ระบอบแม้วจับมือสำนักจานบิน ป้องธัมมชโยแตกหักรัฐคสช.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/258256

วันอังคาร ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.

ความจริงหากธัมมชโย อดีตเจ้าสำนักจานบินไม่เห็นแก่ตัวและละแล้วซึ่งกิเลส อีกทั้งเป็นผู้วิเศษเหนือโลกีย์อย่างที่อ้างถึงขนาดสร้างภาพว่าเคยถอดร่างขึ้นสวรรค์ไปพบพระพุทธเจ้ามาแล้ว ปัญหาตึงเครียดทั้งหลายของสำนักจานบินก็คงจบไปตั้งแต่เมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้วในการเข้าตรวจค้นสำนักจานบินครั้งแรกของกำลังเจ้าหน้าที่นำโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คงไม่ยืดเยื้อบานปลายมาจนทุกวันนี้

ประเด็นสำคัญอันเป็นที่มาของเรื่องราวทั้งหมดก็มีแค่ว่า ธัมมชโย ถูกออกหมายจับที่ออกโดยศาลในข้อหาฟอกเงินและรับของโจรจากเงินที่โกงมาจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น และภายหลังถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมอีกหลายคดี อาทิ การรุกป่าสงวนแห่งชาติและที่สาธารณะจำนวนมากตั้งเป็นสาขาสำนักจานบินในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย นั่นคือติดตามตัว ธัมมชโย มาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่นั่นแหละมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ในการเข้าตรวจค้นเพื่อควบคุมตัว ธัมมชโย ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐถึงขนาดอ่อนข้อหาทางออกเพื่อคลี่คลายปัญหาให้จบลงด้วยดีโดยเสนอเงื่อนไขว่า หาก ธัมมชโย ยอมมอบตัวก็จะให้ประกันตัวทันที ส่วนคดีความจะผิดหรือถูกให้ไปพิสูจน์กันในศาล

แต่ด้วยความถือดีในอิทธิพลของสำนักจานบินของ ธัมมชโย ที่บัดนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนแล้วว่าคำนึงถึงตัวเองมากกว่าความสูญเสียที่จะตามมากับสำนักจานบินและชาติบ้านเมือง จึงไม่ยอมมอบตัวเพื่อสู้คดีอย่างสง่างามพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมเยี่ยงสงฆ์ซึ่งหลุดพ้นแล้วซึ่งสิ่งทั้งปวง แต่กลับวางแผนปักหลักสู้และคิดหลบหนีโทษความผิด แล้วปล่อยให้บรรดาพระและสาวกสำนักจานบินทั้งหลายทำตัวดุจรัฐอิสระเหนือกฎหมาย ท้าทายอำนาจรัฐขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของฝ่ายเจ้าหน้าที่ และเหิมเกริมถึงขนาดไม่ยอมรับการเจรจาโดยพระชั้นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นตัวแทนของมหาเถรสมาคม(มส.)ภายใต้สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่

ซ้ำที่เลวร้ายกว่านั้นจากการเปิดโปงของ พระธรรมศักดิ์ จารุธัมโม พระที่บวชอยู่สำนักจานบินมา 30 ปีที่ออกมาแถลงก่อนหน้านี้พร้อมทั้งหันหลังให้กับสำนักจานบินเพราะไม่พอใจพฤติกรรมของแก๊งพระผู้บริหารสำนักจานบินที่สุมหัวกันวางแผนสร้างสถานการณ์ให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายแล้วโยนความผิดทั้งหมดให้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่และสร้างความชอบธรรมให้กับ ธัมมชโย ทั้งๆที่ความจริงหาก ธัมมชโย เป็นพระแท้ที่เห็นแก่วงการพุทธศาสนาและชาติบ้านเมืองยอมมอบตัวแต่แรกปัญหาวุ่นวายทั้งหลายก็คงจบตั้งแต่ต้น

ทุกวันนี้ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส กระบอกเสียงโฆษณาชวนเชื่อของสำนักจานบิน รวมทั้งขบวนการสำนักจานบินส่อพฤติการณ์โกหกพกลมบิดเบือนโฆษณาชวนเชื่อทางโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็พยายามขัดขวางการเข้าตรวจค้นพื้นที่สำนักจานบินเฟสเอและเฟสบีอย่างละเอียดแบบหัวชนฝาหลังจากการข่าวของฝ่ายเจ้าหน้าที่สงสัยว่า ธัมมชโย และแก๊งยังหลบซ่อนตัวอยู่ในอาคารหลังใดหลังหนึ่งในพื้นที่เฟสเอและเฟสบี

ทั้งนี้หากเหล่าพระและสาวกสำนักจานบินบริสุทธิ์ใจต้องพร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นได้ตลอดเวลา ไม่ใช่ออกอาการพิรุธเหมือนซ่อนของสำคัญจึงพยายามขัดขวางทุกวิถีทางไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ถึงขนาดเดิมพันว่าหากการตรวจค้นซ้ำรอบใหม่ไม่เจอผู้ต้องหาก็พร้อมที่จะเสนอให้ยกเลิกมาตรา 44 และถอนตัวกลับทันที

ขณะนี้ขบวนการสำนักจานบินพยายามเดินเกมบิดเบือนโฆษณาชวนเชื่อจากเดิมที่ออกมาปกป้องธัมมชโยมาเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นให้กลายเป็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนและคุกคามความเชื่อทางศาสนาโดยอำนาจรัฐเผด็จการด้วยการใช้มาตรา 44 ทั้งๆ ที่ประเด็นสำคัญคือ ธัมมชโยทำผิดกฎหมายจนถูกออกหมายจับโดยศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายจับตัวธัมมชโยไปขึ้นศาล

และนี่ขนาดรัฐใช้มาตรา 44 ก็ยังเอาไม่อยู่ถูกต่อต้านจากสำนักจานบินซึ่งเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเป็นรัฐอิสระอันทรงอิทธิพลที่อยู่เหนือกฎหมายมาตลอด

จากนี้ไปความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตาก็คือการจับมือกันระหว่างสำนักจานบินกับพันธมิตรคู่ซี้มาช้านานคือขบวนการระบอบแม้ว

ข้อน่าสังเกตคือช่วงหลังแกนนำขบวนการเพื่อแม้วหลายต่อหลายคนออกมาเคลื่อนไหวแสดงท่าทีเชิงปกป้อง ธัมมชโยและสำนักจานบินอย่างออกหน้าออกตา อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายวัฒนา เมืองสุข, นายจาตุรนต์ ฉายแสง, นายยงยุทธ ติยะไพรัช

ขณะที่ก่อนหน้านี้แกนนำแดงฮาร์ดคอร์นำมวลชนแดงหลายร้อยคนไปร่วมชุมนุมกับพระและสาวกสำนักจานบินที่บริเวณตลาดคลองหลวง จ.ปทุมธานี

เพราะฉะนั้นสถานการณ์จากนี้ไปเชื่อว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ที่แหลมคมร้อนแรงมากทุกขณะเพราะนี่คือการทำศึกชี้ชะตาความอยู่รอดของสองพันธมิตรคู่ซี้ที่กำลังตกต่ำและมีแนวโน้มใกล้ถึงจุดล่มสลายด้วยกันทั้งคู่ จึงต้องดิ้นทุกวิถีทางรวบรวมสรรพกำลังและสารพัดวิชามารที่ถนัดต่อสู้กับอำนาจรัฐขั้นแตกหัก

จากปรากฏการณ์ปัญหาของสำนักจานบินที่เกิดขึ้นถูกตั้งข้อสังเกตว่าสอดคล้องกับสัจธรรม“หงส์ย่อมอยู่กับหงส์ ส่วนเหี้….ย่อมอยู่กับเหี้” เป็นธรรมดา และนึกถึงพุทธพจน์ที่ว่า “คนที่พูดเท็จไม่ทำชั่วเป็นไม่มี”

ทีมข่าวการเมือง

จับตาแผนจนตรอกแก๊งจานบิน สร้างสถานการณ์สุมไฟวิกฤติ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/258118

วันจันทร์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.

ยิ่งนานวันเหล่าพระและสาวกภายในสำนักจานบินที่พยายามขัดขวางการเข้าตรวจค้นเพื่อคุมตัวธัมมชโย อดีตเจ้าสำนัก ก็ยิ่งอ่อนล้าและอยู่ในภาวะใกล้จนตรอกเข้าไปทุกขณะด้วยมาตรการบีบจากเบาไปหาหนัก ทั้งการปิดล้อมและตัดกำลังโดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ ทั้งเรื่องเสบียงอาหารและการสื่อสาร และต่อไปอาจไปถึงการตัดน้ำตัดไฟหากยังดื้อดึงตั้งตัวเป็นรัฐอิสระปกป้องผู้ต้องหาหนีหมายจับของศาล

การที่ล่าสุดมีการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวเด้ง นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาประจำสำนักนายกฯนั้นมีข้อน่าสังเกตว่ามีเสียงสนับสนุนจำนวนมากและบางเสียงเห็นว่าควรย้ายมาตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ เพราะภาพพจน์ของนายพนม ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตั้งข้อสงสัยกันมานานแล้วว่าเป็นคนของสำนักจานบินและระบอบแม้วจึงไม่แปลกที่พฤติการณ์ พศ.ช่วงที่ผ่านมา ส่อไปในทางให้การปกป้องดึงเกมเพื่อช่วย ธัมมชโย มาตลอด

ทั้งนี้ พศ.ถูกก่อตั้งขึ้นในยุคระบอบแม้วครองเมือง ซึ่งระบอบแม้วนั้นเป็นพันธมิตรที่จับมือแนบแน่นกับสำนักจานบินมานานแล้ว โดยสองพันธมิตรถูกตั้งข้อสังเกตว่าวางแผนที่จะยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยฝ่ายหนึ่งยึดครองฝ่ายอาณาจักร ขณะที่อีกฝ่ายยึดครองศาสนจักร

หลังคำสั่งเด้ง นายพนม พ้นพศ.ก็มีคำสั่งจากผู้บริหารพศ.คนใหม่ทันทีให้พระเณรทั่วประเทศงดเดินทางร่วมชุมนุมที่สำนักจานบิน ซึ่งถือเป็นมาตรการรุกคืบตัดกำลังสำนักจานบินที่ขณะนี้มีแต่จะเข้าตาจนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังจากที่มีคำสั่งตามมาตรา 44 ตัดสัญญาณการสื่อสารบริเวณสำนักจานบินอย่างสิ้นเชิง

สิ่งที่จะต้องจับตาจากนี้ในภาวะที่สำนักจานบินกำลังใกล้จนตรอกเข้าไปทุกขณะก็คือการสู้แบบเลือดเข้าตาของขบวนการสำนักจานบิน โดยการหนุนช่วยจากขบวนการเพื่อแม้วโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง

การเดินเกมของสำนักจานบินในช่วงหลังเห็นได้ชัดว่าพยายามบิดเบือนข้อเรียกร้องจากการปกป้อง ธัมมชโย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับของศาล มาเป็นเรื่องการที่อำนาจรัฐคุกคามศาสนา และละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการประกาศใช้มาตรา 44 ให้พื้นที่บริเวณสำนักจานบินเป็นเขตควบคุมพิเศษซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจค้นหรือดำเนินการใดๆได้โดยไม่ต้องอาศัยหมายค้นจากศาล

สำนักจานบินยังพยายามใช้แผนโลกล้อมไทยนั่นคืออาศัยสาขาสำนักจานบินทั้งในและนอกประเทศสร้างกระแส รวมทั้งการร้องเรียนต่อองค์การสหประชาชาติรวมทั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนสากล ตลอดจนพยายามจุดกระแสให้องค์กรพุทธศาสนาทั่วโลกเข้ามาแทรกแซงกดดันอำนาจรัฐไทย

แต่ดูเหมือนว่าองค์การระหว่างประเทศจะไม่เล่นตามเกมของสำนักจานบิน โดยเฉพาะการที่ก่อนหน้านี้ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรสำนักจานบิน บิดเบือนแถลงอ้างดื้อๆว่า แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล แถลงจุดยืนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของสำนักจานบิน จนแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลต้องรีบออกมาแถลงปฏิเสธทันควันว่า ไม่เคยมีจุดยืนตามที่สำนักจานบินกล่าวอ้าง แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลเพียงแต่ห่วงใยและกำลังติดตามสถานการณ์ปัญหาสำนักจานบินอย่างใกล้ชิดเท่านั้น

เมื่อแผนโลกล้อมไทยส่อเค้าจุดไม่ติด ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐรู้ทันไม่ตกหลุมพรางของสำนักจานบินที่พยายามยั่วยุทุกวิถีทางเพื่อให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ใช้กำลังจนเกิดความรุนแรงหวังใช้เป็นข้ออ้างในการสร้างความชอบธรรมและโหมไฟความรุนแรงให้ลุกโชนมากขึ้นจนอำนาจรัฐต้องหยุดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นรัฐอิสระสำนักจานบินเพื่อจับตัว ธัมมชโย ช่วง 10 กว่าวันที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ใช้ความละมุนละม่อมกับพระและสาวกจานบินมาตลอด ตรงกันข้ามกลับเห็นภาพพระและสาวกจานบินแสดงพฤติการณ์ดุจอันธพาลยั่วยุและพยายามหาเรื่องชวนทะเลาะกับฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐรวมถึงสื่อมวลชน

ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐนอกจากรู้ทันไม่ทะเลาะด้วยแล้ว ยังเดินเกมรุกด้วยการตัดกำลัง ตัดเสบียง ตัดการสื่อสาร และอาจถึงขั้นตัดน้ำตัดไฟ ทำให้สำนักจานบินขณะนี้อยู่ในสภาพที่จนตรอกเข้าไปเรื่อย ดังนั้นทางเดียวของสำนักจานบินคือสู้แตกหักแบบเลือดเข้าตาด้วยการร่วมมือกับขบวนการเพื่อแม้ว โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อแดงที่ก่อนหน้านี้ยกกำลังหลายร้อยคนมาป้วนเปี้ยนผสมโรงร่วมชุมนุมกับสาวกจานบินบริเวณตลาดกลางคลองหลวง จ.ปทุมธานี หน้าประตูทางเข้าสำนักจานบิน โดยแกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่นำกำลังมาพบว่ามีใบหน้าคล้ายกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ที่เคยยกพวกถล่มยิงการชุมนุมของ กปปส. เมื่อปี 2557 จนมีแกนนำ กปปส. เสียชีวิตและบาดเจ็บ

ก่อนหน้านี้ พระธรรมศักดิ์ จารุธัมโม ซึ่งบวชอยู่สำนักจานบินมานานถึง 30 ปี ออกมาแฉอย่างสุดทนเนื่องจากทนไม่ได้ที่พระผู้บริหารสำนักจานบินประชุมกันวางแผนที่จะสร้างสถานการณ์ให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายแล้วโยนความรับผิดชอบให้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น

พระธรรมศักดิ์ ก็เหมือนพระสำนักจานบินอีกหลายต่อหลายรูปที่หันหลังให้กับสำนักจานบิน หลังพบธาตุแท้ความเลวร้ายที่ซ่อนอยู่ภายในอาณาจักรรัฐอิสระแห่งนี้

เพราะด้วยต้องจับตาอย่ากะพริบภายใต้สถานการณ์ที่เข้าตาจนของสำนักจานบินซึ่งพร้อมที่จะสู้แตกหักแบบเลือดเข้าตาด้วยการเป็นฝ่ายเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งอาจมีการสร้างสถานการณ์ร้ายแรงใส่การชุมนุมของพระและสาวกจานบินแล้วโยนความผิดให้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่จากนั้นจะเดินเกมสุมไฟให้ลุกลามบานปลายกลายเป็นวิกฤติทั้งในและจากนอกประเทศ

ทีมข่าวการเมือง

ไฟท์บังคับเหล่านักลากตั้ง โหนขบวนการรถไฟปรองดอง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/257997

วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.

บรรดาตัวแทนพรรคการเมืองทั้งใหญ่และเล็กราว 70 พรรค และกลุ่มพลังการเมืองต่างๆ พากันตบแถวร่วมขบวนการรถไฟเพื่อการปรองดองซึ่งจัดขึ้นที่กระทรวงกลาโหมตามเทียบเชิญของรัฐบาลที่กำกับโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยกองทัพมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้การสร้างความปรองดองสำเร็จเพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศ

แผนสร้างความปรองดองครั้งนี้ดูเหมือนรัฐบาลและคสช.จะให้ความมั่นใจมากว่าจะประสบความสำเร็จโดยนอกจากตัวแทนพรรคการเมืองแล้วมีการเชิญบุคคลสำคัญในทุกวงการเข้าร่วมให้ข้อเสนอแนะ อาทิ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกฯและอดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าหรือการพัฒนา หรือ อังค์ถัด นายบัญฑูร ล่ำซำ ประธานคณะกรรมการบริหารธนาคารกสิกรไทยจำกัด นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพจำกัด ดร.เทียนฉาย กีระตินันท์ อดีตประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ นักวิชาการชื่อดัง

ความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตาคือท่าทีของ 2 พรรคใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะท่าทีของพรรคเพื่อไทยซึ่งที่ผ่านมาส่อเจตนาตั้งแง่ส่งสัญญาณต่อรองการร่วมขบวนการสร้างความปรองดองโดยซ่อนเงื่อนไขอันเป็นเป้าหมาย
ที่แท้จริงคือ การนิรโทษกรรมแบบสุดซอยฟอกโทษความผิดให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก รวมทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ผู้เป็นน้องสาวและเป็นจำเลยสำคัญคดีโครงการรับจำนำข้าว รวมไปถึงบรรดาแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553

ในบรรดาพรรคขนาดเล็กและขนาดกลางที่ร่วมขบวนการรถไฟปรองดองที่น่าสนใจคือพรรคความหวังใหม่ที่นำโดย นายชิงชัย มงคลธรรมซึ่งเสนอให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติหลังการเลือกตั้งเพื่อความปรองดอง ขณะที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา(ชพน.) แสดงความมั่นใจว่าแผนสร้างความปรองดองครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ พร้อมกับยื่นข้อเสนอแนวทางสร้างความปรองดอง 7 ข้อคือ 1.ช่วงเลือกตั้งทุกพรรคต้องลงสมัครรับเลือกตั้งไม่มีการบอยคอตต์ไม่ลงเลือกตั้ง 2.ทุกพรรคต้องปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตเป็นธรรม 3.ทุกพรรคต้องช่วยกันคัดคนดีๆ มีความารู้ความสามารถมาทำงานให้ประชาชน รวมถึงเสนอนโยบายที่เหมาะสม 4.ทุกพรรคต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนด้วยการยอมรับผลการเลือกตั้ง 5.เมื่อจัดตั้งรัฐบาลอยากเห็นการทำงานร่วมกันตามบทบาทหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน 6.อยากให้ทุกพรรคลืมอดีตความขัดแย้งให้อภัยกันแล้วคิดถึงส่วนรวมด้วยการลดเงื่อนไขต่างๆ 7.หากในอนาคตเกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองใดๆ วิธีที่ดีที่สุดคือนำประเด็นความขัดแย้งมาอยู่ในเวทีสภาผู้แทนราษฎรโดยใช้
หลักการประชาธิปไตย

จากท่าทีของพรรคการเมืองส่วนใหญ่ดูเหมือนมุ่งแต่ต้องการให้มีการเลือกตั้งและแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือเลื่อนลอยมากกว่าที่จะพูดถึงการปฏิรูปละลายพฤติกรรมอันเลวร้ายของตัวเองซึ่งเป็นต้นตอสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาธิปไตยต้องสะดุดล้มลุกคลุกคลานจากการยึดอำนาจนั่นคือ พฤติกรรมของระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่น ซื้อ สส. ซื้อเสียง ซื้อประเทศ ซื้อประชาธิปไตยเพื่อให้ได้อำนาจรัฐเป็นรัฐบาลจากนั้นโกงชาติปล้นแผ่นดินถอนทุนบวกกำไรมหาศาลเพื่อใช้เป็นทุนยึดครองประเทศอย่างยาวนานจนทำให้มวลมหาประชาชนออกมาขับไล่รัฐบาลชั่วร้ายในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมกลายเป็นวิกฤติความรุนแรงจนถึงทางตันทำให้กองทัพต้องออกมายึดอำนาจกลายเป็นวังวนของวงจรอุบาทว์ไม่มีที่สิ้นสุด

จากแผนสร้างความปรองดองที่ผลักดันโดยคสช.ครั้งนี้ถือเป็นไฟท์บังคับที่เหล่าพรรคการเมืองและกลุ่มพลังการเมืองต่างๆ ยากจะปฏิเสธ เพราะทุกพรรคการเมืองต่างตกงานมานานเกือบ 3 ปี จึงมุ่งมั่นอยากให้เกิดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด อีกทั้งเหล่านักลากตั้งทั้งหลายจำเป็นต้องโหนขบวกรถไฟเพื่อความปรองดองเที่ยวนี้ เพราะหากปฏิเสธเท่ากับสูญเสียความชอบธรรมจากการถูกมองว่าเป็นตัวถ่วงขัดขวางการเดินหน้าสร้างความปรองดองและทำตัวสวนทางกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจนอาจส่งผลต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น

ทีมข่าวการเมือง

เกมวัดเชิงรัฐ-สำนักจานบิน อยู่ที่ใครจะอึดกว่ากัน?

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/257879

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.

ฝ่ายสำนักจานบินและฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐต่างเดินเกมชิงไหวชิงพริบช่วงชิงความชอบธรรมโดยขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อตรวจค้นสำนักจานบินตามจับตัวธัมมชโยมาดำเนินคดีตามหมายจับของศาลด้วยยุทธวิธีปิดล้อมและตัดกำลัง ฝ่ายสำนักจานบินก็พยายามดิ้นรนสู้สุดฤทธิ์ไม่ยอมให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่เจ้าตรวจค้นเพิ่มเติมในพื้นที่โซนเอและโซนบี ขณะเดียวกัน ก็วางหลุมพรางสร้างสถานการณ์เข้าปะทะยั่วยุให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังหวังพลิกสถานการณ์โจรที่ใกล้จนตรอกมาเป็นฝ่ายถูกกระทำรุนแรงจากฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ

สถานการณ์ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า สำนักจานบินเดินแผนสู้แบบจนตรอกด้วยการพยายามปลุกระดมด้วยข้อมูลที่บิดเบือนทางโซเชียลมีเดียเพื่อปลุกระดมให้เหล่าสาวกทั่วประเทศลุกฮือออกมาต่อต้านฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะเดียวกันทั้งพระและสาวกจานบินดาหน้าเข้าหาฝ่ายเจ้าหน้าที่ส่อเจตนาสร้างสถานการณ์ยั่วยุให้เกิดการปะทะจนมีคนบาดเจ็บล้มตายหวังใช้เป็นข้ออ้างประโคมข่าวไปทั่วโลกเพื่อสร้างความชอบธรรม ให้ตัวเอง ขณะเดียวกัน เพื่อสร้างกระแสโจมตีอำนาจรัฐไทยว่าใช้ความรุนแรงต่อพระ

การเดินเกมของสำนักจานบินมีการวางแผนอย่างเป็นระบบแทบจะถอดแบบมาจากการเคลื่อนไหวของขบวนการเพื่อแม้ว อาทิ ล่าสุดมีการใช้แผนโลกล้อมไทยโดยสำนักจานบินเดินเกมฟ้องต่อองค์การสหประชาชาติ องค์การสิทธิมนุษยชนสากล และองค์การระหว่างประเทศต่างๆ โดยจัดฉากให้เหล่าพระและสาวกถือป้ายเป็นภาษาอังกฤษที่จัดเตรียมมาโดยในป้ายมีข้อความเรียกร้องให้เลิกใช้มาตรา 44 ในการคุกคามสำนักสงฆ์ที่เคลื่อนไหวอย่างสงบสันติอันเป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน

พฤติการณ์ของสำนักจานบินเป็นการจัดฉากโฆษณาชวนเชื่ออย่างสิ้นเชิงเพราะภาพที่ปรากฏแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพระและสาวกจานบินหาเรื่องดาหน้าเข้าปะทะฝ่ายเจ้าหน้าที่หวังให้เกิดความรุนแรง ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามไม่ใช้ความรุนแรงและถอยร่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากฝ่ายเจ้าหน้าที่คิดใช้กำลังจริงป่านนี้ปัญหาคงจบตั้งแต่วันแรกที่เข้าตรวจค้นแล้วคงไม่ปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อมาจะถึงครึ่งเดือนแล้ว

การใช้พระและสาวกดาหน้าเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่มีการวางแผนไม่ธรรมดาเพราะชัดเจนว่ามีชายฉกรรจ์ซึ่งแนวหลังของพระและปิดหน้าปิดตาคอยตะโกนสั่งการพระให้ดาหน้าเข้าหาฝ่ายเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลาด้วยคำสั่งแบบทหารว่า “ปฏิบัติ” ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงหลายร้อยคนผสมโรงปะปนอยู่ในหมู่สาวกจานบินเพื่อสู้กับอำนาจรัฐ

พฤติการณ์ของพระสำนักจานบินที่ขัดสายตาชาวพุทธเป็นอย่างมากนอกจากพระล็อกคอเจ้าหน้าที่สาวดีเอไอเพื่อแย่งกล้อง พระถีบเจ้าหน้าที่ พระปืนกำแพง ล่าสุดเหล่าพระสำนักจานบินต่างพากันขนท่อปูนขนาดใหญ่มาตั้งเป็นบังเกอร์ขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในสำนักจานบิน

นอกจากนี้พระและสาวกจานบินยังใช้ความเถื่อนบุกยึดตลาดกลางคลองหลวงเพื่อใช้เป็นสถานที่ชุมนุมเอาดื้อๆ ทั้งๆ ที่เจ้าของตลาดไม่ยินยอมจนมีการแจ้งความดำเนินคดี

ข้อน่าสงสัยอย่างหนึ่งก็คือทำไมเหล่าพระและสาวกจานบินถึงพยายามต้านการเข้าตรวจค้นเพิ่มเติมพื้นที่โซนเอและโซนบีของฝ่ายเจ้าหน้าที่อย่างสุดฤทธิ์ ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็มุ่งมั่นที่จะเข้าตรวจค้นในจุดดังกล่าวหลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยตรวจค้นมาแล้วรอบหนึ่ง ถึงขนาด พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ประกาศเดิมพันกับสำนักจานบินว่า หากการเข้าตรวจซ้ำรอบสองไม่พบผู้ต้องหาตามหมายจับ เจ้าหน้าที่พร้อมถอนกำลังและเสนอให้ยกเลิกการประกาศใช้มาตรา 44 ตามข้อเรียกร้องของสำนักจานบินทันที

แต่พระและสาวกสำนักจานบินยืนกรานไม่ให้ตรวจค้นโดยเฉพาะก่อนหน้านี้ตัวแทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเจรจากับ พระทัตตชีโวผู้ทรงอิทธิพลตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังธัมมชโย ขอเข้าตรวจค้นพื้นที่โซนเอและโซนบีรอบสอง แต่ พระทัตตชีโวปฏิเสธแข็งกร้าวไม่ยอมให้ตรวจค้น

นั่นทำให้สงสัยว่าหรือมีความลับอะไรซ่อนอยู่ในพื้นที่โซนเอและโซนบีจนทำให้ฝ่ายสำนักจานบินยืนกรานไม่ยอมให้ตรวจค้นอย่างเด็ดขาด ตรงกันข้ามกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ซึ่งมั่นในการข่าวว่า ธัมมชโย และพวกหลบซ่อนตัวอยู่ในอาคารหลังใดหลังหนึ่งในพื้นที่โซนเอและโซนบี ทั้งนี้ เพราะจากการรายงานของสายข่าวที่ฝังตัวอยู่ในสำนักจานบิน รวมทั้งอุปกรณ์เทคโนโลยีด้านการข่าวในปัจจุบันสามารถตรวจจับจุดต้องสงสัยได้ไม่ยาก

อีกประเด็นหนึ่งที่มีคนตั้งคำถามว่าหาก ธัมมชโย ยื่นเงื่อนไขต่อรองหากยอมมอบตัวโดยต้องได้รับการประกันตัวทันทีฝ่ายเจ้าหน้าที่ควรจะยอมตามเงื่อนไขต่อรองหรือไม่ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยเสนอเงื่อนไขให้ประกันตัวทันทีหาก ธัมมชโย ยอมมอบตัวสู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม แต่ ธัมมชโยปฏิเสธมาตลอด ซ้ำยังทำตัวดุจรัฐอิสระต่อต้านอำนาจรัฐ อยู่เหนือกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น สถานการณ์จึงเปลี่ยนไปแล้วซึ่งแม้ ธัมมชโย จะยอมมอบตัวก็ไม่สมควรได้รับการประกันตัวเพราะไม่ได้สมัครใจมอบตัวตั้งแต่แรก และเป็นการยื่นเงื่อนไขในภาวะที่ตัวเองจนตรอก

ผ่านมาแล้วกว่าสัปดาห์หลังเจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัติการตรวจค้นอาณาจักรรัฐอิสระอันลี้ลับแห่งนี้เพื่อตามจับตัวธัมมชโย ซึ่งแม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จแต่ได้สั่นคลอนรากฐานภาพพจน์ความศรัทธาน่าเชื่อถือของสำนักจานบินอย่างไม่เคยมีมาก่อนจากการที่ความไม่ชอบมาพากลต่างๆ ที่ไม่เหมาะสมกับความเป็นวัดถูกตีแผ่ให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง สถานการณ์ขณะนี้ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐและสำนักจานบินอยู่ในขั้นตอนโดยต่างฝ่ายต่างเดินเกมชิงไหวชิงพริบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเองโดยปัจจัยชี้ขาดสำคัญคือศึกช่วงชิงความชอบธรรมและอยู่ที่ว่าใครจะอึดกว่ากันอย่างที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงกล่าวว่า หากต้องอยู่เป็นปีก็ต้องอยู่จนกว่าจะจับผู้ต้องหาหนีหมายจับให้ได้เพื่อรักษากฎหมาย

ทีมข่าวการเมือง

รัฐอิสระจานบินสุดเหิมเกริม ไม่ยอมรับแม้แต่ตัวแทนองค์กรสงฆ์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/257761

วันศุกร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.

ที่ผ่านมาฝ่ายเจ้าหน้าที่โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)พยายามใช้ความละมุนละม่อมในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อตรวจค้นหวังควบคุมตัวธัมมชโย อดีตเจ้าสำนักจานบินมาดำเนินคดีตามกฎหมายมาตลอด แต่พฤติการณ์ของธัมมชโยและสำนักจานบินกลับส่อไปในทางตั้งตัวเป็นรัฐอิสระขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของฝ่ายเจ้าหน้าที่อันเป็นการท้าทายอำนาจรัฐ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

การผ่อนปรนไม่อยากให้เกิดความรุนแรงสะท้อนเห็นชัดเจนว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นสำนักจานบินครั้งแรกตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งถูกขัดขวางจากเหล่าพระและสาวกสำนักจานบินจนต้องยอมถอย จนมีการตรวจค้นครั้งที่สองก็เจอการต่อต้านขัดขวางเหมือนเดิมจนต้องถอยมาตั้งหลักอีกครั้งทำให้ดีเอสไอและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องถูกประชาชนจำนวนไม่น้อยวิพากษ์วิจารณ์ว่าไร้น้ำยาหรือซูเอี๋ยกับรัฐอิสระจานบิน

แต่ผู้ที่ออกมาสะท้อนจุดยืนของรัฐได้อย่างจริงใจตรงไปตรงมาก็คือ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ที่กล่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ปัญหาสำนักจานบินนั้นอย่าคิดแต่จะเอาสะใจ ต้องใจเย็นๆอาจใช้เวลาบ้างไม่จำเป็นต้องรีบร้อน การที่จะให้เรื่องจบเร็วไม่ยากแต่ต้องคำนึงถึงความสูญเสียที่จะตามมาด้วย โดยเฉพาะล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่ใช่การทำสงครามกับอริราชศัตรู จึงไม่อยากให้เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อ ต้องพยายามเจรจาสร้างความเข้าใจกัน ขณะเดียวกันก็ต้องบังคับใช้กฎหมายด้วยเช่นกัน

ท่าทีจากผู้นำกองทัพสะท้อนชัดเจนว่า รัฐเองไม่ได้มีเจตนาจ้องอาฆาตมาดร้ายคิดถล่มธัมมชโย และสำนักจานบินให้ราบคาบ แต่การที่เจ้าหน้าที่ต้องตรวจค้นและตามควบคุมตัว ธัมมชโยเป็นการทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย มิฉะนั้นรัฐและเจ้าหน้าที่มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ธัมมชโย นั้นถูกศาลออกหมายจับในข้อหาฟอกเงินและรับของโจรคดีฉ้อโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นและรุกป่าสงวนแห่งชาติรวมทั้งที่สาธารณะสร้างเป็นสาขาสำนักจานบินในหลายจังหวัดทั่วประเทศ และเมื่อรวมกับคดีของสำนักจานบินรวมแล้วกว่า 300 คดี

ความจริงตั้งแต่ก่อนเข้าตรวจค้นสำนักจานบินครั้งแรกเมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้วซึ่งขณะนั้นมีเพียง ธัมมชโยที่ถูกออกหมายจับ โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่พยายามผ่อนปรนเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายด้วยดีโดยเสนอให้ ธัมมชโย ยอมมอบตัวเพื่อต่อสู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมซึ่งหากมอบตัวจะได้รับการประกันตัวทันที ซึ่งหาก ธัมมชโย เห็นแก่วงการพุทธศาสนาและความสงบของชาติบ้านเมือง และหากเป็นสงฆ์แท้ที่ละแล้วซึ่งสิ่งทั้งปวงย่อมจะต้องมอบตัวสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองอย่างสง่าผ่าเผยเยี่ยงสงฆ์ผู้หลุดพ้น ซึ่งสถานการณ์คงคลี่คลายไปแล้วตั้งแต่แรก แต่ ธัมมชโยกลับดื้อดึงตั้งแง่บ่ายเบี่ยงด้วยความเชื่อมั่นในอิทธิพลของตัวเองคิดต่อสู้กับรัฐจนสถานการณ์บานปลายตึงเครียดมาจนทุกวันนี้

พฤติการณ์ของสำนักจานบินและธัมมชโยตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาตั้งตนเป็นรัฐอิสระอันทรงอิทธิพลเหนือกฎหมายมาตลอด โดยเมื่อราว 20 ปีที่แล้ว ธัมมชโย เคยถูกดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์สินวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวราว 1,000 ล้านบาท รวมทั้งเผยแพร่ลัทธิที่ผิดเพี้ยนจากหลักพุทธศาสนา แต่ ธัมมชโย ก็อาศัยเหล่าพระและสาวกจานบินเป็นกำแพงมนุษย์ขัดขวางการถูกควบคุมตัว จนพระผู้ใหญ่ต้องเจรจาในที่สุด ธัมมชโย ได้รับการประกันตัวและภายหลังด้วยการช่วยเหลือของรัฐบาลเพื่อแม้วยุคเรืองอำนาจทำให้อัยการถอนฟ้อง ธัมมชโย เอาดื้อๆ ทั้งๆ ที่เดิมอัยการเป็นโจทก์ฟ้องธัมมชโย ทำให้ ธัมมชโย หลุดคดีไปอย่างพลิกล็อกลอยนวล

แต่ที่สำคัญ ธัมมชโย และสำนักจานบิน แสดงความเป็นรัฐอิสระโดยไม่ยอมสึกพ้นความเป็นพระทั้งๆที่ สมเด็จพระญาณสังวรฯ อดีตสมเด็จพระสังฆราช มีพระลิขิตให้ ธัมมชโย ปาราชิกพ้นความเป็นพระตั้งแต่เมื่อปี 2542 ฐานยักยอกเงินวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวและเผยแพร่ลัทธิอันผิดเพี้ยนจากหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนา

ในเหตุการณ์ปัจจุบันหลังจากที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอพร้อมด้วย พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ซึ่งทำหน้าที่ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันในฐานะประธานมหาเถรสมาคม(มส.) ที่ทรงห่วงใยต้องการให้องค์กรสงฆ์มีส่วนช่วยคลี่คลายปัญหาของสำนักจานบิน โดยเมื่อตัวแทนดีเอสไอ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีและตัวแทนพศ.เจรจากับ พระทัตตชีโว รองเจ้าสำนักจานบิน ที่ปัจจุบันคุมอำนาจสูงสุดเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในสำนักจานบินเพิ่มเติม ปรากฏว่าการเจรจาล้มเหลวสิ้นเชิงเพราะ พระทัตตชีโว แสดงท่าทีแข็งกร้าวไม่ยอมให้มีการตรวจค้น ขณะที่เหล่าพระและสาวกจานบินทั้งภายในและนอกสำนักจานบินต่างปักหลักพยายามขัดขวางเจ้าหน้าที่ทุกรูปแบบจนหลายครั้งเกิดการปะทะระหว่างสาวกสำนักจานบินกับฝ่ายเจ้าหน้าที่

การที่ พระทัตตชีโว ไม่ยอมรับแม้กระทั่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีอันเป็นตัวแทนตามพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชในฐานะประธานมส.เท่ากับส่อเจตนาตั้งตัวเป็นรัฐอิสระเหนือกฎหมายและไม่ยอมรับแม้แต่องค์กรสูงสุดของสงฆ์ และที่น่าวิตกก็คือแผนของสำนักจานบินที่ต้องการยั่วยุให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายแล้วใช้เป็นข้ออ้างฟ้ององค์กรระหว่างประเทศเพื่อโยนความผิดทำลายความชอบธรรมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งนับว่าอันตรายมากทั้งต่อความมั่นคงของชาติ หลักนิติรัฐ และวงการพุทธศาสนา

ทีมข่าวการเมือง

สำนักจานบินถอดแบบระบอบแม้ว งัดสารพัดวิชามารป้องธัมมชโย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/257603

วันพฤหัสบดี ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ยิ่งใกล้จะถึงตอนจบและยิ่งฝ่ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเจ้าภาพเดินเกมแบบรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมหลุมพรางสำนักจานบิน ด้วยการรุกคืบค่อยๆ นวดกดดันทั้งปิดล้อมและเข้าตรวจค้นอาณาจักรรัฐอิสระทุกซอกทุกมุมและทุกวันเพื่อล่าตัวธัมมชโยและตีแผ่เบื้องหลังอัปลักษณ์อาณาจักรอลัชชีในคราบผ้าเหลืองแห่งนี้ ขณะเดียวกันใช้วิธีการเจรจาอย่างนุ่มนวลหลีกเลี่ยงการปะทะ ทำให้เหล่าโล้นในคราบผ้าเหลืองพากินดิ้นพล่านในสภาพใกล้ล่มสลายเข้าไปทุกขณะ จากการถูกตัดเสบียงและกำลังหนุนจากสาวกภายนอก ส่วนคลังอาหารยักษ์และโรงครัวมูลค่าหลายร้อยล้าน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ปิดตายห้ามเข้าเด็ดขาดทำให้เหล่าอลัชชีในคราบผ้าเหลืองและสาวกขณะนี้เลือดเข้าตางัดสารพัดวิชามารบิดเบือนโจมตีฝ่ายเจ้าหน้าที่ รวมทั้งรัฐมนตรีตลอดจนรัฐบาล

สารพัดวิชามารมีการจัดตั้งอย่างเป็นขบวนการโดยเผยแพร่คลิปและข้อความลวงโลกทางโซเชียลมีเดียบิดเบือนโจมตีฝ่ายเจ้าหน้าที่ต่างๆนานาหาว่าใช้สนับมือชกพระบ้าง ทำร้ายจนสาวกจานบินซึ่งเป็นผู้หญิงถึงขั้นซี่โครงหักบ้าง ซึ่งภายหลังตรวจสอบศูนย์นเรนทรและศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินพบว่าเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ตรงกันข้ามเหล่าโล้นในคราบผ้าเหลืองและสาวกบางคนกลับเป็นฝ่ายแสดงพฤติกรรมถ่อยทำร้ายเจ้าหน้าที่ อาทิ พระล็อกคอเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสาวเพื่อไม่ให้บันทึกภาพภายในสำนักจานบินเป็นหลักฐาน พระปืนกำแพงออกนอกวัด หรือการทุบกำแพงเพื่อให้สาวกนอกวัดเข้ามาเสริมกำลังภายในวัด

วิชามารยังรวมถึงการตั้งเวทีปราศรัยปลุกระดมภายในสำนักจานบินสร้างเรื่องโกหกลวงโลกกล่าวหาแบบน้ำขุ่นๆอ้างว่า การที่อำนาจรัฐบุกค้นสำนักจานบินก็เพื่อยึดรูปเหมือนหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ 9 องค์ ซึ่งแต่ละองค์สร้างด้วยทองคำหนัก 1 ตัน เพราะรัฐบาลกำลังถังแตก

วิชามารโกหกลวงโลกเรื่องรูปเหมือนหลวงพ่อสดทองคำ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทนไม่ได้เหน็บผ่านสื่ออย่างเจ็บแสบว่า รูปเหมือนทองคำหลวงพ่อสดที่มีการกล่าวหาน่าจะมีการตรวจสอบดูว่าเป็นทองคำจริงหรือปลอม เพราะขนาดเงินประชาชนของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ยังโกง

ข้อสงสัยของ นายกฯบิ๊กตู่ น่าคิดอยู่เหมือนกัน ซึ่งรูปเหมือนทองคำที่แต่ละองค์หนัก 1 ตัน หากตีเป็นราคาปัจจุบันจะมีมูลค่าสูงถึงองค์ละกว่า 10,000 ล้านบาทหากรวม 9 องค์ คิดดูก็แล้วกันมูลค่ากว่า 100,000ล้านบาท ทีเดียว

ที่ผ่านมพฤติการณ์ของสำนักจานบินมีเรื่องอื้อฉาวพัวพันเกี่ยวกับเรื่องยักยอกฉ้อโกงมาตลอด และถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นแหล่งฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

แต่วิชามารที่สุดสกปรกซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าทำอย่างเจตนาโดยพระสำนักจานบินระดับแกนนำก็คือกรณีที่เฟซบุ๊คของ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร สำนักจานบิน ได้เผยแพร่เบอร์โทรศัพท์ของ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม และภรรยาเพื่อให้คนโทร.ไปด่ากรณีที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอทำเกินกว่าเหตุ

พฤติการณ์ของ พระสนิทวงศ์ ถือเป็นการทำผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรงจนอาจเกิดอันตรายได้หากมีคนคิดป้องร้าย อีกทั้งผิดวิสัยของสงฆ์แท้พึงกระทำ

พระสนิทวงศ์ ยังอ้างว่า พระหรือสาวกจานบินที่มีคลิปเผยแพร่ขณะทำร้ายเจ้าหน้าที่เป็นพระหรือสาวกจานบินเทียม และก่อนหน้านี้ พระสนิทวงศ์ เคยใส่ร้ายกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ยัดเยียดอาวุธที่ตรวจพบในรถตู้ที่ขนสาวกสำนักจานบินคันหนึ่ง

วิธีการของสำนักจานบินเหมือนถอดแบบมาจากขบวนการเพื่อแม้วที่พอถูกจับได้ในเรื่องกองกำลังชุดดำหรือคนเสื้อแดงที่ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองก็รีบตัดตอนอ้างว่าเป็นพวกแดงเทียม หรือเป็นการกลั่นแกล้งยัดเยียดข้อหาของฝ่ายเจ้าหน้าที่หรือการใช้วิชามารเผยแพร่ เบอร์โทรศัพท์หรือที่อยู่ของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งในอดีตแกนนำเสื้อแดงก็เคยใช้วิธีสกปรกนี้เพื่อข่มขู่อาฆาตมาดร้ายคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาแล้ว

นอกจากนี้วิธีการที่เหมือนถอดแบบกันมาระหว่างสำนักจานบินกับขบวนการเพื่อแม้ว ก็คือ การอ้างประชาธิปไตยบังหน้า โดยก่อนหน้านี้ในการเข้าตรวจค้นสำนักจานบินครั้งแรก เมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว สาวกสำนักจานบินซึ่งตั้งกำแพงมนุษย์ขัดขวางเจ้าหน้าที่ประกาศอ้างว่า ธัมมชโย จะยอมมอบตัวสู้คดีก็ต่อเมื่อได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อแม้วก็ใช้ข้ออ้างเดียวกันในการปฏิเสธอำนาจของคสช. โดยออกแถลงการณ์ย้ำว่าจะยอมรับรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น

สำนักจานบินกับขบวนการเพื่อแม้วถูกตั้งข้อสังเกตว่าจับมือเป็นพันธมิตรกันมาช้านานโดยฝ่ายหนึ่งมุ่งครองอำนาจฝ่ายศาสนจักร ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งยึดครองอาณาจักร แต่มีเป้าหมายร่วมกันคือมุ่งยึดอำนาจระบอบการปกครองประเทศให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แล้วแบ่งปันอำนาจและผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน

ล่าสุดมีรายงานข่าวว่ากลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นของจ.ปทุมธานีและกลุ่มคนเสื้อแดงได้ขนคนราว 500 คน ไปร่วมชุมนุมที่หน้าสำนักจานบินเพื่อหาทางขัดขวางการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่

ขณะที่ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำขบวนการเพื่อแม้ว โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คโจมตีฝ่ายรัฐที่ใช้อำนาจปิดล้อมและตรวจค้นสำนักจานบิน พร้อมกับกล่าวเชิงขู่อาฆาตว่า หากตัวเองกลับมาเป็นใหญ่มีอำนาจเมื่อไหร่ก็จะจัดการดีเอสไอแน่นอน

พฤติการณ์ของสำนักจานบินและขบวนการเพื่อแม้วจึงแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันโดยสองพันธมิตรต่างอยู่ในสภาพหลังพิงฝาจึงต้องจับมือกันใช้สารพัดวิชามารสู้ขั้นแตกหักกับอำนาจรัฐอย่างที่เคยใช้ได้ผลมาแล้ว

ทีมข่าวการเมือง

สำนักจานบินภัยความมั่นคง? ปัญหาใหญ่กว่าตามจับธัมมชโย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/257446

วันพุธ ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.

สำนักจานบินนั้นก่อตั้งมานานถึง 47 ปี จึงสั่งสมอิทธิพล เครือข่ายและทุนจำนวนมากมายมหาศาลจากธุรกิจขายบุญ ซึ่ง
อิทธิพลของสำนักจานบินฝังรากลึกในสังคมไทยโดยมีคนของสำนักจานบินแทรกซึมอยู่ในแทบทุกองคาพยพของประเทศ แม้แต่ในองค์กรสูงสุดของสงฆ์ คือ มหาเถรสมาคม(มส.) และพระผู้ใหญ่ในแทบทุกระดับ ทำให้สำนักจานบินเป็นรัฐอิสระที่เหิมเกริมขณะที่ธัมมชโย อดีตเจ้าลัทธิ ลอยนวลอยู่เหนือกฎหมายมาจนทุกวันนี้ ทั้งๆ ที่มีพระลิขิตของอดีตสมเด็จพระสังฆราช ตั้งแต่เมื่อปี 2542 ชี้ว่าธัมมชโยปาราชิกพ้นความเป็นพระจากการทำผิดพระธรรมวินัยร้ายแรงฐานยักยอกเงินวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวและเผยแพร่ลัทธิที่วิปริตผิดเพี้ยนจากพระธรรมคำสอนของพุทธศาสนา

แต่นับเป็นนิมิตหมายที่ดีเมื่อมาถึงยุคพระศาสนาสว่างใสสะอาดเมื่อมีการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ซึ่งล่าสุดสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาปริณายก (อมฺพโร) เสด็จเป็นองค์ประธาน มส.โดยแสดงความห่วงใยสถานการณ์กรณีสำนักจานบินโดยพระพรหมมุนี เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช มีบัญชาให้เจ้าคณะปกครองที่เกี่ยวข้องกับสำนักจานบินทั้งหมดหารือเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมี สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานการประชุม

ปัญหาของสำนักจานบินที่กำลังตึงเครียดอยู่ในขณะนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่าได้ก้าวข้ามการติดตามจับตัว ธัมมชโยไปแล้ว แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าก็คือภยมืดอันน่ากลัวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอาณาจักรรัฐอิสระจานบินอันทรงอิทธิพลและมีทรัพย์สินมหาศาลที่อยู่เหนือกฎหมายแห่งนี้ ซึ่งหากรัฐภายใต้ยุคอำนาจพิเศษไม่หยุดยั้งรัฐอิสระมหาภัยแห่งนี้ตั้งแต่ปัจจุบันจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติในอนาคต จากการที่เป็นอาณาจักรที่คาดว่ามีทรัพย์สินทั้งในและนอกประเทศรวมกันมากกว่างบประมาณแผ่นดินถึงกว่า 2 เท่า และมีเครือข่ายสาวกในทุกวงการที่คลั่งไคล้งมงายทั่วประเทศ

บทเรียนจากอดีตเคยเกิดเหตุการณ์ลัทธิอุบาทว์ ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติมาแล้วหลายครั้ง อาทิ กรณีกบฏผีบุญ ซึ่งเจ้าลัทธิอาศัยความเชื่อทางศาสนาและเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์มอมเมาจนมีประชาชนจำนวนมากเลื่อมใสศรัทธาอย่างแรงกล้ายอมตัวเป็นสาวกที่คลั่งไคล้ถึงขนาดยอมตายแทน ซึ่งเจ้าลัทธิผีบุญใช้ความงมงายของสาวกเป็นเครื่องมือทางการเมืองคิดกบฏต่อรัฐ แต่ในที่สุดก็ถูกปราบปรามจนราบคาบ หรือตัวอย่างอลัชชีในคราบผ้าเหลืองหลายต่อหลายคนในอดีตที่ประชาชนหลงเชื่องมงายกันจำนวนมาก อาทิ สมียันตระ ซึ่งสร้างภาพตัวเองดุจพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด สมีภาวนาพุทโธ สมีนิกร สมีเณรคำ ซึ่งภายหลังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นแค่พวก 18 มงกุฎลวงโลก ส่วนตัวอย่างในต่างประเทศ ลัทธิคลั่งเคยก่อโศกนาฏกรรมช็อกโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน อาทิ ลัทธิดินแดนสวรรค์ ที่มี นายจิม โจนส์ ชาวอเมริกันเป็นเจ้าลัทธิโดยมีสาวกที่คลั่งไคล้ลัทธิของนายจิม โจนส์ ที่ใช้จิตวิทยาการพูดโน้มน้าวจิตใจแม้แต่นักการเมืองระดับสูงของสหรัฐ จำนวนไม่น้อย กลายเป็นสาวกและบริจาคเงินจำนวนมากให้ลัทธิแดนสวรรค์ แต่ภายหลังพฤติกรรมที่ซ่อนเบื้องหลังอันชั่วร้ายของเขาถูกเปิดโปงจนต้องหนีไปอยู่ที่ประเทศในแอฟริกา ซึ่งที่นั่น เจ้าลัทธิแดนสวรรค์ก่อโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ด้วยการหลอกให้สาวกดื่มยาพิษตายหมู่นับพันคน หรือที่ญี่ปุ่นเคยเกิดลัทธิโอมชินริเคียวที่มีชาวญี่ปุ่นงมงายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก แต่ในที่สุดลัทธิดังกล่าว ก็เผยตัวตนอันชั่วร้ายด้วยการก่อการร้ายปล่อยแก๊สพิษซารีน ในอุโมงค์รถไฟใต้ดิน กลางกรุงโตเกียวทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

ที่สำคัญสำนักจานบินถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นกับขบวนการระบอบแม้ว โดยทั้งสองฝ่ายต้องสนับสนุนซึ่งกันและกันในการแผ่ขยายอำนาจอิทธิพลโดยมีเป้าหมายสูงสุด นั่นคือ ยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยสำนักจานบินคุมอำนาจฝ่ายศาสนจักร ขณะที่ขบวนการระบอบแม้วคุมอำนาจฝ่ายอาณาจักร ซึ่งหากแผนการสำเร็จสมบูรณ์ นั่นหมายถึงการปูทางไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศได้อย่างง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ

ที่ผ่านมาสำนักจานบินและขบวนการระบอบแม้วร่วมมือกันแผ่ขยายอิทธิพลอำนาจผลประโยชน์และเหิมเกริมถึงขนาดขัดพระลิขิตของอดีตสมเด็จพระสังฆราชที่มีพระบัญชาให้ ธัมมชโย ปาราชิกพ้นความเป็นพระ และส่อพฤติการณ์วางแผนที่จะยึดครองศาสนาจักรในระยะยาวด้วยการวางร่างทรงของสำนักจานบินขึ้นเป็นประมุขสงฆ์อย่างต่อเนื่อง

ส่วนทางการเมืองในช่วงที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงในบ้านเมืองช่วงปี 2552-2553 โดยขบวนการเพื่อแม้วจัดตั้งม็อบเสื้อแดงสร้างสถานการณ์ก่อจลาจลทั่วกทม.และบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจา ที่พัทยา ในปี 2552 และต่อมาในปี 2553 ม็อบเสื้อแดงสร้างสถานการณ์นำไปสู่การก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งความเคลื่อนไหวของม็อบเสื้อแดงครั้งนั้นถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีการใช้สำนักจานบินเป็นแหล่งรวมพลคนเสื้อแดงจากต่างจังหวัด

อีกความน่ากลัวซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการตรวจสอบสังคายนาอย่างจริงจังทั้งระบบก็คือที่มาขุมทรัพย์ของสำนักจานบิน รวมทั้งพฤติการณ์ทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะการถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นแหล่งฟอกเงินที่ผิดกฎหมายใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งการที่สำนักจานบินและธัมมชโย ถูกดำเนินคดีแล้วกว่า 300 คดี โดยเฉพาะ ธัมมชโย ที่ถูกออกหมายจับคดีฟอกเงินและรับของโจรฐานพัวพันคดีโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น คือตัวบ่งชี้ส่วนหนึ่งถึงเบื้องหลังความไม่ชอบมาพากลของอาณาจักรแห่งนี้ที่นับวันจะเหิมเกริมทำตัวเป็นรัฐอิสระอยู่เหนือกฎหมายมากขี้นเรื่อยๆ

ดังนั้นในยุคปฏิรูปประเทศภายใต้อำนาจพิเศษเช่นในปัจจุบันจึงน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะจัดการกับอาณาจักรรัฐอิสระจานบินที่นับวันจะส่อพฤติการณ์เหิมเกริมท้าทายอำนาจรัฐ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย และซ่อนเบื้องหลังอันเลวร้ายอย่างจริงจัง มิฉะนั้นอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติในอนาคต

ทีมข่าวการเมือง

แผนอุบาทว์สำนักจานบิน สร้างสถานการณ์ให้บาดเจ็บล้มตาย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/257298

วันอังคาร ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.

สาธารณชนกำลังจับตาดูว่าปฏิบัติการบุกค้นล่าตัวธัมมชโย อดีตเจ้าลัทธิจานบินครั้งนี้จะคุ้มค่าหรือเสียของจากการทุ่มเทกำลังตำรวจและทหารนับพันคนซึ่งต้องใช้งบประมาณไม่น้อยเพื่อสลายอาณาจักรรัฐอิสระที่คาดว่าซ่อนไว้ด้วยสิ่งเลวร้ายมากมาย ซึ่งจากผลปฏิบัติการไล่ล่ามาเกือบสัปดาห์ก็ยังไร้เงาของธัมมชโยและแก๊งพระคนสนิท 14 รูปที่ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรียกให้มารายงานตัว

ยิ่งนับวันก็ยิ่งทำให้เห็นธาตุแท้พฤติกรรมถ่อยของพระและสาวกสำนักจานบินที่ขณะนี้ไม่น่าจะเหลือสภาพความเป็นวัดอีกต่อไปแล้ว ขณะเดียวกันสะท้อนให้เห็นถึงแผนอุบาทว์ตัวบงการต้องการจะสร้างสถานการณ์ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงบาดเจ็บล้มตายเพื่อกระพือข่าวไปทั่วโลกและร้องเรียนต่อองค์กรระหว่างประเทศว่าอำนาจรัฐจากการรัฐประหารใช้ความรุนแรงกับพระ

การที่พระและสาวกสำนักจานบินใช้ผ้าปิดปากอนามัยคลุมหน้าแสดงถึงการไม่กล้าเปิดเผยตัวตนและเจตนาปิดบังซ่อนเร้น ซึ่งหากฝ่ายเจ้าหน้าที่คุมตัวบรรดาพระและสาวกที่ยกพวกเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่มาดำเนินคดีและสอบเรียงตัวเชื่อได้เลยว่าต้องเจอพระปลอม และเหล่าสาวกประเภทมือปืนรับจ้างมาจากจังหวัดต่างๆ หรือพวกต่างด้าว รวมทั้งพวกกองกำลังฮาร์ดคอร์เสื้อแดงปะปนอยู่

แผนการอุบาทว์ของสำนักจานบินนับวันจะถูกเปิดโปงซึ่งล่าสุดก็คือกรณีที่ พระธรรมศักดิ์จารุธัมโม ซึ่งบวชอยู่สำนักจานบินมานานถึง 30 ปีออกมาแฉอย่างหมดเปลือกว่า ธัมมชโย และคนสนิทเผ่นหนีเอาตัวรอดไปตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันแรกที่กำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นในสำนักจานบิน

พระธรรมศักดิ์ ยังกล่าวถึงสาเหตุที่ออกมาเปิดโปงความลับของสำนักจานบินครั้งนี้เนื่องจากไม่พอใจการประชุมคณะผู้บริหารสำนักจานบินเมื่อวันที่18 ก.พ.ที่ผ่านมา เพราะทั้งๆ ที่รู้ว่า ธัมมชโยไม่อยู่ภายในสำนักจานบินแล้ว แต่ก็ยังต้องการให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นเพื่อที่จะได้สร้างสถานการณ์ให้เกิดการปะทะจนบาดเจ็บล้มตายแล้วโยนความผิดให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่รับผิดชอบความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการที่ออกมาแถลงเปิดโปงความลับของสำนักจานบินครั้งนี้คงทำให้ไม่สามารถอยู่สำนักจานบินได้อีกต่อไปคงต้องไปหาวัดใหม่อยู่

ทั้งนี้ พระธรรมศักดิ์ ย้ำว่ามีหลักฐานยืนยันสิ่งที่พูดก็คือคลิปเสียงการประชุมคณะผู้บริหารสำนักจานบิน ซึ่งล่าสุดพนักงานสอบสวนสภ.อ.คลองหลวงได้นิมนต์ พระธรรมศักดิ์ ไปให้การเพื่อเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

พฤติการณ์ของพระและสาวกสำนักจานบินตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาสอดคล้องกันแผนอุบาทว์ที่หวังยั่วยุฝ่ายเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดการปะทะและลุกลามบานปลายจนมีผู้บาดเจ็บล้มตายอย่างที่พระธรรมศักดิ์ ระบุ แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รู้ทันเพราะได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือมาตั้งแต่แรกว่า ห้ามใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้ตกหลุมพรางของฝ่ายตรงข้าม

การตรวจพบอาวุธทั้งปืนและมีดในรถตู้สาวกสำนักจานบิน การที่กลุ่มพระและสาวกพยายามดาหน้าเข้ายึดพื้นที่ภายในสำนักจานบินคืนจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ หรือการเฮโลพยายามฝ่ารั้วแนวกั้นแล้วยึดจุดคัดกรองพวกแปลกปลอมหรือมือที่ 3 ของฝ่ายเจ้าหน้าที่จนเกิดการปะทะกันที่บริเวณประตู 6 ของสำนักจานบิน หรือการที่พระใช้กำลังเข้าล็อกคอฉุดกระชากกล้องของเจ้าหน้าที่หญิงของดีเอสไอ หรือการทำลายกำแพงวัดเพื่อให้เหล่าสาวกสำนักจานบินเข้ามาภายในสำนักจานบินทั้งๆ ที่เป็นเขตควบคุมพิเศษตามมาตรา 44 สะท้อน รวมทั้งการเผยแพร่คลิปและข้อมูลบิดเบือนทางโซเชียลมีเดียปลุกระดมให้สาวกหลั่งไหลมายังสำนักจานบินเพื่อสู้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่แสดงให้เห็นถึงการตั้งตัวเป็นรัฐอิสระเหนือกฎหมายและพยายามยั่วยุสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง

การที่กลุ่มพระและสาวกบุกเข้าปะทะและพยายามยึดจุดคัดกรองของฝ่ายเจ้าหน้าที่บริเวณประตู 6 ยังสะท้อนให้เห็นพิรุธไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบม็อบพระและสาวกจานบิน เพราะหากมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเชื่อได้เลยว่า ในบรรดาพระและสาวกคาดว่าจะต้องมีโล้นห่มผ้าเหลืองที่เป็นพระปลอม พวกต่างด้าว หรือพวกรับจ้างที่ขนมาจากจังหวัดต่างๆเพื่อสู้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ หรืออาจรวมทั้งพวกกองกำลังฮาร์ดคอร์เสื้อแดง

เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายจากการปลุกระดม ฝ่ายเจ้าหน้าที่ต้องรีบจับกุมคณะผู้บริหารสำนักจานบิน โดยเฉพาะ ผู้นำหมายเลข 2 ซึ่งมีข่าวว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่บงการและวางแผนให้กับ ธัมมชโย มาตลอด และน่าจะอยู่เบื้องหลังแผนการอุบาทว์หวังสร้างสถานการณ์ให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายตามที่ พระธรรมศักดิ์ ระบุให้ได้โดยเร็ว ขณะเดียวกัน ต้องใช้มาตรการตัดน้ำตัดไฟภายในสำนักจานบินทั้งหมด รวมทั้งปิดตายคลังอาหารขนาดใหญ่ในสำนักจานบิน รวมทั้งห้ามมีการส่งเสบียงจากภายนอกเข้าสู่สำนักจานบินอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเกมช่วงชิงความชอบธรรมซึ่งฝ่ายสำนักจานบินพยายามยั่วยุสร้างสถานการณ์ให้เกิดการปะทะ ซึ่งฝ่ายเจ้าหน้าที่ต้องพยายามอดกลั้นให้ถึงที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายโดยไม่ใช้อาวุธและความรุนแรง และหากจำเป็นต้องใช้กำลังเข้าสลายม็อบพระและสาวกที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่หรือทำผิดกฎหมายขอให้ยึดตามขั้นตอนหลักการสลายฝูงชนจากเบาไปหาหนักตามหลักสากลซึ่งมี7 ขั้นตอนเพื่อไม่ให้ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการปลุกระดมสร้างข่าวว่ารัฐใช้กำลังรังแกพระ

ทีมข่าวการเมือง

สำนักจานบินถูกตีแผ่หมดสภาพวัด กลายเป็นอาณาจักรซ่อนความดำมืด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/257160

วันจันทร์ ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.

หลายวันแล้วที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ภายใต้มาตรา 44 ประกาศพื้นที่รอบสำนักจานบินเป็นเขตควบคุมพิเศษยังคว้าน้ำเหลวในการเดินหน้าตรวจค้นไล่ล่าธัมมชโย อดีตเจ้าลัทธิจานบินท่ามกลางข่าวสองกระแสคือกระแสหนึ่งชี้ว่าเจ้าลัทธิผู้ทรงอิทธิพลเผ่นหนีออกนอกประเทศไปตั้งนานแล้ว ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รวมทั้ง นพ.ดร.มโน เลาหวณิช อดีตศิษย์จานบิน และ ซึ่งเคยเป็นคนสนิทของธัมมชโยยังมั่นใจว่า ธัมมชโย ยังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในอาณาจักรจานบินพื้นที่กว่า 2,000 ไร่นั่นเอง

นพ.ดร.มโน ซึ่งชำนาญพื้นที่สำนักจานบินทุกตารางนิ้วเพราะเคยบวชเป็นพระในสำนักจานบินอยู่นานหลายปีจนภายหลังหันหลังให้สำนักจานบินเพราะรู้เช่นเห็นชาติธาตุแท้ของ ธัมมชโย อาสาเสนอตัวขอทำหน้าที่เป็นผู้นำทางเจ้าหน้าที่ในการชี้เป้าบุกจับ ธัมมชโยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำท่าจะคว้าน้ำเหลว

นพ.ดร.มโน ซึ่งอ้างว่ามีสายข่าวเป็นคนในสำนักจานบินคอยรายงานความเคลื่อนไหวของ ธัมมชโย ให้ทราบอยู่ตลอดเวลาชี้ว่า การที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับตัว ธัมมชโย ได้เพราะอาณาจักรสำนักจานบินมีอาณาบริเวณถึงกว่า 2,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่เฟสเอเฟสบี และเฟสซีและมีอาคารแหล่งหลบซ่อนตัวมากมาย อีกทั้งเล่ห์เหลี่ยมของ ธัมมชโย ใช้แผนเอาเถิดเอาล่อโดยในวันแรกเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นพื้นที่เฟสเอของสำนักจานบิน ธัมมชโย กับคนใกล้ชิดที่ประกอบด้วย 5 เสือสำนักจานบินนำโดย พระทัตตชีโวนั่งรถบีเอ็มดับบลิวซีรี่ส์ 7 ติดฟิล์มกรองแสงหนาทึบไปยังอาคาร 100 ปีในพื้นที่เฟสบีแล้วขึ้นลิฟต์ไปหลบอยู่ในชั้น 6 ซึ่งพอวันต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นพื้นที่เฟสบี ธัมมชโย และพวกก็หลบวกกลับมายังพื้นที่เฟสเออีกครั้ง ซึ่งหากไม่ใช้ผู้ที่ชำนาญพื้นที่ชี้เป้ายากที่จะจับกุมตัวได้

ในเมื่อ ดร.นพ.มโน อาสาเป็นผู้นำทางชี้เป้าฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็น่าจะลองดูเพราะมีแต่ได้ไม่มีเสีย

แม้จะยังไม่ได้ตัว ธัมมชโย ซึ่งจนบัดนี้ไม่รู้ว่ายังอยู่ในอาณาจักรจานบินจริงหรือไม่ แต่การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ถือว่าเป็นการตีแผ่เปิดโปงอาณาจักรสำนักจานบินซึ่งตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมาเป็นรัฐอิสระอันทรงอิทธิพลที่กฎหมายไม่กล้าเข้าไปแตะและเป็นแดนสนธยาที่ซ่อนความลับอันไม่ชอบมาพากลไว้มากมาย

จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ที่น่าสนใจคือพบถังน้ำมันขนาดใหญ่จำนวนมากปริมาณรวมกันถึง 1.4 แสนลิตร ซึ่งน้ำมันปริมาณมากมายมหาศาลขนาดนี้ผิดกฎหมายแน่นอนเพราะน้ำมันถือเป็นหนึ่งในยุทธปัจจัยสำคัญที่มีการควบคุมห้ามมีไว้ในครอบครองเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งน้ำมันปริมาณมหาศาลเหล่านี้มีข้อน่าสงสัยว่ามีไว้เพื่ออะไร

นอกจากนี้การตรวจค้นเบื้องต้นซึ่งยังไม่เสร็จสิ้นพบพระชาวพม่า 3 รูปทำให้เกิดคำถามว่าสำนักจานบินมีพระต่างด้าวปะปนอยู่มากน้อยแค่ไหนและเพื่อวัตถุประสงค์อะไร และมีการตั้งข้อสงสัยว่า ที่ผ่านมาในการระดมพระและสาวกจานบินมาเป็นกำแพงต่อต้านการบุกจับ ธัมมชโย ของฝ่ายเจ้าหน้าที่อาจมีพระต่างด้าว รวมทั้งพระปลอมปะปนอยู่ด้วย

การตรวจค้นในอาคารหลังหนึ่งยังพบห้องฟิตเนสขนาดใหญ่สุดหรูหราที่มีอุปกรณ์เล่นกล้ามและออกกำลังกาย ร้านกาแฟหรู สระว่ายน้ำ ห้องที่มีลักษณเหมือนสปาซึ่งมีเครื่องประทินโฉมราคาแพงไว้บริการทำให้เกิดคำถามว่า สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่สมควรหรือจำเป็นสำหรับความเป็นวัดที่สมควรมุ่งในเรื่องความสมถะเรียบง่ายเพื่อการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงหรือไม่

การตรวจค้นที่อาคารดาวดึงส์ยังพบเครื่องมือทางการแพทย์สุดไฮเทคซึ่งมีใช้โรงพยาบาลเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่เรียกว่า“Hyperbaric Chamber” ซึ่งเป็นเครื่องมือรักษาอาการป่วยบางประเภทหรือใช้ในการเสริมความงามในการช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในเนื้อเยื่อทำให้ผิวพรรณสดใสดูเปล่งปลั่งอ่อนกว่าวัยซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวมูลค่าหลายล้านบาท โดยข่าวระบุว่าโรงพยาบาลยันฮีซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องศัลยกรรมตกแต่งและเสริมความงามขายให้กับสำนักจานบิน

การตรวจค้นยังพบอุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ซึ่งสามารถเป็นแหล่งหลบซ่อนและซ่องสุมกองกำลังได้อย่างสบาย รวมทั้งมีการติดตั้งอุปกรณ์พ่นน้ำพุ รวมทั้งห้องปฏิบัติการระบบแสงสีเสียงที่ทำให้การทำพิธีกรรมของสำนักจานบินเพิ่มมนต์ขลังและดูยิ่งใหญ่ตระการน่าเชื่อถือ

นอกจากนี้จากพฤติการณ์ของ ธัมมชโย และเหล่าพระสาวกที่เคยอ้างว่า ธัมมชโย ป่วยหนักจนไม่สามารถเข้ามอบตัวสู้คดีกับเจ้าหน้าที่ได้ถึงขั้นหากเคลื่อนย้ายอาจอันตรายถึงชีวิต แต่กลับสามารถหลบหนีไม่กล้าต่อสู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมอย่างสง่างามดังเช่นสงฆ์ที่บรรลุแล้วซึ่งสิ่งทั้งปวงพึงปฏิบัติ

ที่ผ่านมาพระและสาวกสำนักจานบินส่อพฤติการณ์กลับกลอกปลิ้นปล้อนโกหกบิดเบือนจากดำเป็นขาวจากขาวเป็นดำตลอดเวลา ซึ่งตามหลักพุทธพจน์นั้นคนที่โกหกไม่ทำชั่วเป็นไม่มี โดยก่อนหน้าสาวกสำนักจานบินประกาศยืนยันหนักแน่นว่า ธัมมชโย จะไม่หนีไปไหนแต่จะขออยู่ตายคาวัด แต่บัดนี้กลับทำตัวอยู่เหนือกฎหมายหนีอย่างไร้ร่องรอยไม่กล้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง

ที่สำคัญอาณาจักรจานบินถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นแหล่งฟอกเงินและรับของโจร และซ่อนขุมทรัพย์มหาศาลที่ส่อไปในทางไม่ชอบมาพากล รวมทั้งกระทำผิดกฎหมายมากมาย ซึ่งจากการถูกตีแผ่ทำให้อาณาจักรสำนักจานบิน ณ วันนี้หมดสภาพความเป็นวัด
แต่กลายเป็นอาณาจักรที่ซ่องสุมและซ่อนไว้ด้วยความลับดำมืดอีกมากมายที่รอการถูกขุดคุ้ยตรวจสอบ

ทีมข่าวการเมือง

ปรองดองมุ่งเพื่อคนส่วนใหญ่ ก้าวข้ามตัวปัญหาแค่หยิบมือ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/257064

วันอาทิตย์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.

คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลแสดงออกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเดินหน้าสร้างความปรองดองในชาติให้สำเร็จในยุคนี้หลังจากที่เกิดความแตกแยกมานานกว่า 10 ปี จนสร้างความบอบช้ำให้กับประเทศอย่างหนัก อย่างไรก็ตามผลสัมฤทธิ์ของแผนสร้างความปรองดองยังเป็นโจทย์ท้าทายคสช.และรัฐบาล

คณะกรรมการสร้างความปรองดองที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง เป็นหัวเรือใหญ่ทุ่มสุดตัวโดยระดมศักยภาพของกองทัพและหน่วยงานรัฐทุกส่วนผลักดันแผนสร้างความปรองดองให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างใน 3 เดือน โดยเชิญบุคคลสำคัญจากทุกภาคส่วนของประเทศร่วมให้ข้อเสนอแนะแนวทางสร้างความปรองดอง อาทิ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกฯและอดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนาหรืออังค์ถัด

ขณะเดียวกันมีการวางกรอบการสร้างความปรองดองเพื่อระดมความเห็นใน 10 ประเด็นประกอบด้วย 1.ด้านการเมือง คือการแก้ปัญหาโดยสันติทั้งก่อน ระหว่างและหลังการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้น 2.ความเหลื่อมล้ำ เช่น การครอบครองที่ดินทำกินของเกษตรกร การเข้าถึงแหล่งน้ำ มักจะถูกยกมาเป็นประเด็นสร้างความขัดแย้งอย่างกว้างขวางซึ่งจะต้องมีการพูดถึงแนวทางแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ 3.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงต่อการขยายไปสู่ความขัดแย้ง 4.แนวทางเสริมสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมต่อประเด็นความแตกต่างทางสังคม ความเชื่อ ศาสนา วัฒนธรรม เศรษฐกิจ การศึกษาและสาธารณสุข 5.แนวทางในการไม่ให้สื่อเป็นเครื่องมือสร้างความขัดแย้ง

6.แนวทางที่จะทำให้การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ ความขัดแย้งเรื่องพลังงาน การก่อสร้างโรงไฟฟ้า ไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาสร้างความขัดแย้งในสังคม 7.แนวคิดที่จะดำเนินการต่อประเด็นการนำปัญหากิจการภายในประเทศมายกระดับให้เป็นปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ 8.แนวคิดป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อไม่ให้เป็นสาเหตุนำมาซึ่งความขัดแย้งในสังคมไทย 9.แนวทางการปฏิรูปประเทศเพื่อให้เกิดความปรองดอง และ 10.การยอมรับและร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน

นอกจากกรอบเพื่อสร้างความปรองดอง 10 ประการ คสช.และรัฐบาลยังแสดงจุดยืนชัดเจนว่า ความปรองดองต้องเกิดจากความจริงใจต่อชาติบ้านเมืองและไม่ตั้งแง่ต่อรอง โดยจะต้องไม่พูดถึงเรื่องการนิรโทษกรรมหรือฟอกโทษความผิดให้ใครอันเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ แต่ก็เปิดทางสร้างความปรองดองสูตรถอยคนละก้าวโดยคู่ขัดแย้งที่กระทำผิดกฎหมายต้องยอมรับโทษความผิด จากนั้นจึงมีการออกกฎหมายลดหย่อนผ่อนโทษ

อย่างไรก็ตามแม้คสช.และรัฐบาลจะเสนอการปรองดองสูตรถอยคนละก้าว แต่โจทย์ที่เป็นปัญหาท้าทายก็คือจุดยืนของระบอบทักษิณที่แสดงท่าทีตั้งแง่และส่งสัญญาณต้องการให้มีการนิรโทษกรรมแบบสุดซอยต่อทุกคนทุกคดีโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งนั่นส่อเจตนาแอบแฝงว่าต้องการลบล้างโทษความผิดคดีทุจริตตามคำพิพากษาของศาลให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก และอาจรวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ผู้เป็นน้องสาวและพวกที่เป็นจำเลยคนสำคัญคดีโครงการรับจำนำข้าว

นอกจากนี้ขบวนการระบอบทักษิณยังคงออกมาเคลื่อนไหวหาเรื่องตีรวนป่วนเมืองบ่อนทำลายคสช.และรัฐบาลแบบรายวัน และที่สำคัญยังมีการเคลื่อนไหวบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงทำให้แนวโน้มการปรองดองกับขบวนการระบอบทักษิณคงยากที่จะเป็นจริง

ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศแม้จะมีความเห็นต่างแต่ก็ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นแตกแยก ประชาชนส่วนใหญ่จึงไม่มีปัญหาเรื่องการสร้างความปรองดองโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้บรรยากาศที่คนไทยทั้งประเทศมุ่งรู้รักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวเพื่อพ่อแห่งแผ่นดิน ขณะที่มีนิมิตหมายที่ดีสำหรับประเทศเมื่อมีการโปรดเกล้าฯสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่แล้ว

ปัญหาความแตกแยกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีต้นตอสำคัญจากกลุ่มโจรธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมเพียงหยิบมือเดียวที่ใช้ทุนและผลประโยชน์ทุกรูปแบบซื้อ สส. ซื้อเสียงเอาชนะการเลือกตั้งไม่ต่างจากการซื้อประชาธิปไตย ซื้อประเทศเพื่อให้ได้อำนาจรัฐเป็นรัฐบาล จากนั้นถอนทุนบวกกำไรโกงชาติปล้นแผ่นดินมหาศาล และใช้อำนาจทำสิ่งชั่วร้ายอย่างย่ามใจ โดยพยายามแทรกแซงองค์กรอิสระผูกขาดอำนาจยึดครองประเทศในระยะยาว แม้กระทั่งคิดบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงหวังเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศ

เพราะฉะนั้นการสร้างความปรองดองที่แท้จริงต้องคำนึงถึงประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ของประเทศโดยไม่ควรเสียเวลาไปกับเหล่าโจรธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมที่เป็นคนแค่หยิบมือเดียวที่เป็นตัวฉุดรั้งการเดินหน้าปฏิรูปประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงและยั่งยืน และเพื่อไม่ให้ประเทศกลับไปสู่วังวนของวงจรอุบาทว์อันเลวร้ายอีก

ทีมข่าวการเมือง