ไม่ให้อยู่ต่อ!มาเลเซียจับหนุ่มซีเรียใช้ชีวิตในสนามบินครึ่งปี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/foreign/346296

ไม่ให้อยู่ต่อ!มาเลเซียจับหนุ่มซีเรียใช้ชีวิตในสนามบินครึ่งปี

หนุ่มซีเรีย,สนามบินกัวลาลัมเปอร์,ใช้ชีวิต,ตำรวจจับ,มาเลเซีย

ไม่เหมือนในหนังทอม แฮงคส์! ตร.มาเลเซียย้ายหนุ่มซีเรียออกจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ หลังใช้เป็นบ้านหลังที่สองมานาน 6 เดือน

นายฮัสซัน อัล คอนทาร์ ชายชาวซีเรียที่เป็นข่าวโด่งดังทั่วโลก หลังโพสต์คลิปเผยชีวิตติดค้างอยู่ที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์มาตั้งแต่มีนาคม  ท่าจะไม่โชคดีเหมือน ทอม แฮงคส์ ในหนัง The Terminal ที่จบแบบแฮปปี้ด้วยการได้รับอนุญาตให้เข้าสหรัฐอเมริกาได้ แต่อัล คอนทาร์ ถูกนำตัวออกจากสนามบินไปอยู่ในความควบคุมของตำรวจแล้ว

ไม่ให้อยู่ต่อ!มาเลเซียจับหนุ่มซีเรียใช้ชีวิตในสนามบินครึ่งปี

หนุ่มรายนี้อ้างว่าไม่ต้องการกลับซีเรีย เพราะกลัวถูกเกณฑ์เป็นทหาร และต้องการขอลี้ภัยในประเทศที่สาม เขาโพสต์คลิปวิดีโอเผยชีวิตของตนเองบนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นประจำ ทำให้เป็นที่สนใจของสื่อต่างประเทศและองค์กรสิทธิมนุษยชน

มุสตาฟาร์ อาลี ผู้อำนวยการสำนักตรวจคนเข้าเมือง ให้เหตุผลว่า ผู้โดยสารที่บริเวณรอขึ้นเครื่อง คือผู้ที่มีบอร์ดดิงพาสขึ้นเที่ยวบิน แต่ชายคนนี้ไม่ได้ทำเช่นนั้น เท่ากับว่าเขาอยู่ในพื้นที่หวงห้าม ทางการต้องดำเนินมาตรการจำเป็น

หลังจากตำรวจสอบปากคำแล้ว นายฮัสซันจะถูกส่งตัวไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จากนั้น จะติดต่อพูดคุยกับสถานทูตซีเรียเพื่อส่งกลับประเทศบ้านเกิดต่อไป

บีบีซี ระบุว่ายังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม และไม่ชัดเจนว่าเพราะอะไรแน่จึงทำให้เจ้าหน้าที่นำตัวนายอัล-คอนทาร์ ออกจากสนามบินและจับกุม อีกทั้งไม่ทราบแน่ชัดว่าขณะนี้อยู่ที่ไหน และไม่สามารถติดต่อได้ทาง WhatsApp

ไม่ให้อยู่ต่อ!มาเลเซียจับหนุ่มซีเรียใช้ชีวิตในสนามบินครึ่งปี

อัล คอนทาร์ เคยทำงานในบริษัทประกันในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  (ยูเออี) ตอนที่สงครามซีเรียปะทุ ในปี 2554 เขาต่ออายุหนังสือเดินทางไม่ได้เพราะยังไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร แต่ก็ไม่อยากกลับบ้าน เพราะกลัวถูกจับหรือบังคับเป็นทหารไปรบ จึงอยู่ในยูเออีแบบผิดกฎหมาย กระทั่งถูกจับกุมในปี 2556

ต่อมา หาทางได้หนังสือเดินทางเล่มใหม่จนได้ในปีถัดไป แต่ก็ถูกเนรเทศไปมาเลเซีย หนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่ให้ชาวซีเรียเข้าประเทศแบบไม่ต้องของวีซ่า และเขาได้วีซ่านักท่องเที่ยว 3 เดือน เมื่อวีซ่าหมดอายุ พยายามเดินทางไปตุรกี แต่ไม่ได้รับอนุญาตขึ้นเครื่อง จึงบ่ายหน้าไปกัมพูชาแต่ก็ถูกส่งกลับ  ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เล็กๆภายในในอาคารผู้โดยสารสอง  ได้อาหารบริจาคจากพนักงานสายการบิน

หนุ่มซีเรียจากเมืองซูไวดา ทางใต้ของกรุงดามัสกัส เคยขอลี้ภัยในเอกวาดอร์และกัมพูชา แต่ไม่สำเร็จ

โง่เง่าที่สุด!รุมประณามนักท่องเที่ยวหยอกล้อสิงโตนิวซีแลนด์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/foreign/346274

โง่เง่าที่สุด!รุมประณามนักท่องเที่ยวหยอกล้อสิงโตนิวซีแลนด์

สิงโตทะเล,หยอกล้อ,นักท่องเที่ยว,รุมประณาม,นิวซีแลนด์

สังคมรุมประณามนักท่องเที่ยวหญิง เข้าไปรบกวนกระโดดโลดเต้นใกล้สิงโตทะเลบนหาดนิวซีแลนด์

สิงโตทะเลซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ กำลังนอนเล่นของมันอยู่ดีๆ บนหาดอ่าวแซนด์ฟลาย เมืองดูนดิน ประเทศนิวซีแลนด์ สตรีคนหนึ่งเดินเข้าไปใกล้และรบกวนด้วยการเต้นรำและยกไม้ยกมืออยู่ราว 20 วินาที โดยยืนห่างจากสิงโตทะเลแค่ไม่กี่เมตร สุดท้าย มันรำคาญและหันมาพุ่งใส่ผู้หญิงคนนั้นจนต้องวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว

คลิปนี้ไกลนิส คอร์สัน สตรีชาวนิวซีแลนด์ บันทึกไว้ได้ขณะเดินเล่นกับครอบครัวห่างออกไปราว 80 เมตร และอัพโหลดบนยูทูบ เมื่อวันที่ 30 กันยายนเพื่อเตือนผู้ไปเยือนว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ “นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวนิวซีแลนด์ ต้องเคารพสัตว์ในธรรมชาติ และมีสติเวลาเดินเล่นบนหาด และว่านี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนมากถึงการขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องสิงโตทะเล ผู้หญิงคนนี้อยู่ห่างระยะ 1.5 เมตรเท่านั้น โชคดีมากที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

โง่เง่าที่สุด!รุมประณามนักท่องเที่ยวหยอกล้อสิงโตนิวซีแลนด์

ชาวสังคมออนไลน์ก่นประณามพฤติกรรมไร้ความผิดชอบนักท่องเที่ยว ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งเขียนว่า “เป็นพฤติกรรมโง่เง่าที่สุด” อีกคนก็ใช้คำว่า โง่เง่าเช่นกัน และว่าหากเธอถูกทำร้าย ก็คงโยนบาปให้สิงโตทะเล บ้างเห็นว่าควรแจ้งความ

สำนักงานอนุรักษ์นิวซีแลนด์ ระบุว่า สิงโตทะเลนิวซีแลนด์ เป็นชนิดพันธุ์หายากที่สุดชนิดหนึ่งในโลก สิงโตทะเลเพศผู้โตเต็มวัยอาจหนักถึง 450 ก.ก. และอาจจะยาวถึง 3.5 เมตรเลยทีเดียว  ปัจจุบันคาดว่ายังมีสัตว์ชนิดนี้ราว 1.2 หมื่นตัวในนิวซีแลนด์ แต่จำนวนลดลงเรื่อยๆด้วยหลายสาเหตุ รวมถึงผลกระทบจากกิจกรรมมนุษย์และการทำประมง

ใจสลายเจอเพิ่ม 34 ศพนร.ศึกษาคัมภีร์ในโบสถ์สุลาเวสี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/foreign/346263

ใจสลายเจอเพิ่ม 34 ศพนร.ศึกษาคัมภีร์ในโบสถ์สุลาเวสี

สุลาเวสี,โบสถ์,34ศพ,โคลนถล่ม

เจอ 34 ศพนักเรียนเข้าค่ายเรียนคัมภีร์ไบเบิล ตายหมู่ในโบสถ์โคลนถล่มทับ อีก 52 คนไม่รู้ชะตากรรม

สถานการณ์หลังแผ่นดินไหวและสึนามิในจังหวัดสุลาเวสีกลาง ยังสลดหดหู่ การกู้ภัยและค้นหาในซากปรักหักพังยังดำเนินต่อไป ขณะยอดผู้เสียอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 1,234  ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการเข้าถึงชุมชนห่างไกล และขอบข่ายภัยพิบัติเริ่มชัดเจนมากขึ้น

 

กาชาดอินโดนีเซียแจ้งวันนี้ว่า พบร่างนักเรียน 34 ศพในโบสถ์ จานูจ เทรนนิง เซ็นเตอร์ ที่ถูกโคลนถล่มทับหลังแผ่นดินไหว โบสถ์แห่งนี้มีรายงานว่า นักเรียนสูญหายขณะเข้าข่ายศึกษาคัมภีร์ไบเบิลทั้งหมด 86 คน ที่เหลือยังไม่ทราบชะตากรรม แต่การเข้าถึงและกู้ศพทำได้ยากลำบากมาก เพราะต้องเดินฝ่าโคลน ใช้เวลาเดินเท้าถึงชั่วโมงครึ่งกว่าจะนำศพไปส่งรถพยาบาลได้

โบสถ์แห่งนี้ อยู่ในเขต ซิกิ บิโรมารุ เป็นหนึ่งในพื้นที่ห่างไกล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองปาลู

ด้านผู้รอดชีวิตต้องผจญกับความหิวโหยและกระหายน้ำ อาหารและน้ำสะอาดไม่เพียงพอ โรงพยาบาลรักษาคนเจ็บจนล้น
สำนักงานสหประชาชาติเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรม เตือนว่ามีชาวบ้านต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน 1.9 แสนคน จำนวนนี้เป็นเด็ก 4.6 หมื่นคน และผู้สูงอายุ 1.4 หมื่น จำนวนมากอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้เป็นจุดโฟกัสการกู้ภัยของรัฐบาล นอกจากนี้ ทีมกู้ภัยต้องทำงานแข่งกับเวลาและอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ในการช่วยเหยื่ออีกเป็นจำนวนมาก ติดอยู่ในอาคารบ้านเรือนพังถล่ม เฉพาะที่โรงแรมอา-โรอา ขนาด 80 ห้องแห่งเดียวในปาลู คาดว่ายังติดอยู่ 60 คน

ทำได้อย่างไร! พนักงานร้านกาแฟเทน้ำไล่คนไร้บ้านหัวเราะสนุก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/foreign/346234

ทำได้อย่างไร! พนักงานร้านกาแฟเทน้ำไล่คนไร้บ้านหัวเราะสนุก

เทน้ำใส่คนไร้บ้าน,ร้านกาแฟ

สังคมอเมริกันช็อกคลิปพนักงานร้านดังกินโดนัทสองคน เทน้ำในเหยือกใส่ชายไร้บ้านที่ฟุบหลับอยู่ในร้าน

เหตุการณ์ในคลิปวิดีโอเกิดขึ้นเมื่อค่ำวันอาทิตย์  ที่ร้านดังกินโดนัท ในย่านซีราคิวส์ รัฐนิวยอร์ก  คลิปที่กลายเป็นไวรัลมียอดเข้าดูกว่า 1.6 ล้านวิว เริ่มต้นที่พนักงานคนหนึ่งถามลูกค้าชายที่กำลังนั่งก้มศีรษะจนชิดโต๊ะว่า “อยากนอนใช่มั้ย” ก่อนราดน้ำในเหยือกใส่ศีรษะชายคนนั้น  ขณะพนักงานอีกคนที่อัดคลิปอยู่ หัวเราะอย่างชอบอกชอบใจเมื่อเห็นเป้าหมายเปียกโชก เขาะลุกขึ้นด้วยความตกใจ รีบเก็บโทรศัพท์มือถือ และสายชาร์จออกไปทันทีโดยไม่ได้พูดอะไร

ชายที่ถูกเทน้ำใส่ ชื่อ เจเรมี ดูเฟรสเน วัย 25 ปี เป็นคนไร้บ้านที่มักแวะร้านซึ่งตั้งอยู่บนถนนนอร์ท ซาลีนา เพื่อชาร์จโทรศัพท์โทรหาแม่  ครอบครัวของเขาพยายามช่วยให้เขาย้ายไปอยู่ด้วยแต่เขาอยากใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกมากกว่า ขณะครอบครัวเผยว่า ดูเรฟเนป่วยเป็นโรคจิตเภท

( Samuel Breazeale ที่เผยแพร่คลิปนี้ เปิดเพจระดมความช่วยเหลือให้ดูเฟรสเนแล้ว หวังให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น )   

 ทำได้อย่างไร! พนักงานร้านกาแฟเทน้ำไล่คนไร้บ้านหัวเราะสนุก

ในคลิป พนักงานพูดกับดูฟเรสเน ด้วยว่า บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้มานอนที่นี่ (สบถ) นายมาที่นี่ตลอด กี่ครั้งกี่หนแล้วที่ลูกค้าและคนอื่นๆต้องคอยบอกว่าไม่ให้มาหลับที่นี่ ? เขาบอกด้วยว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ และไม่ใช่ล้อเล่น เขาจะไม่โทรแจ้งตำรวจ แค่อยากให้ออกไป

เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น มีประชาชนราว 20 คน ชุมนุมหน้าร้านดังกินโดนัทที่เกิดเหตุ พร้อมแผ่นป้ายประท้วงเขียนข้อความ ชีวิตคนเร่ร่อนก็มีความหมาย และ คนไร้บ้านก็คนเหมือนกัน

แต่ดูเฟรสเน บอกสื่อแบบไม่ถือสาว่า พนักงานคนนั้นอาจมีปัญหาส่วนตัวและอยากได้คนระบาย

ด้าน เจ้าของร้านสาขานี้ กล่าวว่า ไม่สบายใจกับพฤติกรรมของพนักงานที่ฝ่าฝืนนโยบาย และได้สั่งพักงานแล้วระหว่างรอผลสอบสวน และจะติดต่อขอโทษชายเร่ร่อนต่อไป

เผยทุ่นลอยสึนามินอกสุลาเวสีเสียมานาน 6 ปี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/foreign/346190

เผยทุ่นลอยสึนามินอกสุลาเวสีเสียมานาน 6 ปี

สึนามิ,ทุ่นลอย,สุลาเวสี,ใช้งานไม่ได้

ความสูญเสียอย่างมหาศาล คือผลตามมาจากระบบเตือนสึนามิไม่สมประกอบนอกชายฝั่งอินโดนีเซีย เพราะขาดงบประมาณกับทัศนคติของชาวบ้าน

เครือข่ายทุ่นลอยส่งสัญญาณผิวทะเล  22 ตำแหน่งนอกชายฝั่งเกาะสุลาเวสีที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เซ็นเซอร์บนพื้นทะเล คือระบบที่ใช้ส่งข้อมูลเตือนภัยสึนามิล่วงหน้าไปยังสำนักงานธรณีฟิสิกส์และอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซีย (บีเอ็มเคจี) แต่นายสุโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย (บีเอ็นพีบี) ระบุว่าทุ่นลอยตรวจวัดสึนามิ ใช้การไม่ได้มาตั้งแต่ปี 2555 แล้ว เพราะงบประมาณไม่เพียงพอ และยอมรับว่าบีเอ็มเคจี ที่รับผิดชอบเตือนสึนามิ ยังไม่ได้เข้าถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างมีประสิทธิภาพ

เผยทุ่นลอยสึนามินอกสุลาเวสีเสียมานาน 6 ปี

แกนหลักของระบบเตือนสึนามิของอินโดนีเซีย คือเครือข่ายสถานีตรวจวัดคลื่น 134 ตำแหน่ง ร่วมกับเครื่องมือตรวจจับ วัดและบันทึกวัดแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวบนบก ไซเรน 55 จุด และระบบส่งข้อความแจ้งเตือน

สำนักงานธรณีฟิสิกส์อินโดนีเซีย ออกประกาศเตือนว่า อาจเกิดสึนามิสูง 3 เมตร หลังแผ่นดินไหว 7.4 เวลาประมาณ 18.00 น. วันศุกร์ที่ 28 กันยายน แต่ได้ยกเลิกหลังเวลาผ่านไป 34 นาที โดยตัดสินจากผลตรวจวัดคลื่น 6 ซ.ม. จากจุดที่อยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองปาลู เมืองเอกของสุลาเวสีกลาง ไปทางใต้ ถึง 300 ก.ม. เพราะไม่มีข้อมูลจากปาลู

เผยทุ่นลอยสึนามินอกสุลาเวสีเสียมานาน 6 ปี

หลังโลกเผชิญสึนามิครั้งใหญ่ในปี 2547 คร่าชีวิตเหยื่อ 2.3 แสนคนในกว่า 12 ประเทศ กว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในจ.อาเจะห์ของอินโดนีเซีย นานานาชาติประสานความพยายามยกระดับระบบเตือนสึนามิ โดยเน้นเป็นพิเศษที่มหาสมุทรอินเดียและอินโดนีเซีย หนึ่งในประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิบ่อยที่สุดในโลก  แต่ระบบเซ็นเซอร์บนพื้นทะเล เคเบิลไฟเบอร์-ออบติก และอุปกรณ์ไฮเทคอื่นๆที่มีแผนติดตั้งแทนระบบเดิมหลังแผ่นดินไหวและสึนามิ 15 ปีที่แล้ว เจอปัญหาการเมืองภายในและความล่าช้าในการอนุมัติงบประมาณ 1 พันล้านรูเปียห์ (ประมาณเกือบ 3 ล้านบาท )  ทำให้ระบบเตือนภัยเดิมยังไม่ได้รับการยกระดับ

หลุยส์ คอมฟอร์ต ผู้เชี่ยวชาญจัดการภัยพิบัติมหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก กล่าวว่า น่าเศร้าใจอย่างยิ่งที่เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้ ขณะมีเครือข่ายตรวจจับออกแบบอย่างดีที่อาจให้ข้อมูลสำคัญได้

ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ทุ่นตรวจวัดคลื่นใช้การไม่ได้

ในปี 2559 แผ่นดินไหวนอกเกาะสุมาตรา เขย่าเมืองชายฝั่งปาดัง เผยให้เห็นความจริง ทุ่นลอย ที่แต่ละทุ่นราคาหลายหมื่นดอลลาร์ ไม่ทำงาน ด้วยเหตุว่ามีคนทำให้เสียหายหรือขโมย ตลอดจนเพราะขาดงบประมาณในการบำรุงรักษา

เผยทุ่นลอยสึนามินอกสุลาเวสีเสียมานาน 6 ปี

ด้าน ฮาร์คุนติ พี ราฮายู ผู้เชี่ยวชาญสถาบันเทคโนโลยีบันดุง ชี้ว่า ไฟดับหลังแผ่นดินไหวก็กระทบระบบเตือนภัยด้วย เช่น ไซเรนที่เตือนให้ชาวบ้านอพยพ ใช้งานไม่ได้ “คนส่วนใหญ่ช็อกจากแผ่นดินไหวอยู่ และไม่ได้คิดว่าสึนามิกำลังจะมา”

แม้ว่าการตัดสินใจของบีเอ็มเคจี ในการยกเลิกประกาศเตือนภัยเร็วเกินไป ถูกวิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ แต่อดัม สวิตเซอร์ ผู้เชี่ยวชาญสึนามิ สถาบันสังเกตการณ์โลกของสิงคโปร์ กล่าวว่า ไม่เป็นธรรมเท่าไหร่หากโยนบาปให้หน่วยงานนี้อย่างเดียว เพราะด้านหนึ่งสะท้อนให้เห็นว่า โมเดลเตือนสึนามิที่เรามีอยู่อาจจะง่ายเกินไป ไม่ได้คำนึงปรากฏการณ์หลายอย่างประกอบ แผ่นดินไหวหลายครั้งในเวลาอันสั้น หรือดินถล่มใต้ทะเล กระนั้น สิ่งสำคัญอันดับแรกหลังแผ่นดินไหวในพื้นที่ชายฝั่ง คือควรอพยพขึ้นไปบนที่สูงสักสองสามชั่วโมง ไม่ว่าจะใช้ระบบเตือนภัยแบบไหน

เผยทุ่นลอยสึนามินอกสุลาเวสีเสียมานาน 6 ปี

อัดนาน ฟัดจาร์ ชาวเมืองปาลู บอกสำนักข่าวเอบีซีของออสเตรเลียว่า ครอบครัวของเขาอยู่ห่างจากชายฝั่ง 5 ก.ม. หลังแผ่นดินไหว มีรถประกาศให้ชาวบ้านเฝ้าระวังหลังแผ่นดินไหว พวกเขาบอกว่า ไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะไม่มีสึนามิ แต่ไม่นาน ฝูงชนพากันวิ่งตรงมาและตะโกนว่า สึนามิ สึนามิ!  ครอบครัวของเขาโชคดีเพราะหนีขึ้นที่อยู่ได้ทันโดยรถยนต์

เกวิน ซุลลิแวน นักจิตวิทยามหาวิทยาลัยโคเวนทรี ที่ทำงานในโครงการเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติในเมืองบันดุง  กล่าวว่า หลายคนไม่เชื่อว่าระบบเตือนสึนามิ จำเป็นมาก หลายคนไม่แน่ใจว่าต้องทำอย่างไรหลังมีข้อความเตือน การเห็นคนยังเตร็ดเตร่อยู่ใกล้ชายฝั่งเมืองปาลู ขณะมองเห็นคลื่นกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา สะท้อนว่าไม่ได้ซึมซับบทเรียนจากภัยพิบัติคราวก่อน “ประเด็นอยู่ที่ความล้มเหลวในการอบรม และสร้างความเชื่อมั่นจนประชาชนตระหนักว่าต้องทำอย่างไรเวลาออกประกาศเตือน”

ซึ่งนูโกรโฮ จากสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติ เห็นด้วยในเรื่องที่ประชาชนยังขาดความเข้าใจ สึนามิเกิดบ่อยและอาจก่อความสูญเสียในชีวิตอย่างมากมาย แต่ทัศนคติและการตระหนักต่อภัยธรรมชาติลักษณะนี้ของประชาชนยังน้อยอยู่มาก

แผ่นดินไหวสุลาเวสีก่อ”ปราฏการณ์ทรายเหลว”ซัดตายหลายพัน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/foreign/346003

แผ่นดินไหวสุลาเวสีก่อ”ปราฏการณ์ทรายเหลว”ซัดตายหลายพัน

ต่างประเทศ > ข่าวต่างประเทศ  :  19 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ปรากฎการณ์ทรายเหลว,แผ่นดินเหลว,สุลาเวสี,แผ่นดินไหว

หลายหมู่บ้านในสุลาเวสีเผชิญปรากฏการณ์ธรรมชาติหลังแผ่นดินไหว ที่เรียกว่า ทรายเหลวหรือแผ่นดินเหลว ซัดพังราบ คาดตายด้วยเหตุนี้หลายพัน

เวบไซต์ จาการ์ตา โพสต์ ของอินโดนีเซีย รายงานว่า แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว 7.5 ในสุลาเวสีกลางเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทรายเหลว ( (Liquefaction ) ในหมู่บ้านเปโตโบ เขตปาลูใต้ เมืองปาลู เมืองหลวงของสุลาเวสีกลาง ซึ่งอยู่ห่างจากทะเลราว 10 กิโลเมตร คาดว่ามีผู้เสียชีวิตราว 2,000 คนในเขตนี้ เพราะบ้านจำนวนมากถูกซัดไปกับโคลน

ยูซุฟ ฮัสมิน วัย 45 ปี กล่าวว่า ชาวบ้านพยายามหลบหนีโคลนไหล ที่พวกเขาอ้างว่าม้วนตัวเหมือนกับคลื่น เขากับครอบครัวรอดชีวิต แต่ไม่รู้ว่าญาติพี่น้องคนอื่นเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ภัยพิบัติไม่คาดฝันแบบเดียวกัน ยังเกิดขึ้นที่หมู่บ้านอีกแห่ง ในเขตปาลูตะวันตก เมืองปาลู ด้วย โดยที่หมู่บ้านนี้จมอยู่ใต้โคลน คาดว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นกัน

ทีมค้นหาและกู้ภัยรุดไปยังพื้นที่ประสบภัยเหล่านี้แล้วเมื่อบ่ายวันนี้ พร้อมเครื่องมือหนักสำหรับขุดและเก็บกวาดเศษซากปรักหักพัง

มีคลิปจากโทรศัพท์มือถือแสดงให้เห็นภัยพิบัตินี้ แพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ อาคารหลายแห่งยุบตัวเพราะดินเหลวตีขึ้นมา คลิปนี้มีเสียงระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน โจโน โอเก เขตซิกิ เมื่อบ่ายวันเสาร์ คนอัดคลิปส่งเสียงอุทาน ขณะบ้านเรือนตรงหน้าขยับเขยื้อน

https://twitter.com/Afirhuls/status/1046358961899757568

อีกคลิปหนึ่งบนทวิตเตอร์ แสดงให้เห็นผู้คนวิ่งไปวิ่งไปอย่างไม่รู้จะหนีไปไหน และบ้านเรือนพังทลาย เพราะคลื่นโคลนในพื้นที่แห่งหนึ่งไม่ทราบแน่ชัดในเมืองปาลู

( คลิปแสดงลักษณะการเปิดปรากฏการณ์ Liquefaction ) 

นายสุโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวระหว่างแถลงข่าวยืนยันว่า มีภัยพิบัตินี้เกิดขึ้นจริง  แผ่นดินเหลว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นเมื่อดินทรายใต้ดินที่มีน้ำแทรกอยู่เต็ม ถูกบีบคั้น เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว จนน้ำทะลักขึ้นมาบนผิวดินตามรอยแตก โดยมีทรายกับโคลนก็ไหลออกมากับน้ำด้วย (อ้างอิง http://www.geothai.net/chiangrai_earthquake/ )

แผ่นดินไหวสุลาเวสีก่อ"ปราฏการณ์ทรายเหลว"ซัดตายหลายพัน  

ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,200 คน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก ขณะทีมกู้ภัยเพิ่งเข้าถึงเมืองดองกาลาเมื่อบ่ายวานนี้ ( 30 ก.ย.) หลังถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนับจากวันศุกร์ เนื่องจากถนนเสียหายและการสื่อสารล่ม ดองกาลาอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางมากที่สุด และทางการเกรงว่าจะเจอสภาพเลวร้ายสุดที่นี่

รัฐอุตตรประเทศตั้งทีมสอบปมตร.ยิงดับผู้จัดการ”แอปเปิล”

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/foreign/345994

รัฐอุตตรประเทศตั้งทีมสอบปมตร.ยิงดับผู้จัดการ”แอปเปิล”

ต่างประเทศ > ข่าวต่างประเทศ  :  22 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผู้บริหารแอปเปิล,อินเดีย,ตำรวจยิงดับ,ทีมพิเศษสอบสวน

คดีดังที่อินเดีย ตำรวจยิงผู้จัดการของแอปเปิลในเมืองลัคนาว อ้างไม่ยอมหยุดรถตรวจ ขณะเพื่อนร่วมทางผู้ตายเล่าอีกอย่าง

ตำรวจรัฐอุตตระประเทศ ตั้งทีมสอบสวนพิเศษ เพื่อสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของ วิเวก ทิวารี ผู้จัดการฝ่ายขายของ แอปเปิล ในเมืองลัคนาว ที่ถูกตำรวจยิงระยะใกล้บนถนน แต่จากนั้น รถของเขาก็พุ่งชนเสาและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

ขณะที่นายโยคี อทิตยนาถ มุขมนตรีรัฐอุตตระประเทศ ให้ความมั่นใจว่าจะไม่ละเว้นคนผิดอย่างแน่นอน และหากจำเป็น ก็จะขอให้สำนักงานสอบสวนกลางอินเดีย (ซีบีไอ)เข้ามาสอบสวนด้วย

การตั้งทีมสอบสวนพิเศษเป็นไปตามคำร้องขอของครอบครัวนายทิวารี  วัย 38 ปี ขณะตำรวจสองนายในที่เกิดเหตุถูกแจ้งความข้อหาฆาตกรรม

ตำรวจระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 1.30 น. วันเสาร์ ผู้ตายกำลังขับรถกลับบ้าน กับเพื่อนร่วมงาน ซานา ข่าน หลังงานเปิดตัวไอโฟน เอ็กซ์ พลัส  ขณะตำรวจสองนายที่กำลังตรวจท้องที่เข้าไปใกล้รถเอสยูวีของเขาเพื่อขอตรวจสอบตามปกติ นายทิวารีพยายามหลบหนี จนเกิดโศกนาฏกรรม

ผลชันสูตรศพพบเหยื่อถูกยิงกระสุนปืนทะลุใต้คางติดอยู่ระหว่างรอกับศีรษะ เสียชีวิตเพราะเสียเลือดมาก  แต่พฤติการณ์แวดล้อมก่อนมาถึงตำรวจตัดสินใจยิง ยังคลุมเครือ

ประจัน เชาฮารี ตำรวจที่ชักปืนออกมายิง อ้างว่า เขาตัดสินใจยิงเพื่อป้องกันตัวเอง หลังจากทิวารีพยายามขับรถพุ่งชน “เราเห็นรถต้องสงสัยจอดข้างทาง และปิดไฟอยู่ พอเข้าไปใกล้ คนที่อยู่ในรถก็สตาร์ทรถทันที เราจอดรถจักรยานยนต์ไว้หน้ารถคันนั้น เขาชนรถของเรา พอโบกมือให้หยุด แต่เขากลับหันรถมาชนเราอีกครั้ง เราขอให้เขาลงมา แต่เขาพยายามหลบหนี พุ่งรถมาหาเราเป็นครั้งที่สาม ชนรถจักรยานยนต์เต็มแรง ผมล้มและลุกขึ้นมา ชักปืนสั้นเพื่อข่มขวัญอีกฝ่าย แต่เขาพยายามพุ่งชนเรา จึงต้องยิงเพื่อป้องกันตัว แต่ต่อมา เขาเปลี่ยนคำพูดว่าชักปืนออกมาจริง แต่ปืนลั่น ไม่ได้ตั้งใจยิง

ขณะที่ ซานา ข่าน เพื่อนร่วมทางของผู้ตาย เล่าต่างกันว่า ตำรวจมาขวางรอและพยายามบังคับหยุดรถ ระหว่างทิวารีขับรถไปส่งเธอที่บ้าน แต่ทิวารีไม่ยอมหยุด เราไม่รู้ว่าทั้งสองเป็นใคร และแค่พยายามจะออกจากจุดนั้น และขยับรถไปข้างหน้า จนชนกับรถจักรยานยนต์ที่ขวางอยู่ ทันใดนั้น ชายตรงหน้าก็ชักปืนออกมายิงโดยไม่มีการเตือน หลังถูกยิง ทิวารีตกใจและพารถไปชนเสาใต้ทางยกระดับ บาดเจ็บสาหัส

ข่านอ้างว่า ตำรวจทั้งสองหลบหนีไป ขณะที่เธอพยายามโบกรถบรรทุกขอความช่วยเหลือ  ตำรวจอีกทีมรุดมาถึง

คัลพานา ภรรยาของผู้บริหารแอปเปิล และครอบครัว กล่าวว่า แม้พบพฤติกรรมต้องสงสัยใดก็ตาม ควรจับกุม ไม่มีสิทธิยิง นอกจากนี้ กระจกรถเอสยูวีของผู้ตายไม่ได้ติดฟิล์ม สามารถมองเห็นได้ว่าใครอยู่ข้างใน พร้อมกับขอให้ซีบีไอเข้ามาสอบสวน

จีนบึ้มทำลายสะพานเก่า1.5 ก.ม.ในพริบตาเตรียมสร้างใหม่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/foreign/345945

จีนบึ้มทำลายสะพานเก่า1.5 ก.ม.ในพริบตาเตรียมสร้างใหม่

สะพานข้ามแม่น้ำ,ระเบิดทาลายสะพาน,จีนระเบิดทำลายสะพาน,15 กม,เตรียมสร้างใหม่

สะพานข้ามแม่น้ำในมณฑลเจียงซี ถูกทำลายด้วยระเบิดควบคุม ปูทางสร้างใหม่ให้สอดรับกับสภาพจราจรที่คับคั่ง

สะพานจี๋อาน ก้านเจียง ข้ามแม่น้ำก้าน มณฑลเจียงซี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ที่เปิดใช้มานาน 23 ปี ไม่สามารถตอบสนองกับความต้องการใช้รถใช้ถนนของประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการซ่อมแซมและปรับปรุงหลายครั้ง ก็ยังไม่สามารถยกระดับความปลอดภัยให้ดีขึ้นได้

ทางการท้องถิ่นจึงอนุมัติแผนการทำลายสะพาน เมื่อช่วงสายของวันศุกร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ท่ามกลางสายตาของประชาชนจำนวนมากไปเฝ้าดู

คนงานใช้ระเบิดหลายตันติดตั้งบนเสาหลัก 4 เสาของสะพาน กับตอม่อ 61 จุด

                    ภาพจากคลิปวิดีโอแสดงให้ว่าหลังเสียงระเบิดดังสนั่นดังขึ้น มอเตอร์เวย์ข้ามแม่น้ำ ความยาว 1,577 เมตร ยุบตัวลงเป็นเมฆฝุ่นและเศษซากหักพังจมลงไปในแม่น้ำก้าน ภายในน้ำในเวลาไม่วินาที

การก่อสร้างสะพานจี๋อาน ก้านเจียง เริ่มเมื่อกันยายน 2536 เปิดใช้งานในกันยายน 2538

แต่ด้วยจำนวนยวดยานข้ามสะพานมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับปัจจัยหลายอย่าง ทำให้โครงสร้างสะพานเสียหายถาวร แม้ซ่อมแซมหลายครั้งแต่สะพานยังถูกประเมินว่าอันตรายคณะกรรมการก่อสร้างและผังเมืองจึงมีมติให้สร้างใหม่เมื่อพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำความยาว 2,211 เมตร ความกว้าง 6 เลน  การก่อสร้างจะเริ่มในมกราคมปีหน้า หลังจากเก็บกู้เศษซากหักพังใต้น้ำออกแล้ว และมีแผนเปิดใช้ในเดือนมิถุนายน 2564

 จีนบึ้มทำลายสะพานเก่า1.5 ก.ม.ในพริบตาเตรียมสร้างใหม่

 จีนบึ้มทำลายสะพานเก่า1.5 ก.ม.ในพริบตาเตรียมสร้างใหม่

 จีนบึ้มทำลายสะพานเก่า1.5 ก.ม.ในพริบตาเตรียมสร้างใหม่


สังคมมาเลย์เดือดพี่เลี้ยงใช้พริกอุดปากเด็กดับคุกแค่18เดือน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/foreign/345936

สังคมมาเลย์เดือดพี่เลี้ยงใช้พริกอุดปากเด็กดับคุกแค่18เดือน

พริกอุดปาก,โซเชียลมาเลย์,คุกปีครึ่ง,โซเชียลเดือด

ชาวโซเชียลมาเลเซียรับไม่ได้ พี่เลี้ยงเด็กที่ใช้พริกอุดปากเด็กจนขาดใจตาย โดนโทษจำคุกแค่ 18 เดือน

ชาวมาเลเซียใช้สื่อสังคมออนไลน์ แสดงความไม่พอใจและไม่อยากเชื่อ กรณีที่ศาลตัดสินลงโทษพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่ง จำคุก 18 เดือน จากการทำให้เด็กที่ตัวเองรับดูแลอยู่เสียชีวิต เพราะใช้พริกเขียวอุดปากจนขาดอากาศหายใจ

หลายคนชี้ว่า โทษจำคุก 18 เดือน ไม่ยุติธรรม และคดีความผิดที่เบากว่า ยังโทษหนักกว่านี้

ครีชา เคท คาโรนัน ระบุว่า คุุณค่าชีวิตของเด็กคนหนึ่งกับคุก 18 เดือน และพ่อแม่ที่จะต้องทรมานไปตลอดชีวิต ขณะฆาตกรจะติดคุก 18 เดือนเท่านั้น ส่วนผู้ใช้เฟซบุ๊ก เจสัน ลิม ระบุว่า ขนาดขโมยมะพร้าว 2 ลูก ยังถูกจำคุกมากกว่า 18 เดือนเสียอีก

นอกจากคำตัดสินลงโทษที่สร้างความไม่พอใจแล้ว จนถึงขณะนี้ หลายคนยังสงสัยว่าเหตุใดพี่เลี้ยงเด็กจึงใช้พริกอุดปากเด็กที่กำลังป่วย จึงร้องโยเย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งที่เด็กต้องการก็แค่การปลอบประโลมเท่านั้น

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 13 มิุถนายน เด็กชายมูฮัมหมัด อาฟิฟ คามาโรล อัซลี วัย 2 ขวบครึ่ง ไม่สบาย และร้องไห้ไม่หยุด นางอัสมารานี กาซาลี  พี่เลี้ยงและเป็นแม่ลูกสาม พยายามกล่อมแต่ไม่ได้ผล จึงทำให้เงียบด้วยการเดินไปหยิบพริกเขียวจากตู้เย็น หักเป็นสองท่อนแล้วใส่เข้าไปในปากเด็กน้อยให้หยุดร้อง  แต่หลังเห็นเด็กเริ่มมีปัญหาในการหายใจ เธอกับสามี จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

อัสมารารี ซึ่งเลี้ยงเด็กชายมูฮัมหมัดมานานสองปี ถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรม แต่ให้การปฏิเสธ ต่อมา ถูกแจ้งข้อหาความผิดใหม่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี หรือปรับสูงสุด 5 หมื่นริงกิต ซึ่งเธอรับสารภาพข้อหานี้

มารดาของเด็กชาย ซึ่งส่งมูฮัมหมัดกับพี่ชายวัย 5 ขวบ ไปฝากเลี้ยงที่บ้านของอัสมารานี
กล่าวในศาลว่า ความสุขของครอบครัวพังทลาย ลูกชายของเธอต้องตายเพราะถูกละเมิดโดยเจตนา ไม่ใช่เพราะความประมาท

อัยการขอให้ศาลลงโทษจำคุก 10-15 ปี เนื่องจากเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ทนายจำเลยขอลดโทษลง โดยให้เหตุผลว่าจำเลยรับสารภาพ และอ้างว่าจำเลยไม่รู้ว่าเด็กชายกลืนพริกลงไป เรื่องที่เกิดขึ้นป็นอุบัติเหตุและเธอรู้สึกผิด

ไม่หนีแผ่นดินไหว!จนท.บังคับการบินสุลาเวสีทำหน้าที่จนตัวตาย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/foreign/345918

ไม่หนีแผ่นดินไหว!จนท.บังคับการบินสุลาเวสีทำหน้าที่จนตัวตาย

หอควบคุมการบิน,แผ่นดินไหว,ฮีโร่หนุ่ม,ทำหน้าที่,นาทีสุดท้าย,เที่ยวบินสุดท้าย

หอควบคุมการจราจรทางอากาศสนามบินในเมืองปาลู สุลาเวสีกลางพังถล่มหลังแผ่นดินไหว คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่หนุ่มที่หนีลงไม่ทันเพราะอยู่ทำหน้าที่จนเที่ยวบินสุดท้าย

ในบรรดาเหยื่อภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิหลายร้อยคน ที่เมืองปาลู เมืองหลวงของเกาะสุลาเวสีกลาง  คือ แอนโทเนียส กุนาวัน อากุง หนุ่มวัย 21 ปี ที่ทำหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศจนถึงนาทีสุดท้าย หลังแผ่นดินไหวเมื่อเย็นวันศุกร์

แอนโทเนียสทำหน้าที่ จนมั่นใจว่าเที่ยวบินสุดท้ายสามารถทะยานขึ้นจากสนามบิน มูเทียรา อาซิส อั-จูฟรี  และต้องกระโดดลงจากหอควบคุมการจราจรทางอากาศ ที่กำลังจะพังลงมา แต่เคราะห์ร้ายที่เขาเสียชีวิต ก่อนได้ฉลองวันเกิดครบรอบ 22 ปีในเดือนหน้า

โยฮันเนส สิราอิต โฆษก AirNav Indonesia หน่วยงานรัฐที่กำกับการบิน ระบุในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหว แอนโทเนียสเพิ่งเคลียร์น่านฟ้าให้กับ บาติค แอร์ ขึ้นบิน และอยู่รอจนเครื่องบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างปลอดภัยแล้ว แต่เมื่อกำลังจะออกจากห้องทำงาน แรงสั่นสะเทือนหนักขึ้นเรื่อยๆ ต้องตัดสินใจกระโดดลงมาเพราะหอคอยสูง 4 ชั้นกำลังพังถล่ม แอนโทเนียสขาหักกับบาดเจ็บภายใน สิ้นใจระหว่างรอเฮลิคอปเตอร์มารับตัว

เราเสียใจอย่างสุดซึ้งและสวดภาวนาให้ดวงวิญญาณของอากุงและเหยื่อคนอื่นๆ

สำหรับศพของเขา จะส่งไปยังเมืองมาคัสซาร์ ก่อนส่งไปที่บ้านเกิดเมืองอาเบปูรา เพื่อให้ครอบครัวรับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

https://www.instagram.com/p/BoRttnsn5po/

https://www.instagram.com/p/BoTAm_OnFtp/

ด้าน ริโคเซตตา มาเฟลลา นักบิน บาติก แอร์ กัปตันเที่ยวบินสุดท้าย แสดงความขอบคุณต่อการทำหน้าที่ของเขา  และได้แชร์ถ้อยคำสุดท้ายของฮีโร่หนุ่มบนอินสตาแกรม “Batik 6231 runway 33 clear for take off” “เที่ยวบินบาติก 6231 รันเวย์ 33 เคลียร์ ขึ้นบินได้”

กัปตัน มาเฟลลา โพสต์ว่าเขาขอให้หอควบคุมจราจรทางอากาศ เปิดทางให้เขานำเครื่องบินทะยานขึ้นก่อนกำหนด 3 นาที และอากุงก็รับจัดการให้