SootinClaimon.Com

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย2 [SartKasetDinPui2] : รวบรวม ข้อมูล เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เกษตร ดิน น้ำ ปุ๋ย

SootinClaimon.Com

ป้องกันเชื้อไวรัส เพิ่มภูมิคุ้มกันสุขภาพด้วยIV Therapies #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/knowledge/424655?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_knowledge

ป้องกันเชื้อไวรัส เพิ่มภูมิคุ้มกันสุขภาพด้วยIV Therapies

ป้องกันเชื้อไวรัส เพิ่มภูมิคุ้มกันสุขภาพด้วยIV Therapies

อาหารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ปลอดภัยจากเชื้อโรค มาให้วิตามินและสารอาหารทางหลอดเลือด หรือ IV Therapies กัน

          ฉบับที่แล้วหมอได้พูดถึงการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงด้วยการดูแลตัวเองเบื้องต้นให้แข็งแรงปลอดภัยจากเชื้อโรคด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และเน้นรับประทานอาหารที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย โดยเฉพาะการรับประทานวิตามินและสารอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น มาฉบับนี้เรามา ทำความรู้จักกับอีกทางเลือกในการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย กันค่ะ

จากที่ได้กล่าวมาแล้วว่าการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายสามารถเสริมได้โดยการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมแต่ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่เรียกว่า การให้วิตามินและสารอาหารทางหลอดเลือด หรือ IV Therapies เป็นการให้สารอาหารโดยตรงผ่านทางหลอดเลือดของเรา เป็นวิธีที่สะดวกและปลอดภัย ซึ่งการให้โดยวิธีนี้จะทำให้ร่างกายเราสามารถนำสารอาหารไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว และได้รับสารอาหารปริมาณสูงกว่าการรับประทาน ทั้งนี้เพราะการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการดูแลและป้องกันการเกิดโรคในระดับที่สมบูรณ์ เนื่องจากร่างกายแต่ละคนมีปัญหาการย่อย การเผาผลาญและการนำไปใช้ไม่เท่ากัน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสารอาหารเป็นกรณีพิเศษ เช่น ผู้ที่นอนดึกพักผ่อนน้อย อ่อนเพลีย ไม่สบายบ่อย หรือมีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น วิงเวียนศีรษะบ่อย ปลายมือปลายเท้าชา ความจำถดถอย นอนไม่หลับเป็นประจำ เป็นต้น การรับประทานวิตามินอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอค่ะ ดังนั้นการให้วิตามินและสารอาหารทางหลอดเลือด (IV Therapies) จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเสริมการทำงานของร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงนะคะ

ป้องกันเชื้อไวรัส เพิ่มภูมิคุ้มกันสุขภาพด้วยIV Therapies

การให้สารอาหารทางหลอดเลือดสามารถเสริมประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความต้องการของร่างกายแต่ละบุคคล เช่น เพิ่มพลังงาน ลดอาการอ่อนเพลีย หรือเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วยสถานการณ์ในขณะนี้คงหนีไม่พ้นการเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อป้องกันให้ห่างไกลจากไวรัสโคโรนาการนำเทคโนโลยี IV Therapies มาใช้ด้วยสูตร IV Superimmune จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายแบบเร่งด่วน เป็นการให้วิตามินในปริมาณสูงทางเส้นเลือด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการป้องกันให้ไข้หวัดห่างไกลจากตัวเรา โดยสารสำคัญที่ช่วยให้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในสูตร IV Superimmune ประกอบไปด้วย วิตามินซี (Vitamin C) สังกะสี (Zinc) และ สารอื่นๆ ที่เน้นด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันนั่นเอง

          แล้วใครบ้างที่เหมาะสำหรับการทำ IV Superimmune แน่นอนค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ที่

          • ต้องการสารอาหารเร่งด่วน

          • ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

          • จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ

          • รู้สึกอ่อนเพลียคล้ายจะเป็นหวัด

          มาเตรียมพร้อมร่างกายให้แข็งแรงเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้พร้อมต่อสู้กับโควิด-19 ด้วยการเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงอย่างเร่งด่วนด้วย IV Therapy สูตรเฉพาะที่เรียกว่า IV Superimmune ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันไข้หวัด ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ไม่หวั่นแม้โควิด-19 กันนะคะ ท่านที่สนใจสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่แอดไลฟ์ได้นะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก พญ.อนงนุช ชวลิตธำรงค์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) โทรศัพท์ 0-2677-7077 http://www.add-life.org Facebook: Addlife Anti-Aging CenterLine: @addlife

“เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม” คว้ารางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 9″ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/knowledge/424594?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_knowledge

“เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม” คว้ารางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 9″

"เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม" คว้ารางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 9"

สื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองของศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตชาวสยาม

          นิทรรศการ “ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 9” ภายใต้หัวข้อ “สยามเมืองยิ้ม” ที่จัดโดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเวทีที่ให้เหล่าศิลปินและผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้แสดงออกถึงช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นศักราชใหม่อันรุ่งโรจน์ รื่นเริง สะท้อนถึงบรรยากาศของความสุข ความหวังความปรารถนาอันดีที่ผู้คนพึงมีต่อกัน สำหรับงานศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 9 ผลงานที่ได้รับรางวัลช้างเผือก ได้แก่ “เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม” โดย ธมลวรรณ แสงนาค, รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ “สุขสัมพันธ์ สามัญวิธี” โดย นิลยา บรรดาศักดิ์รางวัล ซีอีโอ อวอร์ด ได้แก่ “ผมทรงกะลาครอบ” โดย มานนท์ สุธรรม นอกจากนี้ยังมีรางวัลรองชนะเลิศ 5 รางวัล ประกอบด้วย คเณศ แสนศรีล, จรัญ บุญประเดิม, บุญนำ สาสุด, พฤกษ์ โตหมื่นไวย, เรืองฤทธิ์ สร่องศรี และรางวัลชมเชยอีก 13 รางวัล

"เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม" คว้ารางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 9"

 คณะกรรมการร่วมคัดเลือกผลงานอย่างเข้มข้น

       นิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การประกวดศิลปกรรมช้างเผือก เกิดจากความตั้งใจอันดีของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหาศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถทางศิลปะอันโดดเด่นในการสร้างสรรค์ศิลปะแบบเหมือนจริง (Realistic) และศิลปะรูปลักษณ์ (Figurative Art) โดยยึดถือความเหมือนจริงเป็นแก่นสำคัญเพื่อให้ผลงานศิลปะเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สำคัญในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านศิลปะร่วมสมัยให้ขยายไปสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้าง การดำเนินการประกวดศิลปกรรมช้างเผือก เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 และดำเนินงานต่อเนื่องเรื่อยมาเป็นประจำทุกปี โดยในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งนับเป็นการจัดการประกวดครั้งที่ 9 ภายใต้หัวข้อ ‘สยามเมืองยิ้ม’ เพื่อให้ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้แสดงฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ โดยตีความจากโจทย์ที่กำหนดให้ ซึ่งศิลปินที่เข้าร่วมประกวดแต่ละคนก็ต่างสร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจในรูปแบบและแนวทางที่แตกต่างได้อย่างน่าประทับใจและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

"เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม" คว้ารางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 9"

บรรยานกาศในการคัดเลือกผลงาน

         โดยมีศิลปินจำนวน 205 คน ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจำนวนทั้งสิ้น 235 ชิ้น โดยมีผลงานที่ได้รับรางวัลจำนวน 21 ชิ้น และผลงานที่ได้รับคัดเลือกให้ร่วมแสดงในนิทรรศการจำนวน 34 ชิ้น รวมผลงานจัดแสดงในนิทรรศการ ทั้งสิ้น 55 ชิ้น บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในการพระราชทานรางวัลตั้งแต่การประกวดครั้งแรกตราบจนปัจจุบัน และขอขอบพระคุณคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน ตลอดจนศิลปินผู้ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดทุกคน และจะมุ่งมั่นในการส่งเสริมและสนับสนุนให้วงการศิลปะร่วมสมัยของประเทศไทยประสบความสำเร็จสืบเนื่องต่อไปในอนาคต”

"เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม" คว้ารางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 9"

“เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม” รางวัลช้างเผือก

         ธมลวรรณ แสงนาค ผู้ชนะรางวัลช้างเผือก ภายใต้ผลงานชื่อ “เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม” เผยถึงแรงบันดาลใจผลงานชิ้นนี้ว่า ใช้เทคนิคภาพพิมพ์ตะแกรงไหมและวัสดุผสมที่งดงามมลังเมลือง ด้วยทิวทัศน์วัดวังอร่ามเรือง บ่งบอกถึงวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทย อันสงบสุขงดงาม สอดรับกับหัวข้อ สยามเมืองยิ้ม และสื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองของศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตชาวสยาม ผ่านรูปแบบอัตลักษณ์ ลวดลายผ้า ที่แฝงไปด้วยความประณีตงดงาม

"เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม" คว้ารางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 9"

“สุขสัมพันธ์ สามัญวิธี” รางวัลชนะเลิศ

        นิลยา บรรดาศักดิ์ ผู้ชนะรางวัลชนะเลิศ ภายใต้ผลงานชื่อ “สุขสัมพันธ์ สามัญวิธี” เผยถึงแรงบันดาลใจของผลงานมาจากครอบครัว ซึ่งมีกิจกรรมร่วมกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ภาพทั้งหมดเป็นภาพของเครือญาติ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นและมีความสุข เป็นวิถีชีวิตของชนบทไทย ความสุขมักเกิดขึ้นจากการลงมือทำด้วยตัวเอง ประสบการณ์ที่ส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น การร่วมแรงร่วมใจผ่านวิถีชีวิตอันเรียบง่าย ผ่านกิจกรรมสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ล้วนสะท้อนภาพความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น สอดประสานกลมเกลียวกันได้อย่างสวยงามตามวิถีแห่งการพึ่งพาอาศัยกัน ผลงานชิ้นนี้ใช้เทคนิค เย็บ ปัก ถัก ร้อย ซึ่งเป็นเทคนิคที่เราถนัดอยู่แล้ว

"เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม" คว้ารางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 9"

“ผมทรงกะลาครอบ” รางวัล ซีอีโอ อวอร์ด

          มานนท์ สุธรรม ผู้ชนะรางวัลซีอีโอ อวอร์ด ภายใต้ผลงานชื่อ “ผมทรงกะลาครอบ” เผยถึงแรงบันดาลใจผลงานชิ้นนี้ว่า ร้านตัดผมมักจะสะท้อนวิถีชีวิตและบ่งบอกถึงเรื่องราวความเป็นมาของสังคมไทยได้เป็นอย่างดี ผมทรงกะลาครอบอาจจะดูเชยและน่าขบขัน แต่ก็มีเสน่ห์ มีประวัติศาสตร์ร่วม ซึ่งทุกคนเคยผ่านหรือสัมผัสครั้งเมื่อวัยเด็ก ซึ่งผมและเพื่อนๆ มักจะโดนล้อกับผมทรงนี้ ผมคิดว่าใครที่ชมภาพนี้คงจะต้องยิ้มตามไปด้วย สอดคล้องกับหัวข้อสยามเมืองยิ้ม

"เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม" คว้ารางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 9"

ส่วนหนึ่งของผลงานที่เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้

          สำหรับหัวข้อการประกวดศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 10 ประจำปี 2564 ได้กำหนดหัวข้อ “ในฝัน” สื่อความหมายถึงแนวความคิดเกี่ยวกับความฝัน จินตนาการ ความใฝ่ฝันอันดีงามทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในแต่ละพื้นถิ่น อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานสามารถตีความ “ความฝัน” ทั้งในแง่มุมที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม กล่าวคือ ความฝันที่สามารถเป็นจริงได้ และความฝันที่เป็นเพียงจินตนาการอันสวยงามของแต่ละบุคคล นอกจากนั้นยังหมายรวมถึงความรักความผูกพัน ความปรารถนา ปณิธาน ความฝันอันสูงสุด ความดีงามที่อยากสรรค์สร้างให้เกิดขึ้นจริง หรือการหวนรำลึกถึงความทรงจำอันมีคุณค่าที่จารึกไว้ในฝันของตนเอง

         การประกวดศิลปกรรมช้างเผือก มุ่งเน้นส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลงานแบบเหมือนจริง ที่มีเรื่องราวเนื้อหาอันดีงาม การตัดสินงานจะไม่แยกประเภทและวัสดุ ศิลปินสามารถส่งผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และสื่อผสมโดยไม่จำกัดเทคนิคและวัสดุ ทั้งนี้จะเปิดรับผลงานระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม 2564 เวลา 10.00-18.00 น. สามารถติดตามรายละเอียดได้ทางเฟซบุ๊ก : ศิลปกรรมช้างเผือก, http://www.thaibev.com และ http://www.bacc.or.th

สุนทรียศาสตร์ เวลา และสิ่งแวดล้อมในวันพรุ่งนี้ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/knowledge/424330?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_knowledge

สุนทรียศาสตร์ เวลา และสิ่งแวดล้อมในวันพรุ่งนี้

สุนทรียศาสตร์ เวลา และสิ่งแวดล้อมในวันพรุ่งนี้

ปรากฏการณ์การเคลื่อนไหวทางศิลปะและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อการพิจารณาความเป็นอยู่ของมนุษย์ในอนาคต

สุนทรียศาสตร์ เวลา และสิ่งแวดล้อมในวันพรุ่งนี้

** นิทรรศการ “Die Schöne Heimat : บ้านเกิด เมืองใด เรือนใจ เมืองงาม” ผลงานโดย อ.สมบูรณ์ หอมเทียนทอง ครั้งแรกของการจัดแสดงผลงานจิตรกรรมแนวนามธรรม ประติมากรรม และผลงานจัดวาง รวมกว่า 70 ชิ้นซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน โดยนิทรรศการจัดขึ้นที่ JWD Art Space ซอยจุฬาลงกรณ์ 16 ตั้งแต่วันนี้-14 มิถุนายน สามารถรับชมนิทรรศการเสมือนจริงได้ผ่าน http://www.facebook.com/JWDArtSpace/

สุนทรียศาสตร์ เวลา และสิ่งแวดล้อมในวันพรุ่งนี้

           ** หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ขอเชิญชมนิทรรศการ “Early Years Project” ครั้งที่ 5 ภายใต้หัวข้อ “สุนทรียศาสตร์ เวลา และสิ่งแวดล้อมในวันพรุ่งนี้” ทั้งนี้ ปรากฏการณ์การเคลื่อนไหวทางศิลปะและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อการพิจารณาความเป็นอยู่ของมนุษย์ในอนาคต รวมถึงการนิยามมุมมองใหม่ของความงาม จนกลายเป็นประเด็นร่วมสมัยในศตวรรษที่ 21 ซึ่งโครงการครั้งนี้จะกระตุ้นให้ผู้ชมพิจารณาและแสวงหาความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติและการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ในรูปแบบต่างๆ จัดแสดงตั้งแต่วันนี้-7 มิถุนายน

สุนทรียศาสตร์ เวลา และสิ่งแวดล้อมในวันพรุ่งนี้

สุนทรียศาสตร์ เวลา และสิ่งแวดล้อมในวันพรุ่งนี้

          ** โย เวิร์กชอป นำเสนอนิทรรศการ “What is the current that presents a behaved waist” นิทรรศการเดี่ยวครั้งที่ 2 ของ สเตฟานี เจน เบิร์ต ศิลปินชาวสิงคโปร์ นิทรรศการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของสเตฟานีต่อภาพยนตร์และนิยาย อย่างเช่นเรื่อง Vertigo ที่กำกับโดยอัลเฟรด ฮิตช์ค็อก โดยเธอได้พิจารณาถึงตัวละครที่ชื่อจูดี้ สเตฟานีใช้วัสดุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโลหะ ลวด ริบบิ้น และลูกไม้ ในการสื่อสารความหมายเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายของเมดเดอลีนและจูดี้

สุนทรียศาสตร์ เวลา และสิ่งแวดล้อมในวันพรุ่งนี้

         ** นิทรรศการ “สาวน้อยมหัศจรรย์” ผลงานโดย สุทธิเกียรติ เวชแดง นิทรรศการที่เล่าถึง “เรื่องของเธอ” สาวน้อยผู้เป็นแรงบันดาลใจ เป็นความฝัน เป็นจินตนาการ เป็นความจริง โดยศิลปินถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กสาวของเด็กสาวผ่านภาพวาด จัดแสดงระหว่างวันที่ 6 มีนาคม – 6 เมษายน  ที่ เยโล เฮ้าส์

สุนทรียศาสตร์ เวลา และสิ่งแวดล้อมในวันพรุ่งนี้

          ** นิทรรศการภาพถ่าย “บัวแดง” ผลงานโดย กมลลักษณ์ สุขชัย จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ – 25 เมษายน ที่คัดมันดู โฟโต้ แกลเลอรี่

วิโชค มุกดามณี บูชา “ครูใหญ่วงการศิลปะ” #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/knowledge/423257?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_knowledge

วิโชค มุกดามณี บูชา “ครูใหญ่วงการศิลปะ”

วิโชค มุกดามณี บูชา "ครูใหญ่วงการศิลปะ"

จัดจิตรกรรมรำลึก 111 ปี อ.เฟื้อ หริพิทักษ์

          แม้ช่วงนี้ทุกอย่างหยุดนิ่งด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่การดูแลป้องกันตัวเองจะช่วยให้ฝ่าวิกฤติได้ ครม. มีมติสกัดโควิด งดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากมารวมตัวกันแต่ก็ยังเดินทางปกติได้ ขณะนี้มีนิทรรศการศิลปกรรมที่มีคุณค่าอยากแนะนำ เพราะเกี่ยวข้องกับ อ.เฟื้อ หริพิทักษ์ ปูชนียบุคคลแห่งวงการศิลปะสมัยใหม่ของประเทศไทย เป็นศิลปินและครูศิลปะคนสำคัญ ผู้ทุ่มเทบุกเบิกแนวทางการวาดภาพตามแนวทางเฉพาะตัวเป็นแบบอย่างแก่นักศึกษาศิลปะและศิลปินรุ่นหลังให้สร้างสรรค์ผลงานด้วยจิตวิญญาณและความมุ่งมั่นยึดถืออุดมการณ์ทำงานศิลปะเพื่อจรรโลงสังคม

วิโชค มุกดามณี บูชา "ครูใหญ่วงการศิลปะ"

                    นอกจากนี้ท่านยังมีบทบาทชัดเจนในการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศให้เป็นสมบัติของลูกหลาน ทุ่มเทแรงกายแรงใจซ่อมแซมภาพจิตรกรรมสำคัญในวัดทั่วประเทศไทยจำนวนมาก ผลงานชิ้นสำคัญ คือ การบูรณปฏิสังขรณ์หอไตรปิฎก วัดระฆังโฆสิตาราม จนได้รับรางวัลแมกไซไซเมื่อ 37 ปีก่อน และได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ปี 2528

วิโชค มุกดามณี บูชา "ครูใหญ่วงการศิลปะ"

ศ.วิชัย สิทธิรัตน์-ศ.วิโชค มุกดามณี-ศ.ญาณวิทย์ กุญแจทอง

           นิทรรศการจัดเพื่อยกย่อง “อ.เฟื้อครูใหญ่ในวงการศิลปะ” และ ในโอกาส 111 ปีชาตกาลอาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ ดังนั้นในฐานะลูกศิษย์ ศ.วิโชค มุกดามณี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ปี 2555 ได้จัดโครงการนิทรรศการ “จิตรกรรมรำลึก 111 ปี อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ โดย วิโชค มุกดามณี” ขึ้น ไฮไลท์ได้รวมจิตรกรรมภาพคนและภาพเปลือย (Nude) จำนวนมากกว่า 40 ชิ้น สร้างสรรค์ด้วยหลากหลายเทคนิควิธีการ โดยศิลปินนำแรงบันดาลใจจากคำสอนของอาจารย์เฟื้อมาต่อยอดพัฒนา จนกระทั่งเป็นรูปแบบเฉพาะตัวของศิลปิน

วิโชค มุกดามณี บูชา "ครูใหญ่วงการศิลปะ"

บุคคลในแวดวงจิตรกรรมไม่พลาดเข้าร่วมชมผลงาน

          ภาพทั้งหมดโดดเด่นด้วยสีสันอันสดใสและการผสมผสานของเนื้อสีอย่างสลับซับซ้อน อิริยาบถรายละเอียดของใบหน้าและร่างกายตลอดจนแสงเงาทั้งหมดถูกตัดทอนแล้วขับเน้นใหม่ จนเกิดเป็นบรรยากาศอันแปลกตาและน่าพิศวง

วิโชค มุกดามณี บูชา "ครูใหญ่วงการศิลปะ"

          ฝีแปรงที่เฉียบขาดและการคลี่คลายรูปทรง ก่อให้เกิดชีวิตชีวาสะท้อนความชำนาญและกระบวนการทำงานเฉพาะตัวของ ศ.วิโชค นี่คือเอกลักษณ์ของจิตรกรรมที่สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ชมนิทรรศการพิเศษนี้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ระหว่างวันที่ 5 มีนาคม-30 เมษายนนี้

วิโชค มุกดามณี บูชา "ครูใหญ่วงการศิลปะ"

         สำหรับ ศ.วิโชค มุกดามณี เจ้าของผลงานเป็นอาจารย์และศิลปินอาวุโสมากประสบการณ์เป็นหนึ่งในศิลปินผู้บุกเบิกสร้างงานศิลปะสื่อผสมในบ้านเรา เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาหนุ่มที่คณะจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้เรียนวาดภาพกับบรมครูผู้นี้ ทั้งยังแวดล้อมด้วยครูบาอาจารย์ผู้มากความสามารถหล่อหลอมให้เขามีความมุ่งมั่นและเข้มแข็งในการสร้างงานศิลปะจนทุกวันนี้

วิโชค มุกดามณี บูชา "ครูใหญ่วงการศิลปะ"

         พล.อ.นพ.วิทยา ช่อวิเชียร ประธานเปิดนิทรรศการ กล่าวว่า จิตรกรรมรำลึก 111 ปี อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ เปรียบเสมือนการตกผลึกครั้งสำคัญในเส้นทางศิลปินของ ศ.วิโชค มุกดามณี ที่เมื่อย้อนกลับไปในช่วงแรก คือ การเริ่มต้นจากมล็ดพันธุ์นั่นคือคำสอนจากอาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ ผู้เป็นครูคนสำคัญ ศ.วิโชค ใช้ความมานะอุตสาหะและการทำงานศิลปะอย่างต่อเนื่อง เป็นเสมือนน้ำที่รดลงสู่ดินส่งเสริมให้แนวทางการทำงานเจริญเติบโตในแนวทางเฉพาะของตัวเอง ทั้งยังแตกแขนงไปในหลายทิศทางทั้งงานจิตรกรรมประติมากรรม ผลงานจัดวาง และสื่อประสมตลอดระยะเวลามากกว่า 40 ปี ศ.วิโชค ยังคงสร้างสรรค์ผลงานและร่วมขับเคลื่อนวงการศิลปะอย่างไม่หยุดนิ่งงานศิลปะ ในนิทรรศการครั้งนี้สะท้อนอุดมการณ์และความกตัญญูที่ลูกศิษย์คนหนึ่งจะทำให้แก่อาจารย์ในฐานะศิลปิน

วิโชค มุกดามณี บูชา "ครูใหญ่วงการศิลปะ"

         ด้าน ศ.วิโชค มุกดามณี กล่าวว่า อ.เฟื้อ สอนวิชาจิตรกรรมให้ลูกศิษย์ในคณะจิตรกรรม ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น โดยมี ศ.ศิลป์ พีระศรี เป็นคณบดีคอยดูแลบริหารคณะ เพื่อรำลึกถึง อ.เฟื้อ ผู้มีพระคุณแก่ศิษย์ทั้งในคณะจิตรกรรมและวิทยาลัยช่างศิลป์ จนท่านถึงแก่กรรมปี 2536 ตัวเองจึงรวบรวมผลงานที่เคยศึกษากับท่านอาจารย์ ผลงานสื่อผสมระยะแรกๆ ของตัวเองและผลงานสร้างสรรค์ตามแนวการสอนของท่านอาจารย์จัดแสดงเผยแพร่ให้ความรู้ ทั้งแนวคิดและวิธีการสร้างสรรค์ ตั้งใจให้เกิดประโยชน์ต่อวงการศิลปะร่วมสมัยไทย

วิโชค มุกดามณี บูชา "ครูใหญ่วงการศิลปะ"

วิโชค มุกดามณี บูชา "ครูใหญ่วงการศิลปะ"

         “อาจารย์เฟื้อจะเป็นอาจารย์สอนจิตรกรรมที่ลูกศิษย์สนใจเป็นพิเศษเพราะมีภาพเขียนที่ประทับใจ และอาจารย์จะให้ความสำคัญในการใช้สีเป็นพิเศษ มีกฎเกณฑ์เฉพาะตัว เช่น ห้ามใช้สีดำ เพราะทำให้สีที่ผสมด้วยไม่สดใส ให้ใช้สีเข้มแทน ผมก็เคยเรียนกับท่านหลายปี ตั้งแต่วิชารีเสิร์ชศิลปะไทยจนถึงวิชาจิตรกรรมสีฝุ่นและสีน้ำมัน ระหว่างปี 2513-2516 วิชาจิตรกรรม ท่านให้คะแนนหินมาก กว่าจะผ่านด่านไปถึงเกรด บี ได้ เลือดตาแทบกระเด็น ผู้ที่ได้เกรด เอ ต้องพูดว่าทรหด และมีฝีไม้ลายมือสุดยอดอย่างไร อ.เฟื้อ เคยแนะนำเทคนิคการเตรียมพื้นผ้าใบสำหรับเขียนสีน้ำมันใช้กาวกระถินมาต้มผสมสีฝุ่น กันผ้าใบดูดสี กันเชื้อรา และเฟรมจะตึง ภาพที่ผมเขียนในช่วงนั้น คุณภาพสีและรอยแปรงยังสดใส มีพลัง ผมยังเก็บภาพไว้ได้หลายชิ้น” ศ.วิโชค กล่าว

งานศิลปะไม่มีชื่อ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/knowledge/423027?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_knowledge

งานศิลปะไม่มีชื่อ

งานศิลปะไม่มีชื่อ

สร้างภาพลักษณ์ใหม่ในเรื่องราวที่มา เน้นเส้นและพลังงานความสงบนิ่ง

งานศิลปะไม่มีชื่อ

งานศิลปะไม่มีชื่อ

นิทรรศการ Phantoms and Aliens | The Invisible Other (Chapter 1)

          ** ริชาร์ด โคห์ โปรเจกต์ นำเสนอนิทรรศการโดยภัณฑารักษ์ชื่อดัง ลอรีดานา ปาซซินี ปาราซซินี กับผลงานของ อำพรรณี สะเตาะ ศิลปินหญิงชาวไทยที่ใช้ชื่อว่า Phantoms and Aliens | The Invisible Other (Chapter 1) จัดแสดงตั้งแต่วันนี้-28 มีนาคม ที่ริชาร์ด โคห์ โปรเจกต์ ถ.นราธิวาส ซอย 22 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ

งานศิลปะไม่มีชื่อ

นิทรรศการ “I-solated Beings” 

          ** 2 ศิลปิน 2 สัญชาติ ต่อลาภ ลาภเจริญสุข จากประเทศไทย และ Andreas Schulenburg จากประเทศเดนมาร์ก ร่วมกันจัดแสดงผลงานที่มีแนวคิดหลักคือความสัมพันธ์ของปัจเจกบุคคล ซึ่งทั้งชาวไทยและเดนมาร์กให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันเหมือนๆ กัน ผลงานใน “I-solated Beings” จะทำให้เรารู้สึกสบายกาย สบายใจ ปราศจากความกังวล และเป็นอิสระในโลกปัจจุบันอันแสนรวดเร็ว นิทรรศการจัดแสดงถึง 22 เมษายน อังคาร-เสาร์ 10:00-17:00 น. และอาทิตย์ เวลา 11:00-18:30 น. (ปิดวันจันทร์) ที่ S.A.C. Subhashok The Arts Centre สุขุมวิท 39 สอบถามโทร.0-2258-5580

งานศิลปะไม่มีชื่อ

นิทรรศการ “ไอ แอม ยู”

          ** นิทรรศการ “ไอ แอม ยู” รวบรวมผลงาน 100 ชิ้นของ วสันต์ สิทธิเขตต์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ถึงปัจจุบันมาจัดแสดงพร้อมๆ กัน เป็นผลงานที่โดดเด่น ท้าทาย เสียดสี มีภาษาศิลป์ของตัวเอง เพื่อตอบสนองกับปัญหาของสังคมไทย นิทรรศการ จัดตั้งแต่ 23 มีนาคม-27 พฤษภาคม วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10:00-21:00 น. (ปิดวันจันทร์) ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

งานศิลปะไม่มีชื่อ

          ** นิทรรศการ “จิตรกรรมไม่มีชื่อ” โดย สมบูรณ์ หอมเทียนทอง ที่ไม่ได้สร้างงานให้เกิดความสวยงาม แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ใหม่ในเรื่องราวที่มาของงานนั้นๆ ที่เน้นเส้นและพลังงานความสงบนิ่ง โดยใช้เวลาพิจารณา ทบทวน กลั่นกรองอย่างเนิ่นนานอย่างใจเย็นในสตูดิโอริมแม่น้ำโขงของตัวศิลปินเอง นิทรรศการเริ่ม 24 มีนาคม-30 เมษายน จันทร์-เสาร์ เวลา 11:00-18:00 น. (ปิดวันอาทิตย์) ที่นำทองแกลเลอรี่ ซอยอารีย์ 5 สอบถามโทร.0-2617-2794

สืบสานตำนานพระเวสสันดร #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/knowledge/423031?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_knowledge

สืบสานตำนานพระเวสสันดร

สืบสานตำนานพระเวสสันดร

ตระการตาแสง สี เสียง สื่อผสม 4D สะท้อน ความเชื่อศรัทธา ตำนานพระเวสสันดร

          ประเพณีบุญผะเหวด ถือเป็นงานบุญเก่าแก่ที่อยู่คู่กับชาวจังหวัดร้อยเอ็ดมานานกว่า 100 ปี ระบุในคำขวัญของจังหวัด เรื่องงานบุญเดือน 4 ตามวิถีวัฒนธรรมของชาวอีสาน กิจกรรมสำคัญ คือ การแสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง “พระเวสสันดรชาดก” ที่คนไทยทั่วไปรู้จักกันดีในนาม “เทศน์มหาชาติ” ภาษาอีสานเรียกว่า “เทศน์ผะเหวด” ซึ่งปีนี้ จ.ร้อยเอ็ด ทุ่มงบยิ่งใหญ่จัดแสดงแสงสีเสียง สื่อผสม 4D ตำนานพระเวสสันดร “มหาชาดก ชาติที่ 10 มหาชาติ พระสัพพัญญู” โดยย่อใจความทั้ง 13 กัณฑ์ มาไว้ในรูปแบบการแสดงแสงสีเสียงสื่อผสมสุดยิ่งใหญ่ ตระการตา เพื่อฉลองงาน “บุญผะเหวด” ประจำปี 2563

สืบสานตำนานพระเวสสันดร

วันชัย คงเกษม-ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์

          วันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า มูลเหตุแห่งการทำบุญผะเหวด มีกล่าวไว้ในหนังสือมาลัยหมื่นมาลัยแสนว่า ครั้งหนึ่งพระมาลัยให้ไปไหว้พระธาตุเกษแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ได้พบและสนทนากับพระศรีอาริยเมตไตรย พระโพธิสัตว์ ผู้ซึ่งจะได้จุติกาลลงมาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ทราบความประสงค์ของมนุษย์จากพระมาลัยแล้วจึงสั่งความกับพระมาลัยว่า “หากใครต้องการจะพบและเกิดในสมัยพระศรีอารีย์ ให้ทำแต่ความดี อย่าฆ่าพ่อตีแม่ สมณชี พราหมณ์ ครูอาจารย์ อย่าทำร้ายพระพุทธเจ้า อย่ายุยงสงฆ์ให้แตกกัน และต้องฟังเทศน์มหาชาติให้จบทุกกัณฑ์ในวันเดียว ท่านทั้งหลายจะได้เกิดร่วมและพบพระองค์

สืบสานตำนานพระเวสสันดร

สืบสานตำนานพระเวสสันดร

          “ด้วยเหตุนี้เอง ชาวร้อยเอ็ดจึงได้ยกเอา ฮีตเดือนสี่ “บุญผะเหวด” ให้เป็นประเพณีประจำจังหวัด ภายใต้ชื่องาน “มหาทานบารมี ประเพณีบุญผะเหวด” ถือได้ว่าเป็นงานบุญมหาชาติที่จัดได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีกิจกรรมตลอดทั้งวัน ส่วนราชการ ร้านค้า หน่วยงาน พร้อมใจกันทำอาหารมาเสิร์ฟ กินฟรีทั้งเมือง โดยเฉพาะข้าวปุ้น หนึ่งในเมนูพื้นบ้านที่นิยมในงานบุญ ท้ายสุดเพื่อสืบทอดประเพณีความเชื่อ ทางจังหวัดได้งานแสงสีเสียงสื่อผสม ตำนานพระเวสสันดร “มหาชาดก ชาติที่ 10 มหาชาติ พระสัพพัญญู” ณ บริเวณลานสาเกต และเกาะกลางบึงพลาญชัย” พ่อเมืองร้อยเอ็ดกล่าว

สืบสานตำนานพระเวสสันดร

สืบสานตำนานพระเวสสันดร

          สำหรับความพิเศษของการแสดง อยู่ที่บทพูดเป็นภาษาอีสานโบราณ หรือ “ผญา” เป็นคำเก่าแก่ เนื้อเรื่องได้ดัดแปลงมาจากต้นฉบับของ อาจารย์มั่น จงเรียน ด้วยสัมผัสและความหมายของภาษาเก่าแก่ และคนอีสานปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว จึงยากมากๆ ที่นักแสดงจะเข้าใจตัวละคร สื่อสารกับผู้ชม-ผู้ฟัง และยังคงคุณค่าทางภาษา/วรรณกรรม ที่งดงามนี้ไว้ โดยการแกะเนื้อหาชาดกจากใบลาน พร้อมอ่านเล่าเว่าผญาเป็นภาษาอีสานโบราณ เรื่องราวหรือชีวประวัติในอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงนำมาเล่าให้พระสงฆ์ฟังในโอกาสต่างๆ เพื่อแสดงหลักธรรมสุภาษิตที่พระองค์ทรงประสงค์ มีหลายร้อยเรื่อง ทั้งว่าทรงเคยเกิดเป็นมนุษย์บ้าง เป็นสัตว์บ้าง แต่ที่รู้จักกันโดยทั่วไป คือ 10 ชาติสุดท้ายที่เรียกว่าทศชาติชาดก และชาติสุดท้ายที่สุดที่ทรงเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร จึงเรียกเรื่องพระเวสสันดรนี้ว่า มหาเวสสันดรชาดก

ตั้งชื่อสินค้าให้น่าจดจำ…ไม่ง่าย! #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/knowledge/422827?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=knowledge

ตั้งชื่อสินค้าให้น่าจดจำ…ไม่ง่าย!

17 มีนาคม 2563 – 15:33 น.
ภาษาอังกฤษ,Brand Names,English Today,สถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,ผศ ชลาธิป ชาญชัยฤกษ์,ผลิตภัณฑ์
เปิดอ่าน 82 ครั้ง

ไปดูตัวอย่างที่มาและความหมายของชื่อแบรนด์ระดับโลกที่น่าสนใจ

 The Meaning of Famous Brand Names

        “ชื่อแบรนด์” เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างการจดจำและความประทับใจแรกแก่ลูกค้า ดังนั้นเจ้าของผลิตภัณฑ์จึงพยายามรังสรรค์ชื่อแบรนด์ที่ฟังแล้วติดหู จดจำง่ายและไม่ซับซ้อน English Today สถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาสาพาไปดูตัวอย่างที่มาและความหมายของชื่อแบรนด์ระดับโลกที่น่าสนใจกันค่ะ

     -Pepsi  มาจากคำว่า dyspepsia ซึ่งเป็นศัพท์การแพทย์หมายถึง อาการอาหารไม่ย่อย ว่ากันว่าเดิมที Caleb David Bradham  ผู้คิดค้นเครื่องดื่มเป๊ปซี่ที่ประกอบด้วยส่วนผสมของน้ำ น้ำตาล คาราเมล จันทน์เทศ และน้ำมันสกัดจากเปลือกมะนาวเรียกชื่อเครื่องดื่มของเขาว่า Brad’s Drink (เครื่องดื่มของแบรด) แต่ 3 ปีต่อมา แบรดแฮมได้เปลี่ยนชื่อเครื่องดื่มของเขาเป็น Pepsi Cola เพราะเชื่อว่าเครื่องดื่มนี้มีคุณสมบัติในการช่วยย่อยอาหาร
 -Fanta มีที่มาจากคำว่า Fantasie ซึ่งเป็นคำในภาษาเยอรมันมีความหมายว่า imagination (จินตนาการ) โดยมีเรื่องเล่าว่า เมื่อผู้บริหารของ Coca-Cola Deutschland บอกกับทีมงานในระหว่างการระดมสมองเพื่อตั้งชื่อให้กับเครื่องดื่มชนิดใหม่ว่า ขอให้ทุกคนใช้จินตนาการ ช่วยกันหาชื่อที่ดีที่สุด และสุดท้ายชื่อที่เคาะออกมาก็คือ Fanta
Gatorade เป็นชื่อเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับผู้เสียเหงื่อจากการออกกำลังกายที่ทีมแพทย์ของมหาวิทยาลัยแห่งฟลอริดาพัฒนาให้แก่ทีมอเมริกันฟุตบอล Florida Gators ซึ่งต้องลงเล่นท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดในฟลอริดา
Lego ย่อมาจากวลี leg godt ซึ่งเป็นภาษาเดนมาร์กมีความหมายว่า ‘play well’


-Google ในระหว่างการประชุมระดมสมองที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเพื่อตั้งชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาข้อมูลขนาดใหญ่ซึ่งพัฒนาโดย แลร์รี เพจ ร่วมกับนักศึกษาคนอื่น ๆ นักศึกษาคนหนึ่งเสนอให้ใช้ชื่อว่า googolplex หมายถึง จำนวนมหาศาลจำนวนหนึ่งที่มีค่าเท่ากับ 10100 แต่บังเอิญมีนักศึกษาคนหนึ่งในทีมสะกดผิดเป็น Google เพจจึงจดทะเบียนบริษัทโดยใช้ชื่อนี้ในที่สุด
 -Adidas  หลายคนคิดว่า Adidas เป็นคำย่อมาจากอักษรตัวแรกของวลี All  Day I Dream About Soccer (ฉันฝันถึงซอคเกอร์ทุกวัน) แต่แท้จริงแล้ว Adidas มาจากชื่อของ Adolf Dassler ผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งเริ่มผลิตรองเท้ากีฬาหลังจากที่กลับจากสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยมาจากชื่อเล่นของเขาคือ Adi รวมกับอักษรสามตัวแรกของนามสกุลคือ das
  -Cadillac มาจากชื่อของ Antoine de la Mothe นักสำรวจชาวฝรั่งเศสผู้สร้างเมืองดีทรอยต์ ชื่อนี้ถูกเลือกมาใช้เป็นชื่อรถยนต์เพื่อ
สื่อถึงจิตวิญญาณของนักบุกเบิก
  -Volkswagen มีความหมายว่า ‘People’s Car’ (รถของผู้คนทั่วไป) เนื่องจากในสมัยหนึ่ง ถนนในเยอรมันแทบจะมีไว้สำหรับคนรวยเท่านั้น การใช้ชื่อที่หมายถึงรถของผู้คนทั่วไปจึงเป็นการนำเสนอทางเลือกที่แตกต่าง

-Sony มาจากคำว่า Sonus ซึ่งเป็นคำละตินมีความหมายว่าเสียง นอกจากนั้นยังมาจากการที่ผู้ก่อตั้งบริษัทมองว่าพวกเขาเป็น sonny boys ซึ่งเป็นคำยืมในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า ชายหนุ่มที่เฉลียวฉลาด
    -Nike บริษัทไนกี้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1964 ในชื่อ Blue Ribbon Sports และใช้ชื่อนี้เรื่อยมาจนถึงปี ค.ศ. 1971 ในตอนแรกที่จะเปลี่ยนชื่อบริษัท ผู้ก่อตั้งทั้งสองคือ บิลล์ บาวเออร์แมน ซึ่งเป็นโค้ชกรีฑา และฟิล ไนท์ นักวิ่งระยะกลางจากพอร์ตแลนด์คิดจะใช้ชื่อ Dimensin 6 (มิติที่ 6) แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจมาใช้ตาม เจฟฟ์ จอห์นสัน พนักงานคนแรกของ Nike ที่เสนอให้ใช้ชื่อ Nike ซึ่งหมายถึงเทพีแห่งชัยชนะตามตำนานเทพปกรณัมกรีก
-Kodak จอร์จ อีสต์แมน ผู้ก่อตั้งบริษัทเชื่อว่า ชื่อเครื่องหมายการค้าควรสั้น สะกดง่าย และที่สำคัญต้องไม่มีความหมายใด ๆ และเนื่องจากอีสต์แมนเป็นผู้ที่ชื่นชอบตัวอักษร K เป็นพิเศษ เขาจึงประดิษฐ์คำว่า Kodak ขึ้นมาใช้เป็นชื่อแบรนด์ของบริษัท
  -Monsanto บริษัทเคมีภัณฑ์การเกษตร Monsanto ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1901 โดยจอห์น เอฟ ควีนีย์ ตามชื่อกลางของภรรยาคือ Olga Monsanto Queeny

 แล้วพบกันใหม่คราวหน้าค่ะ

                                                                                      ผศ. ชลาธิป  ชาญชัยฤกษ์

คมเลนส์ส่องพระ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/knowledge/422273?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=knowledge

คมเลนส์ส่องพระ

15 มีนาคม 2563 – 00:00 น.
เหรียญไอ้ไข่ วัดเจดีย์  รุ่น ๒,คมเลนส์ส่องพระ,พระเครื่อง,พระหลวงพ่อทวด พิมพ์บัวรอบ  วัดทรายขาว
เปิดอ่าน 1,723 ครั้ง

คมเลนส์ส่องพระ โดย… แล่ม จันท์พิศาโล

***   คณะปิยมิตรร่วมบุญ ๒๙/๕๕/๖๐  ย้ำเดินหน้าจัด  งานประกวดพระ  เหมือนเดิม  ณ อาคาร บี ศูนย์ราชการ  ถนนแจ้งวัฒนะ วันอาทิตย์ที่ ๑๕ มีนาคมนี้ ไม่ยกเลิก จัดจุดคัดกรองไข้หวัด ๒ ชุด โดยหน่วยแพทย์ของกองบัญชาการกองทัพไทย ที่จะมาตรวจวัดอุณหภูมิ พร้อมด้วยชุดพยาบาล ตรวจสุขภาพ ภายในอาคาร (ตรงข้ามที่ขายกล่องพระ)  บริการแอลกอฮอล์แบบเจล และหน้ากากอนามัยบริการทั้งวันเสาร์ และอาทิตย์  ย้ำทุกอย่างมีมาตรการที่ดีพอ  เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ผู้ที่มาร่วมงานประกวดพระจะสบายใจหายห่วงแน่นอน…งานนี้ พระที่จัดประกวดกว่า ๓,๐๐๐ รายการ  รางวัลพระชนะเลิศแต่ละรายการ หนังสือพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ หนากว่า ๕๐๐  หน้า รวมพระเนื้อว่านครบทุกพิมพ์  พร้อมกับรับพระหลวงพ่อทวด พิมพ์สี่เหลี่ยม เนื้อว่าน  ๑ องค์   รางวัลที่ ๒-๓-๔  พระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รางวัลละ ๑ องค์  พิเศษ ซื้อบัตรส่งพระ ๑ ใบ จะได้รับพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ๑ องค์  แผงพระจรยุทธ จับสลากกว่า ๔๐๐ รางวัล

**  งานนี้ยังมีเหมือนเดิม  วันอาทิตย์ที่ ๒๒ มีนาคม  งานประกวดพระ  ที่โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว  จ.เชียงใหม่ จัดโดย  ชมรมตำรวจตระเวนชายแดน รุ่น ๕/๒๕๑๗ ดารารัศมี  พระที่จัดประกวด  ๑,๐๐๐ รายการ  (เฉพาะพระท้องถิ่น) รางวัลชนะเลิศแต่ละรายการ เหรียญท้าวเวสุวรรณ ลุ้นเนื้อ ลุ้นโชค  งานนี้สนับสนุนโดย สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย   โอกาสนี้  ทีมงานคุ้มเมืองเหนือ  จะตั้งโต๊ะรับเช่าพระชุดเบญจภาคี พระกรุ พระเกจิอาจารย์ และพระพุทธรูป  พระแท้จ่ายเงินสดทันที

**  งานนี้ยกเลิก  วันอาทิตย์ที่ ๒๙ มีนาคม  งานประกวดพระ  จัดโดย วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ร่วมกับ สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขา จ.นครปฐม โดย  อ้วน นครปฐม  ขอประกาศยกเลิกการจัดงาน เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัยจากโรคระบาด ไวรัส โควิด-19  คณะกรรมการจัดงานต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย

**  พยัพ คำพันธุ์  นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย  ยืนยันไม่มีเซียนพระ ที่ ชมรมพระเครื่องมรดกไทย  ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน  ติดเชื้อไวรัส โควิด-19  แต่อย่างไร  คนที่โพสต์เรื่องนี้ยอมรับผิดและขอโทษผ่านโซเชียลแล้ว

**   คมเลนส์ส่องพระ  วันนี้ขอเริ่มด้วย   พระพุทธรูปสุโขทัย ตระกวน  เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยในกลุ่มสกุลช่างที่มีมาก่อน กลุ่มสกุลช่างหมวดใหญ่หรือที่เรียกว่าหมวดคลาสสิค  เนื่องมาจากนักโบราณคดีได้พบพระพุทธรูปเหล่านี้ ที่วัดตระกวน (หรือ “ตะกวน”)  ในเมืองสุโขทัยเป็นครั้งแรก จึงเรียกว่าเป็นแบบ  “หมวดตระกวน”  โดยกำหนดอายุให้อยู่ราวๆ ต้นครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ ๑๙ (พ.ศ.๑๘๐๐ ต้นๆ) เอกลักษณ์เด่นชัดของพระพุทธรูปกลุ่มนี้  คือ ทรวดทรงอ้วนป้อม  พระพักตร์ออกแนวกลม  เม็ดพระศกใหญ่  ละม้ายพระพุทธรูปสิงห์หนึ่งของล้านนา ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากลังกาเช่นกัน  องค์ที่นำมาให้ชมนี้มีขนาดหน้าตัก ๑๐ นิ้ว ปิดทองสวยสมบูรณ์คมชัดมาก  งดงามระดับพระพุทธรูปองค์ใหญ่ชั้นนำของประเทศ  เป็นพระของ  เต้ สระบุรี  ผู้ชำนาญพระพุทธรูปคนหนึ่งของเมืองไทย

**  พระเงินนั่ง สกุลช่างนครศรีธรรมราช  สมัยกรุงศรีอยุธยา อายุความเก่ากว่า ๔๐๐ ปี องค์นี้มีความพิเศษ คือ เม็ดพระศกใหญ่ ๒ ชั้น คล้ายสวมฉัตร  เกศบัวตูม   พระพักตร์แบบมโนราห์  พระอุระเหลี่ยม พระวรกายอวบอ้วน  สังฆาฏินูนยาวจรดสะโพก  สะโพกใหญ่ผายกว้างแบบสกุลช่างนครศรีธรรมราช (ขนมต้ม) หน้าตักกว้าง ๑ นิ้ว สวยสมบูรณ์คมชัดทุกมิติ สนนราคาประมาณ ๒-๓ หมื่นบาท หรืออาจจะกว่านี้ ขึ้นอยู่กับขนาดและศิลปะเฉพาะองค์ องค์นี้เป็นพระของ   โก้ หาดใหญ่   ผู้ชำนาญพระสายใต้และพระยอดนิยมทั่วไป

**  สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)  วัดระฆัง  ได้สร้าง  พระสมเด็จเกศไชโย  เพื่อนำไปบรรจุไว้ในองค์พระใหญ่ (พระมหาพุทธพิมพ์)  วัดไชโยวรวิหาร  จ.อ่างทอง  มี ๒ พิมพ์หลัก คือ  พิมพ์ใหญ่ฐาน ๗ ชั้น,  พิมพ์เล็กฐาน ๖ ชั้น (อกร่องและอกตัน)  สำหรับ  พิมพ์ใหญ่ ฐาน ๗ ชั้น  ได้มีการแยกออกไปอีกหลายพิมพ์ย่อย  ตามลักษณะของพิมพ์ทรง  เช่น  องค์ในภาพนี้ มีการวางแขนที่กว้างใหญ่กว่าพิมพ์อื่นๆ เหมือนนักเลงโตไม่กลัวใคร  จึงเรียกชื่อพระพิมพ์นี้ว่า  พิมพ์ ๗ ชั้นนักเลงโต  แต่ยังรักษาเอกลักษณ์ของ  พระสมเด็จเกศไชโย  คือ ขอบกระจก ๒ ชั้น เป็นพิมพ์มาตรฐานพิมพ์หนึ่ง สนนราคาหลักแสนกลาง เป็นพระแท้ดูง่าย ของ   พรรค คูวิบูลย์ศิลป์  ผู้บริหารทีมงาน “คุ้มเมืองเหนือ”

**  พระพิมพ์สมเด็จหลังยันต์สิบ  เนื้อทองระฆัง  หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค  ปี ๒๕๑๖ (เสาร์ห้า)  สร้างพร้อมกับพระพิมพ์อื่นๆ อีกหลายพิมพ์  เฉพาะพิมพ์สมเด็จหลังยันต์สิบ  สร้าง ๒,๐๐๐ องค์  องค์นี้เป็นพระแชมป์งานสามพรานและศูนย์ราชการอีกหลายงาน  ราคาโดยประมาณ ๓ แสนบวกลบ  เป็นพระของ  ป๊อบ คลองตัน  คนรุ่นใหม่ไฟแรง สายตรงพระหลวงพ่อพรหม

**    พระหลวงพ่อทวด พิมพ์บัวรอบ  วัดทรายขาว ปี ๒๕๔๑  รูปแบบพิมพ์ทรงเหมือนกับ  พระหลวงพ่อทวด พิมพ์บัวรอบ วัดช้างให้ ปี ๒๕๐๘  สร้างโดย  พระอาจารย์นอง  เพื่อหาทุนสร้างพระพุทธรูปยืนปางประทานพร  สูง ๗.๙  เมตร  สำหรับประดิษฐานในมณฑปที่วัด  โดยจัดพิธีเททองหล่อเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๔๑  พร้อมกับ  พระหลวงพ่อทวด พิมพ์บัวรอบ  ประกอบพิธีแบบโบราณทุกขั้นตอน   มีพราหมณ์บวงสรวง  มีพระเกจิอาจารย์นั่งปรกทั้ง ๔ ทิศ ใส่แผ่นยันต์ของพระเกจิอาจารย์ทั่วภาคใต้กว่า ๓๐๐ แผ่น  รวมกับแผ่นยันต์ตามตำราการสร้างพระกริ่งวัดสุทัศนฯ ครบทุกยันต์  และพระอาจารย์นองปลุกเสกนานถึง ๒ ชั่วโมง…พระหลวงพ่อทวด พิมพ์บัวรอบ  ชุดทองคำประกอบด้วยเนื้อทองคำ, เนื้อนวโลหะ และเนื้อทองทิพย์ สร้าง ๙๙ ชุด และเนื้ออื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง  ชั่วโมงนี้เนื้อทองคำ ราคาหลักแสนต้น,  เนื้อนวโลหะ ประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาท และเนื้อทองทิพย์ ประมาณ ๓๐,๐๐๐ บาท   องค์ในภาพนี้เป็นพระ  เนื้อทองคำ  ของ  กุ้ง หลักสี่   ผู้ชำนาญพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้และวัดทรายขาว   **

**  เหรียญไอ้ไข่ วัดเจดีย์  รุ่น ๒ ปี ๒๕๓๕ เนื้อทองแดงรมดำ สร้าง ๕,๐๐๐ เหรียญ เพื่อหารายได้จัดตั้งมูลนิธิวัดเจดีย์ เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่มีประสบการณ์มาก  ทุกวันนี้เช่าหากันที่ ๓-๕๐,๐๐๐ บาท  เหรียญไอ้ไข่ ของแท้ ดั้งเดิม ต้องที่วัดเจดีย์ เท่านั้น เพราะจิตวิญญาณของท่านอยู่ที่วัดนี้ เมื่อจะประกอบพิธีปลุกเสก ต้องอัญเชิญวิญญาณของท่านมาร่วมด้วยเสมอ  ข่าวดี วันที่ ๒ เมษายน นี้ ทางวัดเจดีย์จะทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล  ไอ้ไข่ รุ่นสรงน้ำ ออกในวันสรานต์  บูชาได้ที่วัด…อ่านเรื่องราวของ ไอ้ไข่ พร้อมชมภาพวัตถุมงคล ครบทุกรุ่นได้จากหนังสือ  ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์  ฉบับสมบูรณ์ ปกแข็ง พร้อมกล่องใส่  เล่มใหญ่หนา ๔๕๒ หน้า ราคา ๒,๕๐๐ บาท สอบถามโทร.๐๙-๒๕๙๒-๘๙๘๗, ๐๖-๓๕๔๘-๙๙๑๘

**  วางตลาดแล้ว  นิตยสาร  ลานโพธิ์  ฉบับใหม่ อ่านเรื่อง พิรอด หลวงปู่รอด วัดเกริน, จอบเล็ก จอบใหญ่ ในหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน, หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ฯลฯ  ฉบับหน้า เป็นฉบับสุดท้ายที่เป็นสิ่งพิมพ์กระดาษ  ต่อไปจะเป็นสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านทางออนไลน์

**  ระยะนี้โรคระบาด โควิด-19  ยังมีอยู่  ไม่จำเป็นไม่ต้องออกไปไหน  หากจำเป็นต้องออกจากบ้าน  ให้เอาหน้ากากอนามัยติดตัวไปด้วยเสมอ   ขอให้ทุกท่านจงแคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคภัยทั้งหลาย  มีสุขภาพแข็งแรงโดยทั่วกัน  ขอขอบพระคุณอย่างสูง  ***

เปิดกรุ”พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ย้อนยุค”ลป.ทับ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/knowledge/422162?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=knowledge

เปิดกรุ”พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ย้อนยุค”ลป.ทับ

15 มีนาคม 2563 – 00:00 น.
พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ย้อนยุค,พระแก้ววัดอนงคาราม,ตามรอยตำนานแผ่นดิน,พระเครื่อง,วัดอนงคาราม
เปิดอ่าน 924 ครั้ง

กราบพระแก้ววัดอนงคาราม เปิดกรุ”พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ย้อนยุค”ลป.ทับ ร่วมสมทบทุนบูรณะกุฏิสมเด็จฯนวม คอลัมน์… ตามรอย…ตำนานแผ่นดิน โดย..ง  เอก อัคคี (facebook.com/Akeakkee Ake)

วันก่อนต้องบอกว่า บุญนำพาวาสนาส่งครับ ผมได้รับเกียรติจากครอบครัวคุณชัชว์ บุนนาค เจ้าของร้านอาหาร “ครัวสมเด็จ” ข้างวัดอนงคาราม คลองสาน ร้านอาหารไทยโบราณตำรับชาววังขนานแท้และสืบสานสูตรอาหารโบราณมาจากบรรพบุรุษตระกูลบุนนาค เชิญชวนไปรับประทานอาหารและนำทางผมไปกราบขอพรพระแก้ววัดอนงคาราม บนกุฏิเก่าแก่โบราณที่สมัยก่อนคือ กุฏิของเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทธสรมหาเถร) อดีตเจ้าอาวาสวัดอนงคาราม รูปที่ ๖ ผู้ให้กำเนิดโรงเรียนศึกษานารี เป็นกรณีพิเศษ เพราะปกติจะเปิดแค่ปีละ ๒ ครั้งเท่านั้น

พระแก้วองค์นี้เป็นองค์เดียวแต่มองต่างสีได้คือเปลี่ยนสีได้ตามเวลาและตามการหักเหของแสง มีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ ๑๒ นิ้ว สูงประมาณ ๑๕-๑๘ นิ้ว ประดิษฐานอยู่ในซุ้มบุษบก บนชั้น ๓ กุฏิสมเด็จ คณะ ๒ เป็นพระพุทธรูปคู่บารมีของ เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทธสรมหาเถร) มายาวนาน

พระแก้ว วัดอนงคงคาราม

มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า สมัยเมื่อเจ้าประคุณสมเด็จยังเป็นพระอันดับ ได้ออกไปกิจนิมนต์นอกวัด ได้มีชายชรานุ่งขาวห่มขาว นำพระพุทธรูปปูนปั้นมาฝากไว้กับศิษย์ของท่านซึ่งเฝ้ากุฏิอยู่ (ต่อมาท่านผู้นี้ต่อมาคือ พระสุธรรมวินิจฉัย ประธานสภาคนแรกของประเทศไทย)

เมื่อท่านกลับมา ศิษย์ก็กราบเรียนให้ท่านทราบ ท่านให้ตั้งไว้ที่โต๊ะรับแขก ต่อมาปูนที่พอกหุ้มไว้ได้กะเทาะออกมองเห็นเนื้อแก้วภายใน ท่านจึงรอให้ผู้ฝากมารับคืน จนกระทั่งบัดนี้ ยังไม่มีผู้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของรับคืน จึงกล่าวได้ว่าเป็นพระคู่บารมีของท่าน

สาระสำคัญของเรื่องต่อไป พระอาจารย์เมืองอินทร์ ของวัดอนงคาราม เล่าว่า เจ้าประคุณสมเด็จได้ไปสร้างอุโบสถวัดโคกเข็ม จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นชาติภูมิของท่าน โดยได้ทุนอุปถัมภ์ส่วนใหญ่จากพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ และทรงเอ่ยปากขอนำไปประดิษฐานที่วังของท่าน ซึ่งเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ เจ้าประคุณ สมเด็จฯ จึงได้รับปากว่าจะยกพระแก้วให้ แต่ยังไม่ทันที่กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ จะนำไปบูชา ก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน แต่ก่อนสิ้นพระชนม์ท่านได้ออกปากประทานแก่พระโอรส เป็นทายาทรับพระแก้วแทนพระองค์ท่าน แต่ปรากฏว่าพระโอรสผู้ทายาทก็มาสิ้นพระชนม์ไปก่อนเช่นเดียวกัน จึงทำให้ไม่มีผู้ใดกล้ามาขอรับพระแก้วไปบูชาอีก

ด้วยเชื่อกันว่า บุญบารมีคงไม่ถึง! และเชื่อมั่นศรัทธากันมายาวนานว่า พระแก้วองค์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์มากขอพรได้ดุจแก้วสารพัดนึก

……………………….

การได้มีวาสนาไปกราบขอพรจึงนับเป็นบุญวาสนาของชีวิตครับ และจากวันนั้นที่ไปก็สังเกตว่า กุฎิเก่าแก่โบราณแห่งนี้ ซึ่งเป็นกุฏิเรือนไม้หลังใหญ่ก็มีสภาพชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ซึ่งทราบว่าเรื่องนี้ก็สร้างความกังวลใจกับคุณชัชว์ บุนนาค และครอบครัว ซึ่งถือได้ว่าเป็นโยมอุปถัมภ์วัดอนงคารามมาตั้งแต่ครั้งเก่าก่อน จึงพยายามระดมทุนทรัพย์มาบูรณะกุฏิหลังนี้ เพราะถือว่าเป็นอาคารประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งของวัดอนงคารามที่ท่านมีความผูกพันมาตั้งแต่วัยเยาว์

กล่าวสำหรับคุณชัชว์ บุนนาค นับว่าผู้ใหญ่ในสายตระกูล ‘บุนนาค’ อีกท่านหนึ่ง ที่สาแหรกของท่านสืบเชื้อสายไปถึงผู้สำเร็จราชการแผ่นดินสายบุนนาคในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่สำคัญปัจจุบันบ้านของท่านและร้านอาหารครัวสมเด็จก็อยู่ติดกับวัดอนงคาราม ซึ่งท่านก็ถือกำเนิดและเติบโตที่นี่ เรียกว่าครอบครัวท่านก็เป็นโยมข้างวัดอนงคารามมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ

อันนามเดิมของวัดอนงคงคารามนั้น ชื่อว่า วัดน้อยขำแถม เพราะท่านผู้หญิงน้อย ภริยาของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) ได้อุทิศที่ดินสร้างเป็นวัดขึ้น ในสมัยรัชกาลที่ ๓ คู่กับวัดพิชยญาติการาม ต่อมาเจ้าพระยาทิพากรวงศ์มหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) ได้ช่วยสร้างแถมให้ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอนงคาราม” นับแต่บัดนั้น

และคุณชัชว์ บุนนาค ท่านเป็นประธานกรรมการฝ่ายฆราวาส ในโครงการจัดสร้างพระเนื้อเมฆสิทธิ์ย้อนยุคของหลวงปู่ทับ รุ่น บูชาคุณบูรพาจารย์ ในปี ๒๕๕๕ ซึ่งถือว่าเป็น พระปิดตาย้อนยุคที่โด่งดังมาก

พระรุ่นนี้สร้างปี ๒๕๕๕ มีออกมาหลายพิมพ์ ประกอบด้วย พระสมเด็จปางซ่อนหา เนื้อเมฆสิทธิ์, พระปิดตาเมฆสิทธิ์ พิมพ์หลวงปู่ทับ, พระปิดตาหลวงปู่ทับ เนื้อทองแดง เพราะเป็นที่รับรู้กันในวงการนักสะสมพระเครื่องว่า พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ของหลวงปู่ทับ วัดอนงคงคารามรุ่นแรกมีอายุการสร้างกว่า ๑๐๐ ปี ราคาเช่าหาแพงระยับและมีพระปลอมเต็มตลาดพระ ว่ากันว่าของปลอมจะเป็นสีเขียววาววับเหมือนปีกแมลงทับเลยทีเดียวเชียวแหละ

พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ ย้อนยุค

เสน่ห์ของพระเนื้อเมฆสิทธิ์ สูตรการสร้างของหลวงปู่ทับนั้น มีความพิเศษคือผิวจะกลับเพราะในชนวนจะมีทั้งปรอท ตะกั่ว ทองเหลือง ทองแดง กำมะถัน ฯลฯ บ้างก็ว่า หลวงปู่ทับหย่อนทองคำหล่อลงไปด้วย ซึ่งก็ไม่ใครจะฟันธงลงชัดเจนได้

แต่เรื่องความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ทุกคนยอมรับว่า นี่คือ ที่สุดของพระปิดตาสายฝั่งธนบุรี เด่นมากในด้านเมตตา มหานิยม ตบะบารมีและป้องกันคุณไสย

เมื่อมีการสร้างรุ่นย้อนยุค คุณชัชว์ บุนนาค บอกว่าเป็นการสร้างตามตำราตามสูตรของหลวงปู่ทับขนานแท้ เพราะตำราอยู่ที่วัดและมีพระอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่ของวัดเก็บรักษาเอาไว้

จึงเป็นเนื้อเมฆสิทธิ์ที่ตรงตามตำราแน่นอน ที่สำคัญในงานพิธีปลุกเสก อธิษฐานจิต ณ วัดอนงคาราม เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๕ เป็นพิธีที่สมบูรณ์มาก โดย หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน, หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว, หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อชำนาญ วัดกุฏีทอง(ในสมัยนั้น), พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตา, หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู, หลวงพ่อรวย วัดตะโก ฯลฯ และหลังจากงานนั้นผ่านไป คุณชัชว์ บุนนาค ก็เช่าเก็บเอาไว้เป็นสมบัติส่วนตัวเพื่อไว้ให้ลูกหลานในตระกูลบุนนาคของท่าน แต่เมื่อมาพิจารณาแล้วว่า การบูรณะกุฏิไม้หลังเก่าของเจ้าประคุณสมเด็จนวมนั้นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากและท่านก็เป็นโยมอุปถัมภ์คนสำคัญ จึงตัดสินใจที่จะแบ่งพระเครื่องชุดนี้ให้ทุกคนได้ร่วมงานบุญใหญ่ครั้งนี้

ผู้เขียนกำลังส่องความงามของเนื้อเมฆสิทธิ์

ครับ-ผู้ที่สนใจอยากจะเช่าบูชาพระเครื่องย้อนยุคเนื้อเมฆสิทธิ์ของแท้ อย่ารอช้า เพราะเท่าที่ทราบคือ มีพระสมเด็จปางซ่อนหา (๑๐๐ องค์) เนื้อเมฆสิทธิ์, พระปิดตาเมฆสิทธิ์ พิมพ์หลวงปู่ทับ(๑๐๐ องค์), พระปิดตาหลวงปู่ทับ เนื้อทองแดง (๒๐๐ องค์) พระพิมพ์ปรกมะขาม รุ่นเจ้าสัว สมเด็จนวม ๕๐๐ องค์ สนใจก็ติดต่อสอบถามไปได้ที่ คุณชัชว์ บุนนาค ๐๘-๓๕๙๖-๓๕๕๑, คุณศศิ บุนนาค ๐๖-๑๔๒๙-๕๖๙๔, คุณชัชรีย์ บุนนาค ๐๙-๒๘๒๖-๔๙๒๔

ผมว่า ถ้าจะเช่าหาพระเครื่องย้อนยุค มีที่มาที่ไปชัดเจน ประวัติการสร้างสืบค้นได้แน่นอน ประธานกรรมการจัดสร้างก็สายตรงขนาดบ้านของท่านก็อยู่ติดวัดข้างแค่ถนนกั้น…มันชัดจนไม่ต้องใส่หน้ากากบรรยายให้มากความแล้วล่ะครับ !!!!

นิทรรศการไทย-เมียนมาร์ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/knowledge/421807?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=knowledge

นิทรรศการไทย-เมียนมาร์

12 มีนาคม 2563 – 02:00 น.
จักรวาล นิลธำรงค์,ศิลปะจัดวาง,กำจร สันกว้าน,Side Reel,ร่อนเรื่อง,เกมส์ แอนด์ โพลิติกส์,นิทรรศการ,อินเตอร์แอ็กทีฟ,ความงามที่แตกต่าง,กรดล กุลจารุสิริ,ชินสีห์ จันทร์มณี,ปรมัตถ์ เหลืองอ่อน,พันธุ์ธัช บุญพันธุ์ วงศ์ภักดี,สนามชัย พวงระย้า,อิทธิพล พัฒรชนม์,นิพันธ์ โอฬารนิเวศน์,Neither Body or Soul
เปิดอ่าน 108 ครั้ง

มุมมองด้านกลับของการเดินทางไปยังบริเวณพรมแดนไทย-เมียนมาร์

** นิทรรศการแบบอินเตอร์แอ็กทีฟที่เราสัมผัสและมีส่วนร่วมได้จริงๆ “เกมส์ แอนด์ โพลิติกส์” ได้รวบรวม 18 เกมจากทั่วโลกที่แฝงด้วยประเด็นทางการเมือง อาทิ ความยุติธรรมในการจ้างงาน ผลพวงของสงคราม ผู้อพยพและผู้ลี้ภัย ไปจนถึงประเด็นรัฐสอดแนม มาให้เล่นกันจริงๆ ระหว่างวันที่ 16 มีนาคม-12 เมษายน ที่ CommDe ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 10:00-18:00 น. เสาร์-อาทิตย์ 10:00-16:00 น.(ปิดวันจันทร์

** นิทรรศการ “ความงามที่แตกต่าง สู่จิตวิญญาณตะวันออก : 2” ของ 6 ศิลปิน ได้แก่ กรดล กุลจารุสิริ, ชินสีห์ จันทร์มณี, ปรมัตถ์ เหลืองอ่อน, พันธุ์ธัช (บุญพันธุ์) วงศ์ภักดี, สนามชัย พวงระย้า และ อิทธิพล พัฒรชนม์ ที่ร่วมกันถ่ายทอดจิตวิญญาณตะวันออกผ่านจิตรกรรมไทย ผสมผสานเทคนิคแบบตะวันตก แต่แตกต่างไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละคน เปิดให้ชมตั้งแต่วันนี้-30 มีนาคม ที่สาทร 11 อาร์ต สเปซ เวลา 17.00-01.00 น. (ปิดวันจันทร์) สอบถามโทร.0-2004-1199

** นิทรรศการ “Neither Body or Soul” โดย นิพันธ์ โอฬารนิเวศน์ นำเสนอมุมมองด้านกลับของการเดินทางไปยังบริเวณพรมแดนไทย-เมียนมาร์ ทั้งในเรื่องของพื้นที่ กระบวนการ ความสัมพันธ์ และวิถีชีวิตของ 2 ประเทศ ทั้งยังเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยมีเงื่อนไขเชิงพื้นที่ นิทรรศจัดแสดงถึง 13 พฤษภาคม ที่โนวา คอนเทมโพรารี ชั้นจี บ้านสมถวิล ซ.มหาดเล็กหลวง 3 เวลา 11.00-19.00 น. (ปิดวันจันทร์) สอบถามโทร.09-0910-6863

** งานศิลปะจัดวางและภาพยนตร์ของ จักรวาล นิลธำรงค์ และ กำจร สันกว้าน ตั้งใจสร้างความทรงจำร่วมผ่านสื่อภาพยนตร์ “Side Reel ร่อนเรื่อง” พาเราไปรื้อฟื้นพื้นที่ทับซ้อนระหว่างประวัติศาสตร์จากเหตุการณ์กรณีการสั่งระงับกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรีในจังหวัดพิจิตร จัดแสดงแล้ววันนี้-25 มีนาคม ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เวลา 10.00-21.00 น. (ปิดวันจันทร์)