NTT Communications และ Mitsui Chemicals ประสบความสำเร็จในการคาดคะเนในคุณภาพของผลิตภัณฑ์เคมีในกระบวนการผลิตโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI)

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–15 กันยายน 2016

การใช้โมเดล Deep Learning ช่วยคาดคะเนในเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างแม่นยำ

NTT Communications Corporation (NTT Com) ผู้ให้บริการด้านไอซีทีโซลูชั่นส์และการสื่อสารระหว่างประเทศในเครือของ NTT (NYSE: NTT) และ Mitsui Chemicals, Inc. (Mitsui Chemicals) วันนี้ได้ประกาศว่าทั้งสองได้ประสบความสำเร็จในการสร้างเทคนิคที่สามารถคาดคะเนได้อย่างรวดเร็วแม่นยำในเรื่องของคุณภาพผลิตภัณฑ์แก๊ส เทคนิคนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของโมเดลความสัมพันธ์ระหว่างเซ็ตข้อมูลที่แตกต่างกันจากวัตถุดิบป้อนเขาไปในเครื่องปฏิกรณ์ และเงื่อนไขของเครื่องปฏิกรณ์ และความเข้มข้นของสารละลายแก๊ส X ซึ่งเป็นตัวแสดงถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์แก๊ส

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

http://www.businesswire.com/news/home/20160914006466/en/

ข้อมูลนี้ได้รับการวิเคราะห์โดยใช้ชุดคำสั่ง Deep Learning ซึ่งเป็นวิธีการทาง AI ที่ดำเนินการเรื่องปัจจัยที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติเพื่อโมเดลออกมาและประเมินถึงผลลัพธ์ ในกระบวนการผลิตแก๊ส ปัจจัยเหล่านี้ได้ถูกแสดงให้เห็นด้วยข้อมูลกระบวนการโดยอิงกับเวลา 51 แบบ เช่นอุณหภูมิ ความดัน และความไหลลื่น ผลที่ได้รับนั้นเป็นการประเมินคุณภาพของผลิตภัณฑ์แก๊สที่แม่นยำ

http://www.ntt.com/content/dam/nttcom/hq/en/about-us/press-releases/img/2016/20160915b.jpg
รูปภาพ1. กระบวนการทำงานอย่างไร

การใช้กระบวนการโมเดลใหม่นี้ทำให้ทั้งสองบริษัทประสบความสำเร็จในการเก็บความแตกต่างระหว่างความเข้มข้นของสารละลายแก๊ส X คาดคะเนโดยใช้โมเดลนี้ และการใช้ความเข้มข้นจริงๆ ใน +/-3 จุดเปอร์เซ็นต์ในสเกลทั้งหมด

http://www.ntt.com/content/dam/nttcom/hq/en/about-us/press-releases/img/2016/20160915c.jpg
รูปภาพ2. การคาดคะเนความแม่นยำของเรตความเข้มข้นของสารละลายแก๊ส X

ในการพัฒนาความแม่นยำในการคาดคะเนของความเข้มข้นของสารละลายแก๊ส X โดยใช้โมเดลนี้ ผู้ปฏิบัติการในโรงงานเคมีจะสามารถตรวจเซ็นเซอร์การจับผิดความเสียหายหรือประเมินเครื่องมือและเข้าถึงเงื่อนไขของโรงงานเคมีได้อย่างปัจจุบันทันด่วนรวมถึงในอนาคต และความผิดปกติในผลิตภัณฑ์เคมี ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะช่วยพัฒนาความแม่นยำในการเตือน ทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้นและการปฏิบัติการที่คงที่มากขึ้น และเพื่อการคงรักษาโรงงานไว้อย่างชาญฉลาด

Mitsui Chemicals กำลังศึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีการผลิตในยุคสมัยหน้า เพื่อนำมาใช้สำหรับการบำรุงรักษาโรงงานอย่างชาญฉลาด ทำให้การปฏิบัติการมีความปลอดภัยและคงที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยก่อให้เกิดระบบการผลิตหลากหลายเกรดที่ต้องการในการวางกลยุทธ์เพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้นและแลกเปลี่ยนความรู้ในการปฏิบัติการในยุคโลกาภิวัฒน์ Mitsui Chemicals จะทำการวิจัยสำหรับเทคโนโลยีการผลิตในยุคสมัยหน้าซึ่งรวมถึง IoT, big data, และ AI ในการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับอุปกรณ์และการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ มีการขยายโครงสร้างพื้นฐานในเทคโนโลยีการผลิตเพื่อตอบสนองต่อความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ

NTT Com ร่วมกับ Virtual Engineering Community ได้ทำแบบทดสอบยืนยันความจริงเพื่อพัฒนาคลาวด์และสภาพแวดล้อมในเครือข่ายที่ทำให้การผลิตของโรงงานได้รับการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นและมีกระบวนการซ่อมบำรุงอย่างมีประสิทธิภาพนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2015 ถึงแม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่เคสที่การวิเคราะห์ข้อมูล IoT ได้ให้ประโยชน์ที่เฉพาะเจาะจงในการผลิตจริง แต่ความสำเร็จนี้ก็สามารถเป็นเทคโนโลยีหลักสำหรับการผลิตที่มีประสิทธิภาพ

NTT Com วางแผนที่จะปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมวิธีการ AI ที่ใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีล่าสุดเหล่านี้ ผ่านการใช้ข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับความเสียหายระหว่างการผลิต และข้อมูลจากโรงงานผลิตอื่น ทำให้สามารถขยายสโคปของการใช้งานและพัฒนาความแม่นยำโดยรวม ในอนาคต NTT Com จะรวมเอาส่วนต่างๆ ของการวิจัย IoT และ AI และพัฒนาโซลูชั่นส์ภายใต้แบรนด์ corevoTM ของกลุ่ม NTT

NTT Com จะยังคงทำการวิจัยในทิศทางที่พัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติการให้ดีขึ้นในด้านโรงงานเคมีผ่านการใช้โมเดล AI รวมถึงการป้องกันความผิดพลาดของเครื่องจักรและการแสดงตัวของความไม่ปกติของคุณภาพ บริษัทยังคงใช้โมเดลที่คล้ายกันในการพัฒนาโซลูชั่นส์ IoT

ปกติแล้วโรงงานผลิตเคมีจะเช็คคุณภาพของผลิตภัณฑ์โดยการเปรียบเทียบข้อมูลการผลิตกับเกณฑ์มาตรฐาน และโดยการตัดสินทางกายภาพโดยพนักงานผู้มีประสบการณ์ และด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด และการคาดคะเนในผลลัพธ์ ทำให้การพัฒนาร่วมกันระหว่า NTT Com และ Mitsui Chemicals ตั้งเป้าไปที่การพัฒนาความเที่ยงตรงแม่นยำในการตรวจสอบจับผิดความเสียหายในอุตสาหกรรมเคมี

หมายเหตุ: corevoTM เป็นเครื่องหมายการค้าของ Nippon Telegraph and Telephone Corporation

เกี่ยวกับ NTT Communications Corporation
NTT Communications ให้บริการคำปรึกษา สถาปัตยกรรม ความปลอดภัยของข้อมูล และบริการคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขององค์กรธุรกิจ บริการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงเครือข่ายชั้นนำ Global Tier-1 IP อย่าง Arcstar Universal One(TM) VPN ซึ่งครอบคลุมถึง 196 ประเทศ/ดินแดน และศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัย 140 แห่งทั่วโลก โซลูชั่นของ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ใช้ทรัพยากรของกลุ่มบริษัท เอ็นทีที ทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Dimension Data, NTT DOCOMO และ NTT DATA

http://www.ntt.com | Twitter@NTT Com | Facebook@NTT Com | LinkedIn@NTT Com

เกี่ยวกับ Mitsui Chemicals (โตเกียว: 4183, ISIN: JP3888300005)

รากฐานของ Mitsui Chemicals เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1912 เมื่อเริ่มที่จะพัฒนาวัตถุดิบสำหรับปุ๋ยเคมีจากแก๊สถ่านหิน ซึ่งเป็นบริษัทแรกในญี่ปุ่นที่กระทำขึ้น งานนี้มีความสำคัญในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นประเด็นทางสังคมที่สำคัญในขณะนั้น หลังจากนั้น บริษัทได้ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีจากเคมีฐานหินเป็นเคมีแก๊ส และในปี 1958 ได้สร้างคอมเพล็กซ์ทางปิโตรเคมีแห่งแรกในญี่ปุ่น และได้เสร้างแรงกระตุ้นกับภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ในวันนี้บริษัทได้ผลิตผลิตภัณฑ์ระดับโลกมากมายโดยมีมากกว่า 135 บริษัทใน 27 ประเทศ พอร์ตโฟลิโอของธุรกิจรวมถึงวัตถุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติสำหรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในเจเนอเรชั่นหน้า บริการด้านสุขภาพเพื่อให้ทราบถึงสุขภาพและความสุขในสังคมผู้สูงอายุ บรรจุภัณฑ์ที่ให้ความมั่นใจและความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหาร เคมีทางการเกษตรที่ส่งเสริมให้เกิดการผลิตอาหารที่เพิ่มมากขึ้น วัตถุทางไฟฟ้า และวัตถุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติสำหรับภาคส่วนพลังงาน

Mitsui Chemicals จะยังคงมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาความท้าทายของสังคม ด้วยการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยและโดยสร้างคุณค่ากับลูกค้าด้วยนวัตกรรม

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mitsuichem.com/index.htm

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160914006466/en/

แพลตฟอร์มของ NTT Communications ประสบความสำเร็จในการได้รับการรับรองครั้งแรกจาก Cloud Foundry Foundation ในญี่ปุ่น

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–14 กันยายน 2016

NTT Communications Corporation (NTT Com) ผู้ให้บริการด้านไอซีทีโซลูชั่นส์และการสื่อสารระหว่างประเทศในเครือของเอ็นทีที (NYSE: NTT) วันนี้ได้ประกาศว่า บริษัทได้เป็นบริษัทญี่ปุ่นรายแรกที่มีแพลตฟอร์มที่ได้รับการรับรองโดย Cloud Foundry Foundation ซึ่งเป็นองค์กรแพลตฟอร์มมาตรฐานอุตสาหกรรมแบบมัลติคลาวด์ การได้รับการรับรองครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมของอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อก่อตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เชื่อถือได้ในแพลตฟอร์มต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมแบบมัลติเวนเดอร์ (ระบบที่มีคนขายหลายคน) และมัลติคลาวด์

Cloud Foundry ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัทที่หลากหลาย รวมถึงโรงงานชั้นนำ การสื่อสารโทรคมนาคม และบริษัทให้บริการด้านการเงิน เป็นคลาวด์ PaaS แบบ open-source ที่นักพัฒนาสามารถสร้าง ใช้ สเกลแอพพลิเคชั่นทั้งโมเดลคลาวด์แบบสาธารณะหรือส่วนตัว

Cloud Foundry Foundation เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรและปฏิบัติการภายใต้โมเดล “governance by contribution”

ลูกค้าของ Enterprise Cloud ของ NTT ซึ่งเป็นบริการคลาวด์สำหรับองค์กรต่างๆ ใน 11 ประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์มที่ให้บริการโดยผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตอีก 9 แห่ง สามารถเปลี่ยนแอพพลิเคชั่นได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากพวกเขาได้ใช้ส่วนประกอบหลักที่เหมือนกันของเทคโนโลยี Cloud Foundry open source ซึ่งช่วยให้พวกเขาได้ประโยชน์จากโครงสร้างรวมของการใช้แอพพลิเคชั่นแพลตฟอร์มนี้ รวมถึง API และตัวประสานบรรทัดคำสั่ง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ใช้บริการได้โดยปราศจากความเสี่ยงในการโดนล็อคติดอยู่ในคลาวด์เวนเดอร์เพียงอันเดียว

ลูกค้าต่างได้ประโยชน์จากการส่งสารอย่างรวดเร็วโดยผ่านการใช้งาน NTT Com ของ การพัฒนาแบบ Cloud Foundry open-source มาใช้ในการพัฒนาด้านบริการ ในการก้าวไปข้างหน้านั้น NTT Com วางแผนที่จะส่งความเชื่อมโยงนี้ผ่านบริการเครือข่ายส่วนตัว Arcstar Universal One และคลาวด์ส่วนตัวที่มีประสิทธิภาพในการให้ลูกค้าได้สามารถใช้ Cloud Foundry ในสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะการตอบสนองความต้องการบริษัทที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยและการปฏิบัติตามให้แข็งแกร่งมากขึ้น ในการใช้แพลตฟอร์ม Cloud Foundry นั้น NTT Com จะสนับสนุนลูกค้าต่อไปโดยการให้บริการระบบนิเวศแบบเปิดในระดับโลกผ่านการร่วมมือกันกับพันธมิตร Cloud Foundry ผู้อื่น

NTT Com ให้บริการคลาวด์ซึ่งรวมกับ Cloud Foundry ตั้งแต่ปี 2012 และเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานระดับแรกๆ ของการใช้โมเดล PaaS เพื่อให้บริการลูกค้าที่เป็นองค์กร และเป็นผู้ให้บริการระดับโลกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค NTT Com เป็นผู้ก่อตั้ง Cloud Foundry Group Japan และช่วยส่งเสริมให้มีการใช้ในหมู่ลูกค้าที่เป็นองค์กรในประเทศนั้น นอกจากนั้น NTT Corporation (NTT) ได้มีส่วนร่วมเป็น Gold Member ของ Cloud Foundry Foundation ระดับโลกตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2014 โดยเน้นย้ำในด้านการช่วยเหลือส่งเสริม Cloud Foundry ในกลุ่ม NTT ทั้งหมด

เกี่ยวกับ Cloud Foundry Foundation
Cloud Foundry Foundation เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรอิสระที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนา การสนับสนุนและการใช้ Cloud Foundry ให้เป็นแพลตฟอร์มมัลติคลาวด์ที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม Cloud Foundry ทำให้มันเร็วและง่ายขึ้นในการสร้าง ทดสอบ ใช้ และสเกลแอพพลิเคชั่นส์ Cloud Foundry เป็นโปรเจ็กต์ที่ได้รับใบอตุญาต Apache 2.0 ซึ่งมีอยู่ที่: https://github.com/cloudfoundry สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: http://www.cloudfoundry.org

เกี่ยวกับ NTT Communications Corporation
NTT Communications ให้บริการคำปรึกษา สถาปัตยกรรม ความปลอดภัยของข้อมูล และบริการคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขององค์กรธุรกิจ บริการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงเครือข่ายชั้นนำ Global Tier-1 IP อย่าง Arcstar Universal One(TM) VPN ซึ่งครอบคลุมถึง 196 ประเทศ/ดินแดน และศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัย 140 แห่งทั่วโลก โซลูชั่นของ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ใช้ทรัพยากรของกลุ่มบริษัท เอ็นทีที ทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Dimension Data, NTT DOCOMO และ NTT DATA

www.ntt.com | Twitter@NTT Com | Facebook@NTT Com | LinkedIn@NTT Com

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160914005513/en/

แอพพลิเคชั่นโปรเซสเซอร์ของโตชิบา หัวใจของอุปกรณ์สวมใส่สุดชาญฉลาดล้ำยุคของ World Media & Technology

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว—(บิสิเนส ไวร์)–14 กันยายน 2016

บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company) ในเครือของโตชิบา คอร์ปอเรชั่น (Tokyo:6502) ประกาศว่าแอพพลิเคชั่นโปรเซสเซอร์รุ่น TZ1000 ของตระกูล ApP Lite™ สำหรับ IoT และอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ ซึ่งถูกใช้งานใน “Helo” สายรัดข้อมือสุดชาญฉลาดรุ่นใหม่จาก Media & Technology (“Wor(l)d”) ที่มีฐานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา

ApP Lite™ TZ1000 จับตัวบ่งชี้ที่สำคัญต่างๆ ของผู้ใช้ ด้วยความแม่นยำสูงและกินพลังงานต่ำเมื่อใช้งาน ข้อมูลที่ได้รับจะถูกส่งไปที่สมาร์ทโฟนของผู้ใช้ โดยใช้เทคโนโลยี Bluetooth® ไร้สายพลังงานต่ำ

สายรัดข้อมือของ Wor(l)d รุ่น“Helo” สามารถจับตัวบ่งชี้จากข้อมือ และมอนิเตอร์อย่างต่อเนื่องและวิเคราะห์ภาวะของผู้ใช้และส่งผลไปที่สมาร์ทโฟน TZ1000 มีความสามารถในการช่วยให้สายรัดข้อมือรับระบบสัมผัสได้อย่างแม่นยำ มีขนาดเล็ก และใช้พลังงานต่ำ

ในการช่วยนักออกแบบ โตชิบาได้พัฒนาชุดคำสั่งซอฟต์แวร์หลากหลายสำหรับซีรี่ส์ TZ1000 ซึ่งรวมถึง Activity Monitoring, PPG (photoplethysmography) Monitoring และ ECG (electrocardiography) Monitoring ที่จะช่วยให้โซลูชั่นด้านระบบแก่ผลิตภัณฑ์ที่สวมใส่ได้

โตชิบาจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาแอพพลิเคชั่นโปรเซสเซอร์สำหรับ IoT และอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ต่อไป

* Bluetooth เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนซึ่งเป็นของ Bluetooth SIG, Inc., และการใช้เครื่องหมายการค้านี้โดยโตชิบาอยู่ภายใต้ใบอนุญาต
* ApP Lite เป็นเครื่องหมายการค้าของโตชิบา คอร์ปอเรชั่น
* เครื่องหมายการค้าและชื่อทางการค้าเป็นสินทรัพย์ของเจ้าของนั้นๆ

เกี่ยวกับ World Media & Technology และ “Helo”
http://www.worldmediatech.com/
https://www.worldgn.com/wear/
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TZ1000 ของโตชิบาได้ที่:
http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/assp/applite/tz1000.html

ลูกค้าติดต่อสอบถามได้ที่:
Logic LSI Marketing & Engineering Department
โทร: +81-44-548-2110
http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาการบริการและข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบา
โตชิบา คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัท Fortune Global 500 นำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันล้ำสมัย รวมถึงระบบต่างๆ ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ พลังงาน (Energy) เพื่อทุกวันของชีวิตที่สะอาดและปลอดภัยขึ้นอย่างยั่งยืน, โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และการจัดเก็บข้อมูล (Storage) เพื่อสนับสนุนสังคมแห่งข้อมูลข่าวสารที่ก้าวล้ำ โตชิบาส่งเสริมการดำเนินงานทั่วโลก และสนับสนุนการสร้างสรรค์โลกเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนรุ่นต่อๆ ไป ภายใต้รากฐานความมุ่งมั่นของโตชิบา กรุ๊ป ที่ว่า “ความมุ่งมั่นต่อประชากร, ความมุ่งมั่นต่ออนาคต”

โตชิบาก่อตั้งขึ้นในโตเกียวเมื่อปี 1875 และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของกลุ่มบริษัทในเครือกว่า 550 แห่ง ด้วยจำนวนพนักงาน 188,000 คนทั่วโลก และยอดขายต่อปีกว่า 5.6 ล้านล้านเยน (5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2016)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโตชิบาได้ที่ www.toshiba.co.jp/in

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160913006758/en/

Macrogen เปิดตัว ‘Easybox’ ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์แบบพรีเมียมที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โซล, เกาหลีใต้–(บิสิเนส ไวร์)–13 กันยายน 2016

– เพิ่มความน่าเชื่อถือและความสะดวกสบายสำหรับการจัดส่งโดย FedEx
– ให้บริการตัวเลือกบรรจุภัณฑ์แบบพรีเมียมที่ควบคุณอุณหภูมิได้สำหรับลูกค้า

องค์กรอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพทางเภสัช Macrogen (CEO Hyeon-yong Jeong, www.macrogen.com)(KOSDAQ:038290) ได้ประกาศวันนี้ถึงการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์แบบพรีเมียมใหม่ที่ควบคุมอุณหภูมิได้ชื่อว่า ‘Easybox’ สำหรับลูกค้าทั่วโลกในอุตสาหกรรมการวิเคราะห์เชิงลึกในเรื่องยีนและจีโนม

ตัวเลือกในด้านบรรจุภัณฑ์แบบพรีเมียมที่ควบคุมอุณหภูมิได้นั้นได้รับการพัฒนาโดย Macrogen และได้เพิ่มการจัดส่งอย่างรวดเร็วและน่าเชื่อถือได้ ซึ่งเป็นการบริการการจัดส่งโดย FedEx Express (FedEx) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งแบบด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Easybox ซึ่งรวมถึงเจลแพ็ก วิธีการแพ็ก และอุปกรณ์อื่นๆ ขึ้นกับความต้องการในการใช้งานของลูกค้า สามารถช่วยให้ลูกค้าลดเวลาในการส่งของ Easybox ของ Macrogen ได้รับการออกแบบให้ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิระหว่างการส่ง ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงน้อยลงตลอดการเดินทาง นอกจากนั้น ลูกค้ายังสามารถเบาใจได้ว่าเขาสามารถแทร็กการขนส่งได้ตลอดเส้นทาง

เพื่อการป้องการกระแทกอย่างรุนแรงและทำให้อุณหภูมิเสถียรคงที่ บรรจุภัณฑ์นี้สามารถกันน้ำ เก็บความร้อน และเป็นฉนวน วิธีการแพ็กช่วยให้ลูกค้าได้ทราบถึงวิธีการจัดส่งโดยใช้น้ำแข็งแห้งหรือเจลแพ็กเพื่อลดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ช่วยให้ค่าใช้จ่ายในการขนส่งลดลง และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการบริหารจัดการที่ไม่ดี หรือจากการใช้น้ำแข็งแห้งหรือเจลแพ็กมาเกินไป

จากการเปิดตัวของบริการ Easybox ทาง Macrogen ได้ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นโดยการจัดการระบบบริหารกระบวนการส่งใหม่ สำหรับลูกค้า R&D ประมาณ 18,000 รายใน 150 ประเทศ

Macrogen วางแผนที่จะเพิ่มการขาย Easybox ทั่วโลกเพราะการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ตัวอย่างนั้นมีความสำคัญต่อลูกค้าของ Macrogen ผู้ซึ่งกำลับขยายจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพไปสู่ลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น

Hyeon-yong Jeong ซึ่งเป็น CEO ของ Macrogen กล่าวว่า “เนื่องจากว่าฐานลูกค้าของ Macrogen ได้รับการขยายขึ้น ตั้งแต่นักวิจัยไปจนถึงผู้วินิจฉัยโรคทางคลินิก รวมถึงลูกค้าทั่วไป ซึ่งการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ตัวอย่างของลูกค้านั้นเป็นไปอย่างซับซ้อนมากขึ้น” เขากล่าว “การเปิดตัวของบรรจุภัณฑ์แบบควบคุมอุณหภูมิ Easybox นี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าและให้บริการส่งผลิตภัณฑ์ตัวอย่างของลูกค้าได้อย่างปลอดภัย”

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Easybox สามารถติดต่อได้ที่ Macrogen NGS Overseas Sales Division (ngs@macrogen.com) และสามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ dna.macrogen.com

สามารถอ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160913005772/en/

โตชิบาเปิดตัวผลิตสเต็ปปิง มอเตอร์ ไดร์ฟเวอร์แบบ bipolar ป้อนกระแสไฟสูงสุดได้ 40V และ 1.8A

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–13 กันยายน 2016

บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company) ในเครือของโตชิบา คอร์ปอเรชั่น (Tokyo:6502) ประกาศเปิดตัว “TB62269FTAG” ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้เป็นสเต็ปปิง มอเตอร์ ไดร์ฟเวอร์แบบ bipolar (อนุกรมขดลวด) โดยสามารถป้อนกระแสไฟสูงสุดได้ 40V และขับกระแสไฟ 1.8A ซึ่งได้เริ่มการผลิตจำนวนมากในปลายเดือนนี้

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดยได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/20160913005765/en/

         http://mms.businesswire.com/media/20160913005765/en/544123/5/TB62269FTAG_1000p.jpg?download=1
โตชิบา: สเต็ปปิง มอเตอร์ ไดร์ฟเวอร์แบบ bipolar “TB62269FTAG” สามารถป้อนกระแสไฟสูงสุดได้ 40V และขับกระแสไฟ 1.8A (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

มอเตอร์ไดร์ฟที่ต้องการความเร็วสูงและประสิทธิภาพสูงนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเครื่องปริ้นเตอร์ อุปกรณ์อัตโนมัติสำหรับสำนักงาน อุปกรณ์เกี่ยวกับธนาคารทั้งหลาย เช่น ATM อุปกรณ์ตรวจธนบัตร เครื่องเกมส์ตู้ต่างๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และการย่อขนาดของอุปกรณ์เหล่านี้ต่างก็เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอยและเพื่อได้ผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบที่ยอดเยี่ยม ความสามารถในการลดปริมาณความร้อนในอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ นั้น รวมไปถึงการใช้พลังงานที่ต่ำ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้น

มอเตอร์ไดร์ฟใหม่นี้มีแพ็กเกจ QFN32 ที่เล็กกว่าแพ็กเกจ QFN48 ที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์ล่าสุดของโตชิบา “TB62269FTG” การลดขนาดนี้จะทำให้ประหยัดพื้นที่บน PCB

โตชิบาจะมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของการใช้งานมอเตอร์ไดร์ฟ

คุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์ใหม่
– การผลิตความร้อนต่ำ
การผลิตความร้อนถูกลดลงไป เนื่องจากมีการลดกำลังแรงต้านลง (0.8Ω หรือน้อยกว่า, สูงขึ้น + ต่ำลง)
– การสั่นสะเทือนน้อยลงและเสียงค่อยลง
มอเตอร์ไดรว์ฟเทคโนโลยี ไฮเรโซลูชั่น 1/32 สเต็ป (max.) ลดการสั่นสะเทือนและเสียง
– แพ็กเกจขนาดเล็ก
การอบชุบของอุปกรณ์สามารถทำได้โดยง่ายโดยการใช้แพ็กเกจ QFN32 ที่เล็กและทนความร้อนสูง และเป็นการลดขนาดของ IC และลดราคาลง
– วงจรการตรวจหาความผิดพลาดแบบบิลด์อิน
ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้รวมฟังก์ชั่นตัดไฟเครื่อง (thermal shutdown) และตัดวงจรกรณีไฟแรงสูงเกินไปเข้าไว้ด้วยกัน สัญญาณความผิดพลาดจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยและการใช้งานที่เชื่อถือได้ในผลิตภัณฑ์ที่ประกอบสำเร็จแล้ว

การใช้งาน
ปริ้นเตอร์แบบ 3D เครื่องเกมส์ตู้ต่างๆ (เครื่องปาจิงโกะและสล็อตแมชชีน) เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (ตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศ) อุปกรณ์อุตสาหกรรม (อุปกรณ์เกี่ยวกับธนาคารทั้งหลาย เช่น ATM) อุปกรณ์อัตโนมัติในสำนักงานและในโรงงาน

สเป็คของผลิตภัณฑ์
ชื่อผลิตภัณฑ์ TB62269FTAG
คอนโทรล I/F CLK-IN
กระแสไฟสูงสุด 40V, 1.8A
แพ็กเกจ QFN32 (size: 5mm×5mm×1mm, pin pitch: 0.5mm)
การตรวจหาความผิดพลาดแบบบิลด์อิน (ตัดกระแสไฟและเมื่อมีกระแสไฟมากเกินไป)
ลักษณะอื่นๆ
– ERR เอ้าต์พุต
– รองรับลำดับขั้นตอนการตรวจเช็ค (power-on sequence) โดยการใช้ไดร์ฟพาวเวอร์เดี่ยว
ผลิตจำนวนมาก ปลายเดือนกันยายน 2016

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่: http://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=TB62269FTAG®ion=apc&lang=en

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมอเตอร์ไดรฟ์เวอร์ได้ที่:: http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/linear/motordriver.html

ลูกค้าติดต่อสอบถามได้ที่:
Mixed Signal IC Sales and Marketing Department
โทร: +81-44-548-2821
http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาการบริการและข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบา
โตชิบา คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัท Fortune Global 500 นำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันล้ำสมัย รวมถึงระบบต่างๆ ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ พลังงาน (Energy) เพื่อทุกวันของชีวิตที่สะอาดและปลอดภัยขึ้นอย่างยั่งยืน, โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และการจัดเก็บข้อมูล (Storage) เพื่อสนับสนุนสังคมแห่งข้อมูลข่าวสารที่ก้าวล้ำ โตชิบาส่งเสริมการดำเนินงานทั่วโลก และสนับสนุนการสร้างสรรค์โลกเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนรุ่นต่อๆ ไป ภายใต้รากฐานความมุ่งมั่นของโตชิบา กรุ๊ป ที่ว่า “ความมุ่งมั่นต่อประชากร, ความมุ่งมั่นต่ออนาคต”

โตชิบาก่อตั้งขึ้นในโตเกียวเมื่อปี 1875 และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของกลุ่มบริษัทในเครือกว่า 550 แห่ง ด้วยจำนวนพนักงาน 188,000 คนทั่วโลก และยอดขายต่อปีกว่า 5.6 ล้านล้านเยน (5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2016)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโตชิบาได้ที่ http://www.toshiba.co.jp/in

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160913005765/en/

พานาโซนิคเปิดตัวโชว์รูม Panasonic Solution & Innovation Center Thailand ซึ่งเป็นศูนย์โซลูชั่นและนวัตกรรมทางอุตสาหกรรมยุคใหม่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

กรุงเทพฯ–(บิสิเนส ไวร์)–13 กันยายน 2559

พานาโซนิค คอร์ปอเรชั่น ประกาศเปิดศูนย์โซลูชั่นและนวัตกรรมทางอุตสาหกรรมขึ้นในประเทศไทยซึ่งศูนย์แห่งนี้เปิดขึ้นเพื่อธุรกิจกลุ่ม Factory Automation (FA Showroom) ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อการแสดงเทคโนโลยีการผลิตที่มีคุณภาพสูงและอุปกรณ์อันทันสมัย

โลกแห่งดิจิทัลในปัจจุบันมีความต้องการใช้สมาร์ทโฟน, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาติดตัว (Wearable Devices) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วมาก ภายในบรรดาผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ แผงวงจรไฟฟ้า (PCB) นั้นก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง Panasonic Solution & Innovation Center Thailand แห่งนี้แสดงผลงานนวัตกรรมของบริษัท ทั้งเทคโนโลยีการผลิต เช่น เครื่องจักรวางชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บนแผงวงจรไฟฟ้าแบบ Auto-Insertion และ Surface Mount ที่ได้รับการออกแบบสำหรับการใส่ (Insert) และการวาง (Mount) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่สุดบนแผงวงจรไฟฟ้า (PCB) ด้วยความแม่นยำสูง และบนเนื้อที่จำกัดของแผงวงจรไฟฟ้า (PCB) ที่มีขนาดเล็กและมีความหนาแน่นสูงของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (High-Density)

ศูนย์แห่งนี้ไม่เพียงแต่แสดงกลุ่มเครื่องจักรวางชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บนแผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องเชื่อมรุ่นใหม่ล่าสุดของพานาโซนิคเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเครื่องมืออุปกรณ์ต่อพ่วงในสายการผลิตจากบริษัทคู่ค้าอื่น ๆ เช่น เครื่องจ่ายวัตถุดิบที่เป็นชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ, เครื่องตรวจสอบคุณภาพงานบนแผงวงจรไฟฟ้าหลังผ่านกระบวนการ แสดงร่วมอยู่ด้วย การทำงานร่วมกันที่เป็นไฮไลท์สำคัญของระบบเครือข่ายศูนย์ควบคุมและการสื่อสารเทคโนโลยีในสายการผลิตเป็นกุญแจสำคัญในความสำเร็จของยุคอุตสาหกรรม 4.0 และ IoT (internet of things) ที่ช่วยสนับสนุนในกระบวนการผลิต ศูนย์แห่งนี้ดำเนินการและบริหารงานโดย บริษัทพานาโซนิค อินดัสเตรียล ดิไวซ์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ใน Panasonic Solution & Innovation Center Thailand ลูกค้าสามารถสัมผัสกับกระบวนการผลิตที่เกิดขึ้นจริงของแผงวงจรไฟฟ้า (PCB) และงานเชื่อมจากครื่องเชื่อม พานาโซนิคได้ โดยการนำชิ้นงานของตนเองและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มาทดสอบในกระบวนการผลิตภายในศุนย์ นอกจากนี้ศูนย์แห่งนี้ยังมีห้องโถงสำหรับจัดงานสัมมนาและห้องประชุมเพื่อความสะดวกในการจัดสัมมนาทางเทคนิคและงานที่เกี่ยวข้องกับโรงงานระบบอัตโนมัติ (Factory Automation) ผ่านกระบวนการเหล่านี้ ศูนย์แห่งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า

พานาโซนิคได้เปิดโชว์รูม FA Showroom ครั้งแรกในเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2559 ซึ่งบริษัทตั้งใจจะขยายธุรกิจกลุ่ม Factory Automation ไปทั่วโลก นอกจากนี้พานาโซนิคยังมีแผนที่จะเปิด FA Showroomในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียและ เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม ต่อไป

Panasonic Solution & Innovation Center Thailand

URL: https://www.youtube.com/watch?v=VUbOVUp1E8M
ชื่อ Panasonic Solution & Innovation Center Thailand
สถานที่ตั้ง 1643/7 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
พื้นที่ใช้สอย 480 ตารางเมตร , 2 ชั้น
แสดงสินค้าหลัก เครื่องจักรวางชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บนแผงวงจรไฟฟ้า (Chip Mount, Odd-Shape Component Insertion Machine) เครื่องจักรปาดตะกั่วบนแผงวงจรไฟฟ้า (Screen Printer), เครื่องอบแผงวงจรไฟ้ฟ้าหลังวางชิ้นส่วนอีเล็กทรอนิกส์ (Reflow), เครื่องตรวจสอบคุณภาพงานบนแผงวงจรไฟฟ้า (Inspection Machine), เครื่องเชื่อม (Welding Machine); อื่นๆ
กำหนดเปิดเป็นทางการ 9 กันยายน 2559

ข้อมูลอ้างอิง
Chicago city
Name cloud9 Innovation Center
Address 1000 Asbury Drive, Buffalo Grove
Opening period July14, 2016

Jakarta city
Name Panasonic Solution & Innovation Center Indonesia
Address Grha Manajemen YMG, J1.RAYA Bogor Km.29,Jakarta
Opening schedule End of September, 2016

Hanoi city
Name Panasonic Solution & Innovation Center Vietnam
Address Plot J1-J2 thang long Ind. Park, Dong Anh Dist.,Hanoi
Opening schedule Beginning of October, 2016

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Panasonic Solution & Innovation Center Thailand กรุณาติตต่อ
บริษัทพานาโซนิค อินดัสเตรียล ดิไวซ์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 66-02-6933417-20 ต่อ 1504
คุณนารุฮิโกะ คอนโดะ kondou.naruhiko@jp.panasonc.com
หรือ คุณอนุชา ธีระเพ็ญแสง anucha.teeraphensaeng@th.panasonic.com
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจ Panasonic Factory Automation โปรดเยี่ยมชมที่เวปไซต์http://industrial.panasonic.com/ww/products/fa-welding/fa

เกี่ยวกับ พานาโซนิค คอร์ปอเรชั่น
พานาโซนิค คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้นำระดับโลกในการพัฒนาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความหลากหลายและโซลูชั่นสำหรับลูกค้า อาทิ กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มที่อยู่อาศัย, กลุ่มยานยนต์, โซลูชั่นสำหรับผู้ผลิตและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทในปีพ.ศ. 2461 บริษัทมีการขยายธุรกิจไปทั่วโลกและมีบริษัทในเครือ 475 แห่ง รวมถึงบริษัทร่วมทุน 94 แห่งทั่วโลก ยอดขายสุทธิรวม 7.53 ล้านล้านเยน ณ ปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทให้พันธสัญญาที่จะสร้างมูลค่าใหม่ผ่านทางนวัตกรรมและมุ่งมั่นในการสร้างเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า เพื่อโลกที่ดียิ่งขึ้น (A Better Life, A Better World) ให้กับลูกค้า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพานาโซนิค สามารถเข้าชมที่: http://www.panasonic.com/global.

เกี่ยวกับ พานาโซนิค เอเชีย แปซิฟิค
พานาโซนิค เอเชีย แปซิฟิค นำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่น ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย (APAC) ครอบคลุม 27 ประเทศรวมทั้ง 10 สำนักงานในประเทศออสเตรเลีย, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, พม่า, นิวซีแลนด์, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทยและ เวียดนาม สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มุ่งเน้นแนวคิดเพื่อชีวิตที่ดีกว่า เพื่อโลกที่ดียิ่งขึ้น (A Better Life, A Better World) ผ่านทางการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจกับธุรกิจ (Business-to-Business) เช่น กลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย ในขณะที่ยังคงรักษาการเติบโตในกลุ่มธุรกิจกับผู้บริโภค (Business-to-Customer) ในภูมิภาคนี้มีโรงงานผลิตจำนวน 37 โรงงานเพื่อสนับสนุนกิจกรรรมการผลิตทั่วโลกของพานาโซนิคในกลุ่มที่อยู่อาศัย, ระบบโซลูชั่น, การเกษตร, การจัดการพลังงาน, เครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนอุปกรณ์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม http://panasonicapac.mynewsdesk.com/

ไฮเทราชนะการประกวดราคาสัญญาหลายล้านดอลลาร์ในสาธารณรัฐโดมินิกัน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

ซานโตโดมิงโก, สาธารณรัฐโดมินิกัน–(บิสิเนส ไวร์)–12 กันยายน 2016

ไฮเทรา ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในการให้บริการโซลูชั่นส์ด้านวิทยุสื่อสารเคลื่อนที่สำหรับมืออาชีพ (Professional Mobile Radio) ชนะการประกวดราคาสองโปรเจ็กต์ มอบโดย Ministry of the Presidency ของสาธารณรัฐโดมินิกัน การที่จะก่อตั้งเครือข่ายการตอบรับฉุกเฉินครอบคลุมทั่วประเทศสำหรับ National Emergency Care System and Security 9-1-1 (Sistema Nacional de Atención a Emergencias y Seguridad) รัฐบาลของสาธารณรัฐโดมินิกันได้เลือกเทคโนโลยี TETRA (Terrestrial Trunked Radio) สำหรับการสื่อสารสำคัญ และเปิดการประมูลสองครั้งปลายปี 2015 ซึ่งครั้งแรกได้ครอบคลุมสองเมืองคือ Haina และ San Cristobal ติดกับเมืองหลวงซานโตโดมิงโก โดยมี 5 ไซต์และ 528 ปลายทาง โดยการประมูลอีกครั้งหนึ่งครอบคลุม Santiago ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ด้วย 30 ไซต์และ 2,155 ปลายทาง

เครือขาย TETRA ที่มีอยู่ในเขตซานโตโดมิงโกได้ให้บริการโดยไฮเทราเช่นกัน ซึ่งเป็นผลจากการที่ได้สัญญาโดย Ministry of the Presidency ของโดมินิกันในปี 2013 โปรเจ็กต์นี้ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบ 911 ระบบติดตั้งกล้องวงจรผิด และโครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารกับคู่สายปลายทางที่เกี่ยวข้อง “ระบบในซานโตโดมิงโกให้บริการทางคมนาคมที่เชื่อถือได้เพื่อระบบความปลอดภัย และเป็นหลักฐานที่ดีของโซลูชั่นส์และความช่วยเหลือของไฮเทรา” Fernando Camelo ผู้อำนวยการภูมิภาคของธุรกิจไฮเทรากล่าว “เจ้าพนักงานรัฐของโดมินิกันได้พยายามในการเลือกเทคโนโลยีที่ใช่ในเรื่องการรักษาความปลอดภัย และเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า TETRA ได้ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางและได้รับการพิสูจน์แล้ว เราภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในโครงการนี้ และสร้างระบบการสื่อสารที่สำคัญของประเทศ” Ming Kam Wong รองผู้จัดการทั่วไปของไฮเทรากล่าว

มาตรฐานด้านดิจิทัลการเป็นโปโตคอลของ TETRA ได้ให้ความปลอดภัย การติต่อสื่อสารที่มีการเข้ารหัสสำหรับการใช้งานที่สำคัญ รวมถึงมีการโปรโมทการใช้เทคโนโลยีสเป็คตรัมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีเซอร์ทิฟิเคทของ IOP กว่า 750 เซอร์ทิฟิเคท ที่ได้มอบให้กับโรงงาน 24 แห่งโดย TETRA + Critical Communications Association (TCCA) ซึ่งเป็นคณะประศาสนการ (governing body) ระดับโลกสำหรับมาตรฐานของ TETRA

เกี่ยวกับ ไฮเทรา คอมมิวนิเคชั่นส์

ไฮเทรา คอมมิวนิเคชั่นส์ เป็นผู้นำระดับโลกในการให้บริการโซลูชั่นส์ด้านวิทยุสื่อสารเคลื่อนที่สำหรับมืออาชีพ (Professional Mobile Radio) โดยให้โซลูชั่นส์การติดต่อสื่อสารแบบครบวงจรให้กับลูกค้าที่เป็นรัฐบาล นิเทศน์สัมพันธ์ องค์กรสาธารณูปโภค การขนส่ง ห้างร้านและบริษัทต่างๆ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1993 ที่เซินเจิ้น ประเทศจีน ไฮเทราได้กลายมาเป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมวิทยุสื่อสารเคลื่อนที่สำหรับมืออาชีพ (PMR) โดยมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ครอบคลุมกว่า 120 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.hytera.com

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160912005706/en/

ติดต่อ:
Hytera Communication Corp., Ltd.
สื่อมวลชนติดต่อ
Johnny Jian, +86 755 26972999
johnny.jian@hytera.com

“Easy Prototyping” โซลูชั่นของโตชิบาสำหรับการพัฒนาแพตลฟอร์ม Custom SoC ช่วยลดความต้องการสำหรับแหล่งข้อมูลการออกแบบสำหรับลูกค้า

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–12 กันยายน 2016

บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company) ในเครือของโตชิบา คอร์ปอเรชั่น (Tokyo:6502) วันนี้ประกาศเปิดตัว “Easy Prototyping” ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่สามารถให้เกิดการนำสินทรัพย์การออกแบบ (design assets) ที่ต้องการใช้เพื่อพัฒนา custom SoC*1 ขนาดใหญ่ ด้วย FPGA prototyping*2 การนำโซลูชั่นนี้มาใช้จะช่วยลดเวลาได้อย่างมากในการพัฒนาจาก จาก FPGA prototyping ไปเป็นการพัฒนา custom SoC ในส่วนของ Easy Prototyping นี้มีอยู่ในแพลตฟอร์ม ASIC และ FFSA™ *3 ของโตชิบา

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/20160912005632/en/

http://mms.businesswire.com/media/20160912005632/en/543826/5/Easy_Prototyping_schedule_ENG.jpg?download=1
Toshiba: ตารางการใช้เวลาในการออกแบบของโซลูชั่น “Easy Prototyping” เมื่อเทียบกับวิธีการแบบเดิม (กราฟิค: บิสิเนส ไวร์)

ในวิธีการทำ FPGA protoyping แบบเดิมนั้น นักออกแบบ SoC ไม่สามารถใช้ฮาร์ดแวร์ FPGA และสินทรัพย์การออกแบบซอฟแวร์ซ้ำได้อีก สำหรับการพัฒนา custom SoC เนื่องจากแหล่งเก็บข้อมูล FPGA*4 และ IPs*5 นั้นมี FPGA ที่เฉพาะเจาะจง Easy Prototyping จะช่วยให้เกิดการใช้สินทรัพย์เหล่านี้ซ้ำในการออกแบบ custom SoC โดยการปรับใช้จากแหล่งเก็บข้อมูล FPGA prototyping เพื่อใช้ประโยชน์จากแหล่งข้อมูลของโตชิบาและระบบย่อย IP*6 ซึ่งทำให้นักออกแบบสามารถระบุในส่วนต่อประสาน และสามารถสวิชต์เปลี่ยนได้ง่ายระหว่าง FPGA prototyping และการใช้ SoC วงจร wrapper logic*7 ของโตชิบา

โตชิบารองรับ IPs ภายนอกที่มีการบันทึก track record ใน FPGA และให้ IPs เหล่านี้เป็นระบบย่อยที่ได้รับการยืนยันในการใช้สำหรับเชื่อมต่อกับโซลูชั่นส์ custom SoC ของโตชิบา 10 Gigabit Ethernet (MorethanIP), PCI Express®*8 3.0/2.1/1.1 (Northwest Logic), DDR3 SDRAM*9 controller (Northwest Logic) นั้นมีวางจำหน่ายแล้วสำหรับ Easy Prototyping และไลน์สินค้านี้ยังมีการขยายเพื่อรองรับโซลูชั่นส์ต่างๆ เพิ่มเติมได้อย่างครอบคลุม

เพื่อการก้าวเดินไปข้างหน้า โตชิบายังคงให้บริการด้านโซลูชั่นส์ที่ช่วยให้ลูกค้าได้ใช้ระบบการออกแบบได้และสามารถประสบความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างตรงเวลา

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่
http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/custom-soc/development-solutions/prototyping.html
*1: System on Chip สำหรับการใช้งานแบบเฉพาะเจาะจงซึ่งไม่ได้รับการโปรแกรมไว้หลังจากการผลิต ซึ่งประสิทธิภาพของมันนั้นเหนือระดับกว่า FPGA โดยทั่วไป
*2: การ verify สำหรับการออกแบบฮาร์ดแวร์ รวมถึงการออกแบบร่วมซอฟต์แวร์และเฟิร์มแวร์ที่ใช้ FPGA , a device that is programmable after manufacture.
*3: เทคโนโลยีสุดล้ำที่ทำให้โตชิบาพัฒนาวงจรแบบบูรณาการ ซึ่งใช้งบในการพัฒนาน้อยและใช้เวลาในการพัฒนาสั้นกว่า โดยลดจำนวนเลเยอร์ของโลหะที่ต้องมีการ costomized http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/custom-soc/platform/ffsa.html
*4: ฐานข้อมูลในการพัฒนา SoC
*5: ทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นฟังก์ชั่นในการนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อการพัฒนา SoC
*6: โซลูชั่น IP ประกอบได้วย IP มากมายที่ต้องการใช้ในการพัฒนา SoC ซึ่งมันได้รับการออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งานในระบบย่อยแบบไฮสปีด
*7: บล็อกวงจรที่ใช้ซึมซับความแตกต่างเช่นตัวประสานและแหล่งเก็บข้อมูลระหว่าง FPGA และ ASIC/FFSATM
*8: มาตรฐานอุตสาหกรรม, I/O serial interface ใช้อย่างกว้างขวางในระบบคอมพิวเตอร์
*9: มาตรฐานอุตสาหกรรม DRAM ใช้เป็นความจำหลักสำหรับ PC และ Server

สามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/custom-soc.html
*PCI Express เป็นเครื่องหมายการค้าของ PCI-SIG
*FFSA เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Corporation
*เครื่องหมายการค้าอื่นๆ เป็นสินทรัพย์ของเจ้าของนั้นๆ

ลูกค้าติดต่อสอบถามได้ที่:
Logic LSI Sales & Marketing Group
โทร: +81-44-548-2110
http://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาการบริการและข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบา
โตชิบา คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัท Fortune Global 500 นำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันล้ำสมัย รวมถึงระบบต่างๆ ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ พลังงาน (Energy) เพื่อทุกวันของชีวิตที่สะอาดและปลอดภัยขึ้นอย่างยั่งยืน, โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และการจัดเก็บข้อมูล (Storage) เพื่อสนับสนุนสังคมแห่งข้อมูลข่าวสารที่ก้าวล้ำ โตชิบาส่งเสริมการดำเนินงานทั่วโลก และสนับสนุนการสร้างสรรค์โลกเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนรุ่นต่อๆ ไป ภายใต้รากฐานความมุ่งมั่นของโตชิบา กรุ๊ป ที่ว่า “ความมุ่งมั่นต่อประชากร, ความมุ่งมั่นต่ออนาคต”

โตชิบาก่อตั้งขึ้นในโตเกียวเมื่อปี 1875 และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของกลุ่มบริษัทในเครือกว่า 550 แห่ง ด้วยจำนวนพนักงาน 188,000 คนทั่วโลก และยอดขายต่อปีกว่า 5.6 ล้านล้านเยน (5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2016)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโตชิบาได้ที่ http://www.toshiba.co.jp/index.htm

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160912005632/en/

ติดต่อ:
สื่อมวลชนติดต่อ:
Toshiba Corporation
Storage & Electronic Devices Solutions Company
Chiaki Nagasawa, +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

Apollo Tyres สานต่อความร่วมมือกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

เกอร์กาออน, อินเดีย–(บิสิเนส ไวร์)–8 กันยายน 2016

แบรนด์ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ขณะนี้เป็น ‘Global Tyre Partner’ ของแมนยูฯ

หลังจากประสบความสำเร็จในการร่วมมือกันมา 3 ปีกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งช่วยให้ Apollo Tyres เพิ่มการเป็นที่รู้จักของแบรนด์ทั่วโลก ในวันนี้ ทั้งสองได้ประกาศข้อตกลงในการสนับสนุนต่ออีก 3 ปี Apollo Tyres จะเป็นผู้สนับสนุนหลัก ‘Global Tyre Partner’ สำหรับสโมสรฟุตบอลระดับโลกนี้

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/news/home/20160908005683/en/

(Zlatan Ibrahimovic and Wayne Rooney) Apollo Tyres is now the 'Global Tyre Partner' for Manchester United (Photo: Business Wire)

(Zlatan Ibrahimovic and Wayne Rooney) Apollo Tyres is now the ‘Global Tyre Partner’ for Manchester United (Photo: Business Wire)

http://mms.businesswire.com/media/20160908005683/en/543357/5/Zlatan_Ibrahimovic_and_Wayne_Rooney%29_Apollo_Tyres_is_now_the_%27Global_Tyre_Partner%27_for_Manchester_United.jpg?download=1
(Zlatan Ibrahimovic และ Wayne Rooney) Apollo Tyres ขณะนี้เป็นผู้สนับสนุนหลัก ‘Global Tyre Partner’ สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

การร่วมมือกัน 3 ปีแรกที่เริ่มต้นที่ประเทศอินเดียและอังกฤษในเดือนสิงหาคม 2013 ได้รับการขยายออกไปกว่า 100 ประเทศ ซึ่งในห้วงเวลานั้น การร่วมมือกันได้ประสบผลสำเร็จในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับแบรนด์ Apollo ในตลาดหลักที่สำคัญต่างๆ รวมถึงอินเดีย ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกา การที่ได้เข้าถึงในเสาหลักทางธุรกิจต่างๆ ซึ่งรวมถึงการโฆษณา การสร้างความผูกพันธ์กับลูกค้า การขายและ CSR ได้ทำให้เรื่องราวของแบรนด์ Apollo Tyres ได้เข้าถึงแพลตฟอร์มการสื่อสารต่างๆ มากมาย
– การริเริ่มด้าน CSR เช่นการสร้างสนามฟุตบอล ‘Go The Distance’ 2 แห่ง ซึ่งสร้างจากยางรีไซเคิลในอินเดียและอังกฤษ และจัดแคมป์ฟุตบอล 1 สัปดาห์ในอินเดียโดยจัดร่วมกับโรงเรียนฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
– การสร้างความผูกพันธ์กับลูกค้า ซึ่งเป็นแคมเปญดิจิทัล เช่น ‘Apollo Challenges’ และ ‘No Shortcuts’
– โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าที่สร้างขึ้นเกี่ยวกับการร่วมมือกัน ซึ่งช่วยให้ Apollo Tyres ได้ขยายเครือข่ายดีลเลอร์
– การผลิตสินค้าตามสั่งของลูกค้า – เป็นการเปิดตัวของยางรถยนต์รุ่นพิเศษของ Apollo และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอินเดีย ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอังกฤษ
– แคมเปญโฆษณาหลากหลายช่องทาง ‘There are no shortcuts’

ในการขยายการร่วมมือเป็นโกลบอลพาร์ทเนอร์นั้น Marco Paracciani ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดของ Apollo Tyres จำกัด กล่าวว่า “การร่วมมือกัน 3 ปีกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้น ได้ช่วยในการขยายแผนธุรกิจของเราโดยเฉพาะในอินเดีย ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกา แคมเปญที่หลากหลายของเราได้ช่วยเราในการเชื่อมต่อกับคนหนุ่มสาว เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ Apollo และสร้างฐานลูกค้าใหม่ในภูมิภาคเหล่านี้ เราเชื่อว่าการร่วมมือกันเป็นโกลบอลพาร์ทเนอร์นี้จะช่วยให้เราสามารถวางแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของเราไปในใจของผู้บริโภคได้ทั่วทุกภูมิภาค เพิ่มเติมจากการเป็นที่พบเห็นของแฟนๆ ของสโมสรฟุตบอลกว่า 659 ล้านคน”

กรรมการผู้จัดการแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กรุ๊ป Richard Arnold กล่าวว่า “กว่า 3 ปีที่ผ่านมา พวกเราต่างประทับใจในการที่ Apollo ได้รับโอกาสต่างๆ มากมายหลังจากที่จับมือกับเรา พวกเขาได้เห็นและประสบโดยตรงว่าสามารถประสบความสำเร็จอะไรได้บ้างจากการทำงานร่วมกับเรา ซึ่งนั่นรวมถึงการที่ทำให้แบรนด์ Apollo ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ได้มีจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วยในประเทศต่างๆ ที่มากขึ้น และผมก็รู้สึกยินดีที่จะกล่าวว่าวันนี้เส้นทางการเดินทางของมันได้มาถึงบทสรุปแล้วด้วยการที่ Apollo เข้ามาเป็นครอบครัวของเราโดยการเป็นโกลบอลพาร์ทเนอร์ เราภูมิใจที่มีผู้ตามเรา 659 ล้านคน และตั้งตารอที่จะให้ Apollo Tyres สร้างความสัมพันธ์อันดีต่อไปกับฐานแฟนของเรา”

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160908005683/en/

ติดต่อ:
Apollo Tyres Ltd
ROHIT SHARAN, +91 124 2721000
rohit.sharan@apollotyres.com

แนะนำ BeatsX: หูฟังบลูทูธไร้สายแบบพรีเมียมรุ่นใหม่จาก Beats by Dr. Dre

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Thai Business News

http://www.thaibusinessnews.com/

 

คัลเวอร์ซิตี้, แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนส ไวร์)–7 กันยายน 2016

– แบรนด์ชั้นนำด้านเสียงเผยหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ Solo3 และ Powerbeats3
– คอลเล็กชั่นไร้สายตัวใหม่นี้ได้นำเอาชิพของ W1 Apple, บลูทูธ Class 1, อายุของแบตเตอร์รี่ที่ยาวนาน, ชาร์จเร็ว และให้ประสบการณ์เสียงสุดพรีเมียมที่เป็นลักษณะเด่นของ Beats

Beats by Dr. Dre (Beats) วันนี้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไร้สายตัวใหม่สุดล้ำ โดยขยายพอร์ตโฟลิโอพรีเมียมของแบรนด์ด้วยการเปิดไลน์ใหม่ของหูฟังไร้สายที่เรียกว่า BeatsX ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ที่ขายดี 2 รุ่นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีก คือ หูฟังไร้สายรุ่น Powerbeats3 และ Beats Solo3 โดยได้รวมเอาชิพของแอปเปิ้ล W1, บลูทูธ Class 1, ชาร์จเร็วขึ้น และคุณภาพเสียงสุดพรีเมียมที่แฟนของ Beats ทั่วโลกต่างคาดหวัง Beats นั้นก่อตั้งโดย Dr. Dre และ Jimmy Iovine และเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ Apple

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/20160907006808/en/

Beats by Dr. Dre's new collection of wireless products boasts integrated Apple W1 chip, Class 1 Bluetooth, extended battery life, Fast Fuel charge, and the premium sound experience that is now synonymous with Beats. (Graphic: Business Wire)

Beats by Dr. Dre’s new collection of wireless products boasts integrated Apple W1 chip, Class 1 Bluetooth, extended battery life, Fast Fuel charge, and the premium sound experience that is now synonymous with Beats. (Graphic: Business Wire)

BeatsX is an entirely new line of earphones, expertly designed to accommodate sophisticated audio advancements within its small form factor. (Graphic: Business Wire)

BeatsX is an entirely new line of earphones, expertly designed to accommodate sophisticated audio advancements within its small form factor. (Graphic: Business Wire)

Powerbeats3 Wireless takes one of the world’s best-selling wireless earphones to the next level. (Graphic: Business Wire)

Powerbeats3 Wireless takes one of the world’s best-selling wireless earphones to the next level. (Graphic: Business Wire)

Beats Solo3 Wireless is the next evolution of the already iconic Solo line of on-ear headphones. (Graphic: Business Wire)

Beats Solo3 Wireless is the next evolution of the already iconic Solo line of on-ear headphones. (Graphic: Business Wire)

http://mms.businesswire.com/media/20160907006808/en/543018/5/B3-FAMILY.jpg?download=1
Beats by Dr. Dre คอลเล็กชั่นใหม่นี้ได้เอาชิพของ W1 Apple, บลูทูธ Class 1, อายุของแบตเตอร์รี่ที่ยาวนาน, ชาร์จเร็ว และให้ประสบการณ์เสียงสุดพรีเมียมที่เป็นลักษณะเด่นของ Beats (กราฟิค: บิสิเนส ไวร์)

“Beats ใส่ใจในการมอบประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีที่สุด” Luke Wood ซึ่งเป็นประธานของ Beats กล่าว “ขณะนี้ไม่ว่าเราจะเสพสื่ออะไรต่างก็มีเรื่องเสียงเข้ามาเกี่ยวข้อง และสิ่งสำคัญคือการมีคุณภาพเสียงที่เหนือระดับ ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา เราได้มอบการออกแบบที่ดี นวัตกรรม และเสียงที่คุณจะสามารถได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้ผลิตสื่อนั้นๆ ต้องการที่จะให้มันเป็น”

BeatsX
BeatsX เป็นไลน์ใหม่ล่าสุดของหูฟังที่ได้รับการออกแบบอย่างมืออาชีพเพื่อยกระดับของคุณภาพเสียงสุดล้ำรวมอยู่ในหูฟังขนาดเล็ก การออกแบบที่เรียบง่าย รูปทรงที่ลื่นไหล ทำให้ BeatsX มีน้ำหนักเบามากและมีขนาดเล็กจนแทบสังเกตไม่เห็นเมื่อใช้งาน สามารถใช้ได้กับ iOS และ Android ซึ่ง BeatsX ฟีเจอร์บลูธูท Class 1 สำหรับการเชื่อมต่อที่ดีเยี่ยม สำหรับผู้ใช้ iOS10 ชิพของ Apple W 1 ให้การเชื่อมต่อบลูทูธอย่างง่ายดายเพียงขั้นตอนเดียวและเพิ่มความสามารถด้วยการเปลี่ยนเครื่องใช้งานที่เชื่อมต่อด้วย iCloud อย่างไร้รอยต่อ BeatsX ยกมาตรฐานใหม่ให้กับการใช้งานแบตเตอร์รี่อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยฟังก์ชั่น Fast Fuel ซึ่งสามารถใช้งานได้ 2 ชั่วโมงจากการชาร์จแบตเตอร์รี่เพียง 5 นาที และใช้ได้ 8 ชั่วโมงจากการชาร์จ 45 นาทีโดยการชาร์จจากสาย Lightning เคเบิล ในส่วนของ RemoteTalk จะช่วยให้คุณสามารถโทรศัพท์ ฟังเพลง หรือใช้ Siri สายเคเบิล Flex-Form และทางเลือกในการใช้จุกหูฟัง หรือ wingtip ที่ให้ความยืดหยุ่นพร้อมทั้งปลอดภัยและสะดวกสบายในการใช้งาน เมื่อคุณไม่ได้ใช้งานหูฟังของคุณ หูฟังที่เป็นแม่เหล็กจะช่วยให้ไม่มีสายพันกันที่คอ และสามารถม้วนเก็บในกล่องอย่างง่ายดาย

Powerbeats3 Wireless
Powerbeats3 Wireless ยกระดับหูฟังขายดีระดับโลกไปอีกขั้นหนึ่งอย่างแท้จริง องค์ประกอบต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นนั้นทำให้ใช้งานได้อย่างกระชับและให้ประสบการณ์ทางเสียงที่ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ Fast Fuel สามารถทำให้ใช้งานได้ 1 ชั่วโมงหลังจากการชาร์จเพียง 5 นาทีโดยใช้สายเคเบิลไมโคร USB ที่ให้มา เมื่อชาร์จเต็มแล้ว หูฟังที่กันเหงื่อและกันน้ำนี้สามารถใช้งานได้ 12 ชั่วโมง และที่เพิ่มขึ้นมาคือการใช้บลูทูธ Class 1 และ RemoteTalk ที่ทำให้คุณสามารถโทรศัพท์ ฟังเพลง และใช้ Siri ได้

Beats Solo3 Wireless
Beats Solo3 Wireless เป็นวิวัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของไลน์ Solo ที่เป็นที่นิยมระดับไอคอนสำหรับหูฟัง โดยสินค้าใหม่นี้สามารถใช้งานได้ 40 ชั่วโมงเนื่องจากประสิทธิภาพของชิพ Apple W1 และบลูทูธ Class 1 คุณสามารถควบคุมหูฟัง ให้โทรศัพท์ ฟังเพลง หรือใช้งาน Siri ได้ และ Fast Fuel ช่วยให้คุณใช้งานได้ 3 ชั่วโมงหลังจากการชาร์จ 5 นาทีโดยใช้สายเคเบิลไมโคร USB Beats Solo3 Wireless ยังคงคุณภาพเหมือนรุ่นก่อนๆ ด้วยการออกแบบเสียง อุปกรณ์เชื่อมต่อ และความทนทาน ที่ฟีเจอร์หูฟังที่ยืดหยุ่น หมุนได้ 360 องศา และตัดเสียงรบกวน เยี่ยมชม apple.com สำหรับราคาและช่องทางจัดจำหน่าย

เกี่ยวกับ Beats
Beats by Dr. Dre (Beats) เป็นแบรนด์เกี่ยวกับเสียงชั้นนำ ที่ก่อตั้งในปี 2006 โดย Dr. Dre และ Jimmy Iovine จากการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านหูฟังและลำโพงคอนซูเมอร์แบบพรีเมียม Beats ได้แนะนำเจเนอเรชั่นใหม่ของความบันเทิงด้านเสียงระดับพรีเมียมสู่วงการ ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ช่วยให้สามารถนำเอาพลัง ความรู้สึก และความตื่นเต้นของเสียงที่อัดในสตูดิโอกลับมา มอบประสบการณ์การฟังให้กับคนรักเสียงเพลงทั่วโลก Beats เป็นของ Apple Inc. ในเดือนกรกฎาคม 2014

Beats by Dr. Dre, Beats, Fast Fuel, Powerbeats, RemoteTalk และ Solo เป็นเครื่องหมายการค้าของ Beats Electronics, LLC. Apple, Lightning และ Siri เป็นเครื่องหมายการค้าของ Apple Inc. ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่นอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของผู้นั้น

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160907006808/en/

ติดต่อ:
Beats by Dr. Dre
Sarah Joyce, +1-310-795-4757
sarah_joyce@apple.com
หรือ
Jessica Bass, +1-310-895-6508
jessica_bass@apple.com