ทั่วประเทศมีฝนชุกหนาแน่น กทม.-ปริมณฑลตกร้อยละ60

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/269966

วันเสาร์ ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 08.02 น.

13 พ.ค.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคใต้มีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางแห่ง

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา หย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมทะเลอันดามันตอนกลาง กำลังจะเคลื่อนไปตอนบนของทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้ (13 พ.ค.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร
ยโสธร ร้อยเอ็ด สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และ ชัยภูมิ
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ส่วนภาคใต้ตกหนักบางแห่ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/269627

วันพฤหัสบดี ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 08.08 น.

11 พ.ค.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศมาเลเซียได้เคลื่อนเข้าปกคลุมช่องแคบมะละกา ประกอบกับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(11 พ.ค.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่
เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ร่วมปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/269609

วันพุธ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 19.58 น.

10 พ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมป่าไม้ นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยนายสุรชัย จันทิมาธร หรือ น้าหงา คาราวาน  ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2553 ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ร่วมกันจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2560  เพื่อทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10

 

ชาวดงกกผึ้งต้องพึ่งพิธี’บวชป่า’ หวังป้องกันแก๊งมอดไม้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/269383

วันอังคาร ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 15.00 น.

9 พ.ค.60 ที่บริเวณป่าชุมชนดงกกผื้ง ต.โนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ชาวบ้านใน 8 หมู่บ้าน ทั้งผู้เฒ่า ผู้แก่ และคนหนุ่มสาวได้ร่วมในพิธีทอดผ้าป่า ปลูกต้นไม้เสริมป่าชุมชนและพิธีกรรมทางศาสนาบวชป่ารักษาต้นไม้ในป่าชุมชนดงกกผึ้งเนื้อที่ 700 ไร่แห่งนี้เอาไว้ และมี พ.อ.นิติวัฒน์ พงษ์ศรี รอง ผบ.มทบ.24 และนายศุกโชค พนาธิกุล นายอำเภอกู่แก้ว เข้าร่วมพิธีบวชป่ารักษาต้นไม้กับชาวบ้าน ส่วนพิธีทางศาสนามีหลวงปู่สี ศิริธโร เจ้าอาวาสวัดป่าดงกกผึ้งมาชาวบ้านร่วมพิธีบวชป่าด้วย ซึ่งการบวชป่าครั้งนี้เป็นแรงศรัทธาและร่วมแรงร่วมใจกันของชาวบ้านที่จะช่วยกันอนุรักษาป่าผืนนี้เอาไว้ชั่วลูกชั่วหลาน

สำหรับป่าดงกกผึ้งมีเนื้อที่ 700 ไร่ถือว่าเป็นป่าชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ที่มีพันธุ์ไม้นานาชนิดโดยเฉพาะต้นพะยูง ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้เต็งรัง จำนวนมาก ชาวบ้านใน 8 หมู่บ้าน ต.โนนทองอินทร์ เขารู้สึกหวงแหนและรักษาป่าผืนนี้เอาไว้อย่างมากไม่อยากให้ใครเข้ามาทำลายแผ้วหรือตัดไม้ออกจากป่า ดังจะเห็นได้จากเมื่อกลางเดือนเม.ย.ที่แล้ว ชาวบ้านได้ร่วมกันออกลาดตระเวนในเวลากลางคืนและสามารถจับกุมแก๊งมอดไม้ที่เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงเอาไว้ได้ และเมื่อชาวบ้านจับกุมได้รู้แล้วถึงกับอึ้งเพราะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ส่วนในเรื่องของคดีจับแก๊งมอดไม้ที่เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงในป่าดงกกผึ้งเมื่อกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านก็ได้บุกไปยังที่ว่าการอำเภอกู่แก้วเพื่อให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยรักษาป่าที่ 7 อ.ศรีธาตุได้นำไม้พะยูงมาคืนให้ชาวบ้านและเก็บเอาไว้ที่กองร้อยอส.ด้านหลังที่ว่าการอำเภอ เนื่องจากชาวบ้านไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพราะเคยมายึดไม้ของกลางเอาไว้แต่หายไปทุกทีและคดีความก็ไม่คืบหน้า ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันขอเก็บไม้รักษาไว้เอง ส่วนเรื่องคดีและการติดตามจับกุมนายทหารและผู้ใหญ่บ้านที่ร่วมขบวนการตัดไม้พะยูงคนร้ายก็ยังไม่เข้ามอบตัวแต่อย่างใด

 

ทส.เปิด”ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า” รุกคืบทวงคืนผืนป่า-ปราบปรามกลุ่มอิทธิพล

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/269356

วันอังคาร ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 12.56 น.

            ประเทศไทยเคยได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินเต็มไปด้วยทรัพยากร “ป่าไม้” ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แต่ในช่วงระยะเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ป่าไม้ของเรากลับถูกบุกรุกคุกคามจนลดลงอย่างต่อเนื่อง จากในปี พ.ศ.2516 ที่เราเคยมีพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศถึง 138 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 43.2% ของพื้นที่ประเทศ แต่จากข้อมูลของกรมป่าไม้เมื่อปี 2558 กลับพบว่าเนื้อที่ป่าไม้ในบ้านเราลดเหลือเพียง 102 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 31.6% ของพื้นที่ประเทศเท่านั้น

หรือหากจะพูดให้ชัดเจนขึ้น ก็คือ ในช่วงเวลา 40 กว่าปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้สูญเสียพื้นที่ป่าไปแล้วถึงกว่า 36 ล้านไร่!

ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราต้องสูญเสียป่าไม้ไปอย่างมากมายขนาดนี้ ย่อมหนีไม่พ้นปัญหาหลักเพียงไม่กี่อย่างที่เป็นสาเหตุหลัก นั่นคือ การลักลอบตัดไม้ การบุกรุกเพื่อแสวงหาที่ทำกินของประชาชน และการลักลอบเข้ามาถือครองพื้นที่เพื่อก่อสร้างรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ หรือผลประโยชน์อื่นๆ ของกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพลทางสังคม

          นี่จึงสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการมาตรการต่างๆที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถกอบกู้วิกฤติและพลิกฟื้นผืนป่าให้กลับคืนมาอย่างเร่งด่วน!

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศ ได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุก และแสวงประโยชน์ในการใช้พื้นที่ป่าไม้โดยมิชอบอย่างเด็ดขาด

โดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.), กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุกจริตในภาครัฐ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาสามารถดำเนินการทวงคืนผืนป่าได้แล้วจำนวน 349,000.76 ไร่ ฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ จำนวน 212,498.37 ไร่

ขณะที่มาตรการหนึ่งที่ พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เพื่อให้การบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาดังกล่าว มีศูนย์กลางในการประสานการปฏิบัติที่มีคุณภาพ มีความยั่งยืน และมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาช่วยเหลือในการวิเคราะห์และติดตามผลการปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ การจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า” (ศปก.พป.) ประกอบด้วย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยมีการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกับ ศูนย์ปฏิบัติการของ กอ.รมน., เหล่าทัพ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายปกครอง โดยมีดำเนินงานภารกิจสำคัญประกอบด้วย

1.มุ่งเน้นในพื้นที่ที่ล่อแหลมต่อการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ที่มีนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง

2.คดีที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกพื้นที่ป่า รวมถึงการออกเอกสารสิทธิที่ดินที่มิชอบด้วยกฎหมายในพื้นที่ป่า

3.การทำไม้มีค่าที่กระทำเป็นขบวนการเพื่อลักลอบไปจำหน่ายต่างประเทศ

4.การลักลอบมีหรือค้าสัตว์ป่า

​            5.ลดกลุ่มอิทธิพลที่เกี่ยวกับเครือข่ายการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า

ทั้งนี้ การดำเนินการของ ศปก.พป. จะอยู่ภายใต้การกำกับของ “คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพิทักษ์ป่า” ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิบัติของ ศปก.พป. มีเป้าหมาย และทิศทางที่ชัดเจน มีความสุภาพ โปร่งใส เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ บนพื้นฐานของการรักษาผลประโยชน์ของชาติ

          อันจะนำไปสู่เป้าหมายสูงสุดของรัฐบาล นั่นคือ “การทวงคืนผืนป่าให้กับแผ่นดิน” เพื่อสร้างมั่นคงให้กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้ได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนตลอดไป

เขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์ดี คาดกลางเดือนฝนลงมาเพิ่มรับเกษตรกรทำนาปี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/269337

วันอังคาร ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 10.30 น.

9 พ.ค.60 ตรวจสอบระดับน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เช้าวันนี้ลดลงจากเมื่อวานเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่สามารถจัดสรรเพื่อการเกษตรนาปีได้ โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนวัดได้ 15.89 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าตลิ่ง 45 เซนติเมตร ลดลง 2 เซนติเมตร ส่วนด้านท้ายเขื่อนยังคงอยู่ในระดับต่ำจนสามารถมองเห็นสันดอนทรายและท้องแม่น้ำได้ โดยวัดได้ 5.65 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง 10.69 เมตร ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาระบบนิเวศ และผลักดันน้ำเค็ม

โดยนายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ชัยนาท เปิดเผยว่า ระดับน้ำในเขื่อนเจ้าพระยาในปัจจุบันถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ที่สามารถมั่นใจได้ว่าเพียงพอสำหรับจัดสรรให้พื้นที่นาลุ่มจำนวน 1,150,000 ไร่ ของทุ่งเจ้าพระยาได้โดยไม่เกิดปัญหา และคาดว่ากลางเดือนพฤษภาคมก็จะมีปริมาณน้ำฝนลงมาเสริม ซึ่งจะเป็นช่วงที่นาดอนที่เหลือจะสามารถเริ่มการเพาะปลูกโดยใช้น้ำฝนเป็นหลักได้

 

ประเทศไทยตอนบนอากาศร้อน กทม.-ปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนอง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/269319

วันอังคาร ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 08.04 น.

9 พ.ค. 60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนบริเวณภาคใต้มีมากกว่าบริเวณภาคอื่นๆ
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมประเทศมาเลเซีย และมีแนวโน้มว่าจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามัน ประกอบกับลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นในระยะนี้พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้ (9พ.ค.60) เป็นดังนี้
ภาคเหนือ อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา ขอนแก่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เรือขุดน้ำโขงไม่สำรวจ’คอนผีหลง’อ้างหินเยอะ ชี้รัฐบาลไทยไม่อนุมัติ-จ่อเดินหน้าเฟต3

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/269220

วันจันทร์ ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 14.36 น.

8 พ.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา จ.เชียงราย ได้แจ้งผลการสังเกตุการณ์กรณีทางกรมเจ้าท่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ทำการสังเกตุการ์ณอยู่บนเรือสำรวจแม่น้ำโขงของบริษัท CCCC Second Habor Consultant จำกัด จากประเทศจีน ซึ่งได้เริ่มทำการสำรวจแม่น้ำโขงตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมาตั้งแต่สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน โดยมีกำหนดจะสำรวจตลอดแนวแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน จ.เชียงราย ทั้งหมดเป็นระยะเวลา 55 วัน ล่าสุด เรือเจียฟู่ 3 ได้ดำเนินการสำรวจขุดเจาะไปถึงจุดที่ 87-92 แล้ว โดยอยู่ในเขต ต.ริมโขง อ.เชียงของ ซึ่งเคยมีกลุ่มชาวบ้านออกมาแสดงพลัง ถือป้ายกลางเกาะแม่น้ำโขงตรง “ผาเยีย” ติดบ้านเมือง กาญจน์ ต.ริมโขง มาแล้ว

ล่าสุด เรือเจียฟู่ 3 ได้ไปถึงผาเยียและจะเข้าสู่จุดที่ 93 เรียกว่า “คอนผีหลง” ที่ประกอบไปด้วยเกาะแก่งต่างๆ กลางแม่น้ำโขงเป็นจำนวนมาก ทางเรือจีนได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ว่าจะขอเลี่ยงจุดดังกล่าวไปสำรวจที่จุดท้ายน้ำมากกว่านี้ก่อน โดยให้เหตุผลว่าเป็นจุดที่มีแก่งหินจำนวนมาก ทำให้เรือสำรวจของจีนซึ่งมีขนาดใหญ่ทำงานได้ลำบาก โดยจุดที่จะสำรวจถัดจากจุดที่ 92 คือจุดที่ 99 จุดที่ 100 และจุดที่ 101 ซึ่งตั้งอยู่ติดกับบ้านห้วยลึก ต.หล่ายงาม อ.เวียงแก่น ซึ่งมีเกาะแก่งติดต่อกันไปจนถึงแก่งผาได ซึ่งเป็นเกาะแก่งหนาแน่นเช่นกัน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดชายแดนไทยด้านแม่น้ำโขงตอนบน ก่อนที่แม่น้ำจะไหลเข้าสู่ สปป.ลาว ต่อไป

โดยทางเจ้าหน้าที่จีนแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่ที่ทำการขุดเจาะจำนวน 12 คน และที่ผ่านมาเมื่อขุดเจาะลงไปลึกประมาณ 5 เมตร ก็พบก้อนกรวดเป็นจำนวนมาก จึงมีการนำมาเก็บเป็นตัวอย่างเพื่อการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หลังจากทำการสำรวจจุดปลายทางดังกล่าวแล้ว จึงค่อยไล่ย้อนกลับขึ้นมาสำรวจจุดที่เหลือคือบริเวณคอนผีหลงดังกล่าวต่อไป ขณะที่เรือสำรวจอีก 2 ลำของจีนคือเรือเฉินตง 9 เป็นเรือวัดระดับน้ำที่แล่นเข้าเขต อ.เวียงแก่น ไปก่อนหน้านี้แล้วและเรือเซิ่นไท้ 198 เป็นเรือสำรวจทางภูมิศาสตร์ได้ทำงานร่วมกับเรือเฉินตง 9 เป็นหลัก

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นับตั้งแต่เรือสำรวจของจีน 3 ลำทำการสำรวจแม่น้ำโขงเข้าสู่เขต อ.เชียงของ ทางกลุ่มเครือข่ายชาวบ้าน เช่น เครือข่ายธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา (กลุ่มรักษ์เชียงของ) กลุ่มรักษ์เชียงของ ฯลฯ ได้ออกมาแสดงพลังคัดค้านการสำรวจดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่าจะทำให้เกิดการระเบิดเกาะแก่งแม่น้ำโขง เพื่อให้เรือสินค้าแล่นเรือขนาด 500 ตัน ได้สะดวกตลอดทั้งปี จะทำให้เกิดผลเสียหลายอย่าง เช่น ระบบนิเวศของแม่น้ำโขงโดยเฉพาะเกาะแก่ง แหล่งพันธุ์ปลา พืช สัตว์ต่างๆ วิถีชีวิต ยุทธศาสตร์เศษฐกิจ ฯลฯ โดยมีการนำเรือพร้อมป้าย 3 ภาษาคือไทย จีน และอังกฤษ ไปแสดงพลังบนเกาะผาเยีย และล่าสุดมีการติดป้ายบางจุดตามริมฝั่งเขต อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่น แล้วนำเผยแพร่ทางสื่อสาธารณะหรือโชลเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการสำรวจแม่น้ำโขงของเรือจีนดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการเดินเรือพาณิชย์แม่น้ำโขงตอนบน 4 ชาติ ไทย สปป.ลาว เมียนมา และจีนตอนใต้ โดยทางการจีนทำหน้าที่หลักในการสำรวจตั้งแต่เมืองซือเหมา มณฑลยูนนาน-แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว ระยะทางประมาณ 809 กิโลเมตร ที่ผ่านมาดำเนินการระยะหรือเฟตแรกไปแล้วจำนวน 11 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในเขตประเทศจีน สปป.ลาว และเมียนมา ยกเว้นจุดคอนผีหลง ซึ่งเป็นเกาะแก่งที่ติดกับ อ.เชียงของ เพราะถูกคัดค้านและรัฐบาลไทยยังไม่มีการอนุมัติ ต่อมาคณะรัฐมนตรีไทยได้เห็นชอบกับการสำรวจ ทำให้มีการสำรวจเฟตที่ 2 ในครั้งนี้ดังกล่าววัตถุประสงค์เพื่อนำข้อมูลเสนอต่อแต่ละประเทศเพื่อพิจารณาดำเนินการ แต่ตามโครงการของจีน คือต้องการให้สามารถเดินเรือสินค้า 300 ตัน ได้เกือบตลอดทั้งปี และมีรายงานว่าจะมีเฟตที่ 3 เพื่อให้เรือขนาด 500 ตัน แล่นได้เกือบตลอดทั้งปีต่อไป

 

พบซาก’โลมา’2เมตรเกยตื้นหาดไม้รูด ผ่าพิสูจน์คาดป่วยกินอาหารไม่ได้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/269054

วันอาทิตย์ ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 15.19 น.

7 พ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. นายสัตวแพทย์ วีระพงษ์ เหล่าเวชประสิทธิ์ จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตะวันออก จ.ระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่ และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยตราดเขตอําเภอคลองใหญ่ เดินทางร่วมตรวจสอบซากโลมาอิรวดี ที่ลอยเกยตื้นบริเวรชายหาดบ้านคลองขุด หมู่ที่ 5 ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนายจันทิต สูงเสริม ประมงพื้นบ้าน เป็นผู้เจอซากโลมาเป็นคนแรก ขณะกำลังออกวางอวน

โดยนายสัตวแพทย์ วีระพงษ์ เหล่าเวชประสิทธิ์ พร้อมทีมงานผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย เบื้องต้น พบว่าซากโลมาอิรวดีที่ตายถือว่ายังสมบูรณ์ อายุประมาณ 1 เดือน ความยาว 2 เมตร 23 เซนติเมตร น้ำหนักว่า 100 กิโลกรัม ตามร่างกายไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด แต่ร่องรอยที่เห็นคล้ายกับเหมือนของมีคม อาจจะเป็นร่องรอยหลังจากตายและเข้ามาเกยตื้นริมหาด จนเกิดร่องรอยตามลำตัวที่เห็น คาดตายมาแล้ว 3 วัน

นายสัตวแพทย์ วีระพงษ์ กล่าวว่า หลังจากผ่าพิสูจน์แล้ว ทราบว่า โลมาตัวนี้ค่อนข้างผอม คาดว่าน่าจะป่วยแล้วกินอาหารไม่ได้จนตาย

อย่างไรก็ตาม ได้เก็บเนื้อเยื่อและเก็บรายละเอียด โลมาอิรวดีตัวนี้ ไปตรวจที่ห้องแล็ป ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออกอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมต่อไป และหลังจากผ่าพิสูจน์เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยตราด เขตอําเภอคลองใหญ่และชุดไม้รูด ได้ช่วยกันขุดหลุม นำซากโลมาไปฝังต่อไป

 

รมว.เกษตรห่วงพายุลูกเห็บภาคเหนือ สั่งการให้บินฝนหลวงช่วยเหลือเร่งด่วน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/269050

วันอาทิตย์ ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 15.11 น.

7 พ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรสีห์  กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศของประเทศไทยช่วงวันที่ 4-7 พฤษภาคม 2560 มีความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศ ประกอบกับบริเวณภาคเหนือที่ยังคงเกิดพายุฤดูร้อนในบางพื้นที่ ทำให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่ากับมีลมกระโชกแรง เกิดฝนตกหนักและลูกเห็บตกในพื้นที่ภาคเหนือ

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงมอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เร่งปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่          อย่างเร่งด่วน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อยับยั้งความรุนแรงจากพายุลูกเห็บเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยมีพื้นที่เป้าหมาย ในการปฏิบัติการบริเวณตำบลยั้งเมิน อำเภอสะเมิง และตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

โดยใช้เครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 (Alpha Jet) หมายเลข 23135 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอากาศ และสารฝนหลวงชนิดซิลเวอร์ไอโอไดด์ (AgI) จำนวน 37 นัด ตั้งแต่เวลา 14:32 – 15:04 น. รวมเวลาปฏิบัติการภารกิจยับยั้งลูกเห็บ 32 นาที พบว่า ไม่มีรายงานการเกิดลูกเห็บในช่วงเวลาปฏิบัติการ ซึ่งเป็นการปฏิบัติการ  ที่ช่วยยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บได้ ทั้งนี้ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ที่อาจก่อให้เกิดพายุลูกเห็บอยู่อย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือทันทีเมื่อสภาพอากาศเหมาะสมอีกด้วย สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรแปลงใหญ่ เติมน้ำในอ่างเก็บกักน้ำสำคัญทั่วทุกภูมิภาค และช่วยเหลือเกษตรกรจากการขอรับบริการฝนหลวง กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงปฏิบัติการอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

โดยจากปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม – 6 พฤษภาคม 2560 มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 62 วัน 1,141 เที่ยวบิน (1,637.10 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 983.30 ตัน พลุซิลเวอร์ไอโอไดด์สำหรับภารกิจปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 353 นัด และภารกิจปฏิบัติการยับยั้งความรุนแรงพายุลูกเห็บ จำนวน 1,025 นัด มีจังหวัดที่มีรายงานฝนตกรวม 55 จังหวัด และทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างสะสมรวม 202.37 ล้าน ลบ.ม.

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือควรหลีกเลี่ยงที่โล่งแจ้ง การอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงในขณะที่มีพายุฤดูร้อนด้วย