“ล็อกดาวน์” เราควรซื้ออะไรเก็บไว้ดีนะ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/473548

“ล็อกดาวน์”เราควรซื้ออะไรเก็บไว้ดีนะ

9 กรกฎาคม 2564 – 09:41 น.

รู้ก่อน เตรียมก่อน พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์”ล็อกดาวน์”…เราควรซื้ออะไรเก็บไว้ดีนะ

สถานการณ์การระบาด”โควิด” รุนแรงขึ้นทุกขณะ การเกิดภาวะโรคระบาดครั้งใหญ่นี้ เราจะต้องเตรียมพร้อมเพื่อที่จะรับมือได้อย่างตื่นตัวแต่ไม่ตื่นตระหนก

ที่สำคัญช่วงเวลานี้คุณยังสามารถหาซื้อสิ่งของจำเป็นเตรียมไว้แต่ไม่ต้องถึงขั้น”กักตุน”ได้อีกด้วยวันนี้เรามาทบทวนวิธีรับมือและการเตรียมตัวไว้หากมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน”ล็อกดาวน์”อีกครั้ง

"ล็อกดาวน์"เราควรซื้ออะไรเก็บไว้ดีนะ

น้ำดื่ม

คุณควรเลือกซื้อ”น้ำดื่ม”เป็นแพ็คจากซุปเปอร์มาร์เก็ตมาพอประมาณ มาเก็บไว้ในยามฉุกเฉินจะได้มี”น้ำดื่ม”เพราะน้ำมีความสำคัญต่อสขุภาพการดื่มน้ำในปริมาณที่พอดี จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคร้าย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งลำไส้ และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หากต้องเจอสถานการณ์”ล็อกดาวน์”หรือการกักตัวคุณก็จะไม่เสี่ยงเกิดภาวะร่างกายขาดน้ำได้

"ล็อกดาวน์"เราควรซื้ออะไรเก็บไว้ดีนะ

อาหารแห้ง

ประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป คือสิ่งที่ควรมีติดบ้านช่วงโรคระบาด COVID-19 นั้นเพราะเราไม่สามารถออกไปไหนได้หากมีการประกาศ”ล็อกดาวน์” หรือหากคุณกำกกลังกักตัวเพื่อดูอาการว่าติดเชื้อหรือไม่ คุณอาจจะป้องกันเชื้อแพร่ไปยังบุคคลอื่นโดยการงดสั่งอาหารออนไลน์ แต่หันมาทานอาหารแห้งที่ซื้อเก็บไว้สักพัก นี่เป็นการป้องกันทั้งตนเองและส่วนรวม

"ล็อกดาวน์"เราควรซื้ออะไรเก็บไว้ดีนะ

ติดตามข่าวสาร

ปัจจุบันเรามีข่าวสารหลายช่องทางให้ติดตามข้อมูลสถานการณ์โควิด เพื่อให้เราได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและไม่หลงเชื่อข้อมูลที่ผิด คุณควรเช็คข่าวจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือเพื่อการเตรียมพร้อมรับมือในทุกวัน

"ล็อกดาวน์"เราควรซื้ออะไรเก็บไว้ดีนะ

ประกันโควิด
ใช่แล้วสุดท้ายแล้วไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต ข่าวตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตอนนี้คุณติดเชื้อหรือไม่ก็ไม่มีทางรู้ได้

ดังนั้นเราขอแนะนำประกันโควิดที่เค้ามีรูปแบบแผนประกันที่พิเศษเพื่อคุ้มครองผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ชนิดที่ว่าตรวจเจอจ่ายให้จบทันที ที่สำคัญเบี้ยประกันถูกมาก ใครเคยทำแล้ว ลองเช็คดูว่าการคุ้มครองของคุณกำลังจะสิ้นสุดลงแล้วหรือยัง และใครทำแล้วแต่อยากทำอีกสักกรมธรรม์ก็ยังได้ เช็คราคาพร้อมรายละเอียดแผนประกันได้เลยที่นี่

"ล็อกดาวน์"เราควรซื้ออะไรเก็บไว้ดีนะ

หน้ากากอนามัย

วันนี้คุณควรซื้อติดบ้านไว้ แต่ไม่ควรกักตุนไว้ในปริมาณที่มากเกินไป คุณควรป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้านหรือเมื่อจำต้องไปยังสถานที่ที่ผู้คนแออัดและต้องอยู่ในระยะกระชั้นชิด ตอนนี้ราคาหน้ากากอนามัยกำลังมีขายจำนวนมาก หลากหลายแบบในท้องตลาด หาซื้อได้ง่ายมากๆ ดังนั้นคุณควรมีติดบ้านไว้

"ล็อกดาวน์"เราควรซื้ออะไรเก็บไว้ดีนะ

เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

ในสถานการณ์เช่นนี้การมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเก็บไว้ที่บ้านเพื่อทำความมือก่อนหรือหลังสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ ในบ้านน่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดเพราะมือของเราเป็นอวัยวะที่สัมผัสทุกอย่างรอบตัวตลอดเวลา

มือของคุณอาจนำพาเชื้อโรคมาสู่ร่างกายเป็นเหตุให้คุณเป็นสิว ติดเชื้อหรือที่หนักกว่านั้นคือนำเชื้อไปสู่ผู้อื่น ดังนั้นซื้อเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 70-75% ไว้ใช้ที่บ้านกันเถอะ

ขอบคุณภาพจาก :

photo created by alexeyzhilkin – freepik

photo created by azerbaijan_stockers – freepik

photo created by pereslavtseva – freepik

photo created by jcomp – freepik

photo created by kaboompics – freepik

photo created by osaba – freepik

8 อาหาร “บำรุงปอด” ให้แข็งแรง #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/473501

8 อาหาร”บำรุงปอด” ให้แข็งแรง

9 กรกฎาคม 2564 – 06:29 น.

8 อาหาร”บำรุงปอด” ให้แข็งแรง

ทราบกันดีว่า “โควิดตัวร้าย ทำลายปอด” เมื่อไวรัสโควิด-19 เข้าสู่ร่างกาย จุดแรกที่เข้าไป คือ ระบบทางเดินหายใจ และก่อให้เกิดความเสียหายภายในร่างกายกลุ่มคนที่ปอดทำงานน้อยลงกว่าปกติ ได้แก่ ผู้สูงอายุ คนที่เคยเป็นโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอด และคนที่มีน้ำหนักมาก หากคนที่ปอดทำงานน้อยลงกว่าปกติ 70% เมื่อถูกทำลายอีก 10-20% จะทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของคนกลุ่มนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ดังนั้นเราควรป้องกันด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยเฉพาะปอด วันนี้มี8 อาหารบำรุงปอด ให้แข็งแรงมาฝากกัน 

8 อาหาร"บำรุงปอด" ให้แข็งแรง

1. แอปเปิ้ล
งานวิจัยเผยว่า แอปเปิ้ลอุดมไปด้วยวิตามินซี อี เบตาแคโรทีนและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงปอดให้แข็งแรง นอกจากนั้นยังมีสารต้านเซลล์มะเร็งหลายชนิด รวมไปถึงมะเร็งปอดอีกด้วย

8 อาหาร"บำรุงปอด" ให้แข็งแรง

2. แซลมอน
โอเมก้า 3 ที่อยู่ในแซลมอนนั้นมีคุณสมบัติช่วยต้านปอดอักเสบ บำรุงปอดให้แข็งแรง เสริมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

8 อาหาร"บำรุงปอด" ให้แข็งแรง

3. ชาเขียว
ชาเขียวร้อนๆ ที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระดื่มแล้วช่วยให้คุณผ่อนคลาย ต้านการอักเสบ แถมยังช่วยให้ระบบหายใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น

8 อาหาร"บำรุงปอด" ให้แข็งแรง

4. ขิง
สมุนไพรไทยที่ดีต่อระบบทางเดินหายใจ ช่วยล้างพิษในปอด ทำให้คุณหายใจได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังโดดเด่นเรื่องต้านอาการอักเสบภายในร่างกาย และเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงในโรคมะเร็ง

8 อาหาร"บำรุงปอด" ให้แข็งแรง

5. แครอต
ผักสีส้มอาหารโปรดของเจ้ากระต่ายนั้นเต็มไปด้วยเบตาแคโรทีนและวิตามิเอที่ช่วยขับพิษออกจากร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านมะเร็ง นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันอาการหอบหืดและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันเสริมการทำงานได้ดียิ่งขึ้น

8 อาหาร"บำรุงปอด" ให้แข็งแรง

6. บร็อคโคลี
บร็อคโคลีมีวิตามินซี บี แคโรทีนอยด์ โฟเลต และไฟโตเคมิคอลที่ช่วยปกป้องปอดของคุณจากมลภาวะทางอากาศต่างๆ ทั้งฝุ่นละออง ควันบุหรี่ ช่วยบำรุงให้ปอดแข็งแรง

8 อาหาร"บำรุงปอด" ให้แข็งแรง

7. เบอร์รี
เบอร์รี่ อาทิ อาซาอิ และบลูเบอร์รี อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงปอดของคุณให้แข็งแรง  แถมยังรสชาติดีเป็นที่ถูกใจของใครหลายๆ คน

8 อาหาร"บำรุงปอด" ให้แข็งแรง

8. กระเทียม
การศึกษาพบว่า ผู้รับประทานกระเทียมดิบมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งปอดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้กินยิ่งไปกว่านั้นผู้สูบบุหรี่ที่กินกระเทียมดิบมีความเสี่ยงมะเร็งปอดลดลง 40% ด้วยฟลาโวนอยด์ที่กระตุ้นการผลิตกลูตาไธโอนซึ่งช่วยเพิ่มการขจัดสารพิษและสารก่อมะเร็งช่วยให้ปอดของคุณทำงานได้ดีขึ้น เป็นสมุนไพรไทยที่มีคุณค่าจริงๆ

เช็กลิสต์ 13 “สัตว์น้ำต่างถิ่น” เพาะเลี้ยงปล่อยลงแหล่งน้ำโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/473516

เช็กลิสต์ 13 “สัตว์น้ำต่างถิ่น” เพาะเลี้ยงปล่อยลงแหล่งน้ำโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ

9 กรกฎาคม 2564 – 05:00 น.

เพาะเลี้ยง “สัตว์น้ำต่างถิ่น” โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านหรือทั้งจำทั้งปรับ ปล่อยในที่จับสัตว์น้ำโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองล้านหรือทั้งจำทั้งปรับ

ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่พันธุ์ของ “สัตว์น้ำต่างถิ่น” หรือ เอเลียนสปีชีส์ ยังคงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศแหล่งน้ำของประเทศไทยเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากกรณี “ปลาหมอสีคางดำ” ที่หลุดรอดเข้าบ่อเลี้ยงกุ้งของเกษตรกรเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำพื้นถิ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งครั้งนั้น “กรมประมง” ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยการออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามนำเข้า ส่งออก นำผ่าน หรือเพาะเลี้ยง พ.ศ. 2561 สำหรับสัตว์น้ำ 3 ชนิด ได้แก่ ปลาหมอสีคางดำ ปลาหมอมายัน และ ปลาหมอบัตเตอร์ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2561

สัตว์น้ำต่างถิ่น, เอเลียนสปีชีส์

ล่าสุด กรมประมง อาศัยความตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2560 ออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามเพาะเลี้ยงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันทึ่ 16 สิงหาคม 2564 นี้ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำพื้นถิ่นหายาก หรือป้องกันอันตรายมิให้เกิดแก่สัตว์น้ำและระบบนิเวศ

ชนิดปลา

  1. ปลาหมอสีคางดำ (Blackchin tilapia) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Sarotherodonmelanotheron
  2. ปลาหมอมายัน (Mayan cichlid) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Mayaherosurophthalmus
  3. ปลาหมอบัตเตอร์ (Zebra cichlid) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Heterotilapiabuttikoferi
  4. ปลาทุกชนิดในสกุล Cichla และปลาลูกผสม (Peacock cichlid, Butterfly peacock bass)    ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Cichlaspp.
  5. ปลาเทราท์สายรุ้ง (Rainbow trout) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Oncorhynchusmykiss
  6. ปลาเทราท์สีน้ำตาล (Sea trout) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Salmotrutta
  7. ปลากะพงปากกว้าง (Largemouth black bass) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Micropterussalmoides
  8. ปลาโกไลแอทไทเกอร์ฟิช (Goliath tigerfish, Giant tigerfish) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Hydrocynus  goliath
  9. ปลาเก๋าหยก (Jade perch) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Scortumbarcoo
  10. ปลาที่มีการดัดแปลง หรือ ตัดแต่งพันธุกรรม GMO LMO

ชนิดสัตว์น้ำอื่น

  1. ปูขนจีน (Chinese mitten crab) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Eriocheirsinensis
  2. หอยมุกน้ำจืด (Triangle shell mussel) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Hyriopsiscumingii
  3. หมึกสายวงน้ำเงินทุกชนิดในสกุล Hapalochlaena (Blue-ringed octopus) ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Hapalochlaena spp.

ทั้งนี้ ประกาศฉบับดังกล่าวฯ มีแนวทางการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้

  1. กรณีที่เกษตรกรที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกลุ่มเหล่านี้ ต้องดำเนินการขอใบอนุญาตตามประกาศกรมประมง ภายใน 30 วัน หลังจากประกาศฯ มีผลบังคับใช้ และเมื่อไม่ต้องการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำต่างถิ่นกลุ่มดังกล่าวแล้ว ให้รีบนำสัตว์น้ำส่งมอบให้สำนักงานประมงจังหวัด หรือหน่วยงานกรมประมงอื่น ๆ ในพื้นที่โดยด่วน
  2. กรณีที่ประชาชนทำการประมงแล้วได้สัตว์น้ำทั้ง 13 ชนิดนี้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ประชาชนสามารถนำไปบริโภคหรือจำหน่ายได้ แต่ต้องทำให้สัตว์น้ำตายก่อนนำไปจำหน่าย
  3. กรณีที่สัตว์น้ำทั้ง 13 ชนิดนี้จากธรรมชาติได้หลุดรอดเข้าในบ่อเพาะเลี้ยงของเกษตรกรโดยไม่เจตนา เกษตรกรสามารถนำไปบริโภคหรือจำหน่ายได้ แต่ต้องทำให้ปลาตายก่อนนำไปจำหน่าย
  4. กรณีส่วนราชการ สถาบันการศึกษา หรือกรณีจำเป็นอื่นใดที่ต้องการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั้ง 13 ชนิด ไว้เพื่อศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางราชการ ให้แจ้งขออนุญาตกรมประมงก่อน
  5. ห้ามผู้ใดปล่อยสัตว์น้ำทั้ง 13 ชนิด ลงในแหล่งน้ำธรรมชาติโดยเด็ดขาด เนื่องจากมีความผิดตามมาตรา 144 แห่ง พ.ร.ก.การประมง 2558
สัตว์น้ำต่างถิ่น, เอเลียนสปีชีส์
สัตว์น้ำต่างถิ่น, เอเลียนสปีชีส์
สัตว์น้ำต่างถิ่น, เอเลียนสปีชีส์
สัตว์น้ำต่างถิ่น, เอเลียนสปีชีส์

บทลงโทษ

  • หากพบผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 64 หรือมาตรา 65 วรรคสอง ต้องระวางโทษตามมาตรา 144 จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง นำสัตว์น้ำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

5 ข้อง่ายๆ “คัดแยกขยะ” ก่อนทิ้ง Saveเรา Saveโลก แค่นี้ทุกคนก็เป็นฮีโร่ได้ #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/473471

5 ข้อง่ายๆ “คัดแยกขยะ” ก่อนทิ้ง Saveเรา Saveโลก แค่นี้ทุกคนก็เป็นฮีโร่ได้ 

9 กรกฎาคม 2564 – 01:05 น.

5 ข้อง่ายๆ “คัดแยกขยะ” ก่อนทิ้ง Saveเรา Saveโลก แค่นี้ทุกคนก็เป็นฮีโร่ได้ 

ในภาวะที่โลกต้องการภูมิคุ้มกัน สิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรสร้างให้เป็นนิสัย และเพื่อเป็นฮีโร่ได้ง่ายๆ ในแบบของตัวเอง ก็คือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคม สิ่งที่หนึ่งที่เป็นเรื่องง่ายใกล้ตัวที่สุดคือ “การคัดแยกขยะ” ก่อนทิ้งลงถัง 

ยิ่งในช่วงเวลานี้ เรามีขยะติดเชื้อจากครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นด้วยไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัยใช้แล้ว ถุงมือยาง ถุงมือพลาสติก กระดาษชำระ เป็นต้น และ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในช่วงเวลานี้ มีคำแนะนำในการคัดแยกขยะ 

5 ข้อง่ายๆ “คัดแยกขยะ” ก่อนทิ้ง

1.แยกขยะเปียก ขยะแห้ง ง่ายต่อการนำไปรีไซเคิล จุดเริ่มต้นของการแยกขยะง่ายๆ ภายในครอบครัว คือแยกขยะเปียก และขยะแห้ง โดยขยะเปียก คือ ที่มาจากเศษอาหาร แนะนำหาถุงขยะเล็กๆ มาสแตนบายไว้สำหรับทิ้งเศษอาหารแล้วทิ้งทันทีเพื่อป้องกันการรบกวนของมด หนู แมลงสาบ แถมยังลดกลิ่นเหม็นจากเศษอาหาร สู่การสร้างสุขอนามัยที่ดีด้วย ที่สำคัญการแยกขยะเปียกแห้ง จะทำให้เราสามารถนำขยะมารีไซเคิลได้ง่ายยิ่งขึ้น 

2.อัดขยะและมัดปากถุงขยะให้แน่นก่อนลงถัง เมื่อเราแยกขยะแต่ละประเภทอย่างดีแล้ว ก่อนนำไปทิ้งควรอัดขยะให้แน่นๆ หน่อย แล้วมัดปากถุงให้เรียบร้อยก่อนทิ้ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในถังขยะ จะยิ่งง่ายและเร็วหากใช้ถุงขยะแบบมีหูผูกหรือมีหูรูด เวลาขยะเต็มเพียงแค่มัดและหิ้วไปทิ้งถังขยะเทศบาลหน้าบ้าน สะดวก รวดเร็ว และประหยัด นอกจากจะเป็นการลดปริมาณขยะแล้ว ยังช่วยลดเวลาในการทำงานของทีมเก็บขยะอีกด้วย 

3.แป๊ะโน๊ตข้อความ ระบุประเภทขยะสักนิด ก่อนถึงมือคนเก็บขยะ กรณีที่มีขยะติดเชื้อ หรือ ขยะประเภทแก้ว กระจก ของมีคม หรือขยะสารเคมีต่างๆ ควรแยกทิ้งใส่ถุงที่หนา เหนียว เป็นพิเศษเพื่อป้องกันการรั่วซึมหรือฉีกขาด และอยากแนะนำเพิ่มเติมว่า

ก่อนทิ้งควรสำรวจให้ดีก่อนว่ามีการปิดปากถุงอย่างแน่นหนาแล้ว พร้อมกับติดป้ายหรือใช้ปากกาเมจิกเขียนกำกับหน้าถุงด้วยว่าถุงนี้เป็นขยะประเภทใดให้ชัดเจน เพื่อแจ้งให้ผู้ที่มีหน้าที่จัดเก็บระมัดระวังตัว เช่น ถุงขยะนี้มีหน้ากากอนามัยใช้แล้ว หรือ ถุงขยะรีไซเคิล งานนี้ช่วยเซฟพี่ๆ ทีมเก็บขยะได้ด้วย

4.แยกหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วลงในถุงซิปก่อนทิ้งลงถัง ถุงซิปนอกจากนำมาเพื่อใช้สำหรับเก็บอาหารได้แล้ว ในช่วงเวลาแบบนี้ เรายังสามารถดัดแปลงให้ถุงซิป มาเพื่อใช้ทิ้งหน้ากากอนามัยได้ด้วย วิธีการง่ายๆ คือ มัดหน้ากากอนามัย ทิ้งลงในถุงซิป และเมื่อถุงซิปเต็ม ก็ปิดถุงให้สนิทเพื่อทิ้งต่อไปสิ่งที่สำคัญ คือ ต้องปิดปากถุงให้สนิทเพื่อช่วยให้พนักงานเก็บขยะได้มีสุขภาวะที่ดีด้วย 

5.ทิ้งถูกถัง ช่วยลดปริมาณขยะ การแยกขยะ คือจุดเริ่มต้นของการลดปริมาณขยะเพื่อให้ขยะที่ต้องกำจัดจริงๆ ให้เหลือน้อยที่สุด บางบ้านไม่สะดวกใช้ถุงขยะ แต่ถนัดใช้ถังขยะในการแยกมากกว่า ดังนั้นวิธีการง่ายๆ คือแยกขยะสัก2ถัง ถังขยะเปียกหรือถังสีเขียวสำหรับใส่เศษอาหาร ขยะย่อยสลายได้ และ ถังขยะแห้งหรือถังสีฟ้าสำหรับขยะทั่วไปหรือขยะรีไซเคิล เพียงเท่านี้ก็ง่ายต่อกระบวนการจัดการขยะแล้ว จะดีมากหากเลือกใช้ถังขยะใบเล็ก เพื่อที่เราจะเก็บไปทิ้งลงถังเทศบาลบ่อยๆ เพื่อการอยู่อาศัยที่สะอาด ปลอดภัยจากแหล่งสะสมเชื้อโรคไปในตัว

การคัดแยกขยะ นอกจากทำให้บ้านเมืองน่ามองแล้วยังเป็นการฝึกวินัยและปลูกฝังลูกหลานเริ่มต้นจากในบ้านได้เป็นอย่างดี หากทุกคนสามารถนำทั้ง5วิธีนี้ไปปฏิบัติ เชื่อว่าการแพร่กระจายของขยะติดเชื้อก็จะลดลง เช่นเดียวกับปริมาณขยะที่จะลดลงด้วยเช่นกัน

แก้ปัญหา “ขอบตาคล้ำ” ด้วย 8 วิธีธรรมชาติแบบเร่งด่วน #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/473497

แก้ปัญหา “ขอบตาคล้ำ” ด้วย 8 วิธีธรรมชาติแบบเร่งด่วน

8 กรกฎาคม 2564 – 21:21 น.

ปัญหา “ขอบตาคล้ำ” เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การอดนอน พักผ่อนน้อย ความเครียดและอายุที่มากขึ้น ซึ่งรอยดำใต้ตาจะไม่ใช่โรคที่จำเป็นต้องรักษา หรือ เป็นปัญหาสำคัญต่อสุขภาพ แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาด้านความงามได้

เพราะการมีรอยคล้ำใต้ตาอาจทำให้ดวงตาของเราดูเหนื่อย  หน้าตาดูไม่สดใส และ ดูมีอายุมากขึ้นมากกว่าความเป็นจริง ปัญหา “ขอบตาคล้ำ” นั้นสร้างความวิตก และ กังวลใจไม่มากก็น้อยได้ คงไม่มีใครอยากเป็นหมีแพนด้าแน่นอน

แก้ปัญหา "ขอบตาคล้ำ" ด้วย 8 วิธีธรรมชาติแบบเร่งด่วน

มีวิธีมาแนะนำแก้ “ขอบตาคล้ำ” ด้วยวิธีธรรมชาติมาให้ลองทำตามกันแบบง่ายๆ 8  วิธีดังนี้

1.  “แอปเปิ้ล” นำ แอปเปิ้ล สด 2 ชิ้น มาวางบนเปลือกตาประมาณ 15 นาที รับรองว่า จะเห็นผลเลยว่ารอยคล้ำมันจางลงอย่างเห็นได้ชัด สามารถทำได้ทุกๆวันได้เลย

แก้ปัญหา "ขอบตาคล้ำ" ด้วย 8 วิธีธรรมชาติแบบเร่งด่วน

2. “น้ำแข็ง” นำน้ำแข็งมาห่อกับผ้าขาวบางและโปะไปที่รอบดวงตาประมาณ 10-15 นาที แนะนำให้ทำตอนเช้า เพื่อเพิ่มความสดชื่นรอบดวงตาและลดความคล้ำได้อีกด้วย 

แก้ปัญหา "ขอบตาคล้ำ" ด้วย 8 วิธีธรรมชาติแบบเร่งด่วน

3. “ถุงชา” ใช้ถุงชาที่ชงแล้วและยังอุ่นๆ บิดให้หมาดๆ แล้ว นำมาวางทับไว้บนเปลือกตาทั้งสองข้าง ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงค่อยนำถุงชาออก นี่ถือเป็นวิธีเบสิค ที่เรามั่นใจเลยว่าหลายคนเคยได้ยินวิธีนี้มาแล้ว วิธีนี้ช่วยลดปัญหาขอบตาคล้ำได้ แต่ระวังความร้อนกันนิดนึงนะ ควรทิ้งให้อุ่นก่อนทุกครั้ง

แก้ปัญหา "ขอบตาคล้ำ" ด้วย 8 วิธีธรรมชาติแบบเร่งด่วน

4.  “แตงกวา” ขึ้นชื่อในการช่วยรักษาปัญหารอบดวงตา เนื่องจากแตงกวามีคุณสมบัติในการให้ความเย็น ชุ่มชื่น แก่ผิวและช่วยลดความบวมของผิว ถือเป็นการช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณดวงตาและถุงใต้ตาด้วย ง่ายๆ เพียงนำแตงกวามาหั่นเป็นแว่นๆ หรือ แผ่นบางๆ หลังจากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วนำมาวางบนดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที และล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด จะทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  เราสามารถทำได้บ่อยถึงสัปดาห์ละ 2 ครั้งได้เลย

แก้ปัญหา "ขอบตาคล้ำ" ด้วย 8 วิธีธรรมชาติแบบเร่งด่วน

5.  “มะเขือเทศ” สามารถนำมะเขือเทศแก้ขอบตาคล้ำได้โดยการนำมะเขือเทศแช่เย็นแล้วนำมาฝานบางๆ มาโปะที่ใต้ตาหรือทั้งหน้าเลยก็ได้ จะเป็นการรีเฟรชผิวให้สดชื่นได้ด้วย

แก้ปัญหา "ขอบตาคล้ำ" ด้วย 8 วิธีธรรมชาติแบบเร่งด่วน

6. “ไข่ต้ม” นำไข่ต้มสุกปอกเปลือกออกขณะที่ไข่ยังร้อนอยู่ ใช้ผ้าสะอาดห่อไข่ นำไปนวดบริเวณรอบดวงตาเบาๆ ทำแบบนี้ช่วยให้เพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ขอบตาคล้ำดำก็จะหายไป

แก้ปัญหา "ขอบตาคล้ำ" ด้วย 8 วิธีธรรมชาติแบบเร่งด่วน

7. “ว่านหางจระเข้” มีส่วนผสมที่ช่วยให้ขอบตาคล้ำจางลงได้ เพียงนำวุ้นว่านหางจระเข้สด ๆ มาทาใต้ตาแล้วนวดเป็นวงกลม ทิ้งไว้และเราก็หลับแบบไปแบบนั้น ทำแบบนี้ทุกวันหรืออาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ก็จะตื่นมาเห็นขอบตาที่คล้ำจางลงไปได้แล้ว

แก้ปัญหา "ขอบตาคล้ำ" ด้วย 8 วิธีธรรมชาติแบบเร่งด่วน

8. “มะขามเปียก – นม – น้ำผึ้ง” ใช้มะขามเปียก 1 กำมือ นำมาผสมกับนมสด 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นเติมน้ำผึ้งลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ผสมทั้ง 3 อย่างให้เข้ากัน นำมาทาบริเวณรอบดวงตาหรือหางตาทิ้งไว้ 15 – 20 นาที แล้วล้างออก เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาดูขาวขึ้นได้แล้ว

แก้ปัญหา "ขอบตาคล้ำ" ด้วย 8 วิธีธรรมชาติแบบเร่งด่วน

“ดวงตา” เป็นหน้าต่างของหัวใจ เปิดเคล็ดบริหาร “ดวงตา” พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/473500

“ดวงตา”เป็นหน้าต่างของหัวใจ เปิดเคล็ดบริหาร”ดวงตา” พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง

8 กรกฎาคม 2564 – 21:13 น.

มนุษย์ติดจอทั้งหลาย เช็กวิธีบริหาร”ดวงตา” ที่พิสูจน์แล้วว่า หากทำสม่ำเสมอได้ผลอย่างแน่นอน

มนุษย์ออฟฟิศ ที่ต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือ ต้องคอยอัพเดทโซเชียล สายตาจับจ้องอยู่กับจุดเดิมๆ ตลอดเวลา  แถมตอนนี้ หลายคนต้อง work form home แทบจะไม่ขยับออกจากหน้าจอ หลักพื้นฐานของการเเพทย์ ก็คือ ถ้าคุณไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อนานๆ มันก็จะกลายเป็นกล้ามเนื้อที่อ่อนแอ เช่นเดียวกับกล้ามเนื้ออื่นๆ คุณจำเป็นต้องฝึกกล้ามเนื้อของดวงตา เพื่อให้มันแข็งแรง และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ คมชัดลึกออนไลน์ มี 10 วิธี บริหารสายตา ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยให้กล้ามเนื้อตาของคุณ ได้รับการออกกำลังกาย และเสริมสร้างให้มันแข็งแรงขึ้นได้จริงๆ

1.หลีกเลี่ยงการใช้สายตาอย่างหนักระหว่างวัน เพื่อให้ดวงตา ได้พักผ่อน จากการจ้องมองอะไรนานๆ ในทุกๆ 2-3 ชั่วโมง พักสายตาสักหน่อย ลองหลับตาดูสักสอง 2 – 3 นาที

"ดวงตา"เป็นหน้าต่างของหัวใจ เปิดเคล็ดบริหาร"ดวงตา" พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง

2. เพื่อให้ดวงตาของคุณได้ออกกำลังกายอย่างถูกต้อง คุณเพียงแค่ออกกำลังกายตามท่า ทั้งหมด 16 ท่า ตามรูป และลำดับที่ถูกระบุไว้ เช่น วันที่ 1 ทำท่าที่หนึ่ง วันที่ 2 ทำท่าที่สอง เรื่อยไปจนครบ 16 วัน

3. ลดเวลาสำหรับแว่นตา ถ้าคุณเป็นคนที่สวมใส่แว่นตา ลองถอดแว่นออกสักครู่ในช่วงระหว่างวัน ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มเวลาในช่วงที่ถอดแว่นให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้กล้ามเนื้อดวงตาได้พัก

4. การนวดเบาๆ บริเวณดวงตาเป็นวงกลม จะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายขึ้น ด้วยการเลื่อนไปยังจุดที่ 1 ถึง 6 ตามรูป ใช้นิ้วกลางและนิ้วชี้ เพื่อกดบนดวงตา และไม่ควรออกแรงมากเกินไป เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

"ดวงตา"เป็นหน้าต่างของหัวใจ เปิดเคล็ดบริหาร"ดวงตา" พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง

5. ลองมองไกลออกไป เมื่อคุณออกไปเดินเล่นในสวน หรือนั่งมองที่โล่ง ลองมองให้ไกลออกไปจากขา หรือสิ่งของตรงหน้า ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อตาได้รับความผ่อนคลายจากการจดจ้อง

"ดวงตา"เป็นหน้าต่างของหัวใจ เปิดเคล็ดบริหาร"ดวงตา" พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง

6. ดื่มน้ำแครอทบ่อยๆ เพราะน้ำแครอท มีสารที่ช่วยบำรุงสายตาอยู่มาก และถ้าคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นไปอีก ลองเติมน้ำมันมะกอก 1 หรือ 2 หยดลงไป มันจะไม่ทำให้เสียรสชาติ แต่มันจะช่วยให้ดูดซึมสารอาหาร และวิตามินที่อยู่ในน้ำแครอทได้อย่างดีเลยล่ะ

7. ไม่เล่นมือถือก่อนนอน พยายามอย่ามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนอย่างน้อย 2 ชั่วโมงในช่วงเวลาก่อนจะนอน เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมที่จะพักผ่อนได้เต็มที่

8 .ใช้น้ำอุ่น เมื่อดวงตาของคุณรู้สึกเมื่อยล้า ให้ล้างตาด้วยน้ำอุ่นเบา ๆ จะช่วยลดความเหนื่อยของดวงตาลงได้

"ดวงตา"เป็นหน้าต่างของหัวใจ เปิดเคล็ดบริหาร"ดวงตา" พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง

สุดท้าย ใช้วิธีโยคะแบบ Trataka ลองออกกำลังกายด้วยวิธีแบบ Trataka ของอินเดีย นั่นคือการนั่งหันหน้าไปทางวัตถุเล็กๆ หรือเปลวไฟ มุ่งเน้นดวงตาของคุณและทุกความสนใจของคุณในนั้น พยายามที่จะไม่กระพริบตา จากนั้นปิดตาลง และมุ่งความสนใจไปที่ช่องว่างระหว่างคิ้ว พยายามเก็บภาพของวัตถุไว้ในหัวให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำเช่นนี้ประมาณ 10 นาที (ลองศึกษาศาสตร์นี้เพิ่มเติมก่อนจะลงมือทำนะ)

ถ้าบริหารดวงตาเหล่านี้ ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ จึงจะได้ผล แต่สุดท้ายแล้ว ก็ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และ ลดการใช้สายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ จะดีที่สุด

นางแบบแฟชั่น เขาใส่อะไรมาเดินพรมแดงเมืองคานส์ 2021 #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/473495

นางแบบแฟชั่น เขาใส่อะไรมาเดินพรมแดงเมืองคานส์ 2021

8 กรกฎาคม 2564 – 21:13 น.

ในที่สุด พรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2021 หรือ Cannes Film Festival 2021 ก็กลับมาลุกเป็นไฟอีกครั้ง เมื่อเหล่าคนดังมาเดินพรมแดงพร้อมแฟชั่นจัดเต็ม

หลังจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ต้องงดจัดงานกันไปตั้งแต่ปีก่อน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 และปีนี้ก็เลื่อนจากกำหนดเดิมในช่วงพฤษภาคม มาจัดกันต่อเนื่องยาว ๆ ตั้งแต่วันที่ 6-17 กรกฎาคม ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเข้มงวด ที่ผู้ร่วมงานต้องได้รับวัคซีน และต้องตรวจหาเชื้อโควิด 19 ทุก 48 ชั่วโมง เว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการชมภาพยนตร์

อย่างไรก็ตาม แม้จะเข้มงวดโควิดแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจขวางกั้นการเดินแฟชั่นพรมแดง ที่เหล่านางแบบคนดังระดับท็อปทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ต่างก็ตบเท้าเข้าร่วมงานในลุคหรูจัดเต็ม 

มาดูกันว่า ช่วงวันแรก ๆ นางแบบแฟชั่น เขาใส่อะไรมาเดินพรมแดงเมืองคานส์ 2021

1.Bella Hadid มาลุคในเรียบแต่หรู กับเดรสสีขาว-ดำ ของแบรนด์ Jean Paul Gaultier พร้อมเครื่องประดับเพชรสะดุดตา

นางแบบแฟชั่น เขาใส่อะไรมาเดินพรมแดงเมืองคานส์ 2021

2. Candice Swanepoel อดีตนางแบบ Victoria’s Secret คนดัง เปิดตัวด้วยชุดจั๊มป์สูทสีนู้ดสไตล์วินเทจ แต่งดีเทลเพชรวิบวับทั้งตัว อวดหุ่นสุดปัง

นางแบบแฟชั่น เขาใส่อะไรมาเดินพรมแดงเมืองคานส์ 2021

3.พออีกวัน สาว Candice ก็ยังคงขโมยซีน ด้วยเดรสสีขาวเปิดหลัง เป็นความเซ็กซี่แบบมีระดับมาก

นางแบบแฟชั่น เขาใส่อะไรมาเดินพรมแดงเมืองคานส์ 2021

4. Andie Macdowell เฉิดฉายในชุดเดรสคอเหลี่ยมสุดชิคจาก Prada ที่เสริมด้วยเลื่อมสีเงินส่องประกายรับแสงแฟลช

นางแบบแฟชั่น เขาใส่อะไรมาเดินพรมแดงเมืองคานส์ 2021

5. Carla Bruni ซูเปอร์โมเดลยุค 90 อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศส มาในชุดเดรสสีฟ้าอ่อน ดูละมุนแต่ก็เจิดจรัส

นางแบบแฟชั่น เขาใส่อะไรมาเดินพรมแดงเมืองคานส์ 2021

6. Eva Herzigova มาในลุคเท่ ๆ กับชุดเสื้อคล้องคอสีขาวและกางเกงเลื่อมสีดำ

นางแบบแฟชั่น เขาใส่อะไรมาเดินพรมแดงเมืองคานส์ 2021

“เก๋ ชลลดา” แซ่บสะพรั่งแม้หลัก 4 แฟชั่นเซตนี้ต้องให้เต็ม 10 #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/473428

“เก๋ ชลลดา” แซ่บสะพรั่งแม้หลัก 4 แฟชั่นเซตนี้ต้องให้เต็ม10

8 กรกฎาคม 2564 – 20:22 น.

ว้าวมากแม่! ต้องอุทานคำนี้ เพราะแฟชั่นเซ็ตที่แอบไปส่องมาล่าสุด “เก๋-ชลลดา เมฆราตรี” ต้องบอกว่า แซ่บ ปัง ไฟลุก ยกพริกมาทั้งสวน! ให้เต็ม10ไม่หัก

การถ่ายแฟชั่นเซตนี้ต้องบอกว่าลุคสุดปังจริงๆสำหรับนักแสดง พิธีกร นางแบบมากความสามารถ “เก๋-ชลลดา เมฆราตรี” ต้องบอกว่า แซ่บ ปัง ไฟลุก ยกพริกมาทั้งสวนแค่เห็นก็ต้องร้องว้าวงานนี้เจ้าตัวได้แอบบอกเคล็ดลับฉบับไฟลุก แทบไม่เชื่อสายตาว่านี่หลัก 4แล้ว โอ้โหแม่ดูแต่ละท่าต้องยอมแม่จริงๆ

 "เก๋ ชลลดา" แซ่บสะพรั่งแม้หลัก 4 แฟชั่นเซตนี้ต้องให้เต็ม10

โดยครั้งนี้เป็นการเนรมิต 3 ลุค 3 สไตล์ กับแฟชั่นเซ็ตของ The Clover โดย เก๋-ชลลดา โดยเจ้าตัวได้เผยการดูแลให้สวยสะพรั่ง แม้หลัก 4 แต่ก็ยังดูแลตัวเองได้อย่างดี ที่มีเพิ่มเติมคือ ผู้ช่วยให้คงความเป๊ะแบบไม่หลุดแม้แต่องศาเดียว โดย เก๋-ชลลดา เล่าว่า “การถ่ายแฟชั่นเซ็ตครั้งนี้ พิเศษและสนุกจริงๆ ในการแปลงโฉมให้ออกมาเป็น 3 ลุค 3 สไตล์

 "เก๋ ชลลดา" แซ่บสะพรั่งแม้หลัก 4 แฟชั่นเซตนี้ต้องให้เต็ม10

โดยลุคแรกมาในธีมสาวหวาน ส่วนลุคที่ 2 ก็เพิ่มดีกรีความเปรี้ยวเผ็ดร้อนขึ้นมา และลุคสุดท้าย คือ ความเฟียซแบบมั่นใจและดูดีในเวลาเดียวกัน แฟชั่นเซ็ตครั้งนี้  “เก๋-ชลลดา เมฆราตรี” มาถ่ายเพราะอยากจะเก็บ โมเมนต์ประทับใจ กับหุ่นแซ่บๆเอาไว้ดู ก็ต้องบอกว่าแซ่บแบบไม่ไหวแล้วแม่ แม้จะหลัก 4 แล้ว แต่เวลาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เธอเลยจริงๆ

 "เก๋ ชลลดา" แซ่บสะพรั่งแม้หลัก 4 แฟชั่นเซตนี้ต้องให้เต็ม10
 "เก๋ ชลลดา" แซ่บสะพรั่งแม้หลัก 4 แฟชั่นเซตนี้ต้องให้เต็ม10
 "เก๋ ชลลดา" แซ่บสะพรั่งแม้หลัก 4 แฟชั่นเซตนี้ต้องให้เต็ม10

“ผลไม้ 5 สี” ตัวช่วย WFH น้ำหนักไม่พุ่ง #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/473472

“ผลไม้ 5 สี” ตัวช่วย WFH น้ำหนักไม่พุ่ง

8 กรกฎาคม 2564 – 18:27 น.

Work From Home อย่างไร ไม่ให้น้ำหนักตัวพุ่ง แนะนำ “ผลไม้ 5 สี” ตัวช่วยดี ๆ ที่อยากบอกต่อ

Work From Home เป็นอีกหนึ่งมาตรการต้องคนทำงานต้องปรับตัวให้ชิน เพราะสถานการณ์ “โควิด” ที่ยังไม่ดีขึ้น ก็คงต้องทำงานจากที่บ้านกันไปก่อน แต่หลาย ๆ คน เจอปัญหาหนึ่งคือ น้ำหนักตัวพุ่งขึ้น ชนิดไม่อยากมองตาชั่งกันเลย 

ปัจจัยที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเวลา Work From Home มีหลายอย่าง แต่หลัก ๆ ก็คือการรับประทาน หรือการกิน นั่นเอง ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่กูรูทางด้านการลดน้ำหนักแนะนำ คือ การกินให้หลากหลาย“ผักผลไม้ 5 สี”

"ผลไม้ 5 สี" ตัวช่วย WFH น้ำหนักไม่พุ่ง

การรับประทานผักผลไม้ ให้ได้ปริมาณ ครึ่งหนึ่งของอาหารในแต่ละมื้อ” และมีครบทั้ง 5 สี ซึ่ง “ผักผลไม้ 5 สี” ประกอบด้วย สีขาว, สีเขียว, สีม่วง, สีแดง และสีส้ม

สีขาว เช่น หัวหอม กระเทียม ดอกแค

ในกระเทียมมีสารอัลลิซิน(Allicin) สารเควอซิทิน(Quercetin) ที่ช่วยดูแลในเรื่องของกระดูก และทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายดี ดอกแคก็มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคหวัด มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยให้ผิวสวย

สีเขียว สีนี้แทบจะมีมากที่สุด เช่น คะน้า ผักโขม ผักบุ้ง กวางตุ้ง บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี 

ผักสีเขียว มีสารไอโซไธโอไซยาเนท(Isothiocyanate) สารลูทีน (Lutein) สารซีแซนทีน (Zeaxanthin) สารคาเทชิน(Catechins) มีส่วนช่วยทำให้เซลล์สามารถทำงานได้ดีขึ้น สนับสนุนการทำงานของปอด หลอดเลือดแดง และตับ  

สีม่วง เช่น องุ่น บลูเบอร์รี มันเทศสีม่วง

มีสารแอนโธไซนยานิน ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมอง ด้วยการยับยั้งไม่ให้เลือดจับตัวเป็นก้อน ชะลอความเสื่อมของดวงตา ช่วยยับยั้งจุลินทรีย์ก่อโรค (pathogen) อีโคไล (Escherichia coli) ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษด้วย

สีส้ม เช่น สัม แครอท ฟักทอง

มีสารเบต้า-แคโรทีน ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง ผัก ผลไม้ สีเหลือง มีส่วนช่วยในการลดระดับโคเลสเตอรอล ช่วยทำให้สีผิวหน้าที่เป็นฝ้าลดลงได้

สีแดง เช่น มะเขือเทศ เชอร์รี

มีสารไลโคพีน ช่วยทำให้ระบบการทำงานของต่อมลูกหมากดีขึ้น ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิดอีก

นอกจากการกินแล้ว การนอนหลับ พักผ่อนก็มีส่วนสำคัญมากที่จะไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ว่าคุมการกินได้ดี แต่รับงาน โหมหนักจนไม่พักผ่อนให้เพียงพอก็จะทำให้การควบคุมน้ำหนักเป็นไปได้ยาก ดังนั้นในสถานการณ์ที่ต้อง Work From Home ยาว ๆ แบบนี้ ต้องบาลานซ์ชีวิต รักษาสุขภาพกายและใจ ให้ดีควบคู่กันไปด้วย

ขอบคุณภาพ : Pixabay.com

5 เคล็ดลับ บอกลาขาเบียด #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/473466

5 เคล็ดลับ บอกลาขาเบียด

8 กรกฎาคม 2564 – 17:32 น.

มาดู 5 เคล็ดลับ ที่จะทำให้คุณผู้หญิง “บอกลาขาเบียด” ใครอยากมีขาที่เรียวสวย ลองทำดู

ถ้าพูดถึงร่างกายของผู้หญิง เชื่อว่า เป็นอีกหนึ่งอวัยวะ ที่คุณสาวๆ ค่อนข้างกังวล นั่นก็คือ ปัญหาเรื่องขาที่ใหญ่ ไม่รู้จะหาวิธีไหนจึงจะมีขาที่สวยเรียวได้ตามที่หวังได้ จะแต่งตัวสวย อยากนุ่งสั้นก็ไม่กล้า จะจัดกางเกงรัดรูปหน่อย ก็กลัวไม่สวย แต่อย่าพึ่งยอมแพ้ไปค่ะ เรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้สาว ๆ ทั้งหลาย บอกลาขาเบียด ทำเองได้ง่าย ๆ มีอะไรบ้างมาดูกัน

5 เคล็ดลับ บอกลาขาเบียด

–      ขึ้น-ลงบันได แทนการใช้ลิฟท์ ใครจะไปคิดว่าการเดินขึ้นบันได จะสามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 8-11 กิโลแคลอรี่ต่อนาที ส่วนการลงบันได จะใช้พลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของการขึ้นบันได ซึ่งถ้าหากอยากมีขาสวยเรียว หันมาเดินขึ้นๆ ลงๆ บันไดกันดีกว่า

–      นอนในท่าที่ขาสูงกว่าศีรษะ นอนหงาย โดยมีหมอนหนุนเท้าไว้ให้สูงกว่าศีรษะ หรือสูงจากเตียง 10-15 เซนติเมตร สามารถช่วยให้เลือดลมบริเวณขาหมุนเวียนได้ดีขึ้น อีกทั้ง ยังลดอาการปวดเมื่อยขาจากการใช้งานมาทั้งวันได้อีกด้วย

–      เผาผลาญไขมันส่วนขาด้วยการเดิน ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่น เดินเที่ยว เดินเร็ว อย่างการออกกำลังกาย สามารถช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขาและน่องได้ การเขย่งขา หรือกระโดดไปมาก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญให้ขาสวยเรียวได้เร็วขึ้น

–      ใส่รองเท้าส้นแบน จะช่วยผ่อนคลายเท้าของเราให้ได้รับการพักผ่อน ซึ่งต่างจากการสวมรองเท้าแบบมีส้น เพราะจะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อบริเวณน่องเรามีขนาดใหญ่ขึ้น

5 เคล็ดลับ บอกลาขาเบียด

–     เลือกรับประทานอาหารประเภทไฟเบอร์ ไม่ใช่เพียงแต่รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงเท่านั้น แต่ควรลดปริมาณโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตลงด้วย หลีกเลี่ยง ลด และเลิกรับประทานของหวาน น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยให้เรามีขาที่เรียวสวย และลดไขมันส่วนเกินในบริเวณอื่นได้ด้วย

      วิธีง่ายๆแค่นี้ ก็สามารถทำให้คุณผู้หญิงทั้งหลาย มีขาที่เรียวสวย บอกลาขาเบียด ได้แล้ว