ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/244420
วันอาทิตย์ ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 02.00 น.

ระบอบทักษิณฉวยโอกาสจากปัญหาราคาข้าวตกต่ำดาหน้าชนออกมาสุมไฟต่อเจตนาจุดชนวนปลุกม็อบชาวนาหวังดับเครื่องชนรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยเฉพาะการออกมาเคลื่อนไหว ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดที่นับวันจะเปิดหน้าชนรัฐบาลชัดเจนร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกมองว่าดราม่าสร้างภาพโดยทีมงานประชาสัมพันธ์ของระบอบทักษิณด้วยการเดินสายพบปะบรรดาชาวนาในจังหวัดภาคอีสานคือ อุบลราชธานี สุรินทร์ ศรีสะเกษ ที่นำข้าวสารมาขาย ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เหมารับซื้อข้าวจากชาวนาโดยมีข้อน่าสังเกตว่าชาวนากลุ่มนี้สวมกอด น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมถามหาโครงการรับจำนำข้าวรวมทั้งอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับมาบริหารประเทศอีกยิ่งไปกว่านั้น ชาวนาบางรายถึงกับมอบเงินช่วยน.ส.ยิ่งลักษณ์เพื่อชดใช้ค่าเสียหายแก่แผ่นดินในคดีโครงการรับจำนำข้าว โดยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงบทบาทสอดรับด้วยการหลั่งน้ำตาคลอเบ้าพร้อมประกาศว่าหากมีโอกาสกลับมาบริหารประเทศอีกจะฟื้นโครงการรับจำนำข้าวและรับซื้อข้าวจากชาวนาทุกเมล็ดเพื่อคืนความสุขให้ชาวนาอีกครั้ง
ข้อน่าสังเกตความเป็นดราม่าของ น.ส.ยิ่งลักษณ์อีกประการหนึ่งก็คือ ทีมงานประชาสัมพันธ์ขบวนการระบอบทักษิณดำเนินการจัดฉากทุกขั้นตอนทั้งผลิตป้อนภาพและข่าวสำเร็จรูปให้นักข่าวสำนักต่างๆ เสร็จสรรพ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังพยายามสร้างภาพอย่างต่อเนื่องโดยในวันถัดมาเมื่อเดินทางไปให้ปากคำต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะจำเลยคดีโครงการรับจำนำข้าว โดยมีมวลชนและแกนนำองค์กรชาวนาเสื้อแดงมาให้กำลังใจซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศย้ำว่าถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาลจะทุ่มงบประมาณรับจำนำข้าวทุกเมล็ดแบบไม่อั้น
จากนั้นในวันต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งบรรดาแกนนำระบอบทักษิณและอดีตรัฐมนตรียุครัฐบาลยิ่งลักษณ์เดินเกมสร้างภาพด้วยการนำข้าวสารไปขายที่ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกสร้างภาพแบบฉาบฉวยเพราะช่วยซื้อข้าวจากชาวนาแล้วเอามาขายต่อแบบไม่ยอมชักเนื้อ ซ้ำรับซื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อยพอเป็นพิธีแล้วเลิกโดยไม่ได้ช่วยชาวนาอย่างต่อเนื่องจริงจังเพียงเพื่อสร้างข่าวแบบตีกินเท่านั้น
การออกมาเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกครั้งนี้จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเกมฉวยโอกาสจากปัญหาราคาข้าวตกต่ำเพื่อโจมตีรัฐบาลทหารว่าล้มเหลวไม่สามารถแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำได้ ขณะเดียวกันก็พยายามปลุกผีโครงการรับจำนำข้าวว่าสามารถช่วยให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้ อย่างไรก็ตาม แผนจุดชนวนปลุกม็อบชาวนากลับจุดไม่ติดเพราะรัฐบาลทันเกมชิงตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการประกาศรับจำนำยุ้งฉางข้าวของชาวนาตันละ 13,000 ล้านบาท ขณะที่กระแสสังคมทุกภาคส่วนออกมาร่วมด้วยช่วยกันรับซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง
ระบอบทักษิณจึงหันมาโจมตีรัฐบาลว่าใช้นโยบายประชานิยมไม่ต่างจากโครงการรับจำนำข้าว โดยมีเป้าหมายที่แท้จริงก็คือใช้เป็นเงื่อนไขข้ออ้างในการกลบเกลื่อนความล้มเหลวเน่าเฟะของโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกันก็ใช้นโยบายจำนำยุ้งฉางข้าวของรัฐบาลเพื่อเป็นข้ออ้างในการต่อสู้คดีโดยอ้างว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ใช้นโยบายไม่ต่างจากโครงการรับจำนำข้าวเช่นกัน ดังนั้นต้องไม่ปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน กล่าวคือ หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกถูกดำเนินคดี รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย หรือหากรัฐบาลชุดนี้ไม่ถูกดำเนินคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์และพวกก็ไม่ควรถูกดำเนินคดีเช่นกัน
ทั้งที่ในความเป็นจริงนโยบายจำนำยุ้งฉางยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กับโครงการรับจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยโครงการรับจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ทุ่มงบประมาณไม่อั้นรับจำนำข้าวทุกเมล็ดและกำหนดราคารับจำนำ 15,000 บาทต่อตัน ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดถึงกว่าเท่าตัวอันผิดหลักการรับจำนำอย่างสิ้นเชิงและเปิดช่องให้มีการทุจริตมโหฬารจากการนำข้าวราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำหาประโยชน์จากส่วนต่างกำไรถึงตันละประมาณ 10,000 บาท
ขณะที่การรับจำนำยุ้งฉางข้าวกำหนดราคาต่ำกว่าราคาตลาดและจำกัดงบในการจำนำยุ้งฉาง
ดังนั้นปัญหาราคาข้าวตกต่ำที่เกิดขึ้นจึงเป็นดราม่าการเมืองของระบอบทักษิณที่โหมทำทุกวิถีทางเพื่อบ่อนทำลายรัฐบาลคสช. ขณะเดียวกันพยายามกลบเกลื่อนความล้มเหลวเน่าเฟะ และใช้เป็นข้ออ้างเพื่อต่อสู้หวังให้พ้นผิดคดีรับจำนำข้าวที่มีการโกงชาติปล้นแผ่นดินมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
ทีมข่าวการเมือง