ปภ.สั่ง7จังหวัดริม’เจ้าพระยา’ เตรียมพร้อมรับมือน้ำล้นตลิ่ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/271400

วันจันทร์ ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 12.00 น.

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 7 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี เตรียมพร้อมรับมือน้ำล้นตลิ่ง

โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ระดับน้ำ และสภาพอากาศ พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างเคร่งครัด

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า  ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ทำให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพราะยา ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์น้ำกับสำนักงานชลประทานที่ 12 คาดว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณตำบลบางหลวงโดด อำเภอบางบาล และตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยควบคุมปริมาณการไหลของน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เข้าสู่พื้นที่ชลประทานฝั่งตะวันตกและตะวันออกของเขื่อนเจ้าพระยา อาจส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสาน 7 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี เตรียมพร้อมรับมือภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เกษตรกรที่ปลูกพืชและเสี้ยงสัตว์น้ำ ผู้ประกอบการแพร้านอาหาร และงานก่อสร้างเขื่อนให้ติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด จัดเก็บและขนย้ายวัสดุสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วมผูกยึดกระชังเลี้ยงปลาให้มั่นคงแข็งแรง รวมถึงจัดทำแนวคันกั้นน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขา หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ปภ.รายงานน้ำไหลหลาก-ล้นตลิ่งใน4จว. พร้อมประสานภาคใต้-ตะวันออกรับมือฝนตกหนัก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/271381

วันจันทร์ ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 10.32 น.

22 พ.ค.60 กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 16 -22 พ.ค.60 เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด รวม 49 อำเภอ 168 ตำบล 963 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,636 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 10 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง 4 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย เลย พิจิตร และสุราษฎร์ธานี ในภาพรวมระดับน้ำท่วมลดลง ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว อีกทั้ง ได้ประสานให้จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ และภาคตะวันออก เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่ง โดยตั้งแต่วันที่ 16 – 22 พ.ค.60 มีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด รวม 49 อำเภอ 168 ตำบล 963 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,636 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 10 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง 4 จังหวัด 21 อำเภอ 103 ตำบล 792 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ศรีสำโรง อ.เมืองสุโขทัย อ.คีรีมาศ อ.ศรีนคร อ.สวรรคโลก อ.ทุ่งเหลี่ยม อ.บ้านด่านลานหอย และอ.กงไกรลาศ รวม 56 ตำบล 405 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 20 หลัง ผู้เสียชีวิต 2 ราย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 17,119 ครัวเรือน 39,654 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 17,655 ไร่ พิจิตร น้ำจากอำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ต.รังนก อ.สามง่าม รวม 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 20 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 3,000 ไร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ เลย น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองเลย อ.วังสะพุง อ.ภูหลวง อ.ภูกระดึง อ.ท่าลี่ อ.นาแห้ว อ.เชียงคาน อ.ผาขาว อ.ปากชม อ.ด่านซ้าย และอ.นาด้วง รวม 44 ตำบล 332 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 2,289 ครัวเรือน 6,417 คน ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี น้ำป่าไหลหลากล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่อ.เวียงสระ รวม 2 ตำบล 7 หมู่บ้าน สถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำท่วมลดลงทุกพื้นที่ แต่ยังคงท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตร

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยลง ส่วนภาคใต้และภาคตะวันออกยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดภาคใต้และภาคตะวันออก รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตาม  สภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และชุดเคลื่อนที่เร็วให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับเพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ‘กทม.-ปริมณฑล’ฟ้าคะนอง40%

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/271360

วันจันทร์ ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 08.10 น.

22 พ.ค. 60 ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง สำหรับภาคใต้และภาคตะวันออกยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง สำหรับภาคใต้และภาคตะวันออกยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้ เป็นดังนี้
ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ ตาก และกำแพงเพชร อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางพื้นที่ ‘กทม.-ปริมณฑล’ฟ้าคะนอง40%

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/271228

วันอาทิตย์ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 08.15 น.

21 พ.ค.60 ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้ เป็นดังนี้

ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท สระบุรี ลพบุรี และสุพรรณบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทัพบกจัดเต็ม ตั้งกองร้อยรับมือน้ำท่วม หนองคายขนของหนี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/271214

วันอาทิตย์ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ทัพบกจัดเต็มตั้งกองร้อยรับมือน้ำท่วมหนองคายขนของหนีผวาแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง

กองทัพบกเตรียมกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย200 ชุดรับมือน้ำท่วมฉับพลัน ขณะที่กรมอุตุฯ เตือน 22-26 พ.ค. นี้ จ่อมีฝนตกหนักอีกระลอก ด้าน จ.หนองคาย ระส่ำขนของย้ายหนีหลังแม่น้ำโขงจ่อล้นตลิ่ง

วันที่ 20 พฤษภาคมที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.ท.ธเนศ กาลพฤกษ์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก กล่าวว่า หลังเกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ได้สั่งการให้กองทัพบกเตรียมกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย 200 ชุดเพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนที่จะประสบภัยน้ำท่วม ทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยบูรณาการร่วมกับ กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กรมชลประทาน และกรมทางหลวง ร่วมมือกันช่วยเหลือประชาชน

เพื่อให้สามารถคลี่คลายสถานการณ์อย่างรวดเร็ว

ส่วนพื้นที่ กทม. ทางกองทัพภาคที่ 1 ได้เตรียมความพร้อมรับมือปัญหาอุทกภัยที่กำลังจะมาถึง ซึ่ง พล.ต.สันติพงษ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวเสริมว่า กองทัพภาคที่ 1 ได้จัดกำลังพล 1 กองพันประกอบด้วย 1 กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย จัดกำลังพล พร้อมอุปกรณ์ ยุทโธปกรณ์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ รวมถึงมีเรือท้องแบน รถบรรทุกที่มีความสูง 1.40 เมตร ที่ถือเป็นพระเอกของกองทัพบกสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทุกแห่ง หน่วยทหารในพื้นที่กับสำนักงานเขตก็ร่วมกันแก้ไขปัญหา

“ส่วนกำลังพลของหน่วยจะเสริมสร้างให้เข้าใจต่อการแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชนที่ประสบสาธารณภัยต่างๆ อย่างไรก็ตาม ทาง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้สั่งการให้หน่วยในกองทัพภาคที่ 1 ที่ดูแลพื้นที่ภาคกลาง 26 จังหวัดให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ทั้งหมด เพื่อให้กำลังพลเกิดความมั่นใจและมีความพร้อมในอุปกรณ์ ตลอดจนประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ส่วนเรื่องการจราจรติดขัดจากฝนตก อย่างเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่เกิดมีฝนตกและจราจรติดขัดที่ถนนแจ้งวัฒนะ เราใช้เวลา 2 ชั่วโมงสถานการณ์ก็คลี่คลาย” พล.ต.สันติพงษ์ ระบุ

ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ในวันเดียวกัน ที่ จ.หนองคาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจุดที่ไหลผ่าน จ.หนองคาย ยังมีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ อ.เมือง จ.หนองคาย วัดได้ที่ระดับ 6.36 ม. เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเช้าของวันที่ 19 พ.ค. อีกกว่า 1.23 ม. และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เนื่องจากน้ำทางตอนเหนือ คือที่ อ.เชียงคาน จ.เลย รวมทั้งน้ำสาขาใน สปป.ลาว ก็มีระดับที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน จากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องตลอดหลายวันที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นได้ท่วมองค์พระธาตุกลางน้ำ ในแม่น้ำโขง บริเวณชุมชนวัดธาตุ ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ที่โผล่พ้นน้ำในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมา เห็นเพียงคลื่นน้ำที่เกิดจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวประทะกับองค์พระธาตุที่จมอยู่ในน้ำเท่านั้น ทำให้การเดินเรือต้องระมัดระวังไม่ให้ชนกับองค์พระธาตุกลางน้ำ รวมถึงบรรดาผู้ประกอบการดูดทรายในแม่น้ำโขงทั้งชาวไทยและลาว ต้องหยุดการดูดทรายในช่วงนี้ไว้ก่อน ต่างเร่งขนย้ายเครื่องมือและเครื่องจักรในการดูดทรายออกเพื่อไม่ให้ถูกน้ำท่วมเสียหาย หรือถูกพัดจมไปกับสายน้ำที่เชี่ยวกราก

ที่ อ.เมือง จ.เลย ตั้งแต่ช่วงเช้า ระดับน้ำในแม่น้ำเลยลดลงประมาณ 50 ซม. จาก 11.20 ม. เหลือ 10.70 ม. และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศโดยรอบแม่น้ำมีประชาชนเดินทางมาสังเกตระดับน้ำเป็นระยะๆ ขณะที่ ถ.เจริญ บริเวณหน้าไปรษณีย์จังหวัดเลย รถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว เช่นเดียวกับระดับน้ำที่ท่วมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย และสำนักงานเทศบาลเมืองเลย ที่อยู่ในที่ลุ่มขณะนี้ลดลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับสนามกีฬากลาง เลยริเวอร์ไซด์ นั้น ยังมีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 ม. ไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้

กรมทางหลวงชนบท ออกประกาศเส้นทางควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากมีน้ำท่วมขัง โดยมี 4 เส้นทางในพื้นที่ จ.เลย ที่ไม่สามารถใช้สัญจรได้ ประกอบด้วย ทางหลวงชนบทสาย ลย.4017 ลย.3005 ลย.3049 , ลย.3011 จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบกับอุทกภัย ขอให้สังเกตป้ายจราจรเตือนระดับน้ำหรือป้ายหลีกเลี่ยงเส้นทาง ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่สายด่วนทางหลวงชนบท 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำไหลหลากระหว่างวันที่ 16-20 พ.ค. ว่า เกิดฝนตกตั้งแต่วันที่ 16-20 พ.ค. จนถึงปัจจุบันใน 12 จังหวัด ทำให้เกิดน้ำท่วม ซึ่งยังคงมีสถานการณ์ใน 5 จังหวัด บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 1,285 หลัง เสียชีวิต 2 ราย ที่ จ.กำแพงเพชร และ จ.สุโขทัย โดยมีจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด คือ พะเยา อุบลราชธานี ลำพูน อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร และอุดรธานี นอกจากนี้ยังมีจังหวัดที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ดังนี้

1.สุโขทัย น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 42 ตำบล 306 หมู่บ้าน ปัจจุบันน้ำลดลง 2.เลย น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ 27 ตำบล 164 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัวและเริ่มลดลง 3.พิษณุโลก น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ 16 ตำบล 44 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว 4.เพชรบูรณ์ น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ 15 ตำบล 54 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง และ 5.เชียงใหม่ น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 4 ตำบล 7 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยแพร่ประกาศพยากรณ์อากาศ 7 วัน ระหว่างวันที่ 20-26 พ.ค. 2560 ระบุว่า ช่วงวันที่ 20-21 พ.ค. ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ ในบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก และภาคตะวันออก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ แต่ในช่วงวันที่ 22-26 พ.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขณะที่คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ดังนั้นข้อควรระวัง คือระหว่างวันที่ 22-26 พ.ค. ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ลุ่ม ในบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ที่อาจเกิดน้ำท่วมฉลับพลันน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

ชาวบ้านงง! ผู้ใหญ่ให้ข้อมูลน้ำท่วมแย้งกันเอง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/271140

วันเสาร์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 14.07 น.

20 พ.ค.60  นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมประทาน เปิดเผยว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมมาก่อนเข้าฤดูฝน เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่า ปีนี้ฝนจะมาเร็ว ซี่งปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นยังเป็นลักษณะท่วมเฉพาะจุดมาเร็วไปเร็ว จากน้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่ต้นน้ำภายในไม่เกิน 1 วัน ก็จะลด ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำไม่เกิน 2-3 วัน น้ำก็ยุบหมด ซึ่งไม่ต้องวิตกว่าจะเกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 54 เขื่อนใหญ่ๆ ทั่วประเทศยังรับน้ำได้อีกมาก ในขณะนี้มีปริมาณน้ำไม่ถึง 50% อย่าตื่นตระหนกเชื่อข่าวลือ

ขณะเดียวกัน นายสมิทธ ธรรมสโรส อดีตประธานมูลนิธิเตือนภัยพิบัติ กลับออกมาเตือนว่า ปีนี้ที่มีแนวโน้มจะเกิดอุทกภัยใหญ่เหมือนปี 54 แต่จะเกิดในบางจุดบางพื้นที่ สภาพอากาศมีความแปรปรวนผิดปกติ ยกตัวอย่างในประเทศจีน มีทั้งมณฑลที่มีฝนปริมาณสูงขึ้นจนเกิดน้ำท่วม แต่บางแห่งมีหิมะตก เป็นต้น มันมีโอกาสเกิดอุทกภัยใหญ่ๆ แต่เป็นพื้นที่ๆไป ไม่เกิดวงกว้าง และมีโอกาสพายุเข้าหลายลูก แต่ทางหน่วยงานในไทย ยังไม่ออกมาเตือน ปัจจุบันมีเครื่องมือตรวจจับกลุ่มเมฆฝนทันสมัยที่สุด แต่ไม่ค่อยออกข่าวแจ้งเตือนอย่างละเอียด ทำเพียงออกประกาศเตือนเป็นภาพรวมกว้างๆ

ภาคตอ.-ใต้ฝนตกหนักบางพื้นที่ กทม.และปริมณฑลตกร้อยละ60

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/271112

วันเสาร์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 08.26 น.

20 พ.ค.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลงจากในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสม อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(20 พ.ค.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท สระบุรี ลพบุรี และสุพรรณบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เผยอานุภาพ’พายุงวงช้าง’ขนาดใหญ่อำเภอตาคลี (ชมคลิป)

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/270832

วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 14.43 น.

18 พ.ค. 60 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ป๋าไมค์ไง จะใครล่ะ” โพสต์คลิปเกี่ยวกับเหตุการณ์ขณะเกิดพายุงวงช้าง อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ก่อตัวขึ้นขณะเกิดพายุฝนคะนอง โดยในคลิปจะเป็นพายุงวงช้างปรากฎอยู่ ลูกขนาดใหญ่ ก่อตัวขึ้นมาแล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวไป สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้พายุง่วงช้าง สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชนหลายหลัง รถยนต์เสียหายหลายคัน เสาไฟฟ้าริมถ.พหลโยธิน ช่วงหน้ากองบิน ล้มหัก89 ต้น เป็นระยะทางยาว3 กม. ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งอำเภอตาคลี

ขอบคุณคลิป : ป๋าไมค์ไง จะใครล่ะ
ขอบคุณภาพ :  สุรศักดิ์ วงษ์เกลี้ยง

อุตุฯประกาศ’เหนือ-กลาง’ฝนน้อยลง ‘อีสาน-ตะวันออก’ตกหนักมากอีก1วัน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/270808

วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 13.51 น.

18 พ.ค.60 กรมอุตุนิยมวิทยา ปรกาศ “ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน”
ฉบับที่ 9 ภาคเหนือและภาคกลาง มีฝนตกหนักถึงหนักมากลดน้อยลง แต่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้อีก 1 วัน โดยมีผลกระทบตามภาคต่างๆดังนี้

ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดพะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม

ภาคกลาง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สระบุรี และลพบุรี

ภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย และประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลงทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคกลางมีฝนลดน้อยลง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง

 

 

ประเทศไทยฝนตกหนักหลายพื้นที่ ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง2-4เมตร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/270762

วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 08.28 น.

18 พ.ค.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากอาจทำให้น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมา ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(18 พ.ค.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์
สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์
สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 23-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี
และพระนครศรีอยุธยา
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.