ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/249153
วันอาทิตย์ ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

หลังจากที่คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)พิจารณาร่างจนได้ข้อสรุป และเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรคเพื่อให้ร่างกฎหมายซึ่งเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองโดยตรงมีความรอบด้าน มีข้อบกพร่องน้อยที่สุดและตอบโจทย์การปฏิรูปการเมืองเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงพ้นจากธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมอันเป็นต้นเหตุสำคัญของวิกฤติชาติตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีตัวแทนพรรคการเมือง 28 พรรค ให้ความร่วมมือเข้าร่วมเวทีแสดงความคิดเห็นครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงรวมทั้งพรรคใหญ่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ โดยพรรคการเมืองใหญ่เพียงพรรคเดียวที่บอยคอตต์ไม่เข้าร่วมเวทีรับฟังความเห็นที่กรธ.เป็นเจ้าภาพครั้งนี้ก็คือพรรคเพื่อไทย
ถ้าจะว่าไปแล้วไม่ใช่เรื่องแปลกที่พรรคเพื่อไทยบอยคอตต์การร่วมเวทีของกรธ.เพราะจุดยืนท่าทีของพรรคเพื่อไทยชัดเจนมาตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด โดยพรรคเพื่อไทยและเครือข่ายระบอบทักษิณทั้งหลายต่างออกมาเคลื่อนไหวมุ่งบ่อนทำลายคสช.และต่อต้านขัดขวางการปฏิรูปประเทศซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของ คสช.และรัฐบาลชุดนี้มาตั้งแต่ต้น
พรรคเพื่อไทยและเครือข่ายขบวนการเพื่อไทยคัดค้านทุกเรื่องทุกประเด็นของ คสช.และรัฐบาลโดยบรรดาแกนนำเครือข่ายระบอบทักษิณออกมาเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์โจมตี คสช.และรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพยายามต่อต้านขัดขวางการปฏิรูปประเทศ โดยประกาศคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปเพื่อปราบโกงตั้งแต่ยังไม่ทันยกร่างด้วยซ้ำ
หากเปรียบเทียบระหว่างสองพรรคใหญ่คู่ปรับคือพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์จะพบว่า พรรคเพื่อไทยนั้นที่ผ่านมาเดินเกมในลักษณะตีรวนป่วนเมืองโดยคำนึงถึงเป้าหมายผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้งโดยสร้างภาพอ้างประชาธิปไตยบังหน้า และพยายามขัดขวางการเดินหน้าปฏิรูปประเทศเพื่อปราบโกงขจัดธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมมาตลอด
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์แม้จะไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองในหลายประเด็น แต่ก็เดินเกมแบบเป็นมวยเข้าร่วมแสดงความเห็นในเวทีที่กรธ.จัดขึ้น
ขณะเดียวกันก็แสดงจุดยืนคัดค้านเชิงสร้างสรรค์และยอมรับการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ซึ่งเห็นได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนสาระใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองในประเด็นที่เกี่ยวกับบทลงโทษอย่างรุนแรงสำหรับผู้ที่ซื้อขายตำแหน่งทางการเมืองหรือมีการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายประชาธิปไตยถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่พรรคเพื่อไทยกลับค้ดค้านประเด็นนี้แบบหัวชนฝา
ส่วนประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์คัดค้านเป็นเรื่องรายละเอียดปลีกย่อย อาทิ ประเด็นระยะเวลาที่ให้สมาชิกพรรคการเมืองต้องจ่ายค่าบำรุงพรรคการเมืองภายใน 150 วัน เพราะในการปฏิบัติจริงมีขั้นตอนต้องทำความเข้าใจชี้แจงกับสมาชิกพรรคต่อเนื้อหากฎหมายที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงขั้นตอนการชี้แจงหากทำผ่านระบบไปรษณีย์อาจมีค่าใช้จ่ายมหาศาลและต้องใช้เวลามากเพราะปัจจุบันพรรคประชาธิปัตย์มีสมาชิกพรรคกว่า 2 ล้านคน ดังนั้นเห็นว่าควรกำหนดให้สมาชิกพรรคมี 2 ประเภท คือ ประเภทที่ชำระค่าบำรุงพรรค และประเภทที่ยังไม่ชำระค่าบำรุงพรรค แต่คงสถานภาพการเป็นสมาชิกพรรค พร้อมกับขยายเวลาให้สมาชิกพรรคที่ต้องชำระค่าบำรุงพรรคออกไปเป็น 4 ปี
นอกจากนี้ประเด็นการกำหนดให้มีสาขาพรรคอย่างน้อยภาคละ 1 สาขา และกำหนดให้ตั้งตัวแทนของพรรคในเขตเลือกตั้งที่ไม่มีสาขาพรรคอาจเกิดปัญหากรณีที่พรรคการเมืองซึ่งไม่สนับสนุนความเป็นประชาธิปไตยนำระบบการตั้งตัวแทนมาใช้แทนการตั้งสาขาเพื่อเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายได้
ตัวแทนพรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กต่างร่วมเวทีแสดงความเห็นอย่างพร้อมเพรียงทั้งพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา ซึ่งภายหลังการแสดงความเห็น นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรธ. แถลงว่า กรธ.พร้อมนำข้อเสนอของตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรคไปพิจารณาทบทวนใน 4 ประเด็นคือ 1.การกำหนดให้พรรคการเมืองต้องหาสมาชิกพรรคให้ได้ 20,000 คน ภายใน 4 ปีมากไปหรือไม่ 2.ทุนประเดิมผู้ร่วมก่อตั้งพรรคคนละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท ให้ได้ 1 ล้านบาท มากไปหรือไม่ 3.ค่าบำรุงสมาชิกพรรคคนละ 100 บาทต่อปี ควรมีหรือไม่ 4.บทกำหนดโทษผู้กระทำผิดรุนแรงเกินไปหรือไม่
การที่พรรคการเมืองถึง 28 พรรค ยกเว้นพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมเวทีแสดงความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองจึงเป็นการโดดเดี่ยวตัวเองและสร้างความชอบธรรมให้กับขบวนการผลักดันกฎหมายลูกเพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศซึ่งเป็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันสะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยและระบอบทักษิณที่ตั้งหน้าตั้งตาทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการเดินหน้าปฏิรูปประเทศโดยยังหวังให้ชาติบ้านเมืองกลับไปสู่วงจรอุบาทว์แบบเดิมๆ
ทีมข่างการเมือง