https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/589366

ดอยอินทนท์ แตะ 10 องศา ชวน ท้าลมหนาว ที่กิ่วแม่ปาน สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ 1 พ.ย.

17 ต.ค. 2567

หนาวแล้ว! “ดอยอินทนท์” อุณหภูมิแตะ 10 องศา เตรียม สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ที่ กิ่วแม่ปาน 1 พฤศจิกายนนี้ ท้าลมหนาว ชมทะเลหมอก รับแสงแรกของวัน

จากการที่ทาง กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. 2567 ว่า จะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย ประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ตุลาคม 2567 นี้ และยาวไปถึงปลายเดือน กุมภาพันธ์ 2568 โดยการเข้าสู่ฤดูหนาวก็ทำให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยกำลังจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ภาคเหนือในจังหวัดเชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งก็เริ่มมีอากาศที่เย็นลง ซึ่งทำให้เริ่มมีนักท่องเที่ยวทยอยขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวแล้ว 

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมียอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ศึกษาธรรมชาติในป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ปกคลุมด้วยเมฆหมอก และชื่นชมพรรณไม้สวยงาม ก็มีนักท่องเที่ยวไปท้าลมหนาว สวมเสื้อแขนยาวเพิ่มความอบอุ่น ไปยืนรอถ่ายรูปแสงแรกของวันกันอย่างคึกคัก 

สำหรับบรรยากาศเช้าวันที่ 17 ต.ค. 2567 เวลา 7.00 น. ยอดดอยและกิ่วแม่ปานท้องฟ้าเปิด คุณภาพอากาศดีมาก อุณหภูมิต่ำสุด ยอดดอย 10 องศาเซลเซียส กิ่วแม่ปาน 12 องศาเซลเซียส ที่ทำการ 15 องศาเซลเซียส ยอดดอย ค่า pm 2.5= 0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ทำการ ค่า pm 2.5 = 0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 

นายเกรียงไกร ไชยพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเผยว่า ตอนนี้อากาศเย็นสบายกำลังพอดี เที่ยวสนุกไม่หนาวจนเกินไป ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นมาเที่ยวจำนวนมากโดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว ซึ่งมีทั้งชาวไทยและต่างชาติ ช่วงนี้นักท่องเที่ยวมีลุ้นที่จะได้เห็นทะเลหมอก เนื่องจากสภาพแวดล้อม อุณหภูมิ ความชื้นเหมาะสม ก็จะเห็นทะเลหมอกที่สวยงาม 

สำหรับเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน จะกลับมาเปิดในวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งฝนช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาธรรมชาติได้ฟื้นตัว ดอกไม้ ต้นไม้ ตอนนี้สวยงามอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก รอให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัส และในช่วงแรก ๆ ที่นักท่องเที่ยวไม่มากนัก มีลุ้นที่จะเห็น กวางผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนของประเทศไทยและอนุสัญญา CITES จัดไว้ในบัญชีใกล้สูญพันธุ์ที่อาจจะออกมายืนโชว์ตัวบริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน 

อย่างไรก็ตามก็ขอให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสัมผัสอากาศเย็นสบายและชมทัศนียภาพอันงดงามของดอยอินทนนท์ได้ตลอดทั้งวัน โดยขอให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานฯ และรักษาความสะอาด เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติให้คงความสวยงามต่อไป ทางอุทยานฯ ขอเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังในการขับขี่รถขึ้นดอย แนะนำให้ใช้เกียร์ต่ำเพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/589248

เช็คเลย 17 จังหวัด แอ่วเหนือคนละครึ่ง แจกเงินเที่ยว 400 บาท

16 ต.ค. 2567

แจกเงินเที่ยว 400 บาท กับโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เริ่ม 1 พ.ย. 67 นำร่องในพื้นที่จังหวัดเชียงราย – เชียงใหม่ และอีก 17 จังหวัดภาคเหนือมีจังหวัดไหนบ้าง เงื่อนไขเป็นอย่างไรเช็คกันได้เลย!

กระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นฟูเชียงราย-เชียงใหม่ หลังน้ำท่วมอ่วมหนักจัดโครงการ  “แอ่วเหนือคนละครึ่ง”  เริ่ม 1 พ.ย. 67 เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในภาคเหนือตอนบน เร่งฟื้นฟู พื้นที่ประสบอุทกภัยให้เข้าสู่ภาวะปกติ โดยเปิดจังหวัดในด้านกิจกรรมรณรงค์การท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมๆกันในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ สาเหตุที่เริ่มในช่วงนั้นจะสอดคล้องกับเทศกาลท่องเที่ยวสำคัญของภาคเหนือ คือ งานลอยกระทง และเทศกาลงานฤดูหนาว

หากโครงการได้รับการตอบรับจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อขอพิจารณาเพิ่มเติมเป็น  17 จังหวัด

• เชียงราย
• น่าน
• พะเยา
• เชียงใหม่
• แม่ฮ่องสอน
• แพร่
• ลำปาง
• ลำพูน
• ตาก
• อุตรดิตถ์
• พิษณุโลก
• สุโขทัย
• เพชรบูรณ์
• พิจิตร
• กำแพงเพชร
• นครสวรรค์
• อุทัยธานี

เงื่อนไข แอ่วเหนือคนละครึ่ง

มาตรการนี้จะเปิดให้ประชาชนจำนวน 10,000 คนได้รับสิทธิ์การช่วยจ่ายจากรัฐบาล 400 บาทต่อทริป เมื่อมีค่าใช้จ่ายรวม 800 บาทต่อคน นักท่องเที่ยวจะจ่ายเองเพียง 400 บาท ซึ่งสามารถใช้ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่น โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และกิจกรรมในแหล่งท่องเที่ยว โครงการนี้จะใช้ระบบลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหรือคูปอง

• ตั้งเกณฑ์การใช้จ่ายไว้ 800 บาท
• ททท. ออกให้ครึ่งหนึ่ง 400 บาทต่อคนต่อทริป
• นักท่องเที่ยว จ่ายเอง 400 บาทต่อคนต่อทริป
• จำกัดจำนวน 10,000 สิทธิ์

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/589195

ชมความงาม “น้ำตกตาดจวง” ใจกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยงและภูทอง

15 ต.ค. 2567

ชมความงามของน้ำตกตาดจวง ใจกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยง ภูทอง ชมความงามของน้ำตกตาดจวง น้ำตกที่ซุกซ้อนในป่าที่อุดมสมบูรณ์ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยงและภูทอง จ.พิษณุโลก

14 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงนี้ผืนป่าหน้าฝน จะมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีระบบนิเวศที่สวยงาม เฉพาะน้ำตกต่างๆจะสวยงามแตกต่างกันไป และหลายพื้นที่ก็จะพบว่า มีน้ำที่เกิดใหม่ หรือ น้ำตกที่หลายคนยังไม่เคยสัมผัส โดยเฉพาะที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยง – ภูทอง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก มีน้ำตกตาดจวง ที่อยู่ห่างจากสํานักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยง – ภูทอง ระยะ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้า 3-4 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงนี้น้ำตกตาดจวง กำลังมีน้ำไหลสวยงามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์

สำหรับน้ำตกตาดจวง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่กลางป่า มีจํานวน 3 ชั้น แต่ละชั้นสูง 10 เมตร ชั้นบนสุดเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่เหมาะสําหรับการเล่นน้ำ  นอกจากนี้บริเวณน้ำตกตาดจวง ก็จะมีน้ำตกตาดลม เป็นน้ำตกลําน้ำสายเดียว กับน้ำตกตาดจวง แต่อยู่สูงขึ้นไปอีก 1.5 กิโลเมตร ตัวน้ำตกสูง 15เมตร เมื่อน้ำตกลงมาจะมีละอองน้ำกระจายเป็นวงกว้าง ทําให้บริเวณโดยรอบมีความขึ้นสูง มีพันธุ์ไม้นานาชนิดเหมาะแก่การศึกษาธรรมชาติ

รวมถึงยังมีน้ำตกหินลับพร้า มี 3 ชั้น ลดหลั่นกันลงมาเป็นสายยาว แต่ละชั้นสูง 10-15เมตร มีแอ่งเหมาะสําหรับเล่นน้ำอยู่ห่างจากน้ำตกตาดจวงขึ้นไป 400 เมตร น้ำตกห้วยทราย เป็นน้ำตกที่สูง 6 เมตร น้ำตกห้วยปูน มีลักษณะเป็นเนินหิน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยงและภูทอง ไม่ได้เปิดให้บริการด้านการท่องเที่ยวโดยตรง จึงไม่มีสิ่งอํานวยความสะดวกสําหรับนักท่องเที่ยว

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/589091

แก่งกระจานดาราเพียบ! วันหยุดยาว เสือดาว -​ กระทิง ออกมาโชว์ตัวต้อนรับ นทท.

14 ต.ค. 2567

แก่งกระจานดาราเพียบ! วันหยุดยาว ดาราเสือดาว -​ ดารากระทิง ออกมาโชว์ตัวต้อนรับนักท่องเที่ยว สิ่งนี้แสดงถึงความสำเร็จในการอนุรักษ์ผืนป่านั่นเอง

ช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ มีนักท่องเที่ยวพากันมาใช้บริการกางเต็นท์และศึกษาธรรมชาติในอุทยานฯ จำนวนมาก จากรายงานสถิติผู้ใช้บริการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เมื่อวันที่ 13 ต.ค.67 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเที่ยวชมธรรมชาติในพื้นที่ถึง 503 คน โดยเฉพาะบริเวณบ้านกร่าง

ความโดดเด่นของแก่งกระจานไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ในระหว่างนักท่องเที่ยวชื่นชมธรรมชาติ ได้ปรากฏว่า มีเสือดาว 1 ตัว ลักษณะยังอยู่ในช่วงเสือวัยรุ่น เดินออกมาจากชายป่า บริเวณ กม.13 ถนนมุ่งหน้าบ้านกร่าง นอกจากนี้ บริเวณสะพาน 1 ถนนมุ่งหน้าบ้านกร่าง ยังปรากฏมีฝูงกระทิง และฝูงหมูป่า ออกมากินโป่งบริเวณดังกล่าว ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมธรรมชาติและสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด สร้างความประทับใจแก่ครอบครัวนักท่องเที่ยวที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และหัวหน้าชุดพญาเสือ กล่าวว่า ในพื้นที่เราสามารถสังเกตสัตว์ป่าหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในผืนป่าแห่งนี้ ทั้งเสือดาว (Leopard) สัตว์ผู้ล่าขนาดกลาง มีลายจุดสวยงาม คล่องแคล่วว่องไวในการไล่ล่าเหยื่อ กระทิง (Gaur) สัตว์ใหญ่ที่มีลำตัวสีดำ เขาโค้งแหลม เป็นวัวป่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก หมูป่า (Wild boar) สัตว์กีบคู่ขนาดกลาง อาศัยเป็นฝูง ชอบหากินตามพื้นป่าและทุ่งหญ้า

และสัตว์อีกหลายชนิดซึ่งถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และเป็นสัตว์ที่ยังมีอยู่ในผืนป่าแก่งกระจาน ความหลากหลายของสัตว์ป่าเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทั้งแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การพบเห็นสัตว์ป่าเหล่านี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการอนุรักษ์และการจัดการพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่ทำให้สัตว์ป่าสามารถดำรงชีวิตและแพร่พันธุ์ได้อย่างปลอดภัย อีกด้วย

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,915 ตารางกิโลเมตร ในจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ด้วยสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายทั้งป่าดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ ทุ่งหญ้า และแหล่งน้ำ ทำให้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมของสัตว์ป่านานาชนิด ความสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย การทำงานอย่างทุ่มเทของเจ้าหน้าที่และความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวจะช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์นี้ให้คงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป

ที่มา: อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/589054

อุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์ พร้อมเปิดเกาะต้อนรับนักท่องเที่ยว 15 ต.ค. นี้

14 ต.ค. 2567

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จัดกิจกรรมใหญ่! รณรงค์เก็บขยะ เตรียมพร้อมเปิดเกาะต้อนรับนักท่องเที่ยว 15 ตุลาคม นี้

14 ตุลาคม 2567 -​ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ร่วมกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมทำความสะอาดใหญ่ บริเวณเกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ หมู่บ้านมอแกน และกองหินริเชลิว เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดการท่องเที่ยวในปีงบประมาณ 2568 โดยมีการจัดกิจกรรมเก็บขยะทั้งบนบกและใต้น้ำ เพื่อให้สภาพแวดล้อมของอุทยานฯ สวยงามและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดพังงา มีลักษณะเป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามัน เป็นหมู่เกาะแรกแห่งน่านน้ำทะเลอันดามันของไทยที่ไม่อยู่ติดกับชายทะเลฝั่งไทย อยู่ติดกับชายแดนไทย–พม่า ทางเหนือติดกับหมู่เกาะคริสตีของประเทศพม่า หมู่เกาะสุรินทร์มีพื้นที่ประมาณ 84375 ไร่ ร้อยละ 76 ของพื้นที่เป็นทะเล ส่วนที่เหลือเป็นแผ่นดิน ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะไข่ (เกาะตอรินลา) เกาะกลาง (เกาะปาจุมบา) เกาะรี (เกาะสต๊อก) และ 1 กองหินปริ่มน้ำ คือ กองหินริเชลิว เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 29 ของประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์นับว่ามีธรรมชาติที่สมบูรณ์ทั้งบนบกและในทะเล มีทั้งป่าดิบชื้น ป่าชายหาด ป่าชายเลนมาประจบกับแนวปะการัง แนวปะการังมีความสมบูรณ์ เหมาะสำหรับชมปะการังน้ำตื้น โดยกองหินริเชลิว เหมาะสำหรับดำน้ำลึก เป็นแหล่งสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติใต้ทะเล มีปลาหลายชนิด มีโอกาสพบฉลามวาฬ ช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยว

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่เพจอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เพื่อเตรียมตัววางแผนการเดินทางมาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ได้ในช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 15 ตุลาคม 2567

ข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/589051

ฮีลใจชาวเชียงใหม่ แอ่วเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

14 ต.ค. 2567

ฮีลใจชาวเชียงใหม่ แอ่วเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ยกขบวนพากันมาได้ทั้งครอบครัว เช็ครายละเอียดเงื่อนไขได้ที่นี่

กิจกรรมฮีลใจชาวจังหวัดเชียงใหม่ แอ่วเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี … ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย นักท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ยกขบวนพากันมาทั้งครอบครัว คึกคักม๊ากกก นักท่องเที่ยวถ้ายังไม่มีแพลนไปที่ไหน อย่าลืมพาครอบครัวมาเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีกันนะ มีกิจกรรมดีๆ อัดแน่นให้ชมตลอด

กิจกรรมเที่ยวฟรีเริ่ตั้งแต่วันที่ 13 – 19 ตุลาคม 2567 ลงทะเบียนรับบัตรเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น. โดยแสดงหลักฐานยืนยันภูมิลำเนาจังหวัดเชียงใหม่ ณ จุดคีออส Marketing ฝ่ายการตลาด สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี 

เงื่อนไข

– สำหรับชาวไทยที่พำนักอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่แสดงหลักฐาน เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ สูติบัตร ทะเบียนบ้าน หรือหลักฐานแสดงภูมิลำเนาการอาศัยที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่

– จำกัดการรับบัตรเข้าชม 1 ท่าน ต่อ 1 สิทธิ์

– ไม่สามารถใช้ร่วมกับกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ ได้

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/588997

กระตุ้นท่องเที่ยวหลังน้ำลด จัดแพ็กเกจ “แอ๋วเหนือ คนละครึ่ง” เริ่ม 1 พ.ย.นี้

13 ต.ค. 2567

เริ่ม 1 พ.ย.นี้ เก็บกระเป๋าไปเที่ยวเหนือกัน กับโครงการ “แอ่วเหนือ คนละครึ่ง” กระตุ้นการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจภาคเหนือหลังน้ำลด

ศปช. เตรียมกำหนดแผนฟื้นฟูในทุกมิติ ด้านการท่องเที่ยวเตรียมจัดงาน แอ่วเหนือ กระตุ้นเศรษฐกิจหลังฟื้นฟูเชียงราย-เชียงใหม่กลับคืนเกือบ 100% คาดต้นเดือนหน้าเปิดแคมเปญได้ โดยมีการประชุมได้หารือถึงแนวทางการสนับสนุนด้านต่างๆ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในภาคเหนือตอนบน เร่งฟื้นฟู พื้นที่ประสบอุทกภัยให้เข้าสู่ภาวะปกติ โดยเปิดจังหวัดในด้านกิจกรรมรณรงค์การท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมๆกันในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้ รัฐบาลก็จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกมิติทันที โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย โดยเปิดรับฟังข้อเสนอและการขอรับความช่วยเหลือจากผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนใหญ่ขอให้รัฐบาลช่วยพิจารณาเรื่อง อัตราดอกเบี้ยต่ำหรือ“ Soft Loan ”เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมทั้งจัดแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้ โดยทุกข้อเสนอรัฐบาลจะเร่งพิจารณาเพื่อให้การเยียวยาตรงจุดมากที่สุด 

5 ที่ผู้ประกอบการได้เสนอแนวทางการสนับสนุนจากภาครัฐ 

1. มาตรการด้านการเงินและการคลัง เพื่อบรรเทาภาระทางการเงิน เสนอให้มีการสนับสนุน Soft Loan สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เช่น Homestay รวมถึงการลดค่าน้ำค่าไฟ และการลดภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน และภาษีป้าย เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ

2. มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว เสนอให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในด้าน MICE และ Sport Tourism รวมถึงจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วง High season ขยายเส้นทางบินจากตลาดระยะไกล เช่น ยุโรป ตะวันออกกลาง และอเมริกา นอกจากนี้ยังสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงสุขภาพ และเชิงนิเวศ เพื่อนำไปสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในพื้นที่

3. มาตรการด้านสาธารณูปโภค เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้มาเยือน เสนอให้สนับสนุนน้ำประปาสะอาด จัดการระบบโทรศัพท์ที่ครอบคลุม และจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าช่วยเหลือประชาชนในราคาย่อมเยา

4. มาตรการด้านการบริหารจัดการและป้องกันภัยพิบัติ เสนอให้มีแผนป้องกันภัยพิบัติและการวางแผนฉุกเฉิน รวมถึงการปรับปรุงระบบระบายน้ำและการบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำซาก

5. มาตรการช่วยเหลือบุคลากรด้านการท่องเที่ยว เสนอให้ออกใบแทนสำหรับมัคคุเทศก์ที่บัตรสูญหาย และเพิ่มทักษะในการบริหารจัดการและรับมือกับภัยพิบัติ รวมถึงการขนย้ายนักท่องเที่ยวในสถานการณ์ฉุกเฉิน

สำหรับมาตรการช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยวที่จะพิจารณาเสนอต่อทางรัฐบาล คือโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เสนอแผนฟื้นฟูโดยมีกิจกรรมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว “เหนือ…พร้อมเที่ยว” ในวันที่ 1 พ.ย. 67 และแคมเปญ “แอ่วเหนือ คนละครึ่ง” ที่มอบส่วนลดสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึงการจัดกิจกรรมการตลาดผ่าน influencer ระดับนานาชาติ โครงการนี้ยังรวมไปถึง 17 จังหวัดภาคเหนือ   โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้วางแผนจัดเตรียมโครงการไว้ จะสนับสนุน 400 บาท จาก 800 บาทต่อคนต่อทริป ในจำนวน 10,000 คน  ซึ่งจะเป็นโครงการนำร่องเร่งด่วน สำหรับแพ็คเกจส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ และหากเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการได้อย่างเห็นผลชัดเจน ก็จะได้ขยาย และยกระดับขึ้นไปอีก

ขณะที่ กรมการท่องเที่ยว (กทท.) ได้สรุปแนวทางการช่วยเหลือโดยจะสำรวจความเสียหายเพื่อวางแผนฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว สนับสนุนการออกใบแทนบัตรมัคคุเทศก์ ลดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง และผลักดันการจัดตั้งศูนย์บริการครบวงจร One Stop Service สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นมาตรการที่ช่วยสนับสนุนทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวควบคู่กันไป เพื่อที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาคเหนือให้กลับคืนมา 

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/588924

นักท่องเที่ยว แห่สัมผัสลมหนาว ที่ “ภูกระดึง” อุณหภูมิลดลง แตะ 16 องศาฯ

12 ต.ค. 2567

นักท่องเที่ยว กว่า 2,000 คน แห่สัมผัสลมหนาว ชมทะเลหมอก ที่ “ภูกระดึง” จ.เลย ช่วง วันหยุดยาว อุณหภูมิลดลง แตะ 16 องศาฯ

วันหยุดยาว นักท่องเที่ยว เกือบ 2,000 คน แห่สัมผัสหนาวบน ภูกระดึง เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2567 จ.เลย มีลักณะอากาศเย็นลง มีหมอกหนาในตอนเช้า โดยเฉพาะตามยอดเขาและในเขตอุทยานแห่งชาติต่างๆในจังหวัดเลย สภาพอากาศ อุณหภูมิเริ่มลดลง อย่างอุทยานแห่งชาติภูกระดึง 16.5 องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติภูเรือ 15.0 องศาเซลเซียส เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง(ภูเรือ) 14.0 องศาเซลเซียส ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูง(ภูเรือ) 17.5 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศทั่วไปในจังหวัดเลย มีอากาศหนาว อ.เมือง อุณหภูมิลดลง 22.2 และในช่วงของเดือนตุลาคม เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ภูมิอากาศตามยอดภูต่างๆ มักจะเกิดทะเลหมอก 

นายสำเร็จ ภูแสนศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวว่า ในช่วงเช้าบน ภูกระดึง มีหมอกมากในพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุดยอดภูกระดึงวันนี้ 16.5 องศาเซลเซียส จึงทำให้ตามยอดภูตามผาต่างๆ เกิดทะเลหมอกให้เห็น และต้นไม้เขียวขจี ดอกไม้ป่ากำลังชูช่อต้อนรับนักท่องเที่ยว และในช่วง วันหยุดยาว เนื่องจากในวันที่ 12-13 ต.ค. 2567 เป็นวันหยุดราชการต่อเนื่อง และมีนักท่องเที่ยววางแผนที่จะเข้ามาท่องเที่ยว และในวันนี้มีนักท่องเที่ยวสะสม 500 กว่าคน และช่วงเช้านี้มีนักท่องเที่ยวที่จองผ่าน App QueQ และ Walk in กว่า 1,300 กว่าคน คาดคืนนี้น่าจะมีนักท่องเที่ยวเกือบ 2,000 คน ที่ขึ้นชมธรรมชาติบนภูกระดึง 

ทั้งนี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในวันดังกล่าว อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จึงจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการบริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจะเดินทาง มาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเป็นจำนวนมาก เพื่อสัมผัสกับความสวยงามบนยอดภูกระดึง 

ภูกระดึง

ซึ่งบน ยอดภูกระดึง มีจุดไฮไลท์ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของ ภูกระดึง ที่ผาหล่มสัก ได้ขึ้นชื่อในเรื่องของการชมพระอาทิตย์ตก ที่มีเอกลักษณ์และสวยงามมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย และ “ผานกแอ่น” ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก อันงดงามบนยอดภูกระดึงในช่วงเช้า และในช่วงนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว บนยอดภูกระดึงยังมีเส้นทางสายน้ำตก อาทิ น้ำตกโผนพบ น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกถ้ำสอเหนือ หรือนักท่องเที่ยวเตรียมขึ้นมาสัมผัส 

สามารถสอบถามเพิ่มเติม : เพจอุทยานแห่งชาติภูกระดึง – Phukradueng National Park หรือโทร. 042-810833 , 042-810834 

ภูกระดึง

ภูกระดึง

ภูกระดึง

โดย : นายทิตย์อุทัย พิลาชัย 

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/588815

หนองคาย พร้อมรับ นักท่องเที่ยว งานออกพรรษา – บั้งไฟพญานาคโลก 14 – 25 ต.ค. 2567

11 ต.ค. 2567

หนองคาย พร้อมรับ นักท่องเที่ยว จำนวนมาก งานประเพณีออกพรรษา และ บั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2567 วันที่ 14 – 25 ต.ค. 2567

ณ ลานวัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณพญานาคคู่ หน้าวัดลำดวน ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ได้มีการแถลงข่าวการจัด งานประเพณีออกพรรษา และ บั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2567 ที่มีการจัดงานฯ ตั้งแต่วันที่ 14 – 25 ตุลาคม 2567 การแถลงข่าวในครั้งนี้เพื่อเป็นการยืนยันการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ทั้งด้านการจราจรและการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว การเตรียมพร้อมระบบความช่วยเหลือ การรักษา และส่งตัวผู้ป่วย/ผู้บาดเจ็บ กิจกรรมและความพร้อมของกิจกรรมที่จัดในระดับพื้นที่อำเภอ และกิจกรรมประชาสัมพันธ์การจัดงานฯ 

ซึ่งปีนี้คาดว่าปรากฏการณ์ “บั้งไฟพญานาค” จะเกิดขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ที่เป็นวันออกพรรษา ที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาชมปรากฏการณ์ “บั้งไฟพญานาค” เป็นจำนวนมาก ก่อนการแถลงข่าวก็จัดให้มีการเสวนาความศรัทธาองค์พญานาคสองฝั่งโขง ประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก โดยเหล่าคนดังที่มีความเชื่อ และ ศรัทธา ต่อองค์พญานาค และหลังการแถลงข่าวได้มีพิธีเปิด Kick off การท่องเที่ยวประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2567 อีกทั้งยังจัดให้มีการแสดงแสงเสียง ชุด “พุทธบูชาลีลานาคราช” อีกด้วย 

จ.หนองคาย ได้กำหนดจัดงาน “ประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก” ประขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาชมปรากฏการณ์ “บั้งไฟพญานาค” ในคืน วันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2567 โดยในปีนี้จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 14 – 25 ตุลาคม 2567 ใน 6 อำเภอที่ติดกับแม่น้ำโขงประกอบด้วย อ.สังคม , อ.ศรีเชียงใหม่ , อ.ท่าบ่อ , อ.เมือง , อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี 

งานออกพรรษา

ซึ่งมีการจัดกิจกรรมหลากหลายที่เป็นอัตลักษณ์ วัฒนธรรมประเพณีของชาวหนองคายอย่างแท้จริง อาทิเช่น 

• พิธีบวงสรวงและรำบวงสรวงพญานาค 
• การลอยเรือไฟบูชาพญานาค 
• การลอยกะโป๋ไฟกลางแม่น้ำโขง 
• การแสดง แสง สี เสียง ที่เป็นการแสดงตำนานเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาค 
• พิธีบวงสรวงเจ้าแม่สองนาง 
• พิธีบวงสรวงพระธาตุกลางน้ำ 
• การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นกระทงกาบกล้วย 
• การแสดงประติมากรรมไม้ไผ่ 
• กิจกรรมถนนอาหารลานดนตรี 
• กิจกรรมถนนคนเดิน 
• การแข่งเรือยาว 
• การลอยกะโป๋ไฟกลางแม่น้ำโขง 
• การประกวดธิดานาคี เทพบุตรนาคา 
• กิจกรรมตักบาตรเทโวโรหนะ 
• การแสดงศิลปวัฒนธรรม 
• กิจกรรมอื่นๆ อีกหลากหลายกิจกรรม 

นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย บอกว่า การจัดงานฯในปีนี้ชาวหนองคายได้มีการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวในจังหวัดหนองคายในช่วงงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2567 ที่จะเริ่มมีการจัดงานตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม จนถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ทุกอำเภอก็จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 

งานออกพรรษา

กิจกรรมที่จัดมีหลากหลายกิจกรรม เช่น การบวงสรวงและรำบวงสรวงพญานาค การลอยกระทงกาบกล้วย การลอยกะโป๋ไฟ และการตักบาตรเทโวโรหนะ เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ชาวจังหวัดหนองคายมีความตั้งใจทำเป็นอย่างมากเพื่อเป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาท่องเที่ยวที่จังหวัดหนองคายในช่วงออกพรรษา จึงอยากจะเชิญชวนนักเที่ยวมาท่องเที่ยวที่จังหวัดหนองคายตลอดระยะเวลาที่จังหวัดหนองคายมีการจัดงานฯ

ในส่วนของการจุดพลุไฟในช่วง ออกพรรษา ที่มีการจัดงานนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ก็ได้มีการเน้นย้ำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย อยากให้ช่วงออกพรรษาที่มีการจัดงานฯ เป็นการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็จะได้มีการเข้มงวดกวดขัน แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้ระมัดระวังในเรื่องนี้ 

งานออกพรรษา

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้กล่าวในตอนท้ายเกี่ยวกับที่มีการคาดการณ์ว่าปีนี้จะเกิดปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาคมากกว่าหลายปีที่ผ่านมาว่า หลายๆ คนได้พูดถึงปริมาณน้ำโขงในปีนี้ว่า มีปริมาณน้ำค่อยข้างสูง รวมไปถึงมีตะกอนในแม่น้ำโขงเป็นจำนวนมาก ที่ในทางวิทยาศาสตร์ว่าอาจจะทำให้เกิดปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาคมากกว่าทุกปี แต่สิ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อ ซึ่งตนคิดว่าเรามาร่วมชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคกัน ยังเป็นการสะสมบุญบารมีกัน หากปีนี้ยังไม่เห็นปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ก็อาจจะต้องมาในปีถัดไป ซึ่งจังหวัดหนองคายจะมีการจัดงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลกอย่างยิ่งใหญ่และต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เป็นกิจกรรมสำคัญให้นักท่องเที่ยวได้มาท่องเที่ยวและเฉลิมฉลองช่วงออกพรรษาที่จังหวัดหนองคาย 

ทางด้าน พ.ต.อ.สกล สิทธิวิชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ในเรื่องการจัดการจราจรนั้น ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ขอยืนยันว่าตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้มีการบูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 1,000 คน พร้อมยุทโธปกรณ์ ในการที่จะดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวและชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคายอย่างเต็มที่

โดย : จุมพล

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/588705

ชมแสงดาวยามค่ำคืน ล่าทางช้างเผือกป่าหินงาม อุทยานท้องฟ้ามืด

10 ต.ค. 2567

เมื่อทางช้างเผือกผาดผ่านท้องฟ้า ชมแสงดาวยามค่ำคืน ล่าทางช้างเผือกป่าหินงาม เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 จ. นครราชสีมา

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย ประเภทอุทยานท้องฟ้ามืด จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องการมหาชน) NARIT ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เมื่อปี พุทธศักราช 2565

.

อุทยานท้องฟ้ามืด (Dark Sky Park) คือ เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ที่รักษาและสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้มีความมืดที่เหมาะสม ด้วยวิธีการใช้แสงสว่างอย่างระมัดระวัง เหมาะสมต่อการใช้งาน ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางแสง (Light Pollution) ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ การสิ้นเปลืองพลังงาน ความปลอดภัย และการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเชิงดาราศาสตร์ ที่ช่วยเผยแพร่และสร้างความตระหนักถึงผลกระทบของมลภาวะทางแสงแก่ประชาชน

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม มีค่าความมืดท้องฟ้าอยู่ในระดับที่สามารถสังเกตเห็นวัตถุท้องฟ้า เช่น ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ กลุ่มดาว กระจุกดาว เนบิวลา หรือทางช้างเผือกได้ด้วยตาเปล่า

ที่มา  ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช