พายุฤดูร้อนถล่มอุดรธานี2วันรวด! ศาลาวัดพังทับรถยนต์-เสาไฟล้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/262209

วันอาทิตย์ ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2560, 13.55 น.

26 มี.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุฤดูร้อนถล่มในหลายอำเภอของจังหวัดอุดรธานี 2 วันติด หนักสุดหลายอำเภอโดยเฉพาะที่อ.ไชยวาน อ.กู่แก้ว อ.โนนสะอาด อ.กุมภวาปี และอ.หนองวัวซอ

โดยเหตุการณ์พายุถล่มจังหวัดอุดรธานีเกิดขึ้นสองวันติด ครั้งแรกในช่วงค่ำวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมาและครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 04.00 น.ของคืนที่ผ่านมา (26 มี.ค.60) พายุฤดูร้อนได้พัดถล่มอาคารบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ต.โพนสูง อ.ไชยวาน เสียหนักประมาณ 160 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่หลังคาบ้านเปิด ต้นไม้ใหญ่หักโค่น

แม้กระทั่งศาลาวัดที่วัดบ้านโพนสูง ก็พังถล่มลงมาทับรถสีข้าวของชาวบ้านที่จอดอยู่ และยังมีกำแพงวัดพังถล่มด้วย นอกจากนี้ในพื้นที่อ.กู่แก้ว อ.โนนสะอาด อ.กุมภวาปี และอ.หนองวัวซอ ก็มีรายงานพายุถล่ม ทำให้บ้านเรือนประชาชนรวม 2 วันติดเสียหายรวมแล้วกว่า 300 หลังคาเรือน

โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 04.00 น.ได้เกิดพายุฝนและลมแรงพัดเข้ามาในพื้นที่อ.ไชยวาน และอ.กู่แก้ว โดยเฉพาะบ้านโพนสูง ที่เคยถูกพายุมาแล้วรอบหนึ่งเมื่อวันก่อน เมื่อคืนที่ผ่านก็เกิดฝนตกหนักนานกว่า 1 ชม จนทำให้น้ำหลากเต็มท้องไร่ท้องนา นอกจากนี้ยังมีพายุลมกระโชกแรง และแรงลมจากพายุยังทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูง หักโค่นประมาณ 20 ต้น บริเวณเส้นทางถนนหลังสายอ.ไชยวาน-ศรีธาตุ ก่อนจะเข้าตัวหมู่บ้านโพนสูง ส่งผลให้ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้มา 2 วันแล้ว

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เมื่อเช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวเข้าไปสำรวจหมู่บ้านที่ประสบภัยหนัก คือที่บ้านโพนสูง ต.โพนสูง อ.ไชยวาน พบว่าบ้านเรือนประชาชนเสียหายหนักประมาณ 160 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่บ้านเรือนเสียหาย เนื่องจากลมแรงของพายุ

นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ใหญ่หักโค่น เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มระเนระนาด ทำให้ชาวบ้านที่บ้านโพนสูงพร้อมพระภิกษุ ได้ช่วยกันตัดต้นไม้ที่หักโค่น และช่วยกันรื้อศาลาวัดที่พังถล่มมาทับรถยนต์ของชาวบ้าน และได้ช่วยกันตระเวณซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน ให้แก่เพื่อนบ้านด้วยกันที่ถูกพายุพัดเสียหาย เพราะชาวบ้านบางรายที่บ้านพังนั้น ต้องไปอาศัยเพื่อนบ้านอยู่

นอกจากนี้ชาวบ้านบอกว่า อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยชาวบ้านในการซ่อมแซมบ้าน เพราะลำพังแรงของชาวบ้านคงไม่พอ ขณะที่ไฟฟ้าก็ยังใช้การไม่ได้สองวัน เนื่องจากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

 

ปภ.เผยผลกระทบวาตภัย26จ. จนท.เข้าพื้นที่ช่วยชาวบ้าน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/262203

วันอาทิตย์ ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2560, 13.19 น.

26 มี.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานช่วงวันที่ 14 – 26 มีนาคม 2560 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยรวม 26 จังหวัด 98 อำเภอ 177 ตำบล 546 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5,550 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 2 ราย ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯโดยด่วนแล้ว

พร้อมประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน ซึ่งมีลักษณะอากาศของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก ในช่วงวันที่ 26 – 29 มีนาคม 2560 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงเตรียมพร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 14 – 26 มีนาคม 2560 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 26 จังหวัด 98 อำเภอ 177 ตำบล 546 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5,550 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 2 ราย แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ เลย สกลนคร มหาสารคาม นครราชสีมา หนองคาย ร้อยเอ็ด ขอนแก่น ชัยภูมิ บึงกาฬ อำนาจเจริญ อุดรธานี บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ และหนองบัวลำภู ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ พะเยา ภาคกลาง 6 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สุโขทัย ชัยนาท และกำแพงเพชร  และภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว และตราด โดยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2560 มีจังหวัดได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน 2 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ และอุบลราชธานี  รวม 2 อำเภอ 5 ตำบล 50 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 74 หลัง

ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมินและจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ จากการติดตาม

สภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 26 – 29 มีนาคม 2560 ประเทศไทยมีสภาพอากาศแปรปรวนในหลายพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะอากาศของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก โดยช่วงวันที่ 26 มีนาคม 2560 จะเกิดพายุฤดูร้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนช่วงวันที่ 27 – 29 มีนาคม 2560 จะเกิดพายุฤดูร้อนครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ปภ.จึงได้ประสานทุกจังหวัดเตรียมรับมือพายุฤดูร้อน

โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรง อยู่ให้ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงในระยะนี้ไว้ด้วย ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

อีสาน-ตอ.เสี่ยงเกิดพายุฤดูร้อน ระวังลมแรง-ฟ้าผ่า-ลูกเห็บตก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/262185

วันอาทิตย์ ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2560, 08.21 น.

26 มี.ค.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และระวังอันตรายที่เกิดจากลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อน ประกอบกับในช่วงวันที่ 26-29 มีนาคม 2560 จะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมายังคงปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกบางพื้นที่ ได้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(26 มี.ค.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก และพิจิตร
อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่
บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น
อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และมหาสารคาม
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ปฏิบัติการฝนหลวงบุรีรัมย์เร่งบินเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำ ช่วย5จังหวัดภัยแล้งภาคอีสาน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/262113

วันเสาร์ ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560, 15.24 น.

ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งหน่วยฝนหลวงที่สนามบินบุรีรัมย์ เร่งปฏิบัติการบินโปรยสารเคมีทำฝนหลวง เพื่อเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติที่ตื้นเขิน สร้างความชุ่มชื้นให้ป่าไม้ และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในพื้นที่ 5 จังหวัดอีสาน

25 มี.ค.60 จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ขยายวงกว้างในหลายพื้นที่จังหวัด ล่าสุดอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้อนุมัติให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ โดยใช้เครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชนิด กาซ่า จำนวน 2 ลำ เพื่อเร่งออกปฏิบัติการบินโปรยสารเคมีทำฝนหลวง เฉลี่ยวันละ 2 เที่ยวบิน เพื่อเติมปริมาณในอ่าง และแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่มีสภาพตื้นเขิน สำรองไว้ใช้ในการผลิตประปาสำหรับอุปโภคบริโภค รวมถึงสร้างความชุ่มชื้นให้กับป่าไม้ และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคอีสานตอนล่าง คือ จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์   ศรีสะเกษ  และจังหวัดชัยภูมิ

ด้านนายนพรัตน์  พงศ์กิตติโชติ  เกษตรและสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ในครั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการทำฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนทั้งเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค ให้กับราษฎร รวมถึงพื้นที่การเกษตรของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง ในเขตพื้นที่ 5 จังหวัดภาคอีสาน ได้เป็นอย่างดี โดยมีเป้าหมายจะออกปฏิบัติการบินโปรยสารเคมีทำฝนหลวงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงฤดูฝน

 

ปภ.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย25จังหวัด เตือนรับมือพายุฤดูร้อน25-29มี.ค.60นี้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/262105

วันเสาร์ ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560, 14.52 น.

25 มี.ค.60 กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานช่วงวันที่ 14-25 มี.ค. 60 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยรวม 25 จังหวัด 75 อำเภอ 129 ตำบล 414 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4,849 หลังมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยด่วนแล้ว พร้อมประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน ซึ่งมีลักษณะอากาศของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก ในช่วงวันที่ 25-29 มี.ค.60 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงเตรียมพร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 14-25 มี.ค.60 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 25 จังหวัด 75 อำเภอ 129 ตำบล 414 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4,849 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย แยกเป็น  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ เลย สกลนคร มหาสารคาม นครราชสีมา หนองคาย ร้อยเอ็ด ขอนแก่น ชัยภูมิ บึงกาฬ อำนาจเจริญ อุดรธานี บุรีรัมย์ และกาฬสินธุ์  ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ พะเยา ภาคกลาง 6 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สุโขทัย ชัยนาทและกำแพงเพชร   ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว และตราด

โดยเมื่อวันที่ 24 มี.ค.60 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจังหวัดได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน 6 จังหวัด 11 อำเภอ 13 ตำบล 22 หมู่บ้าน ได้แก่ เลย กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุดรธานี บุรีรัมย์ และสุรินทร์ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 123 หลัง ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมินและจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 25-29 มี.ค.60 ประเทศไทยมีสภาพอากาศแปรปรวนในหลายพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะอากาศของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก โดยช่วงวันที่ 25 -26 มี.ค.60 จะเกิดพายุฤดูร้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก  ส่วนช่วงวันที่ 27-29 มี.ค.60 จะเกิดพายุฤดูร้อนครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง

ปภ.จึงได้ประสานทุกจังหวัดเตรียมรับมือพายุฤดูร้อน โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรง อยู่ให้ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงในระยะนี้ไว้ด้วย

ท้ายนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ประเทศไทยอากาศร้อน-ร้อนจัด เสี่ยงมีฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/262078

วันเสาร์ ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560, 08.18 น.

25 มี.ค.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
สำหรับความกดอากาศสูงได้ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว และจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันนี้ (25 มีนาคม 2560)

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองได้ในระยะนี้

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 25-29 มีนาคม 2560 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมายังคงปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(25 มี.ค.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร และกำแพงเพชร
อุณหภูมิต่ำสุด 17-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด
กาฬสินธุ์ มุกดาหาร บุรีรัมย์ และ สุรินทร์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี
ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

9จังหวัดเหนืออ่วม ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ‘ปภ.’เร่งสกัดเผาป่า

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/262073

วันเสาร์ ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

9จังหวัดเหนืออ่วมค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน‘ปภ.’เร่งสกัดเผาป่าเตือนพายุ25-29มี.ค.

ทุกจังหวัดภาคเหนืออ่วมฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานปภ.เร่งแก้ปัญหา หมอกควันไฟป่าทุกมิติ พร้อมเตือนทั่วประเทศรับมืออากาศแปรปรวน พายุฝนกระหน่ำ 25-29มี.ค. ส่วนสถานการณ์วาตภัยที่ผ่านมา มี22จังหวัด ได้รับผลกระทบ บ้านพังกว่า 4พันหลัง เร่งประสานช่วยเหลือแล้ว

เมื่อวันที่ 24มีนาคม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศในวันนี้ พบว่าภาคเหนือทุกจังหวัดอากาศแย่ที่สุดในรอบปี โดยพบฝุ่นละอองสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานทั้ง 9 จังหวัด โดยค่าสูงสุดที่ตรวจวัดได้อยู่ที่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง วัดได้ 237 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนจังหวัดอื่นๆ ล้วนแต่สูงเกินค่ามาตรฐานคือ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรทั้งสิ้น สาเหตุหลักมาจาก 2 เรื่องคือ ลมที่พัดมาจากพื้นที่ฝั่งตะวันตกหรือจากประเทศเมียนมา รวมทั้งมีลมจากพื้นดินดันขึ้นข้างบน ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า แจ้งว่าภาพรวมการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา วันนี้มี 234 จุด ส่วนที่ประเทศเมียนมาทั้งประเทศมีมากถึง 2,034 จุด

ส่วนอีกประการคือ ยังคงมีการลักลอบเผาเพื่อหาของป่า ล่าสัตว์ และการเตรียมพื้นที่เกษตร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ได้ทำหนังสือแจ้งไปทางรัฐบาลเมียนมาแล้ว ส่วนของประเทศไทยนั้น ยอมรับว่ามีบางพื้นที่ที่ยังมีการลักลอบเผากันอยู่ แต่จากมาตรการที่ทำมาโดยตลอดนั้น พอใจระดับหนึ่ง เพราะสามารถกำจัดและลดปริมาณการเกิดหมอกควันน้อยกว่าปีที่แล้วได้มาก

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาสถานการณ์หมอกควันไฟป่าว่า ปภ. ได้ประสาน 9 จังหวัดภาคเหนือดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างเข้มข้น โดยใช้กลไก “ประชารัฐ” ขับเคลื่อนการทำงานในมิติเชิงพื้นที่ พร้อมจัดตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและอำเภอ เป็นศูนย์กลางในการอำนวยการ สั่งการ ควบคุมปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ยังได้จัดกำลังอาสาสมัครเฝ้าระวังไฟป่าและเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวน รวมถึงดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพื้นที่ป่าไม้ เน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบจุดไฟเผา พื้นที่เกษตรกรรมให้กำหนดช่วงเวลาและจัดระเบียบการเผา ประกาศเขตห้ามเผา ส่งเสริมการจัดทำแนวกันไฟ และรณรงค์การไถกลบแทนการเผา

ส่วนพื้นที่ริมทางหลวง ให้เฝ้าระวังการเผาในเขตริมทางหลวงอย่างเข้มข้น อีกทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิงให้พร้อมปฏิบัติการระงับไฟป่า ระดมรถบรรทุกน้ำและเครื่องมือฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ พร้อมประชาสัมพันธ์ผลกระทบของหมอกควันต่อสุขภาพอนามัย และข้อมูลคุณภาพอากาศ รวมถึงคำแนะนำในการปฏิบัติตนแก่ประชาชน ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันมิให้วิกฤตมากขึ้น

สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุมให้หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน ส่วนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน เป็นพิเศษ เพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางอยู่ในระดับต่ำ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน

อธิบดี ปภ. เปิดเผยด้วยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่าประเทศไทยมีสภาวะอากาศแปรปรวน ซึ่งจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับลูกเห็บตกบางพื้นที่ ซึ่งมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้ ช่วงวันที่ 25-26 มีนาคม จะมีพายุฤดูร้อนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และช่วงวันที่ 27-29 มีนาคม จะเกิดพายุฤดูร้อนเพิ่มมากขึ้น ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ปภ.เขตและปภ.ในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน พายุฤดูร้อน และฝนตกหนักบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 25-29มีนาคม

สำหรับสถานการณ์วาตภัย ในช่วงวันที่ 14-24มีนาคมที่ผ่านมา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 22 จังหวัด 65 อำเภอ 115 ตำบล 398 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 4,726 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย แยกเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ เลย สกลนคร มหาสารคาม นครราชสีมา หนองคาย ร้อยเอ็ด ขอนแก่น ชัยภูมิ บึงกาฬ และอำนาจเจริญ ภาคเหนือ 1จังหวัด ได้แก่ พะเยา ภาคกลาง 6จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สุโขทัย ชัยนาท และกำแพงเพชรและภาคตะวันออก 2จังหวัด ได้แก่ จ.สระแก้วและจ.ตราด

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมินและจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ชดเชยความเสียหายของบ้านเรือน อีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต

เตือนทั่วประเทศรับมือพายุฤดูร้อนถล่มเสาร์-อาทิตย์นี้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/262023

วันศุกร์ ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2560, 17.54 น.

24 มี.ค.60 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทย มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 25-29 มี.ค.60 ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 24 มี.ค.2560 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 25-29 มี.ค.2560 ประเทศไทยมีสภาวะอากาศแปรปรวน บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ซึ่งจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ และอากาศจะคลายความร้อนลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งสภาวะอากาศดังกล่าวจะเกิดขึ้นตามภาคต่างๆ ดังนี้

วันที่ 25-26 มี.ค.2560 จะมีพายุฤดูร้อนบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล  วันที่ 27-29 มี.ค.2560 บริเวณที่เกิดพายุฤดูร้อนจะเพิ่มมากขึ้น

ภาคเหนือ : จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร และกำแพงเพชร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคตะวันออก : ชลบุรีรวมทั้งพัทยา และระยอง

ภาคกลาง : จังหวัดลพบุรีและสระบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต และพังงา

ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และระวังอันตรายที่เกิดจากลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกไว้ด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในช่วงวันที่ 25-29 มี.ค.2560 ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ประกอบกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 มี.ค.2560 ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น

 

 

เตรียมช่วย’วาตภัย-ภัยแล้ง’ อบรมเจ้าหน้าที่รับมือ24ช.ม.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/261957

วันศุกร์ ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2560, 13.17 น.

24 มี.ค.60  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันเอก จตุรภัทร วงศ์ศรีเผือก ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 24  ตรวจความพร้อมของชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเตรียมความพร้อมการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง วาตภัย และอุทกภัย ให้กับประชาชน

โดยสามารถเข้าปฎิบัติงานได้หลังจากได้รับแจ้งเหตุภายใน 30 นาที ซึ่งทางหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 24 ได้จัดเตรียมกำลังพลที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างชำนาญ เครื่องจักรที่มีความพร้อมในการช่วยเหลือภัยต่างๆ เครื่องมือและยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยต่อการใช้งาน ซึ่งทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็วตรงจุด ทำให้ลดปัญหาและความเสียหาย ที่เกิดจากภัยพิบัติได้ในระดับหนึ่ง

พันเอก จตุรภัทร วงศ์ศรีเผือก ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 24 กล่าวว่า ในห้วงนี้ได้มีการตรวจความพร้อม มีภัยพิบัติเกิดขึ้นหลายๆภัย เช่น วาตภัยที่ได้ไปช่วยเหลือแล้ว ภัยแล้งก็ได้เข้าไปสนับสนุนน้ำ อย่างหนึ่งที่อยากจะฝากชุดบรรเทาสาธารณภัย เตรียมความพร้อมต้องพร้อมตลอก 24 ชั่วโมง มีแผนติดตามตัวได้ ยุทโธปกรณ์ต้องพร้อมที่จะปฏิบัติงานได้ตลอดเวลา

นอกเหนือจากนั้น เรื่องข่าวสารที่จะต้องติดตามสถานการณ์ รวมไปถึงการประสานงานกับหน่วยงานข้างเคียง เพื่อเตรียมความช่วยเหลือให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อส่งต่อและประสานงานให้ป้องกันภัยจังหวัด หรือหน่วยงานอื่นๆ เข้ามาบูรณาการจนปัญหาจากภัยพิบัติคลี่คลาย

อย่างไรก็ตามสำหรบการช่วยเหลือในเบื้องต้น หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 24 ได้เตรียมความพร้อมการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง วาตภัย และอุทกภัย ให้กับประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่หมายเลข 042-635450

 

แจงตัดไม้100ต้นทำจุดพักรถเหมืองลาบู ยันไม่จริงหลังแชร์คลิปว่อน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/261947

วันศุกร์ ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2560, 12.09 น.

24 มี.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มื่อเวลา 09.45 น. ที่ศูนย์ปฎิบัติการอำเภอยะหา (ศปก.อ.ยะหา) อ.ยะหา จ.ยะลา นายชัยชนะ กฤตยานาถ นายอำเภอยะหา พันเอกชลัช ศรีวิเชียร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 นายสมศักดิ์ ศรีสมบัติ นายกเทศมนตรีตำบลปะแต นายอดุลย์ ดอมิ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.2 (ปะแต)

ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชน กรณีมีการเผยแพร่ภาพการตัดต้นไม้ เพื่อทำจุดพักรถ เหมืองลาบู อ.ยะหา จ.ยะลา ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย

นายชัยชนะ กฤตยานาถ นายอำเภอยะหา กล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวขอยืนยันว่าเรื่องการตัดต้นไม้ 100 ต้น ตามที่มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียนั้น ไม่ได้เป็นความจริง แต่ยอมรับว่ามีการตัดต้นไม้จริง แต่เป็นการตัดต้นไม้ของชาวบ้าน ก่อนที่จะมีการเข้าไปปรับพื้นที่ และที่ผ่านมา นายอดุลย์ ดอมิ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.2 (ปะแต) ได้เข้าทำการตรวจยึดไม้แปรรูปจำนวน 10 แผ่น ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 60 ที่ผ่านมา

โดยการปรับปรุงพื้นที่ท่องเที่ยวดังกล่าว เพื่อเป็นการอนุรักษ์ป่า และส่งเสริมการท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์ จึงไม่มีความเป็นไปได้ที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะทำการตัดต้นไม้เป็น 100 ต้น ตามที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลอย่างแน่นอน

ด้านนายอดุลย์ ดอมิ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.2 (ปะแต)  เปิดเผยว่า ตนเองขอยืนยันว่า ไม่ได้มีการตัดต้นไม้ตามที่เป็นข่าวในโลกออนไลน์แต่อย่างใด ภาพที่มีการแชร์นั้น เป็นการตัดต้นไม้ของประชาชนที่ฉวยโอกาส และเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการตรวจยึดแล้ว ส่วนท่อนไม้ที่พบอยู่นั้น เป็นไม้ขี้หนอน ซึ่งไม่สามารถทำประโยชน์อะไรได้  และจะย่อยสลายไป ยืนยันว่าไม่มีการตัดต้นไม้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด แต่มีการตัดต้นไม้จากชาวบ้านที่ฉวยโอกาส และมีการตรวจยึดเอาไว้แล้ว