สมีโยผิดลวงโลกขนาดนี้ หรือองค์กรสงฆ์ยังเฉย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/218892

วันศุกร์ ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 02.00 น.
เหตุการณ์ที่ผ่านๆ มา มันสะท้อนให้เห็นว่าสำนักจานบินส่อพฤติการณ์ลวงโลกมาตลอดทั้งการอ้างว่าธัมมชโย เจ้าสำนักจานบินป่วยหนักถึงขั้นเดินไม่ได้หวังใช้เป็นข้ออ้างหนีการเข้ามอบตัวตามหมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ฐานพัวพันฟอกเงินและรับของโจรคดีโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เพราะไม่กล้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมถึงขั้นใช้เอกสารทางการแพทย์เท็จยืนยันอาการป่วย ทั้งๆ ที่คลิปภาพที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ชี้ว่า ธัมมชโยไม่ได้ป่วยแต่ยังเดินปร๋อได้ตามปกติ

ล่าสุดมีการพยายามสร้างภาพว่าสำนักจานบินยึดแนวทางสันติไม่ได้ตั้งกองบัญชาการรบเพื่อขวางการเข้าจับ ธัมมชโย โดยยอมนำรถแบ๊กโฮขนาดใหญ่หลายคันที่จอดขวางประตูทางเข้าสำนักจานบินก่อนหน้านี้ออกไป

ขณะที่สร้างภาพยอมถอย แต่กลับขยายแนวลวดหนามซึ่งเป็นยุทธภัณฑ์ที่มีใช้เฉพาะในหน่วยงานด้านความมั่นคงบนกำแพงสำนักจานบินออกไปอีกเพื่อเป็นแนวป้องกัน อีกทั้งมีการขนท่อน้ำคอนกรีตพร้อมด้วยถุงบิ๊กแบ๊กขนาดใหญ่จำนวนมากมาวางเป็นแนวบังเกอร์อย่างมั่นคงแข็งแรงภายในสำนักจานบินส่อเจตนาเตรียมสู้เต็มที่ ตลอดจนมีการตั้งกองกำลังหน่วยรักษาความปลอดภัยจำนวนมาก ซึ่งหลายต่อหลายคนหน้าตาดุจโจร จนสำนักปฏิบัติธรรมมีภาพไม่ต่างจากกองบัญชาการรบในสมรภูมิสงคราม

หลวงปูพุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เผยว่าได้รับรายงานจากสายซึ่งอยู่ในสำนักจานบินว่ามีกลุ่มการ์ดเสื้อแดงทยอยขนกระเป๋าใบใหญ่เข้าไปภายในสำนักจานบินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสงสัยว่าอาจเป็นอาวุธและหากเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปเชื่อว่าเกิดการปะทะกันแน่

ขณะเดียวกันก็มีการเผยแพร่คลิปภาพชายฉกรรจ์ที่อยู่ภายในสำนักจานบินพบว่าหลายคนมีใบหน้าเหมือนกับภาพการ์ดกองกำลังเสื้อแดงที่เคยถูกถ่ายไว้ในอดีตราวกับแกะ

อีกด้านหนึ่ง นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และดร.นพ.มโน เลาหวณิชอาจารย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ายื่นหนังสือคำฟ้องกล่าวหา ธัมมชโย ที่อวดอุตริมนุสธรรมและล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเข้าข่ายปาราชิกต่อ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์เจ้าคณะหนกลาง

ตามคำร้องระบุพฤติการณ์อวดอ้างตัวเป็นผู้วิเศษของ ธัมมชโย อาทิ อ้างว่าพบเห็นวิญญาณ นายชาติชาย โรจน์กีรติกาญจน์ บนสวรรค์ชั้น 2ฝากข่าวมาบอกลูกหลานให้ทำบุญอุทิศให้มากๆ ทั้งๆที่ความจริง นายชาติชาย ยังไม่เสียชีวิต หรืออ้างพบวิญญาณ สตีฟ จ็อบส์ ไปเกิดในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาหรือพบเห็น ท่านพุทธทาสภิกขุ ตกนรกเพราะสอนธรรมผิดและเป็นมิจฉาทิฐิ หรือพบ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตอยู่ในนรกเพราะหลงตัวว่าเป็นอรหันต์ หรืออ้างตัวเองเป็นหัวหน้าพระพุทธเจ้าสามารถให้ธรรมแก่ผู้ใดให้บรรลุธรรมกายหรือจับขังไว้ในตู้เซฟไม่ให้ได้ผุดได้เกิดก็ได้

นั้นส่อพฤติการณ์อลัชชีลวงโลกขนาดนี้หรือองค์กรสงฆ์และเหล่าพระเถระผู้ใหญ่ยังจะหลับหูหลับตาทำเฉยส่อเจตนาตะแบงอุ้มสมี 18 มงกุฎอยู่อีกหรือ

ทีมข่าวการเมือง

จับตาหลุมพรางสำนักจานบิน บิ๊กตู่รู้ทันหวั่นเหมือนปี’53

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/218684

วันพฤหัสบดี ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 02.00 น.
นับวันสำนักจานบินจะเผยตัวตนที่แท้จริงให้สังคมเห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางข้อสงสัยว่ามีอะไรซ่อนอยู่ภายในสำนักจานบินซึ่งยังไม่เป็นที่เปิดเผยหลังจากที่สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้แปลงร่าง ดุจค่ายรบอาณาจักรรัฐซ้อนรัฐที่กฎหมายเข้าไปแตะต้องไม่ได้

การใช้ลวดหนามขึงบนแนวกำแพง รวมทั้งมีกลุ่มชายฉกรรจ์หน้าตาราวกับโจรใช้ผ้าปิดปากจมูกอำพรางโฉมหน้าทำหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยอยู่ในสำนักจานบินแสดงให้เห็นว่าต้องการตั้งป้อมสู้กับอำนาจรัฐและกฎหมาย

โดยเฉพาะลวดหนามนั้นเป็นยุทธภัณฑ์ต้องห้ามที่ใช้เฉพาะแต่ในหน่วยงานด้านความมั่นคงคือกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ไม่มีซื้อขายในท้องตลาด ทำให้สงสัยว่าลวดหนามเหล่านี้มาจากไหน และใครเป็นคนวางแนวลวดหนามเพราะมีแต่ผู้ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีเท่านั้นที่ทำได้

นอกจากนี้จากภาพถ่ายกลุ่มชายฉกรรจ์บางคนที่เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยมีใบหน้าเหมือนกับการ์ดฮาร์ดคอร์ของกองกำลังเสื้อแดงจ.ปทุมธานีทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าสำนักจานบินอาจได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเสื้อแดงและเครือข่ายระบอบทักษิณ

อาณาจักรลึกลับที่มีอาณาบริเวณหลายพันไร่ของสำนักจานบินทำให้ฝ่ายพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ไม่กล้าผลีผลามในการเข้าไปควบคุมตัว ธัมมชโย ตามหมายจับเพราะเกรงปัญหาจะบานปลายเพราะดูเจตนาของสำนักจานบินแล้วส่อเจตนาพร้อมแตกหักเพื่อปกป้องกันธัมมชโย อีกทั้งไม่แน่ใจว่าภายในสำนักจานบินมีอาวุธร้ายแรงอะไรซ่อนอยู่หรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เหมือนจะรู้ทันแผนการฝ่ายตรงข้ามจึงมอบนโยบายให้ใจเย็นๆ อย่าผลีผลามเข้าไปจับ ธัมมชโย เพราะเกรงจะเกิดการปะทะจนนำไปสู่ความสูญเสียซึ่งจะทำให้สถานการณ์บานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โต

พล.อ.ประยุทธ์ พยายามชี้ให้เห็นสิ่งผิดปกติบางประการโดยเฉพาะลักษณะการขึงลวดหนามบนกำแพงสำนักจานบินเป็นยุทธวิธีที่เหมือนกับกองกำลังที่ปะปนอยู่ในม็อบเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ซึ่งใช้สวนลุมพินีปักหลักเป็นกองบัญชาการต่อสู้กับฝ่ายรัฐซึ่งภายหลังมีการตรวจพบอาวุธร้ายแรงจำนวนมาก

การตั้งป้อมสู้ของสำนักจานบินอาจเป็นหลุมพรางสุมไฟให้ลุกโชนเพื่อหลอกล่อให้ฝ่ายรัฐใช้กำลังบุกเข้าจับตัวธัมมชโยจนเกิดการปะทะบานปลาย ซึ่งสำนักจานบินจะปัดความรับผิดชอบอ้างว่ากองกำลังที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่เป็นมือที่ 3 หรือพวกสวมรอย และยิ่งในกรณีที่เกิดการสูญเสียโดยมีคนในสำนักจานบินบาดเจ็บล้มตายก็จะกลายเป็นข้ออ้างของสำนักจานบินที่จะพลิกสถานการณ์ทำลายความชอบธรรมของฝ่ายรัฐขณะเดียวกันเพิ่มความชอบธรรมให้กับธัมมชโย และอาจด้วยสาเหตุนี้ที่ทำให้ดีเอสไอต้องวางแผนอย่างรัดกุมเพื่อไม่ให้ตกหลุมพรางของสำนักจานบิน

ทีมข่าวการเมือง

สำนักจานบินตรึงแนวลวดหนาม นี่วัดหรือกองบัญชาการรบ?

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/218499

วันพุธ ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

เหล่าสาวกสำนักจานบินรวมทั้งขบวนการเพื่อแม้วซึ่งเป็นพวกเดียวกันทั้งให้สัมภาษณ์และเผยแพร่ข้อความทางโซเชียลมีเดียกันอย่างแพร่หลายส่อเจตนาบิดเบือนเบี่ยงเบนประเด็นกรณีหมายจับธัมมชโย เจ้าสำนักจานบิน โดยพยายามชี้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งรังแกพระ ย่ำยีพุทธศาสนาจน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ต้องออกมาชี้แจงทำความจริงให้ปรากฏเพื่อไม่ให้ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการตกเป็นเหยื่อการโฆษณาชวนเชื่อหวังสุมไฟป้องธัมมชโย

ประเด็นมันอยู่ที่ว่าการออกมาจับครั้งนี้เป็นเรื่องเดิมมานานแล้วสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้มีผู้ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สอบสวนเอาผิดกับขบวนการโกงเงินฝากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นมูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท โดยเงินฝากของสหกรณ์ล้วนเป็นเงินของเหล่าคนชราซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการเกษียณที่เก็บเงินมาทั้งชีวิตแล้วนำมาฝากที่สหกรณ์หวังใช้ดอกเบี้ยเลี้ยงชีพในช่วงบั้นปลายชีวิต แต่ถูก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และพวกโกงเอาดื้อๆ ซึ่งจากการสอบสวนในที่สุดมีการจับกุมดำเนินคดี นายศุภชัย ที่ขณะนี้ใช้กรรมอยู่ในเรือนจำและจากการขยายผลพบหลักฐานชัดเจนเท่าที่ตรวจสอบพบในเบื้องต้นว่าเงินกว่า 2,000 ล้านบาท จาก นายศุภชัย ถูกเล่นแร่แปรธาตุโอนไปยัง ธัมมชโย และเครือข่ายในสำนักจานบิน โดยมีการสั่งจ่ายเช็คเฉพาะในชื่อ ธัมมชโย เกือบ 1,000 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ทีมโฆษกสำนักจานบินยืนกรานอ้างมาตลอดว่า ธัมมชโย ไม่รู้จักมักคุ้นกับ นายศุภชัย แต่ล่าสุด นายศุภชัย เริ่มสำนึกสารภาพกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอและอัยการอย่างหมดเปลือก เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมากพร้อมเปิดเผยว่า ตัวเองเคยเป็นไวยวัจกรณ์ดูแลเรื่องการเงินให้สำนักจานบินและเป็นคนวงในใกล้ชิด ธัมมชโย เป็นอย่างมากถึงขั้นใช้รหัสลับเรียกชื่อระหว่างกันเวลาติดต่อพูดคุย

เพราะฉะนั้นการที่ดีเอสไอออกหมายจับ ธัมมชโย จึงไม่ใช่เรื่องกลั่นแกล้งรังแกพระย่ำยีศาสนาอย่างที่บิดเบือน แต่เป็นเรื่องที่เกิดจากคดีโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่มีหลักฐาน
เชื่อมโยงมาถึง ธัมมชโย และพวก ซึ่งดีเอสไอก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่มิฉะนั้นอาจถูกฟ้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

และอาจด้วยพยานหลักฐานที่มัดแน่นทำให้ ธัมมชโย และเหล่าสาวกใกล้ชิดพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยการหนีหมายจับดีเอสไอด้วยการหลอกล่อลวงโลกซื้อเวลาอ้างว่า ธัมมชโย ป่วยหนักซ้ำซากไม่สามารถเข้ามอบตัวได้

การที่ปรากฏภาพรถแบ๊กโฮหลายคันจอดขวางทางเข้าสำนักจานบินหรือที่เลวร้ายไปกว่านั้นมีการใช้ลวดหนามที่ใช้เฉพาะในวงการทหารและตำรวจวางเป็นแนวขวางทางเข้าสำนักจานบิน รวมทั้งมีกองกำลังที่สวมหมวกและใช้ผ้าดำปิดจมูกปากเป็นการ์ดรักษาความปลอดภัยทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยว่า นี่คือพฤติการณ์ของวัดหรือกองบัญชาการรบกันแน่

ล่าสุด นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกสำนักจานบิน ออกมาส่งสัญญาณเชิงข่มขู่ในทำนองว่า ขณะนี้สาวกสำนักจานบินทั้งในประเทศและทั่วโลกกำลังจะหมดความอดทนและพร้อมออกมาปกป้อง ธัมมชโย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากธัมมชโยยังมีคุณธรรมอยู่บ้างก็ต้องมอบตัวพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันเหล่าสาวกสำนักจานบินควรใช้สติตรึกตรองและเห็นแก่เหล่าคนชราตาดำๆ หลายหมื่นคนที่ฝากเงินไว้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่เดือดร้อนและช้ำใจอย่างหนักที่ยังไม่ได้เงินที่ถูกโกงคืนบ้าง ไม่ใช่คิดแต่จะปกป้องผู้ต้องหาหนีหมายจับอย่างไม่ลืมหูลืมตาโดยไม่แยกแยะผิดถูกชั่วดี

ทีมข่าวการเมือง

พิเคราะห์ผ่าอาณาจักรจานบิน ในมติความมั่นคงของชาติ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/218288

วันอังคาร ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

สำนักจานบินก่อตั้งมา 45 ปี ซึ่งตลอดช่วงที่ผ่านมาตกเป็นข่าวอื้อฉาวมากมาย ล่าสุด ก็คือกรณีที่ธัมมชโยเจ้าสำนักจานบินส่อเจตนาตั้งป้อมใช้เหล่าสาวกเป็นโล่มนุษย์เพื่อขวางหมายจับข้อหาฟอกเงินและรับของโจรพัวพันคดีโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และฝ่ายอัยการ ซึ่งแม้ธัมมชโยเคยถูกออกหมายจับมาแล้วเมื่อปี 2541 ในข้อหายักยอกทรัพย์สินวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัว แต่ก็รอดพ้นเงื้อมมือกฎหมายด้วยการใช้เหล่าสานุศิษย์เป็นเกราะป้องกัน และที่สำคัญรอดพ้นจากการถูกจับสึกตามพระบัญชาของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฐานประพฤติผิดพระธรรมวินัยร้ายแรงเมื่อปี 2542 อันสะท้อนให้เห็นถึงเบื้องหลังอันทรงอิทธิพลของสำนักจานบิน

สำนักจานบินกับระบอบแม้วนั้นถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นและลึกซึ้งมานาน ซึ่งการที่ก่อนหน้านี้อัยการถอนฟ้องธัมมชโย เอาดื้อๆ เมื่อปี 2549 ในคดียักยอกทรัพย์ทั้งๆ ที่ศาลกำลังจะพิพากษาความผิดของ ธัมมชโย ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะการช่วยเหลือจากนายใหญ่ที่ทรงอิทธิพลอยู่ในขณะนั้น

ที่ผ่านมาสำนักจานบินกับขบวนการเพื่อแม้วเกื้อหนุนกันทางการเมืองมาตลอดโดยฝ่ายหนึ่งพยายามแผ่ขยายอิทธิพลกุมอำนาจฝ่ายศาสนจักร ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งผูกขาดอำนาจฝ่ายอาณาจักรผ่านรัฐบาล ซึ่งหากสองพันธมิตรสำนักจานบินและขบวนการเพื่อแม้วสามารถยึดครองประเทศทั้งศาสนจักรและอาณาจักรได้อย่างเด็ดขาดต่อเนื่องโดยไม่เกิดการรัฐประหาร 2 ครั้งที่ผ่านมาเชื่อว่าหากสองพันธมิตรคิดที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศผูกขาดอำนาจทุกมิติอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในอนาคตเป็นเรื่องที่ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ

เหตุการณ์ปี 2553 ก็มีเสียงร่ำลือตั้งข้อสงสัยว่า สำนักจานบินเป็นแหล่งพักรวมพลของกองกำลังเสื้อแดงจากจังหวัดต่างๆ

สำหรับทรัพย์สินของสำนักจานบินนั้นคาดว่ามีมูลค่ามหาศาลจนน่าตกตะลึง ซึ่งองค์กรด้านคอร์รัปชั่นมีการประเมินว่า สำนักจานบินมีทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศรวมกันอาจเป็นมูลค่ามหาศาลถึงกว่า 4 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่างบประมาณแผ่นดินปีล่าสุดถึงเท่าตัว ซึ่งเฉพาะพื้นที่สำนักจานบินที่จ.ปทุมธานีก็กินอาณาบริเวณกว่า 4,000 ไร่ เข้าไปแล้วยังไม่รวมสาขาทั่วประเทศและในต่างประเทศอีกจำนวนมากที่มีการใช้กลยุทธ์แบบธุรกิจและการตลาดใช้เงินต่อเงินขยายทั้งรายได้รวมทั้งเครือข่ายอิทธิพลของสำนักจานบินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดกลายเป็นขุมพลังแห่งอำนาจที่ยึดครองประเทศไว้ในมือ

ดังนั้นหากพิจารณาในมติด้านความมั่นคงของชาติสำนักจานบินซึ่งถือเป็นแหล่งอิทธิพลทั้งด้านเครือข่ายกำลังมวลชน และพลังเงินมหาศาล และยิ่งหากคิดการใหญ่จับมือกับขบวนการเพื่อแม้วซึ่งมีอิทธิพลและแนวคิดคล้ายกันถือเป็นสัญญาณเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติที่ต้องจับตา เพราะนี่ขนาดเป็นยุคอำนาจรัฐภายใต้สถานการณ์พิเศษแต่สำนักจานบินยังส่อเจตนาใช้อิทธิพลกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายและอำนาจรัฐ

ทีมข่าวการเมือง

ธัมมชโยถ้าเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ ทำไมไม่กล้าพิสูจน์ความจริงโดยศาล

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/218112

วันจันทร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

ที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ว่า ฝ่ายพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และฝ่ายอัยการพยายามโอนอ่อนผ่อนปรน ทั้งๆ ที่รู้ว่าฝ่ายธัมมชโย เจ้าสำนักจานบินพยายามใช้เล่ห์ศรีธนญชัยยื้อเกมเพื่อเลี่ยงหมายจับข้อหาฟอกเงินและรับของโจรคดีโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นด้วยข้ออ้างป่วยหนักเดินไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีภาพคลิปฟ้องว่าธัมมชโยส่อเจตนาจัดฉากลวงโลกว่าป่วยหนัก ทั้งๆ ที่จะเดินได้ตามปกติ และยังบิดพลิ้วหลอกล่อเจ้าหน้าที่ซ้ำซาก อีกทั้งล่าสุดยังส่อเจตนาใช้เหล่าสาวกนับหมื่นเป็นโล่มนุษย์เพื่อขัดขวางการเข้าจับกุมตามหน้าที่ของดีเอสไอซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับที่ธัมมชโยเคยใช้ได้ผลจนรอดพ้นเงื้อมมือกฎหมายมาแล้วเมื่อปี 2541

สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นทุกขณะเมื่อฝ่ายธัมมชโยแสดงเจตนาชัดเจนว่า ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ธัมมชโย โดยมีการนำรถแบ๊กโฮขนาดใหญ่ปิดประตูทางเข้าสำนักจานบิน ขณะเดียวกันมีการติดป้ายขนาดใหญ่ที่หน้าประตูทางเข้าว่า “เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย”

ทั้งนี้บรรดาสาวกสำนักจานบินทั้งหลายที่ให้การปกป้อง ธัมมชโย ต้องตระหนักว่ากำลังทำผิดกฎหมายฐานให้การช่วยเหลือผู้ที่ถูกออกหมายจับและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานรัฐ

แต่ที่สำคัญจะทำให้ภาพพจน์ความน่าเชื่อถือของสำนักธรรมกายเสื่อมลง โดยเฉพาะเหล่าสาวกสำนักจานบินทั้งหลายที่ถูกมองว่ายังไม่ตื่นจากความงมงายโดยไม่แยกแยะผิดถูกชั่วดี ด้วยการหลับหูหลับตาปกป้องเจ้าลัทธิ ซึ่งที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นผู้ต้องหาฟอกเงินและรับของโจร และทำผิดพระธรรมวินัยร้ายแรงจนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาให้ปาราชิกพ้นความเป็นสงฆ์ไปตั้งแต่ปี 2542 ฐานยักยอกฉ้อฉลนำทรัพย์สินของวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัว และเผยแพร่ลัทธิที่ผิดเพี้ยนจากหลักธรรมคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

เหตุผลที่เหล่าสาวกสำนักจานบินอ้างในการปกป้องโดยเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของ ธัมมชโย ผิดหลักตรรกะอย่างสิ้นเชิง เพราะหากเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของ ธัมมชโย จริงอย่างที่อ้างก็ต้องไม่ใช่วิธีเอาโล่มนุษย์และรถแบ๊กโฮมาขวางหน้าประตูแสดงเจตนาขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ทั้งๆ ที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่พยายามหาทางลงที่ละมุนละม่อมด้วยการยอมให้ประกันตัวหาก ธัมมชโย ยอมมอบตัวเพื่อพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมแต่โดยดี

แต่ธัมมชโยใช้เล่ห์บ่ายเบี่ยงยื้อเกมมาตลอดโดยอ้างว่าป่วยหนักส่อเจตนาต้องการหนีการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมซึ่งศาลจะเป็นผู้ตัดสินผิดถูกชั่วดี ทั้งนี้หากธัมมชโยเป็นสงฆ์ที่เคร่งในศีลมีจิตที่ใสสะอาด และเห็นแก่ความสงบของพุทธศาสนาและบ้านเมือง รวมทั้งเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเองจริงป่านนี้คงยอมมอบตัวแต่แรกอย่างนิ่งสงบไม่สะทกสะท้านเพื่อพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมโดยไม่สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมือง แต่นี่ธัมมชโยส่อพฤติกรรมทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง

ทีมข่าวการเมือง

คสช.คลายกฎเหล็ก ปิดจุดอ่อนลดแรงกดดัน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/217982

วันอาทิตย์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.
นับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้ออกคำสั่งคสช.และกฎเหล็กต่างๆ เพื่อควบคุมให้ประเทศอยู่ในความสงบเรียบร้อยให้มากที่สุดเพื่อสยบขบวนการป่วนเมืองระบอบทักษิณ แต่กฎเหล็กโดยเฉพาะ พ.ร.บ.การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ห้ามการรณรงค์ร่างรัฐธรรมนูญในลักษณะที่เป็นการปลุกระดม ยั่วยุ หรือสร้างความขัดแย้งถูกกระแสต่อต้านจากบรรดาพรรคการเมืองหรือแม้แต่สื่อ และที่สำคัญคือเป็นข้ออ้างให้ระบอบทักษิณสุมไฟร้องเรียนไปยังองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กลุ่มประชาคมยุโรป ตลอดจนมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาจนเกิดกระแสกดดันอำนาจรัฐไทยหนักหน่วงรุนแรงทำลายความชอบธรรมของคสช.และรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.มากขึ้นเรื่อยๆ

กระแสกดดันคสช.ทั้งในและนอกประเทศจากการถูกโจมตีว่าคุกคามเสรีภาพและละเมิดสิทธิมนุษยชนทำให้ คสช.ซึ่งควบคุมอำนาจบริหารประเทศมาครบ 2 ปี เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ต้องแก้เกมด้วยการผ่อนคลายกฎเหล็กอันเป็นการพลิกสถานการณ์ลดแรงเสียดทานและเพิ่มความชอบธรรมให้คสช.

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดปรากฏการณ์ที่สร้างความประหลาดใจเมื่อจู่ๆ พล.อ.ประยุทธ์ ไฟเขียวให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดเวทีเปิดโอกาสให้ตัวแทนทุกพรรคทุกสีมาแสดงความเห็นทางการเมืองรวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้อย่างเต็มที่ โดยมี ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นตัวแทนฝ่ายรัฐบาลร่วมรับฟังความคิดเห็นด้วย

การจัดเวทีแสดงความคิดเห็นดังกล่าวแม้แกนนำขบวนการระบอบทักษิณจะพยายามโจมตีว่า เป็นการสร้างภาพของคสช. แต่การเปิดเวทีให้กลุ่มการเมืองทุกกลุ่มมีช่องทางแสดงความคิดเห็นอย่างน้อยก็ทำให้คสช.มีความชอบธรรมมากขึ้น

ทั้งนี้การเปิดเวทีเปิดโอกาสให้มีการแสดงความเห็นทางการเมืองดังกล่าวของคสช.ถือเป็นการแก้เกมเชิงยุทธวิธีที่ถูกจังหวะเวลาสอดคล้องกับสถานการณ์และไม่ได้ทำให้คสช.สูญเสียอำนาจในการคุมเกมแม้แต่น้อย เพราะยังมีประกาศคำสั่งคสช.บางฉบับ และมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวเป็นไม้ตายที่คอยกำราบขบวนการป่วนเมือง ขณะเดียวกันในทางการเมืองเป็นการปิดจุดอ่อนของคสช.และสลายข้ออ้างของขบวนการป่วนเมืองฝ่ายตรงข้ามซึ่งโจมตีคสช.มาตลอดว่าปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออกและละเมิดสิทธิมนุษยชน

การเปิดเวทีให้มีการแสดงออกยังเป็นการลดแรงเสียดทานและแยกปลาออกจากน้ำคือเปิดโอกาสให้กลุ่มการเมืองที่ต้องการแสดงความคิดเห็นหรือเคลื่อนไหวด้วยความบริสุทธิ์ใจมีทางระบาย ขณะเดียวกันก็เป็นการปิดทางกลุ่มป่วนเมืองขบวนการระบอบทักษิณหมดข้ออ้างสุมไฟวิกฤติ อีกทั้งการปิดจุดอ่อนลดแรงเสียดทานยังทำให้ คสช.มีเวลาและสมาธิมุ่งไปที่การแก้ไขปัญหาและเดินหน้าปฏิรูปปฏิประเทศได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ยังเป็นการลดความชอบธรรมขบวนการป่วนเมืองระบอบทักษิณที่อาศัยข้ออ้างสำคัญในการเคลื่อนไหวบ่อนทำลายคสช.มาตลอดนั่นคือ การปิดกั้นเสรีภาพและละเมิดสิทธิมนุษยชน

การผ่อนคลายกฎเหล็กยังเป็นการขจัดเงื่อนไขข้ออ้างของนานาประเทศที่จะเข้ามาแทรกแซงปัญหาภายในของไทย ซึ่งเมื่อสามารถขจัดเงื่อนไขแรงกดดันทั้งภายในและภายนอกประเทศจนบ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อยมากขึ้น คสช.และรัฐบาลก็สามารถบริหารประเทศได้อย่างราบรื่นภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มมีสัญญาณของการฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ความศรัทธาของมหาชนที่มีต่อคสช.ยังคงเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งหากคสช.สามารถทำให้การเมืองมีเสถียรภาพสงบเรียบร้อยจะทำให้การเดินหน้าฟื้นฟูประเทศราบรื่นและเดินไปตามแผนที่วางไว้
ทีมข่าวการเมือง

ธัมมชโย-สำนักจานบิน อภิสิทธิ์ชนเหนือกฎหมาย?

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/217872

วันเสาร์ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.
พฤติการณ์ธัมมชโยและเหล่าสาวกสำนักจานบินเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนแล้วว่าส่อเจตนาใช้เล่ห์ศรีธนญชัยหลอกล่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และฝ่ายอัยการหวังยื้อเวลาหนีหมายจับข้อหาฟอกเงินและรับของโจรคดีโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ด้วยข้ออ้างว่าป่วยหนักซ้ำซาก

พฤติการณ์ที่ส่อเจ้าเล่ห์แบบศรีธนญชัยของ ธัมมชโย และเหล่าสาวกเห็นได้จากฝ่ายธัมมชโย ยื่นเงื่อนไขต่อรองขอให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอและตัวแทนฝ่ายอัยการเดินทางไปรับการมอบตัวของธัมมชโย ที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ติดกับสำนักจานบินนั่นเอง ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอและตัวแทนฝ่ายอัยการ ก็ยอมโอนอ่อนด้วยดีเพื่อให้เหตุการณ์จบลงด้วยดีโดยยอมเดินทางไปรอที่สภ.คลองหลวง แต่พอถึงเวลากำหนดนัดปรากฏว่าธัมมชโย กลับเบี้ยวเอาดื้อๆ อ้างเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมาว่าป่วยอย่างกะทันหันมามอบตัวไม่ได้

ล่าสุดก็มีข่าวว่ามีการระดมกำลังเหล่าสาวกลัทธิจานบินภายในอาณาจักรสำนักจานบินจำนวนมากเตรียมใช้เป็นโล่มนุษย์สกัดการบุกจับ ธัมมชโยซึ่งเป็นวิธีการเดียวที่ ธัมมชโย ใช้เมื่อปี 2541 หลังถูออกหมายจับคดียักยอกทรัพย์ ขณะเดียวกันก็มีการนำรถแบ๊กโฮขนาดใหญ่มาจอดขวางหน้าประตูทางเข้าสำนักจานบินส่อเจตนาเตรียมการขัดขวางการเข้าจับกุมธัมมชโย อย่างเต็มที่

หากเหล่าสาวกลัทธิจานบินสกัดการจับกุม ธัมมชโย ถือว่ามีความผิดฐานขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และที่สำคัญไม่ต่างอะไรกับเป็นการสร้างแบบอย่างเลวร้ายสนับสนุนคนที่ทำผิดกฎหมาย

จากพฤติการณ์ส่อขัดขวางการจับ ธัมมชโยของดีเอสไอโดยเหล่าสาวกสำนักจานบินจนหวั่นว่าอาจนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรง ทำให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เกรงว่า การบุกจับ ธัมมชโย อาจทำให้เกิดความวุ่นวาย จึงเห็นว่าดีเอสไอควรถอยมาตั้งหลักซึ่งยังมีทางออกอื่นโดยคดีนี้ให้สั่งฟ้องศาลไปเลยโดยไม่มีผู้ต้องหาแล้วให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล

ขณะที่ นพ.มโน เลาหวณิช อดีตพระสำนักจานบิน และเคยเป็นคนสนิทของธัมมชโย เสนอว่าเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง พนักงานสอบสวนควรขอความอนุเคราะห์จาก สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง)เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และเป็นอุปัชฌาย์ของธัมมชโย ให้เป็นตัวกลางเกลี้ยกล่อมให้ ธัมมชโย ยอมมอบตัวโดยดีซึ่งหาก ธัมมชโย ไม่เชื่อพระอุปัชฌาย์ถือว่าอาบัติ แต่หาก สมเด็จช่วง ไม่ดำเนินการถือว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ของกฎหมายอาญา

จากปรากฏการณ์ที่ส่อใช้อิทธิพลเหนือกฎหมายของธัมมชโยและสำนักจานบิน และทำตัวดุจอภิสิทธิ์ชนเป็นบุคคลและอาณาจักร
ที่แตะต้องไม่ได้ ทำให้ถูกตั้งคำถามในเรื่อง 2 มาตรฐานทางกฎหมาย เพราะชาวบ้านตาสีตาสาหากถูกออกหมายจับจะได้รับการปฏิบัติดุจอภิสิทธิ์ชนเหมือนธัมมชโยหรือไม่

ทีมข่าวการเมือง

ธัมมชโยถ้ายังเล่นเกมตั้งแง่ ไม่มีทางอื่นนอกจากถูกจับสึก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/217674

วันศุกร์ ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
หลายคนสงสัยทำไมเหล่าสาวกสำนักจานบินถึงยืนกรานกระต่ายขาเดียวอ้างมาตลอดว่า ธัมมชโยป่วยโคม่าไม่สามารถไปมอบตัวข้อหาฟอกเงินและรับของโจรคดีโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ตามหมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ โดยตั้งแง่ให้ดีเอสไอไปแจ้งข้อหาธัมมชโยที่สำนักจานบิน ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตบางประการตอบข้อสงสัยดังกล่าว

เหตุผลที่เป็นไปได้ก็คือเพราะเรื่องอาการป่วยขั้นโคม่าที่ถึงกับเดินเหินไม่ได้และเสี่ยงที่จะตายได้ทุกขณะ ถูกจัดฉากสร้างเรื่องลวงโลกมาตั้งแต่ต้น ซึ่งหากนำ ธัมมชโย ไปมอบตัวที่ดีเอสไอ อาจเผยพิรุธเสี่ยงถูกจับเท็จได้ว่าไม่ได้ป่วยหนักจริงอย่างที่เล่นละครตบตาคนทั้งประเทศ ซึ่งนั่นอาจหมายถึงความล้มละลายในความน่าเชื่อถือของสำนักจานบินดังพุทธพจน์ที่ว่า “คนพูดเท็จไม่ทำชั่วเป็นไม่มี”

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งการไม่ยอมมอบตัวตามหมายจับของดีเอสไอก็เพื่อศักดิ์ศรีและรักษาภาพลักษณ์บารมีของ ธัมมชโย ซึ่งถูกสร้างภาพยิ่งใหญ่ดุจเทพเจ้าในสายตาเหล่าสาวก

การจัดฉากขาเน่า หรืออยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤติเพื่อแสดงให้เห็นว่า ธัมมชโย อาการโคม่า กลับถูกจับผิดเมื่อมีการเผยแพร่คลิปภาพ ธัมมชโย ยังเดินปร๋อปฏิบัติศาสนกิจได้ตามปกติ หรือขณะไปปล่อยนกในงานวันเกิดลูกศิษย์ ซึ่งแม้แต่โฆษกสำนักจานบินก็จำนนต่อหลักฐานออกมายอมรับว่า คลิป ธัมมชโย เดินปร๋อ หรือปล่อยนกเป็นของจริง ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ธัมมชโย ไม่ได้ป่วยโคม่าถึงขั้นจะเป็นจะตายอย่างที่จัดฉากสร้างภาพ และสามารถที่จะเดินทางมามอบตัวต่อดีเอสไอได้หากบริสุทธิ์ใจไม่ตั้งแง่ยื้อเกม

การยอมมามอบตัวต่อดีเอสไอกับการตั้งแง่ให้ดีเอสไอบุกไปจับถึงสำนักจานบิน ผลที่ตามมาต่างกันสิ้นเชิง เพราะดีเอสไอเปิดช่องทางผ่อนปรนให้แล้วว่าหาก ธัมมชโย ยอมมามอบตัวแต่โดยดีก็จะให้ประกันตัวทันทีด้วยหลักทรัพย์ 5 ล้านบาท แต่หากไม่ยอมมามอบตัวแล้วให้ดีเอสไอบุกไปจับถึงสำนักจานบิน นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งเท่ากับขัดขืนไม่รับเงื่อนไขที่จะได้ประกันตัวและเมื่อถูกจับกุมตามกฎหมาย ธัมมชโย ต้องถูกจับสึกก่อนคุมตัว
เข้าห้องขัง

ล่าสุดฝ่ายดีเอสไอได้เตรียมแผนไว้อย่างเป็นขั้นตอนจากเบาไปหาหนักในกรณี หาก ธัมมชโย ไม่ยอมมามอบตัว โดยดีเอสไอไม่มีทางเลือกต้องปฏิบัติตามกฎหมาย มิฉะนั้นอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา

นอกจากนี้ยังมีบทเรียนมาแล้วเมื่อปี 2541 ที่ ธัมมชโย ถูกออกหมายจับฐานหลอกลวงและยักยอกทรัพย์ ซึ่ง ธัมมชโย ใช้วิธีดื้อแพ่งจนรัฐบาลขณะนั้นต้องใช้กำลังตำรวจหน่วยคอมมานโดบุกสำนักจานบินหมายจับตัว แต่มีการระดมเหล่าสาวกสำนักงานบินตั้งเป็นโล่มนุษย์สกัดกั้นจนตำรวจไม่สามารถเข้าไปจับได้ และในที่สุดมีการเจรจาแบบพบกันครึ่งทางโดย ธัมมชโย ยอมไปมอบตัวที่วัดชนะสงคราม ต่อหน้าพระผู้ใหญ่โดยมีเงื่อนไขต้องได้ประกันตัวทันที

ปัญหาครั้งนี้จึงอยู่ที่ธัมมชโยว่ายังจะยอมปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ตามกระบวนการยุติธรรม หรือยังคิดตั้งแง่ทำให้ปัญหาลุกลามบานปลาย

ทีมข่าวการเมือง

วันเส้นตายวัดใจธัมมชโย เลือกทางสวรรค์หรือนรก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/217481

วันพฤหัสบดี ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

จนถึงนาทีนี้ไม่รู้ว่าธัมมชโยจะดวงตาเห็นธรรม ด้วยการเลือกทางสวรรค์ยอมเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฐานฟอกเงินและรับของโจรคดีโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น หรือจะเลือกทางนรกด้วยการตะแบงจัดฉากลวงโลกเล่นเกมยื้อหรือคิดหนีออกนอกประเทศเมื่อถึงเส้นตายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้เวลาตัดสินใจโดยเปิดช่องทางผ่อนปรนว่า หากยอมมารับทราบข้อกล่าวหาแต่โดยดีก็จะให้ประกันตัว

การเล่นเกมที่ส่อเจตนาจัดฉากลวงโลกว่า ธัมมชโย ป่วยหนักของเหล่าสาวกสำนักจานบินถูกหลายฝ่ายจับผิดเปิดโปงจนล่อนจ้อนว่า เป็นปาหี่ต้มคนทั้งประเทศจนล่อนจ้อน ขณะที่เกมดิ้นแบบเข้าตาจนด้วยการยื้นคำร้องต่อศาลให้ถอนหมายจับของดีเอสไอก็แห้วสนิทเมื่อศาลยกคำร้อง และที่เหมือนฝันร้ายที่สุดสำหรับ ธัมมชโย และสาวกที่ร่วมขบวนการฟอกเงินและรับของโจรก็คือ การยอมเปิดปากรับสารภาพอย่างหมดเปลือกของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ขณะนี้เป็นผู้ต้องหาอยู่ในคุกได้แฉเบื้องหลังมัด ธัมมชโยเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุเงินที่โกงจากสหกรณ์แล้วถ่ายโอนไปยังธัมมชโย และเหล่านอมินีสาวกสำนักจานบิน

ทั้งนี้ นายศุภชัย ยังยอมรับว่าเป็นคนสนิทของ ธัมมชโย โดยจะมีรหัสลับเวลาติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการจับโกหกสำนักจานบินที่อ้างว่า ธัมมชโย ไม่รู้จัก นายศุภชัย

สถานการณ์ของ ธัมมชโย ขณะนี้ต้องถือว่าวิกฤติเข้าตาจนและใกล้อวสานเป็นไปตามกฎแห่งกรรมเต็มที หาก ธัมมชโย และเหล่าสาวกจานบินยังพยายามตะแบงส่อเจตนาลวงโลกดันทุรังเล่นเกมยื้อต่อไป เท่ากับประจานตัวเองและอาจถูกมองว่าแสดงพฤติกรรมดังพุทธพจน์ที่ว่า“คนพูดเท็จไม่ทำชั่วเป็นไม่มี” ซึ่งจะทำให้เกิดวิกฤติศรัทธาในสำนักจานบินล้มละลายทางความน่าเชื่อถือครั้งใหญ่

สำหรับดีเอสไอนั้น พล.อ.ไพบูลย์คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ประกาศชัดเจนแล้วว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา และต้องไม่กลัวอิทธิพลใดๆ ของสำนักจานบินเพราะหากกลัวก็ไม่ควรอยู่ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนอีกต่อไปดังนั้นหากถึงเส้นตายแล้ว ธัมมชโย ไม่ยอมมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับพนักงานสอบสวนต้องทำตามกฎหมายคือเดินทางไปจับที่สำนักจานบิน

ทั้งนี้ นอกจากทาง “สวรรค์” และ “นรก” ที่ ธัมมชโย จะเลือกเดินแล้ว ยังมีทางที่สามซึ่งอาจเป็นไปได้และต้องจับตานั่นคือ ธัมมชโย “หนี”หรือยื่นเรื่องขอลี้ภัยไปเสพสุขยังประเทศที่สามเหมือนอย่างสมี “ยันตระ”

หากธัมมชโยเลือกทางสายนรกด้วยการดื้อแพ่งไม่ยอมมารับทราบข้อกล่าวหาต่อดีเอสไอตามหมายจับเท่ากับขัดขืนการจับกุม และดีเอสไอคงไม่มีทางเลือกต้องเดินทางไปจับกุมที่สำนักจานบิน ซึ่งหากเป็นกรณีนี้ธัมมชโยหมดโอกาสได้ประกันตัว และที่สำคัญพระสงฆ์ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีต้องถูกจับสึกก่อนนำตัวสู่ห้องขัง เพราะฉะนั้นเส้นตาย 26 พ.ค. จึงเป็นวันวัดใจธัมมชโยและพิสูจน์ว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายไม่ว่าจะมีอิทธิพลแค่ไหนก็ตาม

ทีมข่าวการเมือง

ทยาตอกเจ็บ5ข้อจี้ใจดำปู ย้ำอัปยศรัฐบาลยิ่งลักษณ์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/217361

วันพุธ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.
หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดขบวนการเพื่อแม้วถือโอกาสครบรอบ 2 ปี การยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาสร้างภาพวิจารณ์ถล่มคสช.ทำนองปล้นอำนาจไปจากตัวเองอย่างไม่ชอบธรรมทำให้มีปฏิกิริยาตอบโต้สะท้อนกลับผ่านทางเฟซบุ๊คจากนางทยา ทีปสุวรรณ อดีตแกนนำมวลมหาประชาชนกลุ่ม กปปส.อย่างเจ็บแสบจี้ใจดำ

โดย นางทยา ตั้งข้อสังเกตย้อน น.ส.ยิ่งลักษณ์ 5 ข้อ โดยข้อแรก คสช.คงไม่อยากได้อำนาจ หากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่โกง

ข้อสอง ประชาชนหลายล้านคนคงไม่ออกมาเดินขบวนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ลักไก่ออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมล้างผิดให้คนโกงและแก๊งก่อการร้ายฆ่าเผาเมืองตอนตี 4

ข้อสาม การแสดงพลังของมวลมหาประชาชนคงไม่ยืดเยื้อจนนำไปสู่การบาดเจ็บล้มตาย หากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่หน้าด้านอยู่จนนาทีสุดท้ายก่อนถูกคสช.ยึดอำนาจ

ข้อสี่ มาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยโทษฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูงคงไม่ต้องบังคับใช้หากไม่มีคนบางกลุ่มจาบจ้วงสถาบัน

ข้อ 5 ประเทศชาติคงไม่เสียหายหลายแสนล้านบาทหากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ทุจริตในหลายโครงการ

อดีตแกนนำกปปส.หญิงผู้นี้จบความเห็นด้วยบทสรุปที่แสนเจ็บแสบว่า “เพราะฉะนั้นอย่างทวงถามอำนาจ สิทธิเสรีภาพ เพราะคุณได้ไปแล้วกลับหลงระเริงและใช้มันในทางที่ผิด”

ความเห็นของ นางทยา ที่ชำแหละ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้อย่างเจ็บแสบและเป็นมวยถูกคู่ อีกทั้งโดนใจมหาชนจำนวนมากเพราะเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความย่อยยับให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า7 แสนล้านบาท โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นมาจากการกู้ซึ่งกลายเป็นภาระอัปยศที่คนรุ่นหลังที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องแบกภาระใช้หนี้และดอกเบี้ยอีกหลายสิบปีกว่าจะหมด

ปัญหาคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะตอบข้อสังเกตของนางทยาอย่างไรหรือไม่ และที่สำคัญทั้งๆ ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นต้อเหตุสร้างความฉิบหายให้ประเทศ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์และเหล่าสาวกขบวนการเพื่อแม้วกลับยังมีหน้าออกมาถล่ม 2 ปี คสช.ว่าล้มเหลวในทุกด้านเพื่อกลบเกลื่อนความเลวร้ายที่ตัวเองทำไว้ ซึ่งหากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ประพฤติชั่วร้ายไว้ในอดีตไหนเลยจะมีคสช.ในวันนี้

ทีมข่าวการเมือง