China Hi-Tech Fair ครั้งที่ 18 เริ่มเปิดงานที่เซินเจิ้นโดยไฮไลท์เทคโนโลยี VR/AR

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

เซินเจิ้น, จีน–(บิสิเนส ไวร์)–16 พฤศจิกายน 2016

China Hi-Tech Fair (CHTF) ซึ่งเป็นอีเว้นท์ด้านเทคโนโลยีแนวหน้าของประเทศจีน ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ววันที่ 16 พฤศจิกายน 2016 ที่ Shenzhen Convention & Exhibition Center ประเทศจีน การเฉลิมฉลองประจำปี 6 วันเต็มนี้นำเอานวัตตกรรมเทคโนโลยีล่าสุดและเป็นที่นิยมที่สุดหลายพันชนิดมาแสดงในงาน โดยมีไฮไลท์คือเทคโนโลยี VR/AR ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด

ในปี 2016 นี้ได้มีผลิตภัณฑ์ VR จำนวนมากในตลาด ดังนั้น CHTF2016 จึงได้จัดแสดงพื้นที่พิเศษเพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์ VR/AR และเข้าถึงอุปการณ์ล้ำสมัยเหล่านั้นโดยเฉพาะ

บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำบางแห่งได้นำเอาผลิตภัณฑ์ VR/AR ล่าสุดของเขามาในงานนี้ด้วย ตัวอย่างเช่น VR Time Machine ออกแบบโดย Wuhan Zhongfeixushi ซึ่งสามารถทำให้เกิดการเคลื่อนไหว บินได้ ด้วยแพลตฟอร์มที่หมุนได้ 360 องศา เพื่อสร้างประสบการณ์การบินให้กับผู้ใช้ IDEALENS Technologies นำเอาเจเนอเรชั่นที่สองของ อุปกรณ์ VR รุ่น K2 แบบ all-in-one ซึ่งมีสิทธิบัตรมากกว่า 220 ฉบับ มาในงาน CHTF2016 ให้มุมการมอง 110 องศาซึ่งการันตีว่าให้ประสบการณ์การชมที่เสมือนจริงเป็นอย่างมาก

Beijing Shenlinqijing Culture Inc. ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรม VR ของจีน จะจัดให้มีธีมปาร์ค VR สำหรับผู้เข้าชมให้มีส่วนร่วมในเกม ‘Whole Motion Simulation Game’ ซึ่งจะแตกต่างจากแบบดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง เมื่อเข้าร่วมเล่นเกมใน VR ธีมปาร์ค ผู้เล่นจะต้องออกท่าทางต่างๆ เช่น นอนราบลง กระโดด ปีน หรือทำท่วงท่าอื่นๆ การที่นำเอาเทคโนโลยีเสมือนจริงมารวมกับสิ่งแวดล้อมแบบสถานการณ์จำลองจะสร้างประสบการณ์ที่สร้างความกลมกลืนในรูปแบบเกมได้อย่างเป็นธรรมชาติ

CHTF2016 ให้ผู้เข้าชมได้เลือกสองเส้นทางที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ในเรื่องของ VR&AR ซึ่งมีตารางเวลาดังนี้:

เข้าชม VR — 10:00 และ 14:30 นาฬิกา, 17 พฤศจิกายน

เข้าชม AR — 10:00 และ 14:30 นาฬิกา, 18 พฤศจิกายน

เกี่ยวกับ CHTF:

‘ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เน้นในคุณภาพ’ คือธีมหลักของ CHTF 2016 ด้วยการจัดงานที่ประสบความสำเร็จ 17 ปี CHTF เป็นอีเว้นท์ที่ได้รับความนิยมและเป็นแพลตฟอร์มการแสดงงานและค้าขายที่สำคัญของโลกในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในปีที่แล้ว 80% ของผู้เข้าร่วมจัดงานแสดงต้องการที่จะมีส่วนร่วมอีกครั้ง งานอีเว้นท์ด้านเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศได้รับการอนุญาตและอนุมัติจากหลายภาคส่วนและจัดใน Shenzhen Convention & Exhibition Center (SZCEC) ทุกปี สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่http://www.chtf.com/english/ orhttps://www.facebook.com/CHTFChina/

สามารถรับชมภาพและข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51462363&lang=en

ติดต่อ:

China Hi-Tech Fair

Alice Chen, 86-13422884433

chtf2016@qq.com

Insight Media เปิดตัวสมุดปกขาวในเรื่องเทคโนโลยีควอนตัมดอท

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

นอร์วอร์ล, คอนเนตทิคัต–(บิสิเนส ไวร์)–15 พฤศจิกายน 2016

Insight Media ประกาศวันนี้ว่าได้เปิดตัวสมุดปกขาวใหม่ที่ได้เจาะลึกเข้าไปถึงวิทยาศาสตร์เบื้องหลังเทคโนโลยีควอนตัมดอทบนหน้าจอ Chris Chinnock จาก Insight Media ได้เขียนรายงานสมุดปกขาว “Quantum Dots will Power Display Products to the Next Level” ซึ่งให้รายละเอียดในประเด็นที่กว้างขวางนับตั้งแต่ตัวเลือกสีที่กว้างขึ้น High Dynamic Range (HDR) รวมถึงเทคโนโลยีควอนตัมดอที่ซับซ้อน

สมุดปกขาวนี้ให้ภาพรวมเกี่ยวกับเทคโนโลยีสามประเภทที่มักใช้ในการสร้างจอ WCG: OLED, LCD และควอนตัมดอท

ตัวอย่างในกรณีของ OLED TV แม้จะสามารถสร้างซีรีส์สี DCI-P3 ด้วยการใช้ระดับแสงต่ำ แต่ข้อจำกัดในการปล่อยระดับสูงสุดและความสว่างมีผลกระทบต่อความสามารถในการเรนเดอร์สีของหน้าจอ ซึ่งทำให้ภาพดูซีด ใช้ระดับแสงสูง และปริมาณสี การใช้โครงสร้างขนาดเล็กในจอ OLED ทำให้สีสดและมีซีรี่ส์สีที่กว้างขึ้น การเปลี่ยนโครงสร้างนี้เป็นการทำให้มุมการมองหน้าจอแคบลง

รายงาน 27 หน้านี้ได้เจาะลึกเข้าไปถึงเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับหน้าจอแต่ละประเภทและวิเคราะห์ถึงจุดแข็งจุดด้อยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละประเภท

ประเด็นที่ครอบคลุมในรายงานมีดังนี้: (alternative is to use actual TOC image below)

•    ตัวเลือก Wide Color Gamut (WCG)

◦    หน้าจอ OLED

▪    Emitting Structure

▪    Micro-Cavity Structure

▪    Pixel Architecture

◦    หน้าจอ LCD

▪    Display Architecture

▪    Dimming Options

▪    WCG by Phosphor-Enhanced LEDs

▪    WCG by Adjusting Color Filtering

◦    หน้าจอควอนตัมดอท

▪    Quantum Dot Technology

▪    Quantum Dot Film

▪    Quantum Dot Tube

▪    On-chip LED Devices with Quantum Dots

▪    Electrically Driven Quantum Dots

สรุป

“ควอนตัมดอทเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่วิเศษมากโดยมีความเป็นไปได้ที่เรากำลังเริ่มค้นหา” Chris Chinnock ซึ่งเป็นประธานและผู้ก่อตั้ง Insight Media กล่าว “สมุดปกขาวนี้นำเสนอโอกาสที่ดีที่ควอนตัมดอทได้ให้เมื่อใช้บนหน้าจอ โดยเฉพาะหน้าจอที่ขยายความสามารถในด้านสีของตนเองให้ถึงจุดที่กว้างขนาด BT.2020 แต่มันก็สามารถนำไปใช้งานได้อีกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นโซล่าเซลล์ ไฟส่องสว่าง และภาพชีวภาพ มันจึงเป็นเทคโนโลยีที่น่าติดตามมาก”

เทคโนโลยีควอนตัมดอทขณะนี้ได้ให้การซัพพอาร์ทหน้าจอ LCD หลากหลาย โดยให้ WCG ที่มีขนาดใหญ่มากกว่าที่ให้กับหน้าจอ OLED และเทคโนโลยี LCD อื่นๆ เมื่อประกอบรวมกับ HDR หน้าจอควอนตัมดอทจะให้ประสิทธิภาพของภาพที่ดีที่สุดในตลาด

สามารถดาวน์โหลดสมุดปกขาว Quantum Dots will Power Display Products to the Next Level ฉบับเต็มได้ที่ http://www.insightmedia.info/insight-media-releases-technical-white-paper-on-quantum-dot-technology/

เกี่ยวกับ Insight Media

Insight Media เป็นองค์กรที่ปรึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในด้านภาพและหน้าจอเกี่ยวกับสื่อวิทยุโทรทัศน์ ภาพยนตร์ AV แบบมืออาชีพ เครื่องใช้ไฟฟ้าและดีสเพลย์ตลาด สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์กรได้ที่ www.insightmedia.info

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com:http://www.businesswire.com/news/home/20161115005622/en/

ติดต่อ:

Insight Media

Chris Chinnock, 203-831-8464

Chris@insightmedia.info

ชาร์จาห์ต้อนรับผู้เข้างาน 2.31 ล้านคนจาก 60 ประเทศในมหกรรมหนังสืออันดับต้นๆ ของโลก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

ชาร์จาห์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(บิสิเนส ไวร์)–14 พฤศจิกายน 2016

ชาร์จาห์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในแวดวงนานาชาติว่าเป็นเมืองหลวงด้านศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ เป็นรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับสามของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ต้อนรับผู้เข้างาน 2.31 ล้านคนในมหกรรมหนังสืออันดับต้นของโลก Sharjah International Book Fair (SIBF) 2016 ครั้งที่ 35

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่http://www.businesswire.com/news/home/20161114005668/en/

ผู้เข้างานใน Sharjah International Book Fair 2016 ครั้งที่ 35 (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

งานมหกรรมหนังสือ 11 วัน ครั้งที่ 35 นี้ได้เปิดให้กับประชาชนทั่วไปตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย กลายเป็นงาน SIBF ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยได้จัดให้มีสำนักพิมพ์ ผู้เชี่ยวชาญในวงการมาจากหลายประเทศ จากสหรัฐอเมริกาไปยังจีน และได้ทำลายสถิติด้วยการมีสำนักพิมพ์เข้าร่วม 1,681 รายและหนังสือ 1.5 ล้านชื่อจากกว่า 60 ประเทศ

“จากวิสัยทัศน์และคำแนะนำจากเจ้าผู้ครองรัฐชาร์จาห์ His Highness Sheikh Dr. Sultan bin Muhammad Al Qasimi เราได้สร้างให้ชาร์จาห์เป็นศูนย์รวมของวรรณกรรมและวัฒนธรรม และเป็นจุดรวมสำหรับโลกตะวันออกและตะวันตก” ประธาน Sharjah Book Authority (SBA) คุณ Ahmed Al Ameri กล่าว และมุ่งมั่นในการทำให้ Sharjah International Book Fair ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

หลายปีที่ผ่านมา SIBF ได้ตั้งตัวเองให้เป็นอีเว้นท์สำคัญในการซื้อขายลิขสิทธิ์และลิขสิทธิ์ย่อยต่างๆ เช่นลิขสิทธิ์การพิมพ์ซ้ำสำหรับหนังสือต่างประเทศ ลิขสิทธิ์หนังสือปกแข็ง รวมถึงเป็นที่พบปะของเจ้าของสำนักพิมพ์ ผู้จัดการลิขสิทธิ์ ผู้ขายหนังสือ เอเย่น นักเขียน นักแปล ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการพิมพ์และสื่อ สิ่งที่ประสบความสำเร็จคือ SIBF Professional Programme ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการมีความสนใจในข้อตกลงร่วมกัน 1,239 ข้อตกลงระหว่างเจ้าของสำนักพิมพ์และผู้เชี่ยวชาญด้านลิขสิทธิ์

#SIBF16 ซึ่งเป็นแฮชแทคของงานนี้ ได้มีผู้เข้าสนใจเป็นภาษาอังกฤษและอารบิคมากกว่า 1 ล้านครั้งตลอด 5 วันแรกของงาน และเป็นที่นิยมอย่างมากใน Facebook, Twitter, Instagram และ Snapchat.

ชาร์จาห์เป็นผู้นำในการเติบโตและการพัฒนาทางวัฒนธรรมของโลกอาหรับนับตั้งแต่ประกาศอิสรภาพ จากจุดเริ่มต้นุดเล็กๆ ในปี 1982 ซึ่งมีสำนักพิมพ์เข้าร่วมน้อยกว่า 10 แห่ง บัดนี้ SIBF ได้เติบโตขึ้นอย่างมากและวางแผนที่จะขยับขยายที่จัดงานไปยังสถานที่ที่มีพื้นที่ 60,000 ตารางเมตรแห่งใหม่ปีหน้า

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com:http://www.businesswire.com/news/home/20161114005668/en/

ติดต่อ:

National Network Communications

Fadia Daouk, T: +971 52 617 2111

E: f.daouk@nncpr.com

Citi เปิดตัว Global API Developer Hub เพื่อทำให้เกิดการทำธุรกรรมทางการเงินแบบเปิด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

นิวยอร์ก-(บิสิเนส ไวร์)–10 พฤศจิกายน 2016

วันนี้ Citi ได้ประกาศเปิดตัว API Developer Hub ของโลกแห่งใหม่ (developer.citi.com) ซึ่งจะสามารถทำให้ติดต่อสื่อสารกับนักพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและทำให้พวกเขาสามารถสร้างโซลูชั่นส์สำหรับลูกค้าที่มีนวัตกรรมได้รวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แพลตฟอร์มของนักพัฒนานี้ครอบคลุมที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินในปัจจุบัน

การเปิดตัวของ Citi APIs ถือว่าเป็นวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีของ Citi ที่เปิดสถาปัตยกรรมที่จะช่วยในด้านความร่วมมือกันระหว่าบริษัท FinTech ต่างๆ รวมถึงแบรนด์สำหรับผู้บริโภคทั่วโลก เพื่อผลประโยชน์ต่อลูกค้า ทาง Citi จะให้นักพัฒนาได้เข้าถึง APIs ได้ถึงการใช้งาน 8 หมวดหมู่ ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการบัญชี, การจ่ายเงินแบบ peer to peer, การโอนเงินไปองค์กรต่างๆ, Citi รีวอร์ด, การซื้อการลงทุน และการกำหนดสิทธิ์บัญชี และจะมีการเพิ่มหมวดหมู่มากขึ้นอีกด้วย

“Global Develop Hub ของ Citi ได้พัฒนาวิธีการนวัตกรรมแบบเปิดเพื่อให้บริการโซลูชั่นส์ที่ล้ำสมัย และได้สร้างคุณค่าใหม่สำหรับลูกค้า พาร์ทเนอร์ และนักพัฒนา” Stephen Bird ซึ่งเป็น CEO ของ Global Consumer Banking ที่ Citi กล่าว “การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วทำให้เกิดความต้องการในการปรับเปลี่ยนจากภายในสู่ภายนอกเป็นภายนอกสู่ภายใน ด้วยการสร้างระบบนิเวศที่มีการทำงานร่วมกันของแบรนด์ชั้นนำและนักพัฒนาต่างๆ เราจะสามารถให้ผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ที่ครบถ้วนเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางการเงินของลูกค้าในวันนี้และในอนาคต”

Sopnendu Mohanty ซึ่งเป็น Chief FinTech Officer ของธนาคารกลางของสิงคโปร์ได้กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ Citi Singapore ได้เป็นผู้นำในการพัฒนาและเปิดตัวการริเริ่ม API ของโลกนี้ ระหว่างงานเทศกาล สิงคโปร์ ฟินเทค เฟสติวัล ที่จัดขึ้นวันที่ 14-18 พฤศจิกายน 2016 ซึ่งช่วยทำให้เกิดการร่วมมือกันในชุมชน FinTech และมีความเป็นไปได้ในการให้บริการทางการเงินที่ดีกว่าสำหรับลูกค้า และเป็นการยืนยันในความเป็นผู้นำในการสร้างอนาคตให้กับบริการทางการเงิน”

Citi ได้จัดทีมร่วมกันกับบริษัทชั้นนำมากมาย รวมถึง Mastercard, Virgin Money และ Wonder ที่ใช้ Citi APIs ในการพัฒนาโซลูชั่นส์นวัตกรรม เมื่อต้นปีนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา Pay with Points API ของ City ได้เริ่มให้บริการ Citi ThankYou® Rewards แก่สมาชิกที่มีบัตรเครดิต Citi ที่มีสิทธิได้รับ ในการใช้คะแนนสะสมในการใช้จ่ายทั้งหมดด้วยการใช้เครดิตการ์ดในการซื้อของบน BestBuy.com และใน Wonder App ในเดือนตุลาคม 1800Flowers.com ได้รับการเพิ่มเป็นผู้เข้าร่วมล่าสุดใน Pay with Points ของ ThankYou Rewards

“การร่วมมือกันระหว่า Virgin Money และ Citi มีความแข็งแกร่งมากขึ้นมากขึ้น” Greg Boyle ซึ่งเป็น CEO ของ Virgin Australia กล่าว “ความสำคัญหลักคือการให้บริการโมบายแอพ Virgin Money ที่จะใช้ APIs ของ Citi สำหรับการใช้งานเครดิตการ์ดที่จะให้ประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับลูกค้าของเรา การให้บริการ ซัพพอร์ท ของ City ผ่านทาง APIs นั้นสำคัญมากเพื่อให้มั่นใจว่าเราได้ตอบสนองความต้องการด้านดิจิทัลให้แก่ลูกค้าของเราวันนี้ และจะทำให้เกิดนวัตกรรมต่อเนื่องในอนาคต”

ในสิงคโปร์ Citi ได้ร่วมมือกับ honestbee ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการอำนวยความสะดวกและจัดส่งสินค้าแบบออนไลน์ที่โตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย โดยการร่วมมือนี้จะช่วยให้ลูกค้าของพวกเขาสามารถสมัครการ์ด Citi Cash Back บนเว็บไซต์และแอพของ honestbee ซึ่งมีการเปิดตัวในเดือนธันวาคมนี้ ประสบการณืนี้จะทำให้ลูกค้าได้ใช้เทคโนโลยี API ของ Citi ให้มีการสมัครการ์ดได้อย่างไร้ร้อยต่อผ่านทางไซต์พาร์ทเนอร์ต่างๆ ของ Citi

Global Developer Hub ได้รับการพัฒนาโดย Citi FinTech และทีม Citi ทั่วเอเชีย อเมริกาเหนือ และเม็กซิโก ซึ่งเป็นซีรีส์ล่าสุดของ Citi innovations นับตั้งแต่การเป็นผู้ริเริ่ม ATM ไปจนถึงการแนะนำแอพธนาคารเจ้าแรกสำหรับ Apple Watch ในปี 2014 ทาง Citi ได้จัดงานรวบรวมผู้คนและผู้สนับสนุนที่เรียกว่า Citi Mobile Challenge ซึ่งได้เดินทางไปยังละติน อเมริกา สหรัฐอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียแปซิฟิค ด้วยความร่วมมือจากนักพัฒนานับพันๆ คนจากกว่า 100 ประเทศ ในปี 2015 Citi FinTech ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นหน่วยใหม่ใน Global Customer Bank ของ Citi ซึ่งถูกชาร์จด้วยความเร็วสปีดในตลาดด้วยความสามารถทางโมบายแบงกิ้งรุ่นใหม่

API Developer Hub ของโลกได้รับการเปิดตัววันนี้ ขอเชิญนักพัฒนามาลงทะเบียนความสนใจของท่านได้ที่ developer.citi.com ที่พวกเขาจะได้รับเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารในแซนด์บอกซ์เพื่อช่วยให้เขาได้สามารถทดสอบไอเดียของพวกเขา

เกี่ยวกับ Citi

Citi เป็นธนาคารชั้นนำของโลก ซึ่งมีบัญชีลูกค้าประมาณ 200 ล้านบัญชีและทำธุรกิจมากกว่า 160 ประเทศและรัฐ Citi ให้ลูกค้า องค์กร รัฐบาลและสถาบันต่างๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงิน การบริการ รวมถึงการทำธุรกรรมและบัตรเคดิตของลูกค้า การทำธุรกรรมของบริษัทและการลงทุน securities brokerage การบริการซื้อขายและการบริหารความมั่งคั่ง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถรับชมได้ที่ www.citigroup.com | Twitter: @Citi | YouTube: www.youtube.com/citi | Blog: http://blog.citigroup.com | Facebook: www.facebook.com/citi | LinkedIn: www.linkedin.com/company/citi.

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com:http://www.businesswire.com/news/home/20161110006321/en/

สื่อมวลชนติดต่อ:

Citi

Deirdre Leahy, 212-559-3296

deirdre.leahy@citi.com

Target ประกาศร่วมทำคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิร่วมกับวิคตอเรีย เบคแฮม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

มินนีแอโพลิส–(บิสิเนส ไวร์)–20 ตุลาคม 2016

– คอลเล็คชั่นแบบลิมิตอิดิชั่นสะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์และการใช้งานได้จริงของเสื้อผ้าผู้หญิงวิคตอเรีย,วิคตอเรีย เบคแฮม และรวมถึงการแตกไลน์ของดีไซเนอร์ไปในเสื้อผ้าเด็ก

(รูปภาพ: วิคตอเรีย เบคแฮม)

 (Photo: Victoria Beckham)
(Photo: Victoria Beckham)

Target Corporation (NYSE:TGT) วันนี้ประกาศเปิดตัวคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิแบบลิมิตอิดิชั่นที่ร่วมกับดีไซเนอร์วิคตอเรีย เบคแฮม ซึ่งจะมีวางขายในวันที่ 9 เมษายน 2017 ที่ร้าน Target ทุกสาขาและ target.com วิคตอเรีย เบคแฮมสำหรับ Target นี้สะท้อนให้เห็นถึงแก่นของวิคตอเรีย, วิคตอเรีย เบคแฮม ที่รวมถึงดีไซน์แบบดั้งเดิมและแรงบันดาลใจจากภาพเงาที่เป็นไอคอน ด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับสำหรับผู้หญิง เด็กหญิง ทารก และเด็กอ่อน การร่วมงานกับ Target เป็นครั้งแรกที่ดีไซเนอร์ได้เข้ามาทำสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าบางแบบจากคอลเล็คชั่นนี้จะมีวางขายทั่วโลกผ่านทางvictoriabeckham.com

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่http://www.businesswire.com/news/home/20161019006631/en/

NTT Communications ได้รับตำแหน่งเป็นผู้นำใน Gartner Magic Quadrant ปี 2016 สำหรับ Cloud-Enabled Managed Hosting เอเชีย/แปซิฟิค

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–26 ตุลาคม 2016

NTT Communications Corporation (NTT Com) ผู้ให้บริการด้านไอซีทีโซลูชั่นส์และการสื่อสารระหว่างประเทศในเครือของ NTT (NYSE: NTT) ประกาศวันนี้ว่าบริษัทได้รับตำแหน่งเป็นผู้นำของกลุ่มของรายงาน “Magic Quadrant for Cloud-Enabled Managed Hosting, Asia/Pacific”*1 ตีพิมพ์โดย Gartner Inc. ในเดือนตุลาคม 2016 เป็นปีที่สอง โดยวัดจากความสามารถในการปฏิบัติการและวิสัยทัศน์ที่ได้บรรลุสำเร็จเรียบร้อย

Gartner ได้ให้ความหมายกับ cloud-enabled managed hosting (CEMH) เป็นดั่งโฮสติ้งมาตรฐานให้บริการกับผู้ใช้โดยเฉพาะ โดยให้บริการที่สามารถรวมเอาแพลตฟอร์มระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบ cloud-enabled ประกอบไปด้วยการคำนวณ การสร้างเครือข่าย และฮาร์ดแวร์การบรรจุ โดยมีซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มในการบริหารจัดการคลาวด์ เพื่อให้บริการอำนวยความสะดวกในการให้บริการตนเอง และจัดหาให้อย่างรวดเร็วด้วยบริการที่ได้รับการบริหารจัดการแล้ว Gartner กล่าวว่า “ผู้ให้บริการต้องการกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง เพื่อที่จะเป็นผู้นำในเอเชีย/แปซิฟิค พวกเขาต้องลงทุนในผลิตภัณฑ์ของตนเอง การครอบคลุมในภูมิศาสตร์และความสามารถในการให้บริการให้มากขึ้น ซึ่งพวกเขาสามารถมาเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคที่แข็งแรงขึ้น เพื่อให้มีตำแหน่งในตลาด พวกเขาต้องมีความสามารถและความปรารถนาในการลงทุนสำหรับอนาคต”

“พวกเราภูมิใจมากที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้นำในตลาด Cloud-Enabled Managed Hosting โดยขึ้นกับความสามารถของเราในการปฏิบัติงานและวิสัยทัศน์ที่ได้บรรลุสำเร็จเรียบร้อย” Masaaki Moribayashi ซึ่งเป็นรองประธานอาวุโสของ Cloud Services ที่ NTT Com “NTT Com จะยังคงให้บริการในด้านโซลูชั่นส์คลาวด์ที่มีนวัตกรรม เพื่อช่วยองค์กรในการได้รับความต้องการที่ซับซ้อนในด้านการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลในเอเชียแปซิฟิคและทั่วโลก”

NTT Com จะยังคงมุ่งพัฒนา ICT Solution ให้ดีขึ้นแบบไร้รอยต่อ ซึ่งจะทำให้สามารถในการบริหารจัดการองค์กร ICT ที่ซับซ้อน การเริ่มต้นเหล่านี้รวมถึงการติดต่อสื่อสารที่มีความยืดหยุ่นและออนดีมานด์ เพื่อใช้คลาวด์แบบมัลติเพิล (SD-Exchange) และการการเพิ่ม Cloud Management Platform (SD-WAN) ในอนาคต

สามารถรับชมรายงาน “Magic Quadrant for Cloud-Enabled Managed Hosting, Asia/Pacific” ได้ที่ https://www.gartner.com/technology/media-products/reprints/ntt_com/294926.html

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบของ Gartner

Gartner ไม่ได้รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่กล่าวในการวิจัยที่ตีพิมพ์ และไม่ได้แนะนำผู้ใช้เทคโนโลยีในการเลือกเพียงผู้จำหน่ายที่ได้รับการจัดอันดับสูงหรือที่ได้รับการแต่งตั้งเท่านั้น การวิจัยที่ตีพิมพ์ของ Gartner ประกอบด้วยความเห็นขององค์กรการวิจัยของ Gartner และไม่ควรที่จะตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง Gartner ปฏิเสธความรับผิดชอบในการรับประกันทั้งหลายที่ได้กล่าวหรือหมายความถึงในรายงานการวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันต่างๆ ในด้านการรับประกันโดยนัยทั้งในด้านสภาพการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ

*1 Gartner, “Magic Quadrant for Cloud-Enabled Managed Hosting, Asia/Pacific” จัดทำโดย To Chee Eng, Kenshi Tazaki, Vincent Fu, Arup Roy 11 ตุลาคม 2016

เกี่ยวกับ NTT Communications Corporation
         NTT Communications ให้บริการคำปรึกษา สถาปัตยกรรม ความปลอดภัยของข้อมูล และบริการคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขององค์กรธุรกิจ บริการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงเครือข่ายชั้นนำ Global Tier-1 IP อย่าง Arcstar Universal One(TM) VPN ซึ่งครอบคลุมถึง 196 ประเทศ/ดินแดน และศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัย 140 แห่งทั่วโลก โซลูชั่นของ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ใช้ทรัพยากรของกลุ่มบริษัท เอ็นทีที ทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Dimension Data, NTT DOCOMO และ NTT DATA
www.ntt.com | Twitter@NTT Com | Facebook@NTT Com | LinkedIn@NTT Com

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com:http://www.businesswire.com/news/home/20161025006888/en/

CapREG: สามปีในการโปรโมทพลังงานทดแทนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และละตินอเมริกาผ่านการสร้างกำลังการผลิต

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

เบอร์ลิน–(บิสิเนส ไวร์)–21 ตุลาคม 2016

สัปดาห์ที่แล้วในเวียดนาม Renewables Academy AG (RENAC) ได้จัดสัมมนา “Bankability of Renewable Energy Projects” ซึ่งเป็นสัมมนาครั้งสุดท้ายของซีรี่ส์การสัมมนาแบบเฟสทูเฟสที่ประสบความสำเร็จ โดยจัดตั้งขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการสร้างกำลังการผลิต CapREG – Capacity Development on Renewable Energy and Grid Integration โดย RENAC ได้รับการสนับสนุนโดย  German Federal Ministry for the Environment, Nature Conservation, Building and Nuclear Safety (BMUB) ในขอบข่ายการทำงานของ German International Climate Initiative (IKI) เพื่อนำใช้โปรแกรมให้ทุนการศึกษา 3 ปีนี้กับประเทศที่เป็นพันธมิตร คืออินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม เม็กซิโก เปรู และเอกวาดอร์

นับตั้งแต่การเริ่มโครงการ CapREG ในปี 2014 ทาง RENAC ได้ให้ทุนกว่า 1,200 ทุนแก่ผู้เชี่ยวชาญที่มาจากองค์กรด้านพลังงานทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศพันธมิตร 7 ประเทศ เพื่อให้ได้รับการฝึกฝนในหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนและการบูรณาการกริด เป้าหมายของ CapREG คือการสนับสนุนการสร้างกรอบความคิด ไอเดีย และความเชื่อที่เหมาะสมสำหรับการใช้พลังงานทดแทน และช่วยเพิ่มการใช้งานได้ “CapREG เป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้ specifications ของพลังงานทดแทนและการบูรณาการกริด ไม่ใช่เพียงในเยอรมัน แต่ในประเทศต่างๆ ผ่านความหลากหลายของผู้ที่มาเข้าร่วมโปรแกรม” Mr. René Narváez ผู้อำนวยการ Clean Energy Regulation ที่ Energy Regulatory Commission จากเม็กซิโก กล่าว “RENAC ได้จัดสัมมนาแบบเจาะลึกและให้ความรู้แบบล้ำสมัย”

CapREG ให้ทุนการศึกษาแก่ผู้เชี่ยวชาญในการให้เข้าร่วมสัมมนาในประเทศที่เป็นพันธมิตร รวมถึงที่สำนักงานใหญ่ของ RENAC ที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน รวมทั้งมีส่วนร่วมในการเทรนนิ่งแบบออนไลน์ หัวข้อในการฝึกอบรมได้รับการระบุระหว่าง Capacity Needs Assessment จัดโดย RENAC ในการเริ่มต้นของ CapREG ซึ่งรวมถึงคอนเซ็ปต์โดยทั่วไปของเทคโนโลยีพลังงานทดแทน การบูรณาการกริดในการใช้กับพลังงานทดแทนปริมาณมาก เรื่องการเงินรวมถึงการพัฒนาของโปรเจ็กต์ ซึ่งหัวข้อเหล่านี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อดูจากการที่มีคนสมัครเข้ามามากกว่า 1,000 คนสำหรับสัมมนา 28 ครั้งที่จัดขึ้น.

RENAC ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่เบอร์ลิน เป็นผู้นำของโลกในการให้การฝึกอบรมและการสร้างกำลังการผลิตในเรื่องของพลังงานทดแทนและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นับตั้งแต่ปี 2008 RENAC ได้ทำงานร่วมกับผู้เข้าร่วมกว่า 6,800 คนจาก 145 ประเทศทั่วโลก

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ CapREG

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com:http://www.businesswire.com/news/home/20161021005403/en/

นิทรรศการเคลื่อนที่ของ Renewables Academy AG (RENAC) อธิบายถึงการบูรณาการกริดของพลังงานทดแทน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

กรุงเทพ—(บิสิเนส ไวร์)–20 ตุลาคม 2016

นิทรรศการเคลื่อนที่ของ Renewables Academy AG (RENAC) ในชื่อว่า “การบูรณาการกริดของพลังงานหมุนเวียน” ได้ถูกจัดขึ้นที่การประชุม “2nd Thai-German Community-based Renewable Energy Conference 2016” ในกรุงเทพ (ประเทศไทย) ซึ่งได้จัดร่วมกับ Deutsche Gesellschaft für internationale Zusammenarbeit (GIZ) และกระทรวงพลังงาน (MoEN) นิทรรศการนี้ได้อธิบายถึงประเด็นที่ซับซ้อนมากของการบูรณาการกริดของพลังงานลมและแสงแดดเป็นกริดพลังงานไฟฟ้าด้วยวิธีการที่ง่ายไม่ซับซ้อน นิทรรศการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมประชุม 150 คน หลังจากอีเว้นท์นี้ นิทรรศการเคลื่อนที่จะมีการแสดงอีกหลายสัปดาห์ในสถานที่จัดงานของ MoEN

RENAC ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญนานาชาติในการสร้างพลังงานทดแทนและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ได้เป็นผู้พัฒนานิทรรศการแห่งนี้ ในประเทศไทยรวมถึงประเทศอื่นๆ ทั่วโลก การบูรณาการการใช้พลังงานทดแทนกับกริดไฟฟ้าเป็นประเด็นร้อนที่สำคัญในอุตสาหกรรมนี้  ด้วยการที่เรามีกริดการใช้พลังงานลมและไฟฟ้ามากขึ้น การทำความเข้าใจในคุณสมบัติเฉพาะต่างๆ ของระบบพลังงานนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติการที่ต่อเนื่องและปลอดภัยของกริดไฟฟ้า CEO ของ RENAC คุณ Berthold Breid กล่าวว่า “นิทรรศการนี้ได้รวมส่วนที่เป็นกราฟิคกับตัวอักษรที่มีศิลปะไว้ด้วยกันโดยนำเสนอบนแบนเนอร์ 15 ชิ้น ซึ่งช่วยในการอธิบายประเด็นที่ซับซ้อนให้กับผู้ชมในวงกว้างได้เข้าใจโดยที่ไม่ต้องมีพื้นฐานทางเทคโนโลยี”

นิทรรศการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมในการสร้างความสามารถใน 3 ปี “CapREG – Capacity Development on Renewable Energy and Grid Integration” ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินโดย German Federal Ministry for the Environment, Nature Conservation, Building and Nuclear Safety (BMUB) ใน German International Climate Initiative (IKI) ซึ่ง CapREG มีจุดมุ่งหมายในการส่งผ่านองค์ความรู้และวิธีการในด้านพลังงานทดแทนและการบูรณาการกริดผ่านการทำเทรนนิ่งที่หลากหลายจากผู้เชี่ยวชาญจากประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เอกวาดอร์ เม็กซิโก และเปรู นับตั้งแต่ปี 2014 ทาง RENAC ได้รับผิดชอบในการริเริ่ม CapREG ได้ให้ทุตการศึกษากับผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คนที่มาจากทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทยในการเข้าร่วมเทรนนิ่ง

นิทรรศการเคลื่อนที่นี้เติมเต็มกิจกรรมการสร้างกำลังการผลิตต่างๆ ภายใน CapREG โดยนิทรรศการเคลื่อนที่นี้ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นในประเทศไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เม็กซิโก เอกวาดอร์และเปรู ได้จัดแสดงในอีเว้นท์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานมาแล้วหลายที่ในปี 2016

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.renac.de/en/current-projects/capreg/mobile-exhibition.html

สามารถชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com:http://www.businesswire.com/news/home/20161020005815/en/

มหกรรมหนังสือที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก มีสำนักพิมพ์เข้าร่วม 1,420 แห่งโดยแสดงผลงานหนังสือของตนเอง 1.5 ล้านเล่มในชาร์จาห์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

ชาร์จาห์, สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์–(บิสิเนส ไวร์)–20 ตุลาคม 2016

Sharjah International Book Fair (SIBF) ในปีนี้ ซึ่งเป็นมหกรรมหนังสือที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก จะมีสำนักพิมพ์เข้าร่วม 1,420 แห่งจาก 60 ประเทศ แสดงผลงานหนังสือมากกว่า 1.5 ล้านเล่มตลอด 11 วัน

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่http://www.businesswire.com/news/home/20161013005594/en/

ภาพจากงาน Sharjah International Book Fair 2015

General picture from Sharjah International Book Fair 2015

 

SIBF จัดโดย Sharjah Book Authority ซึ่งอีเว้นท์เกี่ยวกับวรรณกรรมที่สำคัญของภูมิภาคนี้จัดขึ้น 2-12 พฤศจิกายนนี้ที่ซาร์จาห์ และจัดภายใต้ธีม “อ่านมากขึ้น” และครองพื้นที่ถึง 25,000 ตารางฟุตที่ Sharjah Expo Centre ผู้เข้าร่วมงานจะเพลิดเพลินกับกิจกรรมมากกว่า 1,417 โปรแกรมที่จัดขึ้น

สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ในปีนี้มีสำนักพิมพ์ร่วมงาน 205 แห่ง ตามมาด้วยอียิปต์ 163, เลบานอนและอินเดียประเทศละ 110 อังกฤษ 79 ซีเรีย 66 อเมริกา 63 และ KSA 61

SIBF ได้ประกาศว่า United Nations Educational, Scientific and Cultural Organisation (UNESCO) เป็น Guest of Honour ในปี 2016 โดยได้รับเลือกจากงานขององค์กรในการโปรโมทวัฒนธรรมและมรดกทั่วโลกนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1945

ผู้ทรงคุณวุฒิชาวอาหรับและนานาชาติจำนวน 228 คนจะมาร่วมงาน SIBF 2016 ซึ่งรวมถึงนักประพันธ์อย่าง Cassandra Clare เจ้าของหนังสือ ‘The Mortal Instruments: City of Bones; Eric Van Lustbader จากสหรัฐอเมริกา เจ้าของหนังสือ ‘Bourne’ 10 เล่ม; นักข่าวและนักเขียน Claudia Gray เจ้าของหนังสือซีรี่ส์ ‘Star Wars’; และนักประพันธ์และผู้เขียนบทของ Graeme Simsion จากออสเตรเลีย Kailash Satyarthi ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลปี 2014 รวมถึงนักแสดงชื่อดัง Shilpa

ผู้มาร่วมงานจากโลกของอาหรับ คือนักแสดงชาวอียิปต์ Ezzat Al Alaili; Sheikha Maysoon Al Qasimi นักกวี ผู้เขียนบทประพันธ์ และศิลปิน; รวมถึง Sheikh Majed Al Sabah ผู้มีอิทธิพลทางโลกออนไลน์

SIBF 2016 จะจัดโปรแกรมการพบปะกันของนักธุรกิจ ซึ่งเป็นอีเว้นท์ที่จัดขึ้นนับตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน ในสามวันนี้จะมีการจัดเทรนนิ่งสำหรับเจ้าของสำนักพิมพ์ในอาหรับ โดยจัดขึ้นด้วยความร่วมมือกับ Center for Publishing ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก รวมถึงเวทีเสวนาและการพบปะทางธุรกิจต่างๆ การประชุมสัมมนาที่จัดร่วมกันระหว่า SIBF และ American Library Association (ALA) จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่สามเช่นกัน โดยจัดวันที่ 8-10 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นการประชุม ALA เดียวที่จัดขึ้นนอกสหรัฐอเมริกา

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com:http://www.businesswire.com/news/home/20161013005594/en/

Mirantis และ NTT Communications ร่วมมือกันเพื่อให้บริการ Private OpenStack

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

ซันนี่เวลล์, แคลิฟอร์เนีย & โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–20 ตุลาคม 2016

Mirantis และ NTT Communications Corporation (NTT Com) วันนี้ประกาศว่าพวกเขาจะจับมือกันเพื่อให้บริการการบริหารจัดการเต็มรูปแบบ Private OpenStack ซึ่งเป็นบริการในด้าน NTT Com Enterprise Cloud และบริการศูนย์ข้อมูลทั่วโลก NTT Com ในฐานะที่เป็นพาร์ทเนอร์ในการให้บริการศูนย์ข้อมูลเจ้าแรกของ Mirantis จะให้บริการ Mirantis Managed OpenStack บน Metal-as-a-Service ของ NTT Com Enterprise Cloud การร่วมมือกันนี้จะให้ลูกค้าทั่วโลกได้รับความยืดหยุ่นสำหรับการใช้งานแบบปิดสถานที่ตั้ง ซึ่งเป็นทางเชื่อมที่รวดเร็วให้กับบริการของ OpenStack โดยไม่มีความซับซ้อน และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของ

“OpenStack เป้นส่วนประกอบสำคัญสำหรับสถาปัตยกรรมไพรเวทคลาวด์สำหรับอนาคต และ Mirantis มีเทคโนโลยีที่เป็นผู้นำและกระบวนการในซอฟท์แวร์และบริการ OpenStack ทำให้มันสามารถบริหารจัดการโครสร้างพื้นฐาน OpenStack เป็นดั่งโค้ด,” รองประธานของ Cloud Services,  NTT Com คุณ Hideki Kurihara กล่าว “การร่วมมือกันทั้งในด้านเทคนิคและการเข้าสู่ตลาดจะทำให้เกิดประสบการณ์ในการปฏิบัติการ OpenStack อย่างแท้จริง ซึ่งจะมีการให้บริการนี้ทั่วโลก”

Mirantis Managed OpenStack เป็นไพรเวทคลาวด์แบบบริหารจัดการ มีพื้นฐานจากซอฟท์แวร์ Mirantis OpenStack ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม การให้บริการนี้จะให้ลูกค้าสามารถมีการปฏิบัติการ 24×7 “เป็นดั่งบริการ” โดย Mirantis และมากสุดถึง 99.99% SLAs ใน 100% ซอฟท์แวร์และเครื่องมือแบบแหล่งเปิด

Enterprise Cloud ของ NTT Com ซึ่งสามารถใช้ OpenStack ในการออกแบบทางวิศวกรรม ให้องค์กรทั่วโลกได้ใช้ในเส้นทางการเปลี่ยนแปลงด้าน IT โดย Metal-as-a-Service ได้ให้โมเดลบริการแบบออนดีมานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ และสามารถติดต่อกับเน็ตเวิร์คแบบปิดได้ มันได้ให้การติดต่อ 10Gbps ระหว่างศูนย์ข้อมูลของโลกและคลาวด์

NTT Com เป็นบริษัทในเครือของ NTT (NYSE: NTT) Group ซึ่งให้บริการทางด้านศูนย์ข้อมูลโดยมีรายรับสุทธิ 95 พันล้านเหรียญ NTT Com ตั้งอยู่ที่ 140 แห่งทั่วเอเชีย สหรัฐอเมริกา และยุโรป

“NTT Group มีอยู่ใน 87 ประเทศและภูมิภาค จึงเป็นศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก” CMO และผู้ก่อตั้งร่วมของ Mirantis คุณ Boris Renski กล่าว “การร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้เราสามารถประสบการณ์คลาวด์แบบบริหารจัดการในเวลาที่รวดเร็วทันทีสำหรับลูกค้าทั่วโลกของเรา”

เกี่ยวกับ NTT Communications Corporation
NTT Communications ให้บริการคำปรึกษา สถาปัตยกรรม ความปลอดภัยของข้อมูล และบริการคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขององค์กรธุรกิจ บริการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของ NTT Communications ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงเครือข่ายชั้นนำ Global Tier-1 IP อย่าง Arcstar Universal One(TM) VPN ซึ่งครอบคลุมถึง 196 ประเทศ/ดินแดน และศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัย 140 แห่งทั่วโลก โซลูชั่นของ NTT Communications ใช้ทรัพยากรของกลุ่มบริษัท NTT ทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Dimension Data, NTT DOCOMO และ NTT DATA

www.ntt.com | Twitter@NTT Com | Facebook@NTT Com | LinkedIn@NTT Com

เกี่ยวกับ Mirantis

Mirantis ช่วยให้องค์กรระดับแนวหน้าได้สร้างและบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานของไพรเวทคลาวด์โดยใช้ OpenStack และเทคโนโลยีแบบแหล่งเปิดที่เกี่ยวข้อง

บริษัทเป็นผู้ให้บริการระดับต้นๆ ในด้านโค้ดแบบแห่งเปิดสำหรับโปรเจ็กต์ และตามโมเดลแบบ สร้าง-ปฏิบัติการ-โอนข้อมูล เพื่อให้บริการกระจาย OpenStack และบริการการบริหารคลาวด์ ทำให้ลูกค้าสามารถได้ประโยชน์จากนวัตกรรมแหล่งเปิดโดยไม่ต้องใช้ล็อคอิน จนถึงปัจจุบันนี้ Mirantis ได้ช่วงองค์กรกว่า 200 แห่งในการสร้างและบริหารจัดการคลาวด์ OpenStack ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลูกค้ารวมถึงแบรนด์ที่เป็นไอคอนอย่าง AT&T, Comcast, Shenzhen Stock Exchange, eBay, Wells Fargo Bank และ Volkswagen ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.mirantis.com

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20161020005082/en/