คณะลูกขุน 9 คนในฮ่องกง มีมติเป็นเอกฉันท์ ตัดสินว่า วิสัญญีแพทย์เกา คิม ซุน ชาวมาเลเซียวัย 53 ปี มีความผิดข้อหาฆาตกรรม นางหว่อง เซียว ฟิง ภรรยาวัย 47 ปี กับ ลิลี เกา ลี หลิง ลูกสาววัย 16 ปี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558

“ลูกบอลโยคะอัดก๊าซ”อาจารย์หมอใช้สังหารเมีย-ลูกสาว

สองแม่ลูกถูกพบเป็นศพในรถ มินิ คูเปอร์ จอดอยู่ข้างทาง หลังจากสูดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จากลูกบอลโยคะในกระโปรงท้ายรถ อัยการกล่าวหาจำเลยว่าเป็นคนวางลูกบอลมรณะไว้หลังรถ แต่ไม่มีหลักฐาน

กระนั้น เพื่อนร่วมงานพบเห็นจำเลยซึ่งเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาล ปรินซ์ออฟเวลส์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านวิสัญญีวิทยา มหาวิทยาลัยไชนีส ออฟ ฮ่องกง อัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ใส่ลูกบอลโบคะ 2 ลูก โดยนายแพทย์เกา บอกเพื่อนร่วมงานว่ามีแผนนำก๊าซนี้ไปทดลองกับกระต่าย แต่เมื่อให้การกับตำรวจ เขาอ้างว่าจะนำไปใช้กำจัดหนูที่บ้าน โดยใส่ลูกบอลไว้หลังรถ และปล่อยลมออก 1 ลูกในวันถัดมาเพราะรั่ว

อัยการกล่าวหานายแพทย์เกาซึ่งคบชู้ และภรรยาไม่ยอมหย่า จึงวางแผนโดยเจตนาและไตร่ตรองเป็นอย่างดี  โดยสั่งซื้อก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ผ่านทางหน่วยงานมหาวิทยาลัย อ้างว่าจะนำไปใช้วิจัย

นายแพทย์เกาอ้างว่า ลูกสาววัยรุ่นอาจใช้ลูกบอลโยคะเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ลูกขุนไม่เชื่อ และผู้พิพากษาตัดสินเมื่อวานว่า เป็นการฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิต

แอปเปิลเดลีย์ รายงานว่า หลังทราบผลตัดสิน นายแพทย์เกาหันไปหาลูก 3 คนที่ร่วมฟังคำพิพากษาในศาลด้วย และสั่นศีรษะราวกับบอกว่าพ่อไม่ได้ทำเช่นนั้น

เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ รายงานว่า จากคำให้การระหว่างการพิจารณาคดีตลอดหนึ่งเดือน สะท้อนปัญหารักสามเส้าและชีวิตคู่ไม่มีความสุขกับภรรยาที่อยู่กินกันมานาน 23 ปี

จำเลยกับภรรยาระหองระแหงมานานหลายปี แต่ยังอยู่บ้านเดียวกันกับลูกทั้ง 4 คน ขณะเดียวกัน ก็คบหากับ ชารา ลี ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสีวิทยา มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิก อดีตเป็นนักศึกษาของเขา มาตั้งแต่ปี 2545  กระทั่งหลังจากภรรยาเสียชีวิตแล้ว ยังเดินทางไปต่างประเทศด้วยกัน

ทั้งสองเคยคุยเรื่องหย่า แต่ไม่ไปถึงไหน  นางหว่องบอกครูสอนโยคะที่พบกันเป็นประจำก่อนเสียชีวิตว่า สามีกลัวว่าถ้าหย่ากัน ภรรยาจะได้ส่วนแบ่งสมบัติ

ครูโยคะให้การเช่นนี้กับตำรวจแต่นายแพทย์เกา  ให้เหตุผลต่างออกไปว่าเคยคุยเรื่องแยกกันอยู่และหย่าจริง แต่เพราะยังหาทางออกเรื่องดูแลลูก  4 คนไม่ได้ จึงตัดสินใจอยู่ด้วยกันไปก่อน
ทนายจำเลย พยายามแย้งว่า ไม่ควรให้น้ำหนักกับการนอกใจของเขา ว่าเป็นแรงจูงใจ เพราะภรรยารับรู้และทำใจได้มานาน ผู้พิพากษาเห็นด้วยแต่ชี้ว่า หากภรรยาตาย สามีคือผู้ได้รับประโยชน์ทางการเงิน

สำนักข่าวไต้หวันนิวส์ รายงานว่า วิศวกรไอที ชาง จือ หยวน พบช่องโหว่ใน  Apple Pay ระบบชำระเงินบนอุปกรณ์ iOS ของแอปเปิล ทำให้เขาสามารถสั่งซื้อไอโฟนเครื่องใหม่ 502 เครื่องได้ในราคา 1 ดอลลาร์ไต้หวัน

ชาง โพสต์ภาพถ่ายจากหน้าจอมือถือบน เฟซบุ๊ก แสดงให้เห็นว่าเขาจ่ายเงิน 1 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1 บาท )  สำหรับไอโฟน 8 พลัส 256 GB จำนวน 500 เครื่อง กับ ไอโฟน XS Max 512 GB จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งมีมูลค่าจริง 16.655 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน

วิศวกรไอทีไต้หวันรายนี้ กล่าวว่า เขาลองจ่ายเงิน 1 ดอลลาร์ไต้หวัน แต่ต้องอึ้งเมื่อการชำระเงินขึ้นว่า สำเร็จแล้ว

ช่องโหว่ตัวนี้ดูเหมือนคล้ายกับช่องโหว่ที่เคยพบในปี 2559 แต่ได้รับการแก้ไขแล้วมานับแต่นั้น

ชาวเน็ตติดใจสงสัยและจำนวนมากก็เชื่อว่า สินค้าจะไม่ถูกจัดส่งจนกว่าจะชำระตามราคาจริง

ชาง อ้างว่าเขาชำระเงินซื้อสำเร็จ และได้ยกเลิกคำสั่งซื้อ

ไต้หวันนิวส์ ระบุว่า วิศวกรไอทีไต้หวัน เคยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เมื่อปี 2556 ตอนที่เขาเข้าไปลบโพสต์เฟซบุ๊กหลายโพสต์ของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งสื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาพบช่องโหว่จริง หลังจากที่ฝ่ายสนับสนุนเทคนิกของเฟซบุ๊กเพิกเฉย

แกรนท์ วิลเลียม โรบิโช ศัลยแพทย์กระดูกวัย 38 ปี กับแฟนสาว เซริสซา ลอรา ไรลีย์ วัย 31 ปี ถูกแจ้งข้อหาข่มขืนสตรีอย่างน้อย 2 คน ที่พบในบาร์กับร้านอาหารเมื่อปี 2559 ด้วยการวางยา กับข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายอีก 4 กระทง

โทนี แรคเคาส์คาส อัยการออเรนจ์เคาน์ตี กล่าวว่า โรบิโช กับแฟนสาว ใช้เสน่ห์และรูปร่างหน้าตาล่อลวงเป้าหมายเข้าใจว่าทั้งคู่ไม่มีพิษมีภัย

“เราเคยได้ยินหมาป่าในคราบลูกแกะ แต่หมาป่าอาจอยู่ในชุดผ่าตัด หรือคุณหมอ หรืออาจเป็นสาวสวยก็ได้ คนมักสรุปว่านักข่มขืนเป็นผู้ชายท่าทางน่ากลัว เพี้ยน ซ่อนตัวอยู่สุมทุ่มพุ่มไม้ จ้องทำร้ายเหยื่อแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ความเป็นจริงคือ ผู้ร้ายข่มขืนมาจากทุกชนชั้นสังคมและปูมหลัง”

คลิปวิดีโอที่พบในโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยทั้งสองคน แสดงให้เห็นสตรีในคลิปอยู่ในสภาพสลึมสะลือเพราะถูกวางยา ไม่มีความสามารถในการให้ความสมยอมหรือขัดขืน แทบจะไม่มีปฏิกริยาตอบสนองใดเลยต่อพฤติกรรมทางเพศของผู้ต้องหา และจากหลักฐานที่พบ เชื่อว่าเหยื่ออาจมีหลักร้อย  พนักงานสอบสวนกำลังระบุตัวตนของสตรีในคลิป และอยากให้ออกมาแจ้งความ

จากการสอบสวนพบว่า หมอหนุ่มกับแฟนสาวมักไปร่วมเทศกาลดนตรีและศิลปะเพื่อหาเหยื่อ รวมถึงเทศกาล เบิร์นนิง แมน ในเนเวาดา และ สแปลช เฮาส์ เฟสติวัล ในปาล์มสปริง รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสองเทศกาลขึ้นชื่อเรื่องการใช้ยาเสพติด

โรบิโช นำเสนอตนเองว่าเป็นศัลยแพทย์กระดูกชั้นนำ รักษาผู้ป่วยฐานะดีและมีชื่อเสียงในนิวพอร์ท บีช ห่างจากลอสแอลเจลิสไปทางใต้ราว 72 ก.ม. เขาเคยร่วมรายการเรียลริตีแนวหาคู่ “Online Dating Rituals of the American Male” ทางเคเบิลทีวี บราโว ในชุดผ่าตัดและยิ้มกว้าง นอกจากนี้ ยังเคยได้รับจัดอันดับจากนิตยสาร ออเรนจ์ โคสต์ ในปี 2556 ว่าเป็นสุดยอดหนุ่มโสดแห่งออเรนจ์ เคาน์ตี้ และจากประวัติที่โรงพยาบาล เขาเรียนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยลุยเซียนาสเตท

พนักงานสอบสวนระบุว่า นายแพทย์โรบิโชกับแฟนทำงานเป็นทีม หาเหยื่อผู้หญิงในบาร์ วางยาพวกเธอและคะยั้นคะยอให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก โดยใช้ทั้งยาอี ยาเสียสาวและโคเคน ก่อนพาตัวไปข่มขืนที่อพาร์ทเมนต์ของหมอ

สตรีคนแรกพบทั้งคู่ที่ร้านอาหารเมื่อ 10 เมษายน 2559 และได้รับเชิญไปร่วมปาร์ตีบนเรือ หลังถูกให้ดื่มจนเมา เหยื่อวัย 32 ปี ถูกนำตัวกลับไปที่อพาร์มเมนต์ของหมอโรชิโบเพื่อข่มขืน เหยื่อเข้าแจ้งความในวันถัดไป และผลตรวจพบยากับสารเสพติดไม่ระบุชนิดจำนวนหนึ่งในร่างกาย กรณีนี้ทำให้หมอกับแฟนสาวถูกกล่าวหาข่มขืนโดยใช้ยา

อีกกรณีเกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมปีเดียวกัน เหยื่อตื่นขึ้นมาในอพาร์ทเมนต์ของโรบิโช และร้องขอความช่วยเหลือจนเพื่อนบ้านโทรแจ้งตำรวจ เธอบอกตำรวจว่าดื่มอยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งกับทั้งสองในนิวพอร์ทบีชกระทั่งจำอะไรไม่ได้ ต่อมา ตำรวจแจ้งข้อหาทั้งคู่ประทุษร้ายทางเพศโดยมีเจตนาข่มขืน  หลังพบวิดีโอที่แสดงให้เห็นการถูกล่วงละเมิด

ศัลยแพทย์รายนี้กับไรลีย์ ยังถูกแจ้งข้อหามียาควบคุมและสารเสพติดในครอบครองปริมาณมาก รวมถึงจีเอชบี ที่เรียกกันว่ายาเสียสาว เห็ดเมา โคเคน และยาอี ทั้งหมดพบระหว่างเข้าตรวจค้นที่พักเมื่อเดือนมกราคม  นอกจากนี้ หมอยังถูกแจ้งข้อหาครอบครองอาวุธผิดกฎหมายอีกจำนวนหนึ่ง

ศาลนัดรับฟังข้อหาอย่างเป็นทางการ 24 ตุลาคม หากถูกตัดสินมีความผิด ศัลยแพทย์โรบิโชและไรลีย์ อาจต้องโทษจำคุก 40 ปี และ 30 ปีตามลำดับ
ทั้งสองปฏิเสธข้อหาและได้รับอนุญาตประกันตัวในวงเงิน 1 แสนดอลลลาร์

กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 19 คนเป็นชายทั้งหมด และอยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 14 คนนับตั้งแต่คืนวันจันทร์ที่ 17 กันยายน ต้องสงสัยว่าเกิดจากพิษเมทานอลในสุรา

โดยรวม มีผู้ได้รับพิษเมทานอล 51 คน แต่เป็นชาวมาเลเซียเพียง 2 คน ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ  โดย 45 คนอยู่ในสลังงอร์ อีก 6 คนอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์  ส่วนผู้ที่ยังอยู่โรงพยาบาล 14 คน อาการยังวิกฤติ

ในส่วนผู้เสียชีวิต 19 ราย เป็นชาวมาเลเซีย 2 คน เนปาล 15 คน และบังกลาเทศ 2 คน และเหยื่อทั้งหมดที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล มีประวัติเป็นคนดื่มหนัก

ตำรวจกำลังรอผลชันสูตรศพเพื่อชี้ชัดสาเหตุ  และได้ส่งตัวอย่างเครื่องดื่มต้องสงสัยไปตรวจสอบที่ห้องแลบแห่งชาติสไหงบูเลาะห์แล้ว

เดอะสตาร์ อ้างคำบอกเล่าของเหยื่อ สรุปได้ว่ามีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 ยี่ห้อ ได้แก่ มันฑะเลย์ วิสกี  และแกรนด์ รอยัล วิสกี กับ เบียร์คิง ฟิสเชอร์ ที่ซื้อจากร้านค้าหลายแห่งในคลางแวลลีย์ ซึ่งอยู่ในรัฐสลังงอร์ ติดกับกัวลาลัมเปอร์

ตำรวจบุกร้าน 2 แห่งที่ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของเมื่อวาน และยึดสุราต้องสงสัยหลายกล่อง

กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียหวั่นว่าอาจมีเหยื่อเหล้าปลอมเพิ่มขึ้นอีกและกำชับให้โรงพยาบาลต่างๆเตรียมพร้อมรับการรักษา โดยผู้ที่ดื่มเหล้าปลอมได้รับพิษเมทานอลจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ตาพร่า หายใจติดขัด ชักเกร็ง และหมดสติ

ความคืบหน้าเหตุการณ์ที่เครื่องบินทหารรัสเซียแบบ Il-20 สูญหายจากจอเรดาร์เช้ามืดวันนี้ตามเวลาในไทย ขณะกำลังบินกลับฐานทัพใกล้เมืองลาทาเกีย  โดยมีรายงานจากฝั่งสหรัฐว่า เครื่องบินตรวจการณ์ของรัสเซียถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรีย ยิงตก ในระหว่างพยายามสกัดขีปนาวุธโจมตีจากอิสราเอลเมื่อคืนวาน

ล่าสุดกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า ระบบป้องกันทางอากาศของซีเรียยิงเครื่องบินตกจริง แต่อิสราเอลเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด จากการสร้างสถานการณ์สุ่มเสี่ยง รู้ทั้งรู้ว่าเครื่องบินรัสเซียอยู่ในบริเวณนั้นแต่ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนการเข้าถึงเป้าหมายในซีเรีย หรือให้เวลาแก่รัสเซียมากพอขยับเครื่องบินไปอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย  อิสราเอลเตือนมอสโกล่วงหน้าก่อนโจมตีเพียง 1 นาทีเท่านั้น

แถลงการณ์ระบุว่า เครื่องบินขับไล่ เอฟ16 ของอิสราเอล 4 ลำ บินเพดานต่ำมาจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และโจมตีทางอากาศในซีเรีย โดยใช้เครื่องบิน Il-20 ของรัสเซียเป็นเครื่องกำบัง  เพื่อเปิดทางให้ตนเองเข้าถึงเป้าหมายบนพื้นล่างได้โดยไม่ถูกยิงจากปืนต่อสู้อากาศยาน  เครื่องบินรัสเซียจึงอยู่ในวิถีของระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ เอส-200 ของซีเรีย ที่จริงๆตั้งใจยิงสกัดการโจมตีของอิสราเอล

รัสเซียถือว่า  การกระทำยั่วยุเหล่านี้ของอิสราเอล เป็นปฏิปักษ์ ทหารรัสเซีย 15 นายต้องตายเพราะปฏิบัติการไร้ความรับผิดชอบของกองทัพอิสราเอล ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัสเซียกับอิสราเอลอย่างสิ้นเชิง

แถลงการณ์ล่าสุดปรับยอดกำลังพลบนเครื่องบินที่สูญหายลำนี้จาก 14 เป็น 15 คน และปฏิบัติการค้นหานอกชายฝั่งซีเรียยังดำเนินอยู่ต่อไป

นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ได้พูดคุยกับ นายเอวิกดอร์ ลีเบอร์แมน รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เพื่อแจ้งว่า มอสโกถือว่าการยิงเครื่องบินทหารรัสเซียตกและการตายของทหาร 15 นาย  เป็นความผิดของกองทัพอากาศอิสราเอลแต่เพียงฝ่ายเดียว  และรัสเซียขอสงวนสิทธิในการดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างเหมาะสมในอนาคต

อิสราเอลยังไม่แสดงความเห็นใดต่อปฏิบัติการโจมตีระลอกล่าสุดเมื่อคืนวันจันทร์ แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าตลอด 2  ปีที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านมากกว่า 200 ครั้ง

ตำรวจสิงคโปร์จับกุมชายชาวเวียดนาม 2 คน และหญิง 2 คน อายุระหว่าง 26 ถึง 31 ปี ฐานขโมยเสื้อผ้าสตรี รวมถึงชุดชั้นใน รวม 868 รายการ คิดเป็นมูลค่า 2.6 หมื่นดอลลาร์สิงคโปร์ ( ราว 6.2 แสนบาท)

ในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ ( 17 ก.ย.) ตำรวจระบุว่า เป็นคดีขโมยของในร้านใหญ่สุดในรอบหลายปีทั้งในแง่มูลค่าและปริมาณ  มิจฉาชีพเวียดนามขโมยของออกจากร้านด้วยการห่อเสื้อผ้าไว้ในถุงฟอยล์กระดาษ เพื่อไม่ให้เครื่องเซ็นเซอร์กันขโมยตรวจจับได้ขณะเดินผ่าน

ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ถูกนำตัวไปรับฟังข้อหาที่ศาลในวันนี้ และจากเอกสารที่ยื่นต่อศาล ระบุว่าทั้ง 4 คน เข้าไปในร้านยูนิโคล่ ในย่านดาวน์ทาวน์อีสต์ เวลาประมาณ 13.30 น. วันเสาร์ และขโมยเสื้อผ้ากันหนาว 50 ตัว มูลเกือบเกือบ 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ( ราว 2 หมื่นบาท )

ตำรวจจับกุมทั้งหมดได้เมื่อวันอาทิตย์ หลังได้รับแจ้งเหตุจากผู้จัดการร้าน ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ในบรรดาข้าวของถูกขโมย มีเสื้อชั้นในสตรี 529 ตัว กระเป๋าสัมภาระหลายใบ ตลอดจนไม้แขวน และคีม

ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า ชาวเวียดนาม 4 คนทำแบบเดียวกันนี้มาหลายครั้งในแต่ละร้าน และสังเกตเห็นว่าพวกเขาลากกระเป๋าเดินทางหลายใบ ทำให้สงสัยว่าไม่น่าจะใช่การขโมยธรรมดา ขณะนี้ยังตรวจสอบอยู่ว่าพวกเขาเริ่มตระเวนขโมยแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่

เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่า ชาวเวียดนามกลุ่มนี้วางแผนนำของที่ขโมยได้กลับไปขายในประเทศ

หากถูกตัดสินมีความผิด อาจถูกจำคุกสูงสุด 7 ปี และปรับ

ริการ์โด เปรียโต วัย 41 ปี และการ์ลอส บารอน วัย 45 ปี ถูกแจ้งข้อหาปลุกระดมสร้างความเกลียดชัง หลังจากปล่อยคลิปแนวเสียดสีที่กลายเป็นคลิปไวรัล แสดงให้สตรีแต่งชุดดับเพลิงเดินนำลาตัวหนึ่งเข้าไปในสถานีดับพลิงในรัฐเมริดา ทางตะวันตกของประเทศ

ชายคนที่อัดคลิปที่คาดว่าเป็นเปรียโต บรรยายว่า ลาตัวนี้เป็นประธานาธิบดีนิโคลาส มาดูโร ที่กำลังตรวจงาน เมื่อลาหยุดกินหญ้า เสียงในคลิปพูดติดตลกว่า นั่นคือของดีอย่างเดียวที่เรามีอยู่ที่นี่

มุกตลกในคลิปมาจากฉายาของมาดูโร ที่ฝ่ายค้านมักเรียกว่า “มาบูร์โร” แทนมาดูโร เป็นเล่นคำภาษาสเปน คำว่า บูร์โร แปลว่า ลา

เฟอร์นานโด เซอร์เมโน จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนโฟโร เปนาล กล่าวว่า พนักงานดับเพลิงทั้งสองถูกเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของกองทัพจับกุมเมื่อสัปดาห์ก่อน  โดยอาศัยกฎหมายต่อต้านการสร้างความเกลียดชังที่ได้รับความเห็นชอบเมื่อปีที่แล้ว จากสภารัฐธรรมนูญ ที่ถูกฝ่ายค้านประณามว่าเป็นเครื่องมืดยัดข้ออาญาอาญาให้กับผู้เห็นต่าง

กฎหมายฉบับนี้เปิดทางไปสู่การประกาศให้พรรคการเมืองผิดกฎหมาย ปิดสื่อและมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี

สภารัฐธรรมนูญที่ผ่านกฎหมาย เป็นองค์กรนิติบัญญัติใหม่ที่ประธานาธิบดีมาดูโร จัดตั้งขึ้นให้เป็นรัฐสภาใหม่ของเวเนซุเอลาเมื่อปีที่แล้ว หลังจากพ่ายเลือกตั้งไม่สามารถคุมเสียงส่วนใหญ่ในสภาแห่งชาติได้ การตั้งองค์กรนิติบัญญัติใหม่เพื่อเป็นกลไกอำนาจของตัวเอง เป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งของการชุมนุมบนท้องถนนยืดเยื้อ 4 เดือน มีผู้เสียชีวิต 125 คน
กลุ่มสิทธิ โฟโร เปนาล ระบุว่า ผู้ประท้วงสถานการณ์ขาดแคลนอาหารซึ่งเป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน คือสองคนแรกที่ประเดิมภายใต้กฎหมายต่อต้านความเกลียดชังเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งสองถูกควบคุมตัวหลังประท้วงที่ทำให้ต้องปิดถนนในเมืองบาเลนเซียทางเหนือ

เมื่อเดือนสิงหาคม พนักงานของรัฐ ระบุว่าเธอกับครอบครัวถูกไล่ออกจากการเคหะของรัฐ หลังจากที่แชร์ภาพล้อกองทัพเวเนซุเอลาในห้องสนทนา

กลุ่มสิทธิมนุษยชน เอสปาซีโอ ปูบลิโค กล่าวว่า การลงโทษจำคุกฐานใช้เสรีภาพแสดงความเห็น ไม่จำเป็นและไม่เหมาะสม ขัดสนธิสัญญาสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ