พบตู้คอนเทนเนอร์หล่นทะเลแล้ว เร่งหาเพิ่ม-เตือนระมัดระวังในการเดินเรือ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/265633

วันอาทิตย์ ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2560, 16.03 น.

จากกรณีเรือ เอ็นพี มารีน่า สัญชาติไทยของ บริษัท SCเดินทางจากท่าเรือกรุงเทพฯ มายังท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ประสบเหตุคลื่นลมแรง ตู้คอนเทนเนอร์ 6 ตู้ หล่นลงทะเล ที่บริเวณปลายทุ่นปากร่องแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สมุทรปราการ ห่างจากสถานีนำร่องกรุงเทพฯ ประมาณ 5 ไมล์ และกองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 1 และศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 1 (ทรภ.1/ศรชล.เขต 1) สั่งการให้เร่งระดมค้นหา เพราะอาจเป็นอันตรายต่อเส้นทางเรือเดิน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 เม.ย.60 ที่ผ่านมานั้น


ล่าสุดในวันนี้ 16 เม.ย.60  พลเรือโทสุรศักดิ์ เมธยาภา ผบ.ทรภ.1 ร่วมกับกรมเจ้าท่า นำเรือเจ้าท่า 214 ร่วมกับเรือ SC14 เรือรุ่งโพธิ์ทอง และเรือวีระเทพ ของบริษัทเจ้าของเรือ รวม 4 ลำ ออกค้นหาโดยใช้วิธีแอคโคซาวเดอร์แสกน  ใต้ท้องทะเลในบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง สามารถตรวจพบตู้คอนเทนเนอร์แล้ว 2 ตู้ จึงได้ทำการผูกทุ่นแน่นหนาไว้ ณ ตำแหน่งที่ตรวจพบ ซึ่งไม่ได้อยู่ในร่องน้ำทางเรือเดินแต่อย่างไร

พร้อมกับนำเรือเล็กออกค้นหาบริเวณแนวชายฝั่ง ส่วนบริเวณที่น้ำลึกทำการค้นหาโดยใช้วิธี แอคโคซาวเดอร์แสกน ให้ครอบคลุมพื้นที่ที่คาดว่าตู้คอนเทนเนอร์จมอยู่ใต้ท้องทะเลต่อไป และยังได้กล่าวอีกว่ากองทัพเรือ โดยศรชล.เขต1 ได้มีการประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิดกับ สจป. (Sriracha VTS)และเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สมุทรปราการ (จภ 6 สป) ในการกำกับและติดตามการทำงานของบริษัท SC ในการค้นหาตู้คอนเทนเนอร์ที่เหลือพร้อมออกประกาศแจ้งเตือนให้เรือที่แล่นผ่านบริเวณดังกล่าวได้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือให้ทราบเป็นระยะๆ อีกด้วย

เตือนภาคเหนือฝนตกเพิ่มขึ้น อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนฟ้าคะนอง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/265575

วันอาทิตย์ ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2560, 08.22 น.

16 เม.ย.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ด้านตะวันตกของภาคเหนือจะมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ยังคงมีฝนฟ้าคะนองได้ สำหรับภาคใต้จะมีฝนน้อย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา พายุไซโคลน “MAARUTHA” บริเวณอ่าวเบงกอล มีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 15.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 91.3 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 45 นอต หรือ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เคลื่อนตัวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 15 นอต หรือ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเมียนมา ในช่วงวันที่ 16-17 เมษายน บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมภาคใต้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกน้อย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(16 เม.ย.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี
นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และสมุทรสงคราม
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี
ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี
นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เตือน32จังหวัดเตรียมรับมือพายุฤดูร้อน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/265454

วันเสาร์ ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2560, 09.11 น.

15 เม.ย.60 กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีผลกระทบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก หลายจังหวัด

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
“พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบวันที่ 15 เมษายน 2560)”
ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 15 เมษายน 2560

ประเทศไทยตอนบนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ และอากาศจะคลายความร้อนลง ซึ่งสภาวะอากาศดังกล่าวจะเกิดขึ้นตามภาคต่างๆ ดังนี้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร ตาก อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด

ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และระวังอันตรายที่เกิดจากลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตก ไว้ด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในระยะนี้

ประกาศ ณ วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ใน วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 11.00 น.

ไทยตอนบนเสี่ยงเกิดพายุฤดูร้อน ระวังพายุฝน-ฟ้าผ่า-ลูกเห็บตก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/265450

วันเสาร์ ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2560, 08.29 น.

15 เม.ย.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และระวังอันตรายที่เกิดจากลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกไว้ด้วย ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกได้ในระยะนี้

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ในวันนี้ (15 เม.ย. 60) ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย อนึ่ง พายุดีเปรสชั่นปกคลุมอ่าวเบงกอล เคลื่อนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าจะเคลื่อนตัวไปบริเวณชายฝั่งประเทศเมียนมาในช่วงวันที่ 16-17 เมษายน 2560 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ด้านตะวันตกของประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเกิดขึ้นได้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(15 เม.ย.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์
สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และสมุทรสงคราม
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

อุตุฯเตือน32จังหวัด เสี่ยงเกิดพายุฤดูร้อน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/265330

วันศุกร์ ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2560, 11.52 น.

14 เม.ย.60 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนประเทศไทยตอนบนเสี่ยงพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่

“พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 14 ถึงวันที่ 15 เมษายน 2560)”

ฉบับที่ 16 ลงวันที่ 14 เมษายน 2560

ในช่วงวันที่ 14-15 เมษายน 2560 ประเทศไทยตอนบนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ และอากาศจะคลายความร้อนลง ซึ่งสภาวะอากาศดังกล่าวจะเกิดขึ้นตามภาคต่างๆ ดังนี้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร ตาก อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด

ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และระวังอันตรายที่เกิดจากลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตก ไว้ด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจาก ในช่วงวันที่ 14-15 เมษายน 2560 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในระยะนี้

ไทยตอนบนเสี่ยงพายุฤดูร้อน ระวังฝนฟ้าคะนอง-มีลมแรง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/265313

วันศุกร์ ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2560, 08.19 น.

14 เม.ย.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และระวังอันตรายที่เกิดจากลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกไว้ด้วย ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกได้ในระยะนี้

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยยังคงมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 14-15 เมษายน 2560 ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนล่าง และมีลมใต้พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้ (14 เม.ย.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์
สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต และกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เดินหน้า”ประเทศไทยไร้ขยะ” ท้าประลองความคิดผลิต”นวัตกรรม”จากวัสดุเหลือใช้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/265292

วันพฤหัสบดี ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2560, 19.53 น.

            ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ปริมาณขยะมูลฝอยทั่วประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2551 มีปริมาณขยะมูลฝอยเกิดขึ้น 23.93 ล้านตัน และมีอัตราการเกิดขยะ 1.03 ก.ก./คน/วัน ขณะที่ในปี 2559 ปริมาณขยะมูลฝอยได้เพิ่มขึ้นเป็น 27.04 ล้านตัน ส่วนอัตราการเกิดขยะก็เพิ่มเป็น 1.14 ก.ก./คน/วัน แต่ที่น่าเป็นห่วงไปกว่านั้น ก็คือ ปริมาณขยะมูลฝอยที่ถูกนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง มีอัตราเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และที่สำคัญ กระบวนการคัดแยก จัดเก็บ รวบรวม และขนส่งขยะ ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

          ทำให้เกิด “ปัญหาขยะตกค้าง” ดังที่เราทุกคนได้พบเห็นตามสถานที่ต่างๆทั่วประเทศตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งนี่ถือเป็นปัญหาที่น่าวิตกและจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน!

รัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความตระหนักถึงสถานการณ์ปัญหาขยะมูลฝอยของประเทศ จึงมีมติเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 เห็นชอบแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ(พ.ศ.2559-2564) ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ นอกจากนี้ ทส. ยังได้หารือเพิ่มเติมกับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนปฏิบัติการ “ประเทศไทยไร้ขยะ” ตามแนวทาง “ประชารัฐ” ระยะ 1 ปี (พ.ศ.2559-2560) เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในการจัดการขยะระยะสั้นภายใต้แผนแม่บทดังกล่าว

นายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า แผนปฏิบัติการ                          ประเทศไทยไร้ขยะฯ เป็นแนวทางขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นสังคมปลอดขยะ (Zero Waste Society) โดยวางอยู่บนแนวคิด 3Rs-ประชารัฐ คือ การส่งเสริมการจัดการขยะที่ต้นทาง ซึ่งเป็นการจัดการขยะที่ยั่งยืน โดยลดปริมาณขยะ (Reduce) การใช้ซ้ำ (Reuse) และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ภายใต้หลักการมี                ส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน เพื่อวางรากฐานการดำเนินการจัดการขยะให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

นายสากล กล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการส่งเสริมทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ จึงได้นำแผนปฏิบัติการประเทศไทยไร้ขยะฯ มาผนวกเข้าเป็นหนึ่งในแผนงานสำคัญที่จะต้องขับเคลื่อนในปีนี้ รวมทั้งได้ปรับรายละเอียดของแผนงานเดิมที่ได้ดำเนินการอยู่แล้ว ให้มีความสอดคล้องกับเป้าหมายของแผนปฏิบัติการประเทศไทยไร้ขยะฯมากขึ้น โดยหนึ่งในโครงการสำคัญที่กำลังดำเนินการ คือ โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อม ประจำปี 2560 ซึ่งเป็นการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ที่ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 10 ปี และในปี ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบโดยนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเน้นในเรื่องการสร้างนวตกรรม ให้มีการนำสิ่งประดิษฐ์มาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์มากขึ้น เป็นการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาวัสดุเหลือใช้ให้กลายเป็น “ผลิตภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อมต่อยอดสู่นวัตกรรม” ซึ่งเป็นผลงานที่เกิดจากแนวความคิด การกระทำ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัย โดยใช้ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และกระบวนการที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้น ช่วยให้วัสดุเหลือใช้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง มีความประณีต สวยงาม คงทน ใช้งานได้ดี มีคุณภาพ รวมทั้งสามารถนำไปต่อยอดได้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปสู่ Thailand 4.0” ไปพร้อมๆ กันด้วย

ทั้งนี้สำหรับกิจกรรมของโครงการจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.กิจกรรม Work Shop อบรมเพิ่มศักยภาพต่อยอดผลิตภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อมสู่นวัตกรรม Thailand 4.0 โดยวิทยากรมาให้ความรู้ ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ผลงาน เทคนิคการจัดทำคลิปวีดีโอ การอัพโหลดผ่านระบบสื่อสังคมออนไลน์ social network  โดยเปิดรับสมัครกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 50 เขตของกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นต้นแบบในการดำเนินกิจกรรมสู่นวัตกรรม Thailand 4.0 กำหนดจัดกิจกรรมในเดือนพฤษภาคม 2560 และ 2.กิจกรรมการประกวดผลงานผลิตภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อมสู่นวัตกรรม Thailand 4.0 โดยเปิดรับสมัครจากประชาชนในวงกว้าง กำหนดจัดกิจกรรมในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2560

สำหรับขั้นตอนการประกวดจะแบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบที่ 1 รอบคัดเลือกผลงาน โดยเปิดให้ผู้ส่งใจส่งใบสมัครและข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับผลงาน เช่น ภาพสเก็ตซ์ แบบจำลองผลงาน รวมทั้งต้องแนบไฟล์วิดีโอความยาว 3-5 นาที เพื่อนำเสนอแนวคิดและขั้นตอนการประดิษฐ์ผลงาน โดยจะมีการนำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเพื่อคัดเลือกให้เหลือ 30 ผลงานจากคะแนน Popular Vote

รอบที่ 2 รอบชิงชนะเลิศ ทั้ง 30 ผลงานที่ผ่านเข้ารอบ จะได้รับมอบทุนผลงานละ 10,000 บาท เพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ของจริง แล้วนำมาจัดแสดงสาธิตในรอบชิงชนะเลิศ เพื่อให้คณะกรรมการตัดสินผลงาน สื่อมวลชน และประชาชน พิจารณาตัดสินผลงานจำนวน 10 รางวัล แบ่งเป็นการตัดสินโดยคณะกรรมการตัดสิน 9 รางวัล และรางวัลคะแนนโหวตผลงานยอดเยี่ยมจากสื่อมวลชนและผู้ร่วมงานอีก 1 รางวัล โดยคณะกรรมการจะใช้เกณฑ์การตัดสิน 5 ข้อ คือ 1.ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรม และการประยุกต์เทคโนโลยีมาใช้ 2.ความสวยงาม ประณีต และเป็นเอกลักษณ์ 3.การใช้ประโยชน์ได้จริง และมีความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์ 4.ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 5.ผลงานที่มีการออกแบบจากวัสดุที่มีการใช้ทรัพยากรตามหลักการ 3R ได้แก่ การลด (Reduce) การใช้ซ้ำ (Reuse) การนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle)

สำหรับผลงานที่ได้รับรางวัล 10 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศได้รับถ้วยรางวัล เกียรติบัตร พร้อมเงิน 30,000 บาท จำนวน 1 รางวัล, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับโล่รางวัล เกียรติบัตร และเงิน 20,000 บาท จำนวน 1 รางวัล, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับโล่รางวัล เกีรติบัตร และเงิน 15,000 บาท จำนวน 1 รางวัล, รางวัลชมเชย ได้รับโล่รางวัล เกียรติบัตร และเงิน 10,000 บาท จำนวน 6 รางวัล และรางวัลผลโหวตยอดเยี่ยม ได้รับโล่รางวัล เกียรติบัตร และเงิน 10,000 บาท จำนวน 1 รางวัล

ทั้งนี้ประชาชนที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวด โดยสามารถรวมกลุ่มกันได้ไม่เกิน 3 คน และยื่นใบสมัครภายในเดือนมิถุนายน 2560 ผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1.ส่งใบสมัครพร้อมไฟล์วิดีโอมายัง กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กลุ่มสื่อสิ่งแวดล้อมและกิจการพิเศษ ชั้น 2 เลขที่ 49 พระราม 6 ซอย 30 ถนนพระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพ 10400 และ 2.ส่งใบสมัครพร้อมไฟล์วิดีโอผ่านเว็บไซด์ http://www.deqp.go.th โดยไปที่หัวข้อบริการออนไลน์ แล้วเลือกโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อม หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02298-4608

อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ย้ำด้วยว่า การประกวดผลงานผลิตภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อมสู่นวัตกรรม Thailand 4.0 จะไม่ได้เป็นโครงการที่สามารถช่วยลดขยะได้จากต้นทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำขยะมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้งานหรือสร้างรายได้เท่านั้น แต่ยังเป็นโครงการที่มุ่งเน้นให้เกิดการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งถือเป็นฐานรากที่สำคัญของการเดินหน้าประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ยุค Thailand 4.0” ได้อย่างมีนัยสำคัญ

          ดังนั้นจึงอยากขอเชิญชวนคนไทย มาร่วมเป็นหนึ่งในการสร้างรากฐานพัฒนาประเทศให้ก้าวไปสู่ยุค “Thailand 4.0” เพื่อสร้างเมืองไทยให้เกิดความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน ไปพร้อมๆ กัน

เตือน’เหนือ-อีสาน-ตอ.-กลาง’มีพายุฤดูร้อน แนะเลี่ยงอยู่ที่โล่งแจ้ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/265177

วันพฤหัสบดี ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2560, 08.14 น.

ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และระวังอันตรายที่เกิดจากลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกไว้ด้วย ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกได้ในระยะนี้

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนแล้ว ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 13-15 เมษายน 2560 ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนล่าง และมีลมใต้พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-29 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวันโดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู มุกดาหารอำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมินครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่งโดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี และสระบุรีอุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวันกับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้วอุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาสอุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียสลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูลอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียสลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียสลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ประเทศไทยตอนบนอากาศร้อนจัด อุตุฯคาด12-15เม.ย.เกิดพายุฤดูร้อน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/264841

วันอังคาร ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2560, 08.25 น.

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมด้านตะวันตกของทะเลอันดามัน และมีลมใต้พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น

อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าในช่วงวันที่ 12 – 15 เม.ย. จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่งโดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกำแพงเพชร ตากลำพูน ลำปาง และเพชรบูรณ์อุณหภูมิต่ำสุด 23-29 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่งโดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบรี อุทัยธานี และนครสวรรค์อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดอุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาสอุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียสลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตรฃ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูลอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียสลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียสลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ไทยตอนบนอากาศร้อน-ร้อนจัด กทม.-ปริมณฑลมีฝนฟ้าร้อยละ30

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/264673

วันจันทร์ ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2560, 08.00 น.

10 เม.ย.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง สำหรับภาคใต้มีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทะเลอันดามัน และลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนลดลง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(10 เม.ย.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 37-42 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.