อีสานโดนหนักพายุซัดอ่วม! โคราชถล่มยับ8อำเภอดับ1ราย-กาฬสินธุ์ลูกเห็บตก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/269043

วันอาทิตย์ ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 14.08 น.

7 พ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ รื่นถวิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมาได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ จากการสำรวจพบว่า ตั้งแต่วันที่  4 พ.ค.จนถึงขณะนี้ มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 8 อำเภอ 25 ตำบล 72 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 612 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน จำนวน 540 หลัง ยุ้งข้าว จำนวน 28 หลัง โรงเรือน 2 หลัง คอกสัตว์19 แห่ง โรงรถ จำนวน 1 หลัง รั้ว 1 แห่ง   เสาไฟฟ้าล้ม จำนวน 22 ต้น พืชสวน จำนวน 2 ไร่มีผู้เสียชีวิต 1 ราย  แบ่งเป็น

1. อำเภอเมืองนครราชสีมา จำนวน  2 ตำบล  2 หมู่บ้าน เสาไฟฟ้าล้ม จำนวน 13  ต้น ได้แก่ ตำบลจอหอ หมู่ที่ 6 ตำบลหนองกระทุ่ม  หมู่ 1

2. อำเภอประทาย ได้แก่ จำนวน 4 ตำบล 10 หมู่บ้านราษฎรได้รับความเดือดร้อน 33 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 33 หลัง  ยุ้งข้าว 3 หลัง โรงเรือน 1 หลัง ผู้ประสบภัย 31 ครัวเรือน ได้แก่ ตำบลโนนเพ็ด หมู่ที่ 2,3,5 ตำบลหนองพลวง หมู่ที่ 3 ตำบลหันห้วยทราย หมู่ที่ 1,2,4,8,9 และตำบลเมืองโดน หมูที่ 6

3. อำเภอสีคิ้ว จำนวน 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน ถนนสายสีคิ้ว-ด่านขุนทด บริเวณ กม.7 แยกบ้านสลักได ตำบลกุดน้อยอำเภอสีคิ้ว เสาไฟฟ้าล้ม จำนวน 4 ต้น ผู้ประสบภัย 51 ครัวเรือนบ้านเรือนเสียหายบางส่วน 49 หลัง โรงจอดรถ 1 หลัง  รั้ว 1 แห่ง ได้แก่ ตำบลลาดบัวขาว  หมู่ที่ 1,4,6,7,13,14 ตำบลกุดน้อย หมู่ที่ 4 ตำบลหนองหญ้าขาว  หมู่ที่ 6

4.  อำเภอหนองบุญมาก จำนวน 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน ผู้ประสบภัย 29 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 29 หลัง และพืชสวน จำนวน 2 ไร่ ได้แก่ ตำบลหนองบุญมาก หมู่ที่ 2,4,7,10,14,17 ตำบลหนองไม้ไผ่ หมู่ที่ 1,2,6,9 ตำบลลุงเขว้า  หมู่ที่ 1

5.  อำเภอเฉลิมพระเกียรติ  จำนวน 3 ตำบล 23 หมู่บ้าน 350 ครัวเรือน  บ้านเสียหายบางส่วน 350 หลัง 350 ครัวเรือน  เสาไฟฟ้าล้ม จำนวน  5  ต้น เสียชีวิต 1 ราย ได้แก่ ตำบลหนองงูเหลือม  หมู่ที่ 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12,13,14,15  ตำบลท่าช้าง  หมู่ที่ 5,6,8  ตำบลพระพุทธ  หมู่ที่ 1,2,4,5,10

6. อำเภอชุมพวง จำนวน 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ผู้ประสบภัย 5 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 5 หลัง ยุ้งข้าว 2 หลัง ได้แก่  ตำบลท่าลาด หมู่ที่ 2 ตำบลโนนตูม  หมู่ที่ 12

7. อำเภอด่านขุนทด จำนวน 4 ตำบล 6 หมู่บ้าน ผู้ประสบภัย 41 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 41 หลัง  ยุ้งข้าว  3 หลัง โรงเรือน 1 หลัง  ได้แก่ ตำบลหนองไทร  หมู่ที่ 6,7,8 ตำบลด่านใน  หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านแปรง  หมู่ที่ 11  และตำบลหนองกราด  หมู่ที่ 1

8. อำเภอห้วยแถลง จำนวน 4 ตำบล 11 หมู่บ้าน ผู้ประสบภัย 72 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหาย 33 หลัง คอกสัตว์ 19 แห่ง ยุ้งข้าว 20 หลัง ได้แก่  ตำบลห้วยแคน  หมู่ที่ 1,3  ตำบลกงรถ  หมู่ที่ 1,3,4,5,7 ตำบลงิ้ว  หมู่ที่ 6 และตำบลตะโก  หมู่ที่ 2 , 6 , 9

ทั้งนี้ ยังมีพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการสำรวจของเจ้าหน้าที่อีก ซึ่งจะรายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  เบื้องต้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว จากนี้ทางศูนย์ฯ จะเสนอทางจังหวัดเพื่อจัดสรรงบประมาณมาช่วยเยียวยา ค่าใช้จ่ายต่างๆให้แก่ผู้ประสบภัยต่อไป

นอกจากนี้ทางด้านจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ นายวิชาญ แท่นหิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบสภาพบ้านเรือนประชาชน ซึ่งได้รับความเสียหายจากอิทธิพลของพายุฝนลูกเห็บ ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา มีรายงานความเสียหายรวม 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอห้วยเม็ก อำเภอยางตลาด อำเภอสามชัย อำเภอดอนจาน อำเภอเขาวง และอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ความเสียหายรวม 273 หลังคาเรือน และหนักที่สุดมีจำนวน 9 หลังคาเรือน พายุหมุนได้หอบถอดเอาตัวหลังคาบ้านหายไปจนหมด แต่ทั้งหมดก็ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ

โดยการสำรวจเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปที่บ้านของ นางศรีประภัย พรพนม บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 8 ตำบลนาจารย์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 9 หลังคาเรือนที่เสียหายหนักเล่าว่า เมื่อคืนได้เกิดฝนตกเกือบทั้งคืน แต่ในช่วงกลางดึก ได้เกิดลมพายุและมีลูกเห็บตกลงมา ซึ่งจากการสังเกตท้องฟ้าจะมีสีแดงจากนั้นก็มีลมหมุนพัดเข้ามาปะทะกับตัวบ้าน ซึ่งระหว่างนั้น ตนได้วิ่งหลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายกับบ้านพัง หลังจากพายุฝนสงบก็มาเห็นหลังคาบ้านหายไป

ทั้งนี้นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งให้มีการจัดเต้นท์ที่พักพิง และให้เจ้าหน้าที่เร่งทำการซ่อมแซมบ้านและทำการสำรวจ เพื่อของอนุมัติเงินช่วยเหลือด้านวาตภัยต่อไป โดยซึ่งจะเร่งเข้าช่วยเหลือบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเป็นอันดับแรก และจะหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านทุกหลังคาเรือน โดยทางจังหวัดได้เตือนให้ประชาชน เฝ้าระวังพายุฤดูร้อนในช่วงนี้ และไม่ควรอยู่ที่โล่งแจ้งเพื่อป้องกันการเกิดเหตุฟ้าผ่า

 

ภาคเหนือเกิดพายุฤดูร้อนบางพื้นที่ กทม.-ปริมณฑลฝนตกร้อยละ30

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/268912

วันเสาร์ ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 08.24 น.

6 พ.ค.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือยังคงเกิดพายุฤดูร้อนบางพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า กับมีลมกระโชกแรง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้พายุฤดูร้อนจะลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือควรหลีกเลี่ยงที่โล่งแจ้ง การอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่มีพายุฤดูร้อนไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางพื้นที่

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้ (6 พ.ค.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40
ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ อุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี และชัยนาท
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ชุ่มปอด!พบแท็กซี่สายออร์แกนิก หัวใจรักธรรมชาติปลูกต้นไม้เต็มรถ (ชมคลิป)

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/268756

วันศุกร์ ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 14.01 น.

5 พ.ค. 60 บนโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของผู้ใช้เฟซบุ๊ก “พ่อหมอฯ” ที่ผู้โดยสายรายหนึ่งขึ้นแท็กซี่รักธรรมชาติ โดยมีการปลูกต้นไม้ เต็มรถทำเขียวชอุ่มไปทั่วทั้งคัน

ทั้งนี้ ชาวโซเชียลต่าง แสดงความคิดเห็น แบบแซวๆ ว่าถ้าขึ้นไปหวังว่าจะไม่เจองูนะ บางรายยังบอก  น่ารักดี คลายเคลียด สบายตากว่ามองแดด มองตึก ข้างนอก

ขอบคุณ : “พ่อหมอฯ”

ทส.ชี้ผลพวงรวมพลังประชารัฐ ดันสถานการณ์รุกป่าเมืองน่านดีขึ้น

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/268749

วันศุกร์ ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 13.40 น.

ทส.ย้ำให้ความสำคัญกับปัญหาการบุกรุกป่า จ.น่าน อย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน ชี้อัตราการลดลงของพื้นที่ป่าดีขึ้น เหลือเพียงปีละ 345 ไร่ จากก่อนหน้าปี 2557 เคยถูกบุกรุกกว่าปีละ74,000ไร่ เนื่องจากนโยบายการหยุดยั้งการบุกรุกพื้นที่ป่าของรัฐบาล คสช. ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะจังหวัดน่าน สามารถทวงคืนพื้นที่ป่าได้กว่า 20,040 ไร่ 

นายประลอง ดำรงค์ไทย โฆษกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เล็งเห็นถึงปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในจังหวัดน่าน ทส.จึงได้มอบหมายให้  กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศในการใช้การแปลภาพถ่ายดาวเทียมไทยโชต ในการตรวจสอบสภาพพื้นที่ป่า  พบว่าตั้งแต่ปี 2557 มาจนถึงปัจจุบัน  อัตราการลดลงของพื้นที่ป่าในจังหวัดน่าน เฉลี่ยเหลือเพียงปีละ 345 ไร่ จากก่อนหน้าปี 2557 พื้นที่เคยถูกบุกรุกกว่า ปีละ 74,000ไร่(ข้อมูลพบว่าปี 2551 จังหวัดน่านมีพื้นที่ป่า 5,103,550 ไร่ ปี 2557 มีพื้นที่ป่า 4,659,641 ไร่ ปี 2559 มีพื้นที่ป่า 4,658,605 ไร่) เนื่องจากนโยบายการหยุดยั้งการบุกรุกพื้นที่ป่าของรัฐบาล คสช. ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะจังหวัดน่าน สามารถทวงคืนพื้นที่ป่าได้กว่า 20,040 ไร่  โดยการทำงานบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน ในการจัดการป่าต้นน้ำเสื่อมสภาพบนพื้นที่สูงชัน โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน ใช้หลักการแก้ไขปัญหารูปแบบประชารัฐในการลงไปสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับข้าราชการและประชาชน รวมทั้งกลุ่มต่างๆ ในจ.น่าน ที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ให้ร่วมกันฟื้นฟู ภายใต้ยุทธศาสตร์การดำเนินการ 7 ข้อ  ได้แก่  การสร้างความเข้าใจทุกภาคส่วน (มท.) การจัดระเบียบคนและพื้นที่ (ทส.) การป้องกันและรักษาป่า (ทส.)การฟื้นฟูระบบนิเวศ (ทส.) การพัฒนาและส่งเสริมอาชีพ (กษ.) การสร้างองค์ๆๆรู้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (ศธ.)การส่งเสริมการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน (มท.)

นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของกลุ่มเกษตรกร  ในเขตป่าของจังหวัดน่าน ได้มีการประชุมและประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ระหว่าง 4  หน่วยงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  กระทรวงเกษตรฯ  กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย ในการปรับแก้พืชเกษตรที่จะมาทดแทนข้าวโพด โดยการน้อมนำศาสตร์พระราชาในเรื่องของการปลูกไม้ 3 อย่างประโยชน์  4 อย่าง มาใช้ในการดำเนินการ  พร้อมกันนี้กระทรวงทรัพยากรฯ โดยกรมป่าไม้ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อเลือกชนิดพืชเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับที่จะไปดำเนินการในเรื่องนี้ อีกทั้งมีการหารือเรื่องการลดการใช้สารเคมี และการนำรูปแบบวนเกษตรมาใช้   จากการแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น ในส่วนของกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำเพื่อฟื้นฟู ดูแลรักษาและแก้ไขปัญหาชุมชนที่อาศัยอยู่ในและรอบพื้นที่ป่า เพื่อให้คนอยู่กับป่าอย่างยั่งยืน  โดยในพื้นที่จังหวัดน่านมีศูนย์ดังกล่าว จำนวน 8 ศูนย์ โดยแต่ละศูนย์ฯ ก็จะมีการไปจัดตั้ง ฐานปฏิบัติการเพื่อฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ซึ่งฐานฯดังกล่าวจะไปตั้งอยู่บนยอดเนิน ครอบคลุมพื้นที่ ที่ถูกบุกรุก เพื่อหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่าทั้งหมดโดยจะมี เจ้าหน้าที่ของ กรมป่าไม้.และ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช  ไปประจำอยู่ ณ.ฐานฯ ดังกล่าว เช่น ศูนย์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ตำบลป่าแลวหลวง อำเภอสันติสุข ทั้งนี้ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่เพื่อการจัดการ มีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่ในการดูแลรักษาป่า การจัดตั้งป่าชุมชน การฟื้นฟูพื้นที่ป่าในลุ่มน้ำ 1, 2 ในรูปแบบวนประชารัฐ พื้นที่ลุ่มน้ำ 3, 4, 5 มีการจัด คทช. เพื่อส่งเสริมราษฎรทำกินในพื้นที่ในรูปแบบวนเกษตร การปลูกป่าเศรษฐกิจ และมีการนำรูปแบบโครงการสร้างป่าสร้างรายได้มาขยายผล

โฆษกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวต่อถึง การจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชน  ในพื้นที่ จงหวัดน่าน 7.58 ล้านไร่ ซึ่งมีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมสภาพ 1,435,604 ไร่ แบ่งเป็น  1) ป่าเสื่อมสภาพในพื้นที่ลุ่มน้ำ 1,2 จำนวน 917,995 ไร่ 2) ป่าเสื่อมสภาพในพื้นที่ลุ่มน้ำ 3,4,5 จำนวน 517,609 ไร่  ซึ่งพื้นที่ป่าเสื่อมสภาพดังกล่าวสามารถดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ได้ จำนวน 139,344 ไร่ โดยดำเนินการไปแล้ว 46,596 ไร่

สำหรับส่วนที่เหลือ ท่าน รมว.ทส. ได้สั่งการให้กปม.ได้เร่งดำเนินการอย่างเสมอภาคและไม่เลือกปฏิบัติตามแนวทาง คณะกรรมการ คทช. ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าว บางพื้นที่ ก็ได้มีการดำเนินการ   ตามคำสั่ง คสช. ที่ 66/2557 ลงวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557  อนึ่งขณะนี้ทางกรมป่าไม้ได้เสนอร่างกรอบการนำนโยบายไปปฏิบัติ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในภาพรวมเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน  โดยเป็นการดำเนินงานในรูปแบบวนประชารัฐ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างสามัคคีปรองดอง กระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ป.ย.ป.ท.ส) เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบกรอบนโยบายดังกล่าว จะส่งผลให้กรมป่าไม้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาการปลูกพื ชเชิงเดี่ยว และการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินในพื้นที่สูงชันได้อย่างชัดเจนและเห็นผลเป็นรูปธรรม ต่อไป

ตอนบนจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น เจอแน่!!!ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/268501

วันพฤหัสบดี ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 08.07 น.

4 พ.ค.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง กับลูกเห็บตกในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงที่โล่งแจ้ง การอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ซึ่งจะเกิดขณะที่มีพายุฤดูร้อนไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศจีนตอนใต้และประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (4 พ.ค. 60) ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศแปรปรวนและมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(4 พ.ค.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพะเยา น่าน แพร่ อุตรดิถต์ พิษณุโลก ตาก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี และสระบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

คกก.เห็นชอบแผนบริหารจัดการน้ำ อุตุฯคาดดีเปรสชั่นจ่อเข้าไทย2ลูก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/268415

วันพุธ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 15.35 น.

คกก.น้ำ เห็นชอบแผนบริหารจัดการน้ำ สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ กรมอุตุฯ คาดดีเปรสชั่นเตรียมเข้าไทย 2 ลูก

3 พ.ค.60 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ แถลงผลการประชุม คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2560 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า นายกฯ ได้มอบนโยบายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ให้มีการทบทวนการแก้ปัญหาแหล่งกักเก็บน้ำ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรรวมถึงการประกันภัยทางการเกษตร และการสร้างความรับรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับการบริหารจัดการ ความเสี่ยงเพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ รวมถึงเร่งรัดจัดหาระบบประปาหมู่บ้าน โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะลงพื้นที่ที่ยังเป็นปัญหาอยู่ ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร โดยจะดำเนินการให้แล้วภายใน 30 วัน รวมถึงเร่งรัดแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำภาพรวมทั้งน้ำแล้งและน้ำท่วม

นายวรศาสน์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมเห็นชอบโครงการปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำ โดยความร่วมมือของกองทัพบกร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ จำนวน 22 โครงการ ในพื้นที่ 15 จังหวัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงน้ำหลาก การกระจายน้ำให้กับพื้นที่การเกษตร ประมาณ 2,600 ไร่ มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำแผนพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ 4 แห่ง ประกอบด้วย บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา และหนองหาน จังหวัดสกลนคร โดยให้ไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการกลั่นกรองแผนงานบูรณาการการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบครบวงจร โดยให้พิจารณาในแต่ละแผนที่ (Area base) ควบคู่กับการพิจารณาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ20ปี

นอกจากนี้ แผนการดำเนินการบูรณาการน้ำ แต่ละปีได้งบประมาณไม่ต่ำ 5 – 7 หมื่นล้านบาท แต่กลไกการปฏิบัติยังไม่มีประสิทธิภาพ และการทำงานมีความซ้ำซ้อน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบว่าควรมีหลักเกณฑ์การคัดกรองการเสนอโครงการของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนโครงการแหล่งน้ำขนาดเล็ก ที่ดำเนินการไปแล้ว แต่ยังพบว่ามีปัญหามีประมาณ 1 หมื่นกว่าแห่ง โดยพบว่าปัญหาคือท้องถิ่นไม่มีศักยภาพที่จะเข้าไปดำเนินการ ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีพายุดีเปรสชั่น 2 ลูก เข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย อีกทั้งในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม จะมีมรสุมเข้ามาโดยถ้าส่งผลให้ฝนตกใต้เชื่อน เราก็จะมีพื้นที่ทุ่งนารองรับน้ำไม่ต่ำ 1.5 ล้านไร่พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาก็จะปลอดภัย ซึ่งปีนี้เรามีปริมาณน้ำในเขื่อน 2,000 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าปีที่แล้ว

ประเทศไทยอากาศร้อนจัดบางพื้นที่!!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/268339

วันพุธ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 08.12 น.

3 พ.ค.60 ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีอากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองได้บางแห่ง ส่วนมากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้

ในช่วงวันที่ 4 – 7 พ.ค.60 ประเทศไทยตอนบนจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงที่โล่งแจ้ง การอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ซึ่งจะเกิดขณะที่มีพายุฤดูร้อนไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองได้บางพื้นที่ อนึ่ง ในช่วงวันที่ 4 – 7 พ.ค.60 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น ได้ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้ เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพะเยา น่าน แพร่ อุตรดิถต์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ประเทศไทยตอนบนอากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองได้บางพื้นที่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/268040

วันจันทร์ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 08.17 น.

1 พ.ค.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองได้บางพื้นที่

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนและมีฝนฟ้าคะนองได้บางพื้นที่

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(1 พ.ค.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี และนครสวรรค์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าบางพื้นที่ กทม.-ปริมณฑลฝนตกร้อยละ40

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/267896

วันอาทิตย์ ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2560, 08.21 น.

30 เม.ย.60 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนองลดลง แต่ยังมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองได้ในระยะนี้

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนองลดลง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(30 เม.ย.60) เป็นดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์
ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี
นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา
ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี
นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ปลูก’หญ้าทะเล’ที่อ่าวนาเกลือ ฟื้นฟู-อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/267804

วันเสาร์ ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560, 15.05 น.

28 เม.ย.60 ที่กลุ่มประมงต้นแบบพื้นบ้านนาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีการจัด “กิจกรรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางธรรมชาติเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (การปลูกหญ้ากุยช่ายทะเล)” ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาสถานประกอบการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมระดับสากล โดยมีนายอำเภอบางละมุงมาเป็นประธานเปิดงาน

กลุ่มประมงต้นแบบพื้นบ้านนาเกลือ, องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) โดย สำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง (อพท.3), ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย ฝั่งตะวันออก จ.ระยอง และเครือข่ายโรงแรมสีเขียว (Green Hotel) ได้ร่วมจัดกิจกรรมนี้ขึ้น

ซึ่งได้รับการสนับสนุนหญ้าทะเล พันธุ์กุยช่าย จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย ฝั่งตะวันออก จ.ระยอง จำนวน 10,000 ต้น

สำหรับกิจกรรมนี้ ได้ดำเนินงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งปีที่แล้วได้มีการทดลองปลูกพันธุ์หญ้าทะเลและสาหร่ายใบมะกรูด บริเวณอ่าวนาเกลือ ก็พบว่าหญ้ากุยช่ายทะเล สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่อ่าวนาเกลือ ในปี 2560 นี้ จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางธรรมชาติเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนขึ้น

โดยนำเอาหญ้าทะเลพันธุ์ดังกล่าวมาปลูกในพื้นที่ห้ามทำการประมงซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำที่ทางกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านนาเกลือ ได้กำหนดไว้ เพื่อเป็นการสร้างแหล่งเพาะพันธุ์ แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน (เล่น ลูกกุ้ง ลูกปู)โดยธรรมชาติ

ซึ่งการปลูกหญ้าทะเล จะต่างกับการทำปะการังเทียม หรือทำบ้านปลา ตรงที่หญ้าทะเลเป็นพืชน้ำ เมื่อสิ้นสภาพก็จะย่อยสลายเอง หรือเป็นอาหารของสัตว์น้ำ ส่วน หญ้ากุยช่ายทะเลที่ปลูกในวันนี้เมื่อสิ้นสภาพ จะกลายเป็นอาหารของสัตว์น้ำหรือกลายเป็นเม็ดทรายในทะเล (เนื่องจากมีองค์ประกอบของแคลเซียมคาร์บอเนต) โดยพืชน้ำชนิดนี้จะไม่เป็นขยะในทะเล

กิจกรรมนี้เป็น กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ทาง สำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง (อพท.3) ได้มุ่งเน้นไปที่การเที่ยวโดยชุมชน การรักษาดูแลสิ่งแวดล้อม การปลูกฝังให้ เยาวชน ชาวบ้าน เกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างแท้จริง

โดยชาวบ้านในพื้นที่อ่าวนาเกลือ ที่อยู่อาศัยบริเวณนี้ มีทะเลเป็นหน้าบ้าน อีกทั้งเป็นที่ทำมาหาเลี้ยงชีพประมงพื้นบ้านมาจนถึงวันนี้ ทำให้ชาวบ้านมีวิถีชีวิตผูกพันกับทะเลแห่งนี้อย่างแนบแน่น การดูแลทรัพยากรทะเลหน้าบ้าน จึงเป็นสิ่งที่ชาวบ้านตระหนักมาก ทาง อพท.3 จึงได้เข้ามาส่งเสริม สนับสนุนทางชุมชนนี้ให้เกิดการพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และกิจกรรมนี้ ก็จะทำให้ชุมชนมีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว จากการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติในการประกอบอาชีพประมง และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน