ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/222055
วันพฤหัสบดี ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 02.00 น.
กรรมติดจรวดยิ่งสอบก็ยิ่งเจอหลักฐานขบวนการโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น มากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด พ.ต.ท.สมบูรณ์สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ถูกเล่นแร่แปรธาตุจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ไปยังเครือข่ายสำนักจานบินในคดีที่เกี่ยวข้องกับธัมมชโย เจ้าสำนักจานบินพบเช็คเพิ่มอีก 7 ฉบับ มูลค่าราว 450 ล้านบาททำให้เช็คที่โอนไปยังธัมมชโยและพวกมียอดรวม 27 ฉบับ มูลค่ารวมกว่า 1,400 ล้านบาท
นี่ยังไม่รวมยอดเงินเล่นแร่แปรธาตุที่ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเป็นคนสนิทของ ธัมมชโยยักย้ายถ่ายเทไปยังอดีตศิษย์ธรรมกายกลุ่มหนึ่ง เท่าที่ตรวจสอบพบเป็นมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยหนึ่งในตัวละครสำคัญที่ถูกดำเนินคดีเพราะถูกตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นแหล่งฟอกเงินที่โกงจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น คือ นายสถาพร วัฒนาศิรินุกูลอดีตพระสำนักจานบิน ที่สึกเมื่อปี 2554 มาทำธุรกิจก่อตั้งบริษัทซึ่งมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นแค่ 10 ล้านบาทแต่ผ่านไปเพียง 2-3 ปี กลับมีทุนจดทะเบียนเพิ่มถึงกว่า 5,000 ล้านบาทซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติมาก
นอกจากนี้จากการสอบสวนของดีเอสไอยังพบว่า สาขาสำนักจานบินเนื้อที่ 150 ไร่ ที่จ.กาญจนบุรีซึ่งเป็นบ้านเกิดของ ทัตตชีโว รองเจ้าสำนักจานบิน ก็มีรายงานข่าวว่าเป็นที่ดินซึ่ง นายศุภชัย ซื้อไว้และถวายสำนักจานบินอย่างน่ากังขาจนถูกอายัดไว้เพราะสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่ถูกยักยอกจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
เงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ถูกเล่นแร่แปรธาตุยักย้ายถ่ายเทมายังสำนักจานบินยังมีอีกมากมายทั้งที่ถูกดีเอสไอตรวจสอบพบแล้ว และรอการขยายผล โดยเงินบางส่วนถูกนำไปต่อยอดทางธุรกิจในลักษณะเงินต่อเงิน ซึ่งรวมทั้งสหกรณ์มงคลเศรษฐีที่ตั้งอยู่ภายในสำนักจานบิน ซึ่งการยักยอกเงินฝากของผู้ฝากเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่นำเงินซึ่งสะสมมาทั้งชีวิตมาฝากเพื่อหวังกินดอกผลในช่วงบั้นปลายชีวิตแต่กลับถูกโกงจนหมดเนื้อหมดตัวต้องเดือดร้อนทุกข์แสนสาหัสถือเป็นบาปหนัก อีกทั้งพฤติการณ์ฟอกเงินและรับของโจรตลอดจนทำธุรกิจในรูปแบบต่างๆถือว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์แท้และเข้าข่ายทำผิดพระธรรมวินัย
เพราะฉะนั้นคดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่โยงกับธัมมชโยและเครือข่ายสำนักจานบินควรให้กำลังใจฝ่ายเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะดีเอสไอที่จะต้องมุ่งมั่นขยายผลขุดคุ้ยให้ถึงที่สุด เพื่อทำความจริงให้ปรากฏและที่สำคัญอย่างที่ พล.อ.ไพบูลย์คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ย้ำมาหลายครั้ง ว่าต้องทวงเงินฝากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ถูกโกงไปกลับมาคืนแก่เหล่าผู้สูงอายุหลายหมื่นคน ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อีกทั้งต้องสร้างมาตรฐานกระบวนการยุติธรรมไทยให้ศักดิ์สิทธิ์และพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้กระทำผิดไม่ว่าใหญ่หรือมีอิทธิพลแค่ไหนและไม่ว่าจะเป็นฆราวาสหรือสงฆ์ก็มีสิทธิถูกจับติดคุกและคนในประเทศนี้ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันอย่างเท่าเทียม
ทีมข่าวการเมือง









