ทุกสัปดาห์ เหล่าหนอนหนังสือหลายร้อยคนจะแห่แหนไปยังห้องสมุดหลี่หยวน หมู่บ้านเจียวเจี่ยเหอ ชานกรุงปักกิ่ง ที่รายล้อมไปด้วยต้นเกาลัด วอลนัต และต้นท้อ ที่มาของกิ่งก้านนำไปใช้ตกแต่งอาคาร

ห้องสมุดมีฐานเป็นเหล็กกับกระจก แต่ผนังภายนอกตกแต่งด้วยกิ่งไม้วางเป็นแนวตั้ง

ทางเดินเข้าห้องสมุดเป็นสะพานไม้ ภายในเป็นห้องขนาดใหญ่ออกแบบเป็นพื้นที่โปร่งโล่ง แสงสว่างลอดผ่านช่องไฟระหว่างกิ่งไม้ ส่วนชั้นวางหนังสือออกแบบเป็นฉากกั้นและเป็นพื้นที่นั่งอ่านได้ด้วย

แต่พื้นที่ภายในรองรับได้เพียงครั้งละ 40 คนเท่านั้น ผู้ไปเยือนจะต้องไปต่อแถวรอเข้าห้องสมุด ที่จะเปิดเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์

ห้องสมุดแห่งนี้เปิดบริการเมื่อเดือนเมษายน 2555  ทุกสุดสัปดาห์ จะมีผู้ไปเยี่ยมชมจำนวนมาก หลายคนชื่นชอบการออกแบบ เมื่อไปแล้วย่อมได้รูปถ่ายสวยๆมาอวดบนสื่อสังคมออนไลน์  แต่เจ้าของ พ่าน สี กล่าวว่า เวลานี้ห้ามถ่ายรูปข้างในแล้ว เพราะมีหลายคนมาเพื่อถ่ายรูปอย่างเดียว บางคนถึงขั้นแต่งชุดมาโดยเฉพาะ แต่เรายังต้องการให้สภาพแวดล้อมสร้างแรงบันดาลใจแก่คนรักการอ่าน

( สภาพแวดล้อมรอบห้องสมุดหลี่หยวน ) 

คงมีคู่สมรสไม่กี่คู่ที่เริ่มต้นด้วยการปล่อยให้เจ้าบ่าวไปทำหน้าที่ดับเพลิง อย่าง เจเรมนี บูร์ราซา และเจ้าสาว คริสตา ในรัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา ที่กำลังจัดพิธีวิวาห์ในสถานีดับเพลิงเซนต์พอล สถานที่ทำงานของเจ้าบ่าว  แต่เจ้าบ่าวต้องออกจากงานกลางคัน ไปช่วยดับไฟไหม้บ้านของครอบครัวหนึ่ง

คริสตา เปลี่ยนใจมาจัดงานวิวาห์ที่สถานีดับเพลิงของสามี หลังจากแผนเดิมที่ตั้งใจจะจัดอีกสถานที่หนึ่งล้มไปในนาทีสุดท้าย ทั้งสองเคยคุยกันเล่นๆว่าถ้าเกิดมีเหตุเรียกตัวไปดับเพลิงจะทำอย่างไร  คริสตาบอกว่าสามีว่า ก็ให้คนอื่นไปแทนได้ คุณไม่ต้องทิ้งงานแต่งไปหรอก

พิธีในวันที่ 1 กันยายนดำเนินไปด้วยดี ทั้งสองแลกเปลี่ยนคำสาบานหน้าฉากที่น้องเขยของเจ้าสาวติดตั้งให้ ตามด้วยการถ่ายรูป  เสียงสัญญาณดังขึ้นว่ามีเหตุไฟไหม้บ้านในพื้นที่ใกล้เคียงห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร เจเรมีมองหน้าเจ้าสาว แต่เธอยังอยากให้เก็บภาพเสร็จสิ้นก่อน

ไม่กี่นาทีต่อมา เสียงวิทยุแจ้งเหตุไฟไหม้จุดเดิมอีกครั้งและต้องการกำลังเสริม  “ฉันมองหน้าเจเรมี อ่านสายตาของเขาออก เขารู้สึกแย่มาก ฉันบอกให้เขาไปเลย พวกเขาต้องการคุณ” เจเรมีถอดชุดเจ้าบ่าวสวมชุดดับเพลิงกระโดดขึ้นรถทันที

ดีเซมเบอร์ ออร์เพน ช่างภาพในงานที่เพิ่งถ่ายได้ไม่กี่รูปในเวลานั้น กล่าวว่า นี่คือความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข ปราศจากความเห็นแก่ตัว ไม่ใช่รักเพื่อกันละกันแต่เพื่อส่วนรวมและเพื่อสิ่งที่ถูก

หลังเจเรมีออกไปทำหน้าที่ พิธีแต่งงานยังดำเนินต่อไป คริสตานำสวดก่อนเข้าสู่งานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำแก่พนักงานดับเพลิงและครอบครัวที่สูญเสียบ้านจากไฟไหม้ เจเรมีตามมาสมทบในกี่ไม่ชั่วโมงหลังจากนั้น ทันเวลาเต้นรำกับเจ้าสาว

KARE 11/YouTube

เจ้าบ่าวกล่าวว่าความเข้าใจของคริสตา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองแนบแน่น เธอจะเป็นที่รักคนเดียวตลอดชีวิต
ขณะเจ้าสาวเขียนบนเฟซบุ๊กว่า เธอได้แต่งงานกับฮีโร่ในชีวิตจริง และแม้มีเหตุไม่คาดฝัน แต่การแต่งงานของเธอ งดงาม และดีกว่าที่เธอจินตนาการไว้เสียอีก

หลังจากฟ่านปิงปิง นักแสดงชาวจีนชื่อดัง ถูกทางการจีนควบคุมตัวในข้อหาเลี่ยงภาษี แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน นับจากไม่ปรากฎตัวนานร่วม 3 เดือน ล่าสุดมีข้อมูลอีกด้านว่าก่อนหายตัวไป ดาราวัย 37 ปีได้ยื่นฟ้อง “กัว เหวินกุ้ย” มหาเศรษฐีชาวจีนในข้อหาหมิ่นประมาท จากการกล่าวหาว่า เธอมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับรองประธานาธิบดีหวัง ฉีซาน

กัว เหวินกุ้ย มหาเศรษฐีจีนเปิดโปง คอร์รัปชั่นในจีนจากนิวยอร์ก

บิสเนสส์ อินไซเดอร์ รายงานอ้างแอนดรูว์ เบรตเลอร์ ทนายของฟ่าน ว่าได้ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทในนิวยอร์ก เมื่อเดือนกรกฎาคม 25560 แต่ไม่แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานะของคดี ขณะยอมรับว่าไม่ได้รับการติดติดต่อจากดาราสาว หรือตัวแทนของเธอในจีนมาตั้งแต่เดือนเมษายน

กัว เหวินกุ้ย หรือ “ไมล์ส กว็อก”  ซึ่งหนีไปอยู่ที่นิวยอร์กและกำลังขอลี้ภัยทางการเมือง หลังถูกตั้งข้อหาทุจริตหลายกระทงในจีน เมื่อปี 2557  มักทำคลิปโจมตีเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนรวมทั้งรองประธานาธิบดีหวัง บนเวบไซต์ยูทูบ และมี 2 คลิป กล่าวหาฟ่าน ปิงปิง ว่า มีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวมายาวนานกับรองประธานาธิบดี วัย 70 ปี ทั้งยังใช้ความสัมพันธ์นี้เรียกรับสินบนเข้ากระเป๋า แลกกับใบอนุญาตข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์

คำกล่าวอ้างของมหาเศรษฐีลี้ภัยรายนี้ มักถูกเพ่งเล็งเรื่องความถูกต้อง เช่น ก่อนหน้านี้เคยอ้างว่าซื้ออพาร์ทเมนต์ในนิวยอร์ก 82 ล้านดอลลาร์ แต่จริงๆ จ่ายเงินซื้อ 67.5 ล้านดอลลาร์ ส่วนกรณีการหายตัวไปของฟ่านนั้น กัว เหวินกุ้ย ให้สัมภาษณ์เดลีย์เมล์ว่า ไม่ได้เกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องเลี่ยงภาษี ที่เขาเรียกว่าเป็นแค่ม่านบังตา แต่การตกอับของฟ่าน มาจากการต่อสู้ภายในพรรคคอมมิวนิสต์ “ตอนแรกมีใครบางคนพยายามใช้เธอเป็นสะพานเข้าหารองผู้นำจีน ต่อมา ใครบางคนก็อยากปิดปากเธอ” นอกจากนี้  เขาอ้างว่าฟ่านถูกคุมตัวในโรงแรมใกล้กับสนามบินทหาร ในกรุงปักกิ่ง ที่ใช้เป็นสถานที่สอบปากคำ

( รองประธานาธิบดีหวัง ฉีซาน ) 

รองประธานาธิบดีหวัง ฉีซาน เป็นสมาชิกสูงสุดอันดับที่ 8 ของพรรคคอมมิวนิสต์ โดยมักถูกเรียกว่าเป็นมือขวาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปรามปรามการคอรัปชั่นในประเทศ

สื่อหลายแห่งรายงานกันไปต่างๆนานาว่าฟ่าน ปิงปิงอยู่ที่ไหน  แอปเปิลเดลีย์ สื่อฮ่องกง รายงานว่าฟ่านถูกสอบปากคำอยู่แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน ขณะที่ เซ็คเคียวริตี เดลีย์ สื่อทางการจีน รายงานเมื่อต้นเดือนว่าฟ่านถูกควบคุมตัวอยู่ และพร้อมยอมรับผลตัดสินข้อหาเลี่ยงภาษี

คลิปจากกล้อง โกรโปร นอกชายฝั่งเกาะไคคูรา เกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ แสดงให้เห็น ไคล์ มูลอนเดอร์ กำลังพายเรือคายัคกับเพื่อนร่วมคณะอยู่ดีๆ ก็เจอกับเหตุวิวาทดุเดือดระหว่างสองเจ้าถิ่นจากฝั่งซ้าย

มูลินเดอร์ บอกยาฮู นิวส์  ว่า กำลังนั่งอยู่กลางมหาสมุทร ทันใดนั้น แมวน้ำตัวใหญ่มาก โผล่ขึ้นมาพร้อมกับหมึกยักษ์ ที่คงถูกโจมตีมาพักใหญ่ การต่อสู้หายลงไปใต้น้ำ ก่อนที่ทั้งคู่โผล่ขึ้นมาพร้อมกัน

(GoPro)

(GoPro)

(GoPro)

คลิปแสดงให้เห็นแมวน้ำพุ่งกระโจนขึ้นมาเหนือน้ำพร้อมกับคาบหมึกยักษ์อยู่ที่ปาก ก่อนเหวี่ยงมาที่หน้าของมูลินเดอร์  ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่า มันเกิดขึ้นระหว่างต่อสู้ หน้าของเขาไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา

จากนั้นทั้งสองตัวก็หายลงไปในน้ำ  มูลินเดอร์ได้แต่อึ้งและงงว่าเกิดอะไรขึ้น เขากล่าวว่ามันแปลกสุดๆ และเกิดขึ้นเร็วมาก แต่เขายังรู้สึกได้ถึง

แรงฟาดจากหมึกยักษ์บนใบหน้า จากคลิปจะเห็นว่ามูลินเดอร์ร้องตะโกนปลดปล่อยออกมาอย่างดัง ท่ามกลางเสียงโหวกเหวกของเพื่อน

เวบไซต์สำนักข่าว Guang Ming รายงานว่า เหลียง เลขานุการวัย 60 ปี จากเขตบาเฮา เมืองเนกรีเซมบิลัน ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ จากร้านเบเกอรีดังในเมืองเซเรมบัง เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2546

ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ถั่วแดงหวานกลมกล่อม ส่วนแป้งขนมอบได้แบบไม่มีที่ติ  เธอตัดสินใจซื้อมา 2-3 ชิ้น และเก็บไว้ 1 ชิ้นไม่แกะถุงเป็นที่ระลึก

“ฉันเก็บขนมไหว้พระจันทร์ก้อนนี้มานาน 15 ปีแล้ว เทศกาลไหว้พระจันทร์ทุกปี ฉันจะนำมันออกมาชื่นชมความสวยงามกับเพื่อน แต่ไม่ได้กินสักที ปีนี้พิเศษกว่าเดิมเพราะได้รัฐบาลใหม่แล้ว”

จากภาพที่เธอนำมาให้ดู แสดงให้เห็นว่า ขนมไหว้พระจันทร์ ยังคงสภาพเหมือนเดิม สียังแจ่มชัดเหมือนกับเมื่อ 15 ปีก่อนตอนซื้อมา แต่ข้างในไม่มีใครบอกได้ ชาวเน็ตจำนวนมากให้ความสนใจ และเป็นไปตามคาดที่หลายคนไม่เชื่อในรูปที่ปรากฎ

“ฉันรู้ว่าขนมไหว้พระจันทร์เก็บไว้ได้นานโดยไม่เสีย เพราะมีทั้งเกลือและน้ำตาลสูง แต่ก็ไม่คิดว่าจะอยู่ยาวนาน 15 ปี”  บ้างว่า ก็ไม่ได้ถึงกับพิเศษอะไร เป็นวิทยาศาสตร์ธรรมดา เพราะในขนมมีน้ำน้อย แพ็คแน่นหนาไม่มีอากาศเข้า บวกกับกันชื้นและเก็บไว้ในที่เย็นและมืด

แต่อีกคนที่เชื่อว่าซื้อมาตั้งแต่ปี 2546 เพราะราคายืนยันได้ ตอนนั้น ขนมชิ้นหนึ่งราคา 5.25 ริงกิต เป็นไปไม่ได้เลยที่จะซื้อในราคานี้ได้ในปัจจุบัน คิดถึงขนมไหว้พระจันทร์ในตอนนั้นมาก นี่เป็นขนมพิเศษจริงๆ

แอนนา ดอฟกัลยุค นักศึกษากฎหมายชาวรัสเซียวัย 20 ปี ที่เคยเรียกเสียงฮือฮาเป็นข่าวทั่วโลก ครั้งที่เธอเลิกกระโปรงให้เห็นชั้นใน ที่สถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่ง เพื่อประท้วงการแอบถ่ายใต้กระโปรงในรัสเซีย

ล่าสุด ดอฟกัลยุคที่อ้างว่าเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมเพื่อสิทธิผู้หญิงและต่อต้านการแบ่งแยกปฏิบัติทุกรูปแบบ  เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ทำขึ้นมาเพื่อผู้ชายทุกคนที่ชอบนั่งกางขาบนรถไฟแล้วคิดว่าเป็นเรื่องปกติ  ด้วยการผสมน้ำอัตราส่วน 30 ลิตรกับน้ำยาฟอกขาว หรือ บลีช 6 ลิตร นำไปเทใส่เป้ากางเกงของชายแปลกหน้าหลายคน บนสถานีรถไฟใต้ดินเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก

การทำเช่นนี้เพื่อให้เกิดรอยด่างถาวรบนกางเกงยีนตรงจุดนั้น เพื่อให้ทุกคนเข้าใจทันทีว่าอวัยวะส่วนใดของร่างกายที่ควบคุมพฤติกรรมของผู้ชายเหล่านั้นอยู่  ในความคิดของเธอ การนั่งกางขาคือการกินที่ผู้อื่น และเป็นการคุกคามทางเพศอย่างหนึ่ง ที่ไม่มีใครคิดจัดการ เธออ้างว่าทำในนามของทุกคนที่ต้องทนกับการประกาศศักดาคุณสมบัติความเป็นชายบนระบบขนส่งสาธารณะ

ชาวเน็ตบางคนชี้ว่า บลีชอันตราย ผิวหนังอาจไหม้ได้ บ้างระบุว่า หากเกิดความเสียหายกับเสื้อผ้า หรือของที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง นั่นคือความผิดอาญาแล้ว และน่าตลก ที่คนทำเองก็เป็นนักศึกษากฎหมาย อีกคนโจมตีเฟมินิสต์ที่ทำแต่เรื่องไร้สาระ

นอกจากนี้มีผู้แสดงความเห็นว่า แอนนาราดน้ำผสมบลีชใส่คนอื่น โดยไม่มีใครทำร้ายเธอ เหตุผลหนึ่งก็เพราะเธอเป็นผู้หญิง บ้างว่าถือเอาแนวคิดนี้ไปเจรจากับพวกนั่งกางขาว่าขอให้เลิกนิสัยก็ดีเหมือนกัน ขณะที่ดอฟกัลยุค กล่าวว่า หลังจากนี้จะไปรณรงค์ยุตินิสัยนั่งกางขา ที่มอสโกและคาซันเป็นลำดับต่อไป

สำนักข่าวหลายแห่งในญี่ปุ่น รายงานว่า นางเอมิริ ซูซาคิ สตรีว่างงานวัย 49 ปี ถูกจับกุมตัวในวันนี้ หลังจากรับสารภาพว่าซุกซ่อนศพทารกตายคลอดไว้ในตู้ล็อคเกอร์แบบหยอดเหรียญมาหลายปี

บ่ายวันจันทร์ ตำรวจพบศพทารกสภาพเน่าเปื่อยแล้วอยู่ในถุงพลาสติก ภายในล็อคเกอร์เก็บกระเป๋าเดินทาง ใกล้สถานีรถไฟ อูกุยสุดานิ เขตทาอิโตะ กรุงโตเกียว หลังจากที่นางซูซาคิ เดินทางไปที่สถานีตำรวจในเขตอาระคะวะที่อยู่ใกล้เคียง ในเช้าวันเดียวกัน  และสารภาพกับตำรวจเองว่าเธอทิ้งศพทารกคลอดตาย หลังจากคลอดเด็กคนนี้เมื่อ 4-5 ปีก่อน

เธออ้างว่า ตกใจทำอะไรไม่ถูก หลังจากคลอดลูกแล้วตาย เธอไม่สามารถกำจัดได้จึงตัดสินใจเก็บศพไว้ในล็อคเกอร์หยอดเหรียญ และย้ายตู้เก็บไปเรื่อยๆแต่ยังเป็นล็อคเกอร์เดียวกันตลอดหลายปีที่ผ่านมา ครั้งหลังสุด เพิ่งย้ายเมื่อ 13 กันยายน

แม้ว่าคดีทิ้งทารกในญี่ปุ่น  มีอายุความ 3 ปี แต่ตำรวจจับกุมเธอหลังลงความเห็นว่าการย้ายศพไปอีกตู้หนึ่งเท่ากับเป็นการกำจัดทารกเป็นหนที่สอง

ซูซาคิ ตัดสินใจมอบตัว หลังจากที่เธอถูกเพื่อนไล่ออกจากบ้านที่เคยขออาศัยมาหลายปี เพราะมีปากเสียงกัน แต่ตอนออกจากบ้านลืมกุญแจล็อคเกอร์ไว้ และคิดว่าเพื่อนของเธออาจเจอกุญแจแล้วนำไปเปิดและพบศพทารก

เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าแม่ทิ้งทารกทันทีหลังถือกำเนิด และกำลังสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด

คฤหาสน์หลังหนึ่งที่ถูกทิ้งร้างขณะยังสร้างไม่เสร็จ ถูกใช้เป็นโรงเรียนชั่วคราวให้ครู 4 คน สอนเด็กหญิงและเด็กชายราว 100 คน ในพื้นที่ที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยึดครอง ทางตะวันตกของจังหวัดอเล็ปโป ทางเหนือของซีเรีย

โรงเรียนที่มีชื่อว่า ต้นกล้าแห่งความหวัง  ไม่มีโต๊ะ เก้าอี้ ห้องสมุด หรือห้องน้ำ  เด็กนั่งหรือนอนเรียนบนพื้นปูพรม หรือพลาสติก

ครูคนหนึ่งบอกช่างภาพเอเอฟพี ว่า เด็กๆและครู ระหกระเหินมาจากพื้นที่อื่นๆในซีเรีย เพราะสงครามกลางเมือง 7 ปี บางคนมาจากเขตโกตาตะวันออก ชานกรุงดามัสกัส อดีตฐานที่มั่นกลุ่มกบฏที่รัฐบาลยึดคืนได้เมื่อเมษายนหลังการถล่มดุเดือด บางคนมาจากจังหวัด ฮามา หรือ ฮอมส์ ทางภาคกลาง

โรงเรียนหลายแห่งที่มีเคยในพื้นที่ฝ่ายต่อต้าน และได้รับทุนสนับสนุนจากองค์กรบรรเทาทุกข์  แต่ถูกทิ้งระเบิดโจมตี และทุกวันนี้ โมฮัมเหม็ด ครูอีกคนกล่าวว่า พวกเขายังรู้สึกหวาดกลัวกับการทิ้งระเบิดและสถานการณ์โดยรวม

อาคารแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตกบฏยึดครอง ติดกับพื้นที่รัฐบาลควบคุมฝั่งตะวันออกของอเล็ปโป และยังเป็นฐานที่มั่นหลักของจังหวัดอิหลิบทางตะวันตก  มีประชาชนราว 3 ล้านอาศัยในจังหวัดอิดหลิบ และจังหวัดใกล้เคียงอย่างอเล็ปโปและลาทาเกีย ราวครึ่งหนึ่งเป็นคนไร้บ้านเพราะสงครามในพื้นที่ต่างๆของซีเรีย

เมื่อต้นเดือนนี้ หลายฝ่ายวิตกรัฐบาลจะถล่มอิดหลิบ แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของซีเรียกับตุรกี ที่หนุนหลังกบฏ ตกลงว่าจะพักการสู้รบไว้ชั่วคราว