บทเรียน บทเรียนละ 45 นาที (รวมเป็น 90 นาที) ครั้งละสัปดาห์ เป็นเวลา 6 เดือน (รวม 24 ครั้ง) ดังนั้นแม้แต่นักธุรกิจ ที่มีภารกิจยุ่งเหยิงก็สามารถเรียนภาษาญี่ปุ่นได้อย่างสะดวกง่ายดาย สำหรับเวลาและจำนวนของบทเรียนสามารถปรับได้ตามความต้องการของ ลูกค้าแต่ละคน ในกรณีที่คลาสหนึ่งมีนักเรียนจากต่างประเทศ 6 คน บริการบทเรียน 45 นาทีจะอยู่ที่ 1,250 เยน หรือราว 11 ดอลลาร์ต่อคน

(3) บทเรียนที่จัดเตรียมขึ้นเพื่อช่วยให้นักเรียนไม่ถอดใจ
การเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งรวมถึงอีเลิร์นนิ่ง จะบรรลุผลสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยแรงจูงใจของผู้เรียนเป็นอย่างมาก ดังนั้นอัตราการเรียนจบคอร์สที่มีแนวโน้มต่ำนั้นจึงมีสาเหตุมาจากผู้ที่มี หน้าที่เรียนนั่นเอง อย่างไรก็ดี บทเรียนของ VLJ Online Japanese Conversation จัดขึ้นเป็นช่วงๆตามกำหนดเวลา ในรูปแบบของการฝึกอบรมที่เปิดให้ผู้เข้าเรียนมารวมตัวกันตามเวลาที่กำหนด อัตราการการเรียนจบจึงสูงกว่า เนื่องจากครูผู้สอนมีการติดตามผลอย่างเหมาะสม ประกอบกับการร่วมแรงร่วมใจของเพื่อนร่วมชั้นเรียน

ข้อมูล VLJ Online Japanese Conversation โดยสังเขป
	
การเรียนการสอน		การฝึกสนทนาผ่าน 96 ชั้นเรียน ตามหลักสูตร VLJ Basic และการเล่นบทบาทสมมติที่สามารถใช้ได้จริง
			* เทียบเท่าระดับการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น (JLPT) N5 เท่านั้น

โครงสร้างการเรียนมาตรฐาน	บทเรียน 45 นาที 2 ช่วง (รวม 90 นาที) ครั้งละสัปดาห์

ระยะเวลาเรียนมาตรฐาน	6 เดือน (24 ครั้ง)

จำนวนผู้เข้าร่วม		4 - 6 คนต่อคลาส

อุปกรณ์การเรียน		อุปกรณ์การเรียนรู้ด้วยตนเองจาก VLJ (ตำรา เว็บไซต์สำหรับเข้าเรียน แอพสมาร์ทโฟน)

รูปแบบคลาส		การเรียนผสมผสาน

ค่าเรียน			1 คอร์ส (รวม 48 บทเรียน สำหรับ 1 คน)
			ผู้เรียนจากต่างประเทศ: 60,000 เยน หรือประมาณ 531  ดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รวมภาษี)
			ผู้เรียนในญี่ปุ่น: 90,000 เยน หรือประมาณ 796 ดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รวมภาษี)
			*ต้องสมัครเรียน VLJ Basic แยกต่างหาก

นอกจากนี้ เอ็นทีที คอม ยังจะขยายขอบเขตของบทเรียนใน VLJ Online Japanese Conversations รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์การเรียนรู้ด้วยตนเอง อาทิ คอร์สสำหรับผู้เริ่มต้น การเรียนอักษรญี่ปุ่นด้วยการคัดตามรอยประ และคอร์สที่สูงขึ้นเทียบเท่าระดับ JLPT N4 และ N3 นอกจากนี้ เอ็นทีที คอม จะเพิ่มจำนวนครูภาษาญี่ปุ่น และเพิ่มจำนวนนักเรียนหลักสูตรสนทนาทางออนไลน์ เอ็นทีที คอม จะนำข้อได้เปรียบจากการที่ครูสามารถทำการสอนได้จากหลากหลายสถานที่ เพื่อกระจายอาชีพไปยังแม่บ้าน และผู้สูงวัย เป็นต้น และเพื่อดึงบุคคลเหล่านี้เข้ามาเป็นครูของ VLJ Online Japanese Conversation

ความเป็นมา
เอ็นทีที คอม ได้เปิดหลักสูตร VLJ Basic เพื่อให้นักธุรกิจที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่นสามารถเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเอง ผ่านทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2015 บริการดังกล่าวได้รับการประเมินผลในระดับสูงว่าเป็นโปรแกรมฝึกภาษาญี่ปุ่น สำหรับพนักงานชาวต่างชาติของบริษัท และสถาบันญี่ปุ่นที่มีการขยายกิจการออกไปทั่วโลก เอ็นทีที คอม ยังได้เปิดตัวบริการการศึกษาทางเลือกด้วยการส่งครูชาวญี่ปุ่นไปสอนการสนทนา ที่ใช้ได้จริง ในขณะเดียวก็มีเสียงเรียกร้องจากลูกค้าหลายรายที่ต้องการให้เปิดบริการดัง กล่าวสำหรับพื้นที่ที่อยู่ไกลออกไปหรือในหลายพื้นที่ VLJ Online Japanese Conversation ช่วยให้พนักงานชาวต่างชาติ หรือพนักงานตามสำนักงานที่อยู่ห่างไกล สามารถเรียนภาษาญี่ปุ่นกับครูเจ้าของภาษา ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการหลากหลายแขนงในการพัฒนาบุคลากรในองค์กรญี่ปุ่น

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
Visual Learning .Japanese: http://www.ntt.com/vlj_e/
Arcstar Web Conferencing: http://www.ntt.com/a_webc_e/

ข่าวประชาสัมพันธ์ของเอ็นทีที คอม เผยแพร่เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2015: เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ขยายบริการศึกษาภาษาญี่ปุ่นผ่านคลาวด์ “Visual Learning .Japanes e” ด้วยโปรแกรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง: http://www.ntt.com/aboutus_e/news/data/20150721.html

ข่าวประชาสัมพันธ์ของเอ็นทีที คอม เผยแพร่เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2013: เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ เปิดตัวบริการคลาวด์เพื่อการศึกษาภาษาญี่ปุ่น: http://www.ntt.com/aboutus_e/news/data/20131031.html

*ราคาที่ปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์นี้คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ 113 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ

เกี่ยวกับเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น

เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ให้บริการคำปรึกษา สถาปัตยกรรม ความปลอดภัยของข้อมูล และบริการคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขององค์กรธุรกิจ บริการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงเครือข่าย Tier-1 IP ระดับโลก และเครือข่าย Arcstar Universal One(TM) VPN ถึง 196 ประเทศทั่วโลก และศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัยกว่า 130 แห่ง โซลูชั่นของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ยังสามารถใช้งานร่วมกับบริษัทในเครือเอ็นทีที กรุ๊ป ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึง Dimension Data, NTT DOCOMO และ NTT DATA
www.ntt.com | Twit ter@NTT Com | Facebook@NTT Com | LinkedIn@NTT Com

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160314005530/en/
ติดต่อ:
สำหรับสื่อมวลชน
NTT Communications Corporation
Mr. Tetsuya Jinno / Mr. Shu Nishioka
Application & Content Services
อีเมล: vlj_office@ntt.com

Sony Digital Entertainment เปิดตัว “magictron” พลิกโฉมวงการสื่อประชาสัมพันธ์ดิจิทัล นำเสนอการโต้ตอบแบบ 4K เป็นรายแรกของโลก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–11 มี.ค. 2016

– เราจะเข้าร่วมงาน SXSW201 พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆที่คุณจะต้องทึ่ง (13-16 มี.ค. 2016)

Sony Digital Entertainment Services Inc.

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบ Smart News Release ซึ่งประกอบด้วยสื่อมัลติมีเดียและข่าวฉบับเต็มได้ที่:
http://www.businesswire.com/news/home/20160311005195/en/

SXSW2016 TradeShow: “magictron” from Sony Digital Entertainment will change the digital signage. (Photo: Business Wire)         http://mms.businesswire.com/media/20160311005195/en/513931/4/%28SXSW2016%29.jpg
มหกรรม SXSW2016 TradeShow: “magictron” จาก Sony Digital Entertainment พร้อมพลิกโฉมวงการสื่อประชาสัมพันธ์ดิจิทัล (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์ )

จัดแสดงเครื่องมือสื่อสารสังคม 2 รูปแบบ ซึ่งเชื่อมต่อเมือง สมาร์ทโฟน และผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน

Sony Digital Entertainment Services Inc. บริษัทออกแบบสังคม ผู้เปิดประสบการณ์การสื่อสารในรูปแบบใหม่ๆผ่านสมาร์ทโฟน เตรียมเข้าร่วมมหกรรม SXSW2016 TradeShow (13-16 มีนาคม ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส) เป็นครั้งแรก โดย Sony Digital จะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆใน 2 รูปแบบด้วยกัน

“magictron” นวัตกรรมสำหรับการโต้ตอบแบบ 4K เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจในตัวแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น

“magictron” เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ดิจิทัลที่ผู้บริโภคสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ พร้อมเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ โดยเทคโนโลยีรู้จำภาพทำหน้าที่จับภาพสะท้อนของผู้ใช้งานบนหน้าจอขนาดใหญ่ เพื่อนำไปสร้างเอฟเฟกต์ตอบโต้กับผู้ใช้ “magictron” ถ่ายภาพให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งสามารถแชร์ต่อได ้ผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีบริการ “magictron” เวอร์ชั่นมือถือบนเว็บไซต์ SXSW2016 ด้วย

[คุณสมบัติของ magictron]

– สามารถจับ “ระยะห่าง” ระหว่างกล้องและตัวบุคคล และแสดงภาพเคลื่อนไหวแบบอินเทอร์แอคทีฟรอบตัวผู้ใช้งาน
– สามารถรู้จำวัตถุและแบบ หรือลวดลายจำเพาะ
– สามารถรู้จำการแสดงออกทางสีหน้า พร้อมแสดงเอฟเฟกต์ตอบโต้กลับ
– สามารถฉายภาพยนตร์ความคมชัดสูง ด้วยกล้องและหน้าจอระดับ 4K
– สามารถนำเสนอการดำเนินงานเชิงครีเอทีฟอย่างเหนือชั้น จาก DNA ของ Sony Pictures

“NINJAINK”: ข้อความลับที่สร้างสรรค์ขึ้นจากน้ำหมึกชนิดพิเศษ เพื่อมอบความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภค

“NINJAINK” เป็นเทคโนโลยีน้ำหมึกชนิดใหม่ ซึ่งเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถส่งข้อความถึงผู้บริโภคผ่านภาพกราฟิกลับ ที่จะปรากฏให้เห็นเมื่อใช้สมาร์ทโฟนถ่ายภาพด้วยแฟลชโดยไม่ต้องติด ตั้งแอพเพิ่มแต่อย่างใด เทคโนโลยีน้ำหมึกชนิดพิเศษนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจและดึงดูดความสนใจของผู้ บริโภค ในรูปแบบที่เทคโนโลยี AR หรือ Projection Mapping ไม่สามารถทำได้ “NINJAINK” กระตุ้นให้ผู้บริโภคร่วมแชร์ประสบการณ์ของตนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย

เว็บไซต์ของบริษัทสำหรับงาน SXSW2016
http://sonydes.jp/sxsw/

ภาพรวมของบริษัท
บริษัท: Sony Digital Entertainment Services Inc.
ก่อตั้งเมื่อ: ไตรมาส 4 ปี 2007
ซีอีโอ: อัตสึชิ ฟุกุดะ (Atsushi Fukuda)
ที่ตั้ง: 8-1 35F Akashi-cho, Chuo-ku, Tokyo-to, 104-0044 Japan
โทร: +81-3-5551-0871 แฟกซ์: +81-3-5551-0842
เว็บไซต์: http://sonydes.jp/
ขอบข่ายธุรกิจ: ออกแบบสังคม / ดิจิทัลคอนเทนต์ เช่น ภาพเคลื่อนไหว ภาพยนตร์ ตัวละคร / วางแผนบริการใหม่ / การพัฒนาเทคโนโลยี / การสร้างสรรค์ / การบริหารจัดการเว็บไซต์

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160311005195/en/

ติดต่อ:
ติดต่อเพื่อขอรับข่าวประชาสัมพันธ์/ สัมภาษณ์
Sony Digital Entertainment Services Inc.
มาซาโตะ อิโตะ (Masato Ito)
ฝ่ายการตลาดโลก
โทร: +81-3-5551-0871
อีเมล: Masato.Ito@jp.sony.com

โรงแรม Keio Plaza Hotel ในโตเกียว จัดนิทรรศการพิเศษ “Experience Mt. Fuji and Cherry Blossom Fair” ต้อนรับการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–11 มี.ค. 2016

– สะท้อนความงามของญี่ปุ่นผ่านเครื่องเขิน ภาพถ่าย และกระดาษแบบญี่ปุ่น

Keio Plaza Hotel (KPH) [http://www.keioplaza.com/] โรงแรมระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชินจูกุของโตเกียว เตรียมจัดนิทรรศการพิเศษที่มีชื่อว่า “Experience Mt. Fuji and Cherry Blossom Fair” [http://www.keioplaza.com/offers/events1604_01.html] โดยจะจัดแสดงเครื่องเขิน ภาพถ่าย และกระดาษแบบญี่ปุ่นหลากหลายรูปแบบในเดือนเมษายนนี้ ขณะเดียวกันห้องอาหาร 11 แห่งของโรงแรมจะให้บริการอาหารเมนูพิเศษที่สื่อถึงการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ ผ่านภาพภูเขาฟูจิและซากุระ นอกจากนั้นยังมีโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมายสำหรับแขกผู้เข้าพัก เช่น ที่พักพร้อมชุดอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษ SAKURA [http://www.keioplaza.com/japanculture/index.html#sakuraDinner] ซึ่ งประกอบด้วยอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ ได้แก่ ซูชิ เทมปุระ และชาบู-ชาบู พิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่

Decorative lacquerware plate entitled "Sakura and Mt. Fuji" by Yuji Tomoda. Keio Plaza Hotel Tokyo will display various kinds of artworks in theme of Mt. Fuji and cherry blossoms, symbols of Japanese aesthetics. (Photo: Business Wire)

Decorative lacquerware plate entitled “Sakura and Mt. Fuji” by Yuji Tomoda. Keio Plaza Hotel Tokyo will display various kinds of artworks in theme of Mt. Fuji and cherry blossoms, symbols of Japanese aesthetics. (Photo: Business Wire)
http://www.businesswire.com/news/home/20160311005173/en/

http://mms.businesswire.com/media/20160311005173/en/513769/4/keio-plaza_01.jpg
จานเครื่องเขินสำหรับใช้ตกแต่งชิ้นนี้มีชื่อว่า “Sakura and Mt. Fuji” ผลงานของยูจิ โทโมดะ นอกจากนี้ ทางโรงแรม Keio Plaza Hotel จะจัดแสดงงานศิลปะหลากหลายประเภทภายใต้ธีมภูเขาฟูจิและซากุระ อันเป็นสัญลักษณ์ของสุนทรียภาพแบบญี่ปุ่น (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

ผลงานที่จะนำมาจัดแสดงในงานนี้ประกอบด้วยเครื่องเขิน 30 ชิ้นที่ล้วนเป็นรูปภูเขาฟูจิและซากุระ รังสรรค์โดยใช้เทคนิคการปิดทองและเคลือบเงา โดยฝีมือของศิลปินเครื่องเขินสไลต์วาจิมะอย ่างคัตสึฮิโกะ อุราเดะ และยูจิ โทโมดะ นอกจากนั้นยังมีคอลเลคชั่นภาพถ่ายภูเขาฟูจิและซากุระจำนวน 20 ภาพจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะคาวากุจิโกะ รวมถึงศิลปะกระดาษแบบญี่ปุ่นจำนวน 10 ชิ้นที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตบรรจงเพื่อแสดงถึงภูเขาฟูจิและซากุระ นิทรรศการนี้จัดขึ้นบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมและเปิดให้ผู้มาเยือน ทุกคนสามารถเข้าชมได้

นอกจากนี้ ห้องอาหาร 11 แห่งของโรงแรม ที่มีทั้งครัวอาหารญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อิตาเลียน จีน และเกาหลี จะเตรียมเมนูพิเศษที่เป็นตัวแทนการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ รวมทั้งสื่อถึงภูเขาฟูจิและซากุระ

Keio Plaza Hotel (KPH) [http://www.keioplaza.com/] จัดงานเกี่ยวกับภูเขาฟูจิมาตลอดนับตั้งแต่ที่ภูเขาแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกเมื่อปี 2013 ขณะเดียวกันอาหารของโรงแรมก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแขกทุกปี โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปเยือนภูเขาฟูจิจากโตเกียว ทางโรงแรมได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากกว่า 100 ประเทศ เราจึงจัดงานต่า งๆ เพื่อให้แขกต่างชาติ ซึ่งคิดเป็น 70% ของแขกทั้งหมด ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม ศิลปะ และธรรมชาติอันงดงามของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงภูเขาฟูจิ ที่มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อศิลปะแขนงต่างๆของญี่ปุ่น และซากุระที่แสดงถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160311005173/en/

ติดต่อ:
Keio Plaza Hotel Tokyo
Sunaho Nakatani, +81-3-5322-8113
Public Relations Manager
s-nakatani@keioplaza.co.jp

Unruly Launches Dashboard Which Tracks Emotional Trends Of Video Advertising

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

SINGAPORE–(BUSINESS WIRE)–Mar. 10, 2016

– Unruly can provide marketers with comparative data-driven insight into the cultural, seasonal and demographic drivers of video engagement; advertisers can also compare brand metrics with competitors

– Data finds South-East Asian consumers more likely to love a brand or buy a product after watching an video ad online than consumers in the US and Europe

South-East Asian viewers are far more likely to love a brand or buy a product after watching a video ad online than viewers in the US and Europe.

That’s according to data from Unruly Pulse(TM) – a new dashboard launched in beta today by video ad tech company Unruly. Data from the new platform – which provides unique insight into the emotional and brand trends of video advertising – found that 58% of ASEAN consumers reported having a more favourable view of a brand after watching an ad, compared with 41% in the US, 28% in the UK and 26% in Germany.

Purchase intent is also higher among South-East Asian audiences at 52%, compared to 40% in the US, and 31% in the UK and Germany. The only country to have a stronger reaction to watching videos ads was Brazil, highlighting the importance of video advertising for brands hoping to make it big in Rio at the Summer Olympics.

Unruly Pulse uses more than 550,000 consumer responses to show marketers which emotions drive engagement across different demos, events, territories and industries. Advertisers can also analyse individual ads and compare their overall performance in their sector.

Academic and industry studies over the last decade have repeatedly shown the effects of emotional advertising on a variety of brand and business metrics, including increased brand favorability, purchase intent and earned media.

Unruly co-CEO Sarah Wood added: “Consumer emotions drive product sales, as well as brand love, so it’s not surprising that smart marketers appreciate the important role that Emotional Intelligence has to play in delivering effective video ad campaigns. Marketers using Unruly Pulse will have their finger on the pulse of consumer emotions and they’ll be able to plan more effectively for video launches around zeitgeist events and seasonal trends.

“Harnessing the Emotional Intelligence of Unruly Pulse, they’ll be better placed to understand what works for their audie nce and why. They’ll be equipped to develop a video content strategy that will resonate with a specific audience at a specific moment in time.”

Phil Townend, Unruly’s APAC MD, added: “The launch of Unruly Pulse in South-East Asia will complete the set of tools which together offer advertisers the only end-to-end data-driven video content marketing solution on offer in the market In the 24 months since Unruly APAC was established, our ShareRank content evaluation tool has transformed the way smart brands and agencies look at video creation, Unruly Activate has delivered award-winning video distribution and amplification and Unruly Pulse will add further colour and stimulus to make more effective content strategy decisions.”

Other insights compiled using Unruly Pulse data include:

– South-East Asian advert isers lead the way in emotional advertising, with emotional responses to video content much higher than the global average for all the emotions recorded by Pulse – apart from one, hilarity. Exhilaration – one of the least common emotional responses in other markets – also resonates very strongly;
– South-East Asian audiences are also very highly motivated to share video content. ASEAN audiences scored higher than the global average for all 10 key social motivations to share video ads (for example, to help a good cause or seek other people’s opinions) with their friends;
– The most shared ad of all time – Google Android’s 2015 commercial “Friends Furever” (7 million shares worldwide) – made consumers around the globe feel almost four times as happy as the average ad. It was also over five times as likely to make people laugh as the average tech ad;
– Advertisers are failing to make people laugh, with hilarity one of the least common emotions worldwide, felt by 4% of respondents. Happiness is the most common emotion people felt while watching video content during the same period. It’s also the emotion most likely to cross national and cultural borders, making it perfect for sporting events like the Olympics and European Championships;
– The key drivers of video sharing differ greatly around the world. For example, in the US and Europe, emotions are the key drivers of video sharing, while in South-East Asia, Brazil and Turkey the focus is more on giving consumers reasons to share content.

Academic Dr Karen Nelson-Field, Director of the Centre for Digital Video Intelligence, said: “In true Unruly style, Unruly Pulse is a fun, user-friendly dashboard that provides deep levels of i nsight for brands and agencies hoping to make the most out of their video advertising campaigns.”

Using Unruly Pulse, advertisers can:

– Make data-driven decisions to drive purchase intent and brand metrics;
– Track how emotions seasonally ebb and flow over time;
– Find out what motivates viewers to share a piece of content;
– Identify the emotional profiles of best-in-class content ;
– Dissect trends by sector, geo & demo;
– Optimize distribution for maximum impact among their target segment.

Methodology: Unruly Pulse is powered by Unruly ’s unique, first-party data on emotional advertising. It visualises data from more than half a million consumer responses across thousands of videos, spanning EMEA, APAC and the Americas.

Pricing and availability: The dashboard is currently available in beta in Future Video Labs across the UK, US, France, Germany, Nordics and South-East Asia. To download our 7 Steps to Sporting S.U.C.C.E.S.S this Summer, click here. To find out more about the dashboard, please click here [http://go.unruly.co/l/50182/2016-03-08/5vv3nq ].

UNRULY, UNRULY PULSE and logos and associated marks are trademarks of Unruly Group. Other marks are owned by their respective owners.

About Unruly

Unruly is the ad tech company that gets videos watched, tracked and shared across th e Open Web. Positioned at the intersect of video, social, native & mobile, Unruly uses emotional audience data and user-friendly video formats to massively increase viewer engagement, brand performance & publisher revenues.

With 3 out of every 4 video views now taking place outside of YouTube, 90% of Ad Age 100 brands have already used Unruly to connect with audiences at speed and scale across the Open Web.

Differentiated by a unique data set of 2 trillion video views and powered by a full tech stack, Unruly adds value by algorithmically evaluating content shareability and programmatically targeting custom audiences. Viewability is 100% guaranteed to an audience of 1.35 billion monthly unique users across mobile, tablet and desktop devices.

UnrulyX is the first supply side platform (SSP) for mobile video to offer scaled delivery of native ad formats and guarantee the viewability of premium video impressions bought via RTB.

Unruly employs 200 people across 15 offices, with regional HQs in London, New York and Singapore.

Its super power is emotional ad tech. Its secret weapon is passionate people on a mission to #DeliverWow. Unruly was acquired by News Corp (NASDAQ: NWS, NWSA; ASX: NWS, NWSLV) in September 2015.

View source version on businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160309006523/en/

CONTACT:
Unruly
David Waterhouse, +44 020 71995871
david.waterhouse@unrulygroup.c om

MIRAIT Technologies ตั้งบริษัทย่อยในเมียนมาร์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–7 มี.ค. 2559

— ขยายงานก่อสร้างเพื่อรองรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ —

MIRAIT Technologies Corporation (สำนักงานใหญ่: นิชิ-คุ, โอซากา, ประธาน: โคอิจิ ทาคาฮาทาเกะ) ประกาศจัดตั้งบริษัทย่อยในเมียนมาร์ ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100%

วัตถุประสงค์ของบริษัทใหม่

MIRAIT Technologies Corporation เป็นบริษัทวิศวกรรมครบวงจรซึ่งกำลังขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยชู กลยุทธ์ “Triple-Win Strategy” มาโมรู ทานากะ เจ้าหน้าที่องค์กรอาวุโสและผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจทั่วโลก อธิบายว่า ตนกำลังวางแผนโครงการการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะทางวิศวกรรม อาทิ เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติก ขณะที่กลยุทธ์ Triple-Win Strategy นั้นหมายถึงความสัมพันธ์อันเฟื่องฟูกับลูกค้า เมีย นมาร์ และ MIRAIT Group

การตั้งบริษัทใหม่โดยมุ่งเน้นไปที่การบำรุงซ่อมแซม การออกแบบและการก่อสร้างโครงสร้างการสื่อสารเพื่อรองรับโทรศัพท์มือถือ ทำให้เรามีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรของวิศวกร และความก้าวหน้าของโครงข่ายโทรคมนาคมในเมียนมาร์

เราร่วมมือกับหุ้นส่วนท้องถิ่นในเชิงรุกโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างตลาดใหม่ สำหรับภาควิศวกรรมไอทีและบริการ

MIRAIT Technologies Group ได้รับการว่าจ้างในโครงการการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเมียนมาร์ ซึ่งบริษัทย่อยแห่งใหม่นี้จะเข้ารับหน้าที่พัฒนาโครงการดังกล่าว อย่างเต็มรูปแบบ

ประวัติบริษัทใหม่
ชื่อ : MIRAIT Technologies Myanmar Co., Ltd. (MTM)
ประธาน : คัทสึชิ โคกิโสะ (นาย)
สำนักงาน : สำนักงานใหญ่ในย่างกุ้ง และสำนักงานดำเนินงานในมัณฑะเลย์
ที่อยู่ : Ambo Tower 9th Floor, No.149, Boaungkyaw Road, Kyauktada Township, Yangon
วันก่อตั้ง : 1 กุมภาพันธ์ 2559
ขอบเขตธุรกิจ : ก่อสร้าง ออกแบบ และบำรุงซ่อมแซมโครงสร้างโทรคมนาคม
ยอดขายปีงบประมาณที่ 1: 20 พันล้านจ๊าด (20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ผู้ถือหุ้น : MIRAIT Technologies Corporation ถือหุ้น 100%
เงินทุน : 1 พันล้านจ๊าด (1 ล้านดอลลา ร์สหรัฐ)
พนักงาน : 100 คน
เว็บไซต์ : http://www.miraitmm.com

เกี่ยวกับ MIRAIT Technologies Corporation

MIRAIT Technologies Corporation คือหนึ่งในบริษัทย่อยหลักของ MIRAIT Holdings ซึ่งดำเนินงานมากว่า 50 ปี บริษัทส่งมอบโครงการที่สำคัญในกว่า 60 ประเทศ มีส่วนช่วยในวิวัฒนาการของโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายการสื่อสารทั่วโลก และตอบรับกระแสโลกด้วยการรุกพัฒนาธุรกิจ ICT ในด้านคลาวด์คอมพิวติงและศูนย์ข้อมูล นอกเหนือไปจากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมแบบดั้งเดิม

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51289708&lang=en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือ ได้และเป็นท างการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:
MIRAIT Technologies Myanmar Co., Ltd. (MTM)
Hiroaki TAKESHIMA
ผู้อำนวยการ
โทร: +95-1-373345
อีเมล: takeshima@miraitmm.com

Thura Aung
รองประธาน
โทร:+95-1-373345
แฟกซ์: +95-1-373345
อีเมล: thuraaung@miraitmm.com
เว็บไซต์: http://www.miraitmm.com

หรือ
MIRAIT Technologies Corporation
Global Business Department
โทร: +81-3-5496-8460
แฟกซ์: +81-3-5560-0976
เว็บไซต์: http://www.tec.mirait.co.jp/english/

หรือ
MIRAIT Holdings
Public Relation Office
โทร: +81-3-6807-3120
แฟกซ์: +81-3-5546-2967
เว็บไซต์ http://ww w.mirait.co.jp/en/

C&C Group จับมือ San Miguel เป็นพันธมิตรจัดจำหน่ายในไทย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

กรุงเทพฯ และดับลิน–(บิสิเนส ไวร์)–3 มี.ค. 2559

– ข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับ San Miguel Brewery Inc. สำหรับแบรนด์ Magners จะช่วยขับเคลื่อนการขยายธุรกิจในประเทศไทย

C&C Group ผู้นำด้านการผลิต การตลาด และจัดจำหน่ายไซเดอร์ เบียร์ ไวน์ และน้ำอัดลมแบรนด์ต่างๆ เดินหน้าขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วโลกยิ่งขึ้น ด้วยการประกาศข้อตกลงว่าด้วยการจัดจำหน่ายเชิงกลยุทธ์ร่วมกับบริษัท ซาน มิเกล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อยกระดับการวางขายและจัดจำหน่ายไซเดอร์แบรนด์ Magners ในประเทศไทย

San Miguel จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ C&C เพื่อขยายการจัดจำหน่าย การขาย และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้กับ Magners Cider ในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดไซเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียสำหรับทางแบรนด์ โดยบริษัท ซาน มิเกล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิตแบรนด์เบียร์ชั้นนำเป็นของตัวเองที่โรงงานในจังหวัดปทุมธานี และจัดจำหน่ายเบียร์เหล่านี้ทั่วประเทศไทย

จอริส บรามส์ กรรมการผู้จัดการ International Division ของ C&C Group กล่าวว่า “เรามีอย่างมุ่งมั่นอย่างหนักแน่นต่อตลาดต่างประเทศ และยินดีที่ได้ร่วมงานกับบริษัท ซาน มิเกล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของเรากับพาร์ทเนอร์ต่างประเทศให้เหนียวแน่นยิ่ง ขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้เปิดโอกาสให้เราสามารถส่งเสริมทั้งยอดขายและการรับรู้แบ รนด์ พร้อมขับเคลื่อนโครงการขยายธุรกิจระดับโลกอย่างมีนัยสำคัญต่อไป”

คาร์ลอส เบอร์บา กรรมการผู้จัดการของ San Miguel Brewing International Ltd. กล่าวว่า “San Miguel Brewing International Ltd. มองว่า การร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับกลุ่มบริษัท C&C ในส่วนของการขายและจัดจำหน่ายแบรนด์ Magners Cider ในไทยนั้น เป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าครั้งสำคัญของเราในการทำธุรกิจในประเทศนี้ การได้ Magners Cider เพิ่มเข้ามาจะช่วยเสริมใ ห้รายการผลิตภัณฑ์ที่เรามีในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึง San Miguel Pale Pilsen, San Mig Light, San Miguel Cerveza Negra และ Kirin Ichiban Shibori สมบูรณ์ยิ่งขึ้น”

เกี่ยวกับ C&C Group plc

C&C Group เป็นผู้ผลิตไอริชไซเดอร์ชั้นนำยี่ห้อ Bulmers ไซเดอร์ระดับพรีเมียมของโลกยี่ห้อ Magners อิงลิชไซเดอร์ภายใต้ C&C Brands รวมถึงเบียร์ยี่ห้อ Tennent

C&C Group ยังเป็นเจ้าของและผู้ผลิต Woodchuck และ Hornsby’s ซึ่งเป็นคราฟต์ไซเดอร์ชั้นนำในสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ C&C Group ทำหน้าที่จัดจำหน่ายเบียร์หลากหลายยี่ห้อทั้งในสกอตแลนด์ ไอร์แลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ โดยจัดจำหน่ายให้กับ Anheuser-Busch InBev เป็นหลัก และยังเป็นเจ้าของ Wallaces Express ธุรกิจค้าส่งเครื่องดื่มในสกอตแลนด์

ส่วน Gleeson ธุรกิจค้าส่งในไอร์แลนด์ซึ่งอยู่ ในเครือของ C&C Group เป็นเจ้าของและผู้ผลิตน้ำแร่ยี่ห้อ Tipperary Water และน้ำอัดลมยี่ห้อ Finches

C&C Group มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ดับลิน และดำเนินการผลิตในเมืองทิปเปอร์แรรีของไอร์แลนด์ เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ เมืองซัมเมอร์เซตของอังกฤษ และรัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐอเมริกา C&C Group plc จดทะเบียนในตลาดหุ้นไอร์แลนด์และตลาดหุ้นลอนดอน

เกี่ยวกับบริษัท ซาน มิเกล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (SMMTL) และบริษัท ซาน มิเกล เบียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (SMBTL)

บริษัท ซาน มิเกล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ San Miguel Brewing International Ltd (SMBIL) ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ San Miguel Brewery Inc. ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้

กลุ่มบริษัท ซาน มิเกล ในประเทศไทย ซึ่งประกอบไปด้วย SMMTL และ SMBTL ดำเน ินการผลิต วางตลาด และจัดจำหน่ายแบรนด์ San Miguel อย่าง San Miguel Pale Pilsen และ San Mig Light ในประเทศไทย โดยหลังจากที่ได้บุกตลาดภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งทศวรรษ San Mig Light ก็ได้ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์นอกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับสองในตลาด เบียร์ระดับพรีเมียมของไทยที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด

บริษัทยังเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ยี่ห้อ Red Horse Beer ในไทย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเบียร์ดีกรีแรง

นอกจากนี้ ทางกลุ่มบริษัทยังดำเนินการผลิต วางตลาด และจัดจำหน่ายเบียร์ยี่ห้อ Kirin Ichiban ภายใต้ข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิกับ Kirin Brewery Company ในประเทศญี่ปุ่น

บริษัทมีโรงงานผลิตอยู่ที่ถนนติวานนท์ จังหวัดปทุมธานี ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 25 กม. ซึ่ง San Miguel Corporation ได้ซื้อมาจากบริษัทไทยอมฤตบริวเวอรี่เมื่อปี 2547 และได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปีเดียวกัน

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ View source version on businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160302006542/en/

ติดต่อ:
C&C Group:
Conor Hardy
+65 9146 3144
หรือ
San Miguel Brewing Group:
+662 961 6721

ร้านกากั้นคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในการประกาศ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียติดต่อกันเป็นปีที่สอง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย–(Marketwired)–29 ก.พ. 2559

null

ร้านอาหารกากั้น (Gaggan) จากกรุงเทพฯ ได้รับรางวัลสูงสุดในการประกาศรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ติดต่อกันเป็นปีที่สอง รางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย สนับสนุนโดยซาน เปลเลกริโน (S.Pellegrino) และอัคควา ปันน่า (Acqua Panna) โดยได้มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ชนะในพิธีประกาศผลรางวัล ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพมหานคร

ครั้งนี้เป็นปีที่ 4 ของการจัดงาน ซึ่งมีร้านอาหารหน้าใหม่เข้าสู่ลิสต์ปี 2016 นี้ถึง 10 ร้านด้วยกัน จากตัวแทน 13 ประเทศ ซึ่งรายชื่อร้านอาหารปี 2016 นั้นมาจากหลายประเทศเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆ มา สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพและความหลากหลายของการสร้างสรรค์เมนูอาหารชั้นเลิศ ทั่วเอเชีย

ร้านกากั้น ครองสองตำแหน่งในปีนี้ ได้แก่ ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย สนับสนุนโดยซาน เปลเลกริโน และอัคควา ปันน่า และ ร้านอาหารยอดเยี่ยมในประเทศไทย ซึ่งสนับสนุนโดยซาน เปลเลกริโน และอัคควา ปันน่าเช่นกัน

รางวัลร้านอาหารยอดเยี่ยมในแต่ละประเทศ :

นาริซาว่า (Narisawa) [อันดับที่ 2] ร้านอาหารยอดเยี่ยมในประเทศญี่ปุ่น สนับสนุนโดยซาน เปลเลกริโน และอัคควา ปันน่าซึ่งนับเป็นความสำเร็จเป็นปีที่ 4 แล้ว

เลื่อนขั้นสองอันดับ ร้าน อองเดร (Andre) [อันดับที่ 3] ของเชฟอองเดร เชียง (Andre Chiang) ครองตำแหน่งร้านอาหารยอดเยี่ยมในประเทศสิงคโปร์ สนับสนุนโดยซาน เปลเลกริโน และอัคควา ปันน่า ติดต่อกันเป็นปีที่ 4

แอมเบอร์ (Amber) [อันดับที่ 4] จากฮ่องกง คว้ารางวัลร้านอาหารยอดเยี่ยมในประเทศจีน สนับสนุนโดยซาน เปลเลกริโน และอัคควา ปันน่า แทนผู้ชนะเมื่อปีที่แล้วอย่าง ร้านอัลตร้าไวโอเล็ต (Ultraviolet) [อันดับที่ 7]

ก้าวมาอยู่ในอันดับที่ 15 ร้านมิงเกิลส์ (Mingles) จากกรุงโซล คว้ารางวัลร้านอาหารหน้าใหม่อันดับสูงสุด (Highest New Entry Award) สนับสนุนโดย John Paul รวมทั้งยังควบตำแหน่งร้านอาหารยอดเยี่ยมในเกาหลีอีกด้วย

ร้านแกลเลอรี่ เวสค์ (Gallery Vask) [อันดับที่ 39] จากมะนิลาได้รับเลือกเป็นร้านอาหารยอดเยี่ยมในฟิลิปปินส์ ในขณะที่ร้านโลคาวอร์ (Locavore) [อันดับที่ 49] ที่บาหลี คว้ารางวัลร้านอาหารยอดเยี่ยมในอินโดนีเซียไปครอง

ร้านอินเดียน แอคเซ่น (Indian Accent) ไต่ขึ้น 13 ลำดับขึ้นสู่อันดับที่ 9 พร้อมรับรางวัลร้านอาหารยอดเยี่ยมในอินเดียเป็นปีที่สองแล้ว

ร้านเลอมูท์ (Le Mout) [อันดับที่ 30] คว้าตำแหน่งร้านอาหารยอดเยี่ยมในไต้หวัน ในขณะที่ร้านมินิสทรี่ ออฟ แครบ (Ministry of Crab) ที่โคลอมโบ [อันดับที่ 31] ยังคงรักษาเกียรติยศได้อยู่ในตำแหน่งร้านอาหารยอดเยี่ยมในศรี ลังกา ร้านคิวซีน วัดตำหนัก (Cuisine Wat Damnak) [อันดับที่ 43] กลับมาครองตำแหน่งร้านอาหารยอดเยี่ยมในกัมพูชาอีกครั้ง

ผู้ชนะรางวัลสาขาอื่น ๆ ประกอบด้วย :

รางวัลร้านอาหารหน้าใหม่อันดับสูงสุด (Highest New Entry Award) สนับสนุนโดย John Paul: ร้านมิงเกิลส์ (Mingles)
เชฟมิงกู คัง (Mingoo Kang) ได้รังสรรค์อาหารเกาหลีขึ้นมาใหม่ โดยผสมผสานเครื่องปรุงในท้องถิ่นเข้ากับอิทธิพลและวิธีการทำอาหารแบบตะวันตก

รางวัลร้านอาหารที่น่าจับตามอง (One To Watch Award) สนับสนุนโดย Peroni Nastro Azzurro: ร้านโฟลคริแลช (Florilege)
ร้านโฟลคริแลชจากโตเกียวโดดเด่นในการทำอาหารฝรั่งเศสสมัยใหม่ออกมาได้อย่าง มีสไตล์ไร้ที่ติ

รางวัลสุดยอดเชฟทำขนมแห่งเอเชีย (Asia’s Best Past ry Chef Award) สนับสนุนโดย Cacao Barry: เชอรีล โกห์ (Cheryl Koh)
เกิดที่สิงคโปร์ ได้แรงบันดาลใจที่เก็บเกี่ยวมาจากการเดินทาง เชอรีล โกห์ ได้ทำการเปิดตัวทาร์ตในเดือนเมษายน 2558

รางวัลขวัญใจเชฟ (Chefs’ Choice Award): พอล เพเรท์ (Paul Pairet)
พอล เพเรท์ ได้รับความยอมรับนับถือจากบรรดาเพื่อนเชฟด้วยกัน จากความสำเร็จในร้านอาหารชื่อดังสองแห่งในเซี่ยงไฮ้ มิสเตอร์ แอนด์ มิสซิสบันด์ (Mr & Mrs Bund) และร้านอาหารสุดล้ำที่มีชื่อว่าอัลตร้าไวโอเล็ต (Ultraviolet)

รางวัลความก้าวหน้าสูงสุด (Highest Climber Award): ร้านควินเทสเซนส์ (Quintessence)
ร้านที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในโตเกียว ร้านควินเทสเซนส์ [อันดับที่ 20] ก้าวกระโดดขึ้น 29 ลำดับจากปีที่แล้ว เชฟมาร์การิต้า โฟเร่ส์ (Chef Margarita Fores) จากฟิลิปปินส์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสุดยอดเชฟหญิงแห่งเอเชียประจำปี 2016 ในขณะที่ เดวิด ทอมป์สัน (David Thompson) เป็นผู้ได้รับรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านอาหารจาก The Diners Club(R)

วิลเลี่ยม ดรูว์ (William Drew) บรรณาธิการกลุ่มของงาน 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย กล่าวว่า “คณะผู้จัดงาน 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย มีเจตนารมย์ในการยกย่องชมเชยความคิดสร้างสรรค์ เมนูอาหารรสเลิศ และเหล่าสุดยอดร้านอาหารทั้ง 50 แห่งที่ได้รับการคัดเลือก รวมทั้งเหล่าบรรดาเชฟชั้นนำผู้ได้รับรางวัล ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นตัวแทนความเป็นสุดยอดของอุตสาหกรรมนี้”

สำหรับข้อมูล รูปภาพ และภาพวิดีโอเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ www.theworlds50best.com/asia

รูปภาพ
บรรดาเชฟและร้านอาหารต่างๆ ร่วมกันฉลองในพิธีประกาศรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแ ห่งเอเชียประจำปี 2016 สนับสนุนโดย ซาน เปลเลกริโน (S.Pellegrino) และอัคควา ปันน่า (Acqua Panna)
http://release.media-outreach.com/i/Download/4414
http://release.media-outreach.com/i/Download/4422

ตราบริษัท
http://release.media-outreach.com/i/Download/4340

การรวบรวมรายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย
รายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย จัดทำโดย The Diners Club(R) Asia’s 50 Best Restaurants Academy ซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำที่มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมร้านอาหารทั่วภูมิภาคเอเชียกว่า 300 ท่าน

สำหรับรายชื่อในปี 2016 นี้ Asia’s 50 Best Restaurants ได้ร่วมทำงานกับบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ Deloitte ในฐานะพั นธมิตรผู้ทำหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินอิสระอย่างเป็นทางการ

จัดโดย William Reed Media Group
รายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียจัดทำขึ้นโดย William Reed Media Group ซึ่งเป็นผู้จัดทำรายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมในโลก (The World’s 50 Best Restaurants) มาตั้งแต่ปี 2545 และ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมในละตินอเมริกา (Latin America’s 50 Best Restaurants) ตั้งแต่เดือนกันยายน 2556

ประเทศเจ้าภาพจัดงาน: ประเทศไทย
อาหารไทยถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์สำคัญ ที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมายังประเทศไทย นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้กลายมาเป็นสนามของความเลิศรสให้แก่บรรดาเชฟชื่อดัง ระดับโลกอีกด้วย ภัตตาคารและร้านอาหารชั้นนำของประเทศไทยได้สืบทอดการปรุงเมนูอาหารดั้งเดิม รวมทั้งรังสรรค์คิดค้นเมนูใหม่ๆ ทั้งไทยและเทศอย่างต่อเนื่อง ทุกเมนูล้วนแล้วแต่คงรสชาติเลิศรส พร้อมเชิญชว นให้ทุกคนมาลิ้มลองประสบการณ์อาหารไทยที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์อย่างชัดเจน

เกี่ยวกับผู้สนับสนุนหลักของงาน:
ซาน เปลเลกริโน (S.Pellegrino) และ อัคควา ปันน่า (Acqua Panna) ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักในงานประกาศรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ซาน เปลเลกริโน (S.Pellegrino) และ อัคควา ปันน่า (Acqua Panna) ถือเป็นแบรนด์น้ำแร่ธรรมชาติชั้นนำในวงการอาหารชั้นเลิศระดับโลก

รายนามผู้สนับสนุนของเรา :
– Diners Club International(R) – ผู้สนับสนุนบริการทางการเงินอย่างเป็นทางการ ผู้สนับสนุนรางวัลความสำเร็จสูงสุดของ The Diners Club(R) และอะคาเดมี่สำหรับ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียของ The Diners Club
– John Paul – ผู้ให้บริการอํานวยความสะดวกและผู้สนับสนุนรางวัลยอดเยี่ยมสำหรับร้านอาหาร รายใหม่ที่เข้ารอบ
– Peroni Nastro Azzurro – ผู้ผลิตและจัดจําหน่ายเบียร์อย่างเป็นทางการ และผู้สนับสนุนรางวัลร้านอาหารที่น่าจับตามอง
– Cacao Barry – ผู้ผลิตและจัดจําหน่ายช็อกโกแลตอย่างเป็นทางการ และผู้สนับสนุนเชฟทำขนมยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย
– Silestone by Cosentino – ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเคาน์เตอร์ครัวจากหินควอทซ์อย่างเป็นทางการ
– Robert Mondavi Winery – ผู้ผลิตและจัดจําหน่ายไวน์อย่างเป็นทางการ
– W Hotel Bangkok – พันธมิตรผู้ให้การสนับสนุนโรงแรมที่พักและสถานที่จัดงานอย่างเป็นทางการ

ข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน: หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมและตามติดการอัพเดตข้อมูลจาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย คุณต้องลงทะเบียนที่ศูนย์กลางสื่อออนไลน์ของเราที่
http://www.theworlds50best.com/asia/en/media-centre-registration.html

สำหรับสื่อมวลชนที่ต้องการข้อมูล กรุณาติดต่อ บริษัท CatchOn & Company ในฮ่องกง
Joanne Liu/ Elaine Chow
อีเมล์: asias50best@catchonco.com
โทรศัพท์: +852 2566 8988

Mitsubishi Tanabe Pharma Corporation ลงนามในข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิร่วมกับ A. Menarini Asia-Pacific เพื่อทำตลาดและจัดจำหน่าย Spedra (Avanafil) ใน 10 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

สิงคโปร์—(บิสิเนส ไวร์)—26 ก.พ. 2559

Mitsubishi Tanabe Pharma Corporation (TSE: 4508) และบริษัท A. Menarini Asia-Pacific Holdings Pte Ltd (“Menarini AP”) ของสิงคโปร์ ได้บรรลุข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิสำหรับผลิตภัณฑ์ SPEDRA(TM) (avanafil) โดย Menarini AP จะได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวจาก Mitsubishi Tanabe Pharma Corporation ในการทำตลาดและวางจำหน่าย Avanafil ในจีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม

Menarini AP เป็นบริษัทในเครือของ Menarini Group ธุรกิจชีวเภสัชภัณฑ์อิตาลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริษัทให้บริการแก่บรรดาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ ด้วยข้อมูลข่าวสารด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่เป็นเลิศ เที่ยงตรง และมีจรรยาบรรณสูงสุดตลอดทุกขั้นตอนการดำเนินงาน โดย Menarini Group ได้รับอนุญาตใช้สิทธิดังกล่าวมาก่อนแล้ว สำ หรับการทำตลาดและวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้ในกว่า 40 ประเทศในยุโรป รวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

SPEDRA(TM) (avanafil) เป็นฟอสโฟไดเอสเทอเรส (phosphodiesterase) ที่ได้รับการคิดค้นขึ้นใหม่ อันประกอบไปด้วยสารยับยั้งประเภทที่ 5 (PDE5-i) ซึ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เมื่อเดือนมิถุนายน 2556 เพื่อใช้ในการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยที่สหรัฐอเมริกา องค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้ให้การรับรอง avanafil เมื่อเดือนเมษายน 2555 เพื่อใช้รักษาอาการเดียวกันนี้ในชื่อการค้า STENDRA(TM) “A. Menarini Asia-Pacific เป็นหุ้นส่วนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะในเรื่องของการเข้าถึงแพทย์และศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะ/ผู้เชี่ยว ชาญด้านบุรุษเวชวิทยาทั่วภูมิภาค ค่านิยมอันแข็งแกร่ง และประวัติการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ เรามีความยินดีในการเป็นพันธมิตรกับ Menarini AP” นาย มาซายูกิ มิตสึกะ ประธานและผู้แทนกรรมการของ Mitsubishi Tanabe Pharma Corporation กล่าว “ในอนาคตอันใกล้นี้มีแนวโน้มสูงว่าตลาดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ในเอเชียแปซิฟิกจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราการวินิจฉัยที่สูงขึ้น อำนาจในการจับจ่ายของผู้ป่วย และการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพประสิทธิภาพสูงที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น SPEDRA(TM) เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ได้รับการยอมรับในแวดวงสุขภาพชาย เนื่องจากเป็นตัวเลือกอันยอดเยี่ยมในการรักษาผู้ป่วยชายที่เป็น โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ด้วยคุณสมบัติทางยาที่แปลกใหม่และยังออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว และเมื่อผนึกกำลังกับ Priligy ซึ่งเป็นยาตัวแรกที่ได้รับการรับรองเพื่อรักษาอาการหลั่งเร็ว (PE) แล้ว Menarini AP จึงมีศักยภาพมากขึ้นในแวดวงสุขภาพชายในภูมิภาคนี้” ดร.ลูกา ลาสทรุคชี ซีอีโอของ A. Menarini Asia-Pacific กล่าว

เกี่ยวกับ Spedra (Avanafil)

Avanafil เป็นสารยับยั้งชนิด PDE5 รุ่นสองที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ด้วยคุณลักษณะทางเภสัชจลนศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ Avanafil จึงสามารถออกฤทธิ์ชะงัดภายในเวลาให้ยาประมาณ 15 นาทีในผู้ป่วยส่วนใหญ่ ส่งผลให้เป็น PDE5-I ตัวเดียวที่ได้รับการรับรองในยุโรปท ี่สามารถทานก่อนร่วมกิจกรรมทางเพศได้เป็นเวลาราว 15-30 นาที และด้วยคุณสมบัติออกฤทธิ์เร็ว Avanafil จึงมีความทนต่อยา (tolerability) ในระดับที่น่าพอใจ และยังมีอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่ำในการทดลองเชิงคลินิก SPEDRA(TM) ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของ Avanafil ในสหภาพยุโรป (EU) ได้รับการรับรองจากองค์การยายุโรป เพื่อใช้รักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ขณะที่ STENDRA ซึ่งเป็นชื่อการค้าในสหรัฐอเมริกา ก็ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐสำหรับการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพ ทางเพศเช่นกัน ทั้งนี้ Mitsubishi Tanabe Pharma Corporation เป็นผู้ถือสิทธิในการพัฒนาและทำการค้า avanafil เพื่อใช้รักษาอาการผิดปกติทางเพศของเพศชายในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกบาง ประเทศ

เกี่ยวกับ Mitsubishi Tanabe Pharma Corporation

Mitsubishi Tanabe Pharma Corporation (MTPC) เป็นบริษัทเภสัชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น MTPC มุ่งแก้ไขปัญหาอันท้าทายในการคิดค้นยา ทั้งในการรักษาโรคออโต อิมมูน โรคระบบประสาทกลาง โรคเบาหวาน โรคไต และวัคซีน ซึ่ง MTPC ทุ่มเทอย่างต่อเนื่องให้กับการทำวิจัยและพัฒนาในส่วนนี้ โดย MTPC มีความมุ่งมั่นเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้คนทั่วโลกผ่านการคิดค้นยา รักษาโรคต่างๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MTPC สามารถรับชมได้ที่: http://www.mt-pharma.co.jp/e

เกี่ยวกับ Menarini Asia-Pacific

Menarini Asia-Pacific เป็นบริษัทในเครือของ Menarini Group ธุรกิจชีวเภสัชภัณฑ์อิตาลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความเป็นมายาวนานกว่า 130 ปี รวมถึงบุคลากรที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดีกว่า 16,000 คนในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปฏิบัติงานโดยยึดมั่นต่อจรรยาบรรณ Menarini Asia-Pacific มีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการให้บริการแบรนด์สุขภาพที่มีความ สำคัญ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในภูมิภาค Menarini Asia-Pacific ดำเนินงานตลอดห่วงโซ่มูลค่าการค้า จากขั้นการพัฒนาเชิงคลินิก การขออนุมัติจากฝ่ายกำกับ ดูแล และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการบริหารจัดการวงจรชีวิต ด้วยแบรนด์ทั้งที่บริษัทเป็นเจ้าของและร่วมพัฒนาในแวดวงรักษาโรคหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพของผู้บริโภค ผิวหนังวิทยา ภูมิแพ้/ระบบหายใจ หัวใจร่วมหลอดเลือด วิทยาเนื้องอก/โรคเฉพาะทาง และสุขภาพชาย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Menarini Asia-Pacific สามารถรับชมได้ที่: www.menariniapac.com

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160226005251/en/

ติดต่อ:
A. Menarini Asia-Pacific Holdings Pte Ltd
เจนนิเฟอร์ หลิน (Jennifer Lin)
ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายแบรนดิ้งและสื่อสารองค์กรประจำภูมิภาค
โทร: +65-64943427
อีเมล: JenniferCW.lin@menariniapac.com

OPPLE Lighting ติดทำเนียบบริษัทหลอดไฟมาแรงของโลกประจำปี 2015 โดย Lux Review

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

เซี่ยงไฮ้–(บิสิเนส ไวร์)–26 ก.พ. 2016

Lux Review สื่ออิสระซึ่งมีความสนใจครอบคลุมการใช้แสงไฟแบบประหยัดพลังงาน ได้เปิดเผยรายชื่อบริษัทหลอดไฟมาแรงของโลกประจำปี 2015 (Lux Review’s Global Hotlist of Lighting Companies 2015) โดยในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตหลอดไฟและอุปกรณ์ให้แสงสว่างรายใหญ่ ที่สุดในจีน บริษัท OPPLE Lighting ได้เข้ามามีชื่ออยู่ในทำเนียบบริษัทมาแรง อันเนื่องจากความสำเร็จที่โดดเด่นในตลาดหลอดไฟและอุปกรณ์ให้แสงสว่างทั่วโลก Lux Review ได้เน้นถึงโมเดลธุรกิจใหม่ๆของ OPPLE พร้อมกับชี้ว่าในฐานะที่เป็นหนึ่งในแบรนด์ใหญ่ที่สุดที่ถือกำเนิดขึ้นจากการ ปฏิวัติด้านหลอดไฟ LED ของจีนเมื่อช่วงทศวรรษ 2000 บริษัท OPPLE Lighting ได้เริ่มดำเนินการผลักดันแบรนด์ในระดับโลก ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดมาจากแบรนด์อื่นๆที่ได้รับการยอม รับมาอย่างยาวนาน สิ่งนี้ถือเป็นหลักชัยความสำเร็จในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ OPPLE อีกท ั้งยังกระตุ้นให้บริษัทผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นมืออาชีพและเที่ยงตรงแม่น ยำมากขึ้น

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบ Smart News Release ซึ่งประกอบด้วยสื่อมัลติมีเดียและข่าวฉบับเต็มได้ที่:
http://www.businesswire.com/news/home/20160221005081/en/

http://mms.businesswire.com/media/20160220005008/en/509669/4/China-based_OPPLE_Lighting_enhances_regal_air_of_Kuwait_Moddy_Mosque_with_650_LED_downlights.jpg
บริษัท OPPLE Lighting ของจีน เพิ่มความโออ่าให้กับมัสยิด Moddy Mosque ในคูเวต ด้วยไฟดาวน์ไลท์ LED จำนวน 650 ดวง (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

OPPLE Lighting เดินหน้าขยายธุรกิจไปทั่วโลกตลอดระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ด้วยวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ในการ “สร้างบริษัทหลอดไฟที่ก้าวไกลระดับโลกและก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์หลอดไฟชั ้นนำของจีน” นอกจากผลิตสินค้าคุณภาพสำหรับครอบครัวโดยทั่วไปแล้ว บริษัทยังได้นำเสนอโซลูชั่นการจัดแสงให้แก่บริษัทต่างชาติชั้นนำ มากมาย เช่น Jeddah Mall, Starbucks, Movenpick, Adidas, Mercedes-Benz, Burger King และ KFC เป็นต้น

บริษัทรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา มัสยิด Moddy Mosque ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากผู้บริจาค และบริหารจัดการโดยกระทรวงศาสนาสมบัติและกิจการอิสลามในคูเวต ได้เชิญให้ OPPLE และผู้แทนจำหน่ายเข้าไปมีส่วนรวมในโครงการ และช่วยยกระดับการติดตั้งหลอดไฟภายในมัสยิดเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศอันโออ่า และสง่างามโดยรวม ด้วยพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร OPPLE ได้ใช้ดวงไฟ LED HM Downlight จำนวน 650 ดวง และเส้นไฟ LED EcoMax Soft Strip ยาว 1,500 เมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับระบบ CFL แบบเดิมแล้ว ดวงไฟ LED HM Downlight จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 50,000 ชั่วโมง และช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 60% ทั้งนี้ บริษัท Alarabia Electrical ผู้ออกแบบแสงไฟประจำโครงการเชื่อว่า โซลูชั่นการจัดไฟครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความสว่างไสวได้ อย่างกลมกลืนเท่านั้น แต่ยังสามารถบ่งบอกความเป็นพื้นที่ได้โดยการนำเอาความรู้ด้านสถาปัตยกรรม ศาสตร์มาปฏิบัติใช้จริง

เพื่อเป็นการเร่งกลยุทธ์การขยายธุรกิจไปทั่วโลกและพัฒนาเทคโนโลยีใน ผลิตภัณฑ์ LED บริษัท OPPLE Lighting จึงได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคนิคกับบริษัท Seaborough ของเนเธอร์แลนด์ ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมล้ำยุคสำหรับอุตสาหกรรมหลอดไฟ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2558 ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการเริ่มผลิตหลอดไฟ oneTLed ซึ่งเป็นหลอดไฟ LED ที่สามารถสลับสับเปลี่ยนได้ตัวแรกของโลก เทคโนโลยีใหม่นี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการอนุรักษ์พลังงานโดยการใช้ พลังงานที่น้อยกว่าเดิมถึง 50% การร่วมงานกับบริษัท Seaborough จะเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้แก่ OPPLE ในการยกระดับความสามารถด้าน R&D รวมทั้งการนำเสนอโซลูชั่นการจัดแสงไฟที่มีความแตกต่างและบริการที่เป็นมือ อาชีพในตลาดหลอดไฟและอุปกรณ์ให้แสงสว่าง

เกี่ยวกับ OPPLE

OPPLE Lighting Co. Ltd. เ ป็นแบรนด์หลอดไฟและอุปกรณ์ให้แสงสว่างชั้นนำของจีนที่กำลังขยายตัวอย่างรวด เร็วในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก บริษัทมีเครือข่ายจัดจำหน่ายที่ใหญ่ที่สุดในจีน ตลอดจนร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์กว่า 8,000 ร้าน และจุดจำหน่ายกว่า 30,000 จุดทั่วโลก OPPLE มีจุดมุ่งหมายด้านนวัตกรรมอันแข็งแกร่ง โดยมีการออกสิทธิบัตรใหม่กว่า 200 รายการต่อปี ซึ่งสนับสนุนโดยศูนย์ R&D อันทันสมัย และทีม R&D ซึ่งประกอบด้วยวิศวกรกว่า 300 คน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ OPPLE Lighting กรุณาเข้าชมที่ www.opple.com

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160221005081/en/

ติดต่อ:
OPPLE
Kiko Li, +86-21-38550000
lisiying@opple.com

Australian Expert in Sports Science and Nutrition Joins Herbalife Nutrition Advisory Board

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

ADELAIDE, Australia–(BUSINESS WIRE)–Feb. 16, 2016

Global nutrition company, Herbalife announced today that Dr. Darren Burgess, an expert in sports science and nutrition, has become the first Australian appointed to its Nutrition Advisory Board (NAB).

This Smart News Release features multimedia. View the full release here: http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51280169&lang=en

A photo of Dr. Darren Burgess (Photo: Business Wire)

http://mms.businesswire.com/media/20160215005745/en/509403/4/Darren-Burgess.jpg

Dr. Burgess has experience in education and training, having worked as a lecturer in Exercise Science at Australian Catholic University in Sydney and completing his PhD in movement analysis of AFL and Soccer. He has lectured at prestigious Australian Universities and has had multiple papers published in peer review journals. Additionally, Dr. Burgess has spoken at numerous national and international sports medicine conferences.

Dr. Burgess is currently Head of High Performance at Port Adelaide Football (AFL) Club. Prior to this appointment, Dr. Burgess was Head of Fitness and Conditioning at Liverpool Football Club (EPL) and has a background in sports science and fitness coaching for many top Australian national and regional sporting organizations.

Dr. Burgess’ appointment reflects further expansion of nutrition and health experts from Asia Pacific in the Herbalife Nutrition Advisory Board who will play a central role in raising public awareness and leading educational programs on balanced nutrition and healthy active lifestyle in 15 countries across the region as part of Herbalife’s Asia Pacific Wellness Tour initiative.

Herbalife Nutrition Advisory Board

Herbalife’s Nutrition Advisory Board (NAB) is comprised of professionals in the fields of nutrition and health from around the globe who extend the principles and philosophies outlined by the Herbalife Nutrition Institute into the process of educating and training Independent Herbalife Members on the principles of balanced nutrition, physical activity and a healthy lifestyle. The Chairman of the Nutrition Advisory Board is M.D., Ph.D., F.A.S.N., F.A.C.N. David Heber, supported by Vice Presidents and M.D., M.P.H. Luigi Gratton and Ph.D. Louis Ignarro Nobel Laureate in Medicine. For more details on the Nutrition Advisory Board, please visit http://company.herbalife.com/nab

About Herbalife

Herbalife (NYSE:HLF) is a global nutrition company that has been changing people’s lives with great products since 1980. Our nutrition, weight-management, energy and fitness and personal care products are available exclusively to and through dedicated Independent Herbalife Members in more than 90 countries. We are committed to fighting the worldwide problems of poor nutrition and obesity by offering high-quality products, one-on-one coaching with an Herbalife member and a community that inspires customers to live a healthy, active life.

We support the Herbalife Family Foundation (HFF) and its Casa Herbalife programs to help bring good nutrition to children in need. We also sponsor more than 190 world-class athletes, teams and events around the globe, including Cristiano Ronaldo, the LA Galaxy, Western Sydney Wanderers FC and champions in many other sports.

To learn more visit Herbalife.com

View source version on businesswire.com: http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51280169&lang=en

CONTACT:

Herbalife Asia Pacific
Daliea Mohamad-Liauw, +852-3589-2643
Vice President, Corporate Communications
dalieal@herbalife.com
or
Herbalife Australia & New Zealand
Gabriella Ocen asek, +61-8-8154-0205
Corporate Communications Lead
gabriellad@herbalife.com