Skip to primary content
Skip to secondary content

SootinClaimon.Com

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย2 [SartKasetDinPui2] : รวบรวม ข้อมูล เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เกษตร ดิน น้ำ ปุ๋ย

SootinClaimon.Com

Main menu

  • Home
  • KU23-2506
  • ข้อคิดความเห็น
  • ตระกูลคล้ายมนต์
  • ผมเองครับ
  • ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1

Category Archives: ข่าว Like สาระ

Post navigation

← Older posts
Newer posts →

กรุ๊ปบิ๊กไบค์มาเลย์มาปัตตานีครั้งแรกเผยประทับใจ ‘มัสยิดโบราณกรือเซะ’

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713520

กรุ๊ปบิ๊กไบค์มาเลย์มาปัตตานีครั้งแรกเผยประทับใจ 'มัสยิดโบราณกรือเซะ'

กรุ๊ปบิ๊กไบค์มาเลย์มาปัตตานีครั้งแรกเผยประทับใจ ‘มัสยิดโบราณกรือเซะ’

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 10.09 น.

วันที่ 25 กพ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดปัตตานีเริ่มคึกคักเป็นพิเศษ หลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้าเดินทางในประเทศไทย ทำให้ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศเข้ามาเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเป็นจำนวนมากไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียจะนิยมมาเที่ยวชมแหล่งโบราณสถาน ศาสนะที่สำคัญเช่น มัสยิดโบราณกรือ วัดช้างไห้ เป็นต้น

ล่าสุดคณะ SALAM TAIPING BIKER 30 คนจากรัฐเปรัต รัฐปีนัง กลันตันของมาเลเซียได้นำบิ๊กไบท์ผ่านชายแดนปาดังเบซามาเยี่ยมมัสยิดกรือเซะ ก่อนแวะพักค้างคืนที่โรงแรม CS ปัตตานี โดยมีกำหนดการเดินทางท่องเที่ยว 2 วัน ภายใต้โครงการ “AMAN ท่องเที่ยวสันติสุข” คณะมีกำหนดการท่องเที่ยวในพื้นที่ปัตตายีแล้วจะมุงหน้าไปพื้นที่นราธิวาส ก่อนเดินทางกลับผ่านด่านชายแดนสุไหงโก-ลกของไทย สู่รัฐกลันตันประเทศมาเลเซีย

นายมูฮำหมัดรุสลัน อุสมาน หนึ่งในนักท่องเที่ยวได้เปิดใจว่า รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งยวดที่ไดัเดินทางมาปัตตานีเป็นครั้งแรก แม้จะได้เดินทางไปทั่วประเทศไทย แต่ไม่สามารถเทียบกับความรู้สึกที่ได้มาดินแดนปัตตานี โดยเฉพาะได้มาสัมผัสกับมัสยิดโบราณกรือเซะ ที่ทรงคุณค่าทางจิตใจ ที่ผ่านมาตนได้เห็นผ่านสื่อทีวี วันนี้ตนได้เข้าไปละหมาดเป็นครั้งแรกของชีวิตของตน ทำให้รู้สึกความมีสายเลือดของบรรพบุรุษที่เคยเป็นคนที่นี่ได้พรากจากกันจากภัยสงคราม จึงอยากให้เปิดพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของปัตตานีมากกว่านี้เพื่อเราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศดีๆ กับพื้นที่ และเราชาวมาเลเซียพร้อมที่จะเข้าแวะเยี่ยม – 003

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

ททท.เตรียมจัดแคมเปญ ‘ฝรั่งเล่นห่วงยางแม่น้ำปาย’ ส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713516

ททท.เตรียมจัดแคมเปญ 'ฝรั่งเล่นห่วงยางแม่น้ำปาย' ส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน

ททท.เตรียมจัดแคมเปญ ‘ฝรั่งเล่นห่วงยางแม่น้ำปาย’ ส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 09.36 น.

ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน เผยกรณีฝรั่งเล่นห่วงยางได้มีการจัดระเบียบและเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด พร้อมเตรียมจัดแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อนภายใต้ “โครงการแม่ฮ่องสอน ผ่อนคลาย” ซึ่งนำจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมาเป็นจุดขาย ผนวกกับ Food (อาหารท้องถิ่น) และ Festival (กิจกรรม เทศกาล งานประเพณี) ดึงจุดแข็งให้เป็นจุดขาย

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ว่าที่ร้อยตรี ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการให้บริการห่วงยางให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 5 รายโดยมีการให้บริการให้กับนักท่องเที่ยวในราคารายละ 200-400 บาทแล้วแต่แพคเกจที่เสริมเข้าไป ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องมีการจัดการ์ดให้การดูแลนักท่องเที่ยวจำนวน 1 คนต่อนักท่องเที่ยว 10 คน ซึ่งในแต่ละรอบของการล่องห่วงยาง แต่ละรายจะให้บริการนักท่องเที่ยวคราวละประมาณ 100 คนต่อเที่ยว ซึ่งเมื่อมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าไปใช้บริการเมื่อรวมกันจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก หลายร้อยคนต่อรอบ ทำให้มีการถ่ายคลิปไปเผยแพร่ในสื่อโซเชียลจนโด่งดัง

ปัจจุบันได้มีผู้ประกอบการไปลงทะเบียนกับสถานีตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนจำนวน 5 รายได้แก่ 1. Pai Authentic Travel ที่อยู่ 105 หมู่ 4 ต.ทุ่งยาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 58130 โทร. 09 0463 1039, 2.Magic Tubing ที่อยู่ 16/1 หมู่ 3 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 58130 โทร. 09 0467 0984, 3.เดือนเด่น พาเที่ยว ที่อยู่ 20/1 หมู่ 3 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 58130 โทร. 09 6992 6166,  4. บริษัท รีโวลูชั่น ปาย จำกัด ที่อยู่ 76 หมู่ 3 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 58130 โทร.09 8541 6546 และ 5.Back Trax Tour ที่อยู่16/1 หมู่ 3 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 58130 โทร.09 5716 8758 โดยผู้ประกอบการต้องควบคุมไม่ให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างการล่องห่วงยางน้ำปาย

เนื่องจากที่ผ่านมากิจกรรมล่องห่วงยางแม่น้ำปายได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทาง ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน ในฐานะหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยว และผู้ประสานงาน จึงได้จัดประชุมระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนภาคประชาชน ในรูปแบบสร้างการมีส่วนร่วมบริหารจัดการการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและสมดุลของมิติทางเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าให้แก่นักท่องเที่ยว สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจและกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนต่าง ๆ อย่างเป็นธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว รวมทั้งให้สังคมยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและมีความสุขร่วมกัน ตลอดจนเน้นการดูแลรักษา ฟื้นฟูทรัพยากรทางธรรมชาติ ให้คงอยู่สืบไป

ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอนยังกล่าวว่า สำหรับในช่วงฤดูร้อน ได้มีการหารือกับผู้ประกอบการ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวปาย ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐ-ภาคเอกชน ในการเตรียมปรับแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ตาม Theme 365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย

โดย ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน ร่วมกับภาคีเครือข่ายตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดจัดแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน ภายใต้ “โครงการแม่ฮ่องสอน ผ่อนคลาย” ซึ่งนำจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมาเป็นจุดขาย ผนวกกับ Food (อาหารท้องถิ่น) และ Festival (กิจกรรม เทศกาล งานประเพณี) ดึงจุดแข็งให้เป็นจุดขาย ประกอบด้วยการท่องเที่ยวในเชิงอาหารซึ่งมีความหลากหลายของอาหารท้องถิ่น และชาติพันธุ์ รวมทั้งอาหารจากนานาชาติที่แทบจะมีครบในอำเภอปาย รวมทั้งสถานประกอบการด้านสุขภาพและความงาม เช่น สปา ประกอบกับการนำจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ในเชิงวัฒนธรรม เช่น งานประเพณีปีใหม่ของชาติพันธุ์ที่นิยมจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม รวมทั้งงานประเพณีปอยส่างลองหนึ่งเดียวในโลก 

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่สนับสนุน ได้แก่ งานประเพณีแห่และสรงน้ำพระของอำเภอปายที่จะจัดขึ้นในวันที่ 13 เมษายน 2566 นี้ และยังมีกิจกรรมที่สร้างขึ้นใหม่ เช่น งานวันไหลสงกรานต์ที่จะจัดขึ้นครั้งแรกในอำเภอปาย วันที่ 20-21 เมษายน 2566 โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น กิจกรรมล่องห่วงยางแม่น้ำปาย กิจกรรมจัดโซนนิ่งถนนคนเล่นน้ำ อุโมงค์น้ำ การจำหน่ายอาหารพื้นเมืองสินค้าของที่ระลึกพื้นเมือง เชื่อมโยงกับกิจกรรมถนนคนเดิน ซึ่งจะทำให้สามารถดึงให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวและมีระยะเวลาพำนักในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น สร้างโอกาสในการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวและกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนต่างๆ ลดความเหลื่อมล้ำ และลดปัญหาการว่างงานหรือย้ายถิ่นฐานไปทำงานในเมืองหลัก ตามนโยบายของรัฐบาล 

โดยกำหนดพื้นที่อำเภอปายเป็น Hub ของการท่องเที่ยว และกระจายตัวไปตามพื้นที่ต่างๆ เนื่องจากความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว ทั้ง น้ำตก น้ำพุร้อน บ่อน้ำแร่ จุดชมวิว และมีกิจกรรมมากมาย ซึ่งจะตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่ม Digital nomad และกลุ่มทำงานแบบ Workation หรือกลุ่มทำงานแบบ Hybrid เข้ามาท่องเที่ยวพร้อมทำงานอยู่ในพื้นที่อำเภอปายมากขึ้น และมีระยะการพำนักยาวนานมากขึ้น – 003

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

‘ไฮโซแชมป์’ร่วมวงแฉอดีตดารา พ. เอี่ยวเว็บพนันดัง ยังลอยนวลอยู่ลอนดอน

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713513

'ไฮโซแชมป์'ร่วมวงแฉอดีตดารา พ. เอี่ยวเว็บพนันดัง ยังลอยนวลอยู่ลอนดอน

‘ไฮโซแชมป์’ร่วมวงแฉอดีตดารา พ. เอี่ยวเว็บพนันดัง ยังลอยนวลอยู่ลอนดอน

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 09.01 น.

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ หลัง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักธุรกิจชื่อดังได้เปิดหน้าออกมาแฉเครือข่ายพนันออนไลน์แฟนดาราอักษรย่อ ห. พร้อมเล่านิยายเรื่องหนึ่งที่มีชื่อว่าหนุ่มเศรษฐีเก๊ กับ ดาราสาวแสนสวย ทำเอาหลายคนเดาและพากันวิจารณ์รวมถึงหาคำตอบมากมายว่าดาราคนนั้นคือใครกันแน่

ล่าสุด ไฮโซแชมป์ จิรัฏฐ์ เพชรนันทวงศ์ โพสต์ไอจีสตอรี่ว่า ทั้งคุณชูวิทย์และคุณสนธิลาลากไส้ FIFA555 เปิดโปงกันขนาดนี้ แต่ปัจจุบันเว็บนี้ก็ยังเปิดให้เล่นการพนันกันอย่างไม่กลัวเกรง ล่าสุดเปิดเว็บพนันเพิ่มขึ้นอีกชื่อ BAZALOT ตำรวจไม่รู้ไม่เห็นข้อมูลเลยเหรอว่าใครคือนายทุนใหญ่ผู้อยู่บงการฟอกเงินของสลากออนไลน์

ทุกคนชี้เป้าชี้โพรงกันให้หมดแล้ว ถ้าจับเองได้คงไปจับแล้วล่ะครับ วานพี่ๆ ตำรวจช่วยตรวจสอบด้วยครับ ปัจจุบัน ไข่ จ. และหุ้นส่วน พ. (อดีตดารา) ยังคงลอยนวลเสวยสุขอยู่ลอนดอน รอให้เรื่องเงียบและรอผู้รับส่วยส่งสัญญาณให้กลับมาได้ #หรือกฎหมายประเทศนี้ไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว”

ขอบคุณภาพ : champ_fabrique

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

สกู๊ปแนวหน้า : มุมมองพรรคการเมือง สวัสดิการ‘ลูกจ้างงานบ้าน’

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713462

สกู๊ปแนวหน้า : มุมมองพรรคการเมือง  สวัสดิการ‘ลูกจ้างงานบ้าน’

สกู๊ปแนวหน้า : มุมมองพรรคการเมือง สวัสดิการ‘ลูกจ้างงานบ้าน’

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 06.00 น.

บรรยากาศการเมืองไทยช่วงนี้ต้องบอกว่าคึกคัก “นับถอยหลังสู่การเลือกตั้งใหญ่” หลังสภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 23 มี.ค. 2566 (รวมถึงอาจมีการยุบสภาก่อนหน้านั้น)ช่วงนี้ก็จะเห็นนักการเมืองพบปะประชาชนทั้งในระดับพื้นที่และการรับฟังเสียงสะท้อนจากคนกลุ่มต่างๆ ดังที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ (Homenet Thailand) เวทีสาธารณะ “นโยบายขายประกันสังคม มาตรา 33 ให้ครอบคลุมลูกจ้างทำงานบ้าน” เรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองผลักดัน “ลูกจ้างทำงานบ้าน” (หรือที่คนไทยคุ้นเคยกับคำเรียก “แจ๋ว”, “แม่บ้าน”, “คนรับใช้”) เข้าสู่ระบบประกันสังคม ม.33 ซึ่งก็มี 5 พรรคการเมืองส่งตัวแทนร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า คือเรื่องของ “เศรษฐกิจกิ๊ก (Gig Economy)” มาจาก
คำว่า “กิ๊กกะไบต์ (Gigabyte)” หมายถึงเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการทำงานผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น คนขี่มอเตอร์ไซค์รับ-ส่งอาหารที่รับงานผ่านแอปพลิเคชั่น ที่ผ่านมามีการเรียกร้องกันจนบริษัทแพลตฟอร์มเริ่มปรับตัว อาทิ มีการทำประกัน มีการให้กู้เงิน แต่ไม่ต้องการไปไล่บี้ด้วยการใช้กฎหมายบังคับ เพราะจะทำให้ความเป็นอาชีพอิสระ (Freelance) หายไป

ขณะที่ลูกจ้างทำงานบ้าน ที่พรรคเองก็มีการพูดคุยกัน ตนเสนอให้เป็น “ประกันสังคมมาตรา 40+” ซึ่งเป็นไปได้มากกว่าการผลักดันเข้ามาตรา 33 ที่จะต้องสู้กับคนอีกนับล้านครัวเรือน เพราะหากครัวเรือนนายจ้างแจ้งไม่ตรงก็จะมีโทษจำคุกและปรับ โดย ม.40+ จะมีสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างทำงานบ้านควรได้รับ เช่น คลอดบุตร บำนาญ ทุพพลภาพ ฯลฯ อย่างที่ ม.33 ได้รับ โดยให้ลูกจ้างทำงานบ้านลงทะเบียนผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ระบุชื่อนายจ้าง จากนั้นนายจ้างยืนยันว่าได้จ้างลูกจ้างทำงานบ้านคนดังกล่าวจริง ซึ่งปกตินายจ้างก็สมัครใจจะเปิดเผยอยู่แล้ว

“ผมนำเสนอว่าเป็นมาตรา 40+ แล้วอะไรที่มันขาดหายไปจาก ม.33 ใส่เข้าไปให้หมด แล้วนายจ้างเป็นผู้รับรองด้วย ถ้าท่านปรับแบบนี้มันเกิดอาการที่เรียกว่า Quick Win (สำเร็จได้เร็ว) คือชัยชนะอันสั้นในสิ่งที่เราจะได้ ถ้าเราสู้ไป ม.33แล้วก็บังคับ สิ่งที่เราต้องชนคือนายจ้างมหาศาลอยู่ในบ้าน อย่าลืมนะครับสังคมไทยเราเข้าสู่สังคมสูงวัยตั้งแต่ปี 2564 คนแก่ต้องจ้างแม่บ้านอยู่ที่บ้านดูแล ท่านจะให้เขามีภาระที่ต้องไปแจ้ง แล้วถ้าไม่แจ้งคือเขาติดคุก อายุก็ไม่พอติดแล้ว ผมไม่อยากบังคับเพราะถ้าบังคับผมชนตอ แต่ผมจะเดินไปสู่เป้าหมายเดียวกัน” อรรถวิชช์ กล่าว

รฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค กล่าวว่า สมัยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ในยุคที่ยังเป็นกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ช่วงปี 2544 สามารถผลักดันให้นายจ้างที่มีลูกจ้าง 1-9 คน เข้าระบบประกันสังคมได้สำเร็จ ในเวลานั้นก็มีเสียงคัดค้านจากรัฐมนตรีว่าการ แต่ด้วยการยืนหยัดจึงผลักดันให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบจนนำไปสู่การแก้ไขกฎหมาย ดังนั้นลูกจ้างทำงานบ้านก็เช่นกัน การผลักดันเข้า ม.33 ทำได้แน่นอน ทั้งหมดอยู่ที่รัฐมนตรีเป็นผู้กำหนดนโยบาย แล้วข้าราชการในส่วนของประกันสังคมจะดำเนินการต่อเอง

ทั้งนี้ ฝั่งนายจ้างได้ยินแล้วอาจกลัว ซึ่งก็เหมือนกับช่วงที่ผลักดันเรื่องลูกจ้าง 1-9 คนเข้าประกันสังคม ก็มีแรงต้านจากกลุ่มนายจ้างเช่นกัน ด้วยความกังวลว่าจะเป็นภาระ แต่เมื่อทำไปแล้วกลายเป็นการลดภาระให้นายจ้างด้วย เพราะอย่าลืมว่าหากลูกจ้างเจ็บป่วยหรือทุพพลภาพ การเข้าระบบประกันสังคม จะมีเงินช่วยเหลือจากกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน แทนที่นายจ้างจะต้องช่วยจ่ายเงินค่ารักษาจำนวนมาก

“ดิฉันขอเมตตานายจ้างทุกท่านแทนลูกจ้างทุกคนด้วย ทั้งคนไทยและต่างด้าว ให้เขาได้มีความมั่นคง มีความปลอดภัย ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายทุกฉบับ โดยเฉพาะกฎหมายประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน มองเขาเป็นคนตัดคำว่าจ้างออก ให้เหลือคำว่าลูก ทำได้ไหมนายจ้างทั้งหลาย?”หัวหน้าพรรคเสมอภาค กล่าว

วันวิภา ไม้สน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ลูกจ้างทำงานบ้าน มีกฎกระทรวง 7 ข้อ รับรองลักษณะการทำงานไม่ต่างจากคนทำงานในโรงงาน เช่น วันหยุด วันลา ฯลฯ เพียงแต่ติดบทบัญญัติในกฤษฎีกา ทำให้ไม่สามารถเข้าประกันสังคม ม.33ได้ ทั้งที่ลูกจ้างทำงานบ้านมีนายจ้างชัดเจน ดังนั้นพรรคก้าวไกลยินดีจะแก้กฎหมายที่มีปัญหานี้

ขณะเดียวกัน “ประเทศไทยมีแรงงานนอกระบบถึงกว่า 20 ล้านคน” เช่น เกษตรกร แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หาบเร่แผงลอย ฯลฯ พรรคก้าวไกลจึงเสนอนโยบาย “ประกันสังคมถ้วนหน้า” ยกระดับสิทธิประโยชน์ของประกันสังคม ม.40 ซึ่งเป็นระบบสำหรับอาชีพอิสระ มีหลักว่า “รัฐสมทบเป็นส่วนใหญ่ และหากใครมีรายได้ต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำก็ให้รัฐสมทบทั้งหมด” เพื่อให้มีค่าเดินทางไปโรงพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย หรือค่าชดเชยเมื่อเกิดเหตุที่ทำให้ไม่ได้ทำงาน ซึ่งรวมถึงเมื่อลูกจ้างตั้งครรภ์แล้วต้องลาคลอด

“อย่าลืมว่าแรงงานคนหนึ่งเวลาเขาหยุดลาป่วย ไม่ได้ว่าหยุดแล้วมีค่าชดเชยอย่างเดียว เขาต้องเสียรายได้ของวันนั้นไปเลยทั้งวัน แถมจะเสียค่าเดินทางไปหาหมอด้วย เราก็เลยคิดว่าควรมีนโยบายประกันสังคมถ้วนหน้าที่จะมารองรับตรงนี้แล้วประเทศไทยถ้าเราได้นโยบายตรงนี้ก็จะไม่มีแรงงานนอกระบบอีกต่อไป เพราะทุกคนไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรรมหรือทำอาชีพอะไรต่างๆ ก็จะอยู่ในระบบมากขึ้น” วันวิภา กล่าว

สาวิทย์ แก้วหวาน หัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยกล่าวว่า อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ที่ 189เรื่องของงานที่มีคุณค่าสำหรับคนทำงานบ้าน ตนเป็นคนหนึ่งที่ร่วมผลักดัน โดยเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประชุมที่สำนักงานใหญ่ ILO เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่ภายในประเทศกลับยังไม่รับรองอนุสัญญาดังกล่าว ดังนั้นเรื่องการผลักดันประกันสังคม พรรคการเมืองสำคัญก็ส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนก็คือแรงงานด้วยกันเอง

ซึ่งจากประสบการณ์ที่ร่วมต่อสู้กับขบวนการแรงงานมาหลายสิบปี “นักการเมืองแรกๆ ก็ออกมาพบปะผู้ใช้แรงงาน แต่เมื่อเข้าสภาไปแล้วอย่าไปคาดหวัง” โดยอีกด้านหนึ่ง ตนก็อยู่กับคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) ที่เพิ่งมียุทธศาสตร์แรงงานกับการต่อสู้ทางการเมือง เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า แม้จะมีตัวแทนเครือข่ายแรงงานเข้าไปอยู่ในพรรคการเมือง แต่ด้วยจำนวนที่น้อยย่อมไม่อาจสู้มติใหญ่ของพรรคได้ จึงทำอะไรไม่ได้เลย ท้ายที่สุดจึงนำมาสู่การตั้งพรรคการเมืองเสียเอง คือพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย ซึ่งตนเป็นหัวหน้าพรรครุ่นที่ 3

“นโยบายของพรรคเขียนขึ้นจากปัญหาของขบวนการแรงงาน เรื่องประกันสังคมนั้นพรรคเขียนเรื่องการปฏิรูปประกันสังคม พูดทุกเรื่อง ประกันสังคมถ้วนหน้าทุกคน ทำไมเราต้องแยกแรงงานนอกระบบ-ในระบบ ทั้งๆ ที่เราเป็นคนทำงานด้วยกัน มันไม่มีเส้นแบ่ง มันต้องไม่มีอะไรที่เป็นข้อจำกัดสำหรับสิทธิ อุดมการณ์ของพรรคเขียนไว้ชัด คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียมและความเป็นธรรม และต้องมีมาตรการ มาตรฐานคุ้มครองทางสังคมอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยหรือแรงงานข้ามชาติ” สาวิทย์ กล่าว

ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพรรคพยายามรวบรวมเสียงจากแรงงานกลุ่มต่างๆเพื่อมาออกแบบนโยบายร่วมกัน ซึ่งลูกจ้างทำงานบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ความที่เป็นทางแรงงานนอกระบบและแรงงานหญิงนั้น กลายเป็นความเปราะบาง ทั้งการไม่ได้รับสวัสดิการ รวมถึงปัญหาความปลอดภัยในการทำงาน สำหรับพรรคไทยสร้างไทยมีนโยบายที่เรียกว่า “2 แก้-3 สร้าง” โดย 2 แก้ นั้นคือ 1.กฎกระทรวงฉบับที่ 14 ที่เป็นปัญหามานาน กับ 2.ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานอิสระ ซึ่งปัจจุบันติดอยู่ในขั้นกฤษฎีกา โดยพรรคพร้อมร่วมผลักดัน

ส่วน 3 สร้าง ประกอบด้วย 1.สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แม้จะมีภาคเอกชนลงมือทำไปแล้วแต่เข้าใจว่ายังไม่ครอบคลุม จึงเสนอให้เชิญผู้เกี่ยวข้อง
ทุกฝ่าย รวมถึงผู้ให้บริการแพลตฟอร์มมาพูดคุยกันว่าจะผลักดันประกันสังคม ม.33 ได้อย่างไร 2.กองทุนคนตัวเล็ก สำหรับช่วยให้คนที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบปกติ เบื้องต้นคิดว่าจะใช้อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน และ 3.บำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน

“วัยเกษียณซึ่งเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ก็อยากให้มีกองทุนบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท ทำไม 3,000 บาท? อันนี้คนถามมาเยอะ เพราะว่าเส้นแบ่งความยากจนของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณเดือนละ 2,700 บาท เราก็เลยบอกอยากให้ผู้สูงอายุได้รับเงินมากกว่าเส้นแบ่งความยากจน ก็คือประมาณเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งอันนี้ก็น่าจะสามารถช่วยเหลือแรงงานตรงนี้ (ลูกจ้างทำงานบ้าน) ได้ด้วย” โฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าว

SCOOP@NAEWNA.COM

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged สกู๊ปแนวหน้า | Leave a reply

อานิสงส์’ชาไทย’ฮิตติดอันดับโลก ส่งผลให้ยอดขาย’ชาชัก’ของดีสตูลพุ่งกระฉูด

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713502

อานิสงส์'ชาไทย'ฮิตติดอันดับโลก ส่งผลให้ยอดขาย'ชาชัก'ของดีสตูลพุ่งกระฉูด

อานิสงส์’ชาไทย’ฮิตติดอันดับโลก ส่งผลให้ยอดขาย’ชาชัก’ของดีสตูลพุ่งกระฉูด

วันศุกร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 22.25 น.

กระแส”ชาไทยเย็น”เป็นเมนูยอดติดอันดับโลกส่งผลให้ยอดขาย”ชาชัก”เครื่องดื่มพื้นถิ่นขายดีขึ้น โดยเฉพาะชาชักไทยเย็นของดีประจำจังหวัดสตูลที่ทานคู่กับโรตีได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นหลายร้านในจังหวัดสตูล  ลูกค้าส่วนใหญ่ต่างยอมรับความกลมกล่อม โดยเฉพาะขั้นตอนและวิธีการชงที่เป็นสูตรเฉพาะ

24 ก.พ.66 หลังจากเว็ปไซต์ TasteAtlas จัดอันดับ”ชาไทย ชาเย็น” หรือชาสีส้ม ที่เราคุ้นเคยสามารถคว้าติดอันดับ 7 ของโลกมาครองในหมวด “เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อร่อยที่สุดในโลก”นั้น

ล่าสุดบรรยากาศที่ร้าน “บังฟาน”   ซึ่งเป็นร้านโรตีชาชักเจ้าดังในพื้นที่จังหวัดสตูล ที่นักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาจังหวัดสตูลต้องไม่พลาดที่จะมาดื่มชาชัก และโรตี ของที่นี่หากไม่มาถือว่ามาไม่ถึงจังหวัดสตูล  ได้โชว์ลีลาการชงชาสูตรชาวจังหวัดสตูลที่ต้องผ่านกระบวนการชัก ด้วยความร้อนของชาที่ชงผสมด้วยนมข้นหวานใช้กระบวนการชักกลางอากาศผ่านไปมา  เป็นขั้นตอนเพิ่มความกลมกล่อมและความลงตัวให้ชามีรสชาติที่นุ่ม ละมุน จนเป็นที่ขึ้นชื่อและกล่าวขานถึงชาชักของพื้นที่จังหวัดสตูล

โดยนายนัสรี บิลังโหลด เจ้าของร้านบังฟาน บอกว่า ความชำนาญการในการชงชาในลักษณะนี้ที่ต้องผ่านอากาศจะช่วยเพิ่มความละมุนให้กับชา และสูตรชาที่ผสมกันอย่างลงตัวตามแบบฉบับชาชักจังหวัดสตูล   บริการลูกค้านานกว่า 10 ปี จนวันนี้ได้ขยายสาขาในจังหวัดสตูล 2 สาขา และหาดใหญ่ 3 สาขา ที่ลูกค้าคนไทย นักท่องเที่ยวต่างแวะมาทานซ้ำ โดยเฉพาะเมนูโรตี ชาชัก

ความพิเศษของร้านนี้ นอกจากชาชักไทยเย็นแล้ว ยังมีการรังสรรเมนูชาไทยเย็น ได้อีกมากมายตามรสนิยมวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นชาไทยอะพอโล่ ชาไทยมิ้น หรือ ราเต้ที โดยเฉพาะสายรักษ์สุขภาพก็สามารถชงพร้อมเสริฟได้ และหลังมีการยกระดับชาไทยเย็นเป็นเครื่องดื่มที่น่าทานระดับโลก ส่งผลให้ยอดขายชาไทยเย็นที่มียอดขายสูงวันละ 100 แก้วแล้วสูงขึ้นไปอีกและเป็นการสร้างมูลค่านักดื่มได้หันมาดื่มชาไทยให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องดีด้วย

นางศิริทรา บิลังโหลด ผู้บริหารร้าน บอกว่า ชาชักไทยเย็นของที่นี่จะกลมกล่อม รสชาติไม่ฟาด ไม่หวานจนเกินไปเหมาะกับทุกกลุ่มวัยที่ชื่นชอบทานชาไทยเย็น

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

แฟนสาว’หมู่หนุ่ม’โพสต์เศร้า! ถึงเวลาพักของพี่แล้ว ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713498

แฟนสาว'หมู่หนุ่ม'โพสต์เศร้า! ถึงเวลาพักของพี่แล้ว ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน

แฟนสาว’หมู่หนุ่ม’โพสต์เศร้า! ถึงเวลาพักของพี่แล้ว ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน

วันศุกร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 21.36 น.

สุดดเศร้า..แฟนสาว ส.ต.อ.เศรษฐการ โพสต์ภาพสุดท้ายที่ถ่ายด้วยกัน บอกไม่ต้องห่วงพ่อแม่ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน ด้านคนขับชนเจอข้อหา ฆ่าเจ้าพนักงาน หลังพบหลักฐานเจตนาชน

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณีการเสียชีวิตของ ส.ต.อ.เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. ถูกครูสอนขับรถขับเก๋งชนจนเสียชีวิต บนถนนกาญจนาภิเษก หมายเลข 9 บางนา-บางปะอิน จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา 

ล่าสุด แฟนสาวของ ส.ต.อ.เศรษฐการ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก อาลัยถึงแฟนหนุ่มด้วย ข้อความสุดเศร้าว่า “ภาพนี้เป็นภาพสุดท้ายที่เราถ่ายด้วยกัน และเป็นการเจอหน้ากันครั้งสุดท้าย เอฟยังจำได้ ภาพนี้พี่บอกพี่อ้วน พี่ไม่หล่อ เอฟสวยอยู่คนเดียว แต่ยังไงพี่ก็หล่อสำหรับเอฟเสมอนะ เอฟเลยตอบพี่ว่า ก็พี่อ้วนเองอ่ะ แล้วเราก็หัวเราะกัน

ต่อไปนี้เอฟขอให้พี่ไปเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์นะ ไปสู่ภูมิภพที่ดี พี่ไม่ต้องเหนื่อยแล้วนะ มันคงถึงเวลาพักของพี่แล้ว พี่ไม่ต้องเป็นห่วงเอฟ เอฟจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด พ่อ แม่ น้อง พี่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เอฟจะดูแลให้ เพราะเราเหมือนครอบครัวเดียวกัน

เอฟจะเข้มแข็ง อยู่ให้ได้ เอฟอยากให้พี่รับรู้นะ ว่าทุกคนรักพี่มาก พี่เป็นคนดีจริงๆ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่เคยให้ร้ายใคร แต่ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ มันไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้กับพี่เลยจริงๆ

ขอบคุณที่คอยอยู่ข้างๆกันเสมอมาไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข ขอบคุณที่คอยตามใจทุกอย่าง ขอบคุณที่ให้เกียรติกันเสมอมา รักและคิดถึงพี่เสมอนะ #RIP พี่หนุ่ม ผู้ชายที่คอยเป็นทุกอย่างให้เอฟ 23/02/2566”

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

‘ฟอร์ด’จับมือ’ลูกค้า’ยุติดราม่า เคลียร์ลงตัว พอใจข้อเสนอทั้ง2ฝ่าย

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713490

'ฟอร์ด'จับมือ'ลูกค้า'ยุติดราม่า เคลียร์ลงตัว พอใจข้อเสนอทั้ง2ฝ่าย

‘ฟอร์ด’จับมือ’ลูกค้า’ยุติดราม่า เคลียร์ลงตัว พอใจข้อเสนอทั้ง2ฝ่าย

วันศุกร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 20.55 น.

เคลียร์จบแล้ว! ‘ฟอร์ดเอกระยอง’ ไกล่เกลี่ย ‘ลูกค้า’ มีสคบ.ที่เป็นคนกลาง เผยพอใจข้อเสนอ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ 

24 ก.พ.2566 จากกรณี น.ส.จันดารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ร้องเรียนว่าซื้อรถกระบะสี่ประตู สีดำ มาตั้งแต่ปี 2563 ด้วยเงินสดจากศูนย์ใน ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง หลังใช้มากว่า 2 ปี รถเกิดปัญหา จึงเข้าศูนย์เคลมประกันพบว่า รถคันนี้ถูกจดทะเบียนไปแล้ว เมื่อปี 2561 จึงไม่สามารถเคลมได้เพราะหมดประกัน แถมหมายเลขเครื่องยนต์ก็ไม่ตรงกันกับเล่มทะเบียน ศูนย์กลับบ่ายเบี่ยง แล้วเสนอให้ประกันเพิ่มอีก 2 ปี แลกกับการจบเรื่อง ล่าสุดทางศูนย์เรียกให้ น.ส.จันดารัตน์

น.ส.จันดารัตน์  เข้าเจรจาหาข้อยุติ พร้อมทั้งพาไปต่อทะเบียนรถยนต์ ทางบริษัทเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่ต่อไม่ได้ สาเหตุอาจเกิดจากเอกสารไม่ตรงกัน ล่าสุด ต่อทะเบียนได้แล้ว น.ส.จินดารัตน์ ยืนยันจะไม่ขอยอมรับข้อเสนอจากศูนย์รถ เพราะยังไม่ได้ความเป็นธรรม จะขอต่อสู้ต่อไป ต่อมาทางนายสมศักดิ์ พะเนียงทอง กรรมการผู้จัดการฟอร์ดเอกระยอง ได้กล่าวว่า ขอยืนยันว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถใหม่ ไม่ใช่รถเก่ามือสอง แค่เป็นรถทดลองนั่ง เอาไว้โชว์ พร้อมยื่นข้อเสนอให้กับผู้เสียหาย คือ หากต้องการใช้รถต่อไปก็จะเพิ่มชุดแต่งและประกันให้หรืออีกทางเลือกคือ ซื้อคืนในราคาที่เหมาะสม แต่ น.ส.จินดารัตน์ ยังคงยืนยันสู้ต่อจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม ตามที่เสนอไปแล้ว  (อ่านข่าว ‘ฟอร์ด’ยืนยันเป็นรถใหม่ ไม่ใช่มือสอง ยินดีซื้อคืน เจ้าของรถเดินหน้าทวงความยุติธรรม)

เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 24 ก.พ.2566 น.ส.จินดารัตน์ ผู้ร้องเรียน เปิดเผยว่า วันนี้ทางตนเองได้เข้าเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ตัวแทนศูนย์รถยนต์ฟอร์ดเอกระยอง ที่ สคบ.ระยอง โดยมี เจ้าหน้าที่ สคบ.เป็นคนกลางไกล่เกลี่ย หลังจากที่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกัน สรุปผลการเจรจา ทางตนเองขอยอมรับข้อเสนอจากศูนย์ฟอร์ดเอกและจะขอยุติเรื่องทั้งหมด ส่วนผลการเจรจาไม่ขอเปิดเผย เพราะได้ตกลงกันไว้ ซึ่งผลการเจรจาพอใจทั้งสองฝ่าย ตนเองก็พอใจกับสิ่งที่ได้รับและเข้าใจตามคำชี้แจงของศูนย์รถยนต์ฟอร์ดเอกระยอง 

น.ส.จินดารัตน์ กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือตนเองในการต่อสู้จนส่งผลให้ได้รับความเป็นธรรม

ด้านนายสมศักดิ์ พะเนียงทอง กรรมการผู้จัดการฟอร์ดเอกระยอง ได้กล่าวว่า การเจรจาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการเจรจาขึ้นที่ สคบ. ระหว่างผู้เสียหาย บริษัทฟอร์ด และ ศูนย์ฟอร์ดเอก ระยอง ซึ่งผลการเจรจาจบลงด้วยดี ทางเจ้าของรถยอมรับข้อเสนอจากการเจรจา ซึ่งมี สคบ.เป็นคนกลาง โดยทางเจ้าของรถยอมรับทั้งหมด ซึ่งทางศูนย์ฟอร์ดเอกระยอง จึงขอยืนยีนว่า รถคันดังกล่าว เป็นรถใหม่ ไม่ใช่รถเก่าตามที่เข้าใจและรถก็สามารถต่อทะเบียนได้ปกติ ซึ่งทาง น.ส.จินดารัตน์ก็เข้าใจในประเด็นดังกล่าว พร้อมยอมรับข้อเสนอและขอยุติเรื่องทั้งหมด 

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

‘กสม.’ย้ำแนวปฏิบัติ‘สตช.’นอกเครื่องแบบตรวจค้นต้องแสดงบัตรด้วย จนท.ไม่ทำเข้าข่ายละเมิดสิทธิ

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713487

‘กสม.’ย้ำแนวปฏิบัติ‘สตช.’นอกเครื่องแบบตรวจค้นต้องแสดงบัตรด้วย จนท.ไม่ทำเข้าข่ายละเมิดสิทธิ

‘กสม.’ย้ำแนวปฏิบัติ‘สตช.’นอกเครื่องแบบตรวจค้นต้องแสดงบัตรด้วย จนท.ไม่ทำเข้าข่ายละเมิดสิทธิ

วันศุกร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 20.32 น.

วันที่ 24 ก.พ. 2566 ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่  กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ร้องรายหนึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ระบุว่า เมื่อต้นเดือนมกราคม 2565 ช่วงดึก ขณะที่ผู้ร้องขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ในบริเวณตรอกสาเก ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มีกลุ่มชายจำนวน 4 คน อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าตรวจค้นร่างกายผู้ร้องโดยไม่ได้แสดงบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ ผู้ร้องขัดขืนจึงถูกทำร้ายร่างกาย 

ต่อมาผู้ร้องทราบในภายหลังว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม (สน. ชนะสงคราม) นอกจากนี้ในระหว่างการสอบสวน ผู้ร้องระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจข่มขู่และซ้อมทรมานเพื่อให้ยอมรับสารภาพในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จึงขอให้ตรวจสอบ ซึ่ง กสม. พิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นกรณีเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิในกระบวนการยุติธรรม 

โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ได้ให้การรับรองสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของบุคคลทุกคน การค้นตัวบุคคลหรือการกระทำใด ๆ ที่กระทบกระเทือนต่อสิทธิและเสรีภาพดังกล่าวจะกระทำมิได้ เว้นแต่มีคำสั่งหรือหมายของศาลหรือมีเหตุอย่างอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ จากการตรวจสอบปรากฏข้อเท็จจริงสรุปประเด็นได้ดังนี้

(1) กรณีการตรวจค้นและจับกุม ปรากฏว่า ขณะเข้าทำการตรวจค้นจับกุมผู้ร้องนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่งกายนอกเครื่องแบบ สังเกตเห็นผู้ร้องอยู่ในอาการผิดปกติลักษณะเหมือนเสพยาเสพติดจึงขอเข้าไปตรวจค้น เมื่อพิจารณาคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 419/2556 ประกอบกับหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 0011.13/ว52 ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจที่ทำการตรวจค้นหรือจับกุมทุกกรณี ต้องแต่งเครื่องแบบให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบว่าด้วยเครื่องแบบตำรวจ 

เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็นหรือเร่งด่วนที่ต้องทำการตรวจค้นบุคคลหรือสถานที่หรือจับกุมบุคคลใด ซึ่งหากไม่ปฏิบัติทันที อาจจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ ถ้าเช่นนี้ไม่ต้องแต่งเครื่องแบบก็ได้ แต่ต้องแจ้งยศ ชื่อ ตำแหน่ง พร้อมทั้งแสดงบัตรประจำตัวให้เจ้าบ้านหรือผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลที่ถูกตรวจค้นหรือถูกจับกุมนั้นทราบ จึงเห็นได้ว่า กรณีตามคำร้องนี้ การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แสดงบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน หรือไม่ได้แสดงตนจนเป็นที่พอใจแก่ผู้ร้องว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง 

ประกอบกับเวลาเกิดเหตุเป็นยามวิกาล ทำให้ผู้ร้องเกิดความไม่ไว้วางใจและขัดขืนไม่ยินยอมให้ตรวจค้น จนกระทั่งมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ร้องกับตำรวจและประชาชนในที่เกิดเหตุบางคน ในชั้นนี้จึงเห็นว่า การตรวจค้นและจับกุมผู้ร้องโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย คำสั่ง และข้อกำชับที่เกี่ยวข้อง จึงถือเป็นการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

(2) กรณีผู้ร้องกล่าวอ้างว่า ในชั้นสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจข่มขู่และซ้อมทรมานผู้ร้องเพื่อให้รับสารภาพในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น ภายหลังจากผู้ร้องถูกคุมขัง 2 วัน ก่อนถูกส่งตัวเข้าทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง จากข้อมูลการตรวจร่างกายผู้ต้องขังเข้าใหม่ของทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางไม่ปรากฏว่าผู้ร้องมีร่องรอยการถูกทำร้ายหรือแจ้งต่อเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ว่าตนเองถูกทำร้ายแต่อย่างใด นอกจากนี้จากพฤติการณ์ของผู้ร้องประกอบกับการสอบถามมารดาและเพื่อนมารดาของผู้ร้องต่างไม่อาจยืนยันว่ามีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ในชั้นนี้จึงยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่รับฟังได้ว่าผู้ถูกร้องข่มขู่และซ้อมทรมานผู้ร้องเพื่อให้รับสารภาพในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

(3) สำหรับกรณีที่ต้องพิจารณาว่าผู้ร้องเป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่นั้น ปรากฏว่า พนักงานอัยการฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกันกับที่ผู้ร้องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ จึงต้องห้ามมิให้ กสม. ใช้หน้าที่และอำนาจในการพิจารณา ตามมาตรา 39 (1) ประกอบมาตรา 39 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 จึงเห็นควรยุติเรื่องในประเด็นนี้

ด้วยเหตุผลข้างต้น กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 จึงเห็นควรมีข้อเสนอแนะไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช .) และ สน. ชนะสงคราม ให้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบให้เป็นไปตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 419/2556 และหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 0011.13/ว52 ซึ่งในการตรวจค้นหรือจับกุมทุกกรณี เจ้าหน้าที่จะต้องแต่งเครื่องแบบ 

เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็นหรือเร่งด่วนที่ไม่อาจแต่งเครื่องแบบได้ แต่เจ้าหน้าที่จะต้องแจ้งยศ ชื่อ ตำแหน่ง พร้อมทั้งแสดงบัตรประจำตัวให้เจ้าบ้านหรือผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลที่ถูกตรวจค้นหรือถูกจับกุมนั้นทราบก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้ ให้ สตช. และ สน. ชนะสงคราม ดำเนินการภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งรายงานผลการตรวจสอบฉบับนี้

นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะให้ สน.ชนะสงคราม จัดให้มีกล้องบันทึกภาพและเสียงสำหรับเก็บพยานหลักฐานในการเข้าตรวจค้นและจับกุมบุคคลใด ๆ โดยให้มีระยะเวลาในการเก็บรักษาพยานหลักฐานไม่น้อยกว่า 180 วัน หรือตามสมควร เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงหากมีกรณีการร้องเรียนถึงการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของบุคคลและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และให้ สตช. สนับสนุนด้านงบประมาณ และจัดหาอุปกรณ์บันทึกภาพและเสียงให้แก่สถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อประโยชน์และความเป็นธรรมในการตรวจสอบหากมีกรณีร้องเรียนการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

‘หมอเอก’ชวนอ่านรายงานกมธ. ชี้‘บุหรี่ไฟฟ้า’ควรขึ้นมาอยู่บนดิน-ควบคุมตามกฎหมาย

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713486

‘หมอเอก’ชวนอ่านรายงานกมธ. ชี้‘บุหรี่ไฟฟ้า’ควรขึ้นมาอยู่บนดิน-ควบคุมตามกฎหมาย

‘หมอเอก’ชวนอ่านรายงานกมธ. ชี้‘บุหรี่ไฟฟ้า’ควรขึ้นมาอยู่บนดิน-ควบคุมตามกฎหมาย

วันศุกร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 20.20 น.

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “หมอเอก Ekkapob Pianpises” เนื้อหาดังนี้

เป็นทางการเรียบร้อยครับ รายงานของอนุกรรมาธิการที่ศึกษาเรื่องปัญหาการควบคุมยาสูบ โดยมีประเด็นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าด้วย สรุปสั้นๆ ได้ว่า “ควรทำให้บุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาบนดิน และ มีการควบคุมอย่างถูกกฏหมาย”

อ่านรายงานทั้งฉบับได้ตามลิ้งค์เลยครับ
https://www.parliament.go.th/ewtcommittee/ewt/25_publichealth/ewt_dl_link.php?nid=399&filename=129

ทีมงานอนุกรรมาธิการได้มีการรับฟังข้อมูลจากทุกด้าน เจาะลึกรายละเอียดในทุกเรื่อง และ มีการรับฟังความเห็นจากต่างประเทศด้วย

รายงานฉบับนี้จะถูกส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณา และ ขับเคลื่อนการควบคุมยาสูบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นการปกป้องเยาวชน การคำนึงถึงสิทธิของกลุ่มผู้สูบบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า การดำรงอยู่และอาชีพของชาวไร่ยาสูบ และ รายได้ของรัฐที่เสียไป รวมถึงการทุจริตคอรัปชั่นเพราะการขายบุหรี่เถื่อน บุหรี่หนีภาษี และ บุหรี่ไฟฟ้าแบบผิดกฏหมาย

หวังว่า รายงานนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการทำงานด้านการควบคุมยาสูบของประเทศที่จะเปิดกว้างทางความคิดเห็น เปิดรับข้อมูลวิชาการจากนานาประเทศ และคำนึงถึงสิทธิของประชาชนที่ได้ใช้ ความรอบรู้ทางสุขภาพ มาเลือกสิ่งที่ดีที่สุดทางสุขภาพให้กับตนเอง
 

https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FDoctorEkkapob%2Fposts%2Fpfbid02enJB9P7ZkpRTvsrNDmhc6APnK3U9Ue4L6zUbZ9WVT7J8eLq5LEUPGMUYSpndv8Cdl&show_text=true&width=500

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

5วันยังไม่พบตัว! เจ้าของแมวร้อนใจ อัดเงินรางวัลเพิ่มใครพบให้ 2 แสน

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713472

5วันยังไม่พบตัว! เจ้าของแมวร้อนใจ อัดเงินรางวัลเพิ่มใครพบให้ 2 แสน

5วันยังไม่พบตัว! เจ้าของแมวร้อนใจ อัดเงินรางวัลเพิ่มใครพบให้ 2 แสน

วันศุกร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 19.47 น.

5 วันยังไม่พบตัว! เจ้าของร้อนใจ อัดเงินรางวัลใครพบให้ 2 แสนบาท

ชาวเน็ตยังเอาใจช่วยให้เจอเร็วๆ หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Joe Asia ได้โพสต์ภาพแมวสุดที่รัก โดยระบุสั้นๆว่าได้หายออกจากบ้านไป จนตอนนี้ผ่านไป 5 วันแล้วก็ยังไม่พบ ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าของแมวได้ตั้งรางวัลผู้พบแมวและส่งคืน เป็นเงิน 100,000 บาท 

ล่าสุด เจ้าของแมว ได้เพิ่มเงินรางวัลสำหรับพลเมืองดีผู้พบแมวตัวนี้เป็นเงินถึง 200,000 บาท โดยเจ้าตัวได้ระบุพิกัดด้วยว่า ” แมวหาย นอนไม่หลับมาเป็น อาทิตย์ๆ เพิ่ม ราคาจากครั้งที่แล้ว พิกัด หาย วิภาวดี 16 , รัชดา 19 (ซอยเดียวกัน) “

https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fyod.dets.3%2Fposts%2Fpfbid02bUR1ZJ3YcMVVM1JAqDJpptub3MgxvsonfbMX4MJtJY2bXBiQwZn5ic1QBPUQz4D6l&show_text=true&width=500

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

Post navigation

← Older posts
Newer posts →

BamBam Family

BamBam Family

สถิติบล็อก

  • 2,821,187 hits

Join 3,805 other subscribers
Follow SootinClaimon.Com on WordPress.com

Categories

Top Posts & Pages

‘นายกฯ’ลั่น‘เขมร’ต้องกลับเข้า 4 ข้อปฏิญญา เหน็บประเทศมหาอำนาจต้องกดดันฝ่ายละเมิด
'แคนดิเดตนายกฯภท.'ยังไม่ชัด! แต่ถ้าคัมแบ็ครัฐบาล'เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์'ร่วม รบ.ต่อ
ถอดแนวคิด 'มอนเดลีซฯ' กับการเป็นองค์กรในดวงใจคนนิวเจน
ทรัมป์สั่งระงับโครงการกรีนการ์ดล็อตโต้ หลังผู้ต้องสงสัยกราดยิง ม.บราวน์ ใช้เป็นช่องทางเข้าสหรัฐฯ
ตำรวจชี้ตัวผู้ต้องสงสัยกราดยิงม.บราวน์ เร่งสอบเอี่ยวคดีฆ่าอาจารย์ MIT ด้วยหรือไม่
'เจาะใจ'พาคุยกับสตรีคนสำคัญแห่ง'กระทรวงวัฒนธรรม'ผู้ถือภารกิจแห่งการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย
จุฬาฯ-มหิดล ผนึกกำลังสร้างนวัตกรรมเวชสำอางจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ไทยถ่ายทอดเทคโนโลยี "AnthoRice™ Complex" เตรียมทดสอบทางคลินิกที่ศิริราช
บังกลาเทศประท้วงเดือด บุกผาสำนักงานหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ 2 แห่ง
นทท.สะพรึง แห่ชมปรากฎการณ์ธรรมชาติชายหาดสีเลือดในอิหร่าน
ทวงบัลลังก์แซ่บ! โย ยศวดี อวดหุ่นเซี๊ยะริมสระในวัย 46

Recent Posts

  • ทรัมป์สั่งระงับโครงการกรีนการ์ดล็อตโต้ หลังผู้ต้องสงสัยกราดยิง ม.บราวน์ ใช้เป็นช่องทางเข้าสหรัฐฯ
  • อียูตกลงปล่อยกู้ยูเครน 9 หมื่นล้านยูโร เลี่ยงใช้ทรัพย์สินรัสเซียที่ถูกอายัด
  • ปิดฉากล่าตัวมือกราดยิง ม.บราวน์ พบกลายเป็นศพในห้องเก็บของ หลังหนีกบดานข้ามรัฐ
  • ออสเตรเลียประกาศ “รับซื้อคืนปืน” ทั่วประเทศ หลังเหตุกราดยิงหาดบอนได
  • ศรีลังกาจับ 3 ผู้ต้องสงสัยเผาช้างป่าเป็น ๆ จนล้ม จุดกระแสโกรธแค้นในสังคม

ป้ายกำกับ

  • 2559(2016)
  • 2564(2021)
  • entertain
  • naewna
  • The Nation
  • การเมือง
  • คมชัดลึก
  • ต่างประเทศ
  • บันเทิง
  • แนวหน้า
  • RSS - Posts
  • RSS - Comments

Archives

Follow Us

  • https://soclaimon.tumblr.com/
  • https://www.facebook.com/soclaimon
  • https://www.instagram.com/sootinclaimon/
  • https://www.facebook.com/SootinClaimon/
  • https://www.facebook.com/profile.php?id=100001170824639
  • https://www.facebook.com/pompam.pp
  • https://www.facebook.com/toraman666
  • https://www.facebook.com/apich214
  • https://www.facebook.com/samabat.klaimon
  • https://www.facebook.com/profile.php?id=100005312762480
  • https://www.facebook.com/jirasuda.manomaiyanon
  • https://www.facebook.com/eikpakkred
  • https://www.facebook.com/profile.php?id=100003091451547
Blog at WordPress.com.
  • Subscribe Subscribed
    • SootinClaimon.Com
    • Join 1,659 other subscribers
    • Already have a WordPress.com account? Log in now.
    • SootinClaimon.Com
    • Subscribe Subscribed
    • Sign up
    • Log in
    • Report this content
    • View site in Reader
    • Manage subscriptions
    • Collapse this bar
 

Loading Comments...
 

    %d