Skip to primary content
Skip to secondary content

SootinClaimon.Com

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย2 [SartKasetDinPui2] : รวบรวม ข้อมูล เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เกษตร ดิน น้ำ ปุ๋ย

SootinClaimon.Com

Main menu

  • Home
  • KU23-2506
  • ข้อคิดความเห็น
  • ตระกูลคล้ายมนต์
  • ผมเองครับ
  • ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1

Category Archives: ธรรมะ

Post navigation

← Older posts
Newer posts →

ไม่มีอะไรที่จะสำคัญกว่าการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตนก่อน

Posted on November 25, 2022 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/694217

ไม่มีอะไรที่จะสำคัญกว่าการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตนก่อน

ไม่มีอะไรที่จะสำคัญกว่าการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตนก่อน

วันพฤหัสบดี ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 19.30 น.

“..ต้องพูดให้คิดบ้าง เพราะเวลามีแต่เดินไปข้างหน้า มีแต่จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ชีวิตของพวกเราจะสั้นลงไปเรื่อยๆ พระพุทธเจ้าทรงสอนให้พิจารณาอยู่เรื่อยๆ ว่าร่างกายของพวกเราเป็นของไม่เที่ยง มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตายเป็นธรรมดา จงยังประโยชน์ของตนและของผู้อื่นให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด

นี่เป็นพระปัจฉิมโอวาทของพระพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสไว้ ก่อนที่จะเสด็จดับขันธปรินิพพานไป ทรงมีความห่วงใยพวกเราเป็นอย่างมาก ที่อาจจะไม่ค่อยได้คิดถึงความจริงข้อนี้ ความจริงที่ว่าชีวิตของพวกเรานี้ ไม่เที่ยงแท้แน่นอน จะหมดไปได้ในวันใดวันหนึ่ง และจะต้องหมดไปอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น จึงไม่ควรตั้งอยู่ในความประมาท ไม่ควรคิดว่าจะอยู่ไปนานๆ เพราะไม่รู้ว่าจะอยู่ไปได้นานสักเท่าไหร่ 

จึงควรคิดตรงกันข้าม ควรคิดว่าอาจจะอยู่ไปไม่นาน จะได้ถือว่าไม่ประมาท ถ้าคิดว่าจะอยู่นานก็ถือว่าประมาท ถ้าคิดว่าอาจจะไปวันนี้หรือพรุ่งนี้ จะได้รีบจัดการกับสิ่งที่ควรจะจัดการ รีบจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ว่าสิ่งไหนสำคัญ สิ่งไหนไม่สำคัญ 

“ไม่มีอะไรที่จะสำคัญกว่าการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตนก่อน” ให้ตนได้หลุดพ้นจากความทุกข์ หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดก่อน แล้วค่อยทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นต่อไป ถ้ามัวแต่ไปทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น ไม่ทำประโยชน์ให้กับตน ตนจะไม่ได้รับประโยชน์อะไร ประโยชน์ของตนจึงต้องมาก่อน ประโยชน์ของตนก็คือ.. ประโยชน์ของใจนี่เอง ต้องมาก่อนประโยชน์ของร่างกายและของกิเลสตัณหา…” 

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๖  (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต – 003

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า | Tagged 2565(2022), ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

‘พระพุทธศาสนา’ไม่ใช่เป็นที่มาขอดูดวง ไม่ใช่เป็นที่มาขอสะเดาะเคราะห์

Posted on November 24, 2022 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/693961

'พระพุทธศาสนา'ไม่ใช่เป็นที่มาขอดูดวง ไม่ใช่เป็นที่มาขอสะเดาะเคราะห์

‘พระพุทธศาสนา’ไม่ใช่เป็นที่มาขอดูดวง ไม่ใช่เป็นที่มาขอสะเดาะเคราะห์

วันพุธ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 19.09 น.

“…พระพุทธศาสนาที่พวกเรามีความศรัทธามีความเชื่อ แต่ขอให้เราเชื่อด้วยเหตุด้วยผล เชื่อตามหลักของความเป็นจริง อย่าเชื่อแบบงมงาย การเชื่อแบบงมงายนี้ไม่ได้รับประโยชน์ที่พึงจะได้รับคือการหลุดพ้นจากความทุกข์ ให้เชื่อตามหลักของความเป็นจริง ให้รู้ว่าศาสนาพุทธนี้เป็นสถาบันการศึกษา เป็นที่มาร่ำเรียนวิธีที่จะดับความทุกข์ต่างๆ ที่มีอยู่ในใจให้หมดสิ้นไป

ไม่ใช่เป็นที่มาขอดูดวง ไม่ใช่เป็นที่มาขอสะเดาะเคราะห์ ไม่สบาย อยากจะให้หาย ก็มาหาพระพุทธศาสนา กิจการไม่เจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง จะล้มละลาย ก็มาหาพระพุทธศาสนา ลูกออกมาอยากจะให้ลูกเป็นคนดี ก็มาให้โกนหัวให้ ให้ตัดผมให้ ชีวิตไม่ค่อยก้าวหน้ารุ่งเรืองก็มาขออาบน้ำมนต์ เรื่องราวเหล่านี้มันเป็นเรื่องของความงมงาย มันไม่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ไม่ทราบว่ามันเข้ามาได้อย่างไร มันแทรกเข้ามาทีละนิด จนกลายเป็นเนื้อหนังของศาสนาไป พอใครมาสอนว่านี่ไม่ใช่เป็นเรื่องของศาสนา ก็เลยกลายเป็นคนแปลกไป เอ๊ะ พูดอย่างนี้ได้ยังไง ศาสนาเขาทำกันอย่างนี้มาตั้งนาน เขาอาบน้ำมนต์กันมาตั้งนาน เขามาดูดวงกันที่วัด เขามาขอหวยขอเลขกัน ขอพรกัน แต่คนนี้มาบอกว่านี่ไม่ใช่หน้าที่ของศาสนา 

ก็เพราะว่าชาวพุทธเราส่วนใหญ่นี้ไม่ได้ศึกษากันอย่างแท้จริงนั่นเอง เรียนตามปากเปล่าที่เขาเล่ากันมา เขาเล่าว่า อ่ะ ไม่สบายเหรอ ไปวัดไป ไปขอน้ำมนต์หน่อย ไปดูดวงหน่อย อะไรหน่อย ไปแก้สะเดาะเคราะห์หน่อย ไปทำนู่นทำนี่หน่อยแล้วดวงจะดีขึ้น อะไรอย่างนี้ อันนี้ไม่ใช่หน้าที่ของศาสนาเลย มันเลยทำให้ความศักดิ์สิทธิ์หรือความวิเศษของศาสนา กลายเป็นของที่ไม่ศักดิ์สิทธ์ไป เป็นของที่ไม่น่านับถือ ไม่น่าเชื่อถือไป เนี่ยสมัยนี้ เด็กสมัยใหม่มันไม่เชื่อถือศาสนาแล้วนะ มันบอกมันไม่อยากจะมีศาสนา เพราะว่าไม่รู้มีศาสนาไว้ทำอะไร มันบอกว่ามันสามารถทำมาหากินของมันเองได้ เลี้ยงดูตัวมันเองได้ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมีศาสนาเลย ก็เพราะว่าไม่มีใครรู้ละสิว่าศาสนานี้เป็นอะไรกันแน่ คิดว่าศาสนาเป็นที่สะเดาะเคราะห์ เป็นที่ดูดวง เป็นที่อาบน้ำมนต์ อะไรต่างๆ เหล่านี้ จึงไม่มีใครนับถือศาสนากัน เพราะไม่รู้ความเป็นจริงของศาสนาว่า ศาสนานี้เป็นที่รักษาโรคจิตใจ 

ใครมีศาสนานี้ ใครปฏิบัติตามศาสนานี้ได้ รับประกันว่าไม่ฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน จะไม่มีอาการซึมเศร้า จะไม่มีอัลไซเมอร์ ไม่มีความหลงความลืมอะไร เพราะศาสนานี้จะสอนให้มีสติตลอดเวลา สอนให้จิตมีความสุขตลอดเวลา จะไม่มีความซึมเศร้า จะไม่มีความรู้สึกว่าจะต้องคิดฆ่าตัวตายกัน แต่ถ้าไม่มีศาสนาเนี่ยเป็นสิ่งที่น่ากลัว ถึงแม้ตอนนี้อาจจะยังไม่ต้องพึ่งศาสนา เพราะตอนนี้ยังไม่มีความทุกข์ 

โดยเฉพาะเวลาที่เป็นหนุ่มเป็นสาวนี่ สามารถทำอะไรตามความอยากความต้องการได้ อยากมีความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายก็มีได้ อยากจะมีแฟนก็มีได้ อยากจะไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ก็มีได้ ในตอนที่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวนี้ยังสามารถทำอะไรต่างๆ ได้อยู่ ก็เลยไม่เห็นความจำเป็นของศาสนาว่ามีไว้ทำไม แล้วยิ่งเห็นการปฏิบัติทางศาสนาว่ามีแต่พิธีกรรมอย่างเดียว ก็เลยยิ่งทำให้ไม่มีศรัทธาในศาสนา นี่เป็นเพราะว่าผู้ใหญ่ไม่สั่งสอนเด็ก ให้รู้จักว่าศาสนานี้มีหน้าที่อะไร ทำอะไร มีไว้ทำไม มีเพื่ออะไร เพราะว่าผู้ใหญ่ก็ไม่รู้ ผู้ใหญ่ก็ไม่มีผู้ใหญ่ของเขาสั่งสอนมา ปู่ย่าตายายเขาก็ไม่ได้สั่งสอนให้เขารู้ว่าพระพุทธศาสนานี้ มีหน้าที่ทำอะไรกันแน่ ก็เลยปฏิบัติทำอะไรกันมาตามธรรมเนียมตามประเพณี ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของศาสนาพุทธเลย ศาสนาพุทธนี้มีหน้าที่สั่งสอน แล้วก็ให้ไปปฏิบัติเพื่อจะได้กำจัดความทุกข์ต่างๆ ให้หมดสิ้นไปจากใจ ถ้าสามารถกำจัดความทุกข์ได้แล้ว ชีวิตจะมีแต่ความสุขตลอดเวลา จะไม่มีความทุกข์อะไรเข้ามาเหยียบย่ำจิตใจเลย…”

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๕ (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต) – 003

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า | Tagged 2565(2022), ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

‘คนมีปัญญา’ กับ ‘คนฉลาด’ ต่างกันอย่างไร?

Posted on November 23, 2022 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/693720

'คนมีปัญญา' กับ 'คนฉลาด' ต่างกันอย่างไร?

‘คนมีปัญญา’ กับ ‘คนฉลาด’ ต่างกันอย่างไร?

วันอังคาร ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 19.24 น.

นักปฏิบัติธรรมท่านหนึ่ง ถามพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต : กราบขอโอกาสพระอาจารย์ โยมอยากถามว่าคนมีปัญญากับคนฉลาดต่างกันอย่างไรเจ้าคะ

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต : คือปัญญามี ๒ ทาง ทางโลกกับทางธรรม ปัญญาทางโลกนี่เขาเรียกว่า ฉลาดแต่ไม่เฉลียว ปัญญาทางธรรมนี่ทั้งฉลาดทั้งเฉลียว ทางโลกนี้จะเห็นวิธีหาความสุขต่างๆในทางโลก หาเงินหาทองหาข้าวหาของ รู้จักเอาตัวรอด แต่ไม่เฉลียวว่าการหาความสุขแบบนี้มันเป็นการหาความทุกข์ คนที่มีปัญญาทางธรรมนี้จะเห็นว่า การหาความสุขทางโลกนี้เป็นการหาความทุกข์ เพราะความสุขทางโลกมันเป็นความสุขชั่วคราว ได้มาแล้วเดี๋ยวไม่ช้าก็เร็ว ก็จะต้องจากกันไป หมดกันไป 

ดังนั้น คนฉลาดทางธรรมนี้จะมีทั้งฉลาดและเฉลียว เหมือนปลาที่เห็นเหยื่อที่ติดปลายเบ็ดจะรู้ว่า มีเบ็ดอยู่ด้วย จะไม่ไปฮุบเหยื่อนั่น แต่คนที่ฉลาดทางโลกนี้ จะเห็นว่าเหยื่อกำลังรออยู่ ก็จะไปฮุบเพราะไม่เห็นเบ็ด เพราะไม่เฉลียว ไม่คิดว่าจะเป็นกับดัก แต่คนฉลาดทางธรรมจะเห็นว่าความสุขในโลกนี้เป็นเหมือนกับดักของความทุกข์ ถ้าไปติดกับความสุขทางโลกแล้ว ก็จะต้องทุกข์ เพราะความสุขทางโลกมันไม่แน่นอน มันมีเจริญมีเสื่อมได้ พอมันเสื่อมมันก็จะทำให้ใจทุกข์ คนฉลาดทางธรรมก็จะไม่ไปหาความสุขทางโลก ไปหาความสุขที่แท้จริง คือความสงบ

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต)

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า | Tagged 2565(2022), ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

‘หมอดูทักให้เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนเบอร์โทร’ อ้างว่าจะเกิดเหตุร้าย เจ็บป่วย จนถึงล้มละลาย

Posted on November 22, 2022 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/693503

'หมอดูทักให้เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนเบอร์โทร' อ้างว่าจะเกิดเหตุร้าย เจ็บป่วย จนถึงล้มละลาย

‘หมอดูทักให้เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนเบอร์โทร’ อ้างว่าจะเกิดเหตุร้าย เจ็บป่วย จนถึงล้มละลาย

วันจันทร์ ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 19.27 น.

นักปฏิบัติธรรมท่านหนึ่ง ถามพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต :  มีหมอดูมาทักให้เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนเบอร์โทร อ้างว่าจะเกิดเหตุร้าย เจ็บป่วย ผ่าตัด จนถึงล้มละลาย เราไม่เชื่อ เราควรวางจิต และตอบโต้เขาอย่างไรดีค่ะ

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต :  ก็เปลี่ยนอะไรแล้วมันเปลี่ยนความแก่ ความเจ็บ ความตาย ได้หรือเปล่าล่ะ ถ้าเปลี่ยนได้ขอเปลี่ยนคนแรกเลยวันนี้(หัวเราะ) ถ้าเปลี่ยนแล้วไม่แก่ไม่เจ็บไม่ตาย บอกมาเลยอยู่ที่ไหน จะไปขอเปลี่ยนด้วยคนนึง 

เฮ้อ.. เชื่อกัน งมงายเหลือเกิน ความจริงไม่ยอมมองกัน ชื่ออะไรก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย รวยขนาดไหนก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย จนขนาดไหนก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย เหมือนกันหมดทุกคน เปลี่ยนไม่ได้ความจริงนี้ จะเปลี่ยนได้ก็คือการไม่เกิดเท่านั้นเอง

การไม่เกิดก็ต้องหยุดความอยากสามตัว หยุดความอยาก กามตัณหา อยากเสพรูปเสียงกลิ่นรส อยากเที่ยว อยากดู อยากกิน อยากดื่ม อยากมีแฟนก็ต้องตัดไปให้ได้ อยากร่ำอยากรวย ก็ต้องตัดไปให้ได้ อยากไม่แก่ อยากไม่เจ็บก็ต้องตัดไปให้ได้ ถ้าตัดความอยากเหล่านี้ไปได้แล้วก็ จะไม่มีวันที่จะต้องกลับมาแก่ มาเจ็บ มาตาย อีกต่อไป

……………………………….

ถาม-ตอบปัญหาธรรม พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต)

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า | Tagged 2565(2022), ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

ธรรมะวันอาทิตย์ : ‘สุขกาย สบายใจ’คือการได้บุญ โดยพระครูวิจิตร ธรรมโกศล

Posted on November 21, 2022 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/693211

ธรรมะวันอาทิตย์ : 'สุขกาย สบายใจ'คือการได้บุญ โดยพระครูวิจิตร ธรรมโกศล

ธรรมะวันอาทิตย์ : ‘สุขกาย สบายใจ’คือการได้บุญ โดยพระครูวิจิตร ธรรมโกศล

วันอาทิตย์ ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 14.21 น.

20 พฤศจิกายน 2565 วัดโคกสะอาด ต.ไร่สีสุก อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ สังกัด มหานิกาย พระครู วิจิตร ธรรมโสพล เป็นเจ้าอาวาสวัดโคกสะอาดและเจ้าคณะตำบลเสนางคนิคม เขต 1 ปกครองประสงฆ์ 5 รูป ไม่มีสามเณร มรรคนายก 1 คน บนเนื้อที่ 30 ไร่ เป็นที่ตั้ง กุฏิ ศาลาการเปรียญ อุโบสถ ฯลฯ 

ที่โดดเด่น คือการปลูกป่าไม้หลากหลายพันธุ์ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะจะมีป้ายคติธรรมติดไว้ที่ต้นไม้ทุกต้น เพื่อเป็นข้อคิด เตือนใจ ให้พุทธศาสนิกชน ญาติ โยม นำไปปฏิบัติ ซึ่งอยู่ท่ามกลางอากาศร่มรื่น ไร้แสงแดด เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการความสงบ ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ อย่างยิ่ง  

ส่วนด้านหน้าวัด ทำเป็นลานซีเมนต์ ริมถนนชยางกูร ให้ผู้ที่ผ่านไปมา ขับรถไกลๆต้องการพักรถ ผักผ่อน ชั่วคราว ก็มีให้บริการฟรี แถม มีที่นั่ง ให้ผู้รอรถโดยสาร นั่งรอรถอย่างสบายใจ ในขณะที่รอรถ หรือจอดพักรถ จะเดินเข้าไปกราบนมัสการ ขอพร พระพุทธชัยมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล เดินทางโดยปลอดภัย ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ อย่างสวยงาน ไม่ไกลมากนัก 

หรือ จะเดินเลย ไปอีกหน่อย จะพบเห็นสระน้ำขนาดกลาง โดยกำหนดให้เป็นเขตอภัยทาน ห้ามจับสัตว์น้ำเด็ดขาด ซึ่งปลา หลากหลายชนิด มาจาก ผู้ใจบุญ นำมาปล่อยเป็นทาน จึงกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีม้านั่ง ให้นั่งดู ฝูงปลา แหวกว่ายเล่นน้ำ อย่างเพลิดเพลิน ทำให้จิตรใจสบาย มีความสุข คลายกังวล คลายเครียดกับทุกปัญหา  

ก่อนเดินทางกลับ ควรแวะฟังธรรมเทศนาสอนใจ เพื่อนำไปปฏิบัติ จะได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ก้าวหน้าในการงาน ซึ่ง พระครู วิจิตร ธรรมโสพล เจ้าอาวาสวัดโคกสะอาด เทศนา ตอนหนึ่งว่า ‘มีคนถามกันมาก ว่าทำไม บางคนเป็นถึงเศรษฐี และไม่เคยทำบุญเลย แล้วรวยเอารวยเอา’

อาตมาก็ตอบว่า เพราะเขากินบุญเก่า คือ ชาติก่อนเขาทำบุญไว้มาก ก็เลยเกื้อหนุนในชาตินี้ ส่วนคนที่ทำบุญตลอดเวลาในชาตินี้ แต่ทำไมจนเอาจนเอา ก็เพราะว่า ชาติก่อน ไม่เคยทำบุญเลย ทำให้ชาตินี้จน แต่หากทำบุญชาตินี้มาก สิ่งดีๆก็จะตามมา เช่น ทำบุญ จะทำให้เราจิตใจดี มีความสบายใจ และถ้าให้ดีจริง สิ่งของที่เอามาทำบุญ หรือถวายพระ จะต้องมาจากการทำงานที่สุจริต มาด้วยความบริสุทธิ์จึงจะได้บุญ

‘ตรงกันข้าม ถ้าได้มาด้วยการปล้นจี้ ลักขโมยเขามา ก็จะไม่ได้บุญ ที่สำคัญการทำบุญ ทำมาก ทำน้อย ได้บุญเท่ากัน ซึ่งบางคนเข้าใจผิด ถ้านำเงินบริจาควัดมากๆก็จะได้บุญมาก ไม่จริง เป็นการเข้าใจผิด’  

สำหรับการทำกฐิน มีผ้าผืนเดียวเท่าผ้าเช็ดหน้า ก็ทำผ้ากฐินได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำใหญ่โต ทำเท่าฐานะของเรา เหมาะสมกับฐานะเรา ถ้าทำแล้วไม่เป็นทุกข์ มีแต่ความสุขและสบายใจ นั่นแหละคือการได้บุญ 

ส่วนการทำบุญที่เห็นทันตา ก็คือการดูแลพ่อแม่ให้ดี ตอนที่ท่านทั้ง 2 มีชีวิตอยู่ ท่านต้องการอะไร อยากกินอะไร ก็หาให้ท่านได้กิน และทำดีกับท่านตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าพอถึงวันเกิดท่าน จึงค่อยพาท่านไปกินอาหาร

อย่างนี้ก็ไม่สมควร ควรทำให้ท่านตอนมีชีวิตอยู่ ซึ่งผลการทำดี ดูแลพ่อแม่ดี ก็จะส่งผลให้ จะคิด จะทำอะไร มีแต่ความสำเร็จ

เพราะฉะนั้น พระในบ้านคือพ่อแม่ จะต้องเคารพบูชาสูงสุด .012

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า | Tagged 2565(2022), ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, ธรรมะวันอาทิตย์, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

ถ้าปฏิบัติตามสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนแล้ว ภพชาติของเราก็จะเป็นภพชาติที่ดี เป็นสุคติ

Posted on November 19, 2022 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/692968

ถ้าปฏิบัติตามสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนแล้ว ภพชาติของเราก็จะเป็นภพชาติที่ดี เป็นสุคติ

ถ้าปฏิบัติตามสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนแล้ว ภพชาติของเราก็จะเป็นภพชาติที่ดี เป็นสุคติ

วันศุกร์ ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 19.24 น.

“…ถึงแม้ในชาตินี้จะไม่สามารถปฏิบัติจนบรรลุถึงพระอริยผลก็ตาม ถ้าพยายามทำไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็จะได้ฝึกนิสัยที่ดีไว้ เพื่อเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ได้ก้าวขึ้นสู่ธรรมขั้นสูงในลำดับต่อไป ในแต่ละภพแต่ละชาติ เพราะถ้าปฏิบัติตามสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนแล้ว ภพชาติของเราก็จะเป็นภพชาติที่ดี เป็นสุคติ ผู้ที่ไปสู่สุคติคือผู้มีศีลมีธรรม ผู้ที่จะไปเกิดในสุคติต้องเป็นผู้มีศีลมีธรรม ดังนั้น เวลาปฏิบัติไปแล้วเกิดมีความรู้สึกว่ามันยาก ก็ขอให้ฝืนทำไป เพราะกำลังปลูกฝังนิสัยใหม่ นิสัยของพระโพธิสัตว์ นิสัยของพระอริยเจ้า ไม่ใช่นิสัยของปุถุชนที่มีแต่ความโลภโมโทสัน เราเป็นปุถุชนเพราะเรามีความโลภ ความโกรธ มีความหลง…”

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี วันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙ (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต) – 003

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า | Tagged 2565(2022), ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

ร่างกายของเรา มันไม่ใช่ตัวเรา ‘ไม่ต้องไปกลัวความตายของร่างกาย’

Posted on November 18, 2022 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/692782

ร่างกายของเรา มันไม่ใช่ตัวเรา 'ไม่ต้องไปกลัวความตายของร่างกาย'

ร่างกายของเรา มันไม่ใช่ตัวเรา ‘ไม่ต้องไปกลัวความตายของร่างกาย’

วันพฤหัสบดี ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 19.38 น.

ร่างกายของเรา มันไม่ใช่ตัวเรา เราไปหลงคิดว่าเราเป็นร่างกาย ความจริงมันก็เป็นตุ๊กตาตัวหนึ่งที่เรามาเกาะมัน มาเล่นกับมัน มาใช้มัน ให้มันพาเราไปเที่ยวไปหาความสุขต่างๆ เราเป็นดวงวิญญาณไม่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนร่างกาย แต่มีความรู้สึกนึกคิด ผู้ที่มีความรู้สึกนึกคิดคือเรา คือดวงวิญญาณ จิตใจ ร่างกายไม่มีความรู้สึกนึกคิด ร่างกายเหมือนตุ๊กตาเหมือนต้นไม้ ต้นไม้มันไม่มีความรู้สึกนึกคิด เอามีดไปฟันต้นไม้ๆ มันไม่ร้องหรอก แต่ถ้าเอามีดมาฟันคนนี่คนร้อง แต่คนไม่ใช่ร่างกายที่ร้อง จิตใจนี่แหละผู้ที่มารับรู้ความรู้สึกของทางร่างกายเป็นผู้ร้องเอง แต่ร่างกายเขาไม่มีความรับรู้อะไร

ดังนั้น เราต้องมาสอนใจให้รู้ว่าเราไม่ได้เป็นร่างกาย เราไม่ได้แก่ไม่ได้เจ็บไม่ได้ตายไปกับร่างกาย ร่างกายเป็นเหมือนตุ๊กตาดีๆ นี่เอง ทำมาจากดิน น้ำ ลม ไฟ อาหารที่เรากินเข้าไปก็มีทั้งดินทั้งน้ำ มีลมก็ลมหายใจที่เราหายใจเข้าออก น้ำที่เราดื่มกันอยู่เป็นประจำ นี่แหละเป็นส่วนผสมของร่างกาย ไฟก็คือความร้อนที่เรารับจากแสงแดดแสงอาทิตย์นี่ แล้วก็ไฟที่เกิดจากการรับประทานอาหาร เวลาได้อาหารเข้าไปในร่างกายมันก็จะทำให้ร่างกายร้อนขึ้นมา แล้วมันก็เป็นตัวที่รักษาอุณหภูมิของร่างกายไม่ให้เย็น

สังเกตดูถ้าเคยไปแตะร่างคนตายนี้จะรู้ว่าร่างกายคนตายนี้เย็นกว่าร่างกายของคนเป็น คนเป็นไปแตะร่างกายคนตายจะรู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมร่างกายเขาเย็น เวลาไปแตะร่างกายคนที่ไม่ตายมันเหมือนไม่เย็น ก็เพราะว่าช่วงนั้นธาตุไฟมันเริ่มออกจากร่างกายไปแล้ว เหลือ ๓ ธาตุ ถ้าตายใหม่ๆ นี้ไปก่อน ๒ ธาตุ ธาตุแรกไปก็คือธาตุลม ลมหายใจ หยุดหายใจ ไม่มีลมเข้า ลมก็จะมีออกมาทางส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ส่งเป็นกลิ่นออกมานี่ก็ธาตุลม แล้วธาตุไฟก็เย็นหายไปร่างกายก็เย็น ถ้าปล่อยทิ้งไว้ต่อไปธาตุน้ำมันก็จะไหลออกมา 
คนตายนี่เขามักจะเอาสำลีไปอุดจมูกเพราะมันจะมีน้ำไหลออกมา น้ำมันก็จะแยกออกมา ลมไปก่อนแล้วตามด้วยไฟ ตามด้วยน้ำ เดี๋ยวก็เหลือแต่ส่วนที่เป็นดิน 

ส่วนที่จะแห้งกรอบ ทิ้งไว้มันก็จะผุพังกลายเป็นดินต่อไป ไม่ใช่ตัวเราไม่ใช่ตัวใคร จิตผู้มาเกาะติดก็แยกไปตั้งแต่หมดลมหายใจ พอหยุดหายใจปั๊บ จิตตวิญญาณที่มาเกาะร่างกายก็แยกไปก่อน ไม่รับรู้เรื่องของร่างกายแล้วตอนนั้น ตอนนั้นร่างกายใครจะไปทำอะไรมันไม่ร้องใช่ไม๊ ร่างกายของคนตายนี่ไม่ร้อง ลองเอาเข็มไปทิ่มมันดูสิ แต่ถ้ายังไม่ตายลองเอาเข็มไปทิ่มดูสิ จะสะดุ้งขึ้นมา

ตัวที่สะดุ้งไม่ใช่ร่างกายหรอก ก็คือตัวจิตตวิญญาณตัวที่รับรู้ความเจ็บของร่างกายนี้เป็นผู้สะดุ้ง แต่พอร่างกายหมดลมหายใจจิตตวิญญาณก็แยกออกจากร่างกายไป พอไม่มีร่างกายแล้วจิตตวิญญาณก็ต้องอาศัยบุญหรือบาปที่ทำไว้นี้มาเป็นผู้ให้มีอะไรให้ได้เสพได้สัมผัส เพราะจิตตวิญญาณของพวกเรานี้ติดรูปเสียงกลิ่นรสกัน ที่เรามามีร่างกายก็เพราะเราติดรูปเสียงกลิ่นรส ต้องมีตาหูจมูกลิ้นกาย พอเรามีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงเราก็ใช้ร่างกายพาเราไปดูไปฟังไปกินไปดื่มไปทำอะไรต่างๆ 

แล้วการกระทำนี้ก็อาจจะทำใน ๒ รูปแบบ ทำโดยวิธีไปสร้างความเสียหายเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ทำด้วยการทำบาป ก่อนที่จะมีเงินทองได้ก็ต้องไปหาเงินทอง ถ้าไม่รู้จักวิธีหาเงินทองแบบไม่ทำบาปก็จะไปใช้วิธีทำบาปเป็นการหาเงินทองกัน ก็จะทำให้มีบาปสะสมอยู่ในใจ บาปนี้เป็นความร้อนเป็นความทุกข์มีแต่เรื่องราวไม่ดี เพราะเวลาเราไปทำบาปเราจะทำแต่เรื่องไม่ดี ไปรังแกคนอื่นไปเบียดเบียนคนอื่น ไปสร้างความทุกข์สร้างความเสียหายเดือดร้อนให้กับคนอื่น 

การกระทำที่เราทำนี้มันจะถูกบันทึกไว้ในใจเหมือนกล้องที่เราถ่ายวิดีโอเก็บไว้ เวลาเราไปเที่ยวที่ไหนเราก็ถ่ายภาพกันบันทึกกัน เพราะเวลาเรากลับบ้านเรายังอยากไปเที่ยวอยู่ เราก็อาศัยภาพที่เราไปเที่ยวมาดูแทน แก้เหงาไปพลางๆ ช่วงที่ไม่มีเงินไปเที่ยวดูภาพเก่าไปก่อน อันนี้ก็เหมือนกันเวลาตายไปไม่มีร่างกายไปหาภาพหารูปเสียงกลิ่นรสมาให้ดู เราก็จะอาศัยภาพที่เราได้บันทึกไว้ในขณะที่เรามีชีวิตอยู่มาดูกันแทน ถ้าเป็นภาพดีถ้าเราไปทำเรื่องที่ดี เช่น ไปทำบุญทำประโยชน์ ไปช่วยเหลือผู้อื่นทำให้ผู้อื่นมีความสุข เราก็บันทึกภาพดีๆไว้ เช่น ไปร่วมงานวันเกิดร่วมงานบวชร่วมงานอะไรต่างๆ ไปแล้วก็ทำให้คนอื่นเขามีความสุข พอเวลาเราไม่มีร่างกายเราก็จะอาศัยภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เราทำไว้ในขณะที่เรามีร่างกายนี้มาให้ความบันเทิงกับเรา เพราะจิตของเรานี้มันหิวกับรูปเสียงกลิ่นรสหิวกับเหตุการณ์ต่างๆ ให้มันอยู่เฉยๆ นิ่งๆ มันจะรู้สึกหงุดหงิด  

ดังนั้น เวลาที่ร่างกายตายไปนี่จิตก็จะได้อาศัยภาพที่ได้บันทึกเอาไว้ ขึ้นอยู่กับว่าไปบันทึกภาพชนิดไหน ถ้าไปทำบุญก็บันทึกภาพเหตุการณ์ที่มีความสุข ถ้าไปทำบาปก็บันทึกภาพเหตุการณ์ที่มีความทุกข์มาให้รับรู้มาให้ชมกัน นี่ช่วงที่ไม่มีร่างกาย จิตตวิญญาณก็จะอาศัยบุญบาปที่ได้ทำไว้เป็นตัวที่จะมาสร้างภาพสร้างเหตุการณ์ต่างๆ ให้ดูกัน ถ้าบุญมีกำลังมากกว่าบาป มีมากกว่าบาปบุญก็จะเป็นผู้ฉายภาพให้ดูก่อน แต่ถ้าบาปมากกว่าบุญ บาปก็จะเป็นผู้ฉายภาพของบาปให้ดู ถ้าเป็นภาพของบุญก็จะเป็นเรื่องของความสุข เราก็จะเรียกช่วงนั้นอยู่บนสวรรค์กัน มีแต่ภาพเหตุการณ์ที่ดีๆ มีความสุขช่วยคนนั้นช่วยคนนี้

ถ้าเกิดบาปมีกำลังมากกว่าบุญมันก็จะมีแต่ภาพที่ทุกข์ยากลำบากมาให้ดู มีเรื่องเบียดเบียนกันฆ่าฟันกันแก่งแย่งกันชิงดีกันอะไรต่างๆ ช่วงนั้นเราก็เรียกว่าเป็นจิตที่อยู่ในอบาย เป็นจิตประเภทเปรตบ้าง ถ้าทำบาปด้วยความโลภก็จะบันทึกภาพที่สร้างความหิวโหยตลอดเวลา ถ้าทำบาปด้วยความกลัวก็จะบันทึกภาพที่น่ากลัวให้ดูให้เห็น ถ้าทำบาปด้วยความอาฆาตพยาบาทก็จะมีภาพที่มีแต่การจองเวรจองกรรมกันฆ่าฟันกันแก่งแย่งชิงดีกันให้ได้ดูได้ชม นี่คือช่วงที่จิตวิญญาณไม่มีร่างกาย ช่วงที่พวกเราไม่มีร่างกาย พวกเราจะเป็นอย่างนี้ เหมือนกับช่วงที่พวกเรานอนหลับ 

ตอนที่เรานอนหลับเราก็ไม่ได้ใช้ร่างกาย ร่างกายตอนนั้นก็เหมือนคนตาย ตอนที่เรานอนหลับเราก็ได้อาศัยภาพจากบุญและบาปนี่ให้เราได้เสพได้สัมผัส เราเรียกภพเหล่านี้ว่าความฝัน บางทีเราก็ฝันดีบางทีเราก็ฝันร้าย เพราะว่าช่วงที่เรามีชีวิตอยู่นี้บุญกับบาปมันยังไม่ได้มาแย่งกัน มันแล้วแต่ว่าตัวไหนมีกำลังมากกว่ามันก็แสดงออกมา ถ้าเราฝันร้ายนี่มันเป็นเหมือนกับสัญญาณบ่งบอกว่าเรากำลังทำบาปมากกว่าทำบุญนะ ถ้าเรามีแต่ฝันร้ายอยู่เรื่อยๆ นี่แสดงว่าเราทำบาปมากกว่าทำบุญ ถ้าเราฝันดีนี่แสดงว่าเราทำบุญมากกว่าทำบาป  

การฝันนี่เป็นเหมือนการดูหนังตัวอย่าง เพราะเรายังไม่ได้ตายจริง เราตายชั่วคราว ตายเพียงไม่กี่ชั่วโมง ๗, ๘ ชั่วโมงเราก็ตื่นขึ้นมา แต่เวลาตายจริงนี่มันจะยาว มันจะดูหนังยาวเลย ดูภาพยนตร์ยาว ถ้าเป็นบาปก็ดูแต่เรื่องทุกข์ เรื่องน่าหวาดเสียวหวาดกลัว ถ้าเป็นบุญก็มีแต่เรื่องสนุกสนานมีแต่เรื่องความสุขสำราญต่างๆ  นี่มันก็จะฉายภาพจนกว่าภาพของบุญหรือบาปหมดกำลังลง เราก็จะไปได้ร่างกายอันใหม่ได้ตุ๊กตาตัวใหม่ พอพ่อแม่ไปสร้างตุ๊กตาตัวใหม่ในท้องแม่ จิตตวิญญาณก็มาเกาะเลย มาเกาะที่ตาหูจมูกลิ้นกาย แล้วพอคลอดออกมาก็เริ่มสั่งการให้ร่างกายหารูปเสียงกลิ่นรสอะไรต่างๆ มาให้เสพทันที

นี่คือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรากับร่างกาย ความจริงที่เราควรจะรู้ก็คือเราไม่ได้เป็นร่างกาย งั้นเราไม่ต้องไปเดือดร้อนไม่ต้องไปหวาดเสียวหวาดกลัวกับความเป็นความตายของร่างกาย แล้วเราก็ห้ามมันไม่ได้ด้วย ห้ามไม่ให้มันตายไม่ได้ ห้ามไม่ให้มันเจ็บไข้ได้ป่วยไม่ได้ ห้ามไม่ให้มันแก่ไม่ได้ แต่เราห้ามใจเราไม่ให้ไปทุกข์กับมันได้ ถ้าเรารู้ว่ามันไม่เป็นเราเท่านั้นเราก็สบายใจ

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี วันที่ ๑๘ พ.ศ. มีนาคม ๒๕๖๓ (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต) – 003

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า | Tagged 2565(2022), ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

ต้องเจริญสติให้เป็นนิสัยให้ใจอยู่กับร่างกาย ไม่ว่ากำลังทำอะไรก็ให้อยู่กับงานนั้นๆ

Posted on November 17, 2022 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/692594

ต้องเจริญสติให้เป็นนิสัยให้ใจอยู่กับร่างกาย ไม่ว่ากำลังทำอะไรก็ให้อยู่กับงานนั้นๆ

ต้องเจริญสติให้เป็นนิสัยให้ใจอยู่กับร่างกาย ไม่ว่ากำลังทำอะไรก็ให้อยู่กับงานนั้นๆ

วันพุธ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 19.15 น.

“…ถ้าไม่มีสติ เวลาบังคับให้ใจนิ่ง ให้เข้าสู่สมาธิ ใจก็จะไม่ยอมเข้า บริกรรมพุทโธๆได้เพียง ๒ – ๓ วินาที ก็จะลอยไปคิดเรื่องอื่น ดูลมหายใจก็เช่นเดียวกัน เราจึงต้องเจริญสติให้เป็นนิสัย ให้ใจอยู่กับร่างกาย ไม่ว่าร่างกายกำลังทำอะไร กำลังเดินก็ให้อยู่กับการเดิน กำลังยืนก็ให้อยู่กับการยืน กำลังนั่งก็ให้อยู่กับการนั่ง กำลังนอนก็ให้อยู่กับการนอน กำลังรับประทานอาหาร อาบน้ำแต่งตัว ล้างถ้วยล้างชาม ซักเสื้อผ้า ทำงานต่างๆ “ก็ให้อยู่กับงานนั้นๆ”

หรือจะบริกรรมพุทโธไปกับการเคลื่อนไหวของร่างกายก็ได้ “ไม่ให้ใจไปคิดเรื่องอื่น” ให้บริกรรมพุทโธๆไป พระบางรูปท่านจะใช้การบริกรรมพุทโธเป็นเชือกไว้ดึงใจ ตื่นขึ้นมาก่อนที่จะลุกก็บริกรรมพุทโธๆไปภายในใจ กำลังลุกขึ้นมายืนก็พุทโธๆ เข้าห้องน้ำไปทำกิจก็พุทโธๆตลอดเวลา ให้จิตว่างจากเรื่องราวต่างๆ แล้วจะมีความสงบในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สงบเต็มที่ คือ..ไม่ฟุ้งซ่าน จะว่างจากอารมณ์ต่างๆ พอถึงเวลานั่งสมาธิ ก็จะรวมเข้าสู่ความสงบได้อย่างรวดเร็ว…” 

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต)

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า | Tagged 2565(2022), ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

มนุษย์นี้เราต้องรักษาศีล ๕ กันให้ได้ ถ้าเราไม่รักษาศีล ๕ แล้วใจมันจะลงต่ำ

Posted on November 16, 2022 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/692342

มนุษย์นี้เราต้องรักษาศีล ๕ กันให้ได้ ถ้าเราไม่รักษาศีล ๕ แล้วใจมันจะลงต่ำ

มนุษย์นี้เราต้องรักษาศีล ๕ กันให้ได้ ถ้าเราไม่รักษาศีล ๕ แล้วใจมันจะลงต่ำ

วันอังคาร ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 18.57 น.

ใจของพวกเราในขณะนี้เป็นมนุษย์กันอยู่ ถ้าอยากจะป้องกันไม่ให้มันลงต่ำกว่ามนุษย์นี้เราต้องรักษาศีล ๕ กันให้ได้ ถ้าเราไม่รักษาศีล ๕ แล้วใจมันจะลงต่ำ มันจะลงไปสู่อบายอีกที ไปเป็นเปรต ไปเป็นเดรัจฉาน ไปเป็นอสูรกาย ไปตกนรก ทำบุญอย่างเดียวไม่รักษาศีลนี้ ป้องกันการไปเกิดในอบายไม่ได้ วิธีป้องกันไม่ให้ไปเกิดในอบายก็คือ ต้องไม่ทำบาป รักษาศีล ๕ ให้เป็นนิสัยให้ได้ หรือทำบาปให้มันน้อยกว่าทำบุญได้ 

ถ้าเราคิดว่าบางทียังพลั้งเผลอ ยังต้องทำบาปอยู่บ้างบางเวลา เพื่อความปลอดภัย เราก็พยายามทำบุญให้มากกว่าทำบาป บุญนี้ถ้ามีกำลังมากกว่าบาป เวลาร่างกายตายไป บุญนี้จะดึงใจให้ไปเป็นเทพไปก่อน ให้ไปสวรรค์ก่อน ยังไม่ต้องไปรับผลของบาป เพราะบาปที่ทำมันน้อยกว่าบุญ กำลังที่จะดึงใจให้ไปอบายมันไม่พอ มันสู้กำลังใจให้ไปสวรรค์ไม่ได้ 

ดังนั้น นอกจากการทำบุญแล้ว เราต้องพยายามรักษาศีล ๕ ให้ได้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อันนี้จะเป็นการสร้างความสุขและบำบัดความทุกข์ไปในตัว เพราะบาปนี้ การทำบาปนี้มันจะทำให้ใจเราทุกข์ ทำใจให้ต้องไปรับทุกข์ในอบาย ถ้าเราไม่ทำบาปเราก็ไม่ต้องไปรับทุกข์ในอบาย ทุกข์ที่จะเกิดจากการทำบาปมันก็ไม่มี เราก็จะได้รับบุญ ได้ความสุขจากการทำบุญของเรา

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๕ (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต) – 003

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า | Tagged 2565(2022), ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

‘ทุกข์บ่มี ปัญญาบ่เกิด’ โอวาทธรรม ‘พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต’

Posted on November 15, 2022 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/692102

'ทุกข์บ่มี ปัญญาบ่เกิด' โอวาทธรรม 'พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต'

‘ทุกข์บ่มี ปัญญาบ่เกิด’ โอวาทธรรม ‘พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต’

วันจันทร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 19.47 น.

ปกติถ้าเราอยู่สุขอยู่สบายเราก็ไม่ต้องไปแก้ปัญหาอะไร ไม่ต้องใช้ความคิดว่าเราจะกำจัดความทุกข์นี้ได้อย่างไร เพราะไม่มีใครชอบความทุกข์ ก็ต้องสร้างความทุกข์ขึ้นมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดปัญญาขึ้นมา สำหรับนักปฏิบัตินี้ บางทียังไม่มีความทุกข์ แต่เราต้องสร้างทุกข์ขึ้นมา มันจะได้กระตุ้นให้มันเจริญสติ เจริญปัญญา เพราะถ้ามันสุขสบายมันก็ไม่ต้องเจริญสติ ไม่ต้องเจริญปัญญา เหมือนคนเราถ้าไม่เจ็บไข้ได้ป่วยก็ไม่หายา ใช่ไหม บางทีต้องทำให้ร่างกายมันเจ็บปวด คนไข้บางคนชอบหมอ อยากไปหาหมอ ไม่รู้จะไปยังไง ไม่มีเหตุไปก็เลยทำเจ็บขาบ้าง ปวดท้องมั่ง จะได้ไปหาหมอได้ สร้างเหตุ อันนี้ก็เหมือนกัน บางทีเราต้องสร้างเหตุเพื่อกระตุ้น เพราะปกติจิตของเราถ้ามันสุขสบาย มันก็จะไม่ดิ้นรน งั้นจึงต้องไปอยู่แบบทุกข์ยากลำบาก สำหรับนักปฏิบัติก็เป็นการสร้างความทุกข์ขึ้นมา

ธุดงควัตรนี่ก็เป็นการสร้างความทุกข์ให้กับผู้ปฏิบัติ แทนที่จะกินวันละ ๓ มื้อ นี่ก็แค่มื้อเดียว แล้วก็แทนที่จะกินในสำรับ มีจานมีถ้วย มีของคาวของหวาน อาหารแทนที่จะแยกกัน ก็เอารวมกันในบาตร มันก็จะต้องทำให้ต้องใช้ปัญญา พิจารณาเพื่อที่จะได้สู้กับความทุกข์ยากลำบากนี้ให้ได้ ต้องเจริญสติ ต้องทำใจให้นิ่ง ไม่งั้นมันจะทำไม่ได้ นี่เป็นของที่ไม่ยาก อันนี้เป็นตัวอย่างที่ง่าย ตัวอย่างที่ยาก เช่น เราต้องการพิจารณาความตาย มันไม่ยอมพิจารณา ก็เลยต้องให้มันไปอยู่ที่ใหม่ที่มันเสี่ยงต่อความตาย เข้าไปอยู่ในป่า ไปอยู่ที่ใกล้สัตว์ร้ายต่างๆ มันจะทำให้ต้องมาพิจารณาเรื่องของร่างกายเรา มันเที่ยงหรือไม่เที่ยง มันเป็นตัวเราหรือไม่ใช่เป็นตัวเรา ก็จะพิจารณามันไม่เที่ยง ในร่างกายนี้ เกิดแล้ว มันก็ต้องแก่เจ็บตายเป็นธรรมดา มันไม่ใช่ตัวเรา เป็นดิน น้ำ ลม ไฟ ทำมาจากดิน น้ำ ลม ไฟ เดี๋ยวเวลาตายมันก็กลับคืนสู่ดิน น้ำ ลม ไฟ ถ้าเราไปยึดไปถือว่าเป็นตัวเราของเรา มันก็จะทำให้เราทุกข์ ถ้าเราไปยึดไปอยากให้มันไม่ตาย มันก็จะทำให้เราทุกข์ ถ้าเราอยากจะพ้นทุกข์ เราก็ต้องยอมตาย ปล่อยมัน

ถ้ามันอยู่ที่ปลอดภัยนี่ มันไม่มีเหตุการณ์มาบีบบังคับใจ ใจไม่มีความทุกข์กับสถานที่ปลอดภัย แต่พอไปอยู่สถานที่ที่มันน่ากลัวนี่ มันจะเริ่มเกิดความทุกข์ใจขึ้นมา ก็ต้องหาวิธีกำจัดมัน ต้องใช้ปัญญา ใช้สติใช้ปัญญา ถ้าปัญญาไม่ถึงขั้นก็เอาสติก่อน พุทโธๆ เวลาเกิดความกลัวก็ให้พุทโธๆ ไป จนกว่าใจจะสงบ พอใจสงบ ความกลัวก็หายไป ถ้าจะดำเนินต่อ พอใจสงบแล้วมีสติแล้วก็พิจารณาทางด้านปัญญา พิจารณาความไม่เที่ยง ต้องตายหรือไม่ตาย แล้วไปอยากให้มันไม่ตายนี่ จะห้ามมันได้ไม๊ อยากไม่ตายก็ไปสร้างความทุกข์ให้กับใจ สร้างความกลัวตายให้กับใจ 

ถ้าไม่อยากจะทุกข์กับร่างกาย ก็ยอมตาย ปลง อันนี้ทุกข์บ่มีปัญญาบ่เกิด ทางปฏิบัตินี้ท่านมักจะต้องไปหาเรื่องหาราวที่สร้างความทุกข์ขึ้นมา เช่น นั่งภาวนาให้มันเจ็บ นั่งแล้วไม่ขยับ ใช้ปัญญาสู้กับมัน ทำใจให้สงบให้ได้ ปล่อยวางเวทนาให้ได้ พอใจสงบ ปล่อยวางเวทนาได้ ใจก็ไม่ทุกข์ อยู่กับความเจ็บไข้ได้ป่วย ความเจ็บปวดจะรุนแรงขนาดไหนก็ไม่ต้องกินยาแก้ปวด เพราะไม่กลัวความเจ็บ ไม่ต้องไประงับมัน ปล่อยมันปวดไป พิจารณาว่าเวทนาก็ไม่เที่ยง มันมาแล้วก็ไป เจ็บแล้วเดี๋ยวมันก็หายเจ็บ สุขแล้วก็มาทุกข์ แล้วก็ไม่สุขไม่ทุกข์ เปลี่ยนไปตามเรื่องของมัน เป็นธรรมชาติ เป็นอนัตตา มันไปสั่งมันไม่ได้

เราก็ยอมรับกับสภาพความเป็นจริงของธรรมชาติให้ได้ สุขก็รับได้ ไม่สุขไม่ทุกข์ก็รับได้ ทุกข์ก็ต้องรับได้ พอรับได้นี้ก็สบายแล้ว ไม่กลัวเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย อยู่กับมันได้ ถ้าตายก็ไม่กลัวอีกเพราะยอมตาย นี่คือวิธีละสังโยชน์ ละสักกายทิฏฐิ พิจารณาเวทนา ร่างกาย ว่าเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง เป็นอนัตตา ไม่มีตัวตน เป็นทุกข์ถ้าเราไปอยากให้มันเที่ยง ไปอยากให้มันเป็นของเรา พอจะเข้าใจไหม คุณหมอ ทุกข์บ่มีปัญญาบ่เกิด มารบ่มี บารมีบ่เกิดนะ มารก็คือผู้ที่จะมาขัดขวางการกระทำความดีต่างๆ เมตตาบารมีไม่เกิดถ้าไม่มีมาร มีคนมาจองเวรจองกรรม มามีเรื่องมีราวกับเรา อยากจะให้มีเมตตาบารมีก็ให้อภัยเขา ไม่จองเวรจองกรรมกัน

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๕ (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต)  

Share this:

  • Click to share on Pocket (Opens in new window) Pocket
  • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
  • Click to share on X (Opens in new window) X
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window) LinkedIn
  • Click to share on Reddit (Opens in new window) Reddit
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window) Email
  • Click to print (Opens in new window) Print
  • Click to share on Telegram (Opens in new window) Telegram
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window) Tumblr
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window) WhatsApp
  • Click to share on Mastodon (Opens in new window) Mastodon
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window) Pinterest
Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า | Tagged 2565(2022), ข่าว Like สาระ, ธรรมะ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

Post navigation

← Older posts
Newer posts →

BamBam Family

BamBam Family

สถิติบล็อก

  • 2,821,791 hits

Join 3,805 other subscribers
Follow SootinClaimon.Com on WordPress.com

Categories

Top Posts & Pages

เพื่อไทย เรียกร้อง กกต คุมเข้มเลือกตั้ง หลังผู้สมัคร สส แจ้งมีบุคคลใช้อำนาจข่มขู่ คุกคาม ในการหาเสียง
ย้อนรอยความกล้า 'จ่าเริง' ทหารสมัครใจลงใต้ สู่ภารกิจสุดท้ายที่ปราสาทตาควาย
‘อภิสิทธิ์’ปลื้ม! คนไทยตอบรับ‘ประเทศไทยจะไม่ทน’ล้นหลาม
ศรัทธาล้นใจ ‘รุ่ง นครพนม’ สร้างรูปปั้น ‘ท้าวภังคี–นางไอ่’ ปลื้มจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่
ญี่ปุ่นทำแผนประเมินล่วงหน้า หากเกิดแผ่นดินไหวโตเกียว อาจกระทบประชาชน 8.4 ล้านติดค้างกลับบ้านไม่ได้
คุณแหน : 20 ธันวาคม 2568
'เพื่อไทย'เปิดบ้านต้อนรับ'เทวัญ' นำทีมโคราช พร้อมลงสมัคร สส.3เขตเสริมทัพ
นายกฯเปิดอาคารที่ว่าการอำเภอบ้านลาด (หลังใหม่) จังหวัดเพชรบุรี
ไม่ใช่ปิดข่าว แต่ไม่มีศพให้รายงาน! เปิดความจริงจากแนวหน้า ไทยพลิกเกมด้วยโหมดรบยุคใหม่
'อนุทิน’หนุนทหารสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ ลั่นไทยไม่มีวันแพ้ ‘บิ๊กเล็ก’ย้ำเงื่อนไขหยุดยิง กัมพูชาสิ้นสุดเป็นปรปักษ์

Recent Posts

  • ‘นายกฯ’กราบทหารกล้า ‘จ่าเริง-พลฯภานุพัฒน์’ ด้วยสำนึกบุญคุณปกป้องแผ่นดินไทย
  • ขอโอกาส! ‘ศิริภา’อาสาลงชิงสส.พญาไท-ดินแดง ลั่นจะแก้ทุกปัญหา-สู้เพื่อชาติไปด้วยกัน
  • ‘ยศชนัน’ประเดิมลงพื้นที่อยุธยา นำทีม‘เพื่อไทย’ขายฝันแก้น้ำ-โชว์ประกันกำไรสินค้าเกษตร 30%
  • ‘เพื่อไทย’เปิด 10 หลักคิด‘เศรษฐกิจ’ ก่อนทยอยเปิดนโยบายสู้ศึกเลือกตั้ง
  • ‘พีระพันธุ์’ยกย่อง‘กองทัพเรือ’เด็ดขาด บีบทหารเขมรรื้อสันเขื่อนรุกอ่าวไทย

ป้ายกำกับ

  • 2559(2016)
  • 2564(2021)
  • entertain
  • naewna
  • The Nation
  • การเมือง
  • คมชัดลึก
  • ต่างประเทศ
  • บันเทิง
  • แนวหน้า
  • RSS - Posts
  • RSS - Comments

Archives

Follow Us

  • https://soclaimon.tumblr.com/
  • https://www.facebook.com/soclaimon
  • https://www.instagram.com/sootinclaimon/
  • https://www.facebook.com/SootinClaimon/
  • https://www.facebook.com/profile.php?id=100001170824639
  • https://www.facebook.com/pompam.pp
  • https://www.facebook.com/toraman666
  • https://www.facebook.com/apich214
  • https://www.facebook.com/samabat.klaimon
  • https://www.facebook.com/profile.php?id=100005312762480
  • https://www.facebook.com/jirasuda.manomaiyanon
  • https://www.facebook.com/eikpakkred
  • https://www.facebook.com/profile.php?id=100003091451547
Blog at WordPress.com.
  • Subscribe Subscribed
    • SootinClaimon.Com
    • Join 1,659 other subscribers
    • Already have a WordPress.com account? Log in now.
    • SootinClaimon.Com
    • Subscribe Subscribed
    • Sign up
    • Log in
    • Report this content
    • View site in Reader
    • Manage subscriptions
    • Collapse this bar
 

Loading Comments...
 

    %d