เปิดประวัติ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯ สมช. คนใหม่ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เปิดประวัติ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯ สมช. คนใหม่

เปิดประวัติ "บิ๊กเล็ก" พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯ สมช. คนใหม่

15 กันยายน 2563 – 17:15 น.

เปิดประวัติ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯ สมช. คนใหม่ คนที่ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ไว้วางใจมากที่สุด ….กมลทิพย์ ใบเงิน เรียบเรียง

       เปิดประวัติ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็น ว่าที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

  อ่านข่าว :  ด่วน ครม.มีมติ ตั้ง “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” นั่ง เลขาสมช.

      เกิดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2504

      นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 20 

      โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่น 31 (เหล่าราบ)

      โรงเรียนทหารราบ หลักสูตรชั้นนายร้อย รุ่นที่ 74

      โรงเรียนทหารราบ หลักสูตรชั้นนายพัน รุ่นที่ 52

      โรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรประจำ ชุดที่ 71

      หลักสูตรความมั่นคงภาคพื้นแฟซิฟิก สหกรัฐอเมริกา

      หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (ปริญญาบัตร วปอ.) รุ่นที่59 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร  สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ

      เคยเป็นอาจารย์โรงเรียนเสนาธิการทหารบก และอาจารย์วิทยาลัยการทัพบก

     “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เติบโตมาในสายยุทธการ ในกรมยุทธการทหารบก ตั้งแต่ประจำกรม – รอง ผอ.กอง – หัวหน้ากอง – ฝ่ายเสนาธิการ – รองเจ้ากรมยุทธฯ – เจ้ากรมฯ – รองเสนาธิการทหารบก – เสนาธิการทหารบก (สมัย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เป็น ผบ.ทบ.) – รองผู้บัญชาการทหารบก และยังเป็น ผู้ช่วย ผอ.รมน. (ผู้ช่วย นายกฯ ใน กอ.รมน. นั่นเอง) 

     เคยเป็น สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระหว่างวันที่ 11 ต.ค. 2559 – 21 พ.ค. 2562

        ไม่เพียงเท่านั้น “บิ๊กเล็ก” จัดได้ว่าเป็นนายทหารที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด ในการทำงาน จากครม.ประยุทธ์ ทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  และ  “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี

         ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบก นายทหารพิเศษประจำหน่วยทหารรักษาพระองค์ ช่วยงานรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใน ศบค. ตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) (ศบค.ชุดเล็ก) 

        รองหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

       และล่าสุด“บิ๊กเล็ก”พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็น ว่าที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันอังคารที่ 15 กันยายน 2563 

โสภิต สุนทรธนสถิตย์ เน็ตไอดอลวัย 60 ปี ผู้ส่งความสดใส และแรงบันดาลใจ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

โสภิต สุนทรธนสถิตย์ เน็ตไอดอลวัย 60 ปี ผู้ส่งความสดใส และแรงบันดาลใจ

https://www.youtu.be/1ocveJlWmd8?

14 กันยายน 2563 – 17:42 น.

จากเด็กสาวที่ชอบแต่งตัว มีความสุขกับการได้ตัดเย็บเสื้อผ้าใส่เอง สู่เน็ตไอดอลวัย 60 ปี ผู้ส่งความสดใส และแรงบันดาลใจ

โสภิต สุนทรธนสถิตย์ หรือ น้อง สาววัย 58 ปี ผู้ที่ไม่เคยกลัวความแก่ โดยการเริ่มต้นสร้างความสุขให้กับตัวเอง และเริ่มแต่งตัวสวยๆ ทำให้ตัวเองรู้สึกมั่นใจมีความสุขกับการได้ตัดเย็บเสื้อผ้าใส่เอง เรื่องราวของเธอนั้นสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคน ให้ลุกขึ้นมาดูแลและกล้าที่จะแสดงตัวตน และเริ่มต้นสร้างความสุขให้กับตัวเองได้

โสภิต สุนทรธนสถิตย์ เน็ตไอดอลวัย 60 ปี  ผู้ส่งความสดใส และแรงบันดาลใจ

โสภิต สุนทรธนสถิตย์

โสภิต สุนทรธนสถิตย์ เน็ตไอดอลวัย 60 ปี  ผู้ส่งความสดใส และแรงบันดาลใจ

โสภิต สุนทรธนสถิตย์

จิตอาสาสองล้อ สร้างชีวิตใหม่ด้วย ข้าวหมาก-ลอตเตอรี่ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

จิตอาสาสองล้อ สร้างชีวิตใหม่ด้วย ข้าวหมาก-ลอตเตอรี่

จิตอาสาสองล้อ สร้างชีวิตใหม่ด้วย ข้าวหมาก-ลอตเตอรี่

https://www.facebook.com/plugins/video.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fkomchadluek%2Fvideos%2F5227602400587037%2F&show_text=0&width=560

11 กันยายน 2563 – 17:10 น.

ตีแผ่ชีวิตสองล้อจิตอาสา 18 ปีที่ไร้ความรู้สึก ข้าวหมาก-ลอตเตอรี่ มาเปลี่ยนชีวิตผู้ชายสองล้อ สร้างฝัน สร้างความรัก สร้างครอบครัวได้อย่างไร ติดตามทั้งหมดได้ในคมบันดาลใจ

คมบันดาลใจ สัปดาห์นี้ เปิดเรื่องราวของจิตอาสาสองล้อ ไพทูรย์ ร้อยแก้ว หนุ่มพิการจากความประมาท เพียงไม่กี่วินาที พลิกชีวิต อนาคตที่วางเอาไว้ดับวูบทันที เผยชีวิตสุดรันทด ไร้ความรุ้สึกจากอาการอัมพาตกว่า 18 ปี ต่อสุ้ดิ้นรน ไม่ย้อท้อต่อความยากลำบาก  หาเลี้ยงชีพด้วยการขายลอตเตอรี่และข้าวหมาก พบรักแท้อีกครั้ง ร่วมทุกข์ร่วมสุข ฟันฝ่า กว่าจะเป็นที่ยอมรับ   สร้างฝันสร้างชีวิตใหม่อีกครั้ง ติดตามทุกเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ใน คมบันดาลใจตอนนี้

จิตอาสาสองล้อ สร้างชีวิตใหม่ด้วย ข้าวหมาก-ลอตเตอรี่

ไพทูรย์ ร้อยแก้ว

จิตอาสาสองล้อ สร้างชีวิตใหม่ด้วย ข้าวหมาก-ลอตเตอรี่

ไพทูรย์ ร้อยแก้ว

จิตอาสาสองล้อ สร้างชีวิตใหม่ด้วย ข้าวหมาก-ลอตเตอรี่

ไพทูรย์ ร้อยแก้ว/ รุ่งอรุณ ร้อยแก้ว

ร่วมสร้างสรรค์ คมบันดาลใจ  โดย มูลนิธิ เอสซีจี

ช่างปันใจ…เกษตรพอเพียง #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ช่างปันใจ…เกษตรพอเพียง

ช่างปันใจ...เกษตรพอเพียง

6 กันยายน 2563 – 15:54 น.

ช่างปันใจ…เกษตรพอเพียง เรื่องราวของช่างซ้อมเครื่องซักผ้าที่หลงไหลใน วิถีเกษตรพอเพียง จากงานอดิเรก..สู่วิถีพึ่งพาตนเอง ผ่านวิกฤตโควิด. เปิดมุมมองใหม่ เกษตรสร้างอาชีพ

คมบันดาลใจ เปิดเรื่องราวชีวิต นษพล แสงเงิน หนุ่มช่างซ้อมเครื่องซักผ้า ที่ตามหาความฝัน หลังผิดหวังกับการสอบเข้าทำงานในระบบราชการ ล้มเหลวไม่รู้กี่ครั้ง เกิดแรงบันดาลใจ สนใจวิถีเกษตร ไม่ปล่อยให้ความฝันหลุดลอยไปไม่รอช้า ลงมือทำทันที

ช่างปันใจ...เกษตรพอเพียง

เสาร์อาทิตย์เดินทางสู่บ้านเกิด ลงหลักสร้างฝัน จากงานอดิเรก….พากเพียรศึกษาจากผู้รู้ จากอินเตอร์เนต ลองผิดลองถูก สู่การทำเกษตรผสมผสาน ไม่สนใจเสียงนินทาหรือเยาะเย้ย….ความขยันและความไม่ท้อถอย สร้างความจริงให้เกิดขึ้นได้ บนพื้นที่ไม่กี่ไร่ ภายใต้ชื่อ  “สวนสายลม”

ช่างปันใจ...เกษตรพอเพียง
ช่างปันใจ...เกษตรพอเพียง

ความสุขที่สร้างได้ สู้ต้นแบบในการเรียนรู้ เผื่อแผ่เพื่อนบ้าน เป็นตัวอย่างให้หลายคนทำตาม….กับความสุขที่ประเมินค่ามิได้ เค้าทำได้อย่างไร ติดตามเรื่องราวความราว ฝันที่เป็นจริงของชายหนุ่มผู้ไม่ท้อแห่งเมืองเพชรบูรณ์ ได้ในคมบันดาลใจตอนนี้ “ช่างปันใจ…เกษตรพอเพียง

ช่างปันใจ...เกษตรพอเพียง
ช่างปันใจ...เกษตรพอเพียง

ร่วมสร้างสรรค์ คมบันดาลใจโดย  มูลนิธิ เอสซีจี   “เชื่อมั่นในคุณค่าของคน”

เมื่อลูกอาจไม่รอด คนเป็นพ่อจึงต้องพึ่ง “ปาฏิหาริย์” #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เมื่อลูกอาจไม่รอด คนเป็นพ่อจึงต้องพึ่ง “ปาฏิหาริย์”

https://www.youtu.be/OcjeMXQXkqA

7 กันยายน 2563 – 18:45 น.

ภาวะหัวใจตีบ คุกคามเด็กน้อยที่ยังไม่ลืมตามาดูโลก คุณพ่อได้แต่สวดภาวนา ขอบันทึกรอยยิ้มจากคนแปลกหน้า

บันทึกรอยยิ้มจากคนแปลกหน้า เพียงแค่ขอให้ลูกสาวปลอดภัย จากการทำเพื่อลูกในวันนั้น พี่แขก ธณกร เลิศกาญจน์ พ่อผู้บันทึกรอยยิ้ม เริ่มจากการตั้งใจเก็บรอยยิ้มให้ครบ 1 ล้านรอยยิ้ม เพื่อเป็นของขวัญให้น้องฮันนาห์ลูกสาว แต่กลับกลายเป็นการส่งต่อกำลังใจดีๆสู่คนรอบข้าง หนึ่งล้านรอยยิ้มจึงไม่ใช่แค่เพื่อลูกน้อย แต่มันยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนแปลกหน้าอีกด้วย

เมื่อลูกอาจไม่รอด คนเป็นพ่อจึงต้องพึ่ง "ปาฏิหาริย์"
เมื่อลูกอาจไม่รอด คนเป็นพ่อจึงต้องพึ่ง "ปาฏิหาริย์"

พี่แขก ธณกร เลิศกาญจน์

เมื่อลูกอาจไม่รอด คนเป็นพ่อจึงต้องพึ่ง "ปาฏิหาริย์"

พี่แขก ธณกร เลิศกาญจน์

จิรนันท์ กรานสุข สาวโรงงานที่ปลูกต้นไม้มา 20 ปี จนคนมองว่าบ้า #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

จิรนันท์ กรานสุข สาวโรงงานที่ปลูกต้นไม้มา 20 ปี จนคนมองว่าบ้า

https://www.youtu.be/0OLMi899RW4

31 สิงหาคม 2563 – 14:44 น.

สาวโรงงานปลูกต้นไม้มา 20 ปี ไม่ใช่แค่ที่บ้าน แต่ไปปลูกให้วัด ปลูกให้ทางหลวง จนคนว่าบ้า

จิรนันท์ กรานสุข ฉายาขอเขาคือ”คนดีศรีด่านขุนทด” สาวโรงงานหัวในสีเขียวที่ปลูกต้นไม้มา 20 กว่าปี ที่ซื้อเอง ขุดเอง ปลูกเอง ไม่ใช่แค่ที่บ้าน แต่ไปปลูกให้วัด ทางหลวง จนคนมองว่าบ้า เสียเงินเสียเวลา แต่เค้าบอกว่ามันคือ ความสุข และเป็นความฝันของคนๆหนึ่ง ที่อยากเห็นบ้านเกิดตัวเองร่มรื่นเขียวขจี จิรนันท์ลงมือปลูกต้นไม้ในทุกที่ที่ทำได้ ลงทั้งเงิน ทั้งแรงและเวลา เพื่อความร่มรื่นของคนอื่น

จิรนันท์ กรานสุข สาวโรงงานที่ปลูกต้นไม้มา 20 ปี จนคนมองว่าบ้า

จิรนันท์ กรานสุข

จิรนันท์ กรานสุข สาวโรงงานที่ปลูกต้นไม้มา 20 ปี จนคนมองว่าบ้า

จิรนันท์ กรานสุข

เปิดชีวิตจริง น้องฝ้าย เด็กสาวพิการ บุญธิดา ชินวงษ์ Live เปลี่ยนชีวิต #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เปิดชีวิตจริง น้องฝ้าย เด็กสาวพิการ บุญธิดา ชินวงษ์  Live เปลี่ยนชีวิต

https://www.youtu.be/gFooQPYzOZY

28 สิงหาคม 2563 – 17:37 น.

สู้..เพราะตอนเด็กมีคนยุแม่ให้เอาไปทิ้ง เปิดชีวิตจริง เด็กสาวพิการ บุญธิดา  ชินวงษ์  Live เปลี่ยนชีวิต เธอก็สามารถเอาชนะอาการทั้งหมดนี้ ก้าวข้ามทุกสิ่ง  ที่สำคัญไปกว่านั้นก้คือ เธอสามารถค้นหาตัวตนที่แท้จริง

สู้..เพราะตอนเด็กมีคนยุแม่ให้เอาไปทิ้ง เปิดชีวิตจริง เด็กสาวพิการ บุญธิดา ชินวงษ์ Live เปลี่ยนชีวิต ฝ้าย  บุญธิดา  ชินวงษ์ หรือ “ฝ้ายเท้าแต่งหน้า” เด็กสาวผู้มีความผิดปกติทางร่างกายมาตั้งแต่แรกเกิด เธอ ไม่มีแขนทั้งสองข้าง ไม่มีขาขวา มีแต่ขาซ้าย เธอมีปอดข้างเดียว  และมีอาการหลังคดเพราะกระดูกด้านในโค้งเป็นรูปตัว S ที่เบียดปอด แต่เธอก็สามารถเอาชนะอาการทั้งหมดนี้ ก้าวข้ามทุกสิ่ง  ที่สำคัญไปกว่านั้นก้คือ เธอสามารถค้นหาตัวตนที่แท้จริง  เป็นสิ่งที่สวรรค์ประทานให้มา  จนกลายมาเป็น “ฝ้ายเท้าแต่งหน้า” ใน Live เปลี่ยนชีวิต ติดตามทั้งหมดได้ใน  “น้องฝ้ายเท้าแต่งหน้า” คม..บันดาลใจ

เปิดชีวิตจริง น้องฝ้าย เด็กสาวพิการ บุญธิดา ชินวงษ์  Live เปลี่ยนชีวิต

ฝ้าย บุญธิดา ชินวงษ์

เปิดชีวิตจริง น้องฝ้าย เด็กสาวพิการ บุญธิดา ชินวงษ์  Live เปลี่ยนชีวิต

ฝ้าย บุญธิดา ชินวงษ์

เปิดชีวิตจริง น้องฝ้าย เด็กสาวพิการ บุญธิดา ชินวงษ์  Live เปลี่ยนชีวิต
เปิดชีวิตจริง น้องฝ้าย เด็กสาวพิการ บุญธิดา ชินวงษ์  Live เปลี่ยนชีวิต

ร่วมสร้างสรรค์ คม บันดาลใจโดย  มูลนิธิ เอสซีจี   “เชื่อมั่นในคุณค่าของคน”

ปลอดโควิด 100% “อัญชลี วานิช เทพบุตร” ชู “ภูเก็ต โมเดล 4 T” เชื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจท่องเที่ยวได้ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ปลอดโควิด 100% “อัญชลี วานิช เทพบุตร” ชู “ภูเก็ต โมเดล 4 T” เชื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจท่องเที่ยวได้

 ปลอดโควิด 100% "อัญชลี วานิช เทพบุตร" ชู "ภูเก็ต โมเดล 4 T" เชื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจท่องเที่ยวได้

28 สิงหาคม 2563 – 14:55 น.

 90% ของเศรษฐกิจท่องเที่ยวภูเก็ต เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ อีก 10% เป็นนักท่องเที่ยวไทย เมื่อโควิดเกิดขึ้นแล้วการเคลื่อนย้ายมนุษย์ถูกปิดกั้น กว่า 8 เดือนที่ประชาชนเผชิญกับโรคระบาด กับ โรคไม่มีสักบาท มันสู่สีกัน.. แต่ทุกปัญหามีทางออก

          นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดภูเก็ต ให้สัมภาษณ์กรณี “ภูเก็ต โมเดล 4 T” ว่า จังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ค่อนข้างรุนแรงทางด้านเศรษฐกิจ

    อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วน ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มวันนี้ 6 ราย

โดยเฉพาะท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตทำได้รายจากการท่องเที่ยวปีหนึ่ง 4 แสนล้านบาท พี่น้องประชาชนทำมาหากินกับการท่องเที่ยวกว่า 90% ในจังหวัดภูเก็ต ที่สำคัญ คือ 90% ของเศรษฐกิจท่องเที่ยวภูเก็ตเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ อีก 10% เป็นนักท่องเที่ยวไทย

 ปลอดโควิด 100% "อัญชลี วานิช เทพบุตร" ชู "ภูเก็ต โมเดล 4 T" เชื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจท่องเที่ยวได้

        เมื่อโควิดเกิดขึ้นแล้วการเคลื่อนย้ายมนุษย์ถูกปิดกั้น เราเลยไม่มีเลือดใหม่มาเติมทำให้เศรษฐกิจของเรานิ่งสนิทช่วงเวลาก็ผ่านมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนสิงหาคมกว่า 8 เดือน ถ้าเรายังอยู่แบบนี้คิดว่าเศรษฐกิจของเราคงไปไม่รอด

ฉะนั้น การสร้างสมดุลระหว่างเรื่องเศรษฐกิจกับเรื่องสาธารณสุขจึงมีความจำเป็นมากที่สุด ภาคเอกชนในวงการท่องเที่ยวผู้ประกอบการทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต หอการค้า สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.) ได้มีการประชุมร่วมกันและตัดสินใจว่าต้องขอร้องไปทางรัฐบาล เพื่อขอให้รัฐบาลเปิดเกาะภูเก็ต เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แล้ว

         โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี คือ เดือนตุลาคมถึงธันวาคม ซึ่งอาจจะทำให้มีความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจและรื้อฟื้นความมั่นใจต่างๆ กลับมาได้ จึงเป็นที่มาของการออกแบบ “ภูเก็ต โมเดล 4 T”           

         นางอัญชลี บอกว่า “ภูเก็ต โมเดล 4 T” ภายใต้ตรรกะ “คนภูเก็ตต้องปลอดภัย” เราจึงออกภูเก็ตโมเดล เป็น 4 T คือ

         1.Target  ขอให้รัฐบาลช่วยดูคู่ค้าหรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คือ เมืองที่จะมาเที่ยวภูเก็ต ต้องเป็นเมืองที่ปลอดจากการเป็นโควิด มาแล้วอย่างน้อย 30 วัน เช่น ประเทศจีน เราจะเลือกเมืองปลอดโควิดแล้ว 30 วันซึ่งมีเป็น 10 เมืองตอนนี้ที่ติดต่อมาจะมาเที่ยวภูเก็ต หรือเมือง perth ประเทศออสเตรเลีย ไม่มีคนป่วยเป็นโควิดมาแล้ว 30 วัน หรือเมืองต่างๆ ที่ส่งข้อมูลมาให้เราแล้วอย่างนี้จะเป็นประโยชน์ คือ นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาต้องปลอดโควิดมาแล้ว 30 วัน

        2.Testing คือ การที่นักท่องเที่ยวจะมาภูเก็ตต้อง direct flight บินตรงมาที่ภูเก็ตเท่านั้น และก่อนมาจะขอให้ทำการเทสต์ของเขาก่อน 14 วันก่อนเดินทาง 1 รอบ โดยการ สวอป และ 3 วันก่อนเดินทาง สวอป อีกรอบหนึ่ง เพื่อมั่นใจว่าจะไม่หลุดและเมื่อบินมาถึงภูเก็ตพอลงเครื่องเราขออีกรอบคือ แลปพิทเทสต์ ด้วยน้ำลายแบบที่ฮ่องกงทำ ซึ่งตรงนี้เราจะมีห้องแลปอยู่ที่สนามบินภูเก็ต ทำแลปพิทเทสต์ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ผลตรวจว่าไม่เป็นก็จะไปสู่ T 3 

     3.Traeing คือ การติดตามตัวนักท่องเที่ยวสแกนให้เราว่าคุณไปอยู่ที่ไหน อย่างไร แบบสแกนไทยชนะ จากนั้นเราก็จะให้โรงแรม รีสอร์ต ต่างๆ ที่ผ่านการตรวจที่ได้มาตรฐาน ASQ (Alternative State Quarantine) หรือ ALSQ ( Alternative Local Self Quarantine) มาตรฐานนี้ต่างจังหวัดทำซึ่งก็เหมือนกัน ASQ ที่ภาคเอกชนต้องผ่านมาตรฐานนี้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกักตัวไว้อีก 14 วันและเมื่ออยู่ครบ 14 วันแล้วปลอดภัยไม่มีอะไร เราก็จะให้อนุญาตให้คุณไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ ในเกาะภูเก็ตได้ ไปเดินชายหาด ไปถนนคนเดินได้หมด

     4.Treaing ความปลอดภัยด้านสาธรณสุข เป็นกรณีที่เราเผื่อว่านักท่องเที่ยวมาแล้วเกิดหลุดมีโควิดขึ้นมาเพื่อความไม่ประมาทเราได้คุยกับทาง สสจ.คุยกับผอ.โรงพยาบาลต่างๆ ในภูเก็ตทั้งหมดว่าถ้าเกิดหลุดมา สมมติ สัก 10% จะรับมือไหวไหม จะทำอย่างไร ซึ่งตรงนี้เรามีความพร้อมทางการแพทย์พอสมควรกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เราจะรับมารอบแรก

       “นี่คือ “ภูเก็ต โมเดล 4 T” ถ้าเราไม่เริ่มต้นเลยชาวบ้านจะเป็นอย่างไร ชาวบ้านบอกว่า ไม่เป็นไหร่ คุณอัญชลี ทำไปเลยนะ เพราะว่า โรคระบาดกับโรคไม่มีสักบาท มันสู่สีกัน ไม่ได้ตายเพราะโรคระบาด แต่ตายเพราะโรคอื่นก็จะยุ่งเหมือนกัน”

 นางอัญชลี กล่าวว่า ถ้าวัคซีนยังไม่ได้เหตุการณ์นี้ยาวถึงปีหน้า พนักงาน ผู้ประกอบทั้งหมดจะอยู่กันได้อย่างไร สมติ เราตัดเอาแค่ 40- 50% ของยอดเดิมที่เราเคยมี คือ ปี 2562 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาภูเก็ต 14 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12 ล้านกว่าเกือบ 13 ล้าน อีกล้านกว่าจะเป็นคนไทย

        ฉะนั้น เราตัดลงมาครึ่งหนึ่งของ 14 ล้านก็จะได้ประมาณ 6 ล้านคน นั่นหมายความ ว่าถ้าเราจะเอาแค่นี้ ต่อวันจะมี direct flight วันละ 70 ไฟล์ต่อวันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 2 หมื่นคนต่อวัน โรงแรม รีสอร์ต ต่างๆ ที่ได้มาตรฐาน ASQ และ ALSQ ที่จะดูแลนักท่องเที่ยวก็จะทยอยกันได้รับนักท่องเที่ยว ค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆ ไม่ให้เกิดปัญหาหลุดรอดของคนที่ติดเชื้อโควิดมามีเกือบเรียกว่า ศูนย์เปอร์เซ็นต์ เราค่อยมาพิจารณากันว่า Self Quarantine เราจะเป็นแบบไหนอย่างไร แต่ในช่วงแรกอยากให้ทำแบบนี้ก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนภูเก็ตด้วยว่าเขาจะได้รับความปลอดภัย นักท่องเที่ยวก็คงจะมีความสุข

       นางอัญชลี ย้ำว่า ถ้าภูเก็ตโมเดล 4 T สำเร็จสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็จะเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นๆ ต่อไปได้ เช่น พี่น้องที่เกาะสมุยก็รอฟังของภูเก็ตอยู่ เพราะเราเป็นชาวเกาะด้วยกัน คนภูเก็ตก็สับสนตอนนี้ เพราะสิ่งที่เราบอกประชาชนคือ 4 T ของเราโมเดลนี้ ซึ่งทาง ศบค.โดย พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก และประธาน ศบค.ชุดเล็กได้ลงพื้นที่และรับข้อเสนอนำเสนอท่านนายกรัฐมนตรีต่อไป และภูเก็ตเองซึ่งเป็นเจ้าบ้านก็จะรู้สึกปลอดภัย และจะได้ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ เราต้องสื่อไปในทิศทางเดียวกัน

       แต่ความกังวลและสับสนของคนภูเก็ตเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ออกมาพูดเรื่องภูเก็ตโมเดล ตามที่ท่านได้บอกไปนั้น จะทำให้เกิดเป็นประเด็น เพราะท่านบอกว่าจะให้นักท่องเที่ยวมาอยู่ปิดหาดป่าตอ“ภูเก็ต โมเดล 4 T”

       และให้นักท่องเที่ยวสามารถออกจากโรงแรมมาเดินที่หาดป่าตองได้ ตรงนี้อาจทำให้สับสนกันอยู่เพราะว่าถ้าเป็นอย่างนั้นพี่น้องประชาชนอาจจะรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ขอบคุณท่านที่พยายามช่วยคิด แต่ถ้ามาได้โมเดลภูเก็ต 4 T ของเราแล้วเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะมั่นใจ มีนักท่องเที่ยวหลายประเทศอยากมาภูเก็ตมากถึงมากที่สุด เป็นกลุ่มที่ไม่ได้เป็นโควิด และรอว่าเมื่อไหร่รัฐบาลไทยจะประกาศสักที และตกลงจะเอาโมเดลไหน เรารอคำตอบจากรัฐบาลอยู่

      “ดิฉันขอเรียนเชิญพี่น้องประชาชนขาวไทยให้มาเทียวที่ภูเก็ต วันนี้ภูเก็ต ปลอดโควิด 100% แน่นอน สิ่งที่พวกเราพยายามสื่อสารไปว่าจะรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในช่วงปลายไตรมาสสุดท้ายของปีนั้น พี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลเพราะว่าโรงแรม รีสอร์ต ที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมานั้น ต้องผ่านมาตรฐานของ ASQ ท่านก็สามารถเลือกโรงแรม รีสอร์ต ที่มีความสุข สนุก สบายหลายรีสอร์ต ให้ท่านเลือก ภูเก็ตเรายังปรารถนาที่จะได้ต้อนรับพี่น้องประชาชนชาวไทยของเรา” อัญชลี กล่าวทิ้งท้าย

 ปลอดโควิด 100% "อัญชลี วานิช เทพบุตร" ชู "ภูเก็ต โมเดล 4 T" เชื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจท่องเที่ยวได้

จากนักดนตรีที่มีงานทุกวัน สู่คนขับมอเตอร์ไซค์ขายกาแฟ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

จากนักดนตรีที่มีงานทุกวัน สู่คนขับมอเตอร์ไซค์ขายกาแฟ

จากนักดนตรีที่มีงานทุกวัน สู่คนขับมอเตอร์ไซค์ขายกาแฟ

https://www.youtu.be/04E_SIEuxXc

24 สิงหาคม 2563 – 17:28 น.

บางทีความสุข ก็มาจากการ “คิดให้น้อยลง” จากนักดนตรีที่มีงานทุกวัน สู่คนขับมอเตอร์ไซค์ขายกาแฟ

แดน อัครเดช สารอินทร์ จากนักดนตรีที่มีงานทำทุกวันไม่เคยหยุด แต่ในช่วงโควิด การพักยาวอย่างว่างเปล่าร่วม 3 เดือน จากที่คิดว่าหยุดแล้วสบาย กลับกลายเป็นความน่าเบื่อ และด้วยความที่ชอบดื่มกาแฟ จึงใช้รถมอเตอร์ไซค์มาเปิดร้านเป็นร้านขายกาแฟ โดยเป็นกาแฟคั่วบดสดๆ ชงกันแก้วต่อแก้ว และก็ขายในราคาไม่แพงมาก และทำให้เค้าเองได้ค้นพบความสุขสิ่งใหม่ ที่ได้เข้ามาเติมเต็มเวลาว่างเปล่าให้กลับมีความหมาย ชีวิตสนุกได้อีกครั้ง

จากนักดนตรีที่มีงานทุกวัน สู่คนขับมอเตอร์ไซค์ขายกาแฟ

แดน อัครเดช สารอินทร์

จากนักดนตรีที่มีงานทุกวัน สู่คนขับมอเตอร์ไซค์ขายกาแฟ

แดน อัครเดช สารอินทร์

จากนักดนตรีที่มีงานทุกวัน สู่คนขับมอเตอร์ไซค์ขายกาแฟ

กาแฟ

“สุวัจน์” มองแก้ไขรัฐธรรมนูญเชื่อกู้วิกฤตชาติได้ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

“สุวัจน์” มองแก้ไขรัฐธรรมนูญเชื่อกู้วิกฤตชาติได้

"สุวัจน์" มองแก้ไขรัฐธรรมนูญเชื่อกู้วิกฤตชาติได้

21 สิงหาคม 2563 – 19:55 น.

“สุวัจน์” มองแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชื่อกู้วิกฤตชาติ ความสามัคคีของชาติ ต้องเป็นธรรม ต้องเสียสละ ต้องมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน สำคัญที่สุดประชาชน และประเทศชาติต้องได้ประโยชน์ ควรเปิดใจฟังเสียงนักเรียน นิสิต นักศึกษา ร่วมเปลี่ยนประเทศ ทำอย่างไรไทยพึ่งพาตัวเองได้

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2563 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ก็ได้เริ่มมี กระบวนการในการเริ่มต้นแล้วพรรคฝ่ายค้านและพรรครัฐบาลก็เห็นตรงกันแล้วว่าควรที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และก็วิปรัฐบาลก็ ได้เชิญพรรคร่วมรัฐบาลไปหารือ

 ซึ่งในส่วนของพรรคชาติพัฒนาก็มีความคิดว่า เราให้การสนับสนุนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ที่ได้ประกาศไว้ ควรที่จะดำเนินการกัน และสองเมื่อมีการใช้รัฐธรรมนูญไปแล้วถ้าได้พิสูจน์ให้เห็นว่า มีความไม่สมบูรณ์ หรือปัญหาอะไรที่เกิดขึ้น ก็สมควรที่จะพิจารณามาแก้ไขกัน

ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัด ก็คือ ในเรื่องของกติกาที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จะเห็นได้ว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ค่อนข้างจะสร้างความสับสน ในระบบของการเลือกตั้ง ทั้งเรื่องในเขตเลือกตั้ง การเลือกตั้งบัตรใบเดียว หรือการคำนวณ จำนวนที่พรรคการเมืองจะได้ หรือความล่าช้า ในการจัดตั้งรัฐบาล

นอกจาก เรื่องการเลือกตั้งแล้ว ขณะนี้สังคมก็มีความกังวลใจเกี่ยวกับหลายๆเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างเช่น เรื่องของกระบวนการยุติธรรม ว่าทำยังไงกระบวนการยุติธรรมจะเป็นหลักให้ประเทศ และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

ขณะเดียวกันเราก็ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ ทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งผลกระทบจากเรื่องโควิด ทำให้เราต้องปรับยุทธศาสตร์ ปรับแผนงานทางด้านเศรษฐกิจ ฉะนั้น ถ้าเราสามารถที่จะสร้างกฎเกณฑ์ หรือมีรัฐธรรมนูญที่สามารถที่จะปรับความยืดหยุ่นตัว ต่อสถานการณ์โลก สถานการณ์เศรษฐกิจ และสอดคล้องกับปัญหาในประเทศได้ เราก็คิดว่าเราน่าจะดำเนินการกัน

ฉะนั้นโดยภาพรวมพรรคชาติพัฒนาก็เห็นด้วย และอยากให้การดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และแสดงออกถึงความตั้งใจ ความจริงใจ ของทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อบ้านเมือง และเราก็เชื่อว่ากลไกการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าทุกท่านเสียสละ และให้การร่วมมือให้ได้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด มันก็จะเป็นประโยชน์ ต่อบ้านเมือง และก็สามารถที่จะคลายวิกฤตที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้ เพราะเรื่องรัฐธรรมนูญ ก็เป็นเรื่องที่พูดกันมาก

ฉะนั้น อยากจะเห็นความร่วมมือ ความรวดเร็ว ความชัดเจน ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจะดำเนินการกันอย่างไร อย่างในที่ประชุมพรรคร่วมถึงแนวทางในการแก้ไข ว่าจะให้แต่ละพรรค ไปนำเสนออีกครั้งหนึ่ง ในวันจันทร์ ( 24 สิงหาคม 2563) ที่จะถึงนี้ ว่าแต่ละพรรคมีความคิดเห็นกันอย่างไร กับเรื่องนี้ ของการแก้ไขที่มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.ซึ่งจะได้ ส.ส.ร.มาจากไหน ส.ส.ร.จะเป็นตัวแทนภาคประชาชนอย่างไร ที่จะสะท้อนให้เห็นว่า ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในภาพรวม หรือการที่จะร่างรัฐธรรมนูญกันนี้ มีตัวแทนของพี่น้องประชาชนจริงๆ เพื่อทำให้รัฐธรรมนูญนี้ ได้รับการยอมรับ ที่มาที่ไปการได้มา

นายสุวัจน์ กล่าวย้ำว่า แต่สิ่งหนึ่งที่ พรรคชาติพัฒนา อยากที่จะเสนอเพิ่มเติม คือว่าควรที่จะมีความชัดเจนในเรื่องของ Time Line ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าแก้ไขกันระยะเวลาเท่าไหร หรือว่าจะมี ส.ส.ร.จะใช้ระยะเวลาเท่าไรในการเริ่มแก้ไขตั้งแต่ การแก้ไขมาตร 256 ว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สองกำหนดให้มี ส.ส.ร.ว่า มาจากไหน สามการได้มาของ ส.ส.ร.สี่ ส.ส.ร.มาแก้ไขหรือมาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่นี้ Time Frame หรือ Time Line ของแต่ละ เหตุการณ์ จากนี้ไป ใช้เวลาเท่าไหร ถึงจะมีรัฐธรรมนูญที่จะเป็นการยอมรับ และที่ดีที่สุด กับสถานการณ์ของประเทศ ฉะนั้น ความชัดเจนตัวนี้ก็จะเกิดการคลายกังวล และทำให้รัฐธรรมนูญนี้ไปแก้ไข ปัญหาวิกฤตต่างๆได้ด้วย

แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อมี ส.ส.ร.แล้ว ถ้าเราใช้ Model ของ ส.ส.ร. ที่มาจากประชาชนที่มาแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ เราก็ต้องคิดแบบคู่ขนานกันด้วย ว่า ถ้า ส.ส.ร. ใช้ระยะเวลาเท่าไหร ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และถ้าเกิดมีการเลือกตั้ง ก่อนที่รัฐธรรมนูญ ที่มีการแก้ไขหรือรัฐธรรมนูญใหม่จาก ส.ส.ร. มาแล้ว เราจะเลือกตั้งด้วยกฎกติกาไหน แต่ถ้าเกิดเราคิดว่า การเลือกตั้งด้วยกติกาเก่าแล้วมีผลกระทบ มีปัญหามาก มันอาจจะต้องคิดแนวทางในการที่จะ แก้ไขในลักษณะบางเรื่อง บางประเด็น ให้เกิดการแก้ไขไว้ก่อน ส่วน ส.ส.ร. ก็ทำงานไป

สมมุติ ส.ส.ร.อาจจะ ไปแก้ไขจบ หรือไม่จบ ทันเลือกตั้ง หรือไม่ทันเลือกตั้ง สมมุติ สภาอยู่มาแล้ว 2 ปี ถ้าเกิด ส.ส.ร. แก้ไขได้จบก่อนการเลือกตั้ง มันก็ไม่มีประเด็นอะไร ก็ใช้กติกาใหม่ในการเลือกตั้ง แต่ถ้าเกิด ส.ส.ร. แก้ไข ไปเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งที่จะเกิด จะเกิดด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่กติกาก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้อง การเลือกตั้งที่เป็นรัฐธรรมนูญเก่า ก็อาจจะเป็นประเด็นขึ้นมาอีก

ฉะนั้น ผมคิดว่าควรจะคิดแบบคู่ขนานกันด้วย ส.ส.ร. เป็นโมเดล ทุกฝ่ายเห็นด้วยว่าเป็น โมเดลที่สุด ควรจะมี Time Line ที่ชัดเจน จะเสร็จเมื่อไร สองเราก็ต้องมีแผนว่า ถ้าเกิดว่า เกิดมีประเด็นหรือเกิดความเร่งด่วนของปัญหาอะไรต่างๆ ที่จำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในบางมาตรไว้ก่อน เช่น สมมุติเราไม่แน่ใจ ว่าจะเสร็จหรือไม่เสร็จ ก่อนการเลือกตั้งนี้ อย่างน้อยมีการแก้ไขบางประเด็นที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งไว้ ก็เหมือนกับการมีการทำงานในลักษณะคู่ขนาน อันไหนเป็นปัญหาที่เร่งด่วนของประเทศ เช่นกระบวนการยุติธรรม หรือเรื่องสิทธิเสรีภาพ หรือเรื่องการเลือกตั้ง หรือเรื่องที่หารือในสภา ว่าอะไรเร่งด่วน ที่จะมีการแก้ไข ที่

นอกเหนือจากที่ ส.ส.ร. แก้ไข กับอะไรที่คิดว่า ควรให้เป็นหน้าที่ของ ส.ส.ร. ซึ่งผมคิดว่า ภาพรวมนี้ ก็จะมีการพูดคุยกัน พรรคชาติพัฒนาก็จะเสนอกัน แนวทางนี้ ในประชุมพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทางพรรคได้มอบหมายให้ เลขาธิการพรรค หรือเป็นวิปรัฐบาลอยู่แล้ว ก็คือคุณวัชรพล โตมรศักดิ์ เข้าร่วมประชุม

ส่วนเรื่องนักศึกษาที่จะเข้าร่วมหารือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายสุวัจน์ มองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ เราควรที่จะยึดรวมที่ประชาชน หรือการมี ส.ส.ร. อะไรก็แล้วแต่ ฉะนั้นเราก็พยายามให้เกิดความหลากหลาย ของกลุ่มบุคคลหลายๆ อาชีพ เพราะรัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และต้องใช้กันทุกคน ฉะนั้น ความคิดเห็นจากหลากหลายอาชีพ ความคิดเห็นที่มาจากรากหญ้า หรือมาจากนักธุรกิจ ความคิดเห็นที่มาจากส่วนราชการ ทุกส่วน ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบ ความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ ความคิดเห็นของผู้ใหญ่ ความคิดเห็นของนักวิชาการ สิ่งต่างๆนี้ผมคิดว่าต้องช่วยกันระดมความคิดเห็น

ฉะนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย และก็ต้องแก้ไขอยู่บนพื้นฐานว่า รัฐธรรมนูญ แก้ไขเพื่อบ้านเมือง ซึ่งบางที่เราก็ต้องยอมเสียสละ ไม่ตรงกับความรู้สึกเราบ้าง ได้เปรียบ เสียเปรียบ ทางการเมืองก็เอาไว้ก่อน ก็ต้องเอาบ้านเมืองไว้ก่อน ให้รัฐธรรมนูญ เป็นของประชาชน จริงๆ และแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้จริงๆ

สำหรับพรรคชาติพัฒนา เราก็มีการนำเสนอไว้ในชั้นกรรมาธิการ วิสามัญไว้หลายประเด็น อาทิเช่น เราคิดว่าควรแก้ไข วิธีการว่าด้วยการเลือกตั้ง เรื่องใน บัตร 1 ใบ ประชาชนสับสน หรือเรื่องการต้องมี ไพรมารี่ โหวต อย่างพรรคเล็กๆ จะส่ง 350 เขต ก็ต้องมีตัวแทนประจำเขตเลือกตั้ง เขตละ 100 คน ต้องหามา 35,000 คน ถึงสามารถจะส่ง ส.ส.ได้ครบทุกเขต อย่างนี้ค่อนข้างจะเป็นไปได้ด้วยความยากลำบาก หรือการที่จะต้องจ่ายเงินสมาชิกพรรคการเมือง ตอนนี้เศรษฐกิจก็แย่ขนาดนี้แล้ว จะมีส่วนรวมทางการเมืองยังต้องมาจ่ายตังค์อีก เราคิดว่าสิ่งต่างๆต้องแก้ไข

 นายสุวัจน์ ย้ำว่า การเลือกตั้งที่ผ่านก็จะเห็นปัญหาของการคำนวณคะแนน การจัดสรรว่าพรรคไหนจะได้ หรือไม่ได้ ความล่าช้า ในการประกาศผล จะจัดตั้งรัฐบาลได้ 3- 4 เดือน กว่าเราจะมีพรรครัฐบาลหลังจากการเลือกตั้ง อันนี้ก็เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องการเลือกตั้ง หรือ ในเรื่องของวุฒิสมาชิก เราก็ต้องการให้วุฒิสมาชิก ยึดโยงกับประชาชน ควรที่จะให้พี่น้องประชาชน เป็นผู้กำหนด ได้ใช้สิทธิ์ ในการเลือกตั้ง หรือในเรื่องของการกระจายอำนาจ ไปสู่ท้องถิ่น เราอยากเห็นในการให้ความสำคัญ ของท้องถิ่นในการที่ จะขึ้นมาบริหารการจัดการภารกิจต่างๆ เพราะเค้าอยู่กับประชาชน การให้อำนาจเค้า หรือการให้ตัวแทนเค้า

นอกจากนั้น ก็มีเรื่องของงบประมาณต่างๆ ซึ่งปัจจุบันนี้ เราจะเห็นงบประมาณต่างๆ ที่พี่น้องประชาชนฝากความหวังไว้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ตามกฎกติกาภายใต้รัฐธรรมนูญ การจัดสรรงบประมาณและการแปรญัตติ ฝ่ายการเมือง เมื่อตัดงบประมาณแล้ว ก็ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณ จุดที่ตัดได้ ควรจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายการเมือง แสดงความคิดเห็น ให้มากกว่านี้ เพื่อให้งบประมาณนี้ตรงกับปัญหาที่พี่น้องประชาชนอยากจะเห็น อันนี้เป็นภาพรวมที่พรรคชาติพัฒนาได้นำเสนอไว้ กับคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่กำลังศึกษาเรื่องนี้

 และเราก็คิดว่าการนำเสนอต่างๆ เราเป็นพรรคเล็ก การที่จะเสนอด้วยตนเองต้องเสนอที่ 100 เสียง เราไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเรา ฉะนั้น คงต้องอาศัยแนวทางหลายๆพรรค เพื่อนำเสนอ แต่เราก็ยินดีที่จะแลกเปลี่ยน ฟังความคิดเห็นร่วมกัน บางที่ข้อเสนอเราอาจจะไม่ใช่ข้อเสนอที่ดีที่สุด ใครมีข้อเสนอที่ดีที่สุด เราก็ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด

“เราเป็นพรรคการเมือง เราก็พร้อมกับทุกสถานการณ์ ที่จะเกิดขึ้น ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด จะมีการเลือกตั้งเมื่อไร มันก็เป็นหน้าที่อยู่แล้ว แต่ถ้ามีการเลือกตั้งเมื่อไร เราก็มีความพร้อม เพียงแต่ว่าอยากเห็น การเลือกตั้งที่อยู่บนพื้นฐานที่ ทำให้เกิดการยอมรับ อย่าให้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่าง หรือความขัดแย้ง การเลือกตั้งเราก็มีเป้าหมายที่จะ ได้นักการเมือง ได้ ส.ส. หรือได้รัฐบาล ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศในขณะนี้” นายสุวัจน์ กล่าวพร้อมย้ำว่า

ในวันนี้เรื่องเศรษฐกิจ หลังโควิด นี้ ผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก และเป็นเรื่องที่เราต้องปรับฐานและปรับยุทธศาสตร์ ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ อันช่วงฟื้นตัวก็ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า สามสีปีนี้ แต่วันข้างหน้า เราต้องปรับฐานว่าเศรษฐกิจของประเทศไทย จะเดินไปในทิศทางไหน ผมว่าต้องปรับฐาน เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจเราในปัจจุบัน เราพึ่งพาต่างประเทศ พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างประเทศ พึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศ พึ่งพาการส่งออกไปต่างประเทศ

“จะทำยังไงที่เราจะยืนอยู่บนลำแข้ง ของเรา ยืนอยู่บนขาของตนเอง เวลามีวิกฤตอะไรเกิดขึ้น เราก็ยืนอยู่ได้ ฉะนั้นเรา ต้องหาจุดแข็ง ของเมืองไทย ความเป็นเมืองน่าอยู่ ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ จากการที่เราประสบความสำเร็จเรื่องการแก้ไขปัญหาโควิด การเป็นเมืองเกษตร การเป็นเมืองอาหาร ป้อนโลก การเป็นเมืองท่องเที่ยว อันนี้คือจุดแข็ง ที่เรามีศักยภาพในการพัฒนา เราได้การเมืองที่เข้มแข็ง การเมืองที่มีเสถียรภาพ ได้นักการเมืองดีๆ ได้รัฐบาลที่พี่น้องประชาชนให้การยอมรับ และมาขับเคลื่อนประเทศอยู่บนจุดแข็ง ก็เหมือนเป็น นิวนอร์มอลของเศรษฐกิจไทย หลังจากที่เราผ่านระยะการฟื้นตัว ของวิกฤตเศรษฐกิจโควิด อย่างน้อยการฟื้นตัว ผมเชื่อว่าต้องใช้ระยะเวลา 3 ปีอย่างน้อย กว่าเราจะเข้าเศรษฐกิจใหม่”นายสุวัจน์  แนะทางออก

ฉะนั้น การเมืองเป็นเรื่องสำคัญ เสถียรภาพการเมืองนี้ เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่จะฟื้นฟู และที่จะสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

แนะเปิดเวทีฟังเสียงเด็ก

ส่วนเรื่องการประท้วงของนักศึกษา การจับกลุ่มแกนนำนั้น นายสุวัจน์ มองว่าปัญหาอะไรต่างๆ มันเหมือนประชาธิปไตย เราก็ต้องแก้ไขด้วยหลักการประชาธิปไตย ก็คือการเปิดเวที รับฟังความคิดเห็น การพูดคุย การทำความเข้าใจกัน การไม่ใช้ความรุนแรง และการคำนึงสิทธิเสรีภาพ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผมคิดว่าทุกอย่างถ้าอยู่ในกรอบนี้ เราก็คนไทยด้วยกันอยู่แล้ว พูดคุยทำความเข้าใจกันได้

“และผมก็เชื่อว่า อย่างเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เรา เห็นต่างๆกัน และก็เป็นสิ่งหนึ่งในสังคม อยากเห็นการแก้ไข ฉะนั้นทุกฝ่ายเห็นตรงกัน และเร่งดำเนินการในส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ๆ ก็จะมาคลายวิกฤต ของประเทศ”

วิกฤตของสังคมได้ อะไรที่เป็นวิกฤตและคลี่คลาย ก็ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้เหลือความเห็นต่าง หรือปัญหาของความขัดแย้ง ให้น้อยที่สุด และในทีสุดก็นำไปสู่การพูดคุย การทำความเข้าใจ บรรยากาศต่างๆ ก็จะดีขึ้น ถึงจะใช้เวลาก็ต้องใช้เวลากัน แต่สำคัญที่สุดนี้ ต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้น ต้องอย่าใช้ความรุนแรงกัน ใช้การเจรจากัน ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

“ผมก็คิดว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ถือว่าเป็นกลไก ที่สำคัญอย่างหนึ่ง ที่จะแสดงถึง ความจริงใจ ความตั้งใจ การแก้ไขปัญหา การแก้ไขรัฐธรรมนูญ สามารถที่จะ นำไปสู่การลดวิกฤตในบ้านเมืองได้ ” อดีตรองนายกฯ กล่าว

ฉะนั้นอะไรที่เราสามารถที่จะ สร้างกลไกต่างที่จะ ลดความเห็นต่าง ความขัดแย้ง ก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราต้องรีบดำเนินการ ฉะนั้นผมคิดว่าเรื่องรัฐธรรมนูญ สามารถที่จะเร่งรัดได้ และก็สร้างความชัดเจน เปิดใจมีความจริงใจ และทุกคนต้องพร้อมที่จะเสียสละ ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง ไม่ต้องไปคิด ให้ประเทศชาติได้เปรียบให้ประชาชนได้เปรียบ และเราจะได้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด

ฉะนั้นรัฐธรรมนูญก็เป็นกลไก หนึ่ง ในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ที่เหลือก็เป็นเรื่องของความเห็นอกเห็นใจกัน การพูดคุยกันในฐานะคนไทยด้วยกัน การรับฟังความคิดเห็นในประชาธิปไตย และเราไม่ใช้ความรุนแรง อยู่ในกรอบของกฎหมาย ผมคิดว่าเป็นแนวทางที่ดีที่สุด