IE เอ็กซ์โป กวางโจว 2016: การเข้าสู่ตลาดอย่างแข็งแกร่งในด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมของประเทศจีนตอนใต้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

เซี่ยงไฮ้–(บิสิเนส ไวร์)–20 ตุลาคม 2016

IE เอ็กซ์โป กวางโจว 2016 ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมโดย Guangdong Association of Environmental Protection Industry (GAEPI), Messe München GmbH, และ Messe Müenchen Zhongmao Co., Ltd., จะจัดขึ้นวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2016 ที่ China Import & Export Fair Complex ซึ่งได้ครอบคลุมหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ 6 ประเภทสำหรับน้ำ อากาศ ขยะ ดิน อุปกรณ์สังเกตการณ์ และบริการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ในปีนี้ อีเว้นท์คาดว่าจะสามารถรวบรวมผู้แสดงงานได้ประมาณ 300 รายและมีผู้เข้างาน 20,000 คน ซึ่งมากเกือบเป็นสองเท่าจากปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ศาลาของเกาหลีขนาด 200 ตารางเมตร จะแสดงเป็นอันดับแรกให้เห็นถึงเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ล่าสุดของเกาหลี องค์กรรายใหญ่ที่ตกลงในการเข้าร่วมงานแล้วคือ Optex, Brentwood Industries, Emerson และ Kubota รายชื่อผู้แสดงงานรวมถึงแผนที่ของสถานที่จัดนั้น สามารถรับชมได้ที่ http://gz.ie-expo.com/exhibitors/hall

นอกจากนี้ยังมีการประชุมและกิจกรรมสำหรับสร้างเน็ตเวิร์คทางธุรกิจมากมาย ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานที่ทั้งผู้แสดงงานและผู้เข้าร่วมงานไม่ควรพลาด

ฟอรั่มเกี่ยวกับนวัตกรรม IE เอ็กซ์โป (กวางโจว) 2016: การป้องกันด้านสิ่งแวดล้อม การร่วมมือกันและการพัฒนา Pan-Pearl River Delta 2016

ฟอรั่มนี้ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงข้อตกลง Pan-Pearl River Delta Environmental Agreement ที่เซ็นโดย 9 มณฑลของประเทศจีนในภูมิภาค รวมถึงฮ่องกงและมาเก๊า (ข้อตกลง 9+2) มุ่งหวังเพื่อเพิ่มความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยฟอรั่ม 2 วันนี้จะครอบคลุมประเด็นของการอนุรักษ์ธรรมชาติ การปกป้องเรื่องน้ำ การควบคุมมลพิษทางอากาศ การสังเกตการณ์ การศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติ และเทคโนโลยีทางด้านสิ่งแวดล้อม

การประชุมแลกเปลี่ยนด้านเทคโนโลยีและการจับคู่ทางธุรกิจ: การควบคุมมลพิษ VOCs และการสังเกตการณืสำหรับอุตสาหกรรมหลักในมณฑลกวางโจว กาารควบคุมมลพิษและการฟื้นฟูโลหะหนักในดินสีแดง

การประชุมในการจับคู่ทางธุรกิจมุ่งหวังที่จะเร่งในการใช้เทคโนโลยี VOCs และโลหะหนัก โปรโมทการร่วมมือกันในการควบคุมด้านมลพิษ และอัพเกรดความสามารถในการควบคุม VOCs และมลพิษโลหะหนัก ขอเชิญองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับ VOCs และการควบคุมโลหะหนักร่วมงาน

WasteMET เอเชีย 2016

WasteMET เอเชีย 2016 จะจัดขึ้นพร้อมๆ กันและจัดที่เดียวกันกับ IE เอ็กซ์โป กวางโจว 2016 และจัดขึ้นโดยองค์กรเกี่ยวกับการจัดการขยะ 9 แห่งจาก Asia Pacific Waste and Environment Alliance จากจีน อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และเกาหลี ซึ่งจะมีโปรแกรมในการจับคู่ทางธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจสามารถติดต่อกันได้ที่มีแนวโน้มเป็นพาร์ทเนอร์และซัพไพลเออร์ในอนาคต

สามารถลงทะเบียนออนไลน์งาน IE เอ็กซ์โป กวางโจว 2016 ได้แล้ววันนี้ที่ http://guangzhou.ie-expo.cn/visitors/register.html

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://guangzhou.ie-expo.com

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20161020005653/en/

สตาร์บัคส์ประกาศว่า Starbucks Reserve Roastery จะมาที่โตเกียวในปี 2018

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว—(บิสิเนส ไวร์)–19 ตุลาคม 2016

  • สถาปนิกชื่อดังและดีไซเนอร์ของโตเกียวโอลิมปิก 2020 Kengo Kuma นำทีมออกแบบเพื่อประสบการณ์ทางกาแฟและร้านค้าที่ดีเยี่ยม
  • สถานที่ตั้งใหม่ในเขต Nakameguro ของโตเกียวจะเป็น Roastery แห่งที่ 4 ของสตาร์บัคส์ทั่วโลก

บริษัทสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (NASDAQ: SBUX) วันนี้ประกาศว่าจะเปิด Starbucks Reserve Roastery ในประเทศญี่ปุ่นในปี 2018 ตั้งในเขต Nakameguro ที่เป็นย่านหรูที่รู้จักกันดีว่าเป็นย่านบูทีคสุดเอ็กซคลูซีฟ และอาร์ตแกลอรี่ โดย Roastery จะเป็นร้านที่มีความเป็นเอกลักษณ์และให้ประสบการณ์ที่ไม่มีใครเหมือน โดยผู้นำในการออกแบบคือ Kengo Kuma สถาปนิกชื่อดังของโลกและผู้ก่อตั้ง Kuma Lab ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ที่ตั้งแห่งใหม่นี้จะให้ประสบการณ์แปลกใหม่ทางกาแฟและร้านค้าแก่่ลูกค้าไม่เหมือนใคร

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51442020&lang=en

Starbucks Reserve Roastery & Tasting Room ที่ซีแอตเทิล (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

Starbucks Reserve Roastery & Tasting Room - Seattle, WA (Photo: Business Wire)

Starbucks Reserve Roastery & Tasting Room - Seattle, WA (Photo: Business Wire)

Starbucks Reserve Roastery & Tasting Room - Seattle, WA (Photo: Business Wire)

สตาร์บัคส์ก่อตั้ง Roastery แห่งแรกในซีแอตเทิลปี 2014 ซึ่งเป็นร้านที่ประสบความสำเร็จในประวัตศาสตร์ของบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมา บริษัทได้เปิดที่สถานที่ใหม่ๆ ที่เซี่ยงไฮ้ในปี 2017 และนิวยอร์กปี 2018 โตเกียวจะเป็นแห่งที่ 4

“นับตั้งแต่เราเปิดตลาดในญี่ปุ่นเป็นแห่งแรกนอกอเมริกาเหนือในปี 1996 ทางประเทศญี่ปุ่นได้เริ่มเป็นชุมชนในด้านกาแฟที่สำคัญและตื่นตัวสำหรับสตาร์บัคส์ เราภูมิใจที่จะนำประสบการณ์ที่แตกต่าง ที่มีนวัตกรรม และประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของเรา ที่ทำให้การประดิษฐ์การทำกาแฟมีความสำคัญและสำเร็จเป็นประวัติการณ์” Howard Schultz ประธานและ CEO ของสตาร์บัคส์กล่าว “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่จะร่วมงานกับ Kengo Kuma ในการสร้างประสบการณ์ที่จะทำให้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นของเรามีประสบการณ์ใกล้ชิดขึ้นกับพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) กาแฟของเราอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”

งานของ Kengo Kuma ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่ามีการออกแบบที่ล้ำสมัยและมีทฤษฎีทางนวัตกรรมในด้านสถาปัตยกรรมและสังคม งานของเขาได้ผสมผสานเอาศิลปะและธรรมชาติไว้ด้วยกัน โดยใช้วัตถุดิบธรรมชาติเพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ที่มีการออกแบบที่อบอุ่นและผ่อนคลาย ร้าน Roastery ใหม่ในโตเกียวจะรวมเอาการออกแบบแบบญี่ปุ่นที่มีความสดชื่น ทันสมัย และมีศิลปะ ไว้ด้วยกัน สตาร์บัคส์เป็นที่รู้จักกันดีในการใช้พื้นที่อย่างมีศิลปะที่จะช่วยสนับสนุนศิลปะการทำกาแฟ ที่แห่งนี้เป็นการร่วมงานกับ Mr. Kuma เป็นครั้งที่สอง ผู้ที่ได้รางวัลการออกแบบร้านสตาร์บัคส์ใน Fukuoka ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นร้านหนึ่งที่ได้รับการยอมรับในประเทศและทั่วโลก

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่เป็นผู้นำการดีไซน์สำหรับร้าน Reserve Roastery ของสตาร์บัคส์ในโตเกียว ที่ที่เพื่อน ครอบครัว และชุมชนคนรักกาแฟจะได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ในร้าน” Kuma กล่าว “ผมตั้งตารอคอยที่จะได้สร้างและสานต่อความสัมพันธ์ที่มีมานานกับสตาร์บัคส์เพื่อสร้างสถานที่ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและผู้คนในชุมชนที่หรูหรานี้ เพื่อเป็นสถานที่ที่จะเป็นไอคอนแห่งหนึ่งของโตเกียว”

พื้นที่ 13,000 ตารางนิ้ว (1,200 ตารางเมตร) จะให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ทุกผัสสะ ที่ทำให้พวกเขามีความสุข ความพอใจ และความเข้าใจในศิลปะของการคั่วกาแฟและกลั่นกาแฟที่มีความเป็นเอกลักษณ์จากทั่วโลก ที่ Roastery ลูกค้าสามารถเห็นตั้งแต่เมล็ดกาแฟที่ยังเป็นสีเขียวอยู่ส่งมาที่ร้าน โดยได้รับการติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟของสตาร์บัคส์และนักคั่วกาแฟมืออาชีพ และสามารถเลือกเครื่องดื่มที่ทำจากมือทีละแก้วๆ ที่หลากหลาย Roastery แห่งนี้จะมีการเสิร์ฟอาหารและขนมปังที่ทำสดๆ ในร้านโดย Princi สัญชาติฝรั่งเศส

การเปิดร้าน Roastery จะแสดงให้เห็นถึงการเติบโตก้าวสำคัญของสตาร์บัคส์ในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ในสัปดาห์หนึ่งๆ สตาร์บัคส์มีลูกค้ากว่า 20 ล้านคนเข้าใช้บริการในร้านที่มีกว่า 6,200 แห่งใน 16 ตลาดในภูมิภาค จีนและเอเชียแปซิฟิคจะเป็นแถวหน้าในการให้ประสบการณ์ด้านกาแฟและนวัตกรรมสตาร์บัคส์ของโลก

เกี่ยวกับสตาร์บัคส์

นับตั้งแต่ปี 1971 บริษัทสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ได้มุ่งมั่นอย่างมีจริยธรรมในการเสาะหาและคั่วกาแฟอาราบิก้าคุณภาพสูง วันนี้บริษัทที่มีร้านทั่วโลกได้เป็นผู้นำของโลกในด้านการคั่วกาแฟและจำหน่ายกาแฟแบบพิเศษ ด้วยพันธสัญญาที่มุ่งมั่นเป็นเลิศและหลักการของพวกเรา เราได้สร้างประสบการณ์สตาร์บัคส์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับลูกค้าทุกคนในทุกๆ ถ้วยกาแฟ สามารถแบ่งปันประสบการณ์ได้ที่ร้านค้าของเรา หรือออนไลน์ได้ที่ www.starbucks.com

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51442020&lang=en

สตาร์บัคส์เลื่อนตำแหน่ง Belinda Wong เป็น CEO ของสตาร์บัคส์ประเทศจีน มุ่งมีร้าน 5,000 ร้านในจีนแผ่นดินใหญ่ภายในปี 2011

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

เซี่ยงไฮ้–(บิสิเนส ไวร์)–19 ตุลาคม 2016

บริษัทสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (NASDAQ: SBUX) วันนี้ประกาศเลื่อนตำแหน่ง Belinda Wong เป็น CEO ของสตาร์บัคส์ประเทศจีน Wong ได้เป็นผู้ที่ทำให้สตาร์บัคส์ในประเทสจีนโตขึ้นอย่างเป็นประวัติการณ์ จาก 400 ร้านในปี 2011 เป็น 2,300 ร้านในปัจจุบัน โดยเป็นผู้นำในการเน้นย้ำในคุณค่าของพันธกิจของสตาร์บัคส์และขับเคลื่อนนวัตกรรมที่มีคุณค่าและความหมายสำหรับพาร์ทเนอร์ของสตาร์บัคส์ (พนักงาน) และลูกค้าในประเทศจีน ในตำแหน่งนี้ Wong จะดูแลรับผิดชอบในการวางแผนสตาร์บัคส์เพื่อเพิ่มขนาด 2 เท่าเป็น 5,000 ร้านในประเทศจีนภายในปี 2012 เธอจะทำงานภายใต้ John Culver ประธานกลุ่ม Starbucks Global Retail

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/news/home/20161019005502/en/

Belinda Wong เป็น CEO ของสตาร์บัคส์ประเทศจีน (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

Belinda Wong, chief executive officer, Starbucks China (Photo: Business Wire)

Belinda Wong, chief executive officer, Starbucks China (Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)logo

“กว่า 5 ปีที่แล้ว วัสัยทัศน์ของ Belinda รวมถึงประสบการณ์และการผลักดันของเธอในเรื่องนวัตกรรมได้ยกระดับให้สตาร์บัคส์อยู่ในใจของคนจีน และสามารถสร้างรากฐานสำคัญให้กับการเติบโตของสตาร์บัคส์ในประเทศจีน” John Culver ประธานกลุ่ม Starbucks Global Retail กล่าว “Belinda ทำให้วิสัยทัศน์ของเราเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาและคุณค่าของบริษัท และการเลื่อนตำแหน่งของเธอจะช่วยขับเคลื่อนความพยายามของสตาร์บัคส์มากขึ้นในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพาร์ทเนอร์และลูกค้าในตลาดจีนในระยะยาว”

“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการแต่งตั้งให้นำธุรกิจสตาร์บัคส์ในประเทศจีนในเวลาสำคัญเช่นนี้” Wong กล่าว “สตาร์บัคส์ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาและฉันก็ตั้งตารอที่จะทำให้วิสัยทัศน์และคุณค่าของบริษัทของเราเป็นรุปร่างมากขึ้นผ่านการเติบโตและนวัตกรรมสำหรับพาร์ทเนอร์และลูกค้าชาวจีนของเรา”

Wong ทำงานกับสตาร์บัคส์ในเดือนมกราคม 2000 และได้มีตำแหน่งผู้นำหลายตำแหน่งในสตาร์บัคส์ประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ในตำแหน่งใหม่ของเธอนี้ Wong จะเน้นย้ำในเรื่องการวางกลยุทธ์ระยะยาวในการเติบโตโดยรวม และเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมสำหรับสตาร์บัคส์ประเทศจีน เธอจะรับผิดชอบในส่วนหลักๆ สำคัญ รวมถึงโอกาสด้านดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซในตลาดและเปิด Starbucks Reserve™ Roastery เป็นแห่งแรกในเซี่ยงไฮ้ในปี 2017

ในฐานะที่เป็นประธานของสตาร์บัคส์ประเทศจีน Wong ได้นำมาซึ่งวิวัฒนาการของ Starbucks Experience ในจีนด้วยการเปิดแฟลกชิพสตอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ 4 แห่ง ซึ่งนำเอาความรักในด้านกาแฟและศิลปะในการทำกาแฟได้มาให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์เหล่านี้ กว่า 5 ปีที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ได้มีกิจกรรมริเริ่มเพื่อยกระดับประสบการณ์ของพาร์ทเนอร์สตาร์บัคส์มากมาย ซึ่งเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อพื้นฐานของบริษัทในการให้ความสำคัญในการลงทุนอนาคตของพาร์ทเนอร์เพื่อสนับสนุนการเติบโตรวมถึงความทะเยอทะยานในการเป็นมืออาชีพของพวกเขา กิจกรรมริเริ่มที่เกี่ยวกับพาร์ทเนอร์รวมถึงการให้ที่พักกับบาริสตาที่ทำงานประจำรวมถึงหัวหน้างานที่ทำเป็นกะ รวมถึงเทรนนิ่งที่มีอย่างต่อเนื่อง และโอกาสในการพัฒนาผ่านโปรแกรม Starbucks China University และ Partner Family Forums ของบริษัทที่มีจัดเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและคุณค่าของสตาร์บัคส์ให้กับพ่อแม่ของพาร์ทเนอร์สตาร์บัคส์เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับบริษัท

ในเดือนกันยายน 2016 Wong เป็น 1 ใน 50 ของผู้ที่ได้รับ Magnolia Award โดย Shanghai Municipal Government เพื่อเป็นการชื่นชมในการอุทิศตนของเธอที่โดดเด่นและได้ช่วยเหลือในเรื่องการพัฒนาในเซี่ยงไฮ็ Wong เป็น 1 ใน 50 คนที่ปูอนาคตของความสัมพันธ์ของสหรัฐอเมริกาและจีนโดย Foreign Policy และเป็น 1 ใน 100 นักธุรกิจหญิงจีนจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes China ในปี 2015 และนับตั้งแต่ปี 2012 Wong ได้ติดอันดับ 1 ใน 25 นักธุรกิจหญิงที่มีอิทธิพล การแจกรางวัลประจำปีอย่างมีเกียรติจากนิตยสาร Fortune China

Leo Tsoi ซึ่งเป็นรองประธานของสตาร์บัคส์ประเทศจีน ในด้านการพัฒนาและออกแบบร้าน ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็น COO ของสตาร์บัคส์ประเทศจีน Tsoi ในฐานะที่เป็น COO จะเริ่มขยายและพัฒนาโครงสร้างร้าน ปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานในตลาด ใช้ระบบปฏิบัติการหลักๆ และพัฒนาธุรกิจอาหารเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในประเทศจีน ในฐานะที่เป็น VP ในด้านการพัฒนาและออกแบบร้าน เขาและทีมได้เพิ่มร้านสตาร์บัคส์ใหม่ 550 ร้าน รวมถึงแฟลกชิพสตอร์ ร้านกาแฟไฮโปรไฟล์ และ Starbucks Reserve™ บาร์ 75 แห่งและบาร์ Pour Over มากกว่า 380 แห่งสำหรับลูกค้าสตาร์บัคส์

นับตั้งแต่ร่วมงานกับบริษัทในปี 2012 Tsoi ได้เป็นผู้นำในหลากหลายภาคส่วนสำคัญทางธุรกิจ เป็น CMO และ VP จีนตอนเหนือ เพื่อเน้นย้ำตำแหน่งผู้นำของกาแฟสตาร์บัคส์ในตลาด

หน้าที่ของ Wong และ Tsoi นั้นเริ่มต้นขึ้นในทันที

เกี่ยวกับสตาร์บัคส์

นับตั้งแต่ปี 1971 บริษัทสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ได้มุ่งมั่นอย่างมีจริยธรรมในการเสาะหาและคั่วกาแฟอาราบิก้าคุณภาพสูง วันนี้บริษัทที่มีร้านทั่วโลกได้เป็นผู้นำของโลกในด้านการคั่วกาแฟและจำหน่ายกาแฟแบบพิเศษ ด้วยพันธสัญญาที่มุ่งมั่นเป็นเลิศและหลักการของพวกเรา เราได้สร้างประสบการณ์สตาร์บัคส์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับลูกค้าทุกคนในทุกๆ ถ้วยกาแฟ สามารถแบ่งปันประสบการณ์ได้ที่ร้านค้าของเรา หรือออนไลน์ได้ที่ www.starbucks.com

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20161019005502/en/

เรือสำราญเวอร์จิ้นพร้อมแล่นเต็มกำลังภายใต้ชื่อใหม่ “Virgin Voyages”

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

ไมอามี–(บิสิเนส ไวร์)–18 ตุลาคม 2016

ผู้ก่อตั้งเวอร์จิ้น กรุ๊ป Sir Richard Branson วันนี้ได้เผยว่า Virgin Voyages เป็นแรงบันดาลใจสิ่งใหม่ของธุรกิจไลน์เรือสำราญของบริษัท โดยการเปิดเผยครั้งนี้ได้มีประธานและ CEO ของบริษัท Tom McAlpin ร่วมด้วย โดยได้ประกาศชื่อ และแบ่งปันว่า Virgin Voyages ได้เซ็นสัญญาในการสร้างเรือ 3 ลำด้วยผู้สร้างเรือชาวอิตาลี Fincantieri และบริษัทจะเป็นบริษัทแรกที่มีไลน์เรือสำราญที่มีระบบการใช้พลังงานที่สะอาด Climeon Ocean

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/news/home/20161018006741/en/

Sir Richard Branson พร้อมกับประธานและ CEO ของบริษัท Tom McAlpin เผยว่า Virgin Voyages เป็นงานที่เป็นเอกลักษณ์ตัวใหม่ของไลน์เรือสำราญของบริษัท (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

Sir Richard Branson and President & CEO Tom McAlpin unveil Virgin Voyages as the new identity for the company’s cruise line. (Photo: Business Wire)

อีเว้นท์ที่เผยถึงไลน์เรือสำราญนี้จัดขึ้นที่ Faena Hotel Miami Beach ซึ่งมีการจัดการแสดงสุดยิ่งใหญ่โดย Sir Richard ปรากฏตัวพร้อมกับนักแสดงสองคนที่เต้นบนเก้าอี้ผ้าใบต่อหน้าผู้ชม สื่อมวลชนนานาชาติ นักการเมืองในไมอามี รวมถึงผู้นำทางธุรกิจ

Sir Richard ได้ให้พันธะสัญญาของ Virgin Voyages ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการล่องเรือสำราญ “ผู้ขับเรือและนักท่องเที่ยวที่เชี่ยวชาญนับพันๆ คนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเราและยกให้เราให้บริการการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจทางทะเลที่ดีที่สุดและเพียงชื่อแบรนด์ของเราก็ทำให้พวกเขามีความคาดหวังเกิดขึ้น” Sir Richard กล่าว “ผมมีความตื่นเต้นในการเปิดเผยว่าขณะนี้เราเป็น Virgin Voyages และแม้เราจะมีงานมากมายที่ต้องทำรออยู่ในการสร้างเรือ 3 ลำ แต่เราก็อดใจรอแทบไม่ไหวที่จะต้อนรับพวกคุณบนเรือที่เพียบพร้อมของเรา”

Virgin Voyages ได้รับการสนับสนุนโดยผู้ลงทุนหลัก Bain Capital Private Equity และ Virgin Group ซึ่งคาดหวังว่าแพ็กเกจทางการเงินหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับการซื้อเรือ 3 ลำจะได้รับการสรุปในเร็ววันนี้ พาร์ทเนอร์ผู้ให้กูยืมหลักคือ Cassa depositi e prestiti (Cdp) และ UniCredit และเงินกู้จะได้รับการสนับสนุนโดยเครดิตเอเยนซี่อิตาเลียน SACE และได้รับการสนับสนุนโดย SIMEST ซึ่งทั้งคู่เป็นบริษัทในเครือของ Cdp โดย McAlpin ได้วางโครงในการสร้างเรือไว้ว่าจะมีการตัดเหล็กในต้นปี 2017 ตามด้วยวางกระดูกงูเรือใน Genoa ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017

“พาร์ทเนอร์ระดับโลกของเราอย่าง Bain Capital Private Equity, Virgin Group และ Fincantieri รวมถึงบริษัททางการเงินอย่าง Cdp, UniCredit, SACE และ SIMEST แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งของ Virgin Voyages และพันธะสัญญาในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เยี่ยมยอด ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงการล่องเรือหรือสำหรับวันหยุดธรรมดา แต่จะเป็นประสบการณ์ที่พิเศษสุดในการให้บริการแบบผจญภัญในสไตล์เวอร์จิ้น” McAlpin กล่าว

Virgin Voyages เป็นไลน์เรือสำราญใหญ่รายแลกที่ร่วมมือกับ Climeon ซึ่งเป็นผู้ลงทุนชื่อดังระดับโลกในด้านการใช้พลังงานสะอาด Virgin จะติดตั้ง Climeon Ocean ในเรือทั้ง 3 ลำ ซึ่งเป็นระบบที่จะเปลี่ยนพลังงานแบบโลว์เกรดมาเป็นการใช้ไฟฟ้าที่สะอาด ซึ่งจะส่งผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมโดยประหยัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 5,400 ตันต่อปีต่อเรือ 1 ลำ ซึ่งเป็นปริมาณที่เทียบได้กับการที่ต้องใช้ต้นไม้ 180,000 ต้นกว่า 30 ปีในการดูดก๊าซนี้เข้าไป

“ระบบพลังงานความร้อนของ Climeon เป็นนวัตกรรมทางสิ่งแวดล้อม และการทำงานร่วมกับเวอร์จิ้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเรา เราตื่นเต้นที่ Sir Richard Branson และเวอร์จิ้นที่มีความสนใจในการพัฒนาที่ยั่งยืนได้ตัดสินใจเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี การแปลงเปลี่ยนน้ำร้อนเป็นพลังงานไฟฟ้าจะเป็นแหล่งการผลิตพลังงานใหญ่ที่น่าจับตามอง” ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Climeon คุณ Thomas Öström กล่าว

เรือลำแรกของ Virgin Voyages จะมาถึง PortMiami ในปี 2020 โดยมีลูกเรือ 2,700 คนและพนักงาน 1,150 คน สำหรับเรือลำแรกนี้ ทาง Virgin Voyages จะให้ตารางการเดินทางในแถมแคริบเบียนมากมาก ที่จะให้ประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์สุดพิเศษ หากลูกเรือในอนาคตสนใจใน Virgin Voyages สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.virginvoyages.com หรือตามได้ที่อินสตาแกรม @virginvoyages Snapchat and Twitter หรือ Facebook

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20161018006741/en/

ติดต่อสำหรับ Virgin Voyages:

rbb Communications

Shawn Warmstein, 305-444-3383

รองประธาน

Shawn.Warmstein@rbbcommunications.com

โตเกียวขยับขึ้นติดท็อป 3 ในการจัดอันดับเมือง GPCI 2016 โดยที่ลอนดอนและนิวยอร์กติด 2 อันดับแรกและปารีสตกไปอยู่อันดับที่ 4

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–18 ตุลาคม 2016

Institute for Urban Strategies ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยซึ่งก่อตั้งโดย Mori Building ของ The Mori Memorial Foundation ในวันนี้เปิดเผยรายงาน Global Power City Index (GPCI) ประจำปี 2016 รายงานนี้ริเริ่มมตั้งแต่ปี 2008 โดยได้ประเมินและจัดอันดับเมืองใหญ่ 42 เมืองโดยอ้างอิงจาก “การเป็นแม่เหล็กดึงดูด” หรือวัดจากอำนาจภาพรวมของเมืองนั้นๆ ในการดึงดูดผู้คนและองค์กรที่มีความสร้างสรรค์จากทั่วโลก

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/20161018005656/en/

Overall ranking of all 42 cities and function-specific ranking of top 10 cities (Graphic: Business Wire)

Top 10 Cities (Graphic: Business Wire)

Images of the top five cities (Graphic: Business Wire)

การจัดอันดับ 42 เมืองและการจัดอันดับแบบเฉพาะเจาจงที่ติดท็อป 10 (กราฟิก: บิสิเนส ไวร์)

รายงานเผยว่าโตเกียวได้ติดอันดับ 1 ใน 3 เป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ติดอันดับ 4 มาตลอดหลายปี โดยได้การประเมินในแง่บวกในเรื่องของวัฒนธรรม ความเหมาะสมในการอยู่อาศัย และการเข้าถึง ซึ่งช่วยให้คะแนนการประเมินเพิ่มขึ้นมาก ลอนดอนยังคงเป็นเมืองอันดับต้นๆ เป็นปีที่ 5 แม้คะแนนรวมจะลดลงก็ตาม นิวยอร์กยังติดอันดับ 2 คงที่เป็นปีที่ 5 เช่นกัน ปารีสตกจากอันดับ 3 เป็นอันดับ 4 เนื่องจากการลดลงในด้านการมีปฏิสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมรวมถึงด้านการวิจัยและการพัฒนา ซึ่งการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วมีส่วนในการทำให้ตกอันดับ

ไฮไลท์สำคัญ

•    โตเกียวครองอันดับ 3 แทนปารีส โดยมาจากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงภาษีองค์กรที่ลดลงในญี่ปุ่น การเพิ่มจำนวนของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินที่บินตรงจากจุดหมายปลายทางต่างๆ การอ่อนตัวของค่าเงินเยนก่อให้เกิดผลกระทบแง่ลบต่อ GDP ของโตเกียวเมื่อเป็นเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม โตเกียวยังคงครอง GDP อันดับสูงสุดใน 42 เมืองนี้ คะแนนในเรื่องของความเหมาะสมในการอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นจากการที่ค่าบ้านและค่าใช้ข่ายในการดำเนินชีวิตทั่วไปในโตเกียวลดลง (เมื่อกล่าวเป็นดอลลาร์สหรัฐ)

•    ลอนดอนได้คะแนนลดลงเนื่องจาก GDP การเติบโตของ GDP รวมถึงการเติบโตทางเศรฐกิจโดยรวมที่ลงดลง อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีความแข็งแกร่งในด้านวัฒนธรรม โดยมี นักท่องเที่ยว นักเรียนนักศึกษาจากต่างประเทศให้ความสนใจมากขึ้น จึงทำให้เมืองหลวงนี้ยังคงเป็นผู้นำ (หมายเหตุ: การวิจัยนี้ขึ้นกับข้อมูลที่รวบรวมก่อนโหวต Brexit ในเดือนมิถุนายน 2016)

•    ในอเมริกาเหนือ นิวยอร์กไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยยังคงเป็นอันดับ 2 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างแข็งแกร่งในด้านเศรษฐกิจ การวิจัยและพัฒนา รวมถึงด้านวัฒนธรรม ลอส แอนเจลิสขยับจากอันดับ 14 เป็น 13 โดยได้คะแนนสูงจากด้าน การวิจัยและพัฒนา รวมถึงด้านวัฒนธรรม ซานฟรานซิสโก ชิคาโก บอสตันและวอชิงตันดีซี อยู่อันดับที่ 24, 25, 27 และ 29 ตามลำดับ

•    ในยุโรป ปารีสได้คะแนนด้านวัฒนธรรมที่น้อยลง โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงซึ่งรวมถึงนักเรียนนักศึกษาต่างชาติ เหตุจากความไม่สงบที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วทำให้นักท่องเที่ยวคำนึงถึงความปลอดภัยมากขึ้น ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ปารีสตกมาอยู่อันดับที่ 4 สำหรับการจัดอันดับโดยรวม เบอร์ลินตกอันดับจาก 8 เป็น 9 โดยอัมสเตอร์ดัม ในขณะที่เวียนนาและแฟรงค์เฟิร์ตยังคงอยู่อันดับ 10 และ 11 ตามลำดับ

•    ในเอเชียแปซิฟิค สิงคโปร์ยังคงเป็นอันดับ 5 แม้จะมีคะแนนโดยรวมลดลง ซึ่งเกิดจากสัญญาณด้านเศรษฐกิจ ทำให้การเติบโต GDP ลดลงและมีการจ้างงานที่ลดลงด้วย เซี่ยงไฮ้ไต่อันดับจาก 17 มาที่ 12 ซึ่งได้คะแนนโดยรวมเพิ่มขึ้นจากทุกด้าน ซิดนีย์ตกลง 2 อันดับมาอยู่ที่อันดับ 14 โซลและฮ่องกงอยู่อันดับที่ 6 และ 7 ในขณะที่ปักกิ่งขึ้นมา 1 อันดับมาอยู่ที่ 17 กัวลาลัมเปอร์ ไทเป และกรุงเทพ อยู่อันดับที่ 32, 33, 34 ตามลำดับ

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mori-m-foundation.or.jp/english/ius2/gpci2/index.shtml

“ผลด้านบวกของโตเกียวเกิดจากการปฏิรูปหลายด้านซึ่งเป็นส่วนของนโยบาย National Strategic Economic Zone รวมไปถึงอิทธิพลจากปัจจัยเศรษฐศาสตร์จุลภาคและอะเบะโนมิกส์” Heizo Takenaka ประธาน Institute for Urban Strategies, The Mori Memorial Foundation กล่าว “การผ่อนคลายในกฎระเบียบการค้ามากขึ้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้โตเกียวติดอันดับ 3 และช่วยโตเกียวในการตั้งเป้าในการจัดอันดับในอันดับที่สูงขึ้นในการเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปกในปี 2020”

ดร. Hiroo Ichikawa กรรมการบริหารของ The Mori Memorial Foundation กล่าวว่า “ลอนดอนยังคงอยู่อันดับต้นก็จริง แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าการโหวตที่ออกจาก EU จะส่งผลกระทบอะไรต่อตำแหน่งของเมืองนี้ในอนาคตบ้าง”

สำหรับคอมเม้นท์ท่านๆ อื่นๆ สามารถศึกษาได้ที่: http://www.mori-m-foundation.or.jp/english/ius2/gpci2/index.shtml#comments2

(ซึ่งรวมถึงคอมเม้นท์จากผู้ว่าโตเกียว Yuriko Koike, นายกเทศมนตรีของลอนดอน Sadiq Khan, นายกเทศมนตรีของเกาหลี Park Won-Soon, และนายกเทศมนตรีของอัมสเตอร์ดัม Eberhard van der Laan)

Institute for Urban Strategies ของ The Mori Memorial Foundation ได้จัดทำรายงานประจำปี GPCI ตั้งแต่ปี 2008 โดยขึ้นกับการประเมินจากคุณสมบัติ 70 อย่างใน 6 หมวด คือด้านเศรษฐกิจ R&D วัฒนธรรม ความเหมาะสมในการอยู่อาศัย สิ่งแวดล้อม และการเข้าถึงได้ โดยวิเคราะห์จากจุดแข็งและจุดอ่อนของเมืองใหญ่ต่างๆ ในโลกที่มีความแข่งขันสูง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้ที่

www.mori-m-foundation.or.jp/english/aboutus2/index.shtml#about_strategies

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20161018005656/en/

สื่อมวลชนติดต่อ

Weber Shandwick

Ayumi Matsubara, +81-90-9006-5841

Masashi Nonaka, +81-80-1037-7879

moribldg@webershandwick.com

บริษัทเครื่องสำอาง OEM Hoshi Corporation เปิดเว็บไซต์ให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–17 ตุลาคม 2016

– เราสนับสนุนธุรกิจเครื่องสำอางของคุณทั่วโลกด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงระดับ “เมดอินเจแปน”

เรา Hoshi Corporation เป็นบริษัท OEM สำหรับเครื่องสำอาง เวชสำอาง และอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์กว่า 700 ผลิตภัณฑ์ได้รับการขายด้วยความสำเร็จเนื่องจากความรู้ระดับมืออาชีพของเราในด้านความปลอดภัย และเทคโนโลยีในด้านการผลิตที่มีคุณภาพสูง ซึ่งในปีที่ผ่านมาเราได้เน้นในการเพิ่มกำลังขององค์กรไปในทิศทางเดียวกันกับการพัฒนาด้านต่างประเทศ

เว็บไซต์ข้อมูลใหม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้วเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง OEM ที่ทำในญี่ปุ่น เราขอเชิญให้คุณศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์เราที่http://hoshicorp.jp/

อุปกรณ์ที่รองรับ: PC, โทรศัพท์เคลื่อนที่

Feature Points

1. บริการผลิตแบบ White Labeling (ผลิตให้โดยสามารถนำผลิตภัณฑ์ไปใส่แบรนด์ตัวเอง)

2. ครีม UV ที่เป็นที่นิยม

3. OEM เครื่องสำอางทุกชนิด

โปรไฟล์บริษัท

ชื่อบริษัท: HOSHI CORPORATION

ที่อยู่: 31-2, Kanda Higashi Matsushita-Cho, Chiyoda-Ku,Tokyo, 101-0042, JAPAN

CEO: Tsuneo Hoshino

ก่อตั้ง: 30 เมษายน 1975

ทุน: ¥ 80,000,000

ธุรกิจ:

  • การขายเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ยาและอาหารเพื่อสุขภาพ
  • วางแผนและขายอุปกรณ์คอนเทนเนอร์และแพ็กเกจจิ้ง
  • วางแผนและทำสัญญาการผลิตเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ยาและอาหารเพื่อสุขภาพ

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20161016005001/en/

ติดต่อ:

HOSHI CORPORATION

Kenichi Goto (Mr.) / Ai Murakami (Ms.), +81-3-3254-4523

info@starlab.co.jp

กรุณาส่งคำถามของท่านทางอีเมล์

ทรานซิสเตอร์อาร์เรย์รุ่นใหม่ของโตชิบามีฟังก์ชั่นการเก็บข้อมูล

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–13 ตุลาคม 2016

บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company) ในเครือของโตชิบา คอร์ปอเรชั่น (Tokyo:6502) วันนี้ประกาศเปิดตัว “TBD62089APG” ซึ่งเป็นทรานซิสเตอร์อาร์เรย์รุ่นใหม่สำหรับการใช้งาน เช่น แสง LED สำหรับอุปกรณ์เครื่องเล่นเกม และทรานสมิทเตอร์ที่ใช้สัญญาณแรงดันไฟฟ้าสูงสำหรับอุปกรณ์เครื่องมืออุตสาหกรรม IC ใหม่นี้รวมวงจร D-type Flip Flop   (8 bit type) เข้าไว้ด้วยกันในส่วนของอินพุตที่ช่วยในด้านฟังก์ชั่นการเก็บข้อมูล ตัวอย่างสินค้าเริ่มส่งวันนี้ และการผลิตเป็นจำนวนมากจะเริ่มทำในปลายเดือนธันวาคม 2016

สามารถรับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/news/home/20161013005525/en/

โตชิบา: ทรานซิสเตอร์อาร์เรย์รุ่นใหม่ “TBD62089APG” ด้วยวงจร D-type Flip Flop ที่ช่วยในด้านฟังก์ชั่นการเก็บข้อมูล (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

Toshiba: a new-generation transistor array "TBD62089APG" with D-type Flip Flop circuits that support a data storage function. (Photo: Business Wire)

การใช้งานเช่นอุปกรณ์เครื่องเล่นเกม (ปาจิงโกะและสล็อตแมชชีน) อุปกรณ์ใช้งานที่บ้าน (เครื่องปรับอากาศและตู้เย็น) และอุปกรณ์อุตสาหกรรม (ตู้กดแบบหยอดเหรียญ ตู้ ATM อุปกรณ์ในสำนักงานแบบอัตโนมัติ และอุปกรณ์ในโรงงานแบบอัตโนมัติ) เริ่มที่จะมีฟังก์ชั่นใหม่ๆ ปีต่อปี ทำให้ต้องมีพื้นที่ในการเก็บข้อมูลของ ICs มากขึ้น

TBD62089APG ใช้วงจร D-type Flip Flop ที่มีการใช้เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมกันอย่างกว้างขวาง และมีเอ้าท์พุตแลล 8-ch sink[1] ประเภททรานซิสเตอร์อาร์เรย์ (TBD62083APG) ในชิพเดียวในแพ็กเกจแบบ DIP20 ผลก็คือพื้นที่การใช้งานได้มีขนาดเล็กลง

TBD62089APG มี DMOS FET[2] ที่เป็นเอ้าท์พุตแบบ sink ที่ใช้ได้กับไดรฟ์ที่มีแรงดันไฟสูงและกระแสไฟสูงด้วยประสิทธิภาพสูง ทำให้ลดการสูญเสียพลังงานไปประมาณ 40%[3] เมื่อเทียบกับซีรี่ส์แบบ TD62083A การใช้งานสำหรับซี่รียส์อื่นอาจทำให้เกิดความสูญเสียพลังงานมาก แต่ IC ใหม่นี้เหมาะสมในการมีความคงทนสูงและต้องมีความจุไฟฟ้ามาก (LEDs และโฟโต้คัปเปลอร์)

ฟีเจอร์หลักของผลิตภัณฑ์ใหม่

1 ฟังก์ชั่นเก็บข้อมูลแบบบิลด์อิน (วงจร D-type Flip Flop)

วงจร D-type Flip Flop (ประเภท TC74HC273A) ได้ถูกรวมอยู่ในวงจรเอ้าทพุตของเอ้าท์พุต 8-ch sink ทรานซิสเตอร์อาร์เรย์ TBD62083APG ซึ่งเป็นทรานซิสเตอร์อาร์เรย์รุ่นใหม่ของโตชิบา ซึ่ช่วยลด component count และพื้นที่

2 แรงขับประสิทธิภาพสูง

การใช้ TBD62083APG ช่วยให้มีแรงขับประสิทธิภาพสูง และTBD62089APG ลดการสูญเสียของพลังงานไปกว่า 40%[3] เมื่อเทียบกับซีรีส์ TD62083A ก่อนหน้านี้

3 แรงดันสูง กระแสไฟสูง

เอ้าท์พุตจ่ายกระแสไฟสูงสุด 50V/0.5A

การใช้งาน

อุปกรณ์เครื่องเล่นเกม (ปาจิงโกะและสล็อตแมชชีน) อุปกรณ์ใช้งานที่บ้าน (เครื่องปรับอากาศและตู้เย็น) และอุปกรณ์อุตสาหกรรม (ตู้กดแบบหยอดเหรียญ ตู้ ATM อุปกรณ์ในสำนักงานแบบอัตโนมัติ และอุปกรณ์ในโรงงานแบบอัตโนมัติ)

[1] Sink เอ้าท์พุต: เป็นเอ้าท์พุตประเภทหนึ่ง (แบบ pull)

[2] DMOS FET: Double-Diffused MOSFET

[3] ในเงื่อนไข Ta=25℃ และ IOUT อยู่ที่ 200mA

รับชมข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ได้ที่:

http://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=TBD62089APG&region=apc&lang=en

ลูกค้าติดต่อ:

Mixed Signal IC Sales and Marketing Department

โทร: +81-44-548-2821

http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาการบริการและข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบา

โตชิบา คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัท Fortune Global 500 นำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันล้ำสมัย รวมถึงระบบต่างๆ ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ พลังงาน (Energy) เพื่อทุกวันของชีวิตที่สะอาดและปลอดภัยขึ้นอย่างยั่งยืน, โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และการจัดเก็บข้อมูล (Storage) เพื่อสนับสนุนสังคมแห่งข้อมูลข่าวสารที่ก้าวล้ำ โตชิบาส่งเสริมการดำเนินงานทั่วโลก และสนับสนุนการสร้างสรรค์โลกเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนรุ่นต่อๆ ไป ภายใต้รากฐานความมุ่งมั่นของโตชิบา กรุ๊ป ที่ว่า “ความมุ่งมั่นต่อประชากร, ความมุ่งมั่นต่ออนาคต”

โตชิบาก่อตั้งขึ้นในโตเกียวเมื่อปี 1875 และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของกลุ่มบริษัทในเครือกว่า 550 แห่ง ด้วยจำนวนพนักงาน 188,000 คนทั่วโลก และยอดขายต่อปีกว่า 5.6 ล้านล้านเยน (5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2016)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโตชิบาได้ที่ www.toshiba.co.jp/index.htm

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20161013005525/en/

สื่อมวลชนติดต่อ:

Toshiba Corporation

Storage & Electronic Devices Solutions Company

Chiaki Nagasawa, +81-3-3457-4963

semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

โทโฮกุ เฟสติวัล พาเหรด จะจัดขึ้นในเฟสติวัลท้องถิ่น 6 แห่งเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือการฟื้นฟูในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

แสดงวัฒนธรรมอันหลากหลายจากโทโฮกุและโตเกียว ซึ่งจะเป็นอีเว้นท์ใหญ่สำคัญครั้งแรกที่จัดขึ้นในเขตโทราโนมอนที่เป็นแหล่งวัฒนธรรมและการค้าแห่งใหม่ใจกลางโตเกียว

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–13 ตุลาคม 2016

คณะกรรมการผู้บริหารของ TOKYO SHINTORA MATSURI วันนี้ได้ประกาศว่าจะจัด TOKYO SHINTORA MATSURI เฟสติวัลที่ Shintora-dori อเวนิวที่เป็นถนนสายใหม่สร้างขึ้นในส่วนของการพัฒนาเขตโทราโนมอน โดยมีขึ้นวันที่ 19 และ 20 พฤศจิกายน งานเฟสติวัลนี้จะเป็นอีเว้นท์ใหญ่ที่สำคัญครั้งแรกที่จะได้ใช้พื้นที่แห่งใหม่นี้ที่สร้างขึ้นในเขตชินโทรา (ชิมบาชิ-โทราโนมอน) ซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจและวัฒนธรรมนานาชาติแห่งใหม่ของโตเกียว ซึ่จะรวมถึงโทโฮกุ รกคนไซ (6 เฟสติวัล) พาเหรด ซึ่งเป็นการแสดงบนถนนสุดพิเศษโดยการรวบรวมเอาที่เสน่ห์ดึงดูดของทั้ง 6 เฟสติวัลที่เป็นเอกลักษณ์ จากเมืองอาโอโมริ อาคิตะ โมริโอกะ ยามากาตะ เซนได และฟุกุชิมะ ในภูมิภาคโทโฮกุ

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/news/home/20161012006397/en/

โทโฮกุ เฟสติวัล พาเหรด ที่ TOKYO SHINTORA MATSURI (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

Tohoku Rokkonsai Parade at TOKYO SHINTORA MATSURI (Photo: Business Wire)

Aomori Nebuta (Photo: Business Wire)

Akita Kanto (Photo: Business Wire)

Morioka Sansa (Photo: Business Wire)

Yamagata Hanagasa (Photo: Business Wire)

Sendai Tanabata (Photo: Business Wire)

 

โทโฮกุ เฟสติวัล พาเหรด ได้จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2011 ในเมืองเซ็นได มีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างแรงบันดาลใจในการฟื้นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแผ่นดินไหว Great East Japan Earthquake เมื่อต้นปีนั้น ซึ่งมีกระทำขึ้นทุกปีในเมืองใหญ่อื่นๆ ในโทโฮกุ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองถึงความหลากหลายและความสามารถในการฟื้นฟูของภูมิภาค พาเหรดที่มีความยาว 300 เมตร จะจัดขึ้นใน Sintora-dori อเวนิวในวันที่ 20 พฤศจิกายน โดยมีนักเต้นและนักแสดงกว่า 300 คน มาร่วมแสดงการแสดงที่จัดใน 6 เฟสติวัลของเมืองโทโฮกุ

TOKYO SHINTORA MATSURI จะมีโปรแกรมต่างๆ อีกมากมายภายใต้ธีมที่มีความกันคือ “โทโฮกุ x โตเกียว” และ “พื้นเมือง x นวัตกรรม” แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ทางวัฒนธรรมจากโตเกียวและภูมิภาคอื่นๆ ในญี่ปุ่น อีเว้นท์อื่นๆ ของเฟสติวัลนี้จะรวมถึงฟอรั่ม Japan Culture Future Forum ซึ่งเป็นการสัมมนาเกี่วกับเกมส์ของญี่ปุ่น รวมถึงอนิเมะและเพลง และ Tohoku x Tokyo Festa ซึ่งจะจัดแสดงศิลปะพื้นเมืองจากโตเกียว เครื่องประดับตกแต่งสำหรับงานเฟสติวัลจากโทโฮกุและอาหารจากทั้งสองภูมิภาค

เฟสติวัลที่เพิ่มมาอีกสองงานจะมีจัดขึ้นในเวลาเดียวกันคือ “MINATO 70th x TOHOKU PARK” ซึ่งจะมีจำหน่ายอาหารท้องถิ่นจากเมือง 6 เมืองในโทโฮกุ และร้านอาหารพื้นเมืองต่างๆ รอบๆ ชิบะในโตเกียว และ “The Taste of TOHOKU” มีสาเกญี่ปุ่นแบบพื้นเมืองจากภูมิภาคโทโฮกุ นำเสนอโดยร้านอาหารที่เข้าร่วมรายการจาก Toranomon Hills

งานอีเว้นท์จะร่วมจัดโดย Tokyo Metropolitan Government, the Arts Council Tokyo (Tokyo Metropolitan Foundation for History and Culture) และคณะกรรมการผู้บริหารของ TOKYO SHINTORA MATSURI

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.shintora.tokyo

ภาคผนวก: โปรแกรมหลักของงาน TOKYO SHINTORA MATSURI

Tohoku Rokkonsai Parade

องค์ประกอบต่างๆ จากเฟสติวัลแต่ละแห่งจะมารวมกัน โดยบางส่วนขึ้นชื่อว่าเป็น “ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ” ซึ่งจะเอามารวมอยู่ในพาเหรดนี้ด้วย:

•    Aomori Nebuta – มีผู้เข้างาน 2 ล้านคนทุกปี มีการพาเหรดเครื่องประดับ Nebuta ที่ได้ถูกนำมาพิเศษกว้าง 7 เมตร

•    Akita Kanto – มีประวัติยาวนานว่าเป็นอีเว้นท์ที่ปัดเป่าวิญญาณความชั่วร้าย นักแสดงจะแห่เสาโคมไฟสูง 12 เมตร

•    Morioka Sansa – การแสดงพื้นเมืองนับย้อนไปสมัยอิโดะ ซึ่งมีการแสดงการตีกลองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

•    Yamagata Hanagasa – นักเต้นในชุดคอสตูมจะเต้นประกอบเสียงกลอง โดยใส่หมวกงอกประดับด้วยดอกไม้

•    Sendai Tanabata –  มีผู้เข้างานมากกว่า 2 ล้านคนต่อปีและมีการเต้นที่นักแสดงถือพัดญี่ปุ่นไว้ในมือ

•    Fukushima Waraji – แสดง O’waraji ซึ่งเป็นรองเท้าสานของญี่ปุ่นขนาดใหญ่จากศาลเจ้า  Ashio-Jinja Shrine เพื่อช่วยในเรื่องการเดินทางให้ปลอดภัย

สามารถรับชมวิดีโอพาเหรดที่จัดในอาโอโมริปี 2016 ได้ที่ http://www.shintora.tokyo/rokkonsai.html.

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2016

เวลา: 10:15 และ 15:00 (10:15 พาเหรดจะเริ่มขึ้น)

สถานที่: Shintora-dori Avenue, Loop Road No.2

ราคา: ฟรี (มีการลงทะเบียนล่วงหน้า)

สมัคร: การลงทะเบียนเปิดตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม กรุณาลงทะเบียนที่เว็บไซต์ www.shintora.tokyo

Japan Culture Future Forum

เป็นส่วนหนึ่งในการมุ่งโปรโมทวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยฟอรั่มนี้จะมีการสัมมนาในหัวข้อต่างๆ เช่น เฟสติวัล เพลง และเกมส์ และคาดว่าจะสามารถดึงดูงผู้มีความคิดสร้างสรรค์และความสามารถจากญี่ปุ่นและต่างประเทศได้

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2016

เวลา: 11:00–14:00 (TBC)

สถานที่: Toranomon Hills Forum, 5F Main Hall

ราคา: TBC

สมัคร: มีการลงทะเบียนล่วงหน้า กรุณาลงทะเบียนที่เว็บไซต์ www.shintora.tokyo

Tohoku x Tokyo Festa

จะแสดง “weaver star” ของ Tanabata ซึ่งเป็นเครื่องประดับสุดอลังการที่ทำให้เมืองเซ็นไดส่องสว่างอย่างสวยงามทุกๆ ปี

วันที่: 15-20 พฤศจิกายน 2016

เวลา: 11:00 (TBC)

สถานที่: Toranomon Hills, ชั้น 2 Atrium

งานอีเว้นท์รวมถึง:

เวทีบันเทิงสำหรับเมือง 6 เมืองของโทโฮกุและงานศิลปะพื้นเมืองโตเกียว 

จะแสดงอีเว้นท์และการแสดงหลากหลายในการโปรโมทภูมิภาคโทโฮกุ โดยรวมถึงการแสดงศิลปะพื้นเมืองของโตเกียว

วันที่: 19-20 พฤศจิกายน 2016

เวลา: 11:00 เป็นต้นไป (TBC)

สถานที่: Toranomon Hills, Oval Plaza

ขนมพื้นบ้านของโทโฮกุและเกมส์การละเล่นพื้นเมือง 

บู้ทขายขนมพื้นบ้านของโทโฮกุและผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงเกมส์การละเล่นพื้นเมือง

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2016

เวลา: 11:00 – 18:00 (TBC)

สถานที่: Toranomon Hills, ทางเข้า 4F

เวิร์คชอปหัตกรรมพื้นเมืองของญี่ปุ่น

ศิลปินจะแสดงงานแสะสาธิตหัตถกรรมพื้นเมืองของญี่ปุ่นจากโตเกียว

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2016

เวลา: 12:00, 14:00, 16:00 (TBC)

สถานที่: Toranomon Hills Forum, 4F, Hall B

ผู้เข้าร่วมงาน: จำกัดผู้เข้าชม 20 คนต่อครั้ง (TBC)

ราคา: TBC ซึ่งจะคิดเฉพาะค่าอุปกรณ์

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20161012006397/en/

สื่อมวลชนติดต่อ:

Weber Shandwick

Reina Matsushita, +81-80-2375-0295

Ayumi Matsubara, +81-90-9006-5841

Masashi Nonaka, +81-80-1037-7879

shintora.tokyo@webershandwick.com

Datacolor® จะจัดแสดงผลิตภัณฑ์การจัดการสีรุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับอุตสาหกรรมผ้าและเครื่องนุ่งห่ม ในงาน ITMA เอเชีย 2016 (ณ Hall H5, Booth F60)

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

ลอว์เรนซ์วิล, นิวเจอร์ซีย์–(บิสิเนส ไวร์)–23 กันยายน 2016

Datacolor® ผู้นำของโลกในด้านผลิตภัณฑ์การจัดการสีและเทคโนโลยีการสื่อสารของสีจะแสดงsolution workflows ของที่งาน ITMA เอเชีย 2016 (ฮอล H5, บู้ท F60) ซึ่งเป็นงานแสดงเครื่องจักรสำหรับอุตสหกรรมผ้าและสิ่งทอนานาชาติ จัดขึ้นวันที่ 21-25 ตุลาคม 2016 ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณะรัฐประชาชนจีน ผลิตภัณฑ์จะรวมถึงเครื่องวัดสี Spectrophotometer ตัวใหม่ ในซีรี่ส์ 800 และ 500 และยังมี โปรแกรม Datacolor Match Textle เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่จะจัดแสดงควบคู่กัน

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51426281&lang=en

Datacolor 800 Spectrophotometers (Photo: Business Wire)

เครื่องวัดสี Spectrophotometer Datacolor 800 (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

 

นอกจากนั้น Datacolor จะจัดแสดงเครื่องย้อมสีแบบ IR สำหรับในห้องแล็บ ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีความเร็ว ความแม่นยำ และเชื่อถือได้ในอุตสหากรรมผ้าคือAHIBA IR™ Pro รวมทั้งเครื่อง dispenser สีย้อม Autolab TF 80 ซึ่งเป็นระบบกราวิเมตริกแบบไร้ท่อและมีความแม่นยำสูงมาก

ทีมผู้เชี่ยวชาญ Applications Team ของ Datacolor จะประจำการอยู่ที่ ITMA เอเชียเพื่อตอบข้อสงสัยทางเทคนิคทั้งหมด สามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับ Datacolor ได้ที่http://www.industrial.datacolor.com

เกี่ยวกับ Datacolor
Datacolor เป็นผู้นำของโลกในด้านผลิตภัณฑ์การจัดการสี บริษัทให้บริการและผลิตซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ และบริการต่างๆ ที่รับประกันความแม่นยำของสีในหลากหลายอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ และรูปภาพ บรรดาแบรนด์ชั้นนำของโลก ผู้ผลิตและผู้เชี่ยวชาญในวงการครีเอทีฟต่างใช้โซลูชั่นนวัตกรรมของดาต้าคัลเลอร์ จนประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการจัดการสีได้อย่างถูกต้องมายาวนานกว่า 45 ปี

บริษัทดำเนินงานด้านการขาย บริการ และการช่วยเหลือทาด้านเทคนิค ในกว่า 100 ประเทศทั่วยุโรป อเมริกา และเอเชีย อุตสาหกรรมที่รองรับการบริการของเรา ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย สีและสารเคลือบผิว ยานยนต์ พลาสติก ไมโครสโคปี รูปถ่าย และวิดีโอ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถรับชมได้ที่http://www.datacolor.com

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51426281&lang=en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

Datacolor Asia Pacific (HK) Limited

Nelson Ngai, +852-6406-4093

Marketing Manager, Asia Pacific

nngai@datacolor.com

www.datacolor.com

หรือ

Datacolor Trading (Shanghai) Limited

Rachel He, +86-185-1633-9071

Marketing Specialist, China

rhe@datacolor.com

www.datacolorchina.cn

Janus Capital Group Inc. และ Henderson Group plc ประกาศควบรวมกิจการ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News    http://www.thaibusinessnews.com/

 

ลอนดอน & เดนเวอร์–(บิสิเนส ไวร์)–3 ตุลาคม 2016

“ห้ามเผยแพร่ ตีพิมพ์หรือแจกจ่าย ไม่ว่าในรูปแบบใด ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การประกาศนี้ประกอบด้วยข้อมูลวงใน”

ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่ http://www.businesswire.com/news/home/20161002005078/en/

วันนี้บริษัท Henderson Group plc (“Henderson”) (LSE & ASX: HGG) และบริษัท Janus Capital Group Inc. (“Janus”) (NYSE: JNS) นำโดยคณะกรรมการบริหารของทั้งสองบริษัท ได้ออกมาประกาศควบรวมกิจการ โดยได้มีข้อตกลงร่วมกันอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้รวมกิจการของทั้งสองบริษัท โดยจะบริหารกิจการ ภายใต้บริษัทใหม่ ชื่อ Janus Henderson Global Investors plc.

การควบรวมกิจการดังกล่าว จะดำเนินการผ่านการปรับมูลค่าและโครงสร้างการถือหุ้นของทั้งสองบริษัท โดยหุ้นพื้นฐานของ Janus จะถูกปรับมูลค่าเป็น 4.7190 หน่วยหุ้น เพื่อนำไปควบรวมกับหน่วยหุ้นของ Henderson ทั้งนี้คาดการณ์ว่าโครงสร้างการถือหุ้นใหม่หลังจากควบรวมกิจการ ภายใต้ชื่อ Janus Henderson Global Investors จะมีสัดส่วนการถือหุ้น แบ่งเป็น 57% ถือโดย Henderson และ 43% ถือโดย Janus โดยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของมูลค่า และปริมาณผู้ถือหุ้นของทั้งสองบริษัท ณ ปัจจุบัน การควบรวมกิจการในครั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่สองของปี 2017 เนื่องจากจำเป็นต้องรอให้ผ่านความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นทั้งหมด รวมถึงผ่านขั้นตอนตามกฎระเบียบ และขั้นตอนทางกฎหมายต่างๆ

การควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัทยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดความตื่นตัวทางด้านการบริหารสินทรัพย์ ในระดับโลกอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เกิดแผนพัฒนาทั้งสินค้าและการลงทุนที่หลากหลาย และเกิดความเปลี่ยนแปลงต่อการกระจายตัวทางเศรษฐกิจโลกในเชิงลึกอย่างกว้างขวาง ผลที่ตามมาคือ องค์กรใหม่ ที่จะถูกจัดเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการทางด้านการบริหารสินทรัพย์ รายสำคัญอันดับต้นๆ ของโลก เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด และยกระดับมูลค่าหุ้นในตลาดหุ้นในอนาคต

Andrew Formica ผู้บริหารระดับสูงของ Henderson กล่าวว่า “เรา Henderson และ Janus จับมือกันเพื่อสร้าง ส่วนผสมทางธุรกิจที่ลงตัว นำไปสู่โอกาสในการพัฒนากลยุทธ์ทางธุกิจใหม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด นั่นก็คือ การให้การบริการด้านการบริหารสินทรัพย์ระดับโลกที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา ผมมีความยินดีที่จะทำงานเคียงข้างกับ Dick เพื่อยกระดับการให้บริการของเราไปสู่ลูกค้าทั่วโลกพร้อมกันกับสร้างเสถียรภาพ และฐานกำลังให้ธุกิจของเราสามารถรองรับความต้องการ และการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตได้อย่างยั่งยืน”

Dick Weil ผู้บริหารระดับสูงของ Jenus กล่าวว่า “ผมคิดว่าการควบรวมกิจการในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อทั้งสองบริษัท Janus มีฐานธุรกิจที่มั่นคงทั้งในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ในขณะที่ Henderson ก็มีฐานที่เข้มแข็งทั้งในอังกฤษและภาคพื้นยุโรป ผมเชื่อว่าด้วยฐานการตลาดและธรรมชาติที่สอดรับกันทางธุกิจของทั้งสองบริษัทจะทำให้การควบรวมในครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และเป็นการสร้างบริษัทใหม่ที่จะขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วโลก สร้างบริการที่เหมาะสมและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกระดับ ยกระดับความสามารถในการดำเนินกิจการ รวมถึงทำให้สถานะทางการเงินของเราเข้มแข็ง ช่วยเสริมให้การประกอบธุรกิจของเรามีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อทั้งลูกค้า ผู้ถือหุ้น และพนักงานทุกคนของบริษัท”

ผลประโยชน์จาการควบรวมกิจการ

ขยายทีมให้บริการที่เข้าถึงลูกค้าอย่างทั่วถึง

  • เพิ่มศักยภาพในการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ ครอบคลุมในทุกๆตลาดใหญ่ ทั้งในสหรัฐอมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอังกฤษ รวมถึงขยายตลาดในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา;
    • Janus Henderson Global Investors’ AUM คาดว่าจะแบ่งฐานการให้บริการ ในแต่ละภูมิภาคดังนี้ – 54% ในอเมริกา, 31% ในยุโรป-ตะวันออกกลาง-และแอฟริกา (EMEA), 15% ในเอเชียและแปซิฟิก; และ
  • ขยายฐานตลาดอย่างต่อเนื่องและ สร้างแบรนด์ที่เข้มแข็ง ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล

สร้างความหลากหลายของสินค้าและบริการ รวมถึงเสนอกลยุทธ์ในการลงทุนที่หลากหลาย

  • สร้างความหลากหลายของสินค้าและบริการ รวมถึงเสนอกลยุทธ์ในการลงทุนเพื่อสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น;
    • ทั้ง Henderson และ Janus ลงทุนเพื่อตอบสนองความต้องการสูงสุดของลูกค้าในอนาคต เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย รวมถึงได้รับรายได้ และผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ;
  • การควบรวมองค์กรจะทำให้มีช่องทางการทำงาน และการวางแผนงานที่กว้างขึ้น; และ
  • เพิ่มแนวทางในการลงทุน, ยกระดับประสบการณ์ในการบริหารจัดการสินทรัพย์, และปรับปรุงคุณภาพงานวิจัยเชิงลึก เพื่อให้บริการที่ดียิ่งๆขึ้น เพื่อตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า

ยกระดับความสามารถในการดำเนินงาน

  • สร้างองค์กรที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นโดยการรวบรวมทักษะและความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน ด้วยจำนวนพนักงานที่มีรวมกันกว่า 2,300 คน ทั่วโลก;
  • สร้างรูปแบบธุรกิจที่สมบูรณ์ ด้วยการรวมธรรมชาติที่สอดรับกันในการดำเนินธุรกิจของทั้งสองธุรกิจเป็นหนึ่งเดียว ขยายฐานการประกอบธุรกิจ เพื่อสร้างรูปแบบการทำงานที่กว้างขวางครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และ
  • สร้างวัฒนธรรมในการขับเคลื่อนองค์กรโดยให้ความสำคัญกับทั้งสองกลุ่มลูกค้า ของทั้งสองบริษัทเดิม ที่มีร่วมกัน และลดความเหลื่อมล้ำกันของกลยุทธ์ในการลงทุน และการบริหารจัดการสินทรัพย์โดยรวมของลูกค้า

เพิ่มความมั่นคงทางการเงิน

  • รวบรวมการบริหารจัดการทางบัญชีของทั้งสองบริษัทเป็นหนึ่งเดียว เพื่อเพิ่มเสถียรภาพ และความมั่นคงทางการเงิน ผ่านวัฏจักรทางการตลาด เพื่อให้ธุรกิจของ Janus Henderson Global Investors มีการเติบโตอย่างมั่นคง ต่อเนื่อง และสามารถลงทุนเพื่อขยายโอกาสทางธุกิจใหม่ๆต่อไป;
  • การควบรวมทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกันทำให้รายได้รวมของบริษัทมีมูลค่ามากกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีรายได้รวมก่อนหักดอกเบี้ย-ภาษี-ค่าเสื่อมราคา-และค่าใช้จ่าย (EBITDA) กว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อ้างอิงจากข้อมูลเมื่อ 31 ธันวาคม ปี 2015 –(ดูหมายเหตุ);
  • ขยายฐานทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจและเพิ่มผลกำไรรวม และ
  • คาดว่าคณะผู้บริหารของ Janus Henderson Global Investors จะดำเนินนโยบายการเพิ่มผลประกอบการและจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยการดำเนินการทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึก เน้นการเพิ่มผลกำไร ตามนโยบายมาตรฐานด้วยสัดส่วนการปันผลคงที่ด้วยรูปแบบการดำเนินการของ Henderson ที่มีอยู่เดิม

สร้างมูลค่าเพิ่ม

  • โดยตั้งเป้าต้นทุนประกอบการประจำปีไว้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในระยะเวลา 12 เดือนแรก และคาดว่าจะสามารถระดมทุนเต็มที่ได้ภายในระยะเวลา 3 ปี คิดเป็น 16% ของมูลค่ารายได้รวมก่อนหักดอกเบี้ย-ภาษี-ค่าเสื่อมราคา-และค่าใช้จ่าย (EBITDA) –(ดูหมายเหตุ)
  • คาดว่าการทำงานร่วมกันของทั้งสองบริษัทจะสามารถขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางธุรกิจได้ในระดับตัวเลขสองหลัก-ต่อหุ้น (หลังหักค่าใช้จ่าย) ภายในระยะเวลา 12 เดือนแรก; และ
  • คาดว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าเงินรวมของบริษัทได้ถึง 2-3 เปอร์เซนต์ โดยประมาณ ภายหลังจากการควบรวมกิจการ

บรรษัทภิบาลและการบริหารจัดการ

จำนวนคณะกรรมการบริหารประกอบด้วยกรรมการจากบริษัท Henderson และ Janus ในจำนวนที่เท่ากัน โดยมี Richard Gillingwater ประธานคณะกรรมการจาก Henderson เดิม ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารของบริษัทใหม่ และมี Glenn Schafer ประธานคณะกรรมการจาก Janus เดิม ดำรงตำแหน่งรองประธาน

โดย Janus Henderson Global Investors จะบริหารงานโดย คณะกรรมการบริหารที่มีการคัดเลือกใหม่ ขึ้นตรงต่อทั้ง Dick Weil และ Andrew Formica ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO ร่วมกัน โดยมีผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ในแผนกต่างๆดังต่อไปนี้:

  • Enrique Chang หัวหน้าแผนกการลงทุนของ Janus เดิม จะดำรงตำแหน่งเป็น Global Chief Investment Officer
  • Phil Wagstaff Global Head of Distribution ของ Henderson เดิม จะดำรงตำแหน่งเป็น Global Head of Distribution
  • Bruce Koepfgen ประธานบริษัท Janus เดิม จะดำรงตำแหน่งเป็น Head of North America
  • Rob Adams -Executive Chairman Pan Asia ของ Henderson เดิม จะดำรงตำแหน่งเป็น Head of Asia Pacific
  • Jennifer McPeek CFO ของ Janus เดิม จะดำรงตำแหน่งเป็น Chief Operating and Strategy Officer
  • Roger Thompson ผู้บริหารระดับสูงดูแลการเงินและการบัญชีของ Henderson เดิม จะดำรงตำแหน่งเป็น หัวหน้าฝ่ายการเงินและการบัญชี (CFO)
  • David Kowalski – Chief Compliance Officer ของ Janus เดิม จะดำรงตำแหน่งเป็น Chief Risk Officer
  • Jacqui Irvine – General Counsel and Company Secretary จาก Henderson เดิม จะยังดำรงตำแหน่งเป็น Group General Counsel and Company Secretary

บริษัทลูกของ Janus ทั้ง INTECH และ Perkins จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆในการควบรวมกิจการในครั้งนี้ โดย Adrian Banner–CEO ของ INTECH จะยังคงขึ้นตรงต่อคณะกรรมการบริหารของ INTECH รวมทั้ง, Tom Perkins–CEO ของ Perkins ก็ยังคงขึ้นตรงต่อคณะกรรมการบริหารของ Perkins เช่นเดิม

เงินปันผลและการซื้อคืนหุ้น

ภายใต้เงื่อนไขในการควบรวมกิจการของ Henderson และ Janus มีข้อตกลงร่วมกันดังต่อไปนี้:

  • ก่อนการปิดงบประมาณ และก่อนได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นเดิมของ Henderson จะได้รับเงินปันผล สำหรับวาระล่าสุดภายใต้เงื่อนไขปกติของสิ้นปี–ในวันที่ 31 ธันวาคม 2016 โดยอาจมีการเลื่อนการจ่ายเงินปันผลขึ้นมาก่อนกำหนด ซึ่งทำให้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าว ต้องมีการสั่งจ่ายก่อนช่วงเวลาปิดงบประมาณ
  • ก่อนการเสร็จสิ้นการควบรวมกิจการ และก่อนได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นเดิมของ Janus จะได้รับสิทธิ ในการจ่ายเงินปันผลสำหรับไตรมาสล่าสุด ในเดือน พฤศจิกายน 2016 และ กุมภาพันธ์ 2017  และ
  • หลังจากเสร็จสิ้นการควบรวมกิจการ ผู้ถือหุ้นของบริษัทใหม่ นั่นคือ Janus Henderson Global Investors จะได้รับสิทธิในการรับเงินปันผลในระยะเวลาสามเดือนแรกของปี โดยสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว ในวันที่ 31 มีนาคม ปี 2017 จำนวนเงินปันผลที่ผู้ถือหุ้นได้รับ จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารบริษัท ภายใต้กรอบเวลาดังกล่าว

การซื้อคืนหุ้น มูลค่า 25 ล้านยูโร ของบริษัท Henderson ที่กำหนดไว้แต่เดิมว่า จะมีการเริ่มซื้อคืนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2016 จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป

ความสัมพันธ์กับ Dai-ichi

  • Dai-ichi เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Janus มีความเห็นชอบในการควบรวมกิจการดังกล่าว ของ Janus และ Henderson โดยเชื่อว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มความเข้มแข็งทางการเงิน รวมถึงเพิ่มเสถียรภาพในการดำเนินธุรกิจในระดับสากล ภายใต้บริษัท Janus Henderson Global Investors
  • หลังจากการควบรวมกิจการแล้ว เพื่อบรรลุเงื่อนไขความเป็นเจ้าของ ในส่วนที่ Dai-ichi เป็นเจ้าของหุ้นอยู่เดิม และเพื่อให้การควบรวมกิจการดำเนินการโดยสมบูรณ์ ผู้บริหารระดับสูงมีความเห็นตรงกัน ให้มีการขายหุ้นของ Janus Henderson Global Investors ให้แก่ Dai-ichi จำนวนไม่เกิน 5% ของกองทุนรวม  และ
  • Dai-ichi สามารถลงทุนเพิ่มในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใดๆ ของ Janus Henderson Global Investors ในมูลค่าไม่เกิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำให้สินทรัพย์ทั้งหมดที่ใช้ในการลงทุนในกองทุนรวมของ Janus Henderson Global Investors มีมูลค่า เพิ่มขึ้นเป็น 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เกี่ยวกับบริษัท Henderson

Henderson เป็นบริษัทด้านการดูแลบริหารจัดการสินทรัพย์สากล เชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการตราสารหนี้โดยเฉพาะ โดยตั้งชื่อบริษัทตามลูกค้ารายแรก และบริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1934 Henderson เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นการทำธุรกิจในการให้บริการลูกค้าในระดับสากล โดยมีพนักงานกว่า 1,000 คนทั่วทุกมุมโลก และมีสินทรัพย์กว่า 95 พันล้านยูโร (อ้างอิงจากข้อมูลเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2016) หัวใจหลักคือการบริการด้านตราสารทุน และตราสารหนี้ ทั้งในยุโรป และระดับสากล หลักทรัพย์สากล บริการการจัดการสินทรัพย์หลากหลาย และบริการในการเสนอทางเลือกในการลงทุนต่างๆ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และมีสำนักงาน 19 แห่ง ทั่วทุกมุมโลก

Henderson เป็นบริษัทจดทะเบียนคู่ โดยจดทะเบียนทั้งในตลาดหุ้นตราสารหนี้ ของออสเตรเลีย (ออสเตรเลียn Securities Exchange: “ASX”) พร้อมๆกันกับจดทะเบียนอยู่ใน ตลาดหุ้นของลอนดอน (ลอนดอน Stock Exchange: “LSE”) โดยมีค่าดัชนีใน ASX อยู่ที 100 จุด และใน FTSE อยู่ที่ 250 จุด และมีมูลค่าการจดทะเบียนรวมอยู่ที่ 2.6 พันล้านยูโร (อ้างอิงจากข้อมูลเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2016)

จากข้อมูลเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2016 Henderson มีสินทรัพย์รวมถึง 1,876 ล้านยูโร และมีผลกำไรก่อนหักภาษีอยู่กว่า 220 ล้านยูโร สำหรับผลประกอบการสิ้นปี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2015

เกี่ยวกับบริษัท Janus

Janus Capital Group Inc. เป็นบริษัทดูแลและให้คำแนะนำด้านการลงทุนระดับสากล โดยเน้นการให้บริการเพื่อได้ผลลัพธ์ในการลงทุนที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า ผ่านการบริการด้านการลงทุนที่ครอบคลุมและหลากหลาย ทั้งด้าน ตราสารทุน ตราสารหนี้ กองทุนรวม การเสนอทางเลือกในการลงทุน รวมทั้งกลยุทธ์ในการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย โดยการดำเนินการผ่านรูปแบบระบบการบริหารจัดการสินทรัพย์ในหลายๆช่องทาง ทั้งจากบริษัท Janus Capital Management LLC (Janus) เอง และบริษัทในเครืออื่นๆ นั่นคือบริษัท INTECH, Perkins, และ Kapstream ซึ่งนอกจากการให้บริการด้านการลงทุน ในตลาดแลกเปลี่ยนแล้ว ด้วยทักษะและความเชี่ยวชาญที่หลากหลายของบริษัทในเครือ ทำให้การบริการด้านการลงทุนสินทรัพย์ของ Janus มีความชำนาญทั้งในรูปการให้บริการแบบเฉพาะด้าน และให้คำปรึกษาโดยภาพรวม พร้อมกันกับการให้ความเห็นเชิงลึก นอกจากนั้นยังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับความเสี่ยงในการลงทุนต่างๆอีกด้วย  โดยบริษัทสามารถให้บริการได้ทั้งการลงทุนในกองทุนรวมของสหรัฐอเมริกา และในประเทศอื่นๆ ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการบริหารจัดการผ่านบัญชีแยก การสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนสะสม และการลงทุนในตลาดตราสารแลกเปลี่ยน

สำนักงานใหญ่ของ Janus ตั้งอยู่ที่เมือง เดนเวอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 12 แห่งทั่วโลก ทั้งในอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย  อ้างอิงจากข้อมูลในวันที่ 30 กรกฎาคม 2016  บริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์จดทะเบียน (ETP) รวมอยู่ที่  195 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Janus จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค (นิวยอร์ค Stock Exchange: “NYSE”) โดยใช้ชื่อย่อ JNS ปัจจุบันมีกองทุนในตลาดหุ้นที่มีมูลค่ากว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูล วันที่ 30 กรกฎาคม 2016 Janus มีสินทรัพย์รวมกว่า 2,839.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีผลกำไรสิ้นปี ก่อนหักภาษี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2016 กว่า 253.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กำหนดการ การบรรยายสรุปสถานการณ์ทางการตลาด

Andrew Formica และ Dick Weil ผู้บริหารระดับสูงของ Henderson และ Janus เป็นผู้บรรยายสรุป สถานการณ์ทางการตลาด ในวันที่ 3 ตุลาคม 2016

การบรรยายสรุปที่ 1: นำโดย Andrew Formica ผู้บริหารระดับสูงของ Henderson:

เวลา 21:30 (ซิดนีย์) / 11:30 (ลอนดอน) / 06:30 (นิวยอร์ค) / 04:30 (เดนเวอร์)

รายละเอียดในการบรรยาย และ การออกอากาศผ่านเว็บไซต์: สามารถดูสไลด์การบรรยาย และเข้าร่วมฟังการถ่ายทอดเสียงการบรรยายทางเว็บไซต์ได้ที่www.henderson.com/ir โดยเลือกเมนูจากหน้าเว็บเพื่อเข้าชม  บันทึกการบรรยายสามารถ รับชม/รับฟังย้อนหลังได้หลังจากจบการบรรยาย

รายละเอียดการเข้าร่วมประชุมทางไกล: สามารถเข้าร่วมฟังการบรรยายผ่านการประชุมทางไกล ได้โดยการต่อสายตามรายละเอียดด้านล่าง แนะนำให้ผู้เข้าร่วมประชุมต่อสาย 10 ถึง 15 นาทีก่อนกำหนดการเริ่มการบรรยาย

สหราชอาณาจักร            0800 694 0257 (ไม่มีค่าบริการ)

ออสเตรเลีย            1800 020 199 (ไม่มีค่าบริการ)

สหรัฐ                1 866 966 9439 (ไม่มีค่าบริการ)

ประเทศอื่นๆ            +44 (0) 1452 555 566 (หมายเลขนี้ต้องจ่ายค่าบริการในการโทร)

หัวข้อการประชุม            Henderson Group, Market Update

หมายเลขการประชุม        89099212

ผู้นำการประชุม            Andrew Formica

การบรรยายสรุปที่ 2: นำโดย , Dick Weil ผู้บริหารระดับสูงของ Janus:

เวลา 01:00 (ซิดนีย์) / 15:00 (ลอนดอน) / 10:00 (นิวยอร์ค) / 08:00 (เดนเวอร์)

รายละเอียดในการบรรยาย และ การออกอากาศผ่านเว็บไซต์: สามารถดูสไลด์การบรรยาย และเข้าร่วมฟังการถ่ายทอดเสียงการบรรยายทางเว็บไซต์ได้ที่ir.janus.com โดยเลือกเมนูจากหน้าเว็บเพื่อเข้าชม  บันทึกการบรรยายสามารถ รับชม/รับฟังย้อนหลังได้หลังจากจบการบรรยาย

รายละเอียดการเข้าร่วมประชุมทางไกล: สามารถเข้าร่วมฟังการบรรยายผ่านการประชุมทางไกล ได้โดยการต่อสายตามรายละเอียดด้านล่าง แนะนำให้ผู้เข้าร่วมประชุมต่อสาย 10 ถึง 15 นาทีก่อนกำหนดการเริ่มการบรรยาย

สหรัฐ / แคนาดา:            +1 (877) 723 9511

สหราชอาณาจักร:            0808 101 7162

ออสเตรเลีย:            1800 617 345

ประเทศอื่นๆ:            +1 (719) 325 4926

หัวข้อการประชุม            Janus Capital Group Conference Call

หมายเลขการประชุม        2501328

ผู้นำการประชุม            Dick Weil

รับชม/รับฟังบันทึกการบรรยายสรุปย้อนหลังได้ หลังจากจบการบรรยายสด จากเว็บไซต์ของ Henderson Group ที่: www.henderson.com/ir และ เว็บไซต์ของ Janus ที่: ir.janus.com

รายละเอียดเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ

ภายใต้เงื่อนไขการเสนอการควบรวมกิจการ ระหว่างบริษัท Henderson และ Janus การควบคุมดูแลหลังจากการควบรวมกิจการจะอยู่ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท Henderson เป็นหลัก ภายใต้ชื่อบริษัทใหม่ คือ Janus Henderson Global Investors plc (“Janus Henderson Global Investors”)

การควบรวมกิจการจะเกิดขึ้นผ่านการถ่ายโอนหุ้น โดยในการถ่ายโอนหน่วยหุ้นเดิมของ Janus จะมีค่าเท่ากับ 4.7190 หน่วย ของหน่วยหุ้นปกติของบริษัท Henderson โดยสัดส่วนในการแลกเปลี่ยนดังกล่าวอ้างอิงจาก ค่าเฉลี่ย VWAP  มาตรฐานประจำวัน ในช่วงเวลา 30 วัน ก่อนการประกาศควบรวมกิจการในครั้งนี้

หุ้นของ Janus Henderson Global Investors จะถูกส่งต่อไปยังผู้ถือหุ้นของ Janus ในกระบวนการการควบรวม โดย Janus Henderson Global Investors มีการขออนุญาตจดทะเบียนในตลาดหุ้น NYSE เป็นหลัก ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาสถานะกองทุนในตลาดหุ้น ASX ที่มีอยู่เดิมไว้  ทั้งนี้ Janus Henderson Global Investors มีความตั้งใจจะจดทะเบียนอย่างเต็มรูปทั้งในตลาดหลักทรัพย์ ของอเมริกา และ ASX ในอนาคต

Henderson จะเปลี่ยนชื่อเป็น Janus Henderson Global Investors ทันทีหลังจากมีการควบรวมกิจการ ทั้งนี้การบริหารงานของบริษัทจะยังคงรูปแบบการเป็นบริษัท Jersey ที่จัดตั้งและถิ่นที่อยู่ภาษีก่อตั้งอยู่ใน สหราชอาณาจักร

รายการสินทรัพย์

ปัจจุบันหุ้นของ Henderson ทำการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ LSE และ ASX โดยดัชนีหุ้นของ Henderson ในกลุ่ม FTSE ปัจจุบันมีค่า 250 จุด และดัชนีในกลุ่ม ASX เท่ากับ 100 จุด ส่วนหุ้นของ Janus ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NYSE โดยอยู่ในกลุ่ม S&P Mid-Cap เท่ากับ 400 จุด และ Rusell เท่ากับ 2000 จุด

ทั้ง Henderson และ Janus เชื่อว่า การควบรวมกิจการของทั้งคู่ในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อดัชนีการลงทุน และสภาพคล่องของทั้งสองบริษัท โดยในปัจจุบัน Henderson มีสภาพคล่องสูงสุดในตลาด ออสเตรเลีย และ Janus มีสภาพคล่องสูงสุดในตลาดอเมริกา

หลังจากมีการพิจารณาความคุ้มค่าในการลงทุน หลังจากควบรวมกิจการแล้ว Henderson จะยังคงรักษาสถานภาพการลงทุน NYSE ไว้ แต่จะถอนการลงทุนในตลาด LSE (“London Delisting”) โดยจะโอนหลักทรัพย์ไปยัง SEC โดยจะเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ NYSE เป็นหลัก และหลังจากควบรวมกิจการแล้ว Janus Henderson Global Investors คาดว่าจะยังคง รักษาสถานภาพหลักทรัพย์ในตลาด ASX ไว้ที่ 100 จุด  และใน Russell ที่ 2000 จุด และคาดว่าจะรวบรวมดัชนี ในกลุ่ม S&P เข้ามาในอนาคต

การสร้างมูลค่าเพิ่ม

Henderson และ Janus เชื่อในโอกาสทางธุรกิจใหม่ และเชื่อมั่นว่าการควบรวมกิจการจะทำให้บริษัทสามารถลดภาระทางการเงินและเพิ่มการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างมั่นคง

จากประวัติการทำธุรกิจตลอดมา ทั้ง Henderson และ Janus สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้มูลค่าหุ้นของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำธุรกิจทางการเงินโดยบูรณาการ และจับมือร่วมกับบริษัทเครือข่าย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามกำหนดเงื่อนไขภายในกรอบเวลาที่กำหนด ทั้ง Henderson และ Janus เชื่อว่าจะสามารถผลักดันให้เกิดการเติบโตของธุรกิจ และ รักษาคุณภาพมาตรฐานในการให้บริการที่ดีไว้ได้อย่างต่อเนื่อง

การลดต้นทุนด้วยการทำงานร่วมกัน

Henderson กับ Janus ตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถประหยัดค่าดำเนินการได้อย่างน้อย 110 ล้านดอลลาร์ ของอัตราค่าใช้จ่ายดำเนินการรายปีสุทธิ ภายในระยะเวลา 12 เดือนแรก และคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นสามปี

คาดว่าการประหยัดค่าดำเนินการจะเกิดจากการรวมหน่วยงานที่ทับซ้อนเข้าด้วยกัน และจากค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าเช่า ไอที ค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและที่ปรึกษามืออาชีพ นอกจากนั้นยังสามารถลดต้นทุนได้โดยใช้นโยบายการปรับปรุงรูปแบบการทำงานที่มีอยู่เดิมของทั้งสองบริษัท โดยการลดต้นทุนด้วยการทำงานร่วมกันในครั้งนี้  โดยการประหยัดค่าดำเนินการจะมีการตรวจสอบอย่างอิสระจากนักบัญชีภายนอก

การดำเนินการกระบวนการในการลดภาระต้นทุนในครั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 165-185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการดำเนินงานเพียงครั้งเดียว

โอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ

นอกจากการลดภาระต้นทุนดังที่ได้กล่าวไว้ในเบื้องต้นแล้ว คณะกรรมการบริหารของ Henderson และ Janus เชื่อว่าการควบรวมกิจการจะเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการใช้แบรนด์ที่เข้มแข็งของทั้งสองบริษัทเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และขยายรูปแบบการให้บริการและสินค้าจากทั้งสองบริษัทเดิม รวมถึงฐานลูกค้าที่ครอบคลุมภูมิภาคต่างๆทั่วโลกมากยิ่งขึ้น:

  • สาขาย่อยในสหรัฐอเมริกาของ Janus ที่มีมูลค่า รวมโดยประมาณ 116 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ของ AUM ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าสาขาของ Henderson ของสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่า ของ AUM เพียง 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยประมาณ;
  • ฐานในญี่ปุ่นของ Janus ซึ่งมีมูลค่าของ AUM รวม 16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการได้รับผลตอบแทนจากความสัมพันธ์กับ Dai-ichi ซึ่งถือว่ามีมูลค่ามาก เมื่อเทียบกับฐานในประเทศญี่ปุ่นของ Henderson ซึ่งมีมูลค่าของ AUM รวมน้อยกว่า 0.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ในสหราชอาณาจักร ซึ่ง Henderson มีมูลค่าของ AUM รวม 66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ Janus มี มูลค่าของ AUM รวมในสหราชอาณาจักรเพียง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ในยุโรปและลาตินอเมริกา ซึ่ง Henderson มีมูลค่าของ AUM รวม 28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับ Janus มีมูลค่าของ AUM รวมในภูมิภาคนี้เพียง 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

คณะกรรมการบริหารของ Henderson และ Janus เชื่อว่า การรวมตัวกันของทั้งสองบริษัท จะทำให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจโดยประมาณ 2-3 เปอร์เซนต์ ของมูลค่าบริษัทรวมสุทธิ

ผลกระทบทางการเงิน จากการควบรวมกิจการ

การควบรวมกิจการคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าผลประกอบการต่อหุ้นให้ทั้งสองบริษัทได้ถึงระดับสองหลัก หลังหักค่าใช้จ่าย ภายในระยะเวลา 12 เดือนหลังจากควบรวมกิจการ

ทั้งนี้เป็นที่คาดการณ์เช่นกันว่าอัตราการจ่ายภาษีหลังจากมีการควบรวมแล้วอาจสูงขึ้น ซึ่งอาจเท่ากับอัตราภาษีของทั้งสองบริษัท Henderson และ Janus เดิม รวมกัน

ข้อเสนอแนะจากกรรมการบริหารของ Henderson

ผู้อำนวยการของ Henderson พิจารณาการควบรวมกิจการในครั้งนี้ว่า จะส่งผลดีต่อ Henderson และผู้ถือหุ้นของ Henderson ในภาพรวม คณะผู้บริหารจึงเสนอให้ผู้ถือหุ้นออกเสียงให้ความเห็นชอบการควบรวมกิจการในครั้งนี้ในวาระการประชุมทั่วไปของบริษัท Henderson ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ผู้อำนวยการของ Henderson ได้รับคำแนะนำด้านการเงินจากองค์กรธนาคารที่น่าเชื่อถือต่างๆ อาทิเช่น Bank of America, Merrill Lynch, และ Centerview Partners และรับคำปรึกษาด้านกฏหมายจากที่ปรึกษากฏหมายชั้นนำอาทิ เช่น Freshfields Bruckhaus Deringer LLP ในการควบรวมกิจการในครั้งนี้ ทั้งนี้การให้คำปรึกษาจากสถาบันการเงินดังกล่าวต่อผู้อำนวยการของ Henderson สถาบันได้ให้คำปรึกษาอยู่บนพื้นฐานของการควบรวมการบริหารสินทรัพย์เชิงพาณิชย์ของบริษัทเป็นหลัก

 

ข้อเสนอแนะจากกรรมการบริหารของ Janus

คณะกรรมการบริหารของ Janus มีความเห็นชอบให้มีการควบรวมกิจการในครั้งนี้ โดยพื้นฐานที่เชื่อว่าการควบรวมกิจการจะส่งผลดีต่อการประกอบธุรกิจของบริษัท และผู้ถือหุ้นทั้งหมด เช่นเดียวกัน คณะกรรมการบริหารของ Janus เสนอให้ผู้ถือหุ้น  ลงมติอนุมัติเห็นชอบการควบรวมกิจการในครั้งนี้ ในวาระการประชุมพิเศษที่บริษัทจัดขึ้นเพื่อสรุปวาระการควบรวมกิจการในครั้งนี้

Janus Capital Group Inc. ได้รับคำปรึกษาทางการเงินและการลงทุนจาก Loeb Spencer House Partners, โดยแผนก ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของ Loeb Partners Corporation โดยเฉพาะ, และบริษัทอื่นๆอีกเช่น Skadden, Arps, Slate, Meagher and Flom LLP and Affiliates.

ตารางสรุปกิจกรรม

กิจกรรมหลัก                                    วันที่

การประกาศการควบรวม                                 3 ตุลาคม 2016

ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของ Janus                        25 ตุลาคม 2016

ประกาศการซื้อขายในไตรมาสที่ 3 ของ Henderson                    27 ตุลาคม 2016

ผลประกอบการสิ้นปี 2016 ของ Henderson                        9 กุมภาพันธ์ 2017

ผลประกอบการที่คาดหวังสำหรับสิ้นปี 2016 ของ Janus                    25 กุมภาพันธ์ 2017

เผยแพร่เอกสารการควบรวมเปิดผนึก                            ปลายปี 2016

—การควบรวมเสร็จสมบูรณ์—

  • Janus Henderson Global Investors เปิดซื้อ-ขายใน NYSE
  • Henderson คาดว่าจะหยุดซื้อขายใน LSE ไตรมาสที่ 2 ของปี 2017
  • CDI ของ Janus Henderson Global Investors ยังคงซื้อ-ขายต่อเนื่องใน ASX

มูลค่าการซื้อขาย ณ ปัจจุบัน

มูลค่า AUM ของ Henderson ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2016 อยู่ที่ 100 ล้านยูโร(ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2016 อยู่ที่ 95 พันล้านยูโร)

ข้อตกลงในการควบรวมกิจการ

ในวันที่ 3 ตุลาคม 2016 Henderson และ Janus ได้มีข้อตกลงร่วมกัน ในการดำเนินแผนการควบรวมกิจการ (“ข้อตกลงในการควบรวมกิจการ”) โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับสัดส่วนในการดำเนินธุรกิจของ Henderson และ Janus เป็นหลัก  ข้อตกลงในการควบรวมกิจการที่จัดทำขึ้นใหม่นั้นกำหนดว่าบริษัทสาขาของ Henderson ทั้งหมด จะถูกควบรวมกับ Janus โดยมีเงื่อนไขว่ากรรมสิทธิ์ของ Janus ทั้งหมด จะอยู่ภายใต้การดูแลของ Henderson และกำหนดให้ Janus มีสถานะเป็นบริษัทลูกของ Henderson ทั้งนี้ภายใต้เงื่อนไขการควบรวมดังกล่าว หน่วยหุ้นของ Janus จะถูกถ่ายโอนไปยัง Henderson โดย หนึ่งหน่วยหุ้นของ Janus จะมีค่าเทียบเท่า 4.7190 หน่วยหุ้นทั่วไปของ Henderson

อนึ่ง ข้อตกลงในการควบรวมกิจการดังกล่าว Dia-ichi ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ส่วนหนึ่งใน Janus ได้ให้ความเห็นชอบ ยอมรับเงื่อนไขในการโอนหุ้นของในส่วนตน เพื่อควบรวมกิจการ

ในการควบรวมกิจการของ Henderson และ Janus บริษัทมีความประสงค์ที่จะได้รับอนุมัติผ่านเงื่อนไขในการรับรององค์กร จากองค์กรกลาง ของประเทศสหรัฐอเมริกา –ในประเภท การปรับโครงสร้างองค์กร  เพื่อจุดประสงค์ในการหักภาษีรายได้ จากการดำเนินงานของบริษัท

ข้อตกลงในการควบรวมกิจการ ประกอบด้วยข้อตกลงร่วมกันในการแต่งตั้งตัวแทน และเงื่อนไขรับประกันต่างๆ จากทั้ง Henderson และ Janus นอกจากนั้นยังประกอบด้วย พันธสัญญาก่อน-การควบรวมกิจการ รวมถึงพันธสัญญาอื่นๆ นั่นคือ (1) ก่อนการควบรวมทั้งสองบริษัท ภายใต้เงื่อนไขปกติ ทั้งสองบริษัทจะยังคงดำเนินการทางธุรกิจต่างๆไปตามรูปแบบที่มีมาแต่เดิม โดยไม่มีการแทรกแซงการทำงานระหว่างองค์กรใดๆ (รวมถึงการชี้แจงเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และการจ่ายเงินปันผลที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า), (2) ห้ามให้มีการร้องขอ ชักจูง หรือชี้นำเพื่อให้เกิดการกระทำใดๆเพื่อ กระตุ้น การหลบเลี่ยงเงื่อนไขใดๆก็ตามที่ส่งผลต่อสิทธิประโยชน์ดังที่กล่าวมา นอกจากนั้นยังห้ามไม่ให้มีการเข้าร่วมในการพูดคุย หรือ ต่อรองใดๆ ในอันที่จะก่อให้เกิดการละเมิดข้อตกลงเดิม (3) ห้ามไม่ให้มีการยกเว้นข้อตกลงใดๆ  ห้ามไม่ให้มีการเพิกถอน เพิ่มเติม หรือปรับเปลี่ยน การสนับสนุนใดๆของผู้อำนวยการบริหาร ตามข้อตกลงในการควบรวมกิจการ และ (4) ห้ามไม่ให้มีการเสนอผลประโยชน์ใดๆต่อเจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อผลในการอนุมัติเงื่อนไขใดๆในการควบรวมกิจการในครั้งนี้

ข้อตกลงในการควบรวมกิจการ ประกอบด้วยเงื่อนไขของสิทธิในการเพิกถอนข้อตกลงของ ทั้ง Henderson และ Janus ในกรณีต่าง ๆ ต่อไปนี้ (1) หากการควบรวมไม่สามารถทำให้เสร็จสมบูรณ์ได้ภายในวันที่ 30 กันยายน 2017 (ต่อไปนี้จะเรียกกำหนดวันที่ดังกล่าวว่าเป็น “ระยะเวลาเกินกำหนด”) (2) หากไม่ได้รับการอนุมัติความเห็นชอบในการควบรวมกิจการจากผู้ถือหุ้นของทั้ง Henderson และ Janus ตามวาระการประชุมที่กำหนด หรือ (3) หากมีข้อยกเว้นใดๆทางกฎหมายที่สามารถยับยั้ง หรือสั่งห้ามไม่ให้การควบรวมกิจการให้ลุล่วงไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น Henderson และ Janus ยังสามารถเพิกถอนข้อตกลงในการควบรวมกิจการได้ ในเงื่อนเวลาก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นที่กำหนดไว้เดิม เฉพาะในกรณีที่คณะผู้บริหารของทั้งสองบริษัท หรือบริษัทใดบริษัทหนึ่ง มีการเปลี่ยนแปลงข้อเสนอแนะ โดยที่ผู้ถือหุ้น หรือกลุ่มบุคคลที่สาม มีการอนุมัติให้ควบรวมก่อนการประชุม และหยิบยกข้อตกลงในการควบรวมกิจการดังกล่าวมาบังคับใช้

นอกจากนั้นข้อตกลงในการควบรวมกิจการ ยังเปิดช่องให้ ในกรณีที่ถ้าหาก Henderson หรือ Janus เพิกถอนข้อตกลงในการควบรวมกิจการ เนื่องจากไม่ได้รับการอนุมัติเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นหรือกลุ่มบุคคลที่สาม ตามวาระการประชุมเพื่ออกเสียงที่กำหนดไว้ Henson หรือ Janus สามารถเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายใดๆที่มีการสำรองจ่ายไปก่อน หรือค่าใช้จ่ายใดๆที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการดังกล่าว จากบุคคลที่สามที่ไม่อนุมัติเห็นชอบ หรือไม่ยอมรับการควบรวมกิจการดังที่กล่าวไว้ การชำระต้องอยู่ภายในวงเงิน 10 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (หรือประมาณ 8 ล้านยูโร) โดยกรณี หากการเพิกถอนข้อตกลงในการควบรวมดังกล่าว เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้ (1) เกิดการเปลี่ยนแปลงข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการผู้บริหารจาก Henderson หรือ Janus หรือ (2) มีการเพิกถอนข้อตกลงในการควบรวมบริษัทเนื่องจากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ถือหุ้นหรือกลุ่มบุคคลที่สาม และทำให้การควบรวมกิจการไม่สามารถทำให้เสร็จสิ้นได้ก่อนระยะเวลาเกินกำหนด ที่ระบุไว้  ในขณะเดียวกันหากมีข้อเสนอหรือทางเลือกอื่นใดจากกลุ่มบุคคลที่สาม (กลุ่มบุคคลใดๆที่สามารถทำให้การควบรวมกิจการสมบูรณ์แล้วเสร็จได้ภายในช่วงเวลา 12 เดือน) ในกรณีนี้ Henderson และ Janus จะต้องชำระเงินให้แก่บุคคลกลุ่มบุคคลที่สามเป็นค่าใช้จ่ายในการเพิกถอนดังกล่าว ด้วยเงินสดจำนวน 34 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ1 (หรือ 26 ล้านยูโรโดยประมาณ)

กฎข้อบังคับ 

การควบรวมกิจการ อยู่บนเงื่อนไขกฎข้อบังคับความเห็นชอบตามธรรมเนียมร่วมกัน ข้อบังคับดังกล่าว รวมถึง การกำหนดวันสิ้นสุดเงื่อนไข และการบอกเลิกการดำเนินการระหว่างระยะเวลาในการรอพิจารณาใดๆ หากเงื่อนไขดังกล่าวเข้าข่ายภายใต้กฎหมาย Hart-Scott-Rodino Antitrust Improvements Act of 1976 โดยอนุญาตให้การควบรวมกิจการทำได้โดย บริษัท Financial Industry Regulatory Authority, Inc และการอนุมัติให้ควบรวมภายใต้บัญญัติ Financial Conduct Authority (“FCA”) โดยให้สิทธิ Henderson ในการควบคุมทรัพย์สินของ Janus ได้โดยทันทีภายใต้อำนาจในบทบัญญัติ FCA

เงื่อนไขในการควบรวมกิจการ

การควบรวมกิจการให้เสร็จสมบูรณ์ดังที่กล่าวมานั้น ต้องตั้งอยู่บนเงื่อนไขตามธรรมเนียมที่ทำร่วมกัน เหนืออื่นใด ในการซื้อขายด้วยมูลค่าดังกล่าว การดำเนินการจำเป็นต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ (1) ได้รับความเห็นชอบให้ควบรวมกิจการจากผู้ถือหุ้นของ Janus (2) ได้รับความเห็นชอบให้ควบรวมกิจการจากผู้ถือหุ้นของ Henderson และมีการเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิม Henderson Group plc เป็น Janus Henderson Global Investors plc ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงชื่อดังกล่าวครอบคลุมถึงการเปลี่ยนชื่อในหนังสือบริคณห์สนธิ และบันทึกใดๆ (Memorandum and Articles of Association) ของบริษัท Henderson เดิม รวมถึงการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน London Delisting ด้วย (3) ความเห็นชอบในกฎข้อบังคับต่างๆต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ข้างต้น (4) SEC ต้องมีการแถลงผลการลงทะเบียนหุ้นของ Henderson โดยหลังการแถลง กำหนดให้การควบรวมกิจการตามเงื่อนไขดังกล่าวมีการบังคับใช้โดยทันที โดยให้บริษัท Henderson จดทะเบียนในตลาดหุ้น NYSE  (5) ห้ามไม่ให้มีการพิพากษา โดยใช้คำสั่ง ข้อบังคับ หรือ กฤษฎีกา ใดๆ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมาบังคับใช้เพื่อให้การควบรวมกิจการมีผลสมบูณ์  (6) ต้องมีการเห็นชอบในข้อตกลงใหม่ให้มีการลงทุนในสัดส่วน 67.5% ของกองทุนสาธารณะของ Janus และ (7) ห้ามไม่ให้มีการฝ่าฝืน การรับรอง หรือ การรับประกันต่างๆ ที่ดำเนินการโดย Henderson และ Janus (ขึ้นอยู่กับสาระสำคัญของคุณสมบัตินั้นๆ) และไม่ขัดต่อผลการการบังคับใช้ใดๆตามพันธะสัญญาที่กำหนดไว้โดย Henderson และ Janus

ข้อตกลงกับ Dai-ichi 

Dai-ichi คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Janus มีมติเห็นชอบการควบรวมกิจการ โดยเชื่อว่าการเข้าร่วมทุนจะช่วยเสริมความเป็นพันธมิตรระดับโลกของ Janus Henderson Global Investors กับ Dai-ichi มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น หลังจากการควบรวมกิจการแล้ว Dai-ichi จะยังคงถือหุ้นรวมในสัดส่วน 9% โดยประมาณ และคาดว่าจะลงทุนเพิ่มในอนาคต เพื่อให้สัดส่วนการถือหุ้นของ Dia-ichi อยู่ที่ 15% โดยประมาณ เพื่อช่วยให้บรรลุความประสงค์ดังกล่าว เมื่อการควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์แล้ว กลุ่มผู้บริหารมีความเห็นชอบที่จะเสนอทางเลือกในการขายหุ้นของ Janus Henderson Global Investors ให้แก่ Dai-ichi เพิ่มอีก 5% ซึ่งหาก Dai-ichi มีความประสงค์ในการซื้อหุ้นในสัดส่วนที่เสนอขายเพิ่มให้ตามข้อตกลงดังกล่าว  จะทำให้มูลค่าการลงทุนของบริษัทใหม่ เพิ่มขึ้น กว่า 500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ คิดเป็นผลให้มูลค่าการลงทุนรวมของ Janus Henderson Global Investors ทั้งสิ้นมีมูลค่ากว่า 2.5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ

ข้อตกลงแผนความร่วมมือและการลงทุน

ในวันที่ 3 ตุลาคม 2016 บริษัท Janus Henderson และ Dai-ichi ได้ลงนามและแถลงข้อตกลงแผนความร่วมมือและการลงทุนร่วมกัน (Investment and Strategic Cooperation Agreement: – “ISCA”) ระหว่าง Dai-ichi กับกลุ่มบริษัทร่วมกิจการขึ้นมาใหม่ โดยใน ISCA ได้ให้สิทธิแก่ Dai-ichi ในการแต่งตั้งกรรมการของ Janus Henderson Global Investors และให้ Dai-ichi มีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลเฉพาะบางประการของบริษัทผู้ร่วมทุน และสิทธิในการเข้าร่วมการออกหุ้น หรือเสนอขายหุ้นใหม่ของบริษัทผู้ร่วมทุนในอนาคต ด้วยวิธีการจองหุ้น ในกรณีใดๆก็ตาม Dai-ichi ยังคงมีสิทธิในการถือหุ้นตามสัดส่วนที่ระบุไว้ โดยทันทีหลังจากการควบรวมกิจการ (ทั้งนี้อาจยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์) (โดยจากนี้จะเรียกสัดส่วนนี้ว่า  “สัดส่วนที่เหมาะสม”) ทั้งนี้ สัดส่วนในการถือหุ้นในบริษัทผู้ร่วมทุนของ Dai-ichi ต้องไม่เกิน 20%

ISCA กำหนดให้ Dai-ichi ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ (1) Dai-ichi ต้องรับภาระใดๆ อันเกี่ยวเนื่องกับปริมาณหุ้นที่ถืออยู่ใน Janus Henderson Global Investors เว้นแต่สัดส่วนในการถือหุ้นของ Dai-ichi ที่ถืออยู่ในบริษัทร่วมทุน มีการลดลงต่ำกว่า 3% (ในกรณีนี้ภาระผูกพันธ์ใด ๆ ถือเป็นอันตกไป) (2) ห้ามไม่ให้มีการขายหุ้นที่มีอยู่ใน Janus Henderson Global Investors (โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ) ทั้งนี้เงื่อนไขในการโอนหรือขายหุ้นในส่วนของ Dai-ichi ดังกล่าว เป็นอันตกไปหากมีการเพิกถอนตามเงื่อนไขของ ISCA หรือภายในสามปีหลังจากมีการเซ็นสัญญาดังกล่าว โดย Janus Henderson Global Investors มีสิทธิ์ในการเสนอชื่อผู้ถือหุ้นที่เหมาะสมรายใหม่ เพื่อมาถือหุ้นแทนในส่วนของ Dia-ichi การเสนอชื่อดังกล่าวสามารถทำได้ตามที่ Henderson Global Investors เห็นสมควร

Dai-ichi ได้ตกลงที่จะคงส่วนการลงทุนในบริษัทร่วมทุน ให้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ และอาจลงทุนเพิ่มเติมจากมูลค่าดังกล่าวอีกไม่เกิน 500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยยอมรับในเงื่อนไขต่างๆที่เกิดขึ้นจากการพูดคุยโดยสุจริต ซึ่งสัดส่วนที่ Dai-ichi ลงทุน จะคงอยู่ในกองทุนหลัก ทั้งนี้ ทั้ง Janus Henderson Global Investors และ Dai-ichi มีข้อตกลงร่วมกันที่จะดำเนินการต่างๆโดยสุจริต และร่วมมือกันทางธุรกิจเพื่อเปิดช่องทางในการค้าขายและสร้างผลกำไรให้สินค้าและบริการของบริษัทร่วมทุนในทุกๆช่องทางระหว่างกัน

ISCA มีสิทธิในการเพิกถอน รวมทั้งสิทธิในการบอกเลิกข้อตกลงของทั้ง Janus Henderson Global Investors หรือ Dai-ichi ตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ (1) หากมูลค่าหุ้นที่ Dai-ichi ถือครองตกลงต่ำกว่าสัดส่วนตามเงื่อนไข (2) หาก Dai-ichi เสียสิทธิในการแต่งตั้งผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารของ Janus Henderson Global Investors และ (3) หลังจากเซ็นสัญญาไปแล้วเป็นเวลา 3 ปี โดยต้องมีการแจ้งล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่ต่ำกว่า 90 วัน

ข้อตกลงทางเลือก

Henderson และ Dai-ichi ได้เข้าร่วมในข้อตกลงทางเลือก ภายใต้เงื่อนไข เพื่อให้ข้อตกลงในการควบรวมกิจการสมบูรณ์ Henderson จะเสนอข้อเสนอต่างๆให้ Dai-ichi ดังต่อไปนี้ (1) การแบ่งชำระค่าหุ้นเป็น 11 งวด สำหรับหน่วยหุ้นของ Janus Henderson Global Investors จำนวน 5,000,000 หน่วยหุ้น โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2.7% ของมูลค่าหุ้นรวมในราคา 299.72 เพนนี (pence) ต่อหุ้น และ (2) โดยการบังคับใช้ภายใต้ความยินยอมของผู้ถือหุ้นของ Henderson อนุญาตให้สามารถแบ่งชำระสำหรับหน่วยหุ้น ของ Janus Henderson Global Investors จำนวน 5,000,000 หุ้น ออกเป็น 9 งวด โดยคิดเป็นสัดส่วนการลงทุนมูลค่าประมาณ 2.2% ของมูลค่าหุ้นรวม ในราคา 299.72 เพนนี (pence) ต่อหุ้น ซึ่งราคาที่ Dai-ichi จำเป็นต้องชำระเพื่อดำเนินการสำหรับทางเลือกดังกล่าว มีมูลค่า 19.8 ล้านยูโร เพราะฉะนั้น โดยสรุปคือ หาก Dai-ichi ดำเนินการตามทางเลือกดังกล่าว จะทำให้ Dai-ichi เป็นเจ้าของหุ้นบริษัทผู้ร่วมทุนเพิ่มขึ้นอีก 5% โดยประมาณ

เรื่องบัญชี

Janus Henderson Global Investors จะรายงานสถานการณ์ทางบัญชีด้วยสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ ภายใต้ U.S, GAAP โดยเปลี่ยนจากการใช้ IFRS เดิม ไปเป็น U.S. GAAP เอกสารข้อมูลทางการเงินที่ส่งล่วงหน้าไปยัง U.S. GAAP ของ Henderson จะถูกเผยแพร่ใน U.K. Circular โดยเอกสารจะผ่านการตรวจสอบโดย SEC นอกเสียจากกรณีที่ข้อมูลทางการเงินที่ระบุอยู่ในเอกสารดังกล่าวถูกเปลี่ยนแปลงตามเงื่อนไขของ IFRS ประวัติการรายงานใดๆที่ผ่านการใช้ IFRS อาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่ทำร่วมกับ U.S. GAAP

Henderson สามารถกำหนดหน่วยค่าเงินทุนเรือนหุ้นของตนใหม่จากสกุลเงินจากปอนด์ (pounds sterling) เป็นดอลล่าร์สหรัฐ โดยต้องมีผลบังคับตั้งแต่เพิ่มเติมในหนังสือบริคณห์สนธิ ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น ระหว่างวาระการประชุมสามัญทั่วไป

การพิจารณาการซื้อธุรกิจแบบย้อนกลับ (Reverse Takeover)

อ้างอิงจากเงื่อนไขตามข้อบังคับ Rule 5.6.12G(2) ของข้อบังคับการแจกแจงรายการทรัพย์สินแห่งราชอาณาจักร (Listing Rules of the U.K. Listing Authority) หรือในที่นี้จะเรียกว่า “ข้อบังคับการแจกแจงรายการ” ( “Listing Rules”) Henderson ยืนยันว่า เนื่องจากการควบรวมกิจการ อยู่บนโครงสร้างการควบรวมบริษัท Janus เข้ากับบริษัท Henderson ซึ่งกระทำการโดยบริษัท Henderson โดยการเปรียบเทียบมูลค่าของบริษัท Janus สัมพันธ์กับมูลค่าของบริษัท Henderson การกระทำในลักษณะดังกล่าว เป็นผลให้การควบรวมในครั้งนี้ เปรียบเสมือนการเข้าควบคุมกิจการบริษัท Janus โดยบริษัท Henderson ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ใน ข้อบังคับการแจกแจงรายการ

โดยอ้างอิงจากเงื่อนไขตามข้อบังคับ Rule 5.6.12G(2) บริษัท Henderson ยืนยันว่า (ก.) Jenus ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการแจกแจงทรัพย์สินของ NYSE และ (ข.) ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของเนื้อหาแตกต่างกันระหว่างรายงานการแจกแจงทรัพย์สินต่อ NYSE กับรายงานการแจกแจงทรัพย์สินโดยโปร่งใสตามที่ระบุในคู่มือของ FCA ทั้งนี้ข้อมูลทรัพย์สินใดๆที่เปิดเผยต่อ NYSE อาจสามารถเข้าถึงได้ผ่าน www.janus.com

Henderson จะเผยแพร่ข้อมูลต่อผู้ถือหุ้นดังกล่าวเบื้องต้น ในวาระการประชุมทั่วไป ซึ่งจำเป็นจะต้องขอความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นในการควบรวมกิจการ และรวมทั้งขอความเห็นชอบในกิจกรรมใดๆก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการดังกล่าว

ทั้งนี้ สถานภาพการควบรวม ณ ปัจจุบัน ยังไม่ถือเป็นการซื้อธุรกิจ (Takeovers) และ/หรือ การควบรวมกิจการ (Mergers) ใดๆทั้งสิ้น  ตามเงื่อนไขของ City Code

แถลงการณ์เป้าหมายในอนาคต และข้อมูลสำคัญอื่นๆ 

ประกาศนี้ระบุเกี่ยวกับ “แถลงการณ์เป้าหมายในอนาคต” (“Forward-looking statements”) อ้างอิงนิยามตาม กฏหมายหลักทรัพย์แห่งรัฐ (federal securities laws) ในส่วน Section 27A ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ ปี 1933 (Securities Act) และ ในส่วน Section 21E ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และการแลกเปลี่ยน ปี 1934 (Securities Exchange Act of 1934) ในประเด็นเกี่ยวกับเงื่อนไขทางการเงิน ซึ่งส่งผลต่อการประกอบธุรกิจของบริษัท Janus  บริษัท Henderson และบริษัทร่วมทุน  โดยธรรมชาติในการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัทที่กล่าวถึงนั้น ทำให้แถลงการณ์เป้าหมายในอนาคต ดังกล่าวนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในการประกอบธุรกิจ อันขึ้นอยู่กับสถานการณ์แวดล้อมต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต อันส่งผลให้ผลลัพธ์ที่กล่าวถึงใน แถลงการณ์เป้าหมายในอนาคตนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากที่ประกาศไว้เดิมในปัจจุบัน  ทั้งนี้ถ้อยแถลงที่อยู่ในประกาศฉบับนี้ไม่ใช่การคาดการณ์ผลกำไรหรือรายได้ทางธุรกิจใดๆในอนาคต  ทั้งนี้ ทั้งบริษัท Janus และ Henderson ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อความเปลี่ยนแปลง หรือการปรับปรุงข้อมูลใดๆทั้งสิ้นในประกาศแถลงการณ์เป้าหมายในอนาคตฉบับนี้  ทั้งนี้ ทั้งบริษัท Janus และ Henderson ไม่ได้มีความประสงค์ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงข้อความ หรือผลลัพธ์ใดๆในประกาศนี้ ในอนาคต นอกจากว่า เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อันเป็นผลจากการบังคับใช้กฎหมายหลักทรัพย์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องใดๆในอนาคต

เพื่อเชื่อมโยงกับธุรกรรมที่ได้นำเสนอไว้ข้างต้น บริษัท Henderson มีความประสงค์ที่จะจดทะเบียนข้อมูลถ้อยแถลง โดยระบุให้บริษัท Henderson ทำหน้าที่เป็นผู้แทนของบริษัท Janus สำหรับการดำเนินการด้านเอกสารใดๆก็ตามที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่ได้เสนอไว้ข้างต้น โดยจะดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการหลักทรัพย์และการแลกเปลี่ยนแห่งสหรัฐอเมริกา (the U.S. Securities and Exchange Commission: the “SEC”)

ผู้ถือหุ้นของ Janus และ Henderson จะต้องอ่านและทำความเข้าใจเอกสารใดๆทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ หากเอกสารนั้นๆเปิดเผยให้สามารถเข้าถึงได้ (รวมถึงเอกสารที่เปิดเผยต่อสาธารณะ) เนื่องจากเอกสารใดๆเหล่านั้น มีการระบุสาระสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆในการควบรวมกิจการไว้ทั้งหมด  เช่นเดียวกัน ขอแนะนำให้ผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นอ่านทำความเข้าใจข้อมูลในส่วนของ Janus ที่ได้มีการตรวจสอบเพิ่มเติมโดย SEC ที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยละเอียดถี่ถ้วน  ไม่เพียงแต่รายงานประจำปีที่ระบุในแบบฟอร์ม 10-K เท่านั้น แต่รวมถึง proxy statements รายงาน 8-K ฉบับปัจจุบัน  และรายงานในแบบฟอร์ม 10-Q ประจำไตรมาส สำหรับสำเนาประกาศแถลงเรื่องตัวแทนจะมีการส่งให้ผู้ถือหุ้นของ Janus ทุกๆคน เมื่อมีการประกาศข้อมูลดังกล่าวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว  และสำเนาประกาศแถลงเรื่องตัวแทน อาจสามารถอ่านได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ SEC ที่ http://www.sec.gov หรือโดยการร้องขอโดยตรงไปที่ Janus Capital Group Inc. ตามที่อยู่ 151 Detroit Street, Denver, Colorado 80206

ภายใต้กฎข้อบังคับของ  SEC นั้น บริษัท Janus และ บริษัท Henderson รวมทั้งคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของทั้งสองบริษัท อาจถือเป็นผู้ทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้แทนของผู้ถือหุ้น ในการดำเนินการ และการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในนามองค์กร

ข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการและผู้บริหารระดับสูง ของ บริษัท Janus รวมถึงข้อมูลการถือหุ้นและการเป็นเจ้าของหุ้นร่วมกันจะถูกระบุอยู่ในรายงานประจำปีฉบับที่ 4 ในแบบฟอร์ม 10-K ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2015  ข้อมูลดังกล่าวนี้ได้รับการตรวจสอบ เพิ่มเติมโดย SEC ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2016 นอกจากนั้นข้อมูลเพิ่มเติมใดๆที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของบุคคลที่สาม หรือบุคคลใดๆที่เป็นผู้ดำเนินการเสมือนตัวแทนของผู้ถือหุ้นของ Janus อาจถูกระบุอยู่ในประกาศแถลงเรื่องตัวแทนเพื่อการดำเนินธุรกรรมต่างๆภายใต้ชื่อองค์กร  โดยสำเนาประกาศแถลงเรื่องตัวแทนดังกล่าวจะถูกส่งไปยังผู้ถือหุ้นทุกคนทันทีที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้รายละเอียดต่างๆจะเป็นไปตามที่ระบุไว้ตามข้อความในย่อหน้าที่กล่าวไว้เบื้องต้น

ประกาศนี้จัดทำขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับของสหราชอาณาจักรและประเทศออสเตรเลีย โดยข้อมูลที่ระบุในประกาศนี้อาจไม่เหมือนกับข้อความประกาศเดียวกัน ที่ใช้กับกฎข้อบังคับนอกเหนือจากสหราชอาณาจักร และประเทศออสเตรเลีย  ข้อมูลในประกาศนี้ไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ และห้ามทำการเผยแพร่เนื้อหาใดๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หากฝ่าฝืน ผู้ฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษสูงสุดตามขอบเขตของกฎหมาย

ห้ามไม่ให้บุคคลใด นำเสนอหรือเปิดเผยข้อมูลใดๆ นอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ และ ในกรณีเมื่อมีการให้เผยแพร่ หรือนำเสนอเอกสารสู่สาธารณชน  ข้อมูลที่เผยแพร่ออกไปดังกล่าวจะไม่ถือว่าอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลใดๆของ บริษัท Henderson หรือ Merrill Lynch International หรือ Centerview Partners อีกต่อไป

นอกเหนือจากที่กล่าวไว้อย่างชัดเจนในข้อความต่างๆข้างต้นแล้ว ข้อมูลอื่นใดก็ตาม ทั้งจากกลุ่มบริษัท Henderson และ กลุ่มบริษัท Janus หรือ เว็บลิงค์ใดๆก็ตาม ที่ระบุไว้บนเว็บไซต์ของ Henderson และ Janus ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน ไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของประกาศฉบับนี้

ประกาศฉบับนี้ ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการเสนอขาย หรือการเชิญชวนให้ซื้อหุ้นใดๆในประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งสิ้น  สินทรัพย์ใดๆก็ตามที่ถูกกล่าวถึงหรืออ้างถึงในประกาศฉบับนี้ อาจไม่สามารถเสนอขายในประเทศสหรัฐอเมริกา หากไม่มีการจดทะเบียนภายใต้บัญญัติหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา ปี 1993 ซึ่งในที่นี้จะเรียกสั้นๆว่า บัญญัติหลักทรัพย์ (U.S. Securities Act of 1933: – “Securities Act”) นอกเสียจากได้รับอนุญาตให้สามารถยกเว้นใดๆ ตามที่ระบุไว้ใน บัญญัติหลักทรัพย์ หรือได้รับการยกเว้นใดๆตามบทบัญญัติดังกล่าว  ทั้งนี้การเสนอขายหลักทรัพย์ รวมถึงประกาศแถลงทางการเงินใดๆในสหรัฐอเมริกา จะต้องกระทำภายใต้ชื่อ Henderson และ Janus หรือบริษัทในการดูแลเท่านั้น  ข้อยกเว้นใดๆที่ไม่ได้ระบุอยู่ในบัญญัติหลักทรัพย์ไม่สามารถบังคับใช้ได้ ถึงแม้ว่าจะดำเนินการโดย Henderson เองก็ตาม

ประกาศนี้เป็นประกาศเพื่อแจ้งให้ทราบเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการนำเสนอข้อมูลใดๆเพื่อผลทางการค้าหลักทรัพย์ใดๆก็ตามที่ถูกระบุไว้ในประกาศ และไม่ใช่ประกาศที่ทำขึ้นเพื่อหวังผลประโยชน์ใดๆในการออกเสียง หรือการผ่านการอนุมัติใดๆ รวมถึงไม่ใช่เอกสารที่จัดทำขึ้นเพื่อคาดหวังผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น

Merrill Lynch International (หรือ “Bank of America Merrill Lynch”) เป็นองค์กรสาขาของ Bank of America ซึ่งได้รับการรับรองโดย Prudential Regulation Authority และกำกับดูแลโดย Financial Conduct Authority และ Prudential Regulation Authority ของสหราชอาณาจักร โดย Bank of America Merrill Lynch ดำเนินการให้กับ Henderson โดยเฉพาะ และไม่ดำเนินการเกี่ยวกับการควบรวมกิจการใดๆให้กับบริษัทหรือองค์กรอื่นใดอีกทั้งสิ้น Bank of America Merrill Lynch ไม่มีส่วนในการรับผิดชอบองค์กรอื่นใดนอกจากบริษัท Henderson ในการคุ้มครองลูกค้า และให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับศักยภาพในการควบรวมกิจการ หรือ เรื่องอื่นใดที่อยู่ในประกาศฉบับนี้

Centerview Partners U.K. LLP (หรือ “Centerview Partners”) รับรอง และคุ้มครองโดย Financial Conduct Authority โดย Centerview Partners ดำเนินการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการให้เพียงเฉพาะบริษัท Henderson เท่านั้น Centerview Partners ไม่มีส่วนในการรับผิดชอบองค์กรอื่นใดนอกจากบริษัท Henderson ในการคุ้มครองลูกค้า และให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับศักยภาพในการควบรวมกิจการ หรือ การงานอื่นใดที่อยู่ในประกาศฉบับนี้

นอกเหนือจากความรับผิดชอบและภาระหนี้สินผูกพันธ์ใดๆ ซึ่งอาจถูกเรียกเก็บโดย บัญญัติ Financial Services and Markets Act ปี 2000  ทั้ง Bank of America Merrill Lynch และ Centerview Partners จะไม่ขอมีส่วนรับผิดชอบ ไม่ว่าในกรณีใดๆ และไม่มีส่วนรับผิดชอบ การรับรอง หรือการรับประกันใดๆที่ระบุในประกาศฉบับนี้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม รวมทั้งความถูกต้องแม่นยำ ความยุติธรรม ประสิทธิภาพ และความสมบูรณ์ หรือ การตรวจสอบความเป็นจริง หรือ ถ้อยแถลงใดๆที่สร้างขึ้น หรือ มีผลภายใต้ประกาศฉบับนี้ ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการของ บริษัท Henderson หรือ ศักยภาพ ในการควบรวมกิจการ และรวมถึงข้อความใดๆก็ตามในประกาศฉบับนี้ ที่อาจส่งผลใดๆ หรือมีการสัญญาว่าจะกระทำการใดๆ ทั้งในอดีต และอนาคตต่อไป โดยทั้ง Bank of America Merrill Lynch และ Centerview Partners ขอปฏิเสธการเกี่ยวข้องกับข้อผูกมัดใดๆ โดยทั้งสององค์กรได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายตามสิทธิอย่างเต็มรูป ต่อความรับผิดชอบและภาระหนี้สินผูกพันธ์ใดๆ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากการละเมิด พันธะสัญญา หรือ อื่นๆ (ตามสิทธิคุ้มครองที่ได้กล่าวถึงข้างต้น) ที่เกิดขึ้นจากผลการบังคับใช้ประกาศฉบับนี้

ไม่มีข้อความใดในประกาศฉบับนี้ที่แสดงถึงเจตนาในการคาดการณ์ผลกำไรในอนาคต และห้ามไม่ให้มีการแปลความใดๆที่สื่อถึงรายได้ต่อหุ้นของ Henderson ทั้งในรอบปีงบประมาณปัจจุบัน และในอนาคต ทั้งนี้ตัวเลขทางการเงินที่ระบุอยู่ในประกาศฉบับนี้ ไม่ได้สะท้อนถึงรายได้ใดๆในอนาคต รวมถึงประวัติผลประกอบการที่ผ่านมาใดๆของ Henderson ที่ระบุไว้ไม่สามารถสะท้อนผลประกอบการในอนาคตแต่อย่างใด

เนื้อหาในเว็บไซต์ใดๆก็ตามที่ถูกอ้างถึงในประกาศฉบับนี้ ไม่ได้ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของประกาศฉบับนี้  และไม่มีเนื้อหาใดๆในประกาศฉบับนี้ที่สามารถนำไปใช้ในการให้คำแนะนำ หรือนำเสนอผลประโยชน์เพื่อการลงทุนใดๆทั้งสิ้น

ถ้อยคำที่อยู่ในประกาศฉบับนี้ อันเกี่ยวข้องกับแนวโน้มหรือกิจกรรมในอดีตใดๆ ไม่สามารถนำไปใช้เป็นคำรับรองว่าแนวโน้มหรือกิจกรรมต่างๆเหล่านั้นจะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปเช่นเดิมในอนาคต ข้อมูลที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องมีการประกาศล่วงหน้า นอกเสียจากว่าเป็นข้อกำหนดทางกฎหมาย  ทั้งนี้ บริษัท Henderson หรือ Bank of America Merrill Lynch หรือ Centerview Partners หรือบริษัทในเครืออื่นใด ไม่มีส่วนในความรับผิดชอบ หรือถือเป็นภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ในการตรวจทาน หรือในการตรวจแก้ไขใดๆในส่วนแถลงการณ์เป้าหมายในอนาคต ที่ได้ระบุไว้ในประกาศนี้  ทั้งนี้บริษัทข้างต้นมิได้มีส่วนรับผิดชอบต่อผลในอนาคตใดๆที่เกิดจากคำประกาศ   นอกจากนั้น ไม่ควรยึดข้อความใดๆจากแถลงการณ์ไปใช้ นอกเหนือจากวันที่ประกาศเท่านั้น

เพื่อเชื่อมโยงกับข้อเสนอในการควบรวมกิจการของ Henderson และ Janus จำเป็นต้องให้ Henderson มีการเก็บรักษาข้อมูลการจดทะเบียนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และการเป็นตัวแทนของ Janus และ Henderson จะต้องเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบหนังสือเวียนให้ผู้ถือหุ้นในสหราชอาณาจักร ซึ่งเอกสารดังกล่าว จะระบุข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับการควบรวมกิจการ  ที่จำเป็นต้องอ่านและศึกษาโดยละเอียด ก่อนการตัดสินใจดำเนินกิจกรรมใดๆที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ โดยผู้ถือหุ้นของ Henderson และ Janus ต้องสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้อย่างอิสระโดยปราศจากค่าใช้จ่ายใดๆ  ผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นจะต้องได้รับข้อมูลในการจดทะเบียนต่างๆ (เมื่อมีการเผยแพร่) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ โดยผ่านเว็บไซต์ของ SEC ที่  www.sec.gov เอกสารจดทะเบียนใดๆที่เกี่ยวข้องกับ SEC อาจสามารถเข้าถึงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายผ่านเว็บไซต์ของ Henderson เช่นกันที่ www.henderson.com/ir และเว็บไซต์ของ Janus ที่  ir.janus.com

และเมื่อมีการเผยแพร่หนังสือเวียน กำหนดให้ผู้ถือหุ้นในสหราชอาณาจักรสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ทางเว็บไซต์ www.henderson.com/ir

โดยสรุป ข้อตกลงต่างๆในการควบรวมกิจการ ที่ได้กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด จะถูกรวบรวมเพื่อนำเสนอต่อนักลงทุน ข้อตกลงในการควบรวมกิจการ จะต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยนเนื้อหาข้อความใดๆ หรือแบ่งการเผยแพร่ออกเป็นบางส่วน สำหรับข้อมูลที่อ้างอิงเกี่ยวกับ Janus ในรายงานที่ผ่านการตรวจสอบ เพิ่มเติมโดย SEC   เว้นแต่อาจเผยแพร่ในส่วนของสถานะข้อตกลงในการควบรวมกิจการในรูปแบบเอกสารสัญญา ที่มีการตีพิมพ์และควบคุมดูแลโดยรัฐบาล เกี่ยวกับข้อกฎหมายระหว่างกลุ่มบุคคล อันเกี่ยวข้องกับธุรกรรม อันเกี่ยวเนื่องกับข้อตกลงการควบรวมกิจการ ทั้งนี้ไม่มีเจตนาเพื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงในเชิงธุรกิจ หรือข้อมูลในการดำเนินกิจกรรมใดๆของกลุ่มบุคคลภายนอก  การรับรองและการรับประกัน และพันธะสัญญาต่างๆที่กระทำโดยกลุ่มบุคคลในข้อตกลงในการควบรวมกิจการ ไม่ได้กระทำเพื่อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มบุคคลใดๆโดยเฉพาะ รวมทั้งข้อมูลใดๆที่ไม่มีการเปิดเผย อันอาจเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ใดๆกับกลุ่มบุคคลภายนอกอื่นๆเพื่อบังคับใช้ข้อตกลงนั้นๆ  การรับรองและการรับประกันอาจสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการรวบรวมเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับปัจจัยความเสี่ยงระหว่างกลุ่มบุคคล รวมถึงกลุ่มบุคคลที่อาจจะไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรงทั้งหมด ทั้งนี้ นักลงทุนไม่ได้จัดเป็นกลุ่มบุคคลที่สามที่ได้รับผลประโยชน์จากข้อตกลงในการควบรวมกิจกรรมดังกล่าว ในขณะเดียวกันนักลงทุนไม่ควรยึดข้อมูลการรับรอง การประกันหรือพันธะสัญญาใดๆ หรือคำบรรยายใดๆในประกาศนี้ แทนเจตคติที่มีต่อ บริษัท Henderson บริษัท Janus หรือบริษัทในเครือใดๆที่ถูกกล่าวถึงในรายงานฉบับนี้

ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม

Janus, Henderson กรรมการและผู้บริหารระดับสูง รวมถึงสมาชิกระดับบริหารและพนักงานทุกคน อาจได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมเป็นตัวแทน ในกิจกรรมการเสนอการควบรวมกิจการในครั้งนี้ โดยข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการ และผู้บริหารระดับสูงของ Janus จะถูกระบุไว้ในแบบฟอร์ม 10-K สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2015 และจะมีการตรวจสอบ เพิ่มเติม ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2016   ในส่วนของบริษัท Henderson นั้นมีความประสงค์ที่จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการ และผู้บริหารระดับสูงในเอกสารลงทะเบียน ในกรณีหากเอกสารจดทะเบียนนั้น ผ่านการตรวจสอบ สำหรับข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับสิทธิการเข้าร่วมเป็นตัวแทน และข้อความบรรยายเกี่ยวกับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมในการถือหลักทรัพย์ จะถูกระบุไว้ในเอกสารที่ผ่านการตรวจสอบ เพิ่มเติมจาก SEC ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ  นักลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเอกสารจาก SEC โดยละเอียดถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงความเห็นใดๆ โดยสำเนาเอกสารต่างๆสามารถหาได้จากแหล่งข้อมูลที่ระบุไว้ข้างต้น

หมายเหตุ

ประกาศนี้ได้รวมข้อมูลชี้วัดที่เป็น non-US GAAP ซึ่งใช้ในการชี้วัดดัชนีของ Janus และตัวชี้วัดทางการเงินที่เป็น non-IFRS ที่ใช้ในการชี้วัดดัชนีของ Henderson ตัวชี้วัดนี้รวมถึง EBITDA  โดยตัวชี้วัด non-US GAAP และ ตัวชี้วัดทางการเงิน non-IFRS ดังกล่าว ควรใช้เป็นดัชนีในการพิจารณาประสิทธิภาพทางการเงินเพิ่มเติม สำหรับ Janus ตัวชี้วัดได้จัดทำตามดัชนีชี้วัด US GAAP และในทำนองเดียวกัน  สามารถใช้ตัวชี้วัดดังกล่าว เป็นดัชนีในการพิจารณาประสิทธิภาพทางการเงินของ Henderson ได้จัดทำตามดัชนีชี้วัด IFRS นอกจากนี้ ตัวชี้วัดดังกล่าวอาจถูกนิยามต่างออกไปตามบริบทอื่นๆ

สามารถศึกษาแหล่งข้อมูลจากเว็บไซต์ businesswire.com ได้ที่ http://www.businesswire.com/news/home/20161002005078/en/