ชิลชิลแกล้มวิวแม่น้ำ ริเวอร์ไซด์ กริลล์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

19 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 17:50 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/nightlife/417242

ชิลชิลแกล้มวิวแม่น้ำ ริเวอร์ไซด์ กริลล์

โดย…คีตะ mag_e@posttoday.com ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุล

หลังจากแดดร่มลมตก มุมนี้ของโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน นั้นช่างเชื้อชวนให้ผู้คนเข้าไปหาเพื่อพักผ่อนและดื่มกิน

ริเวอร์ไซด์ กริลล์ เป็นบาร์ แอนด์ กริลล์ซึ่งตกแต่งด้วยสไตล์ร่วมสมัย ให้ความรู้สึกสบายๆ และอบอุ่นด้วยโทนสี รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้และหวาย มีที่นั่งสบายๆ หลากหลายมุมให้เลือก ทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ซึ่งเป็นระเบียงริมแม่น้ำเจ้าพระยา

 

บรรยากาศของร้านนี้เหมาะสำหรับจูงมือคนรักมานั่งจ้องตาเอื้อนเอ่ยคำหวาน หรือนำขบวนเพื่อนหนุ่มสาวมาเมาท์มอย หรือพาสมาชิกในครอบครัวมาใช้เวลาดีๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะมากับใครก็ตาม ด้วยบรรยากาศอันงดงาม รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ จะทำให้แต่ละนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่รู้ตัว

 

ที่นี่นักชิมจะได้อิ่มท้องด้วยอาหารประเภทปิ้งย่างหรือกริลล์ซึ่งคัดสรรเมนูเด็ดหลายเมนูเป็นที่คุ้นเคยกันดี แต่แตกต่างด้วยคุณภาพของวัตถุดิบซึ่งนำมาปรุง เช่นเมนูยอดฮิตอย่าง ไก่ย่าง เป็นอาหารไทยๆ ที่หารับประทานได้ทั่วไป แต่ที่นี่จะทำให้ไก่ย่างต่างไปด้วยนำไก่คัดขนาดกำลังเหมาะมาหมักนานาสมุนไพร ก่อนนำไปย่างไฟให้สุกหอม ตกแต่งจานสวยงามเก๋ไก๋ เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว เนื้อไก่นุ่มนวลฉ่ำรับประทานกับน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ กลายเป็นสตรีทฟู้ดที่ยกระดับมาขึ้นร้านหรู ลูกค้าต่างชาติดูจะนิยมเมนูนี้เป็นพิเศษ

 

นอกจากนั้นยังมีเมี่ยงปลากะพงเผา ซึ่งมาคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด 3 ชนิด รวมทั้งผักสดหลากชนิด ปลานั้นแกะก้างออกแล้ว จึงรับประทานได้อย่างไม่ต้องกังวล เนื้อปลาไม่คาวเพราะใช้สมุนไพรยัดตัวปลาเพื่อดับกลิ่นตอนเผา ในเนื้อมีรสเกลือและพริกไทยผสมผสาน หากไม่เข้มข้นพอก็มีน้ำจิ้ม 3 อย่างให้เลือก แนมด้วยเส้นหมี่และผักสดขณะที่คนรักกุ้งพลาดไม่ได้กับ กุ้งเผาขนาดใหญ่เนื้อแน่นๆ รับประทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด ส่วนมีทเลิฟเวอร์ทั้งหลายคงถูกใจ สเต๊กเนื้อวากิว ทำจากเนื้อออสเตรเลียส่วนริบอายรับประทานกับซอสเบอร์เนสหรือจะเลือกซอสเลมอนบัตเตอร์ ซอสเรดไวน์ และซอสเปปเป้คอร์นก็ได้ มาพร้อมเครื่องเคียง 2 อย่าง จะเป็นสลัดหรือของทอดก็เลือกได้อีก ก่อนปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง บลูเบอร์รี่ ชีสเค้ก อันหวานละมุนเข้มข้น

 

ตลอดเดือน ก.พ.นี้ ริเวอร์ไซด์ กริลล์ มีเมนูเครื่องดื่มพิเศษ Sweet Heart และ Love Forever ที่มาพร้อมหมีน้อยสีแดงซึ่งลูกค้าสามารถเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ เครื่องดื่มซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของร้านมาในไซส์จัมโบ้ไม่ว่าจะ Ocean Lover หรือ Paradise on Earth นอกจากสีสวยแล้วปริมาณนี้ทำเอาอิ่มได้เลย ไม่เพียงเท่านั้นยังมี Destination Imagination ซึ่งผสมจากไอริชวิสกี้ มะม่วง ไลม์ และใบมินต์ หรือจะลอง Security Check ที่โดดเด่นด้วยว้อดก้าหมักใบเตยนำมาผสมกับส้มโอ ส้ม และไลม์ ส่วน Aphrodisia นั้นผสมจากวอดก้า แพสชั่นฟรุต ทับทิม น้ำอ้อย และไลม์

 

ทุกค่ำคืนวันศุกร์และเสาร์ระหว่างเวลา 18.30-20.30 น. มีดนตรีแจ๊ซโดย อัจฉ์ กัลยาณคุปต์ หรือ เคนนี จี เมืองไทย ผู้เข้าประกวดรายการ Thailand’s Got Talent มาขับกล่อม ต่อด้วยเพลงจากฝีมือการเปิดแผ่นของดีเจซึ่งจะช่วยให้บรรยากาศดียิ่งขึ้นไปอีก

ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ตั้งอยู่บริเวณชั้น G ของโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ท่าน้ำสี่พระยา ถนนเจริญกรุง บาร์เปิดบริการตั้งแต่ 16.00-01.00 น. และให้บริการอาหารระหว่าง 17.00-22.30 น. สำรองที่นั่งโทร. 02-665-3125 ต่อ 3125

 

นอกจากจะมีบรรยากาศริมน้ำอันแสนงามแล้ว ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ยังมีคุณสมบัติมากมายเป็นแต้มต่อ ทำให้การตัดสินใจมาใช้เวลาดีๆ ที่นี่เป็นเรื่องง่ายดาย

 

นั่งกินดื่มชิลๆ พร้อมทั้งเชียร์กีฬาไปด้วยที่ ‘ฮูเตอร์ส’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

12 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 17:50 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/nightlife/415855

นั่งกินดื่มชิลๆ พร้อมทั้งเชียร์กีฬาไปด้วยที่ ‘ฮูเตอร์ส’

โดย…อีตติง อาร์ต

สุดสัปดาห์นี้ใครมีโอกาสได้ไปพักผ่อนยังเมืองชายทะเลเดินทางง่ายอย่างพัทยา ช่วงเย็นย่ำเราอยากชวนคุณมานั่งกินดื่มชิลๆ พร้อมทั้งเชียร์กีฬาไปด้วยที่ “ฮูเตอร์ส” ร้านอาหารแนวสปอร์ต บาร์ สไตล์อเมริกันสาขาพัทยา ซึ่งเป็นสาขาที่ 4 ในเมืองไทย ต่อจากภูเก็ต โรงแรมโฟร์พอยต์ และซอยนานา กรุงเทพ

คอนเซ็ปต์ของร้านคือความสนุกสนานและเป็นกันเอง เหมาะสำหรับนัดปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนๆ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ สไตล์สปอร์ต บาร์ ซึ่งจะมีจอทีวีคมชัดระดับเอชดีติดตั้งไว้ทั่วทุกมุมของร้าน พร้อมทั้งถ่ายทอดเกมการแข่งขันกีฬาต่างๆ จากทั่วโลกให้บรรดาคอกีฬาได้ชมและเชียร์กันอย่างสะใจ

 

ภายในร้านตกแต่งด้วยโครงเหล็กที่มีโครงสร้างเพดานสูง เน้นโทนสีขาว ดำ และน้ำตาล ผนังบางส่วนตกแต่งด้วยอิฐ โต๊ะ เก้าอี้ ทำจากไม้และเหล็ก ตัวร้านมี 2 ชั้น บนพื้นที่กว้างขวาง 3,300 ตร.ม. จุคนได้ถึง 500 กว่าที่นั่ง ซึ่งสัญลักษณ์สำคัญของฮูเตอร์สทุกสาขาก็คือ จะมีโซนสำหรับกีฬาขี่วัวกระทิงจำลองให้ลูกค้าได้ท้าทายความกล้า พร้อมทั้งมีสาวเสิร์ฟสุดเซ็กซี่ที่เรียกว่า “สาวฮูเตอร์ส” อยู่ด้วยเสมอ

เมนูส่วนใหญ่เป็นอาหารสไตล์อเมริกัน-เม็กซิกันที่กินง่าย สามารถกินคู่กับเครื่องดื่มต่างๆ ได้หลากหลายชนิด เมนูซิกเนเจอร์ก็อย่างปีกไก่ทอดหรือชิกเก้นวิงสูตรเด็ด ที่มาพร้อมเครื่องเทศและซอสที่มีให้เลือกกว่า 10 ชนิด นอกจากนี้ยังมีเมนูประเภท ซุป สลัด นาโช่ เบอร์เกอร์ สเต๊ก ซีฟู้ด และอาหารไทย (บางเมนู) ที่ปรับรสชาติให้มีความเป็นสากล คนทุกชาติสามารถกินได้ไว้บริการด้วย

 

นอกจากนี้ ยังมีเบอร์เกอร์น่าสนใจให้เลือกถึง 8 เมนูด้วยกัน อย่าง “แองกัส บีฟ เบอร์เกอร์” ซึ่งใช้เนื้อวัวชั้นดีนำเข้าจากออสเตรเลีย เวลากัดจะได้รสชาติของเนื้อนุ่มๆ ชุ่มฉ่ำด้วยชีสและซอสสุดอร่อย กินคู่กับมันฝรั่งทอดรสเผ็ดก็ยิ่งเข้ากัน อีกเมนูคือ “บัฟฟาโล ชิกเก้น แซนด์วิช” เมนูนี้เป็นเนื้ออกไก่นุ่มๆ ซุ่มด้วยซอสสูตรพิเศษ สลับด้วยกะหล่ำปลีและมะเขือเทศสด กัดคำแรกก็รับรู้ถึงความอร่อยแล้วล่ะ ต่อด้วย “เม็กซิกัน นาโช่” เมนูอาหารเม็กซิกันที่ผสมผสานความเป็นอเมริกันเข้าไปด้วย จึงได้รสชาติที่อร่อยแตกต่าง แล้วยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกเพียบ ราคาอาหาร 220-950 บาท++

มาต่อด้วยเครื่องดื่มกันบ้าง ด้วยคอนเซ็ปต์ของร้านที่เป็นแนวสปอร์ตบาร์แอนด์เอนเตอร์เทนเมนต์ ที่นี่จึงมีเครื่องดื่มหลากหลายชนิดแบบจัดเต็ม ทั้งเบียร์สดและดราฟต์เบียร์ชื่อดังจากแถบยุโรป รวมทั้งซิกเนเจอร์ค็อกเทลแก้วเด่นๆ ของร้านที่สีสันและหน้าตาดูน่าลิ้มลอง

 

“บลู ฮาวาย” แก้วสีฟ้าใส มีส่วนผสมของน้ำมะนาว น้ำเชื่อม บลูคูราเซา และลิเคียวร์ ดีกรีเบาๆ ดื่มง่าย แก้วต่อมา “พิงก์ แพสชั่น” ดูจากชื่อและสีสันแล้วรู้สึกว่าจะเหมาะกับคุณสาวๆ มีส่วนผสมของน้ำสับปะรด น้ำเชื่อม และลิเคียวร์ อีกแก้วคือ “ฮูเตอร์ส มาการิต้า” แก้วสีเหลืองใส มีส่วนผสมของแมงโก้ไซรัป เตกีล่า ลิเคียวร์ น้ำมะนาว และน้ำส้มคั้น ดีกรีกลางๆ ดื่มได้ทั้งชายและหญิง

แหม ถ้าได้มานั่งชิลๆ พร้อมฟังวงไลฟ์แบนด์เล่นดนตรีสดไปด้วย น่าจะได้บรรยากาศยามค่ำคืนที่รู้สึกอินมากๆ ใครที่ชอบเพลงแนวดีเจเปิดแผ่นที่นี่ก็มีเช่นกัน ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ด้วยการแฮงเอาต์รับลมเย็นๆ ชมวิวทะเลอ่าวไทย พร้อมชิมอาหารและเครื่องดื่มชิลๆ ไปด้วย แนะนำที่นี่เลย

 

ฮูเตอร์ส สาขาพัทยา อยู่บนถนนเลียบชายหาดพัทยา-จอมเทียน (พัทยากลาง) ติดกับพัทยาซอย 13 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-01.00 น. โทร. 038-415-318

 

ดัสค์ บาร์ & บิสโทร ความสำราญเมื่อยามพลบค่ำ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

05 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 16:59 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/nightlife/414443

ดัสค์ บาร์ & บิสโทร ความสำราญเมื่อยามพลบค่ำ

โดย…ภัทรชัย ปรีชาพานิช

ดัสค์ บาร์ & บิสโทร (Dusk Bar & Bistro) รูฟท็อปบาร์น้องใหม่ ที่ตั้งอยู่บนชั้น 5 ของตึกในซอยทองหล่อ 13 ด้วยความหมายที่แปลได้ว่า พลบค่ำ บรรดา 4 หนุ่มหุ้นส่วนจึงมีความคิดเห็นตรงกันที่ว่าอยากให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่สังสรรค์ของหมู่มิตรในยามที่ตะวันลับฟ้า

เปิดต้อนรับด้วยความโล่งโปร่งสบาย พร้อมมีหลังคาสามารถเปิด-ปิดได้ยามเมื่อสายฝนมาเยือน ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ด้วยโทนสีขาว ดำ เทา ผสมกับแสงสลัวๆ จากเคาน์เตอร์บาร์หินอ่อนสีขาวสะอาดตา ที่สามารถมองเห็นลีลาบาร์เทนเดอร์บรรจงผสมค็อกเทลอย่างสนุกสนาน ขานรับเก้าอี้เหล็กสีดำขลับให้จังหวะสูงต่ำตามความปรารถนาที่จะเลือกนั่ง

 

ด้านอาหารของที่นี่สุดเซอร์ไพรส์ เพราะแหวกแนวอาหารของรูฟท็อปบาร์ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ที่ส่วนใหญ่จะเน้นอาหารสไตล์ยุโรป ทว่าที่นี่เสิร์ฟอาหารสตรีทฟู้ดแบบอาหารไทยโดยเฉพาะอาหารจัดจ้านจากอีสาน

ก่อนเครื่องดื่มจะทำหน้าที่ เราเรียกหาของรับประทานเล่นมารองท้อง เริ่มจากอาหารเบาๆ อย่างปากเป็ดทอด เมนูคุ้นเคยของคอเหล้า กรอบๆ กรุบๆ ชวนให้เรียกหาเมนูต่อไปอย่างเอ็นข้อไก่ทอด กรอบกรุบกำลังดี ทวีความอร่อยด้วยซอสสูตรเด็ดจากทางร้าน

 

ถ้าต้องการจัดหนักต้องนี่เลยครับ ข้าวผัดต้มยำกุ้ง ถึงเครื่องต้มยำทั้งรสชาติและกุ้งแม่น้ำที่เสิร์ฟมาคู่กัน

ถ้ายังไม่พอก็ลองสั่งหมูสามชั้นลวกจิ้มซีฟู้ด สามชั้นที่คุ้นเคยเสิร์ฟเคียงมากับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน ตอกย้ำให้ต้องเรียกหาเครื่องดื่มมาย้อมใจ

บาร์แห่งนี้เน้นดริงก์ลิสต์ทุกประเภท ทั้งเบียร์ บรั่นดี วิสกี้ รวมไปถึงค็อกเทลสีสวยแสนยวนเย้าที่ได้บาร์เทนเดอร์ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีและเคยผ่านงานจากร้านดังๆ มามากมายมาเสกสรร ซึ่งค็อกเทลของที่นี่จะเป็นสไตล์รีเฟรชชิ่งค็อกเทล ที่เพิ่มความสดชื่นจากรสชาติจากผัก ผลไม้สด และใช้น้ำเชื่อมโฮมเมดที่มีสีและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์

เริ่มต้นเรียกความสดชื่นแห่งค่ำคืนด้วย Dusk Rosita ที่มีแตงกวา ทับทิม น้ำเชื่อมอัญชัน และกลิ่นของดอกมะลิช่วยเพิ่มมิติให้กับค็อกเทลแก้วนี้

สำหรับสาวๆ ที่มองหาค็อกเทลดื่มง่ายต้องนี่เลย  Dusk Yoghurt ค็อกเทลสีชมพูพาสเทล ที่มีสตรอเบอร์รี่และเตกีลาโรเซ่ ให้เนื้อสัมผัสแบบครีมนวลๆ

คอกาแฟต้องลอง Cafe Saddle Brown เครื่องดื่มที่ต้องผสมด้วยตัวเองจากเหล้า 3 ชนิด และใช้แท่งซินนามอนคนผสมเครื่องดื่ม ดื่มคู่กับช็อกโกแลตเวเฟอร์ ให้รสชาติคล้ายการดื่มกาแฟยามเช้า

นอกจากอาหาร เครื่องดื่มแสนถูกใจยังเพิ่มความพิเศษสำหรับทุกค่ำคืนวันศุกร์-เสาร์ ด้วยการกล่อมเบาๆ จากนักร้องเสียงดีจากเวที เดอะวอยซ์ รวมถึงศิลปินมีชื่อ สลับสับเปลี่ยนมาช่วยเพิ่มสีสันยามค่ำคืน และในอนาคตอันใกล้ยังมีแผนที่จะร่วมงานกับร้านคราฟต์เบียร์ไทยชื่อดัง เพื่อวางจำหน่ายคราฟต์เบียร์ของไทยแท้ๆ ให้ได้ดื่มกันอีกด้วยนะครับ

 

ดัสค์ ชั้น 5 ซอยทองหล่อ 13 เปิดบริการทุกวัน (หยุดวันจันทร์) เวลา 18.00-24.00 น. เฉพาะวันศุกร์-เสาร์ เปิด 18.00-02.00 น. โทร. 09-6860-7690

 

นั่งชิลนั่งชิมที่นี่ ซิท-นี่ สระบุรี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

29 มกราคม 2559 เวลา 17:13 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/nightlife/413098

นั่งชิลนั่งชิมที่นี่ ซิท-นี่ สระบุรี

โดย…ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ศุกร์สิ้นเดือนนี้ ไปชิล ไปแฮงเอาต์กับเพื่อนๆ กันที่ไหนดีนะ ขอแนะนำร้านซิท-นี่ (Sit-นี่) ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ เมเจอร์ฯ สระบุรี ถนนสุดบรรทัด อ.เมือง จ.สระบุรี ที่ซึ่งหากคุณอยากหาประสบการณ์ดีๆ ในที่แปลกใหม่ ร้านแห่งนี้ถือเป็นตัวเลือกได้อย่างดีทีเดียว

เมื่อคุณเดินทางมายังถนนสุดบรรทัด (จากกรุงเทพฯ เข้าถนนมิตรภาพ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุดบรรทัด ทางไปห้างสุขอนันต์ปาร์ค) ตรงไปเพียงเล็กน้อย สังเกตขวามือ จะพบเจอร้านแห่งนี้ ที่มีป้ายร้านใหญ่ชัดเจน เทิร์นรถกลับ สามารถจอดรถได้ที่หน้าร้านและข้างๆ ร้าน

เมื่อตะวันตกดิน แสงไฟเหลืองอุ่นจากภายในร้านจะส่องแสงนวลตายั่วยวนใจให้เราอยากเข้าไปนั่งชิลในร้านแห่งนี้ แม้ขนาดของพื้นที่ร้านจะไม่ได้กว้างขวางนัก แต่การจัดวางร้านถือว่าลงตัว โดยตกแต่งสไตล์ลอฟต์ ผมชอบก้อนอิฐสไตล์ฝรั่งที่เจ้าของร้านเฟ้นหามาตกแต่งเป็นอย่างดี สามารถนั่งชิลทั้งภายในร้านและภายนอกร้าน (อากาศเย็นๆ แบบนี้ แนะนำให้นั่งภายนอกร้าน) โดยมีที่นั่งไว้บริการ 60-70 ที่นั่ง มีบริการไว-ไฟฟรี และลูกค้าสามารถนำเครื่องดื่มมาดื่มภายในร้านได้ โดยเสียค่าเปิดขวด 100 บาท เพราะทางร้านมีบริการทั้งเหล้า ไวน์ และเบียร์อยู่แล้ว

ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน อาทิตย์ อายุวะศรี และธนาวุฒิ อุ่นอารมณ์ ทั้งคู่บอกเล่าว่า ที่นี่เปิดบริการตั้งแต่เวลา 10.00 น. ไล่ยาวไปจนถึง 24.00 น. โดยครัวจะปิดบริการในเวลา 22.00 น.

“เรามีข้อแม้เพียงนิดเดียวว่า หากลูกค้าจะนั่งชิลนั่งดื่มไปจนถึงเที่ยงคืน รบกวนลูกค้าคุยกันเสียงเบานิดนึง จะได้ไม่รบกวนผู้ที่อยู่อาศัยในอพาร์ตเมนต์ที่ตั้งอยู่ชั้นบนของร้าน”

นอกจากนี้ ทุกวันพฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ยังมีวงดนตรีอะคูสติกที่เล่นภายนอกร้านในสองช่วงเวลาด้วยกัน นั่นคือ เวลา 19.00-20.00 น. และ 21.00-22.00 น. อีกด้วย

สำหรับเมนูอาหาร มาที่นี่ต้องห้ามพลาดเมนูเด็ด ต้มย้ำเนื้อตุ๋น ที่เราจะได้รับรสชาติทั้งความเป็นเนื้อตุ๋นและความเป็นต้มยำ ที่เชฟประจำร้านรังสรรค์ออกมาได้อย่างกลมกล่อมลงตัว เมนูต่อมา เนื้อปูผัดผงกะหรี่ โดยนำเนื้อปูสดใหม่จากตลาดสดจากพ่อค้าคนกลางที่ไว้ใจได้

อีกเมนูเด็ด ปลากะพงทอดน้ำปลา เมนูที่เราคุ้นชินดี แต่ก็ยากนักที่จะได้กินปลากะพงเนื้อแน่น (ที่นี่มีให้แน่นๆ) โดยรสชาติของน้ำปลาก็เค็มกำลังดีและน้ำจิ้มก็แซบได้ใจ ปิดท้ายด้วยเมนูส้มตำถาด ที่ลูกค้าสามารถเลือกชนิดของส้มตำได้ ที่แน่ๆ ถ้าอยากกินส้มตำอีสาน ที่น้ำปลาร้าสั่งจาก จ.อุบลราชธานี ต้องส้มตำของที่นี่ อีสานของจริงได้ใจ

หากใครสนใจอยากมานั่งชิลนั่งชิม ณ ร้านซิท-นี่ ก็แวะมาได้เลย หรือจะเข้าไปเซอร์เวย์ก่อนได้ที่ เฟซบุ๊กและไลน์ Sit-นี่ restaurant โทร. 09-2279-3336

 

ประตูสู่โลกเบียร์ แบล็คเบียร์ด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

22 มกราคม 2559 เวลา 17:47 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/nightlife/411809

ประตูสู่โลกเบียร์ แบล็คเบียร์ด

โดย…วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

หลังจากผู้พี่ “ไวท์เบียร์ด”แห่งซีดีซีติดลมบนไปแล้วก็ถึงเวลาของ “แบล็คเบียร์ด” ผู้น้อง ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อราว 5 เดือนที่แล้ว ภายใน “9:53 อาร์ต มอลล์” ย่านทองหล่อ-สุขุมวิท เพื่อเป็นสถานที่ชุมนุมสำหรับคนชอบ “คราฟต์เบียร์” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นในบ้านเราช่วง 2-3 ปีหลัง

ถึงจะตั้งอยู่กลางใจย่านหรู แต่ร้านนี้มีบรรยากาศสบายๆ แบบไม่ทำให้ใครเกร็งหรือนั่งตัวลีบ แบล็คเบียร์ดเป็นร้านขนาดกะทัดรัด ตกแต่งในโทนสีเข้มขรึม เท่ๆ โดยมีลวดลายเพนติ้งที่เขียนด้วยมือประดับประดาอยู่ทั่ว นอกจากพื้นที่ภายในร้านแล้วยังมีลานกลางแจ้งหน้าร้านพื้นที่ส่วนกลางของโครงการให้ลูกค้าได้เลือกนั่งด้วย

ในขณะที่ ไวท์เบียร์ด เป็นร้านเบียร์ที่มีเครื่องดื่มยอดนิยมจากทั่วโลกมานำเสนอ แบล็คเบียร์ด วางตัวเองในตำแหน่งที่แตกต่าง ด้วยการเป็นร้านซึ่งนำเสนอเบียร์หายาก ส่วนใหญ่ได้รับคะแนนสูงๆ ในเว็บไซต์น่าเชื่อถืออย่าง ratebeer.com หรือ beeradvocate.com นอกจากเครื่องดื่มนำเข้ายังมีผลิตภัณฑ์ไทยๆ เพื่อให้ได้เปิดประสบการณ์ทางรสชาติ

ในแต่ละสัปดาห์ แบล็คเบียร์ด จะมีเบียร์ใหม่ๆ หมุนเวียนมานำเสนอ จึงมั่นใจได้ว่ามาบ่อยแค่ไหนก็จะไม่ได้จำเจกับเครื่องดื่มเดิมๆ ซ้ำๆ ทั้ง 9 แท็บของสัปดาห์นี้จะมีอะไรบ้างก็เงยหน้าอ่านกันได้ที่บอร์ดหน้าเคาน์เตอร์ โดยแต่ละสัปดาห์จะมีเบียร์ต่างรสชาติ สีสัน ดีกรี และแหล่งที่มาให้เลือก ไม่ว่าจะเบียร์ประเภท อินเดีย เพล เอล (IPA) ไวเซน (Weisse) สเตาท์ (Stout) ฯลฯ ถ้ามีข้อสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับเบียร์เหล่านี้ จะดื่มตัวไหนก่อนหลังดี หรืออยากแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์เกี่ยวกับเบียร์ ก็พูดคุยกับพนักงานของร้าน รวมทั้งหุ้นส่วนซึ่งต่างเป็น “เบียร์เอ็กซ์เปิร์ต” ได้เลย

 

และ แบล็คเบียร์ด ก็จะไม่ปล่อยให้ท้องของคุณต้องว่างเปล่า ที่นี่มีฟิงเกอร์ฟู้ดแสนอร่อยให้เป็นกับแกล้มกรุบกริบอย่าง มันฝรั่ง ปีกไก่ ฯลฯ หรือจะจัดเบอร์เกอร์หมูหรือเนื้อชิ้นโตแสนอร่อยให้อิ่มท้องก็ได้ ใครชอบรสจัดจ้านก็มี แซลมอนแซ่บ ให้ได้ลิ้มลอง อาหารประเภทกริลล์ เช่น  ไส้กรอกรวม หรือสเต๊กก็มีให้ลอง ในอนาคตทางร้านจะเพิ่มเมนูอาหารจานเดียว อย่างเช่นพวกข้าวต่างๆ เพื่อให้เข้ากับรสนิยมคนไทย อาหารจานไหนเหมาะคู่กับเบียร์แบบไหน ทางร้านเขาสามารถแพร์ริ่งหรือจับคู่ให้ได้

เมื่อแวะเวียนไปที่ แบล็คเบียร์ด คุณอาจจะพบว่าโลกของเบียร์มันช่างกว้างใหญ่นัก แบล็คเบียร์ด ตั้งอยู่ชั้น 1 ของโครงการ 9:53 อาร์ต มอลล์ ตรงหัวมุมซอยทองหล่อ 9 ตัดกับซอยสุขุมวิท 53 เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ระหว่างเวลา 17.00-24.00 น. โทร. 09-1769-2640 หรือ facebook.com/BlackBeerdBKK

 

ฮารุ อิซากายะ & ซูชิ บาร์ หมุดหมายแห่งการดื่ม-กิน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

08 มกราคม 2559 เวลา 17:03 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/nightlife/409090

ฮารุ อิซากายะ & ซูชิ บาร์ หมุดหมายแห่งการดื่ม-กิน

โดย…ทวีชัย ธวัชปกรณ์

แม้ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ไม่นาน แต่ใจลึกๆ หลายคนคงนึกอยากให้เป็นบรรยากาศของปีใหม่ไปทุกวัน แล้วจะช้าอยู่ไย ถ้ากำลังมองหาหมุดหมายแห่งการดื่มกินใหม่ๆ ต้องมาที่นี่เลยครับ…

ฮารุ อิซากายะ & ซูชิ บาร์ (Haru Izakaya & Sushi Bar) บาร์อาหารญี่ปุ่นแห่งใหม่ใหม่ที่ติดกับโครงการ ชิค รีพับบลิค ในซอยโยธินพัฒนา 3 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม เลียบทางด่วนรามอินทรา ที่รวบรวมเรื่องราวเครื่องดื่ม-กิน เอาไว้อย่างครบรส

 

เจ้าของร้านคนเก่งได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น นอกจากอาหารและเครื่องดื่มที่จัดมาเต็มที่ในสไตล์อิซากายะ ยังได้แนวการตกแต่งมาจากการพับกระดาษของญี่ปุ่น หรือโอริกามิ จะสังเกตเห็นร้านสวยแปลกตา ถ้ามองจากภายนอกตัวร้านมีกิมมิกของการพับกระดาษเป็นรูปนกกระเรียน เพิ่มความเท่ไม่ซ้ำใคร

ส่วนภายในร้านให้บรรยากาศโปร่งสบายด้วยการล้อมรอบด้วยบานกระจกสูง มีกิมมิกแฝงอยู่ในทุกมุมมอง และที่โดดเด่นคือลวดลายสามเหลี่ยมเล็กๆ ตามจุดต่างๆ ที่ทางร้านใช้แทนกลีบดอกซากุระ ซึ่งเป็นของคู่กันกับชื่อร้านที่แปลว่าฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น

 

เฟอร์นิเจอร์เน้นใช้สีเรียบๆ ของลายไม้และสีครีมที่ความโมเดิร์นและบรรยากาศอบอุ่น ต่างจากร้านอิซากายะทั่วไป มีทั้งโซนในร้าน ห้องวีไอพี และเอาต์ดอร์ให้นั่งชิลกันอย่างเต็มที่

มาที่นี่ทั้งที่เปิดท้องให้ว่างเพราะเมนูอาหารและเครื่องดื่มนั้นจัดมาเต็มที่แบบอิซากายะ และที่พิเศษคือเพิ่มบาร์ซูชิ และซาซิมิ แบบสดๆ รวมกันแล้วกว่า 230 รายการ

 

เมนูกล่อมท้องเริ่มที่ สลัดยำปลาแซลมอน ที่ให้แซลมอนสดแล่กันเห็นๆ มาแบบไม่หวงในน้ำยำรสแซบ ถูกใจคอคนไทยเป็นแน่

หนักขึ้นอีกนิด หม้อไฟญี่ปุ่นหมู สุกี้ญี่ปุ่นในหม้อไฟร้อนๆ ครบเครื่องทั้งหมูคุโรบุตะ เส้นบุก ผัดนานาชนิด และยังมีคอลลาเจนให้ใส่ลงในน้ำซุปเพื่อสุขภาพจริงๆ

 

 

เพื่อไม่ให้เสียชื่ออิซากายะจัดสักหน่อยกับ ชุดเสียบไม้ย่างชุดใหญ่ ที่มีวัตถุดิบด้วยกัน 5 ชนิดย่างบนเตาถ่านแบบญี่ปุ่นจนหอม ทั้งเนื้อหมูคุโรบุตะสามชั้น เบคอนพันไข่นกกระทา เห็ดหอม ลิ้นวัว และไก่บดสึคุเนะ แนะนำให้จิ้มกับไข่ออนเซน ฟินอ่ะ

สำหรับคอดริงก์ลิสต์ยิ้มแก้มปริเป็นแน่ เพราะที่นี่รวบรวมมาทั้งสาเกร้อน สาเกเย็น รวมถึงเหล้าบ๊วย ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของสาเก วิสกี้ แล้วยังมีเบียร์ญี่ปุ่นอีกหลายยี่ห้อ

เชื่อเถอะว่าสถานที่แห่งนี้จะทำให้ปีใหม่ของบรรดาเราๆ สดใสไปตลอดทั้งปี อิอิ

ฮารุ อิซากายะ & ซูชิ บาร์ ซอยโยธินพัฒนา  เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.30-14.00 น. และ 17.00-23.00 น. โทร. 02-515-0058

 

เปิดประสบการณ์ในค่ำคืนปีใหม่ ที่ ซิง ซิง เธียเตอร์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

01 มกราคม 2559 เวลา 14:43 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/nightlife/407828

เปิดประสบการณ์ในค่ำคืนปีใหม่ ที่ ซิง ซิง เธียเตอร์

โดย…ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

Happy New Year 2016 ครับพ่อแม่พี่น้อง!!!

ว่าแต่คืนนี้จะไปแฮงเอาต์กับเพื่อนๆ กันที่ไหนดี เอาเป็นว่าไม่ต้องคิดให้วุ่นวายใจ ผมขอนำเสนอแหล่งแฮงเอาต์แห่งใหม่ ซิง ซิง เธียเตอร์ ณ ซอยสุขุมวิท 45 (เข้าซอยไปนิดหน่อย ร้านอยู่ขวามือติดกับร้านควินซ์)

 

บาร์สุดเก๋ไก๋ด้วยการจำลองรูปแบบโรงละครจีนขนาดย่อมมาไว้ที่นี่ อีกทั้งยังตกแต่งให้ภายในร้านมีความเป็นจีนไปอยู่ทุกส่วน (ออกแบบโดย แอชลีย์ ซัตตัน ดีไซเนอร์ชาวออสเตรเลีย ผู้เคยออกแบบร้านแมกกี้ ชูส์) ซึ่งขนาดของร้านกำลังดี ไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป

ภายในร้านแบ่งเป็นสองส่วน ซ้าย ขวา และมีชั้นล่างกับชั้นบน โดยตรงกลางจัดเป็นเวทีไว้สำหรับทำการแสดง ในส่วนของที่นั่ง ก็เหมือนร้านทั่วๆ ไป แต่ที่โดดเด่นคือจะมีมุมไปรเวตสำหรับคู่รักอยู่สองสามจุด สองข้างของเวทีมีมุมไปรเวตคล้ายกรงนก ที่ทำเหมือนห้องชมละครเวทีแบบส่วนตัว ส่วนด้านนอกร้านก็มีที่นั่งไว้ให้นั่งชิลๆ เมาท์มอยกับเพื่อนๆ

ในส่วนของบาร์เครื่องดื่มมีทั้งหมด 3 บาร์ ข้างล่างสอง ข้างบนหนึ่ง สำหรับเครื่องดื่มที่คุณต้องมัสต์ลิสต์ ต้องนี่เลย Dove Pan จินเขย่าเข้ากันกับเลมอน อัลมอนด์และน้ำเสาวรส ท็อปด้วยเม็ดเกาลัดบนแก้วจีน ต่อมาต้อง Cabinet Escape นี่ก็เป็นจินที่ค่อนข้างเข้มข้น แต่ดื่มแล้วสดชื่น แถมยังหอมกลิ่นเชอร์รี่นิดๆ ว่าแต่แก้วนี้เสิร์ฟพร้อมกรงนก ก็เก๋ไก๋ไปอีกแบบ

ต่อด้วย Bank in Lemon จินที่ท็อปด้วยเลมอนทีโฟม แล้วเพิ่มเสน่ห์ด้วยดอกลาเวนเดอร์ ซึ่งทุกครั้งที่ได้จิบ ก็จะได้กลิ่นของดอกลาเวนเดอร์ติดจมูก

 

มาที่นี่แล้วได้ซึมซับทั้งบรรยากาศตื่นตาตื่นใจของร้าน การแสดงบนเวที ผู้คนมากหน้าหลายตา (ส่วนใหญ่ต่างชาติและเหล่าดาราเซเลบริตี้) เครื่องดื่มน่าลิ้มลอง ราคาก็ราวๆ 300-400 บาท/แก้ว เอาเป็นว่าเมื่อพูดถึงภาพรวม ที่นี่เหมือนเป็นสถานที่ที่เมื่อเราเข้าไปเหมือนเราได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง ที่หาที่ไหนไม่ค่อยได้ในกรุงเทพมหานครแห่งนี้ และที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือดนตรีเขาเก๋มาก

 

ซิง ซิง เธียเตอร์ สุขุมวิท 45 โทร. 09-7285-6888 หรือเฟซบุ๊ก www.facebook.com/SingSingTheater

สุขสันต์ในค่ำคืนของปีใหม่กันทุกคนเลยนะครับ

 

แฮงเอาต์ “ทอยส์ สเตชั่น คาเฟ่” ร้านที่คนรักมาร์เวลไม่ควรพลาด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

25 ธันวาคม 2558 เวลา 16:35 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/nightlife/406835

แฮงเอาต์ "ทอยส์ สเตชั่น คาเฟ่" ร้านที่คนรักมาร์เวลไม่ควรพลาด

โดย…กิจจา อภิชนรจเรข

เหมือนว่ายังไม่สมบูรณ์พร้อมอย่างที่ตั้งใจ แต่ร้านแฮงเอาต์อย่าง ทอยส์ สเตชั่น คาเฟ่ (Toys Station Cafe) ที่เพิ่งเปิดมาได้สี่เดือน บนทำเลฮอตอย่างเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ก็ยังคงเป็นร้านที่แนะนำให้ได้รู้จัก โดยเฉพาะสำหรับคนที่คลั่งไคล้เหล่าซูเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวลนั้น จะได้ชื่นชมกันทั่วบริเวณ

เริ่มแนวคิดการทำร้านแห่งนี้ มาจากหนึ่งในหุ้นส่วนที่เป็นเจ้าของร้านขายโมเดลลิขสิทธิ์แท้ค่ายมาร์เวล จึงทำให้ร้านแห่งนี้เริ่มต้นด้วยการเอาเรื่องราวของโลกในจินตนาการมาใส่ไว้เป็นเสมือนคอนเซ็ปต์ร้าน ซึ่งจะเห็นได้จากเจ้ายักษ์เขียวสุดโหดอย่าง ฮัลก์ ยืนตัวโตต้อนรับแขกอยู่หน้าร้านเมื่อแรกเจอ ถือเป็นความตั้งใจของทางร้านว่าเป็นลูกเล่นให้ลูกค้าได้เข้ามายืนถ่ายรูปกับตัวซูเปอร์ฮีโร่ต่างๆ ที่จัดวางไว้ทั่วบริเวณ ซึ่งในเวลานี้เหล่าฮีโร่กำลังทยอยมาร่วมกันอยู่ในทอยส์ สเตชั่น คาเฟ่

เนื้อที่ของร้านกว้างใหญ่ สามารถรองรับการจัดเลี้ยงได้หลายร้อยคน โดยบริเวณร้านแบ่งออกให้ดูโปร่งโล่งสบายตาและนั่งกันแบบสบายๆ ส่วนใหญ่จะเน้นเป็นโซนเอาต์ดอร์ นั่งชิลๆ มีทีเด็ดตรงสระน้ำกลางร้าน จุดนี้มีบาร์ยาวให้แขกที่นิยมมานั่งดื่มคนเดียว

ส่วนของโซนอินดอร์แอร์เย็นๆ จะเป็นโครงเหล็กสูงกรุกระจกใส แบ่งให้เป็น 2 ชั้น เพื่อรองรับแขกที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว ซึ่งในบริเวณนี้จะถูกจัดเป็นช็อปเล็กๆ โชว์โมเดลของมาร์เวล แต่ที่เด่นๆ คงหนีไม่พ้นเหล่าไอรอนแมนในชุดเท่ๆ หากใครชอบตัวไหนก็ซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย คือเหมือนกับเราได้มานั่งดื่มกินในร้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของตัวการ์ตูน แนะนำเลยว่าร้านแห่งนี้สามารถพาเด็กๆ มาวิ่งเล่นกันได้สนุก เพราะมีของเล่นอยู่รอบบริเวณร้านอีกต่างหาก

 

เรื่องของอาหารเน้นเมนูแบบไทยฟิวชั่น เมนูที่ไม่คาดฝันว่ามันจะปัง อย่างเมนู พิซซ่า ซึ่งขายดิบขายดี เสิร์ฟในแบบแป้งบางกรอบ แน่นด้วยเครื่อง แนะนำให้ลองสั่งเมนูพิซซ่าสเตชั่นต้มยำมหาสมุทร ที่ผสมผสานระหว่างความแซบของไทยและแป้งบางกรอบของอิตาลีได้อย่างถูกลิ้น จะกินเล่นๆ ก็อิ่มท้อง จะกินคู่เครื่องดื่มก็ลงตัว นอกจากนี้ยังมีเมนูพิซซ่าให้เลือกกันอย่างจริงจังนับสิบเมนู

ต่อมากับเมนูทดลองของทางร้านอย่าง ปลากะพงทอดน้ำปลา ที่กรอบนอกนุ่มใน แถมราคาคุ้มมากมาย และปิดท้ายด้วยเมนูเก๋ที่ทางร้านคิดขึ้นเองอย่าง ไข่ตุ๋นต้มยำกุ้งแม่น้ำ อันนี้เหนือชั้นแถมความอร่อยยังลงตัวกับสัมผัสแปลกๆ ดีงามจนต้องชื่นชม

 

ทางด้านเครื่องดื่มที่นี่มีทุกอย่าง โดยเฉพาะดราฟต์เบียร์ ม็อดเทล และค็อกเทลกว่า 40 ชนิด คนชอบค็อกเทลอย่าพลาดเมนูซิกเนเจอร์ The Hulk มาในสีเขียวจัด รสจะออกหวานติดลิ้น กินง่ายๆ ส่วนใครที่ชอบค็อกเทลคลาสสิกทางร้านขอแนะนำตัวสุดคลาสสิกจากประเทศเม็กซิโกอย่าง Margarita

ร้านโปร่งโล่งมองเห็นบรรยากาศโดยรอบได้กว้างมาก คืนไหนดาวสวยบรรยากาศจะดีสุดๆ ทั้งมีดนตรีสดมาเล่นเพลงหวานๆ ให้ฟังตลอดคืน

 

ทอยส์ สเตชั่น คาเฟ่ อยู่บริเวณเลียบทางด่วนรามอินทราขาเข้า ก่อนถึงแยกตัดถนนเกษตร-นวมินทร์ ขับผ่านตลาดนัดเลียบด่วนร้านอยู่ถัดจากปั้มคาลเท็กซ์ สังเกตทางเข้าจะเห็นเป็นโมเดลฮัลก์ตัวใหญ่ ให้เลี้ยวเข้าไปจอดบริเวณหลังร้านได้เลย ที่จอดรถกว้างใหญ่ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 17.00-02.00 น. โทร.09-5751-3111 หรือ 02-944-4644

 

เลต เดอะ บอย ดาย เสิร์ฟประสบการณ์ใหม่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

19 ธันวาคม 2558 เวลา 16:51 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/nightlife/405734

เลต เดอะ บอย ดาย เสิร์ฟประสบการณ์ใหม่

โดย…กิจจา อภิชนรจเรข

ศูนย์รวมเบียร์คราฟท์ไทย ร้านเลต เดอะ บอย ดาย (Let the Boy Die) เปิดให้บริการเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเพราะกระแสของเบียร์คราฟท์ที่ยังคงมาแรง

จากร้านอาหารของคุณแม่ของหุ้นส่วน อาคารเก่าแห่งนี้นำมารีโนเวตใหม่ให้มีกลิ่นอายคลาสสิกผสมผสานโมเดิร์น ให้อารมณ์ดิบๆ ขลังๆ เท่ๆ สมกับที่มีสถาปนิกเป็นหนึ่งในทีมงานของร้าน

 

ด้วยโต๊ะยาวๆ ของร้านนี้ทำให้ลูกค้าซึ่งอาจจะต่างคนต่างมาต้องมานั่งรวมกัน นี่จึงทำให้ เลต เดอะ บอย ดาย จึงไม่ต่างกับเป็นสถานที่แห่งการสร้างมิตรภาพใหม่และเป็นพื้นที่สำหรับแบ่งปัน

ในแต่ละวันชื่อของเบียร์ 6 ชนิด จะเขียนชื่อขึ้นป้ายที่ผนังร้านเพื่อให้ลูกค้าได้ดูและเลือกสั่ง ไม่ว่าจะสเตาต์เบียร์หรือเบียร์สีดำเข้ม หรือจะเป็นเอลเบียร์มีสีดำอ่อน เพลเบียร์ ไวเซ่นเบียร์ ฯลฯ โดยร้านสุด “อินดี้” แห่งนี้ลูกค้าต้องดูแลตัวเองตั้งแต่การเข้าแถวสั่งเครื่องดื่มและอาหาร วันไหนคนเยอะ แถวก็จะยาวเป็นพิเศษ แต่ดูเหมือนว่าลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวผู้ใฝ่ในประการณ์ใหม่ๆ จึงไม่เคยท้อถอยในการเข้าแถวรอ ส่วนน้ำเปล่านั้น ทางร้านมีบริการฟรี

ร้านนี้เขามีเมนูอาหารไม่มากมาย และอาจจะไม่ใช่เมนูแปลกใหม่ แต่รับรองว่าอร่อย ทุกเมนูเป็นอาหารรับประทานง่ายๆ และไปกันได้ดีกับเบียร์ ทั้งหมดเป็นสูตรโฮมเมดที่คุ้นเคยรู้จักกันดี และเน้นใช้วัตถุดิบชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์ที่ใช้หมูระดับพรีเมียมนุ่มอร่อย หรือจะบาร์บีคิวชิคเกนวิง ปีกไก่ราดซอสรสหวานติดเผ็ดมาเล็กน้อยกินเพลิน อีกหนึ่งเมนูฮอตฮิตคือ ฟิชแอนด์ชิปที่แชร์กับเพื่อนๆ ข้างๆ ได้หนุบหนับๆ หรือจะสั่งไส้กรอกรวมที่มาพร้อมกับมันบด เป็นต้น

ในค่ำคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ ดนตรีแจ๊ซจะกลายเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของร้านที่เชิญชวนให้คนเดินเข้ามาค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มีเสิร์ฟทุกวันที่นี่

 

เลต เดอะ บอย ดาย ตั้งอยู่บนถนนหลวง ระหว่างแยกพลับพลาไชยกับแยกโรงพยาบาลกลาง ตรงข้ามกับร้านคั่วไก่แอน เปิดทุกวันเวลา 17.30-24.00 น. ไปไม่ถูกโทร.08-2675-9673 และ 08-0599-6177 ติดตามกิจกรรมของร้านได้ทาง facebook.com/Let-the-Boy-Die

 

พีเพิล ออน พอส คาเฟ่ ร้านเท่ๆ ของฮิปสเตอร์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

11 ธันวาคม 2558 เวลา 16:34 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/nightlife/404511

พีเพิล ออน พอส คาเฟ่ ร้านเท่ๆ ของฮิปสเตอร์

โดย…อีตติง อาร์ต ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

ถ้าใครมีโอกาสผ่านไปผ่านมาบนถนนลาดพร้าว-วังหิน เชื่อว่าจะต้องสะดุดตากับร้านสไตล์เท่ๆ ที่ตั้งอยู่ปากซอยลาดพร้าว-วังหิน ซอย 8 เรากำลังพูดถึงร้าน “พีเพิล ออน พอส คาเฟ่” ซึ่งมีคอนเซ็ปต์เป็นทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร และที่แฮงเอาต์ในร้านเดียวกัน

เป้ หนึ่งในหุ้นส่วนผู้รับหน้าที่ดูแลบริหารร้าน บอกว่า พีเพิล ออน พอส คาเฟ่ เปิดมาได้ 3 เดือนแล้ว จุดเริ่มต้นของร้านมาจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนๆ ที่มีทั้งนักดนตรี นักร้อง และครีเอทีฟ ส่วนใหญ่ก่อนหน้านั้นพวกเขามักจะนัดรวมตัวกันตามสถานที่อื่นๆ เพื่อพูดคุยสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และนั่งฟังเพลงกันเสมอ จนวันหนึ่งก็เกิดไอเดียร่วมหุ้นกันรีโนเวตตึกแถวบริเวณนั้นแล้วเปิดเป็นร้านนี้ขึ้นมา

 

 

คอนเซ็ปต์ในการตกแต่งร้านเป็นสไตล์อินดัสเทรียลใช้วัสดุประเภท ไม้ เหล็ก และปูนเป็นองค์ประกอบหลัก โทนสีที่ใช้ก็เน้นสีเอิร์ธโทน น้ำตาล ดำ เทา จึงได้บรรยากาศเก๋ๆ และอารมณ์เท่ๆ ถูกใจลูกค้ารุ่นใหม่หรือบรรดาฮิปสเตอร์มิใช่น้อย นอกจากนี้ก็ยังมีลูกค้ากลุ่มหนุ่มสาวออฟฟิศและลูกค้าที่มากันเป็นครอบครัวด้วย

เป้ เสริมว่า ในอนาคตทางร้านอาจจะจัด อาร์ต แกลเลอรี่ ให้ศิลปินมาโชว์ผลงานตามมุมต่างๆ ภายในร้านด้วย ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องเปลี่ยนดิสเพลย์หรือการตกแต่งร้านบ่อยๆ เพราะจะมีชิ้นงานศิลปะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาโชว์เรื่อยๆ โดยอาจจะนำภาพถ่ายของ “ทอมท่อม” มือกีตาร์วงมายด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของร้านมาโชว์ด้วย ผลงานเหล่านี้หากลูกค้าท่านไหนสนใจก็สามารถซื้อไปไว้ที่บ้านได้เลย

 

มาดูเมนูอาหารบ้าง ที่นี่จะเน้นอาหารสไตล์ฟิวชั่นที่รสชาติจัดจ้าน ซึ่งถูกปรับให้เข้ากับลิ้นคนไทยแล้ว หรือพูดรวมๆ ว่าเป็นเมนูอินเตอร์สไตล์ฟิวชั่นก็ว่าได้ เมนูเด็ดของร้านมีทั้งสเต๊กเนื้อ สเต๊กหมู สปาเกตตีซอสเนื้อ-ซอสหมู สลัดมันฝรั่งไข่กุ้ง เบอร์เกอร์สตูซี่โครงหมู เบอร์เกอร์เนื้อ เบอร์เกอร์หมู และไส้กรอกต่างๆ กุ้งทอดซอสครีมวาซาบิ ปีกไก่ทอดซอสบาร์บีคิว เนื้อย่างจิ้มแจ่ว และอีกมากมาย แหม! แค่เห็นลิสต์เมนูก็เริ่มหิวขึ้นมาแล้วล่ะ

ทางร้านจึงจัดเมนูพิเศษมาให้ชิมซะเลย เริ่มที่ “เบอร์เกอร์เนื้องาดำ” ตัวเบอร์เกอร์ทำจากแป้งโฮลวีตที่มีส่วนผสมของงาดำ บวกกับเนื้อย่างสุกกำลังพอดี ผักสด และซอสครีมชุ่มฉ่ำ อร่อยเข้ากั๊น เข้ากัน…ต่อด้วย “ซี่โครงหมูหมักน้ำผึ้งซอสบาร์บีคิว” เมนูนี้เนื้อซี่โครงหมูนุ่ม มาพร้อมรสชาติอร่อยเข้มข้นด้วยซอสสูตรพิเศษ

 

ต้องบอกว่า เมนูที่นี่จานใหญ่มาก อย่าเพิ่งเอะอะสั่ง ต้องลองสักสองสามเมนูก่อนว่าจะกินไหวมั้ย ราคาอาหารอยู่ระหว่าง 100-480 บาท

มีอาหารแล้วก็ต้องมีเครื่องดื่ม วันนี้ขอเริ่มจากเครื่องดื่มเบาๆ อย่างอิตาเลียนโซดาสีแดงและสีเขียว รสชาติหวานอ่อนๆ เหมาะกับเมนูอาหารของที่นี่ กินเสร็จตามด้วยกาแฟลาเต้ร้อนสักแก้ว พ่วงด้วยเค้กสักชิ้นก็เป็นอันครบมื้อ ใครชอบกาแฟชนิดอื่นๆ ทั้งร้อน-เย็นก็สามารถสั่งได้เลย ที่ร้านมีให้เลือกทุกชนิด รวมถึงเครื่องดื่มผสมโซดาประเภทอื่นๆ เช่น เลมอนโซดา ลิ้นจี่โซดา ก็เลือกได้เช่นกัน ราคาเครื่องดื่ม 80-100 บาท

 

สำหรับคนที่เป็นคอเบียร์ไม่ต้องน้อยใจ เพราะที่นี่มีเบียร์ทุกชนิดทุกยี่ห้อจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งเบียร์สดและดราฟต์เบียร์ให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ทุกค่ำคืนของวันศุกร์-เสาร์ ที่นี่ยังมีวงดนตรีอะคูสติกไลฟ์แบนด์เล่นให้ฟังตั้งแต่เวลา 20.00-21.00 น.อีกด้วย

“พีเพิล ออน พอส คาเฟ่” อยู่ที่ปากซอยลาดพร้าว-วังหินซอย 8 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น.โทร.02-019-1303 Facebook และ IG : People On Pause Cafe