ชวนพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น @ คาซัคสถาน

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/564309

ชวนพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น @ คาซัคสถาน

ชวนพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น @ คาซัคสถาน

28 พ.ย. 2566

เคทีซี ร่วมกับ สายการบินแอร์ อัสตานา จัดกิจกรรมเวิร์คช้อปวาดภาพ พร้อมเปิดโปรแกรมเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรม @ คาซัคสถาน

เคทีซี ร่วมกับ สายการบินแอร์อัสตานา จัดเวิร์คช้อป Kazakhstan, at your first sight. . . “VERY NICE!” กิจกรรมวาดภาพสะท้อนความงดงามผ่านสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของสาธารณรัฐ คาซัคสถาน พร้อมรังสรรค์โปรแกรม “Explore Kazakhstan” ตอบโจทย์เทรนด์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรม มอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกและคุ้มค่า ผ่านบริการจาก KTC World Travel Service เพื่อให้สมาชิกบัตรฯ ได้เข้าถึงธรรมชาติที่แตกต่าง รวมถึงเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นกับโปรแกรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

อุรฉัท ปัญญาวุธอุรฉัท ปัญญาวุธ

อุรฉัท ปัญญาวุธ ผู้จัดการ สายการบินแอร์ อัสตานาประจำประเทศไทยและกัมพูชา กล่าวว่า สายการบินแอร์อัสตานา เป็นสายการบินแห่งชาติสาธารณรัฐ คาซัคสถาน ปัจจุบันให้บริการทั้งเส้นทางในประเทศและเส้นทางระหว่างประเทศมากกว่า 60 เส้นทาง และเป็นสายการบินเดียวที่บินตรงจากประเทศไทยสู่สาธารณรัฐคาซัคสถาน ด้วยระยะเวลาบินเพียงแค่ 6 – 7 ชั่วโมง ปัจจุบันมีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ และภูเก็ตไปยังเมืองอัลมาตี้เป็น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ชวนพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น @ คาซัคสถาน
ชวนพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น @ คาซัคสถาน
ชวนพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น @ คาซัคสถาน

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวของสาธารณรัฐคาซัคสถาน โดดเด่นด้วยวิวธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์และสวยงาม รวมถึงสถาปัตยกรรมที่หลากหลายที่ยังรอคอยการมาเยือนของนักท่องเที่ยว อาทิ ทะเลสาบบิ๊กอัลมาตี้ ทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองอัลมาตี้,  ชารีน แคนยอน แกรนด์แคนยอนขนาดใหญ่ รวมถึง หอคอยเบย์เทเรค อาคารทรงกระบอกที่มียอดเป็นวัตถุทรงกลมสีทอง ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ของประเทศ นับเป็นส่วนผสมลงตัวที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับ นักท่องเที่ยว ที่กำลังมองหาจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ที่มีความพร้อมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ และความทันสมัยของตัวเมือง

พัทธ์ธีรา อนันต์โชติพัชรพัทธ์ธีรา อนันต์โชติพัชร

ด้าน พัทธ์ธีรา อนันต์โชติพัชร ผู้บริหารสูงสุด KTC World Travel Service และการตลาดท่องเที่ยวหมวดสายการบิน กล่าวว่า สำหรับในปีนี้ ยอดการใช้จ่ายของสมาชิกบัตรเครดิต เคทีซี ที่ใช้บริการผ่านศูนย์บริการการเดินทางและท่องเที่ยวมีทิศทางที่ดีขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวได้มีการปรับเปลี่ยนสอดรับกับเทรนด์ของ นักท่องเที่ยว ที่นิยมวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่พักผ่อนที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น มองหาประสบการณ์ในเส้นทางที่แปลกใหม่ รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รวมถึงกระแสการท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรม ที่ผสมผสานในหลากมิติ ทั้งด้านอาหาร ขนบธรรมเนียมท้องถิ่น และภาษา เป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเริ่มมองหาและปักหมุดการเดินทาง

ชวนพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น @ คาซัคสถาน
ชวนพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น @ คาซัคสถาน
ชวนพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น @ คาซัคสถาน

“KTC World Travel Service จึงได้ร่วมมือกับ สายการบินแอร์อัสตานา จัดกิจกรรมเวิร์คช้อปวาดภาพ Kazakhstan, at your first sight. . . “VERY NICE!” ให้ทุกคนได้ร่วมสะท้อนความงดงามผ่านการวาดภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ และรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวเส้นทางใหม่กับโปรแกรม “Explore Kazakhstan” เพื่อให้สมาชิกได้เปิดประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวที่ไม่ซ้ำใคร เข้าถึงธรรมชาติที่แตกต่าง รวมถึงเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น ด้วยการเดินทางที่สะดวกและคุ้มค่าผ่านโปรแกรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC World Travel Service โทรศัพท์ 0 2123 5050 หรือที่เว็บไซต์ www.ktc.co.th/ktcworld”

เที่ยวงาน ลอยกระทง 2566 Bangkok River Festival 2023 ผ่าน 10 ท่าน้ำประวัติศาสตร์

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/563551

เที่ยวงาน ลอยกระทง 2566 Bangkok River Festival 2023 ผ่าน 10 ท่าน้ำประวัติศาสตร์

เที่ยวงาน ลอยกระทง 2566 Bangkok River Festival 2023 ผ่าน 10 ท่าน้ำประวัติศาสตร์

27 พ.ย. 2566

วธ.ร่วมมือ ไทยเบฟฯ หน่วยงานรัฐ-เอกชน จัดงาน ‘ลอยกระทง 2566’ Bangkok River Festival 2023 ครั้งที่ 9 ชูแนวคิด “ลำนำ วันเพ็ญ” สืบสานวัฒนธรรมอันดีงาม เสนอ ประเพณีลอยกระทง เป็นมรดกวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโกภายในเดือน มี.ค.2567

เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวงาน “Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ 9”  ภายใต้แนวคิด “ลำนำ วันเพ็ญ” และ “Lumphun River Festival” ครั้งที่ 5 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 –  27 พ.ย. 2566 นี้ ณ พื้นที่ถนนรถแก้ว จ.ลำพูน โดยปีนี้ยังคงเน้นยกระดับการจัดงานให้มีความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมสังคม และการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน (ESG) เป็นการสร้างประโยชน์เพื่อชุมชน โดยการจัดการของชุมชน ด้วยกลยุทธ์ บ.ว.ร.ยกกำลังสอง อันประกอบด้วย บ้าน วัด โรงเรียน พร้อมการดูแลรักษ์โลก กับการขอขมาแม่น้ำคงคา ด้วยการรณรงค์ไม่เพิ่มขยะในแม่น้ำลำคลอง ผ่านกิจกรรม ลอยกระทง 2566 และการลอยประทีปในบ่อลอยกระทงรักษ์โลก

เสริมศักดิ์ พงษ์พานิชเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช

การจัดงาน ลอยกระทง 2566 ครั้งนี้เป็นนำเสนอเทศกาลประเพณีอันดีงาม และบอกเล่าวัฒนธรรมไทยไปทั่วโลก สะท้อนวิถีชุมชนริมสายน้ำที่เป็นบ่อเกิดแห่งวัฒนธรรมอันหลากหลาย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย นอกจากนี้ ถือเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่มุ่งผลักดันการใช้ “Soft Power” ความเป็นไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทำให้เกิดรายได้มาสู่ประชาชนและประเทศ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนมองเห็นร่วมกันว่า ประเพณีลอยกระทง เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทยเรามายาวนานมาก สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนไทยที่มีความผูกพันกับสายน้ำอย่างใกล้ชิดตั้งแต่การตั้งถิ่นที่อยู่ริมแม่น้ำ การใช้น้ำในการทำเกษตร อุปโภคบริโภคประจำวัน ใช้เป็นเส้นทางสัญจร อีกทั้งยังเป็นประเพณีที่บ่งบอกวิถีชีวิตคนไทยอีกด้วย เพราะฉะนั้น ประเทศไทยโดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จึงได้เตรียมเสนอประเพณีลอยกระทงให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ซึ่งจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ก็จะเสนอไปยังยูเนสโกภายในวันที่ 31 มี.ค. 2567

เที่ยวงาน ลอยกระทง 2566 Bangkok River Festival 2023 ผ่าน 10 ท่าน้ำประวัติศาสตร์

สำหรับงาน “Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” ในครั้งนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 27 พ.ย. 2566 ภายใต้แนวคิด “ลำนำ วันเพ็ญ” สัมผัสบรรยากาศอันน่าประทับใจตลอดโค้งน้ำเจ้าพระยาจากทั้ง 10 ท่าน้ำ ที่เชื่อมโยงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน พร้อมขยายพื้นที่สู่บริเวณพื้นที่ถนนรถแก้ว จังหวัดลำพูนที่นักท่องเที่ยวจะได้ไหว้พระ ทำบุญ ร่วมกิจกรรม ลอยกระทง 2566 ชมการแสดงทางวัฒนธรรมและดนตรีหลากหลายรูปแบบในบรรยากาศที่งดงามของสายน้ำยามค่ำคืน 

เที่ยวงาน ลอยกระทง 2566 Bangkok River Festival 2023 ผ่าน 10 ท่าน้ำประวัติศาสตร์

10 ท่าน้ำสำคัญทางประวัติศาสตร์ในกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย

  1. ท่าน้ำวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
  2. ท่าน้ำวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร /
  3. ท่าน้ำวัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร
  4. ท่าน้ำวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร
  5. ท่าน้ำวัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร
  6. ท่ามหาราช
  7. ท่ายอดพิมาน
  8. เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์
  9. สุขสยาม ณ ไอคอนสยาม
  10. ล้ง 1919

นอกจากนี้ยังมีการจัดงาน Lamphun River Festival ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 และยังคงจัดเต็มกิจกรรมทำบุญไหว้พระ รับมงคล เชิญชวนร่วม ลอยกระทง 2566 ร้านค้าชุมชน และยังคงสานต่อกิจกรรมดีงามด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ กิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชนซึ่งจะมีเส้นทางนำเที่ยว กับภารกิจ Walk&Bike เพลิดเพลิดกับการถ่ายรูปเช็คอินทุกท่าน้ำลุ้นรับของรางวัล และกิจกรรม RPST x River Festival 2023 ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวโดยชุมชนกับเครือข่ายรักการถ่ายภาพ ด้วยกิจกรรม Photo Walk ร่วมเดินถ่ายภาพประเพณีอันดีงาม ความสนุกสนานรื่นเริงจากมหรสพการแสดงต่างๆ ในงานประพณีลอยกระทง

เที่ยวงาน ลอยกระทง 2566 Bangkok River Festival 2023 ผ่าน 10 ท่าน้ำประวัติศาสตร์

“Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” เป็นงานเดียวที่นักท่องเที่ยวจะได้สักการะไหว้พระ ทั้ง 5 วัด ในยามค่ำคืน และชมความงดงามของสายน้ำเจ้าพระยาจากทั้ง 10 ท่าน้ำ รวมถึงร่วมชมอัตลักษณ์ที่งดงามจากสถาปัตยกรรมที่ผสานเรื่องเล่าประจำชุมชนริมน้ำ สุขไปกับกิจกรรมสรรค์สุข สนุกไปกับแสงสี และอิ่มเอมไปกับมรดกศิลป์ทรงคุณค่า เชื่อมโยงวิถีแห่งวัฒนธรรมอันดีงาม พบกับกิจกรรมมากมาย อาทิ พิธีขอขมาพระแม่คงคา/ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ / ลอยกระทง ประทีปเทียนหอม ใน “บ่อลอยกระทงรักษ์โลก” / สวดมนต์เจริญสมาธิ / ซุ้มอาหารชุมชนชวนชิม และตลาดนัดชุมชนรวมของดีของเด่น ประจำท้องถิ่นมารวมไว้ในงานให้ได้ ช้อป ชม ชิม เป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน สร้างโอกาสในการกระจายรายได้สู่ชุมชน พร้อมชื่นชมไฮไลท์การแสดงแต่ละท่าน้ำ เช่น การแสดงดนตรีไทยร่วมสมัย การแสดงโขนกลางแปลง การแสดงลิเกศิลปะไทย เป็นต้น โดยมีบริการเรือด่วนรับส่งฟรีใน 10 ท่าน้ำ วันที่ 25 – 26 พ.ย. 2566 เวลา 16.00 – 22.00 น. วันที่ 27 พ.ย. 2566 เวลา 16.00 – 24.00 น.

ชวนเที่ยวงาน ‘ลอยกระทง 2566’ ปักหมุด 5 พิกัด พื้นที่อัตลักษณ์ สีสันแห่งสายน้ำ

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/563489

ชวนเที่ยวงาน 'ลอยกระทง 2566' ปักหมุด 5 พิกัด พื้นที่อัตลักษณ์ สีสันแห่งสายน้ำ

ชวนเที่ยวงาน ‘ลอยกระทง 2566’ ปักหมุด 5 พิกัด พื้นที่อัตลักษณ์ สีสันแห่งสายน้ำ

27 พ.ย. 2566

ททท. เตรียมจัดงาน ‘ลอยกระทง 2566’ เทศกาล สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2566 ชวนสัมผัสคุณค่าแห่งวิถีไทยทั่วประเทศ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมจัดงาน ลอยกระทง 2566 เทศกาล “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรม ลอยกระทง ปี 2566” ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ในคอนเซ็ปต์ “Moonlight Reflection Loi Krathong Along The Canal” ระหว่างวันที่ 24-28 พ.ย. 2566 ณ คลองผดุงกรุงเกษม ย่านหัวลำโพง เนรมิตบรรยากาศแห่งความสุข สะท้อนความงดงามของวัฒนธรรมไทยด้วยการนำเสนอสายธารประทีป 5 พื้นที่อัตลักษณ์ ได้แก่ เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด ซึ่งแต่ละพื้นที่มีรายละเอียดแตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้

1. ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2566 

กำหนดการ  :  วันที่ 26-28 พ.ย. 2566

สถานที่จัดงาน  :  บริเวณเมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

กิจกรรมภายในงาน  :  เนรมิตบรรยากาศเมืองเชียงใหม่ต้อนรับประเพณีลอยกระทงตามความเชื่อล้านนา วันที่ 26 พ.ย. 2566 พบกับพิธีขอขมาแม่น้ำปิง กิจกรรมประกวดโคมยี่เป็งล้านนา และพิธีเปิดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ 2566 เวลา 18.00 น. ณ ข่วงประตูท่าแพ ภายใต้แนวคิด “เชียงใหม่นครแห่งความสุข และความสง่างาม ค่ำคืนแห่งสายนที วิถีวัฒนธรรมล้านนา”, วันที่ 26-28 พ.ย. 2566 พบกับ การประกวดเทพี-เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่ พิธีปล่อยกระทงสายล้านนา กิจกรรมความสุขแห่งสายน้ำ ยี่เป็งเชียงใหม่ และการแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ เวลา 20.30 น. ณ ท่าน้ำศรีโขง ต่อมาในวันที่ 27 พ.ย. ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป พบกับการประกวดขบวนแห่สะเปาล้านนา การประกวดหนูน้อยยี่เป็งเชียงใหม่ และวันที่ 28 พ.ย. 2566 พบกับการประดวกชบวนแห่กระทงใหญ่ชิงถ้วยพระราชทานฯ เวลา 19.00 น. ณ ท่าแพ สำนักงานเทศบาล

2. ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จ.สุโขทัย

กำหนดการ  :  วันที่ 18-27 พ.ย. 2566

สถานที่จัดงาน  :  อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

กิจกรรมภายในงาน  :  ตื่นตาตื่นใจกับไฮไลต์การแสดงแสง เสียง ณ วัดมหาธาตุ เมืองมรดกโลกสุโขทัย ย้อนอดีตสู่ความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัย ผ่านการถ่ายทอดจากนักแสดงนาฏศิลป์กว่า 400 ชีวิต ชมขบวนช้างยุทธหัตถี การละเล่น พลุตะไล ไฟพะเนียง ไฟไทยแบบโบราณ สุดตระการตา วันที่ 18-27 พ.ย. 2566 เวลา 19.00 น. และเพิ่มรอบในวันที่ 27 พ.ย. 2566 เวลา 20.30 น. การแสดงการจุดพลุ ตะไล ไฟ พะเนียง ดอกไม้ไฟ แบบสุโขทัย ทุกวัน เวลา 22.30 น. การจำลองวิถีชีวิตสมัยกรุงสุโขทัย ตลาดโบราณ ตลาดแลกเบี้ย ตลาดบ้านบ้าน ทุกวัน เวลา 16.00 -22.00 น., การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ณ บริเวณหลังวัดชนะสงคราม ทุกวัน เวลา 21.00 น., การแสดงแสง เสียง ชุดตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ บริเวณตระพังตระกวน ทุกวัน เวลา 22.00 น., การประกวดกระทงเล็ก กระทงใหญ่ โคมชัก โคมแขวน จัดแสดง ณ ลานหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหง และตระพังตาล ทุกวัน เวลา 16.00-23.00 น., กิจกรรมสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทงสุโขทัย (โซน ททท.) การแสดงและสาธิตผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึก สุโขทัย กิจกรรม DIY การแสดงวัฒนธรรม และจุดถ่ายภาพ Landmark ณ บริเวณหน้าวัดชนะสงคราม ทุกวัน เวลา 16.00-22.00 น. และในวันที่ 27 พ.ย. 2566 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป พบกับขบวนแห่ทางวัฒนธรรมงานประเพณีลอยกระทงสุโขทัย กระทงใหญ่ โคมชักโคมแขวนจาก 4 ปากประตูเมืองสุโขทัย

3. ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง จ.ตาก

กำหนดการ  :  วันที่ 24-27 พ.ย. 2566

สถานที่จัดงาน  :  เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี อำเภอเมือง จังหวัดตาก

กิจกรรมภายในงาน  :  วันที่ 24 พ.ย. 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย จำหน่ายกระทงกะลาของนักเรียน และกิจกรรมทางศาสนา ได้แก่ สักการะบูชาพระอุปคุต รอยพระพุทธบาท พระแม่คงคา น้ำมนต์จันทร์เพ็ญวัดวาสะเดาะเคราะห์, กาดกระทงสาย, การประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง ดาวรุ่งลูกทุ่งกระทงสายชิงถ้วยพระราชทานฯ และการแข่งขันมวยไทยและมวยคาดเชือก

          – วันที่ 25 พ.ย. 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย และขบวนแห่อัญเชิญพระประทีป พระราชทานฯ, ขบวนแห่เรือกระทงสาย ทั้ง 4 สาย โดยมีไฮไลต์อยู่ที่พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทานฯ และพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ ประดิษฐานบนเวทีกลางน้ำปิง  และพิธีเปิดงานฯ ในเวลาในเวลา 20.00 น. พร้อมการลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง

          – วันที่ 26 พ.ย. 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย และกิจกรรมไฮไลต์ พิธีขอขมาพระแม่คงคา (ถวายผ้าป่าน้ำ) ณ เวทีกลางน้ำปิง ในเวลา 19.00 น. และชมการแข่งขันการลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง ประจำปี 2566

          – วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย และกิจกรรมไฮไลต์ พิธีขอขมาพระแม่คงคา (ถวายผ้าป่าน้ำ) พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทานฯ, ชมการแข่งขันการลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง ประจำปี 2566 และพิธีปิดงาน ณ เวทีกลางน้ำปิง ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป พร้อมชมการแสดงพลุในเวลา 21.00 น. ก่อนจะส่งท้ายกิจกรรมใส่บาตรพระอุปคุต เที่ยงคืน อาบน้ำมนต์จันทร์เพ็ญ ในเวลา 24.00 น.

4. ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง

กำหนดการ  :  วันที่ 25-27 พ.ย. 2566 ณ อุทยาน ร.2 จ.สมุทรสงคราม

                     และวันที่ 18 -27 วัดภุมรินทร์กุฎีทอง จ.สมุทรสงคราม

กิจกรรมภายในงาน  :  กิจกรรมภายในอุทยาน ร.2 พบกับการประกวดกระทงชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, การประกวดรำวงตามบทร้อง (พื้นบ้าน) ชิงถ้วยพระราชทานฯ  พิธีอาบน้ำเพ็ญ, การแสดงจากยุวศิลปินของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ การแสดงการละเล่นพื้นบ้าน ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น, นิทรรศการอาหารบ้านฉัน นิทรรศการกระทงกาบกล้วย  กิจกรรมเวิร์กชอปกระทงกาบกล้วย อาหารและขนมพื้นเมือง ก่อนจะเพลิดเพลินไปกับโซนตลาดสินค้าชุมชนและของที่ระลึก สาธิตและการออกร้านอาหารและขนมไทยเมืองอัมพวา รวมทั้งสินค้าเพื่อสุขภาพต่าง ๆ เช่น  อาหารสุขภาพ นวด สปา เครื่องหอม สมุนไพร

          – กิจกรรมที่จัดขึ้นภายในวัดภุมรินทร์กุฎีทอง พบกับริ้วขบวนแห่พระประทีป พระราชทาน การลอยกระทงกาบกล้วย 200,000 ใบ การประกวดนางนพมาศ การออกร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน และการแสดงเชิงวัฒนธรรม

5. ประเพณีสมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป ครั้งที่ 25 ประจำปี 2566

กำหนดการ  :  วันที่ 26–27 พ.ย. 2566

สถานที่จัดงาน  :  สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด

กิจกรรมภายในงาน  :  วันที่ 26 พ.ย. 2566 พบกับ การประกวดรำวงสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป เวลา 13.00 น., การแสดงดนตรีพื้นบ้านอีสาน (หมอลำ) โดยศิลปินแห่งชาติ แม่ฉวีวรรณพันธุ์ เวลา 15.00 น. ขบวนอัญเชิญพระประทีปและถ้วยรางวัลพระราชทาน ณ ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด รำวงสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป จำนวน 5,000 คน เวลา 18.00 น. และชมการแสดง แสง เสียง เวลา 18.30 น. และการแสดงของศิลปินท้องถิ่น เวลา 20.00 น.

          – วันที่ 27 พ.ย. 2566 พิธีสักการะและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดร้อยเอ็ด เวลา 8.30 น., พิธีเปิดงานประเพณี “สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป” ครั้งที่ 25 ประจำปี 2566 เวลา 17.30 น, ขบวนอัญเชิญพระประทีปและถ้วยรางวัลพระราชทาน เวลา 18.00 น. ขบวนแห่กระทงประทีป 12 เมืองร่วมสมัย และไฮไลต์ขบวนอัญเชิญไฟพระราชทานนำหน้าพระประทีปพระราชทานลงลอยในบึงพลาญชัย เวลา 20.00 น. และเชิญประชาชนร่วมลอย “กระทงข้าว” ในเวลา 20.30 น.

 รวมถึงงาน ประเพณีลอยกระทง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ ICONSIAM CHAO PHRAYA RIVER OF ETERNAL PROSPERITY ลอยกระทง บนสายน้ำแห่งความเจริญรุ่งเรือง วันที่ 27 พ.ย. 2566 ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม และงาน Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย วันที่ 25-27 พ.ย. 2566 ณ 10 พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรวิหาร วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ท่ามหาราช ท่ายอดพิมาน ล้ง 1919 สุขสยาม และเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์

นอกจากนี้ ททท. ยังตระหนักถึงเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมภายในพื้นที่จัดงาน โดยมีการบริหารจัดการขยะจากกระทง และให้นักท่องเที่ยวร่วมสืบสานประเพณีไทยที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรม DIY ประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กระทงกะลามะพร้าว กระทงใบลาน กระทงกาบกล้วย เป็นต้น

‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/564179

‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

26 พ.ย. 2566

อิ่มบุญ-อร่ามวัด- ชมโคมไฟแสนดวงที่เมืองลำพูน บูชา พระธาตุหริภุญชัยจนถึง 27 พ.ย. นี้ วธ.ยกระดับเทศกาลประเพณี สู่นานาชาติ ชูเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายของ นักท่องเที่ยวทั่วโลก หนุนซอฟต์พาวเวอร์ด้านเฟสติวัลและท่องเที่ยว สร้างงานสร้างรายได้

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2566 นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดขบวนแห่โคมยี่เป็ง และร่วมงานพิธีถวายโคมแสนดวง “เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน” โดยมีพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นางสุภัทร กิจเวช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายพงษ์เทพ มนัสตรง ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม หัวหน้าส่วนราชการ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดภาคเหนือ วัฒนธรรมจังหวัดเขตภาคเหนือ นักท่องเที่ยว ประชาชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมชมจำนวนมาก ณ บริเวณลานวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน

‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ปลัด วธ . กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อน Soft Power โดยเฉพาะด้านเฟสติวัลเทศกาลประเพณีและด้านท่องเที่ยว สอดคล้อง กับเป้าหมายของกระทรวงวัฒนธรรม ที่ต้องการยกระดับเทศกาลประเพณีของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ส่งเสริมคุณค่าเทศกาลประเพณีของชาติและเทศกาลอื่นๆ ด้านวัฒนธรรมเพื่อให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ ในปี 2566 นี้ วธ. โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน จึงบูรณาการความร่วมมือกับวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน สภาวัฒนธรรม หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จัดพิธีถวายโคมแสนดวง “เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน” เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 

‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

เป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของงานเทศกาลประจำปีโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 ตุลาคม – 27 พฤศจิกายน 2566 ณ บริเวณลานวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแก่องค์พระธาตุหริภุญชัยในประเพณียี่เป็งของทุกปี ซึ่งปีนี้จัดยิ่งใหญ่มีการประดับโคมยี่เป็งกว่าแสนดวง และการประกวดโคมไฟ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้มารับชมความงดงามเทศกาลประเพณีที่มีโคมล้านนาเป็นเอกลักษณ์ของชาวลำพูน

‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

กิจกรรมภายในงานดังกล่าว ผู้ร่วมงานจะได้รับชมขบวนแห่โคมล้านนา และโคมนานาชาติ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน จัดพิธีทางศาสนา การแสดงพระธรรมเทศนา “อานิสงส์การถวายประทีปโคมไฟ” (แบบพื้นเมืองล้านนา) โดยพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน

‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

หลังจากนั้นมีพิธีถวายประทีปโคมไฟแด่องค์พระธาตุหริภุญชัย และกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์มีการจุดประทีปดวงไฟถวายองค์พระธาตุหริภุญชัยที่มีความสวยงามทั่วทั้งพื้นที่วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ด้วยแสง สี ตระการตา เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพและกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนที่ทำโคม ทำสวยดอก (กรวยดอกไม้) ส่งให้แก่วัดเพื่อให้พุทธศาสนิกชนบูชา ตลอดจนเกิดการจ้างงานศิลปินพื้นบ้านทุกแขนงมาแสดงในงาน ถือเป็นรายได้ที่กระจายสู่ชุมชนตลอดการจัดงานประจำปีโคมแสนดวงที่เมืองลำพูนนี้ ถือเป็น 1 ใน 16 เทศกาลประเพณีที่กระทรวงวัฒนธรรม ยกระดับสู่ระดับชาติและนานาชาติ

ทั้งนี้ การจุดโคมไฟถวายองค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัยมีมาตั้งแต่โบราณซึ่งปัจจุบันเป็นการแขวนโคมพร้อมดวงไฟ หมายถึงการแสดงออกถึงการเคารพบูชา เพื่อให้เห็นในความสว่างของพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นบารมีอันสูงส่งตามคติความเชื่อของชาวล้านนา นับเป็นการส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน ส่วนการถวายโคมแด่พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวลำพูนเพราะพระนางจามเทวีเป็นปฐมกษัตริย์แห่งเมืองหริภุญชัย เป็นผู้นำพระพุทธศาสนาเข้าในพื้นที่แห่งนี้และแผ่กระจายไปยังเมืองต่างๆ ทำให้พระพุทธศาสนาเกิดความรุ่งเรือง ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ปัจจุบันการถวายประทีปโคมไฟได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยวัดพระธาตุหริภุญชัยขยายพื้นที่จัดการตกแต่งการแขวนโคม ใส่ดวงไฟเข้าไปในโคมให้สวยงาม รวมทั้งการให้ประชาชนทั่วประเทศมีส่วนร่วมถวายประทีปโคมไฟ ทำให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วประเทศในชื่อ “เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน” ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดลำพูนและสร้างรายได้แก่ชุมชน

‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
‘เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน’ วธ. ชูหมุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

สืบสานวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ ชวนเที่ยวงาน ‘ลอยกระทง 2566’ ณ วัดอรุณฯ

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/564144

สืบสานวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ ชวนเที่ยวงาน 'ลอยกระทง 2566' ณ วัดอรุณฯ

สืบสานวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ ชวนเที่ยวงาน ‘ลอยกระทง 2566’ ณ วัดอรุณฯ

26 พ.ย. 2566

วธ. ชวนเที่ยวงานประเพณี ‘ลอยกระทง 2566’ ลอยกระทง สายน้ำแห่งวัฒนธรรม Loy Krathong : River of Culture ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

เพื่อร่วมสืบสานคุณค่าสาระของประเพณีลอยกระทง ให้คงรักษาอัตลักษณ์วัฒนธรรมความเป็นไทย การแสดงความกตัญญูและการสำนึกคุณต่อแหล่งน้ำที่ใช้ในการดำรงชีวิต สร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องต่อประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยว กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ชวนเที่ยวงานประเพณี ลอยกระทง 2566 “ลอยกระทง สายน้ำแห่งวัฒนธรรม Loy Krathong : River of Culture” ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร คืนวันที่ 27 พ.ย. 2566

สืบสานวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ ชวนเที่ยวงาน \'ลอยกระทง 2566\' ณ วัดอรุณฯ
สืบสานวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ ชวนเที่ยวงาน \'ลอยกระทง 2566\' ณ วัดอรุณฯ

นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงาน ลอยกระทง 2566 ณ วัดอรุณฯ จะได้ชมและร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ อาทิ การสาธิตการทำกระทงวัสดุธรรมชาติ การสาธิตการทำอาหารและขนมโบราณ  กิจกรรมลานอรุณ รักษ์ไทย by Thai Group  ได้ความรู้จากนิทรรศการเผยแพร่คุณค่าสาระความสำคัญของประเพณีลอยกระทง  ชมกระทงสวยงามและสร้างสรรค์ ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดในงาน  ชมผลงานจากการประกวดสื่อแนวคิดสร้างสรรค์ ยกระดับวันลอยกระทงท้องถิ่น จาก local สู่เลอค่า และยังได้ชิมอาหารและขนมจากโครงการ “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ของกรุงเทพมหานครและพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ ข้าวตอกตั้ง แกงเหงาหงอด และชิมอาหารท้องถิ่น ขนมจีนน้ำยาเห็ด ขนมไข่ปลา ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ

สืบสานวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ ชวนเที่ยวงาน \'ลอยกระทง 2566\' ณ วัดอรุณฯ

นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีออร์เคสตร้า “รุ่งอรุณ สู่ค่ำคืน” ผลงานเพลงที่รังสรรค์พิเศษเพื่องาน ลอยกระทง 2566 โดย สมเถา สุจริตกุล ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล-ประพันธ์เพลงร่วมสมัย) พุทธศักราช 2565 และในช่วงดึกยังได้เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรี จากวงดุริยางค์สากล กรมศิลปากร และปิดท้ายด้วยความบันเทิงการเพลงลูกทุ่งจากศิลปินนักร้องดาวรุ่ง นัน ไมค์ทองคำ อีกด้วย

‘ไทย-เกาหลี’ จับมือ เปิด เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ‘เขาใหญ่’ แห่งแรกในเอเชีย

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/564119

'ไทย-เกาหลี' จับมือ เปิด เส้นทางศึกษาธรรมชาติ 'เขาใหญ่' แห่งแรกในเอเชีย

‘ไทย-เกาหลี’ จับมือ เปิด เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ‘เขาใหญ่’ แห่งแรกในเอเชีย

25 พ.ย. 2566

กระชับความสัมพันธ์ ‘ไทย-เกาหลี’ จับมือ เปิด เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เกาหลี เส้นทางที่ 5 ใน ‘เขาใหญ่’ แห่งแรกในเอเชีย

นายฮัม จอง ฮัน อุปทูตสาธารณรัฐเกาหลี สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย และนายโจ แจอิล ผู้อำนวยการ ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย จัดพิธีเปิดเส้นทางมิตรภาพไทย-เกาหลี เส้นทางศึกษาธรรมชาติ  อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พร้อมชมการแสดงเกาหลี “กีลโนรี” อันมีความหมาย เพื่ออวยพรให้ผู้เข้าร่วมงานพบเจอกับสิ่งที่ดี

ไทย-เกาหลีเปิดเส้นทางเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-เกาหลีเปิดเส้นทางเชื่อมความสัมพันธ์

เส้นทางศึกษาธรรมชาติเปิดอย่างเป็นทางการ ดำเนินการตั้งแต่ปี 2565 โดยสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย กรมบริการอุทยานแห่งชาติเกาหลี และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเกาหลีและไทย ครบ 65 ปี และครบรอบ 10 ปี ความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทย – เกาหลี

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาปรับปรุงและจัดระเบียนสภาพแวดล้อมของเส้นทางใหม่ทั้งหมด ทั้งรื้อถอนและเปลี่ยนสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ศาลา ประตูแบบดั้งเดิมเกาหลี ดำแพงหิน ปูพื้นหิน ทาสีจุดพักและรวมบันได เส้นทางเดินป่าของเกาหลีเป็นเส้นทางที่ 5 ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เส้นทางที่เปิดแล้วมี อเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน แคนาดา และถือเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ทำเส้นทางนี้

เปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติไทย-เกาหลีเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติไทย-เกาหลี

นายฮัม จอง ฮัน อุปทูตสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวว่า หวังว่าความร่วมมือและแลกเปลี่ยนระหว่างสองประเทศจะสร้างผลงานร่วมกันทียิ่งใหญ่ขึ้นกว่านี้ไปทุกวัน เช่นเดียวกับเส้นทางมิตรภาพไทย-เกาหลี โดยมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามของไทย บวกกับความงดงามของเกาหลีรวมกันอย่างลงตัว

นายโจ แจอิล ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีกล่าวว่า เส้นทางนำตกเหวนรก เป็นสถานที่ยอดนิยมในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และหวังว่าผู้คนจะมาเยี่ยมชมและใช้เส้นทางมิตรภาพไทย-เกาหลีกันมากๆ ในอนาคต   

การแสดงกีลโนรีการแสดงกีลโนรี

ด้านตัวแทนจากฝั่งไทย นายทรงเกียรติ ตาตะยานนท์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวแสดงความยินดีในการเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เส้นทางมิตรภาพไทย-เกาหลีในครั้งนี้ด้วย

ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว ‘งานกาชาด’ ปี 2566 ณ สวนลุม

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/564065

ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว 'งานกาชาด' ปี 2566 ณ สวนลุม

ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว ‘งานกาชาด’ ปี 2566 ณ สวนลุม

24 พ.ย. 2566

สภากาชาดไทย…ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว ‘งานวันกาชาด 100 ปี พุทธศักราช 2566’ ณ สวนลุมพินี และ http://www.งานกาชาด.com

เป็นอีกหนึ่งงานสำคัญประจำปีที่ทุกคนตั้งตารอ สำหรับ “งานกาชาด” ที่ปีนี้จัดในชื่อ “งานวันกาชาด 100 ปี พุทธศักราช 2566” รื่นรมย์สุขฤดี ณ ที่แห่งการให้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “กาลก่อน • กาลนี้ • กาลหน้า” สำราญใจในวันวานสู่งานวันกาชาด 100 ปี พร้อมเชิญชวนทุกท่านที่มาเที่ยวงาน ในปีนี้ “นุ่งโจงห่มไทยเที่ยวงานวันกาชาด 100 ปี พุทธศักราช 2566” เพื่อร่วมย้อนวันวานงานวันกาชาดในอดีต

ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว \'งานกาชาด\' ปี 2566 ณ สวนลุม

งานกาชาด ประจำปีเป็นงานมหกรรมรื่นเริงเพื่อการกุศลที่ได้สืบทอด สานต่อ และสร้างสรรค์ด้วยวิวัฒนาการตามยุคสมัยทั้งรูปแบบและสถานที่จัดงาน เริ่มตั้งแต่ปี 2466 ณ ท้องสนามหลวง ต่อมาปี 2471ได้ย้ายสถานที่จัดงานมาที่พระราชอุทยานสราญรมย์ กระทั่งปี 2481 ได้ย้ายมาที่สถานเสาวภา ปี 2500 ย้ายมาที่สวนอัมพร ขยายไปจนถึงสนามหน้าที่ทำการสำนักพระราชวัง (สนามเสือป่า) ซึ่งที่ผ่านมาได้มีเว้นว่างในบางปีตามสถานการณ์บ้านเมือง และในปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ได้ย้ายมาที่สวนลุมพินี และเริ่มพัฒนาต่อยอดสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนที่ไม่สะดวกเดินทางมาเที่ยวงาน หรืออยู่ต่างจังหวัด ต่างประเทศได้มีส่วนร่วมหรือเสมือนได้มาเที่ยวงานกาชาดที่สวนลุมพินี

ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว \'งานกาชาด\' ปี 2566 ณ สวนลุม
ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว \'งานกาชาด\' ปี 2566 ณ สวนลุม

สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณ และพระราชกรณียกิจพระบรมราชูปถัมภก องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย และองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทยที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย รวมถึงเพื่อเผยแพร่ภารกิจของสภากาชาดไทยและสร้างการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษา มูลนิธิ สมาคม สโมสร ผู้มีอุปการคุณและประชาชนทั่วไปในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสาธารณกุศล และเพื่อหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทยในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค และกำจัดภัย แก่ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสต่อไป

ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว \'งานกาชาด\' ปี 2566 ณ สวนลุม
ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว \'งานกาชาด\' ปี 2566 ณ สวนลุม

ใน งานกาชาด ปีนี้ได้จัดให้มีกิจกรรมพิเศษมากมาย อาทิ การจัดแสดงกระบวนแห่รถงานวันกาชาด กิจกรรม “ถนนย้อนวันวาน รื่นเริง งานวันกาชาด” เป็นกิจกรรมการแสดงกลางแจ้งที่เคยสร้างความประทับให้ผู้มาเที่ยวชมงานกาชาดในอดีตที่ผ่านมา เช่น การโชว์วงโยธวาทิต การแสดงสุนัขตำรวจ การแข่งขันตะกร้อลอดห่วง การแสดงเชิดสิงโต การแสดงกระบี่-กระบอง การแสดงมวยไทยโบราณ มวยตับจาก รวมถึงกิจกรรม “ลีลาศรื่นรมย์ ณ สวนลุมพินี”  เป็นการนำกิจกรรมการแสดงบนเวทีลีลาศ ณ สวนอัมพร กลับมาเปิดฟลอร์เพื่อให้ได้ย้อนความทรงจำแห่งความรื่มรมย์กันอีกครั้งหนึ่ง โดยจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 15 ธ.ค. 2566 เวลา 17.00-22.00 น. ณ ศูนย์นันทนาการลุมพินี กิจกรรมชวนร่วมถ่ายภาพหรือเก็บภาพกับนิทรรศการ 5 สถานที่จัดงานวันกาชาด ตั้งแต่ท้องสนามหลวง พระราชอุทยานสราญรมย์ สถานเสาวภา สวนอัมพร และสวนลุมพินี

ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว \'งานกาชาด\' ปี 2566 ณ สวนลุม

นอกจากนี้ยังมีในส่วนของงานกาชาดออนไลน์ www.งานกาชาด.com เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นให้สอดคล้องกับ 5 สถานที่ในการจัดงานกาชาดในอดีตถึงปัจจุบัน ได้แก่ สนามหลวง พระราชอุทยานสราญรมย์ สถานเสาวภา สวนอัมพร สวนลุมพินี โดยได้ทำการแบ่งลักษณะออกเป็นเกาะในจินตนาการและในแต่ละเกาะจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจแตกต่างกันไป ประกอบด้วย การประกวดอวตาร แต่งชุดไทยบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นการประกวดแบบรายวันในรูปแบบ Chibi Character Design โดยเสื้อผ้าและไอเทมแต่ละแบบมีคะแนนที่แตกต่างกัน รถรางสายมู เป็นกิจกรรมที่พาผู้เที่ยวงานวันกาชาดไปไหว้พระขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ 9 สถานที่ Pick a card เป็นการตรวจดวงชะตารายวัน ทั้งในด้านความรัก การเงิน และการทำบุญ การแข่งว่าวมาราธอน เป็นการจำลองบรรยากาศจริงที่สนามหลวง โดยจะมีว่าวฟรีให้เป็นแบบมาตรฐานและตกแต่งตามจินตนาการ      

ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว \'งานกาชาด\' ปี 2566 ณ สวนลุม

บ้านผีสิงแบบออนไลน์ นิทรรศการร้อยรูปภาพร้อยเรื่องราวงานวันกาชาด เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ของงานวันกาชาดที่ประชาชนไม่เคยทราบ ภาพยนตร์สั้นที่หาชมได้ยากมากถึง 17 เรื่อง อาทิ เรื่องขนมเปี๊ยะของอากง เรื่องหนุมานเผชิญภัยครั้งใหม่ เรื่องแหวนวิเศษ เรื่องหลุมศพที่ลือไซต์เรื่องจำเริญ-จิมมี่ เรื่องนิ้วเพชร เรื่องฉากเพลงมือเสือ ฯลฯ Game Center เป็นพื้นที่ๆ ของการเล่นเกมต่างๆ บนแพลตฟอร์มงานกาชาดออนไลน์ที่ได้รวบรวมไว้มากมายหลายเกมหลายรูปแบบ สามารถเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง จิ๊กซอว์ต่อความทรงจำ เป็นกิจกรรมที่สร้างให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องของผู้เที่ยวชมงานกาชาด เพราะหากทำกิจกรรมครบทั้ง 13 กิจกรรม จะมีสิทธิ์ลุ้นทองคำในวันที่ 28 ธ.ค. 2566 สลากกาชาดออนไลน์

ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว \'งานกาชาด\' ปี 2566 ณ สวนลุม

โดยในปีนี้เป็นปีแรกที่จัดให้มีการจำหน่ายสลากกาชาดออนไลน์ และเป็นครั้งแรกที่สภากาชาดไทยได้จัดทำสลากกาชาดจำหน่ายเองเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญกับสภากาชาดไทยโดยมีจำหน่ายทั้งแบบเดี่ยวและแบบเล่ม ซึ่งแบบเดี่ยวจำหน่ายราคาใบละ 100 บาท ส่วนแบบเล่มมี 20 ใบ จำหน่ายราคาเล่มละ 2,000 บาท สามารถซื้อได้ที่ http://www.งานกาชาด.com นอกจากนี้ยังสามารถร่วมทำบุญด้วยการซื้อสลากกาชาดออนไลน์ได้กับอีก 8 หน่วยงานเช่นกัน และพยากรณ์ออนไลน์ มีนักพยากรณ์เข้าร่วมจากหลากหลายสถาบัน

ชวนออเจ้านุ่งโจงห่มไทย ย้อนวันวานเที่ยว \'งานกาชาด\' ปี 2566 ณ สวนลุม

ในปีนี้ยังคงขอความร่วมมือให้ทุกท่านที่มาเที่ยวงาน ณ สวนลุมพินี เดินทางโดยรถสาธารณะเพื่อความสะดวก และใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก รวมถึงงดการใช้โฟมเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร เพื่อลดปริมาณขยะในงาน และท่องโลกงานวันกาชาดออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ www.งานกาชาด.com

ชวนเที่ยว ‘ตลาดเขมราษฎร์ธานี’ ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/563800

ชวนเที่ยว 'ตลาดเขมราษฎร์ธานี' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ

ชวนเที่ยว ‘ตลาดเขมราษฎร์ธานี’ ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ

21 พ.ย. 2566

วธ.จับมือจังหวัดอุบลราชธานี เปิดตัว ‘ตลาดเขมราษฎร์ธานี’ ในงานเทศกาลเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว สัมผัสวิถีวัฒนธรรมเขมราฐธานี ดินแดนแห่งความสุข เผยแพร่ภูมิปัญญา soft power ส่งเสริมการท่องเที่ยว ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน กระจายรายได้ให้ท้องถิ่น

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานี จัดพิธีเปิดตัว ‘ตลาดเขมราษฎร์ธานี’ สืบสานวัฒนธรรมไทย ประจำปีงบประมาณ 2566 ในงานเทศกาลเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี หนึ่งในกิจกรรม “10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ สืบสานวัฒนธรรมไทย” โดยมี ยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน, วราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวรายงาน, กำพล สิริรัตตนนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยผู้บริหาร วธ. วัฒนธรรมจังหวัดภาคอีสาน 19 จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขมราฐ ผู้นำชุมชน-ผู้ขับเคลื่อนตลาด นักท่องเที่ยวและประชาชน เข้าร่วมงาน ณ พิพิธภัณฑ์บ้านขุนภูรีประศาสน์ 

ชวนเที่ยว \'ตลาดเขมราษฎร์ธานี\' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ
ชวนเที่ยว \'ตลาดเขมราษฎร์ธานี\' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ
ชวนเที่ยว \'ตลาดเขมราษฎร์ธานี\' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ

ยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดวธ. ประธานกล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม มีเป้าหมายและพันธกิจสำคัญในการเทิดทูน สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้มีการรักษาสืบทอด พัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งขับเคลื่อนงานศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม โดยปรับบทบาทสู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน จึงได้ดำเนินโครงการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ด้วยทุนทางวัฒนธรรม การส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชนสู่เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม : การดำเนินงานพัฒนาตลาดบกสืบสานวัฒนธรรมไทย ด้วยการพัฒนาศักยภาพเส้นทางท่องเที่ยวตลาดบก สืบสานวัฒนธรรมไทย และจัดพิธีเปิดตัว 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ สืบสานวัฒนธรรมไทย ประจำปีงบประมาณ 2566 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน จากการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม พร้อมสนับสนุนขยายช่องทางการตลาด ประชาสัมพันธ์ให้เกิดการรับรู้ ในวงกว้าง ให้ตลาดชุมชนเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจชุมชนเกิดความเข้มแข็งและยั่งยืนสืบไป

ชวนเที่ยว \'ตลาดเขมราษฎร์ธานี\' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ
ชวนเที่ยว \'ตลาดเขมราษฎร์ธานี\' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ
ชวนเที่ยว \'ตลาดเขมราษฎร์ธานี\' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ
ชวนเที่ยว \'ตลาดเขมราษฎร์ธานี\' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ

กำพล สิริรัตตนนท์ รองผู้ว่าฯ อุบลฯ เปิดเผยว่า เขมราฐ แปลว่า ดินแดนแห่งความเกษมสุข เป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ ริมแม่น้ำโขง เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่าสองร้อยปี สำหรับตลาดถนนสายวัฒนธรรม “เขมราษฎร์ธานี” เริ่มต้นจัดงานขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2556 ด้วยแนวความคิดที่จะพัฒนาบ้านเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจที่เคยคึกคักในอดีต ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในบรรยากาศย้อนยุค ให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสบรรยากาศ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ในอดีตของคนรุ่นเก่า โดยยังคงมีอาคารสถานที่เก่าแก่หลายแห่งที่ชาวเขมราฐยังคงอนุรักษ์และบูรณะไว้ให้คนรุ่นลูกหลาน ได้เยี่ยมชมมาจนถึงปัจจุบัน คือ พิพิธภัณ์บ้านขุนภูรีประศาสน์       

ชวนเที่ยว \'ตลาดเขมราษฎร์ธานี\' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ
ชวนเที่ยว \'ตลาดเขมราษฎร์ธานี\' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ
ชวนเที่ยว \'ตลาดเขมราษฎร์ธานี\' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ
ชวนเที่ยว \'ตลาดเขมราษฎร์ธานี\' ชิม ช้อป ของดีวิถีชุมชน จ.อุบลฯ

“ภายใน ตลาดเขมราษฎร์ธานี ยังมีร้านขายของพื้นบ้าน อาหารถิ่น ผลิตภัณฑ์ชุมชน ผ้าฝ้ายทอมือ ของฝากที่ระลึกต่างๆ รวมทั้ง มีกิจกรรมการแสดงของนักเรียน และกลุ่มชมรมต่างๆ มากมาย เช่น การฟ้อนรำ เต้นบาสโลบ การแสดงศิลปะ ดนตรี และการจัดนิทรรศการภาพเก่าแก่ของอำเภอเขมราฐ ตลาดเขมราษฎร์ธานี เปิดให้บริการทุกวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 – 21.00 น.”

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/563766

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

20 พ.ย. 2566

เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม เปิดผลศึกษาของ ‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ ครั้งแรกของไทย พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด รองลงมาคือ เอกลักษณ์ความเป็นไทย ตามด้วย งานศิลปะหัตถกรรม สถาปัตยกรรมไทย ประทับใจความเป็นมิตร เดินหน้าจัดทำแผนขับเคลื่อน ซอฟต์พาวเวอร์

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้รับรายงานจากสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเกี่ยวกับการศึกษาศักยภาพของไทยในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ในระดับโลก โดยร่วมมือกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการสำรวจรสนิยม ความชอบ ทัศนคติ พฤติกรรมที่มีต่อศิลปวัฒนธรรม สินค้าและบริการทางวัฒนธรรมของไทย

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

ศศินทร์ จุฬาฯ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบอาหารไทยครองใจคนทั่วโลกมากที่สุดศศินทร์ จุฬาฯ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบอาหารไทยครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

ในต่างประเทศที่มีศักยภาพจำนวน 12 ประเทศ ใน 7 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี สหรัฐอเมริกา บราซิล แอฟริกาใต้ และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการศึกษาในเรื่องนี้ โดยจะนำผลการศึกษามาจัดทำแผนการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ด้วยมิติทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย

‘อาหารไทย’ แชมป์ครองใจคนทั่วโลก

ผลการศึกษารสนิยมความชอบเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยของผู้คนทั่วโลก พบว่า วัฒนธรรมไทยที่ชื่นชอบที่สุดคือ อาหารไทยและวัฒนธรรมการกิน รองลงมาคือ เอกลักษณ์ความเป็นไทย อาทิ ประวัติศาสตร์ ทัศนียภาพ ประเพณี การไหว้ รอยยิ้ม ภาษาไทย

รวมทั้งศิลปะ หัตถกรรม และสถาปัตยกรรม เช่น วัด พระพุทธรูป รวมถึงการแสดงและการละเล่น งานฝีมือไทย และศิลปะไทย 

โดยความประทับใจที่มีต่อประเทศไทย อันดับหนึ่งคือ ความเป็นมิตรของคนไทย รองลงมาคือ ความห่วงใย จริงใจ ต้อนรับขับสู้ ความงามของประเทศไทยที่น่าหลงใหลและดึงดูด มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร น่าสนใจและคาดไม่ถึง 

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด
‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

ส่วนประเทศที่มีมุมมองที่ดีต่อประเทศไทยต้องการเข้ามาสัมผัสวัฒนธรรมไทย รวมถึงใช้ชีวิตหรือท่องเที่ยวประเทศไทยในระยะยาวมากที่สุดสามอันดับแรก ได้แก่ แอฟริกาใต้ อินเดียและซาอุดิอาระเบีย

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

นอกจากนี้ ประเทศที่มีความชื่นชอบศิลปะและวัฒนธรรมไทยมากที่สุด ได้แก่ แอฟริกาใต้ ซาอุดิอาระเบีย จีนและมาเลเซีย ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจเพราะรับรู้ผ่านสื่อคอนเทนต์ต่างๆ ของไทย เช่น ภาพยนตร์ ซีรีส์และรายการทีวี และชื่นชอบคนไทย ประเทศไทยและวัฒนธรรมไทย 

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

ส่วนเหตุผลที่ชื่นชอบ เนื่องจากศิลปะ วัฒนธรรม และวรรณกรรมไทย มีที่มา ประวัติศาสตร์ และเนื้อหาน่าสนใจ ผลงานมีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์และสร้างสรรค์แปลกใหม่ 

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

นอกจากนี้ ความนิยมบริโภคคอนเทนต์ไทยของผู้คนทั่วโลกพบว่า ซาอุดิอาระเบีย จีน และแอฟริกาใต้นิยมมากที่สุด ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ทำให้หันมาสนใจคอนเทนต์ไทยเพราะรู้จักจากสื่อออนไลน์ และครอบครัว เพื่อน คนรู้จักแนะนำ ส่วนเหตุผลที่ชื่นชอบ คือ เนื้อหาน่าติดตาม สร้างสรรค์ แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ตัวละครโดดเด่นและมีเอกลักษณ์

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

เปิดรายชื่อประเทศที่ชื่นชอบ’อาหารไทย’มากที่สุด

ผลการศึกษาความนิยมอาหารไทยของผู้คนทั่วโลกพบว่า มาเลเซีย ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ จีนและอินเดีย ชื่นชอบอาหารไทยมากที่สุด ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจบริโภคอาหารไทยเพราะมีโอกาสได้รับประทานระหว่างมาท่องเที่ยวในไทย และครอบครัว เพื่อน คนรู้จักแนะนำ 

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

ส่วนเหตุผลที่ชื่นชอบเพราะอร่อย เมนูหลากหลายและรสชาติแปลกใหม่ เป็นเอกลักษณ์

ทั้งนี้ ผลการศึกษาในภาพรวมพบว่า สินค้าและบริการทางวัฒนธรรมที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่มีศักยภาพในการส่งออก ได้แก่ อาหารไทย การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สินค้าหัตถกรรมและคอนเทนต์ ส่วนตลาดส่งออกที่สำคัญของไทยคือ จีนและอาเซียน และตลาดใหม่ที่มีศักยภาพคือ อินเดีย ลาตินอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

โดยกระทรวงวัฒนธรรมจะนำข้อมูลเหล่านี้ มาจัดทำแผนการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ ด้วยมิติทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย รองรับนโยบายสร้างเสน่ห์วิถีไทย ครองใจคนทั้งโลก ภายใต้แนวทางของรัฐบาลในการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ 11 สาขาและการจัดตั้ง Thailand Creative Content Agency (THACCA) ในการสร้างรายได้แก่ประชาชนและชุมชน และส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ

‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด
‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด
‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด
‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด
‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด
‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด
‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด
‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด
‘ศศินทร์ จุฬาฯ’ เปิดผลศึกษาครั้งแรก พบ ‘อาหารไทย’ ครองใจคนทั่วโลกมากที่สุด

ปักหมุด 10 ‘จุดกางเต็นท์’ ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/travel/563483

ปักหมุด 10 'จุดกางเต็นท์' ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข

ปักหมุด 10 ‘จุดกางเต็นท์’ ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข

16 พ.ย. 2566

ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข สไตล์แคมป์ปิ้ง ไปกับ 10 ‘จุดกางเต็นท์’ ทั่วไทย ส่งท้ายปลายปีกันแบบฟินๆ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็เลือกไปตั้งแคมป์กันได้ตั้งแต่เหนือจรดใต้

ช่วง เทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปี 2566 นี้ ใครที่กำลังมองหาจุดกางเต็นท์สไตล์แคมป์ปิ้ง เพื่อเฉลิมฉลองความสุขกันแบบฟินๆ วันนี้เรามี 10 จุดกางเต็นท์ ทั่วไทย ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็เลือกไปตั้งแคมป์กันได้ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ดังนี้

ภาคเหนือ

ปักหมุด 10 \'จุดกางเต็นท์\' ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข
  • อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

หนึ่งในจุดกางเต็นท์ยอดฮิตตลอดกาล อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ พร้อมแวะเที่ยวตามแลนด์มาร์คต่างๆ เช่น สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ที่เต็มไปด้วยดอกไม้บานหลากสีสัน เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกสวยๆ รวมไปถึงการสักการะพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ โดยที่นี่มีจุดกางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวกว่า 30 จุด เลยทีเดียว

ปักหมุด 10 \'จุดกางเต็นท์\' ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข
  • ดอยเสมอดาว จ.น่าน

คู่รักสายแคมป์ปิ้งไม่ควรพลาดมาฉลองที่ดอยเสมอดาว จ.น่าน ที่นี่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ด้วยการเดินทางที่แสนสะดวก และอากาศดีในช่วงฤดูหนาวที่ทำให้บรรยากาศโรแมนติก เหมาะกับการดูดาวที่เต็มท้องฟ้าในเวลากลางคืน และชมทะเลหมอกสวยๆ ในตอนเช้า ซึ่งที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวมากางเต็นท์แคมป์ปิ้งในช่วงเดือน ต.ค.- ก.พ.เท่านั้น

ภาคกลาง

  • อุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี

ไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือก็จัดแคมป์ปิ้งได้ที่อุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี ที่นี่เป็น จุดกางเต็นท์ ที่เหมาะกับสายลุย ภายในอุทยานมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้แวะเที่ยวหลายจุด ได้ชมทั้งความสวยงามของน้ำตก ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและพรรณไม้ รวมไปถึงยังมีเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุบนยอดเขาเทวดาให้แวะไปไหว้สักการะกันด้วย

ปักหมุด 10 \'จุดกางเต็นท์\' ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข
  • ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

เทศกาลแห่งความสุข นี้มาปักหมุดสัมผัสอากาศหนาว และทะเลหมอกได้ทุกวัน ที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ที่นี่มีลานกางเต็นท์ให้เลือกมากมาย และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก นอกจากความสวยงามของธรรมชาติที่รายรอบ นักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวม้งดั้งเดิม เดินชมไร่สตรอว์เบอร์รี่และพืชเมืองหนาว พร้อมแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้มากมาย ถ่ายภาพสวยๆ ได้ไม่มีเบื่อ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ปักหมุด 10 \'จุดกางเต็นท์\' ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข
  • อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย อีกหนึ่ง จุดกางเต็นท์ และที่เที่ยวหน้าหนาวยอดนิยม ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาพิชิตให้ได้ โดยในปีนี้ได้เปิดการท่องเที่ยวตั้งแต่ 1 ต.ค. 2566 – 31 พ.ค. 2567 แม้เส้นทางค่อนข้างลำบาก แต่ระหว่างทางจะได้สัมผัสกับความน่าสนใจ ทั้งน้ำตก ธรรมชาติ และใบเมเปิ้ลที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ปิดท้ายด้วยการชมพระอาทิตย์ตกในช่วงค่ำให้เป็นความทรงจำดีๆ ช่วง เทศกาลแห่งความสุข

ปักหมุด 10 \'จุดกางเต็นท์\' ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข
  • อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

อีกหนึ่ง จุดกางเต็นท์ ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก ที่เหมาะกับการมารับลมหนาวเป็นที่สุดก็คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่นี่มีลานกางเต็นท์แบบใกล้ชิดธรรมชาติให้เลือกมากมาย สามารถชมพระอาทิตย์ตกดิน ดูดาวในตอนค่ำ ส่องสัตว์ต่างๆ ชมทะเลหมอก และยังสามารถแวะเที่ยวหรือแวะกินอาหารอร่อยๆ ได้ตลอดเส้นทาง

ภาคตะวันออก

ปักหมุด 10 \'จุดกางเต็นท์\' ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข
  • สวนพฤกษศาสตร์ระยอง จ.ระยอง

สวนพฤกษศาสตร์ระยอง จ.ระยอง เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ ที่ตั้งอยู่ติดชายหาดสวนสนท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ ภายในสวนพฤกษศาตร์มีจุดกางเต็นท์ 2 จุด นักท่องเที่ยวที่มาสามารถเดินชมป่า ล่องเรือ พายเรือ ถ่ายรูปสวยๆ และสัมผัสกับอากาศเย็นๆ และความทรงจำดีๆ ที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่า ระยองไม่ได้มีดีแค่ทะเล

ภาคตะวันตก

ปักหมุด 10 \'จุดกางเต็นท์\' ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข
  • อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

อีกหนึ่ง จุดกางเต็นท์ ติดริมน้ำสำหรับสายแคมป์ คือ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งมีจุดกางเต็นท์ให้เลือกหลายที่ ฟินกับการได้รับลมเย็นๆ ชิลกับวิวธรรมชาติ และอ่างเก็บน้ำ แต่สำหรับคนรักการเดินป่า ต้องไม่พลาดมากางเต็นท์บนยอดเขาพะเนินทุ่ง ที่เพิ่งเปิดการท่องเที่ยวเมื่อ 1 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งจะได้เห็นทั้งดอกไม้ป่าหลากสีสัน สัตว์ป่า นกหายาก และทะเลหมอกสวยๆ

ปักหมุด 10 \'จุดกางเต็นท์\' ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข
  • อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

ไปกางเต็นท์รับบรรยากาศดีปลายปีกับวิวหลักล้าน ที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ที่นี่แลนด์มาร์คสวยๆ ให้แวะเที่ยวหลายที่ ทั้งแบบธรรมชาติและวัฒนธรรม ชมน้ำตก เขื่อน วัด และพลาดไม่ได้กับการพิชิตเขาช้างเผือก เส้นทางศึกษาธรรมชาติสุดท้าทาย ที่เปิดให้เข้าไปดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2566 – 31 ม.ค. 2567 เท่านั้น

ภาคใต้

ปักหมุด 10 \'จุดกางเต็นท์\' ทั่วไทย รับลมหนาว ฉลอง เทศกาลแห่งความสุข
  • หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช

เปลี่ยนบรรยากาศจากบนภูเขา ลงใต้มาสัมผัสธรรมชาติร่มรื่น รายล้อมด้วยภูเขา และลำธาร ท่ามกลางความเงียบสงบ ในหมู่บ้านที่ว่ากันว่าอากาศดีที่สุดในประเทศไทย อย่าง หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช ดื่มด่ำกับธรรมชาติ และอากาศเย็นสบาย พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน รับรองว่าเหมือนได้ชาร์จพลังเพิ่มอีก 300%

ปีนี้อยากไปฉลองที่ไหน อย่าลืมวางแผนการเดินทางให้ดี และหากกำลังมองหาไอเทมดีๆ สำหรับใช้ในทริปแคมป์ปิ้ง หรือพร็อปเก๋ๆ เพื่อนำไปตกแต่งเต็นท์ให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาลแห่งความสุข สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่ มิสเตอร์. ดี. ไอ. วาย. ทุกสาขา หรือช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ที่ http://www.mrdiy.co.th